Chomthai M@g7

Page 1


บนเส้นทางเดิน

Chomthai M@G # 7 Magzine Online Free Download เมื่อเราได้ทำ�อะไรก็ตามในสิ่งที่เรารัก แม้ผลมันจะออกมาอย่างไร เราก็จะมีความสุขเสมอ เปรียบ ดังเช่น Chomthai M@G เล่มนี้ซึ่งออกมาต่อเนื่อง ช้าบ้าง เร็วบ้างจนเข้าสู่เล่มที่ 7 ตลอดเวลากว่า 11 ปีที่ เว็บไซด์ชมไทยแลนด์ www.chomtailand.com และกลุ่มท่องเที่ยวชมลม ชมไทย ได้จัดกิจกรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว และจิตอาสาช่วยเหลือสังคมในนามโครงการไออุ่นจากพี่ให้น้อง เรามีสื่อต่างๆ เพื่อการนำ�เสนอเรื่องราวดังกล่าวหลายช่องทาง ทั้ง เว็บไซด์ ยูทูบ แฟนเพจ หนังสือออนไลน์ รายการ วิทยุโทรทัศน์ ให้เพื่อนๆ ได้ติดตามเรื่องราวการเดินทาง แนะนำ�สถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมต่างๆ ของเราชาวชมไทยมาอย่างต่อเนื่อง ภายในเล่ม จะพาเพื่อนๆ ผู้อ่านไปท่อง AEC กับทริปเที่ยว เวียดนามตอนที่ 2 โดย ต้น คลองวาฬ สัมผัสกับเรื่องราว ความสมดุลและลมหายใจของจันทบุรี ตอนที่ 1 โดย มอร์จัง และขอต้อนรับ น้อง ใหม่ แต่ประสบการณ์ไม่เก่ากับเรื่องราวการนำ�เสนอที่สนุกประทับใจพร้อมข้อมูลการท่องเที่ยวแน่นปึก ต้องมาโคร ดอยลังกาหลวง โดย เมย์ มาโคร นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเหตุการณ์ประทับใจ ภาษา ไทยวันละคำ� ชมไทยจะหมายความว่าอะไรได้บ้าง ติดตามกันได้ภายในเล่มพร้อมขอกำ�ลังใจกดไลท์ กด แชร์ หรือดาวโหลด ให้ทีมงาน Chomthai M@G เราเยอะๆ ด้วยนะครับ เอก ชมไทย


สารบัญ เรื่องจาก Facebook

4

กลุ่ม ชมไทยแลนด์

8 ฮอยอัน 36

ต้องมาโคร ดอยลังกาหลวง

เวียดนาม ชมพระราชวังเว้ เดินทางสู่......

42 44

เหตุการณ์ ประทับใจ ความสมดุล

จันทบุรี

และลมหายใจของ


เ ร ื ่ อ ง จ า ก F a cกลุe่ม bชมไทยแลนด์ ook


ภาษาไทยวันละคำ� เพื่อนๆ คิดว่า คำ�ว่า ชมไทย .... จะหมายความว่าอย่างไรได้บ้างครับ อยากทราบคำ�จำ�กัดความของเพื่อนๆ แต่ละท่านด้วยครับ ตัวอย่าง ชม = สรรเสริญ ยกย่อง ดู (ใช้ ในที่สุภาพ) เช่น ดูเพื่อให้เกิดความเพลิดเพลินใจหรือชื่นใจ ไทย = อิสระภาพ ใหญ่ ยิ่งใหญ่ ในที่นี้เราจะหมายถึงประเทศ ประชาชน ภาษา ประเพณี วัฒนธรรม ทุก สิ่งทุกอย่างที่เป็นของไทย “ชื่นชมในความเป็นไทย” .....ชมไทยแลนด์ (ชื่นชมในประเทศไทย) ชม= การท่องเที่ยว เพลิดเพลิน ไทย=ความมีอิสระในตัวคุณ เสรี ...ชมไทย คือ การท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลิน โดยความมีอิสระ เสรีในตัวคุณ ... Maliwan Klomklorm ... ชม = การยินดี การให้คำ�ปิติยินดี ไทย = สยามประเทศ สยามเมืองยิ้ม ดินแดนแห่งสยาม ชม+ไทย คือ ความปิติยินดีในความเป็นสยามเมืองยิ้ม ชื่นชมดินแดนของไทย สมกับเป็นประเทศที่ติดอันดับเมืองที่น่าอยู่และท่องเที่ยว ^__^ ... Gift Nattha ... ชม .. เปิดหู เปิดตา เปิดใจ รับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต ไทย .. ประเทศไทย สยามเมืองยิ้ม ชมไทย .. ครอบครัว บ้านหลังที่ 2 ที่พร้อมเปิดต้อนรับทุกคนที่ก้าว เท้าเดินเข้ามา ต่างที่มา ต่างคนต่างความคิด แต่มีใจที่จะเปิดรับโลก กว้างไปด้วยกัน ท่องเที่ยวชมไทยทั่วทุกแห่งหน สุขด้วยกัน ทุกข์ด้วย กัน สนุกด้วยกัน ช่วยเหลือกัน ใกล้ชิดสนิทยิ่งกว่าแฟน ... Nuttnicha Sae-tae ... ชมไทย คือการเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆเพื่อชื่นชม ธรรมชาติอันสวยงามที่สร้างสรรค์ขึ้นในประเทศไทย โดยกลุ่มที่มี แนวทางเดียวกัน และถ้าไม่ชมไทยแล้วใครจะชมเล่า หรืออีกหนึ่งความหมายคือ “ประเทศไทย สวยมาก” และ ชมไทย คือชมรมท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ป่า เขา น้ำ�ตก อัน งดงาม ... Adisa Sera Roonglapo...


“ชมไทย คือ การเที่ยวชมความงามของสิ่งของ สถานที่ ผู้คน วัฒนธรรม อื่นๆอีกมากมาย ในประเทศไทย เป็นบ้าน ที่รวมความเป็นมิตรภาพ ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ความเป็นกันเอง สนุกสนาน เฮฮา ของใคร หลายๆ คน ที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวมารวมตัวกันเพื่อ เที่ยวไปด้วยกัน เดินไปพร้อมกัน และจะไม่ทิ้งกัน^^ คุณจะท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลิน โดยความมีอิสระ เสรีในตัวคุณ เรามีความปิติยินดีในความเป็นสยามเมืองยิ้ม ชื่นชมดินแดนของไทย สมกับเป็นประเทศที่ติดอันดับ เมืองที่น่าอยู่และท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวในประเทศไทย ก็เพื่อให้เกิด ความเพลิดเพลิน ได้ความรู้ รู้จักประเทศไทย คนไทย มากขึ้น เพื่อจะได้นำ�มาเผยแพร่และสืบต่อรักษาไว้ซึ่ง ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมและอนุรักษ์สถาน ที่ท่องเที่ยวเพื่อให้คนข้างหลังได้มาเห็น เรียนรู้ สืบต่อไป การชื่นชม มอง ดู แล เห็น ประเทศไทย ความ เป็นไทย วิถีไทย วัฒนธรรมไทย ธรรมชาติของ ไทย และทุกๆสิ่งที่เป็นไทย อย่างพิถีพิถัน ด้วยความ ละเอียดรอบคอบ เก็บรายละเอียดในส่วนที่ปัจจุบันเพื่อ สืบสาน,ส่งเสริม,และสานต่อในความเป็นไทย นำ�ไป เล่าขานสืบต่อกันในอนาคตว่า “นี้แหละ...ประเทศไทย” ชมไทย คือ กลุ่มเพื่อนพ้อง น้อง พี่ ที่ชอบในการ ท่องเที่ยว แต่ละคนชอบกันคนละแบบ แต่พอมาเจอกัน เที่ยวด้วยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกันเป็นชมไทย...ไม่ว่าจะ

กิน เที่ยว บุกป่าฝ่าดง โดดน้ำ� พายเรือ ขึ้นเขา ลงห้วย พวกเราก็ไปด้วยกัน ชมไทย I love you...ชมเธอไปทั่ว ไทย ชมไทยไปพร้อมเธอ ... ชมไทย เดินออกไปให้ทั่ว ไทย เย้เฮๆ ^^ เราเปิดหูเปิดตาเรียนรู้วัฒนธรรม สถานที่ และสิ่ง ดีๆ ที่ไม่เคยรู้ในประเทศไทยลองมาสัมผัส ท่องเที่ยว ไป ให้ถึง เรียนรู้ ให้รู้จัก..ประเทศไทย..รู้จักตัวเอง ความสัมพันธ์ของเพื่อนพ้องน้องพี่ที่รักความเป็น ไทยอยากเรียนรู้ถึงรากเหง้าความเป็นไทยรวมทั้งทุ กอนูของแผ่นดินไทย ออกไปมองดูทั่วประเทศไทย เราเหมือนครอบครัว บ้านหลังที่ 2 ที่พร้อมเปิด ต้อนรับทุกคนที่ก้าวเท้าเดินเข้ามา ต่างที่มา ต่างคน ต่างความคิด แต่มีใจที่จะเปิดรับโลกกว้างไปด้วยกัน ท่องเที่ยวชมไทยทั่วทุกแห่งหน สุขด้วยกัน ทุกข์ด้วยกัน สนุกด้วยกัน ช่วยเหลือกัน ใกล้ชิดสนิทยิ่งกว่าแฟน ไปทุกที่ในประเทศไทย ที่อยากชม พบ สัมพันธ์ กับ ความสวยงามในประเทศไทย ชื่นชมความสวยงามใน ประเทศไทย ชมไทย คือการเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ ต่างๆเพื่อชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามที่สร้างสรรค์ขึ้น ในประเทศไทย โดยกลุ่มที่มีแนวทางเดียวกัน และถ้า ไม่ชมไทยแล้วใครจะชมเล่า หรืออีกหนึ่งความหมายคือ “ประเทศไทย สวยมาก” และ ชมไทย คือชมรมท่อง เที่ยวตามธรรมชาติ ป่า เขา น้ำ�ตก อันงดงาม สุดท้าย “อย่าเอาเรื่องงานมาทำ�ให้เรื่องเที่ยว เสีย” ชมพู่ขอตัวไปเดินงานเมืองคานส์ก่อน บาย (อัลไลว่ะน่ะ)” ปล. ไม่เอารางวัลนะครับ ไม่ได้คิดเอง เอาของทุก คนมารวมกันเฉยๆ 555

By Pich888
































ต้น ชมไทย


ชมพระราชวั ง เว้ เดิ น ทางต่ อ สู ่ เ มื อ งฮอยอั น เช้าวันที่ 2 พฤษภาคม 2557 วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการเดินทางโปรแกรมสำ�หรับวันนี้ช่วงเช้าเราจะ ไปเข้าชม พระราชวังเว้ (citadel) แล้วจะต่อรถนอน ไปยัง เมืองฮอยอัน 7.00 น. เรานัดกันที่ห้องอาหาร ของโรงแรม นั่งรอแล้วรอเล่า อาหารก็ไม่มา ก็เลย ไปเจรจา คือ อาหารที่โรงแรมนี้ต้องสั่ง ซึ่งเราต้อง เรียกมาสั่ง เค้าจะไม่มาถาม ก็เลยเสียเวลารอ สั่ง ปุ๊บ พนักงานต้อนรับก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปซื้อของ มา ทำ� มื้อเช้าเราจัดขนมปังแบบฝรั่งเศส ไข่เจียวแฮม ชา กาแฟ ไป หลังจากทานอาหารเสร็จ เราก็เดินไป ตามเส้นทางเลียบแม่น้ำ�หอม ไปเรื่อยๆ เพื่อจะข้าม สะพานตรึงเทียน (Truong Tien Bridge) เพื่อไปเที่ยว ชม พระราชวังเว้ (citadel) ระยะทางประมาณ เกือบๆ 2 กิโลเมตร ระหว่างทางจะเสียงดังไปด้วยเสียงแตรที่ บีบกันจนน่าจะเป็นวัฒนธรรมสนั่นหวั่นไหว จุดแรก เมื่อเราลอดกำ�แพงพระราชวังโดยมีแผนภูมิทัศน์ตาม

หลักฮวงจุ้ยแบบตะวันออก แต่ล้อมรอบด้วยป้อม ปราการที่สร้างตามแบบตะวันตก เรียกว่า ซิทาเดล (Citadel) หนา 2 เมตร และยาว 10 กิโลเมตร ตรง กลางกำ�แพงด้านติดแม่น้ำ� เป็นที่ตั้งของเสาธงสูง 37 เมตร เป็นเสาธงที่สูงที่สุดในประเทศ ภายในเขตเมือง เก่าและพระราชวัง จะมีกำ�แพงกั้นเป็นสามชั้น ชั้น ชั้น นอกสุดคือเมืองเอก หรือที่นิยมเรียกแบบฝรั่งว่า Citadel ประชาชนสามารถตั้งบ้านเรือนในเขตนี้ได้ ดมาคือเมืองจักรพรรดิ หรือ Imperial city ซึ่งล้อม รอบด้วยกำ�แพงอีกชั้น การเข้าชมภายในเขตนี้ต้อง เสียค่าเข้าชมอีก 105,000 ดอง) และเขตชั้นในสุดคือ เมืองต้องห้าม สีม่วง (the Forbidden Purple City) เราเดิ น ผ่ า นประตู วั ง ตรงข้ า มกั บ เสาธงหรื อ ประตู Ngo Mon Gate ซึ่งมี 5 ประตู เสา 100 ต้น หลังคา ทั้ง 9 หลัง วังแห่งนี้ถูกสร้างมาเกิน 200 ปี


เป็ น ที่ ป ระทั บ ของจั ก รพรรดิ ใ นราชวงศ์ เ หงี ย นทุ ก พระองค์ เ มื่ อ เข้ า ไปเราจะเจอกั บ อาคารที่ ชื่ อ ว่ า พระราชวัง Thai Hoa Palace หรือ Palace of Supreme Harmony ที่ใช้สำ�หรับเป็นท้องพระโรง มีบัลลังก์ว่าราชการ ศิลปะวัฒนะธรรมก็จะออก แนวจีนๆ คล้ายกัน เราเลยเข้าไปดู ภายในอาคารไม่ อนุญาตให้ถ่ายรูป หลังจากที่เราเที่ยวชม พระราชวัง Thai Hoa Palace แล้วเราก็เดินต่อไปด้านหลังจะพบ กับลานกว้างๆ และอาคารที่นักท่องเที่ยวสามารถ เช่าชุดเป็นฮ่องเต้ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ อาคาร ภายในกำ�ลังบูรณะบ้าง ทาสีใหม่ เน้นสีแดงเป็นหลัก ดูสวยงาม แต่ที่เราสนใจ มีลักษณะเป็นกระถางขนาด ใหญ่ เลยพูดเล่นๆว่า ถ้าเป็นบ้านเราน่าจะมีการโยน เหรียญลงไปแล้ว เดินไปดู มีจริงด้วย เงินไทยนิแหละ เหรียญสิบ เหรียญห้า เหรียญบาท ครบเลย และ ยังมีธนบัตรต่างชาติด้วย ภารกิจต่อมา ตามหาร้าน Lac Thien ที่พ่อค้าเค้าจะแสดงการเปิดขวดด้วยไม้ที่ เค้าคิดค้นขึ้น เราก็จัดอาหารมาชุดใหญ่ เป็นอาหาร เวียดนามแท้ๆ กินเสร็จลุงคนขายก็มอบไม้ที่เปิดขวด ให้กับเรา 2 อันมีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้ด้วย

13.00 น. เราออกเดินทางอีกครั้งจุดหมายคราว นี้คือ เมืองฮอยอัน รถที่เรานั่งรอบนี้เป็นรถนอน VIP มีบริการฟรี WIFI ให้เล่นตลอดทางเพลินกันไป ขึ้นมา ด้วยความที่เพลียแดดจากการชมพระราชวัง ก็เลย หลับ ตื่นมาอีกที รถโดยสารจอดให้เราเข้าห้องน้ำ� ซื้อน้ำ� ซื้ออาหาร เช๊คไปเช๊คมานี้มัน เมืองรังโค Lang Co จากจุดนี้ตลอดเส้นทางเราจะพบกับวิถีชีวิตการ ประมงของเวียดนาม ร้านค้า อาหารทะเล ถ้ามีเวลา ว่างหรือเวลาเหลือเยอะก็น่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ในการพักแรม รถวิ่งมาสักพักตามเส้นทางหลวง หมายเลข 1 ตลอดเส้นทาง เราสามารถดื่มด่ำ�กับ ธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ สวยงาม ซึ่งมีทั้งทุ่งนาที่เขียว ขจี ป่าเขา และเลียบชายฝั่งทะเล เราก็มาถึงอุโมง ค์ไฮ่เวิน รถยนต์ลอดภูเขาไฮ่เวิน (Hai Van Pass ) หรือที่ชาวเวียดนามเรียกว่า ภูเขาแห่งเมฆหมอก สู่ เมืองดานังที่อยู่อีกด้านหนึ่งของภูเขา อุโมงค์ไฮ่เวิน (Hai Van Pass ) ก่อสร้างโดยเอกชนจากญี่ปุ่น ส่ ว นรั ฐ บาลฝรั่ ง เศสเป็ น ผู้ ล งทุ น ด้ า นงบประมาณ ความยาวของอุโมงค์ 6.3 กม ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่ยาว ที่สุดในเอเชียใต้ ความสูง ประมาณ 7 เมตร และความ กว้าง ประมาณ 8 เมตร แบ่งเป็น 2 เลน รถที่ลอด อุโมงค์(เฉพาะรถยนต์ ส่วนจักยานยนต์และจักรยาน ต้องจ้างรถยนต์บรรทุกลอดอุโมงค์ ไปในอัตราคัน ละ 45 บาท) ส่วนรถยนต์ต้องซื้อตั๋วผ่านด่านใน ราคา 35,000 ดอง(ประมาณ 50 บาท) ใช้เวลาลอด อุโมงค์ประมาณ 20 – 25 นาที (ความเร็วของรถไม่ เกิน 60 กม./ชั่วโมง) ผ่านอุโมงค์มา เมืองดานังก็ ปรากฏต่อหน้า นับเป็นเมืองท่าที่สำ�คัญแห่งหนึ่งของ ประเทศเวียดนาม มองเห็นอ่าว ทะเล สะพานและตัว เมืองไกลลิบๆ เมืองดานัง เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเวียดนาม ตั้งอยู่ระหว่างกรุงฮานอยกับโฮจิ มินท์ เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำ�คัญของเวียดนามตอน กลาง มีโรงงานอุตสาหกรรม และเป็นเมืองท่าสำ�คัญ ปัจจุบันดานังกำ�ลังได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับการ เติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน และอีกก็จะมีสนาม บินนานาชาติแห่งใหม่เกิดขึ้นที่นี่ ....



รถพาผู้ โดยสารไปส่ง ณ จุดจอดรถของเมืองดานัง เราไม่ได้ลงที่นี้ ก็เลยถือว่าได้นั่งรถชมเมืองดานัง จริงๆ ก็อยากจะพักที่นี้สักคืน แต่ตอนวางแผนไว้เรากะจะให้เวลากับ ฮอยอันเต็มที่ 3 วัน 2 คืน มองไปยังทะเลที่ เราวิ่งรถผ่านจะเห็นได้ว่า คลื่นลมถือว่าแรง เพราะ เมืองดานังเป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเลจีนใต้ที่ต้องรับการ ปะทะกับคลื่นและลมอย่างแรง และเวลาที่เราไป เราตรวจสอบสภาพอากาศเข้าบอกมรสุมกำ�ลังเข้าพอดี แต่ ก็เห็นนักท่องเที่ยว เล่นน้ำ�กันสนุกสนาน เรือประมงก็ยังพอออกบ้าง ออกจากตัวเมืองดานัง รถก็วิ่งเลียบ ทะเลไปเรื่อยๆ ประมาณอีก 30 กว่ากิโลเมตร รถก็พาเราเขาสู่เมืองฮอยอัน สองข้างถนนเปลี่ยนจากทะเล เป็นทุ่งนาสีทองที่กำ�ลังชูเม็ดข้าวต้อนรับนักท่องเที่ยว ร่วมกับแดดยามเย็นดูแลรู้สึกสบายใจมากๆ รถพา เรามายังสถานีขนส่งเมืองฮอยอัน เปิด Google Map ดู โรงแรมห่างจากขนส่งประมาณ 700 เมตร แบบ นี้ไม่ต้องพึ่งแท็กซี่ ก็เลยเดินกันไปประมาณ 2 แยกใหญ่ ความวุ่นวายของเมืองดูจะน้อยๆกว่า เมืองเว้ เดิน ไปเรื่อยๆจนถึงที่พัก อยู่ติดแม่น้ำ�ทูโบน จัดแจงเข้าที่พัก นัดแนะกันว่า 1 ทุ่มมาเจอกันที่ล๊อบบี้ คืนแรกที่ ฮอ ยอัน Hoi An เราใช้วิธีเที่ยวโดยการเดิน เราเดินจากที่พักผ่านตลาดสด ซึ่งตอนเย็นๆจะดูมืดๆ ตลาดสดนี้ จะเปิดให้บริการในตอนเช้า เดินชมวิวริมแม่น้ำ�ทูโบน ไปเรื่อยๆ บรรดาบ้านเรือน ร้านค้าที่มีการผสมผสาน ศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้ อย่างมีเอกลักษณ์ และอาคารต่างๆภายใน เมืองได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่าง พ.ศ. 2542 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเขตเมือง เก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลก ด้วยเหตุผลว่าเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในสมัย คริสต์ ศตวรรษที่ 15-19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ ได้ อย่างมีเอกลักษณ์ แต่ละร้านจะประดับด้วยโคมไฟหลากสี เผลอแป๊บเดียวทำ�ให้เราหลงใหลจนลืมหิวกัน ไปเลย ข้างทางจะมีบริการให้เราลอยกระทง สำ�หรับคนไทยก็แปลกๆดี ถ้าต้องมาลอยกระทงกันในวันที่ไม่ใช่ วันลอยกระทง บรรยากาศคึกคักมาก ทั้งคนท้องถิ่น ร้านค้า นักท่องเที่ยวต่างชาติและเราอีก 6 คน เดินสัก แป๊บอาการหิวก็กลับมา เราเลยหาร้านที่ดูแล้วคนเยอะ ก็เลยนั่ง เป็นร้านข้างถนน โต๊ะเล็กๆ เก้าอี้เตี้ยๆ แนะนำ� ใส่กระโปรงสั้นๆไม่ควรนั่ง จัดอาหารพื้นเมืองประเภทเส้นมา 2 ถ้วย คือ หมี่กว๋าง” ส่วนอีกชามชื่อว่า “เก่า เหลา” ไก่ปิ้งอีก 4 ไม้ ถือว่าลองท้องกันไปก่อน แล้วเดินข้ามฝั่งแม่น้ำ�ทูโบน ไปอีกฝั่ง เดินไปเจอคล้ายๆศูนย์ อาหาร ก็เลยเลือกร้านที่ชื่อ Mr.Ba จะอยู่เข้าไปในๆหน่อย จัดสั่งอาหารรอบนี้เป็นจะเป็นอาหารทะเล คนรับ รายการอาหาร จะอ้วนกระปุ๊กลุกหน่อย แต่ภาษาอังกฤษเธอเป๊ะมาก จัดอาหารมาหลายอย่าง ปิดท้ายด้วย Fress Beer ราคา 4,000 VND หรือประมาณ 5 บาทไทย ทานอาหารกันเสร็จก็ใช้เวลานั่งชมวิวริมแม่น้ำ� ถ่ายรูปกันเล่น กลับที่พัก แต่เราก็นอนกันไม่ลง เลยมานั่งกินน้ำ�อ้อยผสมมะนาว หน้าโรงแรม อร่อยมาก

อ่านต่อฉบับหน้า


เหตุ ก ารณ์ ป ระทั บ ใจ

ชมไทย..พาไปที่ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ..สรรหาที่ที่น่าสนใจ ทำ�ให้เราออกเดินทางแบบมีความสุขทุกครั้ง.. ^ ^ ดอยช้าง..จังหวัดลำ�พูน จิ๋ว ชมไทย

ชื่อภาพ “รอด” ....มันเป็นบรรยากาศหลัง จากที่น้ำ�ป่าเริ่มลดระดับลง หลังจากฝนตก ทั้งคืน ทำ�เอาระทึกอยู่พักใหญ่ ๆ ซึ่งพวกเรา นั่งลุ้นกันอยู่ทุกวินาที ในหัวก็คิดว่าถ้าน้ำ�เริ่ม มาเย๊อะกว่านี้จะทำ�ยังไงกันต่อ บางคนก็นอน เปลอย่างไม่แยแส บางคนก็ถ่ายรูปเล่น หลาก หลายอารมณ์ มันทั้งเปียก มันทั้งกลัว แต่ พวกเราก็ช่วยกันดูแลเพื่อน ๆ และก็ผ่าน สถานการณ์ตรงนั้นมาได้อย่างปลอดภัยทุก คน....มั น ทำ � ให้ ป ระทั บ ใจทุ ก เหตุ ก ารณ์ ที่ เ กิ ด ขึ้นเลย แต่ถามว่าให้เจอเหตุการณ์ประทับใจ อีกมั้ย อย่าเลยยยย....

มานะ ชมไทย


ไออุ่น ทำ�ให้มารู้จักกัน รู้จักชม ไทยจากไออุ่น และไออุ่นทำ�ให้รู้จักชมไทย Yoky Jiraporn


ความสมดุล และลมหาย


เมื่อลมร้อนพัดผ่าน หลายคนคง นึกถึงชายหาดสีขาวนวล กับเกลียว คลื่นลมพริ้วปะทะเม็ดทราย ดูแล้ว น่ า เอนกายพั ก ผ่ อ นบนเตี ย งผ้ า ใบ ให้คลายร้อนไปกับชีวิต หลายคน คิดถึง กระบี่ ภูเก็ต พังงา สิมิลัน ที่ ทะเลสีเขียวมรกตมันช่างยั่วหยวน ให้ไปแหวกวายเสียไม่น้อย หรือ บางคนอาจคิ ด ถึ ง ทะเลสี ฟ้ า คราม กับทิวมะพร้าวเรียบชายหาดอย่าง เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะช้าง หรือ เกาะพะงัน ที่พร้อมวิ่งลงทะเลอย่าง สบายใจได้ทุกเมื่อ ...มอร์...

ยใจ ของจันทบุรี (ตอนที่ 1) มอร์จัง


แต่ ใ นสั ง คมปั จ จุ บั น ช่ ว งเวลามั น ช่ า งเร่ ง รี บ เสี ย จนทำ�ให้วันสบายๆ ของฉัน ลดเหลือน้อยไปทุก ขณะ ที่ท่องเที่ยวแสนสวยดังฝัน แต่มันไม่สมดุล กับเวลาของฉันเลย ว่าแล้วจึงลองปักหมุดหาส ถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ จนมารู้จักกับจังหวัด เล็กๆ แห่งหนึ่งริมชายฝั่งอ่าวไทยทางตะวันออก ที่ธรรมชาติ และเวลาเริ่มจะสมดุลกันอีกครั้ง “จันทบุรี” เป็นจังหวัดที่ฉันกล่าวถึง “นครแห่ง พลอย เมืองแห่งอัญมณี ทับทิมสยามแห่งอ่าว ไทย” ฟังดูอาจไม่เกินจริง กับระยะทางจากกรุงเทพ เพียง 245 กิโลเมตรใช้เวลา 3 ชั่วโมงเศษ ฉันก็ได้ มาสัมผัสความเงียบสงบแบบอบอุ่นของท้องทะล

สีครามตะวันออก อัญมณีแห่งอ่าวไทยได้อย่าง ไม่อยากเย็น จันทบุรีมิใช่เป็นเมืองที่มีแต่เพียงผืน ทะเลเพียงอย่างเดียว ความหลากหลายทางวัฒ ธรรม และภูมิประเทศยังส่งเสริมให้เมืองจันทร์เป็น พลอยเม็ดงามยิ่งขึ้น ด้วยเป็นเมืองที่สามารถทำ� กิจกรรมได้หลากหลาย ทั้งเที่ยวชมประวัติศาสตร์ ของเมืองจันทร์ ดังพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่น่าค้นหา หรื อ ลั ดเลาะไปตามสวนผลไม้ แ วะชิ ม แวะชมได้ ไ ม่ สิ้นสุด ถ้าเริ่มเบื่อกับความเค็มของทะเลจะโหย หาความชุ่มฉ่ำ�ของสายน้ำ�ตกพริ้วไหว เมืองจันทร์ แห่งนี้ก็มีให้เลือกสรร แบบที่หัวใจของฉันเริ่มจะ ไหลไปกั บ กระแสน้ำ � เย็ น ๆของจั น ทบุ รี อ ย่ า งช้ า ๆ


จันทรโภชนา ของดีคู่เมืองจันทร์

ฉันเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เวลา 08.00 น. มาถึงเมืองจันทร์ เวลา 11.00 น. สิ่งแรกที่ต้องทำ� ก่อนออกไปสัมผัสเมืองจันทร์ คือสรรหาอาหาร แสนอร่อย โดยที่นี้มีร้านรวงมากมายให้ลิ้มลอง แต่ด้วยความที่ “จันทรโภชนา” เป็นร้านอาหารเก่า แก่มาแต่เดิม ทำ�รสชาติอาหารเทียบเท่าแลนด์มาร์ กของเมืองจันทร์ ซึ่งร้านจันทรโภชนา มีอยู่ด้วย กัน 2 สาขาคือ สาขาเบญจมราชูทิศ และ สาขา มหาราช โดยสาขาที่ฉันทานเป็นสาขาใหม่ ตั้งอยู่ ทางเข้าศูนย์การค้าแฟมมิลี่สแควร์ บริเวณถนน มหาราช การตกแต่งภายในร้านขาวสะอาดเหมือน ย้อนไปสู่ยุควังจุฑาเทพ ด้วยลวดลายไม้ฉลุขาว เรียบง่าย ทำ�ให้มองดูแล้วรู้สึกเจริญอาหารอย่าง ไร้สาเหตุ โดยรายการอาหาร ล้วนเสริฟมาอย่าง อลังการโดยมีเมนูแนะนำ�วันนี้คือ

“มัสมั่นไก่ใส่ทุเรียน”ด้วยเครื่องแกงครบรส เข้มข้นเครื่องเทศ ของแกงมัสมั่นประกอบกับเนื้อ ไก่นุ่มลิ้น และเนื้อทุเรียนชิ้นใหญ่เหมือนมันเทศ ทำ�ให้ดูไม่รู้ว่าเป็นเนื้อทุเรียนคิดว่าเป็นเพียงมันเทศ ชิ้นใหญ่ แต่เมื่อทานเข้าไปความกลมกลืนของ อาหารจานนี้ก็สะดุดลิ้นทันที แนะนำ�สำ�หรับผู้ที่ไม่ ชอบกลิ่นทุเรียน แต่อิยากทานทุเรียน เมนูนี้เด็ด จริงๆ ครับ “ไตปลาเสแสร้งว่า ดุจวาจากระบิดกระบวน ใบโศกบอกโศกครวญ ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ”

จากกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน บทพระราช นิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 มาเป็นน้ำ�พริกแสนอร่อย ของร้านจันทรโภชนา ในนาม “น้ำ�พริกแสร้งว่า” ที่มีส่วนผสมของกุ้ง ต้มสุก คลุกกับขิงอ่อน ตะไคร้ ปรุงรสเปรี้ยว เค็ม หวาน เสริฟ์เคียงด้วยผักสด เช่น กะหล่ำ�ปลีต้ม ผักกรูด มะเขือม่วง ถั่วพูต้ม ขิงอ่อน แตงกวา บวบต้ม และใบแต๋ว โดยแสร้งว่า เป็นอาหารที่ใช้ ถวายในวัง ปกติเขาใช้ไตปลาทำ� แต่ชื่อมันไม่เหมาะ กับในวังก็เลยตั้งชื่อว่าแสร้งว่า (เป็นกุ้ง) แต่จริงๆ คือไตปลานั่นเองซึ่งปัจจุบันจะใช้กุ้งทำ�เป็นอาหาร ประเภทน้ำ�พริกจิ้มผักที่รสชาติรสชาติเผ็ดร้อนดี “ยำ�มังคุด” จากเนื้อกุ้งตัวโต ผสมกับเนื้อ ครับ มังคุดที่คัดมาอย่างดี รสชาติจัดจ้านเสริฟ์มา พร้อมด้วยไข่ต้มใบโต ตกแต่งด้วยใบสะระแน่และ กุ้งแห้งเนื้อมีรสหวานเผ็ดกลมกล่อม จนทำ�ให้ยำ� จานนี้แปลกลิ้นแต่เข้ากันของผลไม้และเนื้อกุ้งสดๆ “ส้มตำ�ทุเรียน” มีลักษณะเหมือนส้มตำ� ไทยธรรมดา แต่แตกต่างกันด้วยวัตถุดิบที่นำ�มา ปรุงอาหาร ซึ่งจะใช้ทุเรียนอ่อนๆจากเมืองจันทร์ มาปรุงแทนมะละกอ ทำ�ให้ได้รสชาติที่แตกต่าง และ น่าสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว


จังหวัดไปเลยครับ นอกเหนือจากอาหารคาวหวานที่ทานกัน อย่างเอร็ดอร่อยแล้ว ภายในร้านจันทรโภชนา ยังมีสินค้า และผลิตภัณฑ์เมืองจันทร์ จำ�หน่าย อีกมากมาย อาทิ พริกไทย ทั้งแบบเม็ดและแบบผง มะม่วงมหาชนก ที่กลิ่นหอมยั่วยวนอย่างมาก ขอขอบคุณ คุณป้าไพจิตต์ วนานันท์ เจ้าของ ร้าน “จันทรโภชนา เป็นอย่างสูง ที่คอยแนะนำ�ถึง เมนูต่างๆ พร้อมเกร็ดความรู้ดีๆ ของวิถีชีวิต ชาวจันทร์ให้ฟัง และขอบคุณ นายนภา บุณย เกียรติ หัวหน้าสำ�นักงานจังหวัดจันทบุรี ที่มา ให้ ก ารต้ อ นรั บพร้ อ มมอบของที่ ร ะลึ ก ด้วยครับ สนใจลิ้มลองอาหารแบบเมืองจันทร์แท้ๆ เชิญที่ ร้าน “จันทรโภชนา” แล้วจะรู้สึกอยากกลับไปเมือง จันทร์อีกครั้งแบบฉัน สนใจติดต่อ - จันทรโภชนา สำ�นักงานใหญ่ ถ.มหาราช อ.เมือง จ.จันทบุรี 22000 โทร : 039-999-999 Email: info@จันทรโภชนา.com Web: www.จันทรโภชนา.com “ถั่วฝักยาวผัดกุ้งแห้งใส่กะปิ” ลักษณะของ - จันทรโภชนา สาขาแรก ถ.เบญจมราชูทิศ ถั่วฝักยาว เขียวสดน่ารับประทาน ผัดด้วยกะปิ อ.เมือง จ.จันทบุรี 22000 พร้อมด้วยกุ้งแห้งเนื้อแน่น น่ารับประทาน โดยเมนู โทร : 039-999-999 นี้ ถ้าไม่บอกว่าผัดด้วยกะปิ ฉันคงไม่รู้หรอกว่ามัน มีกะปิเป็นส่วนผสมด้วย “กระวานผัดฉ่าไก่” รสชาติเผ็ดร้อนของต้น กระวาน ผัดเคล้าด้วยเนื้อไก่ชิ้นพอคำ� คล้ายผัด ฉ่า ทำ�ให้เมนูนี้มีสีเหลืองนวลน่ารับประทาน “หมูชะมวง” เป็นอาหารที่สามารถหาทาน ได้เฉพาะจันทบุรีเท่านั้น โดยรสชาติจะออกเปรี้ยว นิดๆของใบชะมวงแต่ไม่ถึงกับเปรี้ยวจี๊ดแบบมะนาว ซะทีเดียว เนื่องจากเขาต้มให้เข้ากันกับเนื้อหมู และใส่น้ำ�ค่อนข้างเยอะทำ�ให้ ได้รสเปรี้ยวน้อยลง อีกทั้งยังใช้หมูคุณภาพดี นุ่มลิ้น ทำ�ให้เวลาทาน กับข้าวสวยร้อนๆแล้ว อร่อยจนเป็นเมนูประจำ�



ท้ายเล่ม มาถึงหน้าสุดท้าย ของหนังสือ Chomthai M@G Magzine Online Free Download แล้วนะ ครับ ภายในเล่มท่านผู้อ่านคงจะได้รับความรู้ แง่คิด พร้อมสาระบันเทิง ในการท่องเที่ยวในยามฤดูฝน แบบนี้บ้างแล้วนะครับ ในเล่มต่อไปที่เราชาวชมไทยจะมีโอกาสได้ทำ�ออกมา จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ อะไรนั้นก็อยากให้เพื่อนๆ ได้รอชมกันครับ อาจจะช้าบ้าง เร็วบางก็แล้วแต่จังหวะ และโอกาสที่จะลงตัว ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทีมงาน นักเขียน และช่างภาพทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการผลิต Chomthai M@G ตลอดมา ถ้าจะถามผมว่าในรูปแบบการท่องเที่ยวทั้งหมดที่กล่าวมาในบทนำ�ผมชอบ แบบไหนมากที่สุด ผม ตอบได้เต็มปากเลยว่าผมชอบการเดินป่ามากที่สุด นอกจากที่เราจะได้ศึกษาธรรมชาติแล้วเรายังได้ เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบกาย เพราะการก้าวเดิน ในแต่เส้นทางนั้นมันผ่านความยากลำ�บาก บวก ความพยายาม ทักษะการใช้ชีวิต การอยู่รวมกัน ทั้งการแบ่งปัน เสียสละ ให้อภัยและที่สำ�คัญคือ ความตั้งใจเข้าไปทั้งหมด มีน้องคนหนึ่งซึ่งพึ่งเดินป่าครั้งแรกในชีวิต มาเที่ยวกับชมไทยแล้ว ถามผม ว่า “ความสุขในการเดินป่าของพี่อยู่ตรงไหน” ผมตอบกลับไปว่า “ความสุขของพี่คือการทิ้งทุกสิ่งทุก อย่างไว้เบื้องล่างทั้งหมด แล้วเมื่อเดินมาอยู่บนนี้ ขึ้นมาถึงตรงนี้พี่จะปลดปล่อยทุกข์สิ่งทุกอย่าง แล้ว เติมความสุขทั้งหมดกลับลงไป” การเดินทางของเรายังไม่จบ ยังคงเดินทางต่อไปเรื่อย ๆ หวังว่าท่านผู้อ่านทุกท่านจะคอยเป็นแรง ใจให้กับหนังสือของเราชาวชมไทยในเล่มต่อ ๆ ไปด้วยนะครับ “เมื่อตะวันยอแสง เรี่ยวแรงก็เริ่มอ่อนล้า พักลงตรงนี้ที่เดิมแล้วหลับตา ชมลม ชมไทย จะพาเรี่ยวแรงคุณกลับคืน” เอก ชมไทย ติดต่อสอบถาม ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ www.chomthailand.com หรือ www.facebook.com/Chomthailand


บรรณาธิการ เอกราช มบขุนทด อนิรุจน์ อารมย์เย็น ออกแบบรูปเล่ม อนิรุจน์ อารมย์เย็น นักเขียน เมย์ มาโคร ต้น ชมไทย มอร์ จัง Protograph : พิชญ์ จิ๋ว มอร์ เมย์ มาโคร เอ็ม มานะ และเพื่อนๆ ชมไทย



Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.