SAMGLER-186

Page 1


www.samgler.org


หองสมุดหนังสือเกา สีใ่ บเถา

พล * นิกร * กิมหงวน กับลูกชาย เอื้อเฟอ ไฟลเอกสาร โดย คุณสมชัย แปลงเปนไฟล pdf โดย โกหลังวัง คุณหญิงวาดออกจากบาน “พัชราภรณ” เมื่อตอนสาย เจาแหวขับรถดอดจเกงไปสงทาน ที่บานสุภาพ สตรีบรรดาศักดิ์คนหนึง่ คือคุณหญิงแววเพือ่ นรักเกลอเกาของคุณหญิงวาดทีบ่ างเขนแลว เจาแหวก็นํารถกลับมา บาน ในราว ๑๗.๐๐ น. เศษ คุณหญิงวาดก็นั่งรถเชฟโลเล็ทเกงคันใหญของคุณหญิงแววกลับมาบาน “พัชรา ภรณ” แตคุณหญิงแววไมไดตามมาสงทาน รถเกงคันนั้นคลานมาหยุดเทียบหนาบันไดตึก คนขับรถในวัยกลางคนรีบลงมาเปดประตูหลังรถให ทาน คุณหญิงวาดถือกระเปาเงินใบใหญกาวลงจากรถดวยใบหนายิ้มแยมแจมใสแลวทานก็สงธนบัตรใบละรอย บาทหนึง่ ฉบับใหคนขับรถของคุณหญิงแวว “เอา เอาไปกินกาแฟ”


คนขับรถกมตัวลงกระพุมมือไหวทานอยางนอบนอม “ขอบพระคุณครับผม” แลวเขาก็รับธนบัตรมาใสกระเปาเสื้อเชิ้ท “มีอะไรที่ทานจะใหกระผมรับใช ทานอีกหรือไมขอรับ” คุณหญิงวาดยิ้มให “หมดหนาที่ของแกแลวนายเจิม กลับไปบานเถอะเผื่อเด็ก ๆ เขาจะใชรถ ฉันไดยินหลาน ๆ เขาปรึกษา กันวาเขาจะไปดูเสอกัดหรือเซอกั๊ดอะไรนี่แหละดูเหมือนเขาเลนที่สวนลุมพิน”ี “ครับผม” คุณหญิงวาดพาตัวเดินขึ้นบันไดไปบนตึก แตภายในหองโถงและหองรับแขกไมมีใครเลย คุณหญิง วาดเดินเลยออกไปทางหลังตึก คราวนี้ทานก็แลเห็นสมาชิกในครอบครัวของทานนั่งพักผอนสนทนากันอยูบน ศาลาพักรอนหรือศาลาไทยอยางพรอมหนา ขณะนี้ลมวาวกําลังพัดโชยเฉื่อยเย็นสบาย เสียงสมนึกตะโกนลั่น “คุณยาครับ พวกเราอยูน เ่ี ชิญทางนีค้ รับ” คุณหญิงวาดยิ้มละไม ลูกหลานของทานทําใหทานมีความสุขกายสบายใจอยางยิ่ง ขาวที่นาชื่นใจก็คือ วา พ.อ. พล พัชราภรณจะไดเปนนายพลในไมชานี้และหลานชายของทานทั้งสี่คนก็จะไดเลื่อนยศเปนรอยโท เปนเรืออากาศโท และเรือโท คุณหญิงวาดกาวลงบันไดหลังตึกตรงมาทีศ่ าลาไทยเดินขึน้ บันไดเนินดินสูงตรง มายังศาลาพักรอนหลังใหญซึ่งสรางแบบศิลปของไทยเรา นิกรกระซิบบอกเสี่ยหงวนเบา ๆ “แกดูคุณอาซีวะ แตงผาไทยชุดสีกลีบบัวชุดนี้มองดูคลาย ๆ กับนางพญาแมว” เสี่ยหงวนเผลอตัวหัวเราะกากแลวฟองคุณหญิงวาดทันที “คุณอาครับ อายกรมันวาคุณอาแตงผาไหมไทยชุดนีม้ องดูเหมือนนางพญาแมว” คุณหญิงวาดสะดุงโหยงแลวหันมาทางนิกร “ฉันจะเปนนางพญาแมวหรือนางพญามูเซอนางพญากะเหรี่ยงหรืออะไรก็ตาม แตแกก็เติบโตมาได เพราะฉันเลี้ยงแกมาตั้งแตแมแกเทงทึงไปเมืองผี” นิกรหัวเราะหนาเปนตามเคย “แลวผมไปวาอะไรละ นางพญานะหมายความวาผูหญิงที่เปนใหญในกลุมชน ผมไมไดดูหมิ่น คุณอา นี่ครับ ใจเย็น ๆ นา วันนีแ้ ฟนขอรองใหงดดาสักวันไมไดหรือครับ” คุณหญิงวาดกําลังมีอารมณดจี งึ หัวเราะแลวเลือ่ นตัวไปนัง่ บนเกาอีว้ า งขางเจาคุณปจจนึก ฯ ทุกคนไม ไดน่ังโตะแตน่ังหอมลอมเรือนตนไมมโี ตะเล็ก ๆ สําหรับตัง้ เครือ่ งดืม่ กระปองบุหรีท่ เ่ี ขีย่ บุหรีห่ ลายตัว แตโตะ ขางนิกรกับลูกชายของเขามีเตาหูท อดจานใหญหนึง่ จานพรอมดวยนําจิ ้ ม้ สองพอลูกมีนิสัยเหมือน ๆ กันคือชอบ กิน “ไปเลนไพบา นคุณหญิงแววมาหรือครับคุณหญิง” เจาคุณปจจนึก ฯ ถามยิ้ม ๆ “เปลาคะ หมูนี้ดิฉันเมื่อยหลังนั่งเลนไพไมใครไหว ไปคุยกันปรึกษาหารือกันที่จะสรางอนาคตใหเจา หลานชายทั้งสี่คนนี่แหละคะ” คุณหญิงวาดหมายถึง พนัส นพ สมนึก และศาสตราจารยดํารง


เจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนตางจองตาเขม็งมองดูคุณหญิงวาด เสี่ยตี๋กลาวขึ้นทันที “คุณยาจะหาเมียใหพวกเราหรือครับ” คุณหญิงวาดยิ้มแปน “ใช พวกเจาบวชเรียนแลวสมควรจะมีลูกมีเมียไดแลว ปนต้ี า งก็มอี ายุยา งเขาเบญจเพศเวนแตพอ ดํารง พึ่งยางเขาปที่ ๒๔ เพราะออนกวาเจาทัง้ สามคนหนึง่ ปแตกเ็ หมือนกับวาอายุเทากัน ยาไดเจรจาสูขอหลานสาว ของคุณหญิงแววใหเจาทัง้ สีค่ นเรียบรอยแลว” “โอย” พนัสรองลั่น “หลานสาวคุณยาแววหรือครับ ผมตายแนคุณยา” คุณหญิงวาดทําตาเขียวกับพนัส “ทําไมถึงจะตาย” “ผมไมชอบครับ ดัดจริตเปนผูดีแปดสาแหรกเยอหยิง่ จองหองเตะทาถือวาเปนลูกสาวเอกอัครราชทูต สวยนะผมไมเถียง แตผูหญิงสวยไมสุภาพออนหวานผมไมรับประทานครับคุณยา” “ก็ใหมันรูไปวาแกจะวิเศษกวาฉัน สําหรับแกจะตองแตงงานกับแมใหญ เจานพแตงงานกับแมกลาง” “ตายแลว” ลูกชายของนิกรรองลั่น “หนาตาเหมือนลิงถีบ” คุณหญิงวาดกลืนนําลายเอื ้ อ๊ ก “พูดบา ๆ อะไรวะเจานพ ลูกเขามีพอมีแมมีสกุลรุนชาติดันพูดออกมาไดวาหนาตาเหมือนลิงถีบ” “ปูโธ คุณยาก็……..ผมวาตัวผมตางหากหนาตาเหมือนลิงถีบแลวเขาจะแตงงานกับผมหรือครับ” “ไปไดนาขุ ํ้ น ๆ เหมือนพอแกไมมผี ดิ ” แลวทานก็หันมาทางเสี่ยตี๋ “สําหรับเจาแตงกับแมเล็ก แลวก็ ดํารงแตงกับแมจิ๋ว ยาไดตกลงกับคุณหญิงแววและแมศรีไวเรียบรอยแลว พิธีหมั้นอันมีเกียรติจะไดกระทําในวัน อาทิตยที่จะถึงนี้เวลาสี่โมงเชาที่บานคุณหญิงแวว” “โน” นายพลดิเรกรองลั่น คุณหญิงวาดยกมือชีห้ นาศาสตราจารยดเิ รก “ถาโนหัวแกก็ตองบวมหรือแตก ฉันเปนยาของเจาสี่คนนี่ใครจะใหญกวาฉันก็ใหรูไป พอแมหรือ ใคร ๆ จะขัดขวางไมไดทั้งนั้น” เจาคุณปจจนึก ฯ ลอบคอนคุณหญิงวาดแลวพูดโพลงขึ้น “แตผมเปนตาเจานพและดํารงนะครับคุณหญิง” คุณหญิงวาดตวาดแวด “ตาหัวลานไมสําคัญ” เสียงหัวเราะดังขึ้นลั่นศาลาพักรอน เจาคุณปจจนึก ฯ ทําปากจูแลวคอนปะหลับปะเหลือก พล พัชรา ภรณลุกขึ้นเดินมานั่งบนเกาอี้วางขางคุณหญิงวาด “คุณแมไมไดพูดเลนหรือครับที่วาคุณแมไดไปสูขอสี่ใบเถาหลานคุณนาแววใหเจาสี่คนนี”่ “พูดจริง ๆ ลูก แมศรีกบั คุณหญิงแววเขาเต็มใจทีจ่ ะเปนทองแผนเดียวกับเรา แมตกลงกับเขาแลว เขา เรียกเงินสดคนละแสน สี่คนก็สี่แสน แหวนเพชรคนละวงไมจํากัดกะรัต เพราะเขาแนใจวาเจาสี่คนนี่คงไมซื้อ แหวนเพชรราคาพันสองพันไปหมั้นลูกสาวเขา สําหรับเงินทีเ่ ขาเรียกรองแมจะจายใหเองคนอืน่ ไมตอ งเดือดรอน


วุนวาย คาแหวนเพชรแมก็จะจายเงินใหไปซื้อคนละแสน เงินแปดแสนเพือ่ ใหหลาน ๆ ของแมมีเมียไมมากมาย อะไรหรอก” “แลวจะแตงงานกันเมือ่ ไรครับ” พลถามดวยสีหนาเครงขรึม “ก็คงเปนตนไป ๒๕๐๑ ใหพน เดือน ๑๒ ไปกอน แตงตอนนัน้ โบราณเขาถือ” สมนึกรองขึน้ ดัง ๆ “เตี่ย หนูไมแตง หนูไมชอบลูกสาวนาศรี” กิมหงวนมองดูลูกชายโทนของเขาอยางขบขัน “เอา—แหกปากเขาไปนั่งอยูใกล ๆ กันแคน”้ี สมนึกยกเทาทั้งสองกระทืบพื้นถี่เร็ว “ก็หนูไมรักนี่นะ ตอนที่นาศรีพาลูกกลับเมืองไทยพวกเราไปรับที่ดอนเมืองคุณยาแนะนําใหรูจักสี่ใบ เถานั่นผมก็เกลียดขี้หนาเต็มทนแลว วางทาหยิ่งยโสยังกะนางพญากาแร็ต พูดกับคนหือหาพูดกับคนใชเอ็งขา จะ เปนฝรั่งก็ไมใชจะเปนไทยก็ไมเชิง” คุณหญิงวาดกลาวขึ้นทันที “อยาไปติเขาเลยเจานึก เขาเปนผูด แี ท ๆ เขาก็ตอ งทําตัวเชนนัน้ ถึงพอของยายหนูสค่ี นนัน่ ตัดชองนอย หนีไปเพราะอุบตั เิ หตุรถยนตควําที ่ เ่ มืองนอก ตระกูลทางฝายคุณชัชวาลก็เปนผูดีชั้นสูง” นพพูดเสริมขึ้น “ตระกูลนี้ทานํ ํ าตาลสดขายหรื ้ อครับคุณยา” คุณหญิงวาดทําหนาฉงน “แกหมายความวากระไรวะ ผูดีชั้นสูงไหงทํานําตาลสดขาย” ้ “ก็ขึ้นไปทําบนยอดตาลยังไงละครับ” “แหม—ประเดี๋ยวแมดาเปงเลยอายนี่ ยากําลังพูดเปนงานเปนการโวย พวกแกทั้งสี่คนจะตองเขาพิธี หมั้นในวันอาทิตยน้ี แลวก็จําไวใหดี พนัสหมัน้ กับจันทิมาหรือแมใหญ แกหมั้นกับจันทนาหรือแมกลาง เจาตี๋ หมั้นกับแมเล็กหรือ……อา…….” สมนึกพูดตอดวยเสียงหัวเราะ “จันทรขเ้ี ฟยะ” คุณหญิงวาดสะดุง เฮือก “แกนะซีจันทรขี้เฟยะ จันทนกะพอโวย” แลวทานก็เปลี่ยนสายตามาที่ศาสตราจารยดํารงซึง่ นัง่ หนาตูม อยูขางนายพลดิเรก “สําหรับเจาหมัน้ กับแมจว๋ิ หรือจันทรจรัส” ดํารงทําปากแบะรองไห “ไมไหวครับคุณยา แบบนี้เรียกวาคลุมถุงชนนี่ครับ ยายแซจันทรสี่ใบเถานั่นมีแตความสวยเทานั้น รส นิยมไมถูกกับพวกเราแน ๆ กิริยามารยาทก็ไมถูกใจเรา คุณยานาจะคิดบางวาปลูกเรือนตองตามใจผูอยู กินขี้หมู อยาใหใครเห็น” เจาคุณปจจนึก ฯ หัวเราะกาก


“สุภาษิตตวักตะบวยอะไรของแกวะดํารง” คุณหญิงวาดโบกมือหามเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนใหสงบปากเสียงแลวทานก็กลาววา “ยาเปนยาของพวกเจา ยาเปนผูใหญและแกจนปูนนี้แลว จะทําอะไรก็ตอ งคิดตองตรองใหรอบคอบไม ไดทําชุย ๆ เหมือนอยางพอ ๆ ของพวกเจา ยาจะไมยอมใหเจาหาคูค รองกันเอาเองเปนอันขาด หนุม ๆ อยางพวก เจาก็รังแตจะควาเอาพวกจิ๊กกี๋มาเปนเมียเทานั้นเอง สําหรับแมสี่ใบเถาหลานสาวคุณหญิงแววยารับรองวาแตละ คนเปนเด็กดีมีตระกูลสูง มารศรีแมของยายสี่ใบเถานั่นก็เปนลูกเจาคุณ พานทอง คุณชัชวาลผัวของแมศรีก็ลูกเจา คุณมิหนําซํ้ายังไดดารงตํ ํ าแหนงเปนเอกอัครราชทูต พอ ๆ ของพวกเจาก็รูจักคุนเคยกับพอชัชและรูดีวาพอชัช เปนคนดี” เจาคุณปจจนึก ฯ พูดเสริมขึน้ เบา ๆ “พูดถึงชัชวาลนาสงสารมาก อายุออ นกวาดิเรกปเดียว ถาไมตายดวยอุบัติเหตุรถควําอนาคตคงจะไปได ่ ไกล อยางนอยก็ไดเปนปลัดกระทรวงการตางประเทศ” คุณหญิงวาดนิ่งอึ้งไปสักครูก็เปลี่ยนสายตามาที่สี่นางซึ่งนั่งเรียงกันอยูในกลุมเดียวกัน” “พวกคุณแมสี่คนนี่จะวายังไงยะ แตถาคัดคานก็เปนขัดใจกันละ เพราะฉันไดตกลงกับคุณหญิงแวว และแมศรีเขาเรียบรอยแลว” ทั้งสี่นางหนาจอยไปตามกัน นวลลออกลาวขึ้นดวยเสียงออมแอมวา “สุดแลวแตคุณอาเถอะคะ” “เออ—พูดยังงี้ก็ชื่นใจหนอย แมภาละวายังไง” ประภายิ้มเล็กนอย “คุณอาวาถาใครคัดคานละกอเปนขัดใจกัน ภาก็ไมกลาคัดคานคะ” “แลวแมไพละ” “ไพอยากจะขอใหทป่ี ระชุมใหญเปดอภิปรายในเรือ่ งนีเ้ พือ่ ลงมติกนั เปนเอกฉันทคะ ” คุณหญิงวาดกลืนนําลายเอื ้ ๊อกทามกลางเสียงหัวเราะของคณะพรรคสี่สหาย “นี่บาน “พัชราภรณ” ไมใชสภาผูแทนราษฎรโวย เรามีการปกครองแบบเผด็จการคืออํานาจสูงสุดใน บานนี้เปนของอา เมื่ออาตัดสินใจทําอะไรลงไปอาจะไมยอมใหใครคัดคานเปนอันขาดไมวาจะเปนหัวลานหรือ หัวดีกต็ าม” เจาคุณปจจนึก ฯ สะดุงโหยง “เลนงานผมอีกแลว ผมยังไมไดคัดคานอะไรสักหนอย แตผมเกรงวาหลาน ๆ ของเรามันจะไมมีความ สุขถาหากวามันจะแตงงานกับผูหญิงที่มันไมรัก” “โอย—อยาไปคิดเชนนั้นเลยคะเจาคุณ ดูแตเจาคุณประสิทธิ์ ฯ ของดิฉันก็แลวกัน กอนแตงงานกันเรา ไมเคยรักกันเลย เจาคุณทานเกลียดดิฉันเสียดวยซํ้าพอแตงงานกันเราก็รกั กันอยูร ว มชีวติ กันจนกระทัง่ ทานมีอนั เปนเทงทึงไป” พนัสลูกชายของพลกลาวขึ้นบาง


“สมัยโนนกับสมัยนี้ไมเหมือนกันนะครับคุณยา เดีย๋ วนีโ้ ลกเราเจริญแลวหนุม สาวตางมีสทิ ธิท์ จ่ี ะเลือก คูครองของตัวเอง” “แกอยามาพูดดีหนอยเลยวะอายนัส ฉันชักยัวะขึ้นมาแลวซิ ถาใหพวกแกเลือกเอาเองแตงงานกันไมกี่ วันก็ทุบตีกันหนาตาปูดโปแลวก็หยารางกัน หนุม ๆ ก็ตองเลือกผูหญิงสาวสวยจะเหลวแหลกอยางไรขอใหสวย เปนใชได แมสาว ๆ ก็เลือกหนุมรูปหลอ มีหางซอนไวก็ไมสังเกตหรือไมพยายามสังเกต พออยูกันไมกี่วันหาง งอกออกมา ทางผูห ญิงความเลวรายหรือนิสยั อันแทจริงก็จะเกิดขึน้ ในทีส่ ดุ ก็ตอ งแยกทางกันอันเปนเรือ่ งทีต่ อ ง อับอายขายหนาเขา ยาเลือกใหพวกแกยารับรองโวย ลูกหลานเขาแมสี่ใบเถานั่นนะเปนเด็กดีจริง ๆ ดวงแมงไม เคยไชริ้นไมไตไรไมตอม สกุลรุนชาติดีมีวิชาความรูพอตัว ฐานะก็อยูในระดับเศรษฐีถึงแมวาจะเทียบกับเราไม ไดก็ตาม” นพรองขึน้ ดัง ๆ “ตกลงครับคุณยา ตกลงวันอาทิตยหมัน้ วันจันทรแตงงานกันเลยนะครับ” “อายนพ” คุณหญิงวาดพูดเสียงกราว “อยาพูดประชดประชันแดกดันยาอยางนี้ อายระยํา พอแมไมสั่ง สอน มึงเกิดมาเปนหลานกูทาไม” ํ นพยักไหลแลวแบมือ “ผมชวยไมได คุณยาเกิดกอนผม คุณยาอยากเกิดมาเปนยาผมเอง ฮาปาคุณยาโวยพวกเรา หนึง่ …. สอง…..” “ลองดู” คุณหญิงวาดเอ็ดตะโร “ใครกลาดีก็ลองฮาปากูซี หัวไมแตกก็อยานับถือ” ประไพทําตาเขียวกับลูกชายของหลอน “อยาทะลึ่งใหมากนักตานพ คุณยาไมใชเพื่อนเลนของแกนะ” คุณหญิงวาดลุกขึ้นยืนแลวกลาวสรุป “เปนอันวาทุกคนเตรียมตัวไวใหพรอมเพื่อไปประกอบพิธีหมั้นเจาสี่คนกับหลานสาวคุณหญิงแววใน วันอาทิตยน้ี พรุง นีฉ้ นั จะจายเงินใหพอ นัส พอนพ พอสมนึก และดํารงคนละแสนบาทใหไปหาซื้อแหวนหมั้น ตามใจชอบ” เสี่ยตี๋ยิ้มใหเพื่อน ๆ ของเขา “ไปซื้อมะรืนนี้ดีกวาโวยตรงกับวันเสารสนามหลวงมีตลาดนัด แถวปายรถเมลทางดานตรงขาม ปมนํ้ามันสามทหารมีรา นขายเครือ่ งเพชรทองรูปพรรณหลายราน แหวนเพชรขนาด ๑๐ กะรัตอยางแพงก็ ๒๐ บาท แถมสรอยคออีกหนึง่ เสน แตตอ งหมัน่ ชุบหนอย” คุณหญิงวาดทําตาเขียวกับลูกชายเสี่ยหงวน “แกไมรกั หนาของแก ไมรักหนาพอแมปูยาตายายจะทํายังงั้นก็ตามใจยาบอกเสียกอนนะ ถาใครหลีก เลี่ยงการหมั้นครั้งนี้เปนตัดเปนตัดตายกันละ คิดดูก็แลวกันวายาจะเอาหนาไปไวไหน คุณหญิงแววกับแมศรีเขา จะตองถอนหงอกยาแน ๆ แกสี่คนเตรียมตัวไดแลว หาเพื่อนสนิทไปดวยเพราะหลังจากพิธีหมั้นคุณหญิงแววเขา จะเลี้ยงอาหารกลางวัน สําหรับเพือ่ นเอาไปคนละ ๕ คน เปนอยางมากเพื่อจะไดเปนพยานรูเห็นในพิธีหมั้นพวก


คุณพอคุณแมก็ขอใหเตรียมตัวไวใหพรอม ฉันไมอยากจะพูดอะไรใหมากกวานี้ เพราะรูวาถาขืนนั่งอยูที่นี่จะมี คนคัดคานฉัน” แลวคุณหญิงวาดก็พาตัวเดินออกไปจากศาลาพักรอน สี่สหายกับสี่นางตางมองดูหนากัน เจาหนุม รูป หลอทั้งสี่คนมีสีหนาหมนหมองเต็มไปดวยความกลัดกลุมใจ ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะเสี่ยหงวนจึงกลาวขึ้นวา “เทาที่เรารูมา คุณนาแววมีฐานะไมสูจะดีนัก คุณนันนั่นแหละเคยเลาใหผมฟงวาคุณนาแววเอาตึกแถว ที่ถนนดินแดงจํานองคุณอาไวสองแสน” นันทารีบกลาวหามอาเสี่ยทันที “อยาพูดดังไปคะ เรือ่ งนีค้ ณ ุ อาทานปดพวกเราทีส่ ดุ เพราะไมอยากใหเพือ่ นของทานขายหนาพวกเรา” อาเสี่ยยิ่งแหกปากพูดดังขึ้นอีก “ไมใชเรือ่ งทีน่ า อับอายขายหนาอะไรนีค่ รับ คนเราดวงดีกม็ บี ญ ุ วาสนา มีโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา ถาดวงไมดีพระศุกรเขาพระเสารแทรกพระอาทิตยไลเตะพระราหู พระอังคารชกหนาพระพุธอะไรเหลานี้ที่ฟูก็ แฟบที่รวยก็จน คุณนาแววก็เหมือนกัน เมือ่ เงินขาดมือทานก็ตอ งเอาตึกแถวของทานมาจํานองคุณอา” นิกรกลาวขึ้นบาง “ถายังงั้นคุณนาแววคงจะมีแผนยกหลานสาวของทานใหลูกหลานของเราดวยวิธีหักกลบลบหนี้สิน แลวก็ยังมีเงินเหลืออีกสองแสนเพราะคุณอาบอกวาทางคุณนาแววเรียกเงินสินสอดสําหรับยายสี่ใบเถานั่นคนละ แสนบาท เราจะคิดอานแกไขกันอยางไรดีละในเมื่อคุณอาตกลงกับคุณนาแววเขาไวเรียบรอยแลว” พลวา “ไมมีทางที่จะแกไขได” ดํารงลูกชายของนายพลดิเรกกลาวขึ้นทันที “แตผมมีทางแกไขครับคุณลุง” สี่สหายกับเจาคุณปจจนึก ฯ ตางหันมามองดูศาสตราจารยดํารงเปนตาเดียว “แกจะแกไขอยางไรบอกตาซิ” ดํารงหัวเราะเบา ๆ “ขอเวลาใหผมกับเพื่อน ๆ ปรึกษากันกอนครับแตทางแกไขนั้นมีแน” ประภาพูดเสริมขึ้น “แตเจาจะใชวิธีดื้อแพงไมยอมเขาพิธีหมั้นนะไมไดนะลูกนะ” ศาสตราจารยดํารงอมยิม้ “ไมครับแม วิธนี น้ั โงเต็มทน ผมคิดวาผมกับเพื่อน ๆ จะตองเขาพิธีหมั้นกับแมสี่ใบเถานั่น เพือ่ ใหเปน ไปตามความประสงคของคุณยา แตผมจะวางแผนทําใหแมสี่ใบเถาหรือคุณนาศรีและคุณยาแวว อิดหนาระอาใจ พวกผมถึงกับคืนหมั้นเพราะไมประสงคที่จะใหพวกผมเปนทองแผนเดียวกับเขา ไมยากเย็นอะไรหรอกครับ ระเบิดนิวเคลียรหรืออาวุธจรวดยากกวานี่ผมยังใชสมองของผมสรางมันได” เสียงพึมพําดังขึ้นทั่วศาลาพักรอน พนัสถึงกับลงทุนยกมือไหวศาสตราจารยดารงผู ํ เฉลียวฉลาด


“ชวยใหกันรอดพนจากการแตงงานกับยายจันทิมาทีเถอะวะ ผูห ญิงอยางนัน้ กันไมชอบ สวยนะสวยละ แตกิริยามารยาทไมนมุ นวลขาดความออนหวานอันเปนคุณสมบัตอิ นั แทจริงของลูกผูห ญิง ทรรศนะของกันเรือ่ ง ผูหญิงนั้นสวยหรือไมสวยไมสําคัญขอใหมคี วามสุภาพออนหวานเปนใชได ยากดีมีจนก็ไมแปลก” นพพูดเสริมขึ้นดวยเสียงแหลมเล็กเหมือนคนจมูกบี้ “ใช พี่พนัสพูดเหมือนใจใหดน้ิ ตาย นองก็ชอบผูห ญิงออนหวาน” นิกรมองดูลูกชายของเขาดวยความหมั่นไส “เดี๋ยวก็ยันโครมเดียวหงายหลังลงไปจากเกาอี้เทานั้นเอง พูดลิ้นแบ ๆ บีบเสียงเล็ก ๆ อยางนีม้ นั กวนดี พิลึก” นายพลดิเรกพูดโพลงขึ้น “กลุมใจโวย คุณอาดําเนินแผนการแบบรวบรัดตัดความเชนนีเ้ ปนเรือ่ งทีพ่ วกเราพูดไมออกไดแตกลอก หนา อยากจะคัดคานก็กลัวถูกดา ตามแตเรือ่ งเถอะวะ ทานหาเมียใหอา ยสีค่ นนีท่ า นก็ตอ งรับผิดชอบ ถาหากวา วิวาหกลายเปนวิวาทอยูรวมกันแบบขมิ้นกับปูน เด็กสาวสี่ใบเถานั่นนะรสนิยมไมเหมือนกันลูกหลานของเราเลย ลวนแตเยอหยิง่ จองหองไวตวั เห็นคนจนหรือคนชัน้ ตําเป ่ นสัตวเลื้อยคลานทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไมไดวิเศษวิโสอะไร นัก” ดํารงยิ้มใหบิดาของเขา “เอาเถอะครับ ผมจะวางแผนการยุทธใหดีที่สุด พอแมนาอาและลุง ตลอดจนคุณตาจะตองเลือ่ มใสใน มันสมองอันเฉียบแหลมของผม” “ออไร ถายังงัน้ ก็เปนเรือ่ งของแกและเพือ่ น ๆ ทีจ่ ะคิดแกไขในเรือ่ งนี้ พวกเราทุกคนเห็นใจแกทั้งสี่คน โวย แตเราก็ไมกลาคัดคานคุณยาแก” นายพลดิเรกพูดยิ้ม ๆ ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ เสี่ยตี๋มองดูเสี่ยหงวนแลวทําปากแบะรองตะโกนขึน้ ดัง ๆ “เตี่ย หนูยงั ไมอยากมีเมีย” เสี่ยหงวนจุปากจิ๊กจั๊ก “ตามใจแกเถอะวะ แกขึ้นไปพูดกับคุณยาซี” “ไมเอา หนูกลัวคุณยาดา” เจาคุณปจจนึก ฯ หัวเราะหึ ๆ “คราวนี้คุณหญิงทําเจ็บมาก ทานไมยอมปรึกษาหารือหรือขอความเห็นจากพวกเราเลย อายเราเปนตาก็ เหมือนตาตุมไมมีสิทธิ์อะไรในตัวเจานพและดํารงแมแตนอ ย แกสี่คนแตงงานเสียทีก็ดีวะจะไดเปนผูหลักผูใหญ ใหปูตาไดชื่นชมเหลน” นพยิ้มใหตาของเขา “เหลนหรือจิง้ เหลนครับคุณตา” “เหลนโวย ลูกของหลานเรียกวาเหลน” “แลวลูกของเหลนละครับ” สมนึกตอบแทนเจาคุณปจจนึก ฯ


“ลูกของเหลนก็เรียกวาโลน” เจาคุณปจจนึก ฯ สะดุงโหยงหันขวับมาทางลูกชายของเสี่ยหงวน “ใครบอกแกละ” สมนึกหัวเราะ “เตี่ยบอกครับ” “อาว” อาเสี่ยอุทาน “หาเรื่องใหกูถูกเตะแลวไหมละ ลูกของเหลนนะเขาไมนับเปนลูกหลานหวาน เครือแลวโวย เหมือนอยางเตีย่ เปนหลานของเหลนของหลานสุนทรภูแ ตกไ็ มไดนบั วาเตีย่ เปนลูกหลานของทาน” “ถุย” นิกรรองขึน้ ดัง ๆ “อยามาแอบอางหนอยเลยวะ เหลนของหลานสุนทรภูค อื กันโวย ปูทวดของกัน เปนชาวเมืองแกลงเปนหลานทานสุนทรภู ถาคิดตามลําดับญาติกันก็เปนวงศวานของทานสุนทรภูเหมือนกัน” แลวนิกรก็กลาวเปนกลอนตลาดอยางคลองแคลว อันวัวควายตายแลวเหลือเขาหนัง มนุษยเราชือ่ ยังปรากฏอยู จอมกวีศรีสยามนามทานครู สุนทรภูย ง่ิ ใหญในเชิงกลอน นันทาลอบคอนนองชายของหลอนแลวกลาวกับสามนาง “คงไปจําขี้ปากใครเขามา” นิกรอมยิม้ “ไมไดจําขี้ปาก จําที่ใครเขาแตงไวในหนังสืออะไรก็ไมร”ู แลวนิกรก็ถอนหายใจเฮือกใหญ “กลุมใจ โวยทําคึกคักไปยังงั้นเอง คุณอาเลนใชไมตายแบบนี้ลูกหลานเรามันคงยําแย ่ ไปตามกัน แตงงานกับคนที่ไมรักจะ มีความสุขไดอยางไร อยูกันหมอขาวยังไมทันจะบวมก็หยากันแลว หรือมายก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันถึงกับลงมือ ลงตีนกัน” ดํารงยิ้มใหนิกรแลวพูดตัดบท “ใจเย็น ๆ เถอะครับนากร ผมจะใชความคิดของผมทําใหแมสี่ใบเถานั่นยอมคืนหมั้นเราในไมชา สวน การหมั้นเราก็จะตองยอมเขาพิธีหมั้นตามกําหนดเวลาที่คุณยาไดตกลงกับฝายผูหญิงเขาไวแลว” ในที่สุดวันประกาศพิธีหมั้นก็ผานมาถึง หนังสือรายวันหลายฉบับลงขาวกันเกรียวกราวซึ่งวงศาคณาญาติทางฝายผูหญิงเปนผูนําขาวไปลง พิมพ เราจะไดนําทานผูอานไปที่บานของคุณหญิงแวว หรือคุณหญิงพิบูลยราชเดชริมถนนพหลโยธินบาง เขน บาน “ทับเทวัญ” เปนตึกสองชั้นขนาดกลางปลูกอยูในเนื้อที่ดินหนึ่งไรซึ่งที่ดินนี้เปนสมบัติดั้งเดิมของคุณ หญิงแววตั้งแตราคาไรละ ๒๐๐ บาทกอนสรางถนนพหลโยธิน คุณหญิงแววอพยพจากบานฝงธนมาปลูกตึกอยูที่ นี่หลังจากเจาคุณพิบูลย ฯ ถึงแกอนิจกรรมได ๒ ป ทานไดดาเนิ ํ นกิจการโรงงานอุตสาหกรรมทอผามาไดเพียงป เศษก็ประสบการขาดทุนอยางยอยยับ เพราะผาญี่ปุนที่มีราคาถูกไดโจมตีผาไทย หรือผาที่ผลิตในประเทศไทย


ยอยยับไปตามกัน หลังจากเลิกลมโรงงานทอผาลูกเขยของทานซึ่งเปนเอกอัครราชทูตไทยอยูในประเทศหนึ่งใน ยุโรป ก็ไดรบั ชะตากรรมตองเสียชีวติ จากอุบตั เิ หตุรถยนตพลิกควําเพราะยางแตก ่ มารศรีลูกสาวสุดที่รักคนเดียว คุณหญิงแววไดปลงศพสามีของหลอนเรียบรอยแลว ก็พาลูกสาวสี่ใบเถาเดินทางกลับกรุงเทพฯ และมาอยูกับคุณ หญิงแววทีบ่ า นนี้ อาเสี่ยกิมหงวนของเราพูดถูกแลว คุณหญิงแววกําลังเผชิญกับปญหาสําคัญยิง่ คือเรือ่ งการเงิน รายไดท่ี มีอยูจากการใหเชาอาคารที่ถนนดินแดง ซึ่งมีอยูเพียง ๑๐ หองนัน้ นอยเกินไป นอกจากนี้ก็มีรายไดจากบานเชาให ฝรั่งเชาอีก ๒ หลัง อยางไรก็ตามคุณหญิงแววเปนผูด เี กาเปนสุภาพสตรีบรรดาศักดิ์ การใชจายของทานและลูก หลานของทาน เดือนหนึง่ จะตองใชเงินอยางตําถึ ่ ง ๑๐,๐๐๐ บาท จึงจะเพียงพอแกการครองชีพที่เหมาะสมกับ สภาพและเกียรติ เมื่อคุณหญิงวาดมาพูดสูขอสี่ใบเถาหลานสาวของทานคุณหญิงแววก็รีบตกลงทันที ทั้งคุณหญิงแวว และมารศรีตลอดจนสาวสวยสี่ใบเถาตางตื่นเตนยินดีไปตามกัน ทั้งนี้ก็เพราะทุกคนรูดีวา พล, นิกร, กิมหงวน และศาสตราจารยดเิ รกผูเ ปนบิดาของเจาหนุม รูปหลอทัง้ สีค่ นนัน้ มีฐานะรํารวยเพี ่ ยงใด ถาหากวา พนัส นพ สมนึก และดํารงไดแตงงานกับสี่ใบเถา คุณหญิงแววและมารศรีก็จะไดรบั ความ สุขสบายไปตลอดชีวิตคือมีเงินทองใชสอยอยางฟุมเฟอยนั่นเอง สวนจันทิมา จันทนา จันทนกะพอ และจันทร จรัสก็จะนั่งอยูบ นกองเงินกองทอง โดยเฉพาะจันทนกะพอ ลูกสะใภในอนาคตของเสี่ยหงวนมหาเศรษฐีอันดับ หนึ่งของประเทศไทย วันนี้คุณหญิงแววกับมารศรีและสีใ่ บเถาตืน่ นอนแตเชาตรูผ ดิ ปกติ บาน “ทับเทวัญ” ไดรบั การตกแตง สะอาดเรียบรอยตั้งแตวานนี้เอง หองโถงใหญชั้นลางของตัวตึกคือหองประกอบพิธีหมั้น สวนการเลี้ยงอาหาร กลางวันนั้นไดตั้งโตะที่เรือนตนไมหลังตึกคนใชชายหญิงของคุณหญิงแววตางแตงกายสะอาดเรียบรอยยิ้มแยม แจมใสไปตามกัน หลังจาก ๘.๐๐ น. ลวงแลวพวกญาติสนิทมิตรรักของคุณหญิงแววก็ทยอย ๆ กันมาที่บานรวม ทั้งญาติผูใหญฝายสามีมารศรี และมิตรสหายของสี่ใบเถาดวย “ทับเทวัญ” มีผูคนพลุกพลานผิดปกติ รถยนต หลายคันจอดอยูริมถนนพหลโยธินนอกรั้วบาน ทั้งนี้ก็เพราะในบานมีที่วางพอจอดรถไดเพียงสามสี่คันเทานั้น และคุณหญิงแววไดสงวนไวเปนที่จอดรถของฝายเจาหนุมทั้งสี่คน และพวกญาติคือคณะพรรคสี่สหายกับสี่นาง และคุณหญิงวาดกับเจาคุณปจจนึก ฯ ในราว ๙.๓๐ น. คุณหญิงวาดพรอมดวยเจาคุณปจจนึก ฯ และสี่สหายกับสี่นางก็มาถึงบาน “ทับเทวัญ” โดยรถคาดิลแล็คและบูอิคเกง ซึ่งเจาแหวทําหนาที่ขับรถคาดิลแล็คและประภาขับรถบูอิคเกงของหลอนดวยตน เอง เมื่อรถยนตทั้งสองคันแลนผานประตูรั้วเขามาในเขตบานคุณหญิงแววก็รีบพามารศรีลูกสาวคนเดียว ของทานผูเปนมารดาของสีใ่ บเถาออกมาคอยตอนรับทีห่ นาตึก คุณหญิงแววรูปรางผอมบางแตทวงทาสงางามไว ตัว อายุของทานออนกวาคุณหญิงวาด ๕ ป ลักษณะทาทางเยอหยิ่งแตงกายหรูหรานุงซิ่นไหมสีเขียวยกทอง สวม เสื้อแขนสามสวนสีเขียวออน ผาลูกไมราคาแพงแตมีเครื่องเพชรตกแตงเพียงสองสามชิ้น สวนมารศรีอยูในชุด วันพีชสีชมพู สวมสรอยคอเพชรแตเปนเพชรลูกเม็ดขนาดเล็กราคาคงไมเกิน ๓๐,๐๐๐ บาท


ทั้งแมลูกหนาเสียไปตามกันเมื่อไมเห็น พนัส นพ สมนึกและดํารง แตก็เขาใจวาคงจะติดตามมาภายใน สองสามนาทีนี้ เมื่อสี่สหายกับสี่นางและทานผูใหญทั้งสองกาวลงมาจากรถ คุณหญิงแววก็พาลูกสาวของทานลง บันไดไปตอนรับทันที มีการไหวกันโอภาปราศรัยกันอยางสนิทสนมเหมือนเครือญาติ อยางไรก็ตามคุณหญิง แววและมารศรีรูสึกนอยเนื้อตํ่ าใจไมนอยเมื่อแลเห็นคุณหญิงวาดและสี่นางประดับเครื่องเพชรแพรวพราวแวว วาวตา โดยเฉพาะนวลลออฟดสรอยคอเพชรราคาเกือบหาแสนบอกใหรวู า หลอนเปนเมียมหาเศรษฐี สี่นางแตง ชุดสีฟาเหมือนกันแบบเดียวกัน แมกระทั่งรองเทาสีขาวหัวแหลมก็ตัดจากรานเดียวกัน คุณหญิงวาดแตงชุดไหม ไทยสีนํ้าตาล สี่สหายแตงสากลชุดสีกรมทาผูกโบวหูกระตาย เจาคุณปจจนึก ฯ ชุดสีเทา สวนเจาแหวผูกเน็คไท แตไมสวมเสือ้ นอก กลิ่นนําหอมจากสี ้ ่นางหอมฟุง “เปนยังไงคะคุณพี”่ คุณหญิงแววถามเจาคุณปจจนึก ฯ อยางยิ้มแยม “ไมไดพบคุณพี่เกือบครึ่งปแลวคะ สบายดีหรือคะ” ทานเจาคุณหัวเราะหึ ๆ “ขอบคุณครับคุณหญิง สบายดีครับ แตวา ปนร้ี สู กึ วาแกเฒารวงโรยไปมาก” “ยังคะ คุณพี่ยังกระชุมกระชวยดีนี่คะ เห็นจะเปนเพราะไมทานเหลานัน่ เอง” มารศรีพูดคุยกับสี่นางอยูทางหนึ่ง “อยาหาวาศรีใจดําเลยนะคะที่ศรีไมไดพาลูกไปเยี่ยมพี่ ๆ ทั้ง ๆ ที่อยูไมไกลกันนัก พูดก็เหมือนแกตวั คะพี่นนั ศรีมีแตเรื่องวุนวายไปทั้งนั้นเกี่ยวกับลูก ๆ แหละคะ ยายจิ๋วสําเร็จ มศ. ๕ ก็อยูกับบานเฉย ๆ ไมไดทาํ อะไร” นันทาบีบมือมารศรีแนน “เราตางก็มีภารกิจที่ตองทํานี่คะคุณศรี พี่กับเพื่อน ๆ ก็เหมือนกัน ตัง้ แตไปรับคุณทีด่ อนเมืองก็เคยมา เยี่ยมคุณเพียงสองครั้งเทานั้น” ประไพพูดเสริมขึ้น “สามครั้งคะพี่นัน พาลูก ๆ เรามาทานขาวกับคุณนายังไงละคะ” “ออ จริงซีนะพี่ลืมไป” นวลลออยิ้มใหมารศรีแลวกลาววา “ยินดีมากคะที่เราจะไดเปนทองแผนเดียวกัน ทุกสิ่งทุกอยางคุณอาทานจัดทําไปตามความเห็นชอบ ของทานคะ” “คะ คุณปาบอกแลววาสําหรับพอหลานชายทั้งสี่คนนะสิทธิ์ขาดอยูกับทานคนเดียวเทานั้น” แลว หลอนก็เลือ่ นตัวเขามายกมือจับแขนประภา “พี่ภาคงจะพอใจลูกจิ๋วของศรีนะคะ” “คา” ประภาพูดยานคาง “พี่ยังบอกดํารงเลยวาคุณยาเลือกใหเหมาะแลว หลานจิ๋วสมกับดํารงของพี่ มาก” “หรือคะ แหม—ชื่นใจจังคะที่พี่ภาพูดอยางนี้ อา—แลวพี่ไพละคะรูสึกอยางไรบาง” ประภาทําหนาเหยเก “แลวแตคุณยาของนพคะ พี่ไมมีสิทธิ์อะไรหรอก ทานจะเอายังไงก็สุดแลวแตทานจะเห็นสมควร”


คุณหญิงแววเดินเขามาหาสี่นางและลูกสาวของทาน “ขึ้นไปคุยกันบนตึกกันเถอะ พี่วาดบอกวาพอสี่คนนั่นเขากําลังไปรับเพื่อนสนิทของเขา แตรบั รองวา จะมาถึงนี่กอนเวลาฤกษคือกอน ๑๐.๐๐ นาฬิกา” มารศรียิ้มใหสี่นาง “เชิญคะ เชิญพี่ ๆ ขึ้นไปบนตึกเถอะคะ” แลวหลอนก็เดินเขาไปหาสี่สหายกับเจาคุณปจจนึก ฯ “พี่พล คะ พี่กร พี่หมอและเฮียเชิญขางบนคะ อา—คุณลุงแตงสากลชุดนี้สงาจังคะ” ทานเจาคุณฝนหัวเราะ “ลุงแกแลวอยามายอลุงเลย พวกญาติ ๆ มากันพรอมแลวหรือ” “คะ อยูใ นหองโถงคะ เชิญสิคะ” คุณหญิงแววกับมารศรี ตางพาคณะพรรคสี่สหายกับสี่นางพรอมดวยคุณหญิงวาดกับเจาคุณปจจนึก ฯ ขึ้นบันไดไปบนตึกเลยเขาไปในหองโถงซึ่งถูกดัดแปลงเปนหองพิธีหมั้น ตามเวลาที่กลาวนี้พวกญาติมติ รของ คุณหญิงแวว และญาติทางฝายชัชวาลสามีของมารศรีไดมาชุมนุมกันอยูอยางคับคั่งแลว กอนเวลา ๑๐.๐๐ น. เล็กนอย รถเบ็นซคันหนึ่งไดแลนผานประตูรั้วบาน “ทับเทวัญ” เขามาดวยความลําบากยากเย็น ทั้งนี้เพราะวา เบ็นซคันนี้ไมใชรถเกง มันเปนรถเมลหรือรถประจําทางขนาดใหญของบริษทั “การุณวงศ” หรือของนิกรนัน่ เอง เพราะหุนสวนทั้งหลายของบริษัทรถยนตประจําทางนี้ก็คือคณะพรรคสี่สหาย และสี่นางกับเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่ คน แตนิกรถือหุนถึง ๗๕ เปอรเซนต จึงเปนประธานอํานวยการหรือผูอ ํานวยการบริษัท มีกจิ การเดินรถในพระ นครและธนบุรีถึง ๕ สาย มีรถรับสงผูโ ดยสารเกือบ ๒๐๐ คัน รถบัสยี่หอเบ็นซแลนตรงมาหยุดตอทายรถบูอิคเกงของพล พัชราภรณ ทามกลางเสียงเอะอะเจี๊ยวจาว ของพวกจิ๊กโกไมตากว ํ่ า ๒๐ คน ซึ่งลวนแตเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนจางหรือวานมาเปนเพื่อนในการประกอบพิธี หมั้น ตามแผนการกอกวนของศาสตราจารยดํารงผูเฉลียวฉลาด พนัส นพ สมนึกและดํารง ตางพากันลงมาจากรถประจําทางคันนั้น ทั้งสี่คนแตงกายแบบจิ๊กโกนิยม สวมวิคปลอมไวผมยาวเฟอยและดัดเปนลอน สวมกางเกงทรงทรมานขาแคบสีเดียวกันคือสีนาตาลไหม ํ้ และสวม เสื้อยืดแขนสั้น คอปกสีแดงเพลิง สวมรองเทาบูทผาใบพื้นยางสีกรมทาแลเห็นถุงสั้นสีแดงแปรดสะดุดตา ทั้งสี่ คนอยูในบทบาทของจอมจิ๊กโก ทั้งเครื่องแตงกายและกิริยาทาทาง ในเวลาเดียวกันนี้เอง คุณหญิงแววและคุณหญิงวาดและมารศรีมารดาของสี่ใบเถาก็พากันออกมาจาก หองโถง สมนึกหรือเสีย่ ตีม๋ องขึน้ ไปบนรถแลว ยกมือใสปากเปาเปยว “ลงมาซีโวยพรรคพวก นีแ่ หละบานเจาสาวในอนาคตของพวกเรา” แลวเสี่ยตี๋ก็ตะโกนลั่น “ยิปป วันนี้ เปนวันประกาศหมั้นอั๊วมีความสุขที่สุดในโลก ฮะ ฮะ ประเดี๋ยวกันจะจูบคูหมั้นของกันใหพวกเราไดชมเปน ขวัญตา ลงมาโวย”


คุณหญิงแววทําหนาอยางที่ไมมีใครอธิบายไดดวย นึกไมถึงวา เจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนจะมาเขาพิธี หมั้นในสภาพจิ๊กโกเชนนี้ แทนที่จะแตงเครื่องแบบสีขาวนายทหารสัญญาบัตรเพือ่ ใหเกียรติแกตวั เอง และเจา สาว ตลอดจนบรรดาแขกผูม เี กียรติอกี หลายทาน บรรดาจิ๊กโกทั้งหลายตางไชโยโหรองเสียงลั่นบาน และพากันลงมาจากรถทางดานหนาและทายรถ บางคนมีกีตาลูกแซ็ดหรือแอ็คคอเดียนถือติดมือลงมาดวย แตละคนเอะอะเอ็ดตะโรตามวิสัยจิ๊กโกที่ไมเคยสนใจ ในเรือ่ งกิรยิ ามารยาท แลวดนตรีที่คลาย ๆ กับวงชาโดก็เริ่มบรรเลงเพลงขางรถบัสคันนั้นจิ๊กโกหลายคนตางรําปอรองเพลง รําวงกันอยางสนุกสนาน “…..หลอจริงนะดารา งามตาจริงแมสาวเอย วันนี้เรามีความสุข สนุกรืน่ เริงหัวใจ ทีน่ ค่ี อื แดนสวรรค เธอกับฉันมาเตนวาตูซี่ เธอกับฉันมาเตนวาตูซ”ี่ พนัสรําคูกับนพ สมนึกรําคูกับดํารง พวกจิก๊ โกครึกครืน้ รืน่ เริงกันสุดเหวีย่ ง คณะพรรคสี่สหายกับ สี่ นางและเจาคุณปจจนึก ฯ รีบออกมาดู สวนญาติทางฝายคุณหญิงแวว และเพื่อน ๆ ของสี่ใบเถาแอบมองอยูตาม หนาตางประตู และตางก็งวยงงไปตามกันที่เจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนมาทําพิธีหมั้นในสภาพเชนนี้ คุณหญิงแววทําหนาเหมือนกับจะรองไห ยกมือขวาจับแขนซายของคุณหญิง “พี่วาด หลานของพีว่ าดพาพวกโจรหารอยมาปลนดิฉนั หรือคะนี่” คุณหญิงวาดยิม้ แหง ๆ “เปลา ๆ เพือ่ นหลาน ๆ ของพี่นะเธอ” มารศรียกมือขวาตบอก “ตายแลวคุณปา ทําไมพอนัส พอนพ พอสมนึก และพอดํารงถึงคบกับจิ๊กโกละคะ อุย ตาย นัน่ เขาเตน รําแบบไหนคะ แอนหลังเหมือนเปนสันนิบาต” คุณหญิงวาดฝนหัวเราะ “ปาก็ไมมีความรูใ นเรือ่ งเตนรําหรอกแมศรี วาตูซห่ี รือทวิสตอะไรเทือกนัน้ ละกรามัง้ ปารูจ กั แตระบํา จํ้าบะปุบชึ่ง ๆ” คุณหญิงแววจูงมือลูกสาวของทานเขาไปหาคณะพรรคสี่สหายและสี่นางกับเจาคุณปจจนึก ฯ แลวคุณ หญิงแววก็เลนงานสี่สหายเมื่อเห็น พล, นิกร, กิมหงวน และศาสตราจารยดเิ รกยืนหัวเราะงอไปงอมา “หมายความวายังไงกันยะพอหลานชาย ที่ลูก ๆ ของพวกเธอมาเขาพิธีหมั้นอยางนี้นะมีเจตนา ดูถูกนา หรืออยางไรกัน พาพวกกุย ยกโขยงกันมาเต็มรถมีการรองรําทําเพลงกันดวย พอนัส พอนพ พอดํารง และพอสม นึกก็แตงตัวไมเรียบรอยเหมือนกันตัง้ ใจจะมาดูหมิน่ กัน” สี่สหายทําหนาตายไปตามกัน พลกลาวกับคุณหญิงแววอยางนอบนอม “คุณนาเขาใจผิดเอามากเชียวครับ เจาสี่คนมันตื่นเตนดีใจที่จะไดหมั้นกับหลานสาวของคุณนาทั้งสี่คน จนกระทัง่ เมือ่ คืนนีม้ นั นอนไมหลับตลอดคืน” มารศรีพดู เสริมขึน้ “ตื่นเตนดีใจหรือคะพีพ่ ล”


“ครับ ทุกคนตางพึงพอใจคูหมั้นของตนที่คุณยาจัดหาให” คุณหญิงแววทําตาเขียวกับเสี่ยหงวน “แลวทําไมถึงมาบานนาแบบนี้ละพอหงวน ไมผดิ อะไรกับพวกโจรทีป่ ลนตลาดทาเรือเมือ่ เร็ว ๆ นี้ ดู ซี…..ตาสมนึกสายฮาไวควงตะโพกเสียดวย ตานพก็เตนแอนหนาแอนหลังนาเกลียดจะตายไป” เสี่ยหงวนซอนยิ้มไวในหนา “คุณนานาจะทราบดีแลววา เจาสี่คนมันสําเร็จมาจากอเมริกา นิสัยใจคอมันก็คลาย ๆ กับหนุม อเมริกนั นั่นแหละครับ รักอิสระ ชอบทําอะไรงาย ๆ ไมมีพิธีรีตองเตะทาแบบผูดีอังกฤษ อยาถือมันเลยครับ ทีร่ อ งรําทํา เพลงกระโดดโลดเตนกันอยางนี้ก็แสดงวาเจานัส เจานพ เจาตี๋และดํารงมันกําลังตื่นเตนดีใจที่จะไดหมั้นกับ หลานสาวของคุณนา” คุณหญิงแววยิม้ ออกมาได “เออ—จริงซีนะ นาพึง่ นึกไดเดีย๋ วนีว้ า คนอเมริกนั นะเขารักอิสระชอบทําอะไรตามความพอใจของตน ใครจะติฉินนินทาวารายอะไรเขาก็ไมแครเพราะเขาไมไดทาผิ ํ ดกฎหมายของบานเมืองหรือศีลธรรม แตนน่ั แหละ นะ ในทรรศนะของพวกเราซึ่งเปนคนไทยไดเห็นอยางนี้แลวมันก็รูสึกยังไงชอบกล” นายพลดิเรกกลาวขึ้นบาง “ไมมีอะไรครับคุณนา พิธีหมัน้ จะตองผานไปโดยเรียบรอย ขอใหเด็ก ๆ ของผมมันเตนแรงเตนกา สนุกสนานกันสักสองสามนาทีเถอะครับ” คุณหญิงแววถอนหายใจเฮือกใหญ คุณหญิงวาดเดินเขาไปหาสี่นางแลวกระซิบพูด “ทําไมอายสี่คนมันมากันอยางนี”้ นันทายิ้มแหง ๆ “ยังไงก็ไมทราบคะ นันคิดวาคงแตงเครื่องแบบสีขาวมาเพราะไดขาวจากแจววา ทุกคนเตรียมเครือ่ ง แบบสีขาวไวตั้งแตวานนี้แลว” คุณหญิงวาดขบกรามพูด “ขายหนาเขาตายหา ดูไดรึ เหมือนกับอายกุยที่ไหนก็ไมรู ดันใสผมปลอมดัดผมเสียดวย แตละคนนุง กางเกงคับติ้วถาลงนั่งกับพื้นกระดานก็ลุกไมขึ้น เพื่อนฝูงที่พามาหนาตาไมเปนสับปะรดสักคน เหมือนกับอาย พวกโจรหารอย” สี่นางและสี่สหายตางดีใจไปตามกัน เทาที่เจาหนุมทั้งสี่คนทําใหคณ ุ หญิงแวว และมารศรีแสดงความ อิดหนาระอาใจจนออกนอกหนา ทั้งนี้ก็เพราะสองแมลูกตางก็เปนผูดีเกาไวยศไวตัวตรงกันขามกับคณะพรรคสี่ สหายของเราซึง่ เปนประชาธิปไตยอันแทจริง เจาคุณปจจนึก ฯ รองตะโกนเรียกพวกหลาน ๆ ของทาน “เฮย—พอทีโวย เหลือเวลาอีก ๑๐ นาทีเทานัน้ ขึ้นมาบนตึกไดแลวโวย” เสียงดนตรียุติลงทันที เจาหนุมหนาเสี้ยมทาทางเปนจิ๊กโก ๑๐๐ เปอรเซนต มองดูเจาคุณปจจนึก ฯ อยางขบขัน แลวถามนพดัง ๆ วา “ตาแกหัวลานอวนเตี้ยพุงพลุยคนนี้นะใครครับ”


นพยกเทาขวาเตะเด็กกระเปารถเมลของพอเต็มเหนีย่ ว แลวพูดเสียงหนักแนน “ตากู” พนัสชูมือขวาเปนสัญญาณใหทุกคนสงบปากเสียงแลวกลาววา “ขอเชิญเพื่อนทุกคนขึ้นไปบนตึก และโปรดทําตัวใหสุภาพหนอย ทีน่ เ่ี ปนบานของคุณหญิงแวว ซึ่งมี ศักดิ์เหมือนกับยาขาพเจา ไมใชบารผหี รือรานกาแฟ กรุณาเรียบรอยมีสัมมาคารวะใหสมกับที่เกิดมาเปนลูกคน หนอยนะครับ อยาใหเจาภาพทานวาไดวาเปนลูกลิงลูกคางหรือลูกจิ้งจก” พวกจิ๊กโกซึ่งสวนมากเปนเด็กกระเปา และนายตรวจรถเมลของนิกรตางยิ้มแปนไปตามกัน พนัส นพ สมนึก และดํารง เดินนําหนาพากลุมจิ๊กโกตรงมาที่ตึกใหญ เจาหนุม รูปหลอทัง้ สีค่ นตางประนมมือไหวคณ ุ หญิง แววและมารศรีอยางนอบนอม “สวัสดีครับคุณยาแพรก” เสี่ยตี๋กลาวทักอยางยิ้มแยม คุณหญิงแววสะดุงโหยง “ฉันชือ่ แววยะไมไดชอ่ื แพรก” สมนึกตรงเขามากมลงกอดทาน “อภัยใหผมเถอะครับ วันนี้ผมเบิกบานสําราญใจ ดีใจ ปลื้มใจ ภูมิใจ กระหยิ่มใจ อิ่มใจ และชื่นใจ อยางที่สุดเชียวครับที่พวกเราจะไดหมั้นกับนอง ๆ ทั้งสี่คน” คุณหญิงแววยิม้ ออกมาได “แตพวกเธอมาหมัน้ ผูห ญิงทําราวกับวามาชวยงานบวชนาคหรือมาทอดผาปา” นพพูดเสริมขึ้น “เราหัวอเมริกันครับ เราไมชอบพิธรี ตี องทีเ่ ครงเครียดครึกครืน้ รืน่ เริงกันอยางนีแ้ หละครับดี ทีแรกผม ตั้งใจจะหาหัวโตและเถิดเทิงมาดวยแตหาไมทนั ก็เลยไดดนตรีชาโดเฮงซวยมาวงหนึง่ อา—คุณยาฟงเดี่ยวกีตาสัก เพลงไหมละครับ ผมจะใหแฟนตาโชติดดี ใหฟง ” คุณหญิงแววกลืนนําลายเอื ้ อ๊ ก “ไมตอง ๆ เชิญทุกคนเขาไปในหองโถงเถอะ พิธหี มัน้ จะเริม่ ตนในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกาตรงตามฤกษ เหลือเวลาอีกเล็กนอยเทานั้น” ดํารงรองขึน้ ดัง ๆ “เฮย—แหวนหมั้นของกันหายเสียแลว…..” นพมหาบัณฑิตสถาปตยกรรมศาสตร สงกลองกํามะหยี่อันสวยงามใหศาสตราจารยดารงแต ํ โดยดี “เอา—กันเก็บไดเมื่อกี้น”ี้ ดํารงลืมตาโพลง “เก็บไดบนรถหรือ” “เปลา เก็บไดในกระเปากางเกงของแก” นิกรเอ็ดตะโรขึน้ ทันที “เสียนิสัยอายนพ ริอา นมือไวใจเร็วเหมือนพอ ฉันไมเคยสั่งสอนแกเลย”


เจาคุณปจจนึก ฯ ตะครุบมือนิกรซึ่งอยูในกระเปาเสื้อสากลขางซายของทานแลวเอ็ดตะโรลั่น “แกดาลูกแตแกลวงกระเปาฉัน” นิกรหัวเราะ “ผมหาไฟแช็คจุดบุหรีค่ รับ” “ก็ไหงเสือกมาหาในกระเปาฉันละ” “ผมนึกวากระเปาผมครับ ยืนเบียดกันผมไมทันสังเกต” คุณหญิงแววกับมารศรีตา งจําใจทักทายเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนดวยใบหนายิ้มแยมแจมใสทั้ง ๆ ที่ไม พอใจที่ พนัส นพ สมนึกและดํารงสวมใสวิคปลอมและแตงกายแบบจิ๊กโกนิยม ตอจากนั้นสองแมลูกก็พาทุกคน เขาไปในหองโถงชั้นลางของตัวตึก ซึ่งบัดนี้ไดจัดเปนหองประกอบพิธีหมั้น บรรดาแขกผูม เี กียรตินง่ั เรียงรายอยู บนเกาอี้เหล็กประมาณ ๓๐ คน พวกจิ๊กโกทั้งหลายตางเฮโลนั่งรวมกลุมกันบนพรมปูพื้น จันทิมา จันทนา จันทนกะพอ และจันทรจรัส สี่ใบเถาของมารศรีซึ่งเปนหลานยายของคุณหญิงแวว นัง่ พับเพียบเรียบรอยอยูบนตั่งเทาสิงหขนาดใหญดานสุดของหองโถง สี่สาวแตงวันพีชชุดสีตองออนเหมือนกัน สวมสรอยคอไขมุกแบบเดียวกัน ขอมือขางขวาสวมสรอยเพชรแตราคาไมเกินหมืน่ บาทเหมือน ๆ กัน แตละคน แฉลมแชมชอยหนาตาคลายกัน จันทิมาหรือใหญอายุ ๒๓ ปจะหมั้นกับพนัส จันทนาหรือกลางอายุ ๒๒ ปจะ หมั้นกับนพ จันทนกะพอหรือเล็กอายุ ๒๑ ป จะหมั้นกับสมนึกและจันทรจรัสหรือจิ๋วอายุ ๒๐ ป จะหมั้นกับ ศาสตราจารยดํารง คุณหญิงวาดพาเจาหนุม รูปหลอทัง้ ๔ คน ไปนั่งรวมกลุมกับสี่ใบเถาบนตั่งนั้น คุณหญิงแววตามมาดวย และจัดใหนั่งคูใครคูมัน สี่สาวตางประนมมือไหวสี่หนุมอยางนอบนอม ถึงแมจะรังเกียจที่คูหมั้นแตงกายแบบจิ๊ก โกนิยม และพาเพื่อนจิ๊กโกมาเต็มบานแตสี่สาวตางก็ซอนความไมพอใจไวเพราะหวังผลคือความสุขอันลนพน ในวันขางหนา เสี่ยตี๋มองดูหนาคูหมั้นของเขา แลวกลาวถามคุณหญิงวาด “คนนี้หรือครับของผม” คุณหญิงวาดยิ้มแปน “ใช จันทนกะพอหรือแมเล็ก” “อาว ไหนวาชือ่ จันทรขเ้ี ฟยะ” คุณหญิงวาดยกมือขวาเขกกบาลเสี่ยตี๋คอนขางแรง “นี่แนะ คนตวักตะบวยที่ไหนวะชื่อจันทรขี้เฟยะ” นพรองขึน้ ดัง ๆ “คุณยา ของผมหนาเตาหูย ค้ี นนีช้ อ่ื อะไรครับ จันทรลั่นปอใชไหม” คุณหญิงวาดหันมาทําตาเขียวกับลูกชายนิกร “เขาสวยยังกะอาภัสราดันพูดออกมาไดวาหนาเตาหูยี้ แกนะซีหนาเตาหูยี้ คูหมั้นของแกชื่อจันทนา หรือแมกลาง” นพยักคิ้วใหสาวสวย


“หมั้นกันแลวพี่จะพาเธอไปไหวพระบาทเดือนสาม” จันทนาเริ่มเกลียดขี้หนานพแลว หลอนนั่งนิ่งเฉยไมยอมพูดอะไร ตอนนี้เองพนัสไดกระซิบถาม คู หมัน้ ของเขา “สวนสัดของเธอเทาไหรจะ ใหญ” จันทิมาตอบหวน ๆ “สามสิบหา…..ยี่สิบสอง…..สามสิบสี”่ “ถายังงั้นพี่จะสงเธอเขาประกวดนางสาวไทยปนี้เสียกอนที่งานวชิราวุธานุสรณ แลวหลังจากนั้นเรา คอยแตงงานกัน” ดํารงกลาวถามคูหมั้นของเขาบาง “เปนอะไรไปจะจิ๋วไมใครจะยิ้มแยมเลย” “เปลาคะ ไมไดเปนอะไรหรอกคะ” “ทองผูกหรือเปลา” “ไมคะ” “เมื่อเชาสวมแลว……” จันทรจรัสอายมวนตวน คุณหญิงวาดกับคุณหญิงแววชวยกันจัดใหหนุม สาวนัง่ คูก นั รวม ๔ คู ตอจาก นั้นคุณหญิงแววก็เดินเขาไปหาเจาคุณปจจนึก ฯ แลวประนมมือไหวทา นเจาคุณอยางนอบนอม “คุณพี่ชวยกรุณาประกาศหมั้นหนอยซีคะ ไมโครโฟนอยูร มิ ประตูนน่ั แหละคะ ประกาศใหแขกทราบ โดยทั่วกันกอนที่จะสวมแหวนหมั้น” เจาคุณปจจนึก ฯ เดินผานหองโถงตรงไปหยุดยืนเบือ้ งหนาไมโครโฟน ซึง่ เจาหนาทีเ่ ปดเครือ่ งและ เปดสวิทชไมโครโฟนติดตอกับลําโพงกระจายเสียงไวเรียบรอยแลว เจาคุณกมศีรษะอันลานเลี่ยนเปนมันแผล็บ โคงคํานับบรรดาแขกผูมีเกียรติแลวทานก็พูดไมโครโฟนเสียงกังวาน “สวัสดีครับทานผูมีเกียรติและไรเกียรติทั้งหลาย พิธหี มัน้ อันมีเกียรติของเราจะไดเริม่ ตน ณ บัดนี้ คูที่ หนึ่งฝายแดง เอย……ขอโทษครับ คูท ห่ี นึง่ ฝายชายคือรอยตรีพนัส พัชราภรณ ฝายหญิงคือนางสาว จันทิมา จุลภาค คูท ส่ี องรอยตรีนพ การุณวงศ กับนางสาวจันทนา จุลภาค” ลูกชายของนิกรชูมือทั้งสองประสานกันเหนือศีรษะ พวกจิก๊ โกตา งตบมือโหรอ งกันเกรียวกราว พวก ญาติมิตรของเจาสาวทําหนาเหยเกไปตามกัน คุณหญิงวาดปราดเขามายกมือเทาสะเอวเลนงานนพ “นี่พิธีหมั้นนะโวยไมใชการชกมวยที่ราชดําเนินหรือลุมพินี ชูมือชูไมขึ้นมาทําไม” “โธ—คุณยาก็ ยัวะซะเรื่อยเชียว เมื่อคุณตาประกาศชื่อผมผมก็ตองชูมือบอกใหแขกเขารูซีครับวาผมคือ รอยตรีนพ หลานชายสุดที่รักของคุณยา” เจาคุณปจจนึก ฯ ประกาศตอไป “คูท่ีสามเปนมวยแกมอื ระหวาง…..เอย…..ประทานโทษ แหม—อายนพทําเละหมด คูที่สามฝายชาย คือรอยตรีสมนึก ไทยแท และฝายหญิงคือนางสาวจันทนกะพอ จุลภาค” เสี่ยตี๋รองตะโกนไปทางกลุมจิ๊กโก


“ตบมือใหกนั หนอยโวยพวกเรา” เสียงตบมือกระทืบเทาและเสียงเปาปากดังขึ้นลั่นหองโถง ญาติผูใหญทางสามีของมารศรีบางคนทน นั่งอยูตอไปไมไดก็พรวดพราดลุกขึ้นเดินออกไปจากหองโถงเพื่อกลับบานดวยความเกลียดชังบรรดาโกทั้งหลาย ซึ่งแตละคนหนาตาแสยะนั่งเหยียดเทาหรือนั่งขัดสมาธิอยูเต็มหอง บางคนก็นอนควําใช ่ มือยันคางไว ที่มีบุหรี่ก็ แยงกันสูบ เจาคุณปจจนึก ฯ ประกาศตอไป “คูสุดทายคือศาสตราจารยรอ ยตรีดํารง ณรงคฤทธิ์ สวนฝายหญิงคือนางสาวจันทรจรัส จุลภาค พิธี หมั้นอันมีเกียรติจะไดเริ่มตน ณ บัดนี้ ซึ่งฝายชายจะสวมแหวนหมั้นใหคูหมั้นของตนตอหนาทานผูมีเกียรติทั้ง หลาย กรุณาแข็งใจอดทนดูพธิ หี มัน้ ใหตลอดหนอยนะครับ เพือ่ น ๆ ของฝายผูช ายโปรดมีกิรยิ ามารยาทสักนิด อยาใหพวกแขกคิดวาเปนพวกปลนหรือพวกโจรหารอย” พนัสลวงกระเปาหยิบกลองแหวนเพชรออกมาเปดออกแลวหยิบแหวนเพชร ๘ กะรัตซึ่งเปนเพชรลูก เม็ดเดียวราคารวมแสนออกมาสวมนิ้วนางมือซายจันทิมาคูหมั้นของเขาดวยการกระทําอยางกระแทกกระทั้น บอกใหรูว า เขาไมเต็มใจหมัน้ กับหลอน ตอจากนัน้ นพก็ยน่ื แหวนเพชรลูกวงหนึง่ ใหจันทนา “เอา—สวมเอาเอง” จันทนาคอนขวับ “มีอยางหรือคะจะใหกลางสวมแหวนหมั้นเอง พี่นพตองสวมใหซีคะ” ลูกชายของนิกรความือซายของหลอนชูขึ้นแลวสวมแหวนหมั้นลงบนนิ้วหัวแมมือของหลอนจึงสวม ไมเขา เขาเงยหนาขึน้ มองดูคณ ุ หญิงวาดซึง่ ยืนคูอ ยูก บั คุณหญิงแววเบือ้ งหนาของเขาแลวยิม้ แหง ๆ “นิ้วเจาสาวโตไปครับ คุณยาเปนคนมาวัดนิว้ ไหงวัดผิดขนาด” คุณหญิงวาดกลืนนําลายเอื ้ อ๊ ก “โธ—อายจอกกระร็อก แกกับพอแกไมผิดกันเลยยั่วเยากระเซาปอดเกงที่สุด แหวนหมั้นนะเขาสวมนิ้ว นางโวยไมไดสวมนิ้วหัวแมมือ” “อาว—ก็ผมไมรูนี่ครับเกิดมาจากทองแมก็พึ่งเคยหมั้นผูหญิงวันนี้ อยาถือโทษโกรธเคืองพี่เลยนะ จันทรกระเทาะ” จันทนาทําหนางอเหมือนมาหมากรุก “จันทนาคะพี่นพไมใชจันทรกระเทาะ” นพยิ้มละไมจั ดแจงสวมแหวนหมั้นใหจันทนาซึ่ งตอนนี้ชางภาพซึ่งเปนพรรคพวกของมารศรีได บันทึกภาพไวดวยกลองถายรูปยี่หอชั้นดี ตอจากนั้นคุณหญิงวาดก็หันมาพยักหนากับสมนึก “เอาซีพอนึก สวมแหวนหมัน้ ใหคหู มัน้ ของเจา” “สวมเสร็จแลวจูบนะครับ” “อุยตาย” คุณหญิงแววรองลัน่ “เราเปนคนไทยไมใชฝรั่งทําแบบฝรัง่ จะดีหรือจะพอนึก” “ดีครับคุณยา แขกที่มาในงานนี้จะไดเปนพยานวาผมรักจันทนกะพอมาก และการหมั้นนี้ผมเต็มใจ และพอใจที่สุด”


คุณหญิงแววมองดูหลานสาวคนที่สามของทาน “วายังไงแมเล็ก พอนึกเขาจะจูบเจาเมือ่ สวมแหวนแลว” จันทนกะพอมีทาทางสะเทิ้นอาย “ถาหนาดานจูบเล็กตอหนาใคร ๆ ไดก็ตามใจเถอะคะ” สมนึกจัดแจงสวมแหวนหมั้นใหหลอนทันทีแลวดึงตัวจันทนกะพอเขามากอด กมลงจูบริมฝปาก จันทนกะพออยางดูดดืม่ ชางภาพรีบบันทึกภาพไวทันที เสี่ยตี๋จูบหลอนไดเพียงสองสามวินาทีก็เงยหนาขึ้นแลว เอ็ดตะโรลัน่ “ฮี้ เมื่อเชาคงกินตนหอมละซี เหม็นใหหง่ึ ” จันทนกะพอโกรธจนตัวสัน่ “บา—คนบาอะไรก็ไมรูไมมีมารยาท” “อาว วาบาเดีย๋ วจูบเสียอีกหรอก เธอเปนคูหมั้นของพี่แลวนะจะบอกให เราอาจจะแตงงานกันในเร็ว วันนีก้ ไ็ ด” ศาสตราจารยดํ ารงความือจันทรจรัสมากุมไวแลวสวมแหวนหมั้นใหหลอนซึ่งเปนแหวนเพชรลูก ขนาด ๘ กะรัตเชนเดียวกับของเพื่อน ๆ ตอจากนั้นเขาก็กมลงจูบหลอนเบา ๆ “อือ เวอรี่เวล ปากเธอหอมเหมือนขาวคัว่ ออไร” การหมั้นสิ้นสุดลงดวยความไมพอใจของญาติผูใหญทางฝายคุณหญิงแววและฝายสามีของชัชวาล แต คณะพรรคสี่สหายกับสี่นางและเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนตางพอใจอยางยิ่ง นพรองบอกพวกจิ๊กโกที่นั่งเรียงรายอยู บนพื้น “เฮ—ลุกขึ้นบรรเลงเพลงมหาฤกษหรือมหาชัยสักหนอยเถอะวะ” เจาหนุมรางใหญไวผมเปนกระเซิงเจาของนามแฟนตาโชติ ซึ่งเปนหัวหนาวงดนตรีชาโดกลาวกับนพ วา “เอาเพลงผูใหญลีจังหวะวาตูซี่แทนเถอะครับ มหาฤกษกับมหาชัยมีผมเลนไดคนเดียวเทานั้น เอาโวย พวกเราลุกขึ้นบรรเลงเพลงหนอย” นักดนตรีจ๊ิกโกรวม ๖ คนตางลุกขึ้นยืนแลวบรรเลงเพลงทันที จิ๊กโกโชติเปนคนรองและดีดกีตา แบบกี ตาฮาไวคลอไปดวย พวกญาติของฝายหญิงหลายคนตางรูสึกผะอืดผะอมคอย ๆ ลุกขึ้นเลี่ยงออกไปจากหองโถง มารดาของชัชวาลคือแมผัวของมารศรีถึงกับพยักพเยิดเรียกคุณหญิงแววออกไปพูดทางหลังตึกขณะที่ดนตรีวงชา โดเฮงซวยกําลังบรรเลงเพลงอันนาอิดหนาระอาใจเพราะนักดนตรีเลนไมเปนมิหนําซํ้ายังทําแอนหนาแอนหลัง อีกดวยโดยนึกวาเก “ดิฉันรูสึกยังไงเสียแลวละคะ คุณหญิง” คุณหญิงเนื่องกลาวกับคุณหญิงแววดวยสีหนาเครงเครียด “หลาน ๆ ของคุณหญิงวาดนะแตละคนทาทางมันจิ๊กโกเรานีเ่ อง เหมือนลูกลิงลูกคางที่ไหนก็ไมรู ขืนแตงงานกับ แมสค่ี นนีจ่ ะอยูก นั ยืดหรือคะ” “ไมเปนไรคะ พีเ่ นือ่ ง พีว่ าดแกเปนเพือ่ นรักกับดิฉนั แกคงไมยอมใหพอสี่คนนั่นทิ้งขวางหลานของเรา หรอก”


“โอย ฉันคาดผิดถนัด นึกวาคงจะสุภาพเรียบรอยสงบเสงี่ยมขี้อายตามแบบลูกผูดี ที่แทยังกะลิงทโมน ยังไงยังงั้น ตานพกับตาสมนึกนะรูสึกวาลิงเราดี ๆ นีเ่ อง คุณหญิงตองพูดกําชับคุณหญิงวาดเขาไวบางนะคะ” “คะ คะ พีเ่ นือ่ งไมตอ งวิตก” คุณหญิงเนือ่ งยิม้ ออกมาได “แลวเรือ่ งเงินทองเรียบรอยแลวหรือคะ” “คะ พี่วาดเขามอบใหดฉิ นั เรียบรอยแลว เขาจายเช็คเงินสดใหสองแสนคะ แลวก็ใบสัญญาจํานองบาน และที่ดินที่ดิฉันจํานองเขาไวเปนเงินสองแสน พี่วาดเขาไมคิดดอกเบี้ยหรอกคะถึงแมวาในหนังสือสัญญาทําไว คิดดอกเบี้ยรอยละหนึ่ง ดิฉันมอบเงินสดใหแมศรีแลวนะคะบอกพี่เนื่องใหทราบเสียดวย ทุกสิ่งทุกอยางเปนไป ตามที่เราตกลงกัน แมศรีบอกวาจะใหเงินพี่เนื่องสองแสนบาท” คุณหญิงเนือ่ งยิม้ เศรา ๆ “ก็พูดกันไวอยางนั้น ตอนนีด้ ฉิ นั แยเหมือนคุณหญิงแหละคะ ถาแมพวกหลาน ๆ ไดแตงงานกับหลาน ชายของคุณหญิงวาดเมือ่ ไรเราก็คงจะสบายขึน้ ” “คะ เขาไปขางในเถอะคะพี่เนื่อง ออกมาคุยกันอยางนี้พวกพี่วาดเขาจะสงสัย แตละคนรูสึกวาเค็มไม ใชเลนนะคะ แตพี่วาดนะแกสนับสนุนเต็มที่ที่จะใหหลานชายของแกแตงงานกับหลานสาวของเรา” ดนตรีวงชาโดจบเพลงแลว คุณหญิงแววพาคุณหญิงเนื่องผูเปนยาของสี่ใบเถากลับเขามาในหองโถง ตอจากนั้นบรรดาแขกผูมีเกียรติตางก็พากันแสดงความยินดีตอคูหมั้นทั้งสี่คูและแลวก็ยอย ๆ กันลา กลับ ไมมี แขกคนใดทางฝายผูหญิงยอมรับประทานอาหารกลางวันตามที่คุณหญิงแววและมารศรีเชิญไวทั้งนี้ก็เพราะ เกลียดพวกจิ๊กโกที่เจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนพามานั่นเอง โดยเฉพาะสี่ใบเถาหรือสี่สาวไดแสดงกิริยาดูหมิ่นเหยียด หยามจนออกนอกหนา ตอนเทีย่ งวันนัน้ เอง การรับประทานอาหารกลางวันแบบอาหารไทยทีเ่ รือนตนไมกเ็ ปนไปอยางเอะอะเอ็ดตะโรของพวกจิก๊ โก โตะสี่เหลี่ยมยาวรวม ๒ โตะพวกจิ๊กโกนั่งรวมกันและกินกันอยูอยางมูมมาม พนัส นพ สมนึก และดํารง นัง่ รวมโตะกับคูหมั้นของเขา สี่สหายกับเจาคุณปจจนึก ฯ นัง่ อยูโ ตะหนึง่ คุณหญิงวาดกับคุณหญิงแวว คุณหญิง เนื่องและมารศรีกับสุภาพบุรุษผูสูงอายุอีก ๒ คนซึง่ เปนญาติของคุณหญิงแววนัง่ อยูอ กี โตะหนึง่ เมื่อพวกจิ๊กโกสงเสียงเจี๊ยวจาวมากเกินไปนพก็ยกมือเปาปากเปยวและรองเอะอะเอ็ดตะโร “เงียบ ๆ หนอยโวย โอโฮ….คุยกันยังกะแขก ๕๐๐ คนทะเลาะกัน เกรงใจผูใหญทานบางซี” คราวนี้พวกจิ๊กโกตางเงียบกริบแตก็มีการมองดูหนากันและยิ้มใหกัน คุณหญิงแววมองดูเจาหนุมรูป หลอทั้งสี่คนและหลานสาวของทานซึ่งนั่งอยูโตะหางจากทานเพียงเล็กนอยแลวทานก็กลาววา “ทําไมไมคุยกับนอง ๆ บางละจะ” พนัสตอบแทนเพือ่ น ๆ ของเขา “เรากําลังปลื้มใจครับคุณยาที่เรามีโชคดีไดหมั้นกับสาวสวยหลานของคุณยา ซึ่งเปนลูกสาวของคุณนา ศรีเปรียบเหมือนกับญาติของเรา” มารศรีพดู เสริมขึน้ ทันที


“เธอพูดอยางนี้นาชื่นใจมาก คุณยาของเธอกับคุณแมของนานะทานเปนเพือ่ นกันมาตัง้ แตเด็ก ๆ คุณ พอของพวกเธอก็รักใครชอบพอกับคุณพอของแมสี่คนนั่นมานานแลว เราเหมือนกับญาติกนั จริง ๆ ถึงแมวาไม ใครจะมีการไปมาหาสูกันก็ตาม” เสี่ยตี๋ยกมือขวาชูขึ้น “ขออนุญาตครับคุณนา” มารศรีหวั เราะ “เธอจะพูดอะไรก็พูดสิจะสมนึกทําไมจะตองขออนุญาตดวยหรือติดนิสยั ทหาร” “ครับ ทหารกอนพูดตองขออนุญาตกอน อา—คุณนาครับ เดี๋ยวนี้ลูกสาวของคุณนาทั้งสี่คนก็เปน คู หมั้นของเราโดยถูกตองตามประเพณีนยิ มแลว” “ก็ยังงั้นนะซีจะ แลวยังไง” เสี่ยตี๋ยิ้มอาย ๆ ยกนิ้วชี้มือซายใสปากกัดแลวแกวงแขนซายไปมา “ผมอยากจะเรียนถามคุณนาวาถาพวกผมจะมาหาคูหมั้นของผมบาง คุณนาและคุณยาจะขัดของไหม ครับ” คุณหญิงแววหัวเราะเสียงกังวาน “ถามในเรือ่ งทีไ่ มควรถาม ตามปรกติกอ นจะหมัน้ กัน “ทับเทวัญ” ก็เปดประตูตอนรับพวกเธออยูเสมอ แลวแตพวกเธอไมมาเอง ขณะนี้พวกเธอเปนคูหมั้นกับหลานสาวของยาแลวจะไปมาหาสูกันเมื่อไร ก็ไดไมมีใคร หวงหามหรอก หรือจะมารับไปเทีย่ วไหนก็ไดเปนคูห มัน้ กันใครเขาจะนินทาวาราย” เสี่ยตี๋หันมายิ้มใหคูหมั้นของเขา “ไดยินไหมเล็ก คุณยากับคุณนาศรีไมขัดของอะไร พี่กับเพื่อน ๆ จะมารับพวกเธอไปเที่ยวนะจะ” “ขอบคุณคะ แตวา โปรดอยาใหเพือ่ น ๆ จิ๊กโกของพี่นึกติดตามไปหรือรวมเที่ยวกับเราเลยนะคะ” “เธอไมชอบจิ๊กโกหรือจะ” สมนึกถามและทําเสียงแหลมเล็กขึ้นนาสิก “คะ กุยออกจะตายไป ดูซีคะ รับประทานกันมูมมามไมมีกิริยามารยาท” นพพูดเสริมขึ้น “แตมันไมใชความผิดของเขาหรอกเล็ก เพราะเขาเกิดมาในทามกลางความยากจน เขาไมไดรับการ ศึกษาหรือเคยเลาเรียนมาเพียงเล็กนอย ไมมีใครอบรมสั่งสอนเขามารยาทของเขาจึงเปนอยางนี”้ จันทนากลาวกับลูกชายของนิกรทันที “แลวพี่นพคบกับคนพวกนี้ทาไมคะ” ํ “อาว” นพอุทาน “จําเรือ่ งหนูกบั ราชสีหไ มไดหรือกลาง กลางเปนเด็กชั้นประถมก็เคยเรียนนิทานอีสป มาแลว หนูเปนสัตวเล็ก ๆ ไมมีความหมายอะไรยังชวยชีวิตราชสีหไวได พวกจิ๊กโกเหลานีเ้ ปนเพือ่ นทีด่ ขี องพีท่ ง้ั นั้น ใชใหชกหนาใครตีกบาลใครหรือใชใหเอาระเบิดขวดขวางใสใครก็ได ใชใหเอามีดหรือเหล็กขูดชาปจิ้ม สะดือใครเขาก็ทาให ํ ทันที คบพวกผูดีแปดสาแหรกไดประโยชนอะไรเหยียบขี้ไกไมฝอ กรีดกรายสํารวยหนักไม เอาเบาไมสูอยางที่เรียกวาเจี๊ยะอายบูถายยา” พนัสมองดูนพอยางขบขัน


“อะไรของแกวะเจี๊ยะอายบูถายยา” นพหันไปยิ้มใหลูกชายของพลซึ่งเปนทั้งเพื่อนและญาติสนิทของเขา “ภาษาจีนปนไทยโวย เจี๊ยะแปลวากิน อายแปลวาเอา ถาเชิญเจี๊ยะละกออายคือตกลง ถามาตามไปบูคือ ตีกับใครก็บอกเพื่อนวาไมมีแรงพึ่งถายยา เรื่องมันเปนอยางนี้เขาถึงวาเจี๊ยะอายบูถายยาจําไวเถอะเพือ่ นอยางนีค้ บ ไมได มันตองเจี๊ยะอายบูฮอ หรือยังไงอายตี”๋ สี่สาวตางอึดอัดใจไปตามกัน หลอนรูสึกตะขิดตะขวงใจที่ไดยินคูหมั้นของหลอนพูดคุยกันแบบมึงมา พาโวยเชนนี้ เพราะหลอนเปนผูด มี ากเกินไปนัน่ เอง ไดยินคําพูดที่ไมเพราะหูสักนิดก็เขาใจวาหยาบคายหรือเปน คําพูดของคนชั้นตํ่า อยางไรก็ตามเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนตางก็หวังกันวาจะตองทําตัวใหสี่ใบเถามีความชิงชัง ในตนจนกระทั่งขอคืนหมั้นจะไดหมดพันธะที่จะตองแตงงานกับหลอน ตอนสายวันอังคารตอมา คือหลังจากที่หมั้นกันไดสองวันและหนังสือพิมพหลายฉบับไดลงขาวการ หมั้นนีอ้ ยางครึกโครม พนัส นพ สมนึก และดํารง ในเครื่องแตงกายแบบจิ๊กโกนิยมแตไมไดใสผมปลอมไดพากันมาที่บาน “ทับเทวัญ” โดยรถแท็กซี่คันหนึ่งดวยแผนการที่จะทําใหสี่ใบเถาเกลียดชังพวกเขานั่นเอง เจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนมาถึงบาน “ทับเทวัญ” ในเวลา ๑๐.๓๐ น. ซึ่งคุณหญิงแววกับมารศรีและสี่ใบ เถาไดใหการตอนรับอยางดีที่สุด “ไมไดเอารถมาหรอกหรือหลานชาย” คุณหญิงแววกลาวทักเหมือนอยางลูกหลานของทาน พนัสตอบแทนเพือ่ น ๆ “รถไมวางครับ พอกับอาเอาไปใชคันหนึ่ง คุณยาไปซื้อของเอาไปอีกคัน แมกับนานวลเอาไปอีกคันไป จายของที่ประตูนาํ้ นาไพไปเยี่ยมเพื่อนที่ศิริราชเอาไปอีกคัน รถปอนเตี๊ยคของพวกเราหามลอมันไมดีครับสงไป ใหอูเขาตั้งใหใหมเลยตองมารถแท็กซี่” นพวา “เราจะมารับนอง ๆ ไปทานอาหารกลางวันและไปดูหนังรอบบายสองโมงครับคุณยา” “งั้นเรอะ ก็ไปซี ทีจ่ ริงนาจะโทรมาบอกใหแมสค่ี นนีเ่ ขารูต วั เสียกอน” มารศรีกลาวกับลูกสาวของหลอนทันที “ขึ้นไปอาบนํ้ าแตงตัวซีลูก แมกับคุณยายจะคุยกับพอนัสพอนพพอนึกและพอดํารงไปพลาง ๆ ดี เหมือนกัน นานแลวไมไดคุยกัน” เจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนซึ่งอยูในบทบาทจิ๊กโก ไดนั่งสนทนาอยูกับคุณหญิงแววและมารศรีเกือบ ชั่ว โมงภายในหองรับแขกสี่ใบเถาก็ปรากฏตัวขึ้น จันทิมา จันทนา จันทนกะพอ และจันทรจรัส ตางอยูในชุดเสื้อ กระโปรงวันพีชตาหมากรุกสีฟาสลับชมพูเสื้อคอปกแบบกลางวัน ทําผมผัดหนาทาปากเขียนคิ้วงามแฉลมใสนํ้า หอมฝรั่งเศสราคาแพงหอมฟุง สวมรองเทาซนสูงหัวแหลมเปยบสีนํ้ าตาล ถือกระเปาเงินแบบทันสมัยใบ กะทัดรัดสีฟาและสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางมือซายเหมือน ๆ กัน คือแหวนหมัน้ นัน่ เอง “วา” เสีย่ ตี๋รองเอ็ดตะโรลัน่ หอง “แตงตัวกันสวยอยางนีเ้ ชียวหรือแมคณ ุ ไปดูหนังนุงสะแล็คใสเสื้อ ธรรมดาก็ได”


“ตายแลวพอนึก” มารศรีรอ งขึน้ “ไปดูหนังนั่นแหละควรจะแตงตัวใหสวยงาม เพราะคนทีด่ หู นังชัน้ บน ๒๐ บาทนะลวนแตพวกผูดีชั้นสูงทั้งนั้น” “วู” นพอุทาน “คุณนานะเอะอะก็ผูดีชั้นสูงซะเรื่อย ผูดีชั้นสูงนะมันเปนยังไงครับ พวกทําปลองโรงสี หรือซอมพระเจดียซ อ มยอดภูเขาทองใชไหมครับ” “เด็กคนนี้นี่ชอบกลจริงเชียว” คุณหญิงแววพูดขัดขึน้ “ตัวเปนลูกผูดีมีสกุล ทั้งคุณปูและคุณตาก็เปนเจา คุณพานทอง ยาเล็กคือคุณหญิงวาด ก็เปนคุณหญิงรูสึกวาเธออยากเปนจิ๊กโกมากกวาเปนผูด”ี นพยิ้มใหและพูดเสียงลิ้นแบ ๆ “ใชครับ” คุณหญิงแววสะดุงโหยง “ทําเสียงประหลาดดี จะไปไหนกันก็ไปซีจะ แลวพานองมาสงบานกอนคํานะเธอ ่ มากินขาวที่บานยา ยากับนาศรีจะทําอาหารคําเลี ่ ้ยงพวกเธอเปนพิเศษ” เจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนพาสาวสวยสี่ใบเถาออกมานอกตึกลงบันไดไป จันทิมาพี่สาวคนโตกลาวกับ พนัสคูห มัน้ ของหลอนวา “เอารถเชฟของคุณยายไปใชกอนก็แลวกันนะคะพี่นัส วันนี้คุณยายกับคุณแมไมมีธุระไปไหนหรอก คะ เรานั่งรวมกันไปแปดคนก็คงจะเบียดกันหนอยแตก็ไปได” พนัสซอนยิ้มไวในหนา “อยาเลยใหญ พวกเราชอบเที่ยวกันอยางสบาย ๆ เอารถไปหาที่จอดรถก็ลาบาก” ํ จันทนาพูดเสริมขึน้ “ไปแท็กซี่ก็ตองไปสองคันซีคะ” นพพูดเสริมขึ้น “ไมจําเปนที่เราจะตองไปแท็กซี่ใหหมดเปลืองเงินหรอกจะกลาง ไปรถเมลดีกวา” สี่สาวหยุดชะงักพรอม ๆ กัน “ไปรถเมลหรือคะนี”่ จันทนกะพอรองเสียงลั่น นพหันมายิ้มใหหลอน “จะ ขึ้นรถเมลราคาเยาเบาสมองถึงชอบจอดก็ปลอดภัยไรโรคาพาใหสุขสมบูรณ” “แหม” จันทรจรัสของดํารงอุทาน “รถเมลเบียดเสียดเยียดยัดกันเต็มไปดวยพวกคนชั้นตํา่ จิ๋วและพี่ ๆ ไมเคยนัง่ รถเมลหรอกคะ ไปแท็กซี่เถอะนะคะพี่รง” “โน” ศาสตราจารยดํารงตวาด “หัดเปนขี้ขาเสียบางซีจะ อีกหนอยเราก็จะแตงงานกันแลว พวกพี่ถึงมี เงินก็จริงแตก็ทาตั ํ วงายเหมือนมนุษยเดินดินธรรมดา ผูด ขี ข้ี า มาครอกเทงทึงแลวก็เนาเหม็นเหมือนกันทัง้ นัน้ ” นพกลาวกับสี่สาวดวยใบหนายิ้มระรื่น “ไปรถเมลเถอะนองจา สายที่ผานหนาบานเธอเปนรถของพี่สายหนึ่ง ประเดี๋ยวเราขึ้นไปลงสี่แยกราช เทวี แลวตอรถเมลทน่ี น่ั ขึน้ ไปลงพาหุรดั หาขาวอรอย ๆ กินกันเสียกอนคอยดูหนังรอบบายสองโมง” จันทนกะพอพูดโพลงขึ้น


“เล็กไมไปไดไหมคะพี่นึก ขืนใหเล็กโหนรถเมลเล็กคงเปนลมแนเหม็นสาปพวกคนจนในรถเมลคะ” เสีย่ ตี๋แกลงมองดูหลอนอยางเคือง ๆ “หมายความวาเล็กรังเกียจที่จะรวมทางกับพี่ ซึ่งเปนคูหมั้นของเล็กยังงั้นหรือ อยาลืมวาถาเราแตงงาน กันเรารวมชีวิตกันเราจะตองเผชิญชีวิตกันแบบที่เรียกวา หนักเอาเบาสูน ะจะ แลวกัน…….โตเปนควายแลวหัด ขึ้นรถเมลเสียบางซี ไพรผูดีนะมันอยูที่ความประพฤติของคนไมไดอยูที่ฐานะศักดิ์ตระกูล” “แลวทําไมจะตองมาวาเล็กดวย” “ไมไดวา ชี้แจงใหฟง ไปนา……เทีย่ วกับพวกพีห่ นเดียวรับรองวาเข็ดจนตาย” “วายังไงนะคะ” จันทรจรัสถาม เสี่ยตี๋หันมายิ้มใหเถาเล็ก “พี่วาเทีย่ วกับพวกเราหนเดียวจะติดใจไปจนตาย” “เมื่อกี้พี่นึกไมไดพูดอยางนี้” “ก็ฟงใหมันเปนอยางนี้ซี หัดขึ้นรถเมลเสียบาง คนเราไมพน ชวด ฉลู ขาล เถาะ หรอกจิว๋ ยากดีมีจนมัน เปนของไมแนนอน อยางพี่เปนลูกมหาเศรษฐี อายนัส อายนพและดํารงก็เปนลูกเศรษฐี แตวนั ขางหนาอาจจะสิน้ เนื้อประดาตัวตองขอทานเขากินก็ได” นพรองเพลงขอทานขึ้นทันที “พญาฉัททันตรทา นมากลัน่ มาแกลง หักเอารังมดแดง….มายืน่ ให ไมโปไมปดมดมันกัดลิ้น ไมโปไม ํ าบ ลูกหูหนวก ปดเออเออเอิงเงยมดมันกัดลิ้น ใครเขาจะกินเอยได….เจาประคูน คุณพอคุณแมทาทานเถอะคะร ตาบอดงอยเปลี้ยเสียขาเดินไมไดทานใจศีลใจทานเมตตาลูกเถอะคะราบ ธนบัตรเกา ๆ ที่ไมใชใหทานลูกเถอะคะ ราบ” สี่สาวตางหัวเราะขึน้ พรอม ๆ กัน จันทิมาเถาใหญพูดพลางหัวเราะพลาง “พี่นพสุมเสียงเหมือนขอทานไมมีผิดเลยคะ” นพสะดุง เฮือก “เปนยังงั้นไป” เจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนพาสี่สาวคูหมั้นของเขาเดินผานถนนคอนกรีตออกไปจากบาน “ทับเทวัญ” ทามกลางแสงแดดอันรอนแรงในเวลา ๑๑.๓๐ น. ทุกคนขามฟากถนนเดินไปหยุดยืนรวมกลุมกันที่ปาย รถเมล ซึ่งเปนเสนทางของรถเมลหลายสายแลนมาจากมีนบุรีหรือดอนเมือง รถประจําทางคันหนึ่ง แลนมาหยุดที่ปายรับสงคนโดยสารแลวแลนไป จันทนามองดูนพอยาง เคือง ๆ แลวถามวา “รถวางพอมีที่นั่งผานไปคันหนึ่งแลวทําไมไมไปละคะ” ลูกชายของนิกรยิ้มใหหลอน “รอรถของพี่ดีกวาไมตองเสียสตางค แปดคนทุนเงินไดตั้งสี่บาท”


สี่ใบเถาตางมองดูหนากัน และนึกในใจวา นพกับพนัส สมนึกและดํารงคงจะขี้เหนียวอยางรายกาจแม กระทั่งคารถเมล ๔ บาทก็ยังเสียดาย คนเราเมือ่ เปนเพือ่ นเปนญาติรว มกินรวมเทีย่ วกันก็ตอ งมีนสิ ยั คลาย ๆ กัน” รถประจําทางผานมาอีกคันหนึ่งซึ่งเปนรถของบริษัทขนสง แตเมือ่ ไมมใี ครยกมือเปนสัญญาณใหหยุด คนขับรถก็ขับรถเลยไป หลังจากนั้นอีกสักครูรถเมลของบริษัท “การุณวงศ” ซึ่งเดินทางมาจาก สนามบินดอน เมืองก็ผานมา รถเมลสีดําเหลืองทีว่ ง่ิ ตามถนนก็คอื รถเมลของนิกรนัน่ เอง นพยิ้มใหสี่นางแลวกลาววา “รถของพี่มาแลวนั่นยังไง สีเขาทีไหมละ ดําตัดเหลือง มองเห็นแตไกล ยี่หอเบ็นซซะดวย” สี่ใบเถาหนางอไปตามกัน พนัสโบกมือเปนสัญญาณใหคนขับเบารถ พอรถหยุดสี่ใบเถากับเจาหนุมรูป หลอทั้งสี่คนก็ขน้ึ ไปบนรถอยางรีบรอน นพกาวขึ้นมาบนรถเปนคนสุดทายและหวุดหวิดจะตกรถ ลูกชายของนิกรเอ็ดตะโรเด็กกระเปาทันที “ทีหลังแหกตาดูคนโดยสารเสียกอนซีโวย คอยเปานกหวีด ผูโดยสารขึ้นรถยังไมเรียบรอยเลยเสือกเปา นกหวีดแลว” เด็กกระเปาซึ่งเปนเด็กเขาใหมทาทางเปนนักเลงเต็มตัวมองดูนพอยางเคือง ๆ “นี่มันรถเมลนะครับไมใชแท็กซี่ วองไวหนอยซีครับ อา—ขอคาโดยสาร” นพสั่นศีรษะ “ไมตองเก็บหรอก แปดคนรวมทัง้ อัว๊ ไมตอ งเก็บ” “อาว เบงอวดแฟนกับผมยังงี้กอเจอกระบอกตัว๋ ซีครับ” คนขับรถมองแลเห็นเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนในกระจกมองหลังแลว เขาจํานพลูกชายของผูอานวยการ ํ หรือเจาของบริษทั รถเมล “การุณวงศ” ไดดี และจํา พนัส สมนึกและดํารงไดดวยเพราะเคยไปที่บริษัทหลายครั้ง แลว “อายผิว มานี่ซ”ิ รถเมลคันนี้ไมมีคนยืนโหน และยังมีที่วางพอนั่งไดอีกสองสามคน เด็กกระเปาวัยรุนไดยินเสียงลูกพี่ เรียกก็รบี เดินปราดไปทางหนารถ “วายังไงครับลูกพี่ ถาผมถูกจับชวยประกันนะ ผมจะใสกับอายหนุมรูปหลอคนนั้น ขึน้ รถตัง้ แปดคน จะขึ้นฟรีบอกผมวาไมตองเก็บคาโดยสาร” “มึงกมหัวลงมานี่กูจะบอกลาภให” เจาผิวกมหนาลงไปชิดหนาคนรถวัยกลางคน “พี่จะใหผมตีกบาลดวยเหล็กงัดยางหรือยังไง” “เอาซีถามึงอยากเปนกรรมกรวางงาน นั่นแหละคุณนพลูกผูอานวยการ” ํ เจาผิวเย็นวาบไปหมดทั้งตัว “ยังงั้นหรือครับ” “เออ หนาตาก็คลายกัน อีกสามคนลูกเจานายเพื่อนคุณนิกร มึงนี่จะใหกูพลอยฉิบหายดวยแลวไหมละ ลูกตั้งสี่คนนะโวย เมียอีกสองแมยายสองพอตาหนึ่งไปขอโทษทานเสีย” เจาผิวใจเตนระทึกหนาถอดสีทันที เขาเดินกลับมาหานพซึ่งนั่งคูกับพนัสแลวยกมือไหวอยางนอบนอม


“ผมขอโทษครับคุณ” นพยิ้มให “ไมเปนไรนองชาย เคราะหดีที่ลื้อยังไมทันเอากระบอกตั๋วแพนกบาลอั๊ว เงิน ๔ บาทนะอั๊วไม เสียดาย หรอก แตนม่ี นั รถของอัว๊ อัว๊ จะจายใหกด็ ยู งั ไงอยู” ผูโดยสารที่นั่งอยูใกล ๆ ตางพากันมองดูนพเปนตาเดียว อยางไรก็ตามสี่ใบเถาถึงแมวาจะนั่งแยกกันแต ก็คอยโลงใจที่รถคันนี้ไมถึงกับเบียดเสียดเยียดยัดกัน เพราะเปนเวลาใกลเที่ยง แตถา เปนตอนเชาหรือหลังจาก โรงเรียนเลิกงานเลิกแลวรถเมลทุกคันก็เหมือนกับปลากระปอง หอยโหนกันจนหายใจไมออกเต็มไปดวยกลิ่น ตาง ๆ ปราศจากกลิ่นสะอาด ในชั่วโมงเดียวกันนั้นเอง เจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนก็พาคูหมั้นของเขามาลงรถประจําทางคือรถเมลขาว ที่หนาตึก ๗ ชั้นและขามฟากไปทางโรงภาพยนตรศาลาเฉลิมบุรี และเดินเรือ่ ยเปอ ยไปทางถนนซอยหนาโรง ภาพยนตรเท็กซัส พอถึงหนารานขาวตมกุยรานหนึ่งพนัสก็หยุดชะงักแลวกลาวกับเพื่อนเกลอของเขาวา “เที่ยงครึ่งแลว แวะกินขาวกันที่รานขาวตมนี้เถอะวะ” สี่ใบเถาสะดุงเฮือกไปตามกัน “พี่นัส” จันทิมากลาวกับลูกชายของพลซึ่งเปนคูหมั้นของหลอนดวยสีหนาที่แสดงความไมพอใจ “ราน ขาวตมกุยอยางนี้สกปรกออกจะตายไป ดูซีคะ อาหารสําเร็จรูปที่ใสถาดหรือใสจานไวไมมีอะไรปกปด คนทีน่ ง่ั กินอยูในรานก็ลว นแตพวกกรรมกรหรือคนชัน้ ตําทั ่ ้งนั้น” พนัสวา “แตวนั หนึง่ ๆ มีคนกินขาวที่รานนี้หลายรอยคนก็ไมปรากฏวา เปนอหิวาตหรือเปนโรคอะไร ตายเพราะกินอาหารเหลานี้ ถาใหญตง้ั รังเกียจคนจนทรรศนะของเราก็แตกตางกันแลวเราจะแตงงานอยูร ว มชีวติ กันไดอยางไร” เสี่ยตี๋กลาวกับคูหมั้นของเขา “ชาติท่ีจะเจริญเพราะประชาชนประหยัด กินขาวตมกุยดีกวาไปกินขนมจีบซาละเปาตามเหลา แปดคน อยางมากก็หาหกบาทเทานั้น พวกพี่เที่ยวกันแบบคนจนและกินกันงาย ๆ บางทีกวยเตี๋ยวชามเดียวแบงกันกินสี่ คน” นพกลาวกับคูหมั้นของเขาบาง “ประเทศชาติของเราจะเจริญกาวหนาไปไมไดก็เพราะพวกคนมีเงินที่เรียกตัววาผูดีหรือคนชั้นสูง เหยียดหยามคนจนวาเปนคนชั้นตํา่ ทําไมไมนึกบางวามนุษยเราที่เกิดมาตางก็มีความเปนคนเทา ๆ กัน ฝกตัวเสีย ใหมเถอะพวกนอง ๆ ทั้งสี่คน หัดกินขาวตมกุยเสียบางจะไดมีชีวิตชีวาขึ้น” จันทนาคอนลูกชายของนิกร “พวกพี่ ๆ ทานกันก็แลวกัน กลางกับพี่ใหญนองเล็กและนองจิ๋วจะเขาไปนั่งเปนเพื่อน” “แลวกัน” ดํารงแกลงพูดขึ้นดัง ๆ “อยางนี้จะเปนคูหมั้นกันไดอยางไร แมแตเพียงอาหารกลางวันก็ไม ยอมรับประทานดวยกัน” จันทรจรัสชักยัวะขึ้นมาบาง


“ก็นี่มันรานขาวตมกุย” “นึกวา “หอยเทียนเหลา” ก็แลวกัน เรากินขาวทีภ่ ตั ตาคารชัน้ ดี เรายังสั่งขาวตมมากินกับปลากุเลาทอด และผักกานาผัด นา…..กินนา เพื่อพี่เถอะจะไดมีความสุขความเจริญ” สี่สาวจําใจตองติดตามเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนเขาไปในรานขาวตมกุยสองคูหารานนั้นทามกลางเสียง จอกแจกจอแจของบรรดานักเลงกินขาวตมกุยทั้งหลาย สวนมากเปนกรรมกรชาวจีน ถาเปนคนไทยก็เปนพวกที่ ไมใครมีสตางคแตงกายซอมซอ จีนลูกจางในรานปราดเขามาตอนรับอยางพินอบพิเทา พาไปนั่งโตะกลมตัวใหญ ซึ่งนั่งไดถึง ๑๐ คน “ตองการอะไรบางครับเสีย่ ” ลูกจางหนุมพูดภาษาไทยกลาวถามสมนึกอยางชัดเจน “แกงจืดผัดยอดผัก สั่งไดนะครับ” เสี่ยตี๋พยักหนาใหนพ “แกสั่งดีกวา” ลูกชายของนิกรยิ้มแปน “สั่งมาใหเต็มโตะกินกันใหเต็มที่เลยนะ วันนี้เลี้ยงคูหมั้นเราเสียทีเถอะวะ อาหารกลางวันมือ้ นีค้ วรจะ สั่งเปนพิเศษ” ลูกจางรานขาวตมพูดเสริมขึน้ อยางนอบนอม “หัวปลาตมยําดีไหมครับ ปลาเฉาฮื้อสด ๆ” “ฮื้อ” นพอุทาน “มือชั้นอั๊วกินหัวปลาตมยําก็แยซีโวยนองชาย เอายังงี้ดีกวา อา—ฟงนะ เตาหูต ม เค็ม หนึ่งบาท หมูพะโลหนึ่งบาท กงไฉหนึ่งบาท กุงแหงยําหนึ่งบาท แลวก็จั้บไฉอีกบาท ขาวตม ๖ ชาม นํ้าแข็งไม ตองขอนํ้าเปลา” ลูกจางรานขาวตมเปลี่ยนสีหนาและทาทีทันที เขาเดินออกไปทางหนารานและบนพึมพํา “แตงตัวโก ๆ นึกวาเสี่ยที่แทก็พวกจิ้งเหลนหางกุดทั้งนั้น แปดคนสั่งกับขาว ๕ บาท ถุย…..” สี่ใบเถาซังกะตายรวมรับประทานอาหารกลางวัน คือขาวตมกุยกับเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คน แตกห็ ารู ไมวา พนัส นพ สมนึกและดํารงก็กนิ อยางฝดคอเต็มทน เพราะเกิดมาก็เพิ่งกินอาหารเลว ๆ อยางนี้ มิหนําซํ้าเอา ตะเกียบคีบคนละคําสองคําก็หมดแลว พนัสแกลงสั่งถั่วลิสงคั่วมากินอีกหนึ่งบาท แตสี่สาวไมยอมกิน เพราะ เกรงวาจะทําใหทองขึ้นหรือไลลมในทองออกมาขณะที่ดูหนัง ออกจากรานขาวตมกุย เจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนก็พาคูหมั้นของเขาขึ้นรถยนตประจําทางที่ถนนเยาว ราชไปลงที่พาหุรัดแลวเดินไปวังบูรพาเพือ่ ดูภาพยนตรรอบ ๑๔.๐๐ น. ทีโ่ รงภาพยนตรแหงหนึง่ ในยานวังบูรพา นัน้ จันทนกะพอรองอุธรณกบั เสีย่ ตี๋เบา ๆ “เล็กหิวนํ้าจังคะ นําที ้ ่รานขาวตมแกวมันสกปรกเลยไมกลาทาน มีเวลาอีก ๑๐ นาทีกวาหนังจะฉาย แวะทานไอสครีมกันคนละถวยดีไหมคะ” สมนึกสั่นศีรษะ


“อยาดีกวา แกวละ ๓ บาทแปดคนก็ ๒๔ บาทแลว เตี่ยเคยสอนพี่วาเซฟไวหนึ่งบาทเทากับวาหาได หนึ่งบาท” “ถายังงั้นเล็กเลี้ยงพวกพี่ ๆ ก็ไดคะ” จันทนกะพอพูดอยางโมโห “อาว อยากําแหงซี” เสี่ยตี๋ดุ “พี่เปนพี่และเปนคูหมั้นจะมาเลี้ยงพี่อยางไรกัน อยากินเลยนาเขาไปนั่งใน โรงหนังอากาศมันเย็นก็หายหิวนําไปเอง” ้ มาถึงหนาโรงภาพยนตรซึ่งรอบเที่ยงพึ่งหมดรอบไปเมื่อสักครูนี้ พนัสลวงกระเปากางเกงดานหลัง หยิบธนบัตรยอยออกมาปกหนึ่งนับธนบัตรใบละ ๒๐ บาทสงใหนพรวม ๓ ฉบับแลวพูดยิ้ม ๆ “แปดคนคนละ ๗ บาทรวม ๕๖ บาท เหลือ ๔ บาท ซื้อบุหรี่มาซองโวยแบงกันสูบในโรงหนัง” “แลวไมซื้อของขบเคี้ยวไปกินเลนบางรึ” นพแกลงถาม พนัสทําตาเขียว “ขบเคี้ยวอะไรกันละ พึ่งกินขาวตมมาหยก ๆ กินไมรูจักเวลํ่าเวลาทองเสียรูไหม” นพกลั้นหัวเราะแทบแย เขาเดินขามถนนตรงไปยังโรงภาพยนตรเพือ่ ซือ้ บัตรทีน่ ง่ั ราคา ๗ บาท สี่ใบ เถามองดูหนากันในทาทีอดิ หนาระอาใจหมดความสุข แลวจันทิมาก็กลาวถามพนัสเบา ๆ วา “พีน่ ัสจะใหใหญกบั นอง ๆ ดูหนังชั้นละ ๗ บาทหรือคะ” พนัสยิ้มแหง ๆ “แลวเปนไง” “ใหญกับนองไมเคยดูหรอกคะ เคยดู ๒๐ บาทชั้นบน ๗ บาทนัง่ หนาจอตองแหงนหนาดู แลวก็นั่ง ปะปนกับพวกกุยหรือคนชั้นตํ่า” “วา” พนัสคราง “อยาฟุมเฟอยนักซีเธอจา คนเราถาอยากเปนเศรษฐีก็ตอ งประหยัด เก็บเล็กผสมนอย ไมควรใชก็อยาใช” จันทนาพูดเสริมขึน้ “แตประหยัดแบบนี้ไมไหวคะ กลางอยากจะพูดเหลือเกินวาพวกพี่ทุกคนลวนแตขี้เหนียวกระดูกขัด มัน นึกไมถึงจริง ๆ คะ ขาวที่เขาลือกันแมแตคุณยายและคุณแมก็บอกวาพวกพี่ลวนแตสุรุยสุรายใชเงินอยางไม เสียดาย” พนัสวา “แตกอ นนีจ้ ริงเดีย๋ วนีไ้ มแลว” ดํารงเอียงหนากระซิบกระซาบกับสมนึกเบา ๆ “ตี๋โวย ดูหนัง ๗ บาทมันออกจะทารุณหนอยนะ กวาหนังเลิกก็ตาเหลดีไมดีก็คอเคล็ดเพราะตองนั่ง แหงนหนาตัง้ สองชัว่ โมง” “นัน่ นะซี กันไปตีตว๋ั เอง ดูขางบนดีกวา ขึ้นรถเมลยัดขาวตมกุยก็แสนที่จะทารุณแลว” ดํารงจุปากหาม “อยา—อยาทํ าลายแผนของเรา เราตองทําทุกอยางเพื่อใหสี่ใบเถาเห็นวาหลอนควรจะแตงงานกับ อายบาที่ไหนหรือแตงกับลิงยังดีกวาที่จะแตงงานกับเศรษฐีมหากระดูกอยางพวกเรา” “เออ—จริง ยังงั้นก็ตองทนดูหนังหนาจอ ดีเหมือนกันเกิดมาจากทองพอทองแมกพ็ ง่ึ เคยดูวนั นีแ้ หละ”


จันทนกะพอเดินเขามาหาสมนึกและดํารง “พี่นึกคะ ถาหากวาเพือ่ นฝูงหรือพีน่ อ งของเล็กแลเห็นเล็กกับพีน่ อ งดูหนังชัน้ ๗ บาทพวกเราจะเอา หนาไปไวที่ไหนคะ ลูกสาวเอกอัครราชทูตมีใครบางที่เขาดูหนังชั้นลาง” เสี่ยตี๋ซอนยิ้มไวในหนา “แตเมื่อลูกชายมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศไทยดูได ลูกสาวเอกอัครราชทูตซึง่ เปนคูห มัน้ ของ เขาก็ควรจะดูได พวกเราแตละคนไมใชยอยนะเล็ก อายนัสลูกชายพันเอกพิเศษหลานคุณหญิง อายนพก็ลูกพัน เอกพิเศษคงจะไดเปนจอมพลใน ๕๐ ปขางหนา ดํารงก็เปนลูกนายพลโท ศาสตราจารยผยู ง่ิ ใหญ นักวิทยาศาสตร คนสําคัญของโลก แลวจะเอายังไงดูชั้นลางชั้นบนมันก็มองเห็นหนังเหมือนกัน” พนัสพูดตัดบท “อายนพมาโนนแลว ไปเถอะ เขาไปนัง่ ในโรงไดแลว” สี่สาวทําหนางอไปตามกัน แตเพราะเกรงใจคูหมั้นและไมมีทางที่จะหลีกเลี่ยงไดก็จําใจตองดูหนังชัน้ ๗ บาทกับเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คน ชั่วเวลาไมถึง ๑๐ วัน จันทิมา จันทนา จันทนกะพอ และจันทรจรัสสี่ใบเถาธิดาเอกอัครราชทูตก็ตัดสิน ใจคืนหมั้นเพราะหมดอาลัยใยดีกับเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คน คุณหญิงแววพามารศรีผูเปนมารดาของสี่ใบเถามาที่บาน “พัชราภรณ” ในตอนสายวันอาทิตย และคุณ หญิงแววไดโทรศัพทแจงมาใหคุณหญิงวาดทราบลวงหนาที่ทานจะพามารศรีมาพบเพื่อคืนหมั้น พอทราบขาวทางโทรศัพทคุณหญิงวาดถึงกับตบอกผาง ทานไมอาจจะเขาใจไดที่เพื่อนเกาของทานขอ คืนหมั้นหลานสาวโดยไมยอมบอกเหตุผลอะไร คุณหญิงวาดเกิดอารมณยัวะขึ้นมาทันที ทานสั่งคณะพรรคสี่ สหายกับสี่นางและเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนไมใหไปไหน และขอรองเจาคุณปจจนึก ฯ ใหรอคอยตอนรับคุณ หญิงกับมารศรีดวย คุณหญิงวาดดาหลานชายทัง้ สีค่ นเอะอะเอ็ดตะโรหาวาทําตัวไมเหมาะไมควรฝายหญิงจึงขอ คืนหมัน้ อยางไรก็ตามสี่สหายกับสี่นางและเจาคุณปจจนึก ฯ ตางพอใจและดีใจไปตามกันเทาที่ฝายหญิงขอคืน หมั้น ทั้งนี้ก็เพราะทุกคนรังเกียจสี่ใบเถาที่เยอหยิ่งถือตัวจนเกินไป นอกจากนี้ทุกคนรูดีวาการที่มารศรีและคุณ หญิงแววรับหมั้นเจาหนุมสี่คนก็เพราะมองเห็นทางไกลนั่นเองซึ่งฐานะของคุณหญิงแววกําลังแยเต็มทน โดยรถเชฟโรเล็ทเกง คุณหญิงแววกับมารศรีไดมาถึงบาน “พัชราภรณ” ในเวลา ๙.๓๐ น. เศษ คุณหญิงวาดไดตอ นรับขับสูเ พือ่ นเกาของทานเปนอยางดี ทานออกมารับทีห่ นาตึกใหญเชิญสองแมลกู ขึ้นมาบนตึกเลยเขาไปในหองโถงซึ่งตามเวลาที่กลาวนี้คณะพรรคสี่สหายกับสี่นางและลูก ๆ ของหลอนพรอม ดวยเจาคุณปจจนึก ฯ ไดนง่ั เรียงรายอยูร อบหองแลว ตางฝายตางยกมือไหวกันและทักทายกันดวยสันถวไมตรีแตใบหนาของคุณหญิงแววและมารศรีอยูขาง จะเครงเครียดผิดปรกติ คุณหญิงวาดเชิญสองแมลูกใหนั่งบนโซฟาตัวหนึ่งแลวก็เริ่มสนทนากัน “ยังไงกันจะแมแวว” คุณหญิงวาดพูดยิ้ม ๆ “เรือ่ งราวมันเปนอยางไรกันเธอกับแมศรีถงึ ตัดสินใจคืน หมั้นแมหลานสาวสี่คนนั่น หรือวาหลานชายของพี่เปนลิงไมใชคน”


เสีย่ ตี๋รอ งขึน้ ดัง ๆ “คนครับคุณยา” คุณหญิงวาดทําตาเขียว “เจาเปนเด็กไมตองสอดใหผูใหญเขาพูดกัน นั่งฟงเฉย ๆ เขาใจไหม” นพพูดโพลงขึ้นทันที ผมยังไมไดพูดอะไรสักคําคุณยามาดาผมฉอด ๆ” คุณหญิงวาดแยกเขี้ยว “กูวาอายตี๋โวยไมไดวามึง กําลังหัวเสียอยานะ แมแพนกบาลแตกนะจะบอกให” เสี่ยตี๋กลาวขึ้นดวยเสียงยานคาง “โบราณวาเสือดุหมีดุอยายั่วเยา สิงโตดุอยาเอาไมเขาไปแหย มังกรดุอยาแลบลิ้นหลอก” “เฮย” เสีย่ หงวนดุลูกชายโทนของเขา “อยาพยายามทะลึ่งเหมือนอยางเตี่ยหนอยเลยวะอายตี”๋ เจาแหวกับสาวใชคนหนึ่งถือถาดใสแกวนํ้าอัดลมแชเย็นนํามาเสิฟใหทุกคนโดยทั่วหนากันแลวกลับ ออกไป ภายในหองโถงเงียบสงัดไปชั่วขณะ คุณหญิงแววจึงกลาวกับคุณหญิงวาดอยางเปนงานเปนการ “พี่วาดคะ ความตัง้ ใจของเราคือพีว่ าดกับดิฉนั ทีค่ ดิ จะใหหลานของเราเปนทองแผนเดียวกันนัน้ เปนไป ไมไดเสียแลวคะ” “เพราะอะไรจะแมแวว พูดกันอยางแหกอกเลย แมแววกับพี่นะเปนเพื่อนรักกันคบกันมาแตเล็กแตนอย ตื้นลึกหนาบางอยาอําพรางไว พูดเถอะนอง” “คะ ดิฉันกําลังจะเรียนพี่วาดเดี๋ยวนี้ เรือ่ งมันก็คอื วา แมสี่ใบเถาของดิฉันของรังเกียจพอหลานชายของ พี่วาดคะ” คุณหญิงวาดลืมตาโพลง พอไดยินคําวา “รังเกียจ” อารมณรายของทานก็เกิดขึ้นทันทีเพราะทานรักเจา หนุมรูปหลอทัง้ สีค่ นเปนชีวติ จิตใจของทานนัน่ เอง “รังเกียจหลานของพี่………ฮะ ฮะ ดวยเหตุผลกลใด เพราะอะไรและทําไมถึงรังเกียจ” คุณหญิงแววหันมาทางธิดาของทาน “เจาเรียนคุณปาของเจาหนอยซีมารศรี” มารศรียม้ิ ใหคณ ุ หญิงวาด “แลวแตจะโปรดเถอะคะคุณปา แมใหญ แมกลาง แมเล็กและแมจิ๋วเคยหวังวาการหมั้นกับพอหลาน ชายทั้งสี่คนนี้จะชวยใหมีเกียรติมีหนามีตาแตแลวตรงกันขาม พอนัส พอนพ พอสมนึกและพอดํารง ไปที่บานรับ แกไปเที่ยว หลาน ๆ ของคุณปาไมไดใหเกียรติลูก ๆ ของศรีเลยคะ แตละคนแตงกายแบบจิ๊กโกนิยม พาไปเที่ยวก็ ขึ้นรถเมลเบียดเสียดเยียดยัดปะปนกับคนชั้นตํา่ แลวพาไปทานขาวตมกุยตามรานสกปรก พาไปดูหนังที่ละ ๗ บาทนั่งดูหนาจอแหงนคอตัง้ บา หนังเลิกแลวกมหนาไมลงตองจําใจขึ้นรถเมลกลับบานกับหลาน ๆ ของคุณปา ปานนี้ลูก ๆ ของศรีก็ยังแหงนหนาอยูอยางนั้นแหละคะ เพราะนั่งดูหนังหนาจอเปนการทรมานรางกายและสุข ภาพอยางแสนสาหัส ลูก ๆ ของศรีอาจจะตองแหงนหนาคอตัง้ บาไปตลอดชาติกไ็ ด แมใหญ แมกลาง แมเล็ก


และแมจ๋ิวไดรองไหรอ งหมออนวอนศรีกบั คุณแมใหจดั การคืนหมัน้ คะคุณปา ควรมิควรสุดแลวแตจะโปรดเถอะ นะคะ” คุณหญิงวาดหันมาทางเจาหนุม รูปหลอทัง้ สีค่ นซึง่ นัง่ พับเพียบเรียบรอยอยูบ นพืน้ หอง แลวทานก็กลาว ขึ้นดวยเสียงหนักแนน “อยาเสียใจเลยลูก เมือ่ นอง ๆ เขาไมตองการพวกเจาก็ตองยอมใหเขาคืนหมั้นตามความประสงคของ เขา แผนดินไมไรเหมือนใบมะอึกนะลูกนะ” นพรองไหโฮ “คุณยาครับ ฮือ…….ฮือ……..” “อาว รองไหทําไมพอนพ นิ่งเสียลูก” คุณหญิงวาดปลอบ “เสียใจทีเ่ ขาถอนหมัน้ หรือ” ลูกชายของนิกรสะอื้น “ไมใชเรือ่ งนัน้ หรอกครับ” “แลวรองไหทาไม” ํ คราวนีน้ พปลอยเสียโฮใหญ “กลัวจะไมถอนจริงนะซีครับ ฮือ ฮือ…….” คุณหญิงแววคอนปะหลับปะเหลือก ทานเปดกระเปาเงินใบใหญของทานหยิบกลองกํามะหยี่ใสแหวน เพชรรวม ๔ กลองออกมาพรอมดวยเอกสารชิน้ หนึง่ แลวชะโงกตัวสงใหคณ ุ หญิงวาดอยางนอบนอม “นี่คะแหวนเพชรสีว่ งคือแหวนหมัน้ แลวก็เช็คเงินสดสี่แสนบาท คุณลุงของพอชัชวาลไดชวยเหลือใน เรื่องเงินคะ คุณพระทานมีความเห็นดวยที่หลานสาวของทานควรจะคืนหมั้น ทานก็มอบเช็คสั่งจายเงินสดสี่แสน ใหดิฉัน เปนอันวาดิฉันคืนเงินและแหวนหมั้นใหพี่วาดตอหนาพอแมของพอหลานชายทั้งสี่คนและญาติผูใหญ แลวนะคะ” คุณหญิงวาดสงเช็คเงินสดใหเจาคุณปจจนึก ฯ แลวกระซิบบอก “ชวยดูหนอยซิคะ เช็คใบนีเ้ ดงเชือกหรือมีสปริงติดอยูห รือเปลา” ทานเจาคุณพิจารณาดูอยางละเอียดถี่ถวนแลวคืนใหคุณหญิงวาด “ปลอดภัยคุณหญิง พระประมวลราชกิจผมรูจัก ทานมีหุนสวนในบริษัทปูนสิเมนตตั้งสองลาน ฐานะดี มาก” “คอยยังชั่วหนอย” คุณหญิงวาดพูดยิ้ม ๆ แลวเปดกลองแหวนเพชรตรวจดูแหวนหมัน้ ทีละวง “อา— ถูกตองดีแลวแมแวว พี่เสียใจมากที่ความหวังของเราทั้งสองตองพินาศลง ถูกละ หลาน ๆ ของพีอ่ าจจะตระกูลตํา่ ไปไมเหมาะสมกับหลาน ๆ ของเธอ” เสี่ยตี๋พูดเสริมขึ้น “ผมก็แคลูกชายนักธุรกิจที่มีเงินประมาณพันลานเทานั้นครับ ที่ตระกูลตํ่าเพราะบรรพบุรษุ ของผมไม เคยเปนชางกอพระเจดีย หรือทําปลองโรงสี ซอมแซมยอดภูเขาทอง หรือพระปฐม ไมเคยมีใครหากินบนตนตาล ทํานําตาลสดขายด ้ วย” คุณหญิงแววเคนหัวเราะ


“ไมตอ งมาพูดแดกดันยาหรอกพอนึก” มารศรีเอือ้ มมือสะกิดแขนมารดาของหลอน “เรากลับบานกันเสียทีหรือคะคุณแม เสร็จธุระแลว” “จะ กลับก็กลับ” สองแมลูกตางลํ่าลาสี่สหายกับสี่นางและทานผูใหญทั้งสอง คุณหญิงวาดตามออกไปสงคุณหญิงแวว และมารศรีทห่ี นาตึก พนัส นพ สมนึก และดํารงตางตืน่ เตนดีใจถึงกับลงนอนชักดิน้ ชักงอหัวเราะเอิก้ อากตบมือ กระทืบเทาไปตามกัน แตพอคุณหญิงวาดเดินกลับเขามาในหองโถงเจาหนุมรูปหลอทั้งสี่คนก็นอนกอดกันนิ่ง เฉยทําใหสี่นางหัวเราะงอหายไปตามกัน “หมดเรื่องกันที” คุณหญิงวาดพูดเสียงหนักแนน “ไมตอ งการทีจ่ ะเปนทองแผนเดียวกับเราเราก็ไมงอ สาว ๆ สวย ๆ ลูกผูดีมีสกุลถมเถไป อา—อายสี่คนนี่ลุกขึ้นเสียทีซี ผูชายอะไรไมเคยพบ พาคูหมั้น ลูกสาวเอก อัครราชทูตขึ้นรถเมลกินขาวตมกุยดูหนัง ๗ บาท จนลูกสาวเขากมหนาไมลงเพราะนั่งดูหนังหนาจอ” ทั้งสี่คนตางลุกขึ้นนั่งยิ้มหวานไปตามกัน “เราแกลงทํานะครับคุณยา” พนัสพูดเสียงหัวเราะ “แกลงใหหลอนเกลียดขี้หนาพวกเราครับ” “หา แกลงทําเรอะ” “ครับ” คุณหญิงวาดเมมปากแนน “โธ—อายเวรตะไล ประเดี๋ยวแมเตะคนละทีสองทีวิ่งไมรูทางไปเทานั้น นี่พวกคุณพอคุณแมก็คงจะรู เห็นเปนใจดวยซีนะ นั่งอมยิ้มแกมตุยไปตามกัน” เสียงหัวเราะอยางครืน้ เครงดังขึน้ ลัน่ หอง

-อวสาน-


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.