หนังสือคนบุญยุคพระศรีอาริย์

Page 1

ตองปฏิบัติตนอยางไร เพื่อรอดพนภัยพิบัติ ขอใหพบดวงแกว ขอใหแคลวบวงมาร ขอใหพบพระศรีอาริย

หนังสือธรรมะแจกฟรี



ยุคพระศรีอาริย์

ต้องปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อรอดพ้นภัยพิบัติ ขอให้พบดวงแก้ว ขอให้แคล้วบ่วงมาร ขอให้พบพระศรีอาริย์

หนังสือเล่มนี้ จัดพิมพ์ขึ้นด้วยเงินบริจาค หวังว่าคงจะก่อเกิดประโยชน์สูงสุด สมเจตนารมณ์ของผู้ร่วมบริจาคทุกๆ ท่าน

โครงการหนังสือธรรมะแจกฟรี www.mindcyber.com mindcyber@gmail.com แฟกซ์ 02-964-1136 085-902-3911 คุณจิราวุฒิ พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์นันทพันธ์พริ้นติ้ง โทร. 053-804908-9


ค�ำน�ำ ค�ำอธิษฐานตอนใส่บาตรทุกเช้า ยังจ�ำกัน ได้หรือเปล่า “ขอให้พบดวงแก้ว ขอให้แคล้ว บ่วงมาร ขอให้พบพระศรีอาริย์” ปัจจุบันเป็นเวลาคับขันมากแล้ว เภทภัย เกิดขึน้ ทัว่ ทุกหัวระแหงยิง่ มายิง่ รุนแรงเป็นทวีคณ ู และไม่สามารถคาดคะเนได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้น หนังสือเล่มนี้ เป็นเสมือนคัมภีร์ปลุกใจ ทุกท่าน จะได้ตระหนักถึงมหันตภัยทีเ่ กิดขึน้ ให้รบี สร้างบุญสร้างกุศลอย่างต่อเนื่อง เพราะสุดท้าย แล้ว สิ่งที่เราท่านแสวงหาและครอบครองนั้น ล้วนแล้วไม่สามารถต้านมหันตภัยต่างๆ ได้ สิ่งที่ จะช่วยให้มหันตภัยเบาบางลง ทุกท่านต้องตัง้ มัน่ อยู่ในศีลธรรม เปี่ยมไปด้วยคุณงามความดี ยังพอมีเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ขอแค่มี ความตั้งใจจริง ท�ำทันที ก็จะไม่มีอะไรสายเกิน โครงการหนังสือธรรมะแจกฟรี เดือนตุลาคม 2554


สารบัญ

สัจธรรมค�ำสอนอันศักดิ์สิทธิ์ 5 ขององค์พระศรีอาริยเมตไตรย หนังสืออินตก-เทพท�ำนาย 10 พระพุทธเจ้าทรงท�ำนาย 15 ค�ำท�ำนายของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต 19 วิธีท�ำบุญให้เกิดสัมฤทธิ์ผล 21 การใช้บุญสร้างความส�ำเร็จในปัจจุบัน 24 โอวาทธรรมคัมภีร์กัปป์สุดท้าย 32 พระผู้ลงมาช่วยโลกยุคปัจจุบัน 50 หลักแห่งการบ�ำเพ็ญธรรม 10 ประการ 55 พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 61 ค�ำอธิษฐานขอพร 87 กฎแห่งกรรม 88 คัมภีร์ปลุกชาวโลกพระเจ้ากวนอู 100 ลักษณะการปักธูป 111


พระศรีอาริยเมตไตรย


สัจธรรมค�ำสอนอันศักดิ์สิทธิ์ ขององค์พระศรีอาริยเมตไตรย ด้วยพระฤทธานุภาพแห่งองค์พระศรีอาริย เมตไตรย ซึ่งได้เสวยสุขบนสรวงสวรรค์ พระองค์ ทรงเล็งเห็น ความทุกข์ของมวลมนุษยชาติ และ ด้วยพระมหาเมตตาอันหาที่สุดมิได้ ทรงแปลง พระวรกายมาช่วยชาวโลกมนุษย์ ด้วยพระทัยที่ เสียสละ กล่าวคือทรงต้องการให้มนุษย์พ้นทุกข์ และมีความสุขที่แท้จริง จึงทรงมอบธรรมะเพื่อ เตือนความทรงจ�ำ และสอนมนุษย์ทตี่ อ้ งการความ หลุดพ้นจากทุกข์ และด�ำรงอยู่ในความสุขที่แท้ จริง เพื่อเป็นการเตรียมกายเตรียมใจให้พร้อม ที่จะพบกับแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ขององค์ พระศรีอาริยเมตไตรย ในเพลาข้างหน้าทีจ่ ะมาถึง ในอีกไม่นานนี้ โดยมอบหมายให้ผู้รู้ที่แท้จริง น�ำธรรมะมาบอกกล่าว และเผยแผ่ต่อไปนี้

1. ให้ตงั้ มัน่ อยูใ่ นศีล 5 ให้ครบถ้วนบริบรู ณ์

2. ให้รักใคร่เมตตาปราณี ต่อเพื่อนมนุษย์ และสัตว์ สัจธรรมค�ำสอนอันศักดิ์สิทธิข์ ององค์พระศรีอาริยเมตไตรย 7


3. ผู้เป็นลูกต้องรู้จกั กตัญญูร้คู ณ ุ และเชือ่ ฟังพ่อแม่บังเกิดเกล้า ถ้าลูกไม่กตัญญูรู้คุณพ่อ แม่ ก็จะได้รบั ผลกรรมทันตา เมือ่ ตายไปจะไปเกิด เป็นสัตว์ 4. ไม่พูดมากในสิ่งที่ไร้สาระ เพ้อเจ้อ ส่อเสียดผูอ้ นื่ การพูดมากท�ำให้เกิดความผิดพลาด เสียหายได้ การพูดเสียงดัง และหยาบคาย ก้าวร้าว ดุดนั แช่ง ด่า สบถสาบาน เป็นอัปมงคลแก่ตวั เอง ล้วนแต่จะกลับมาสนองตอบตนเองทัง้ สิ้น 5. ต้องรูจ้ กั ยับยัง้ ชัง่ ใจ ไม่ใจร้อนวูว่ าม รูจ้ กั อดทนอดกลัน้ ให้ถงึ ทีส่ ดุ นับครัง้ แล้วครัง้ เล่า ต้อง คิดว่า ทุกอย่างใครท�ำอะไรไว้กไ็ ด้อย่างนัน้ การมี ปากมีเสียงทะเลาะวิวาท หรือคดีความใดๆ ถึงแม้ จะแพ้หรือชนะก็ตาม ในทีส่ ดุ ก็มแี ต่ความว่างเปล่า เสียเวลา เสียพลังงาน 6. ควรจะแก้ไขปรับปรุงตัวเอง โดยการนัง่ สงบนิ่ง แล้วคิดทบทวนพิจารณาความผิดพลาด ของตนเอง เพื่อแก้ไขท�ำตัวเสียใหม่ โดยกลับใจ เป็นคนดีและคิดแต่ส่งิ ดีๆ

8 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


7. ผู้มีนิสัยใจคอกว้างขวาง รอบคอบ ละเอียดอ่อน เสียสละ กระท�ำการสิ่งใดมักจะ ส�ำเร็จ 8. การรู้จักให้อภัย คือ ผู้มีเมตตาธรรม สูงสุด 9. การรูจ้ กั เลือกกินเลือกใช้อย่างประหยัด มัธยัสถ์ ไม่ฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย แม้แต่กินอาหาร ต้องไม่ให้เหลือทิ้งเหลือขว้าง เพราะแต่ละอย่าง กว่าจะเจริญเติบโตมาให้เราได้กินได้ใช้ ต้องใช้ เวลาอันยาวนาน และด้วยน�้ำพักน�้ำแรงของคน อีกมากมาย และทีส่ ำ� คัญไปกว่านัน้ ก็คอื สิง่ มีชวี ติ ทั้งหลายเกิดขึ้นได้โดยฟ้าดิน จึงเสมือนหนึ่ง ของสูงที่ฟ้าดินประทานให้ ควรกินหรือใช้ด้วย ความเคารพและส�ำนึกในบุญคุณ 10. การกินเนื้อสัตว์ โดยผ่านการฆ่ามา แล้ว ก็ถอื ว่าเป็นการสนับสนุนให้มกี ารฆ่าเกิดขึน้ ย่อมได้รับผลทันตาเห็น เช่น เกิดโรคภัยไข้เจ็บ อายุสนั้ อารมณ์ร้อนฉุนเฉียว และมีนสิ ยั เยีย่ งสัตว์

สัจธรรมค�ำสอนอันศักดิ์สิทธิข์ ององค์พระศรีอาริยเมตไตรย 9


11. ให้หมั่นฟังเทศน์ ถือศีลกินเจ ภาวนา รักษากาย วาจา ใจ ให้สงบเงียบ เจียมตัวเองไว้ ให้ดีที่สุด รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน 12. ควรประกอบอาชีพ โดยชอบธรรมสุจริต ไม่ดมื่ สุรายาเมา ไม่เข้าซ่องโสเภณี ไม่เล่นการพนัน ไม่คบคนชัว่ เป็นมิตร ไม่คบชูส้ สู่ าว ไม่ละเลยประเพณี อันดีงาม ไม่ท�ำตัวนอกรีตนอกรอย ผิดวิสัยของ มนุษย์ที่พึงจะกระท�ำ 13. ผู้ที่มีครอบครัวแล้ว ควรระวังรักษา ความสามัคคีต่อกันในครอบครัว เป็นสิ่งอัน ประเสริฐสุด และนับเป็นความสุขอันดับแรก ในครอบครัว ถ้าเผลอลืมตัวไม่ปฏิบัติ ให้รีบกลับ ใจแก้ไขท�ำตัวใหม่ อย่าคิดเอาแต่ได้ หรือแก้ตัว คิดหาใหม่ เป็นการผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง เมื่อครอบครัวดี สามีภรรยาและบุตรจะได้อยู่ ร่วมกัน อย่างสุขเกษมส�ำราญ ความผิดพลาด เก่าๆ ที่เคยมีมาต้องถือว่าเป็นบทเรียน ให้น�ำ มาอบรมสั่งสอนบุตรหลานรุ่นต่อๆ มาเพื่อจะได้ มีหลักปฏิบัติ

10 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


14. ถ้าคิดจะท�ำสิ่งใด ควรใช้สติปัญญา ไตร่ตรองพิจารณาในกิจการนัน้ ให้ถอ่ งแท้รอบคอบ เสียก่อน ย่อมท�ำให้เกิดผลดีไม่ผิดพลาด 15. คุณธรรมที่ส�ำคัญอีกประการหนึ่ง ที่จะคบหาสมาคมกับใคร ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของ กิจการหรือลูกจ้างก็ตาม สิ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือ ความซื่อสัตย์สุจริตต่อตนเองและผู้อื่น ไม่เห็น แก่ประโยชน์ส่วนตน ดังค�ำพังเพยที่ว่า “ซื่อกิน ไม่หมด คดกินไม่นาน” 16. คนที่ประพฤติตนเยี่ยงคนพาล โดย ไม่ค�ำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม ชอบใส่ร้าย ป้ายสีคนอื่น นินทาผู้อ่ืนลับหลังย่อมประสบกับ ความยากล�ำบาก หาความส�ำเร็จได้ไม่ มีความทุกข์ เกิด เจ็ บ ไข้ ไ ด้ ป ่ ว ย และครอบครั ว แตกแยก หนีหายตายจาก

สัจธรรมค�ำสอนอันศักดิ์สิทธิข์ ององค์พระศรีอาริยเมตไตรย 11


หนังสืออินตก-เทพท�ำนาย โดยย่อ

หนังสือใบลานสีได้ถกู ตกมาในวัดแห่งหนึง่ ในจังหวัดอัตตะบือ (ประเทศลาว) ข้าพเจ้าได้รบั รู้ จากพระอาจารย์ผู้ทรงศีลรูปหนึ่งเผยแผ่ให้ เลย เกิดความศรัทธา เสียสละทรัพย์พิมพ์แจกจ่าย มายังพี่น้องชาวพุทธทัง้ หลาย เพื่อเป็นกุศล และ เพื่อพิจารณาญาณด้วยตนเอง ถึงเหตุการณ์ มหันตภัยของโลกยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งจะบังเกิดขึ้น ตามพุทธท�ำนายไว้ ดังนี้ โลชังชม โทโพโส อินโตกรุณา พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดได้รู้แล้ว จงรีบบอกให้คนอื่นฟัง หรือ พิมพ์แจกตามก�ำลังศรัทธา จะเกิดมหากุศล เพื่อจะช่วยให้ท่านได้หลุดพ้นจากมหันตภัยพิบัติ ทั้งปวง ถ้าบุคคลจะลงมาเกิดพร้อมทั้งหนังสือ ใบลานฉบับนี้ ถ้าใครไม่มไี ว้ในบ้านเรือนจะมีภตู ผี ปีศาจเข้ามาอย่างแน่แท้ 12 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ในปีจอถึงปีกุน เมื่อเดือนหงายจะมีงูพิษ อยู่บนศีรษะฉกกัดให้ถึงตาย และผู้คนทั้งหลาย จะเกิดความเดือดร้อนหลายประการ

ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนศึกสงครามบ่แล้ว

ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนน�้ำและไฟ

ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนบ่มีไผสิเบิ่งไผ

ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนอึดข้าวปลาอาหาร

ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนผัว-เมียบ่เห็นหน้ากัน

ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนมีคนตายตามทุ่งนา

ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนบ่มีผู้เฒ่า

ทุก ข์ย ากฮ้อ น ย้อนไปต่างประเทศบ่สะดวก

ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนนอนบ่หลับ

ในปีจอนี้ ในเมืองเวียงจันทน์จะมีฤๅษี องค์ทองค�ำ สิกขาลาเพศออกมาเป็นพ่อค้าในปีจอ ขึ้น 8 ค�่ำ ห้ามบ่ให้ตักน�้ำอาบน�้ำกิน ตามห้วยหนอง คลองบึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน (ก่อนค�่ำ) พระยายมราชจะน�ำเอายาพิษพ่นใส่ในโลกมนุษย์ หนังสืออินตก-เทพท�ำนาย 13


ในปีจอ เมืองกรุงเทพฯ จะแตกพังทลาย ตอนเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกตหัวเชียงเมี้ยงข้าว เม็ดใหญ่จะกลับสู่เวียงจันทน์นคี่ อื พระคาถาของ องค์อินทร์พรหมยมราช ได้เขียนไว้ในใบลาน จง เก็บรักษาไว้ให้ดี เพื่อช่วยหลุดพ้นจากภัยพิบัตไิ ด้ ในยามเกิดเหตุการณ์มหันตภัย พระคาถาเขียน ไว้ว่า ประโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุติ จิตะ เมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติฯ พระคาถาบทนี้เขียนลงใบลาน แผ่นทอง หรือแผ่นผ้าก็ดตี ิดไว้ที่ประตูบ้าน หรือในรถ หรือ โพกศีรษะ ยามเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้หลุดพ้น จากภัยอันตรายในกาละเวลานี้ เทพเจ้าเหล่า เทวดาผูร้ กั ษาคุม้ ครองโลก ได้กราบทูลต่อพระอินทร์ ว่ามนุษย์โลกท�ำกุศล 3 ส่วน และท�ำบาปกรรม ถึง 7 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้องค์อนิ ทร์จะสั่งลงโทษ มนุษย์ผู้ใจบาปถึง 9 ข้อ นับตัง้ แต่

1. จะเกิดพายุลมแรง แผ่นดินไหว 2. จะให้เกิดอัคคีภัย 3. จะเกิดอุทกภัย

14 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


4. จะเกิดฟ้าผ่า 5. จะเกิดร้อนเกินไป หนาวเกินไป 6. จะเกิดสารพิษต่างๆ 7. จะเกิดกาฬโรคต่างๆ 8. จะเกิดข้าวยากหมากแพง 9. จะเกิดพยาบาทเบียดเบียนกันเอง

มหันตภัย 9 อย่างนี้ จะหลุดพ้นได้โดย เฉพาะผู้มีบุญ คนที่ปฏิบัติตามค�ำสั่งสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านัน้ รู้แล้วจงบอกต่อกัน ไปให้รบี ท�ำความดีมากๆ ถ้าเลยปีจอ ปีกนุ ไปแล้ว ทุกคนพร้อมทั้งลูกหลาน จะได้รับความสุขกาย สบายใจทุกคน ให้ทุกคนเคร่งครัดในศีล 5 นอกจากหนังสืออินตก ที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีพระผู้ทรงศีลอีกรูปหนึ่ง ได้พบเห็นค�ำสอน ที่จารึกไว้ในแผ่นศิลา ที่พึ่งพบในภูเขาแห่งหนึ่งที่ พระพุทธเจ้าได้เดินธุดงค์ วิปัสสนากรรมฐาน ผ่านไป พระผู้ทรงศีลกล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย ถ้าไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ดวงจิต เพราะถึงเวลาแล้ว ที่สวรรค์จะไม่มีความลับ ถ้าท่านเชื่อก็เป็นกุศล รู้เพียงเท่านี้ ข้าพเจ้าจึงขอบอกเล่าสู่ท่านฟังตาม หนังสืออินตก-เทพท�ำนาย 15


ค�ำกล่าวของพระผู้ทรงศีลรูปนี้ว่า ในแผ่นศิลา ได้เขียนไว้โดยพระมหากัสสะปะว่า ในปีระกา ปีจอ ปีกุน เดือน 7-8 จะเกิดเหตุการณ์ร้าย ตามถนนหนทาง ในเดือน 9-10 คนใจบาป จะถูกล้างผลาญให้หมดไป มีบ้านแต่ไม่มีคนอยู่ มีข้าวแต่ไม่มคี นกิน มีทางแต่ไม่มคี นเดิน” สุดท้าย พระผู้ทรงศีลได้กล่าวย�้ำถึงความ ศักดิ์สิทธิ์ของหนังสืออินตกเพิ่มเติมว่า ถ้าท่าน ผู้เคารพบูชา หรือตั้งจิตอธิษฐานว่า จะบอกแก่ ผู้อื่น หรือพิมพ์แจกจ่ายให้สาธุชนทัง้ หลายได้รับ รู ้ แ ล้ ว ท่ า นปรารถนาสิ่ง ใด จะได้ ส มใจนึก จะปราศจากภัยพิบัติทั้งปวงตลอดไป ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่

16 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระพุทธเจ้า ทรงท�ำนาย ออกจากศิลาจารึก ในมหาวิหารเจตมหา เชตวัน ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย โดย คณะทูตไทยที่ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อปี พ.ศ. 2485 ตามค�ำแปล เป็นภาษาไทย ว่าดังนี้ สาธุ อะระหังตา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาสรรพสัตว์ทวั่ โลก ที่เกิดมา แล้วแต่ล�ำบากทั่วหน้า ทุกชาติ ทุกศาสนา ตาม ธรรมชาติ เมื่ออาตมาเข้านิพพานไปแล้วครบ ห้าพันปีเป็นทีส่ ดุ โลกจะหมุนไปใกล้จะถึงจ�ำนวน ที่ตถาคตท�ำนายไว้สองพันห้าร้อยปี มนุษย์และ สัตว์จะได้รับภัยพิบัติเสียครั้งหนึ่ง ในระยะ 30 ปี สิ่งที่สาธุชนไม่เคยเจอะเจอ จะได้เห็น ไม่เคยพบ จะได้พบ ยักษ์หินที่ถูกสาปให้หลับ ตื่นขึ้นมา อาละวาดยิ่งนัก ใกล้กับ พ.ศ. 2550 ยิ่งทวีกัน ใหญ่ขึ้นทุกทิวาราตรี มนุษย์นอกศาสนาจะรบรา ฆ่าฟันกัน จนถึงเลือดนองเต็มพื้นดินพื้นน�้ ำ หนังสืออินตก-เทพท�ำนาย 17


จะลุกลามเผามนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่าง ท�ำลายเหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินจะ เป็นเปลวไฟจะตายไปอย่างละครึ่งหนึ่ง จึงจะ เลิกล้ม ต่างฝ่ายต่างหมดก�ำลังด้วยกันตามวิสัย ยักษ์ร้ายนอกศาสนา ซึง่ ถือก�ำเนิดจากป่าอ�ำมหิต ส่วนพุทธศาสนิกชน ผู้ท�ำแต่บุญเดินตามทาง ตถาคต สามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใด ได้บูชาพระโพธิสัตว์ ผ้ากาสาวพัสตร์ ก็จะรับ ภัยพิบัติเบาบางแต่หนีภัยธรรมชาติไม่พ้น ไฟจะ ลุกลามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมณะชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะ ตกจากฟ้า เหล็กกล้าจะผุดจากน�้ำ สงคราม จะเกิดทั่วทิศ พระยานาคจะพ่นพิษเป็นเพลิง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวสารจะขาดแคลน ทุกแคว้น จะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง สีเหลือง จะชนะ พระยังอยู่คู่เมืองอีกต่อไป สีขาวจะ แพ้ภัยในที่สุด ครุฑจะบินกลับฐาน คนจะกลับ บ�ำรุงพระพุทธเจ้าว่าดังนี้ ชา ตะ มะ สะ ละ วา พระพุ ท ธชิ น ลิ ต นี้ ท่ า นให้ เ ขี ย นใส่ ก ระดาษ หรือผ้าขาวติดไว้หน้าบ้าน หรือหัวนอนดังนี้ จะอายุ ยื น ยาว บั ด นี้ ท ่ า นเสด็ จ อยู ่ ล านช้ า ง (ภาคอีสานในปัจจุบัน) พระธรรมมิกราชเข้ามา 18 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ปีกุนเดือน 11 เป็นเที่ยงแท้นักหนา ท่านเสด็จ มาในปีระกา แรม 5 ค�่ำ มหากษัตริย์มาทาง ทิศตะวันตก สมณะ ชีพราหมณ์ตามมา ประมาณ ได้ 76,400 รูปทั่วอาณาจักร สมเด็จพระบรม นักปราชญ์ได้ประกาศคาถาว่าดังนี้ นะสัจจังทะ คะยังมะส�ำค�ำปัง ดูในปีมะโรง คนจะเดินโก่งโค้ง คลาน ผู้ใดอยากพบผู้มบี ุญ ชื่อพระธรรมมิกราช ให้ภาวนา ให้หมัน่ รักษาศีล สดับรับฟังธรรมเทศนา คอยดูปีมะเส็งตลิ่งจะพัง มหาสมุทรจะชอกช�้ำ อย่าเที่ยวไปกลางแจ้ง ท่านเข้ามาปีกุน เดือน 8 เป็นเที่ยงแท้ ผู้ใดไม่เชื่อจะรับอันตราย คอยดู ในปีจอ คนจะพ้นภัย สะโรนะกา โททายะโม พุทธะตะมะ ภาวนาทุกค�่ำเช้า ผู้นั้น จะมีอายุ ยืนนาน จะได้เห็นพระธรรมมิกราช (พระโพธิสตั ว์ ศรีอาริยเมตไตรย) ในปีกุนท่านจะเข้ามาอีก ถ้าไม่เห็นหนังสือบ้านใด ผู้นั้นจะเป็นอันตราย รู้แล้วให้ช่วยกันพิมพ์เผยแพร่ และช่วยบอกต่อๆ กันด้วย ส�ำหรับประเทศไทย จะเริ่มเกิดตั้งแต่ปี 2550 คาดว่าจะได้รบั ภัยทางน�ำ้ และไฟ โดยเฉพาะ จังหวัดที่ติดชายทะเลและกรุงเทพ แผ่นดินจะ ยุบตัว คลืน่ น�ำ้ จะพัดเข้าถล่มความสูง 200 เมตร หนังสืออินตก-เทพท�ำนาย 19


มนุษย์จะล้มตายมากกว่าครึ่ง น�ำ้ จะเข้าช่องแคบ จังหวัดสระบุรี และด้านตอนล่างของโคราชบาง ส่วน ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สุดท้ายประเทศไทยจะเหลือประชากรประมาณ สามสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนประเทศอื่นทั่วโลก จะเหลือเพียง สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น บุคคลที่รอดชีวิตส่วนมาก ก็สูญเสียสติสัมปชัญญะ ไม่ปลอดภัยเหมือน เมืองทีน่ บั ถือพุทธศาสนา เพราะไม่เข้าใจบ�ำเพ็ญ ญาณภาวนา ฉะนั้นอย่าหลงใหลในทรัพย์สิน ของตนเองให้มากนัก เพราะเมื่อเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ เงิ น ทองจะไม่ มี ค ่ า เลย เพราะมนุ ษ ย์ ยุ ค นั้ น วัดกันทีค่ วามดี ศีลธรรมบุญกุศลเท่านัน้ ปีมะโรง พ.ศ. 2555 ปีมะเส็ง 2556 ปีระกา พ.ศ. 2560 พ.ศ. 2561 ปีกุน พ.ศ. 2562

20 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ค�ำท�ำนายของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) รัชกาลที่ 1 ทายว่า มหากาฬ (ท�ำลาย เพื่อนพี่น้อง) รัชกาลที่ 2 ทายว่า ฌานยักษ์ (ช�ำนาญ เวทมนต์) รัชกาลที่ 3 ทายว่า รักมิตร (มีการค้าขาย กับต่างชาติมากมาย)

รัชกาลที่ 4 ทายว่า สนิทค�ำ (ออกบวช)

รัชกาลที่ 5 ทายว่า จ�ำแขนขาด (คือต้อง ยอมเสียดินแดน) รัชกาลที่ 6 ทายว่า ราชโจร (เกิดสงคราม โลกครั้งที่ 1 เกิดกลุ่มโจรมากมาย มีการตัง้ กอง เสือป่าครั้งแรกของไทย) รัชกาลที่ 7 ทายว่า ชนร้อนทุกข์ (เกิด การเดินขบวนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย) ค�ำท�ำนายของ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต 21


รัชกาลที่ 8 ทายว่า ยุคทมิฬ (พระเจ้า แผ่นดินจะถูกลอบปลงพระชนม์) รัชกาลที่ 9 ทายว่า ถิ่นกาขาว (มีฝรั่ง มากมาย น�ำเงินมาซือ้ ประเทศไทย ท�ำให้เกิดวิกฤต การเงิน) รัชกาลที่ 10 ทายว่า ชาวศิวิไลซ์ (จะมี เหลือเฉพาะผู้มีบุญเท่านั้นที่รอด เป็นยุคของ พระศรีอาริยเมตไตรย)

22 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


วิธีท�ำบุญ ให้เกิดสัมฤทธิ์ผล พระพุทธเจ้าทรงแสดงที่มาแห่งบุญไว้ 3 ประการย่อๆ คือ

1. บุญเกิดจากการให้ทาน

2. บุญเกิดจากการรักษาศีล

3. บุญเกิดจากการภาวนาอบรมจิตใจ

การสร้างความดีทุกประการนั้น ล้วนเป็น แหล่งของการเกิดบุญกุศลทั้งสิ้น แล้วก่อให้เกิด อานิสงส์ที่จะสร้างความส�ำเร็จในชีวติ ได้ทุกเรื่อง บุญอันเกิดจากการให้ทาน พระภิกษุสงฆ์ หรือให้ของแก่ใครไม่ว่าจะให้ของแก่พ่อแม่ พีน่ ้อง ญาติมิตร แม้เอาอาหารให้สัตว์ได้กิน ขณะนั้น จะเกิดกระแสบุญ เป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจาก ตัวผู้ให้ทันที และเพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้จะพุ่งหาย ไปขึ้นไปเบือ้ งบน แล้วสะสมเป็นกองบุญของผู้ให้ อยู่บนเทวโลก ดังนั้นจึงขอเน้นย�้ำหลักส�ำคัญ ที่สุดว่า ขณะของหลุดจากมือเมื่อใส่บาตร/ถวาย วิธีท�ำบุญ ให้เกิดสัมฤทธิ์ผล 23


ของพระสงฆ์ หรือให้แก่ใครก็ตาม เราต้องรีบ อธิษฐานจิตแผ่บุญทันที หรือตอนพระสวด “ยะถาสัพพี” ก็กรวดน�ำ้ แผ่ส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ หรือผู้ที่เราต้องการให้ในทันทีทันใดว่า “บุญนี้จง เป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้าพเจ้า (หรือ) บุญนีจ้ ง เป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า (หรือ) บุญนี้ จงเป็ น ของเทวดา ภู ต -ผี - ปี ศ าจ-เปรตครุฑ-นาค-ยักษ์ ที่สถิตอยู่ในสถานบ้านเรือน ของข้าพเจ้า” เป็นต้น บุญอันเกิดจากการภาวนา ให้อธิษฐาน แผ่เมตตาก่อนเช่นว่า “ขอบุญทีเ่ กิดจากการภาวนา ต่อไปนี้ถึงเจ้ากรรมนายเวรที่ท�ำให้ข้าพเจ้า เจ็บป่วย (เป็นอะไร) (หรือจะให้ใครก็ให้อธิษฐาน เอาเอง)” แล้วก็เริ่มภาวนาได้เลย หลังจากเลิก ภาวนาก็ให้อุทิศบุญนี้ไปอีกครั้งหนึ่ง บุญที่เกิด จากการภาวนานี้ จะมีพลานุภาพแรงยิ่งกว่าบุญ จากการให้ทานมาก ฉะนั้นพวกภูต-ผีชั้นต�่ำ มักรับไม่ค่อยได้ เราต้องเปิดช่องไว้ภาวนา เขาจะได้เตรียมรับตามก�ำลังความสามารถ ของตนเอง เพราะหากให้ตอนทีภ่ าวนาเสร็จจึงให้ ก็เปรียบเหมือนเราปล่อยน�ำ้ ที่พุ่งแรง แต่เขาเอา 24 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ภาชนะทีไ่ ม่เหมาะสมมารับ เขาจะรับไม่ได้เนือ่ งจาก ก�ำลังจิตของเขาไม่แข็งแรงพอ หากเราอธิษฐาน เปิดให้เขาเตรียมตัวไว้ก่อนก็เหมือนเปิดก๊อกน�ำ้ ค่อยๆ ใครภาชนะน้อยก็เอามารองรับตามก�ำลัง ที่เขามี แต่ส�ำหรับเทวดาบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ท่านสามารถรับบุญใหญ่ หลังภาวนาได้อยู่แล้ว เปรียบเหมือนท่านมีโอ่งมีถังขนาดใหญ่ส�ำหรับ รองรับน�ำ้ ที่พุ่งออกมานั่นเอง บุญเกิดจากการรักษาศีล การท�ำบุญ ด้วยการตัง้ ใจ รักษาศีลก็ย่อมเกิดกุศลขึ้นเช่นกัน ทุกครัง้ ทีร่ ะลึกศีลตัวเองรักษาดีแล้ว ไม่ด่างพร้อย ก็สามารถอธิษฐาน ส่งบุญได้ว่า “บุญที่ข้าพเจ้า ได้รักษาศีลนี้จงถึงแก่...” หรือในการท�ำความดี ทุกอย่าง เช่นแม้แต่การพูดให้เขา มีสติคิดดี การได้ช่วยเหลือคน การได้ทำ� สาธารณประโยชน์ ส่วนรวมย่อมก่อให้เกิดความปิติดีใจ นั้นแหละ คือบุญให้รีบอธิษฐานจิต และแผ่บุญส่งถึงผู้ที่ เราต้องการให้ทันที

วิธีท�ำบุญ ให้เกิดสัมฤทธิ์ผล 25


การใช้บุญ สร้างความส�ำเร็จในปัจจุบัน พวกเราชาวพุทธแต่ละคนล้วนเคยท�ำบุญ ให้ทานมาแล้วทัง้ สิ้น ทั้งในชาตินี้และในชาติก่อน ถ้าจะนับบุญ ก็คงจะใหญ่เท่าภูเขาเลากา หรือ เท่าก้อนโลก แต่ไม่รู้จักใช้บุญของตนเองให้เกิด ประโยชน์ในปัจจุบันชาติ จึงต้องรอตายแล้วจึง ไปรับบุญในสรวงสวรรค์ คนท�ำบุญจึงชอบบ่น ว่า “ท�ำแต่บุญไม่เห็นได้ดีสักที” ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเขาไม่เคยให้บุญแก่เทวดา ที่รักษาตัวเอง ไม่เคยให้เจ้ากรรมนายเวรทีต่ ามจ้องกันอยู่ ไม่เคย ให้เทวดาและญาติทิพย์ ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้าน เขตเรือน ไม่เคยให้เทวดาที่รักษาเจ้านายของตัว เทวดาเหล่านัน้ บางองค์อาจมีบุญน้อยฤทธิ์น้อย จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราได้มาก แต่ถ้า เขาได้รับบุญจากเราบ่อยๆ เขาจะกลายเป็น เทวดาที่มีฤทธิ์อ�ำนาจ สามารถช่วยเหลือให้เรา ประสบความส�ำเร็จได้ดั่งใจหมาย บางคนอ้างว่า ท�ำบุญทุกครั้ง ก็กรวดให้เทวดาและเจ้ากรรม 26 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


นายเวรทุกครั้ง ก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง โปรดเข้าใจว่าท่านให้ไม่เป็นเขาจึงไม่ได้รบั เช่นให้ ไม่เจาะจง หรือแสงบุญหมดแล้วจึงมากรวดน�้ำ ให้เขาก็ไม่ได้รับ เมื่อก�ำลังให้ของแก่ใคร ไม่ว่าจะถวายของ แก่สงฆ์ ให้ของแก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกินย่อมเกิดกระแสบุญ ขึ้นเป็นแสงเรืองรอง แผ่ออกจากตัวผู้ก�ำลังให้ เพียงไม่กี่วนิ าที แสงนี้จะพุ่งหายไปเบื้องบน แล้ว สะสมเป็นกองบุญของผู้ให้บนเทวโลก ดังนั้น ขณะให้ของแก่ใครจึงควรอธิษฐานจิต คิดทันทีว่า “บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้า” หรือ “บุญนี้จงเป็นของเทวดา-ภูต-ผี-ปีศาจ-เปรตครุฑ-นาค-ยักษ์-ที่อาศัยอยู่ในเรือกสวนไร่นา หรือเคหะสถานบ้านเรือนของข้า” หรือ “บุญนี้ จงเป็นของเทวดาผู้รักษาบุตรของข้า จงเป็น ของเทวดาผู้รักษาบิดา มารดา ของข้า” เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการแก้ไขในจุดไหน เช่น การใช้บุญ สร้างความส�ำเร็จในปัจจุบัน 27


บุตรของเราเกเรเหลือเกิน ชอบสร้างแต่ ความเดือดร้อนสัง่ สอนไม่ฟงั แบบนีต้ ้องให้เทวดา ผู้รักษาตัวเขาเป็นผู้ขนาบตักเตือน วิธีที่เทวดา ตั ก เตือ นนั้น ท่ า นจะสั่ ง สอนไปที่ค วามรู ้ สึก นึกคิดจิตใจของเขา ถ้าเทวดาประจ�ำตัวเขาเป็น มิจฉาทิฏฐิ เมื่อได้รับบุญบ่อยๆ เทวดารู้สึกถึง ความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง มีชีวติ ที่สุขสบายขึ้น มีฤทธิอ์ ำ� นาจขึน้ เขาจะทราบได้เองว่าสิง่ ทีเ่ ขาได้รบั นัน้ มาจากไหน เมือ่ เราอุทศิ บุญให้ท่านก็อธิษฐาน ว่า “เมื่อเทวดาได้รับบุญแล้ว ขอให้มีความสุข มีกินมีใช้ มีเสื้อผ้าที่อยู่อาศัย และขอให้อบรม ตักเตือนลูกของข้าให้เป็นคนดีด้วย” ดังนี้ไม่นาน หรอกจะเกิดกรณีพิสดารขึ้นกับบุตรเกเรคนนั้น จนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนดีแน่นอน สามีหรือภรรยา ทีค่ ่คู รองของตนเป็นทีน่ ่า เอือมระอาเหลือเกิน อยากให้คคู่ รองดี รักเรา ละเลิก ความประพฤติชั่วเหลวไหล ก็ให้ท�ำแบบเดียวกัน กับที่ให้บุญแก่เทวดาที่รักษาบุตร กิจการค้าของท่านล้มเหลวซบเซา เมื่อ ท่านท�ำบุญทุกครัง้ ควรอุทศิ ให้เทวดาประจ�ำตัว ของท่าน และเทวดาที่ดูแลกิจการค้าด้วยพร้อม กันไป แล้วอธิษฐานว่า “เทวดารับบุญของเราแล้ว 28 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


โปรดช่วยเหลือกิจการธุรกิจของเรา ให้ประสบ ความส�ำเร็จด้วยเถิด ถ้าร�่ำรวยขึ้นจะท�ำบุญให้ ท่านยิ่งๆ ขึ้นไปอีก” จะใช้ค�ำเรียกตนเองว่า “ข้า” ว่า “เรา” ก็ได้ทงั้ นั้น ร้านค้าขาย จะเป็นร้านอะไรก็แล้วแต่ เมือ่ ท�ำบุญก็ให้อุทิศแก่เทวดาที่รักษาร้านค้านั้นด้วย แล้วบอกว่า “เทวดาเมือ่ ได้รบั บุญแล้วโปรดเรียก ลูกค้ามาอุดหนุนให้มากๆ ด้วย” การอุทิศบุญไม่ต้องพูด ไม่ต้องกรวดน�้ำ ให้ใช้การคิดต้องรีบคิดทันทีอย่าชักช้า เพราะแสง บุญที่เกิดขึ้นจะด�ำรงอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วจะหายไป อยู่สวรรค์ ถ้าฝึกบ่อยๆ เราจะช�ำนาญในการคิด เพราะมีกระแสแรงกว่าพูดออกจากปาก เวลา หย่อนก้อนข้าวลงในบาตร ให้คิดส่งบุญทันที และคิดให้ชัดเจนอย่าลางเลือนให้ของแก่ใคร เมื่อของหลุดจากมือเราก็ให้คิดทันทีอย่าช้า การรักษาโรคภัย ทีเ่ กิดกับตัวเราสืบเนือ่ ง มาจากเจ้ากรรมนายเวรผู้เคียดแค้นชิงชังกระท�ำ ทัง้ สิน้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ผูฆ้ า่ สัตว์ยอ่ มอายุสนั้ ผู้เบียดเบียนสัตว์ย่อมสุขภาพไม่ดี” ดังนั้นการ รักษาต้องส่งบุญไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ทีท่ ำ� ให้ เกิดอาการเจ็บป่วยนัน้ ๆ และเทวดาผู้รกั ษาตัวเรา การใช้บุญ สร้างความส�ำเร็จในปัจจุบัน 29


ในขณะเดียวกันโปรดอธิษฐานว่า “หมอใด ยาใด ที่รักษาอาการนี้ให้หายขาดได้ ขอให้เทวดาจงน�ำ หมอนั้นมารักษาตัวเรา เจ้ากรรมนายเวรได้รับ บุญของเราแล้ว จงอโหสิกรรมให้เราด้วย ถ้าเรา หายเราจะท�ำบุญให้แก่ท่านยิ่งๆ ขึ้นไป” การ อธิษฐานเบิกบุญเก่าอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่ รบกวน ควรท�ำวันละหลายๆ ครั้ง จนเขาพอใจ อาการป่วยของเราจะหายเร็วขึ้น วิธกี ารให้บญ ุ เจ้ากรรมนายเวร ควรท�ำดังนี้ เป็นตัวอย่างเช่น คนป่วยมะเร็งจุดไหน เมื่อส่ง บุญให้คิดว่า “บุญนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ก่อ ให้เกิดการเจ็บป่วยตรง พวกเชือ้ โรคมะเร็งเมือ่ ได้ รับบุญแล้วขอให้เจ้ามีชวี ติ ทีด่ ขี นึ้ มีภพภูมทิ สี่ งู ขึน้ จงหลุดจากภาวะชีวิตชั้นต�่ำเดี๋ยวนี้ เมื่อเราหาย แล้วเราจะท�ำบุญให้แก่พวกเจ้า ส่งชีวิตให้พวก เจ้าสูงขึน้ เรือ่ ยๆ พวกเจ้าจงเลิกจองเวร จองกรรม ในเราเสียที ตัง้ แต่นเี้ ราจะตัง้ ตนอยู่ในศีลในธรรม เลิกการเบียดเบียนเข่นฆ่าชีวิตสัตว์อ่นื ขอส่งบุญ ที่เกิดจากการรักษาศีลแก่เจ้าด้วย” ผู ้ มี อ าชี พ เกี่ ย วเนื่ อ งกั บ การฆ่ า หรื อ เบียดเบียนสัตว์อนื่ คนเหล่านีต้ อ้ งสร้างบาปกรรม ทุกๆ วัน จึงก่อความเคียดแค้นชิงชังให้แก่สัตว์ 30 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ที่ถูกฆ่าอยู่ทุกวี่ทุกวัน เขาก็พยายามจองล้าง จองผลาญ แต่ในขณะที่บุญเก่าของผู้นั้นยังมีอยู่ เจ้ากรรมนายเวรก็ท�ำอะไรไม่ได้ แต่หากว่า เจ้ากรรมนายเวรได้ช่องทางเมื่อไหร่ วิญญาณ สัตว์ทเี่ คียดแค้นเหล่านัน้ (นายเวร) จะตามมาทวง และให้ร้ายทันที ดังนัน้ ต้องพยายามไถ่ถอนกรรม ของตัวด้วยการท�ำบุญ แล้วอุทิศให้วิญญาณ สัตว์ที่ตัวเองท�ำบ่อยๆ ส่งบ่อยๆ เอาเนื้อสัตว์ที่ เราขายนัน้ ท�ำถวายพระหรือเลีย้ งผูอ้ นื่ อธิษฐานว่า “บุญนี้ให้สัตว์ทั้งหลายที่เราได้ฆ่า หรือผู้อื่นฆ่า เพราะค�ำสั่งเรา เหล่าสัตว์เหล่าใดได้รับบุญแล้ว ขอให้มีความสุข ความเจริญ มีชีวิตวิญญาณ ที่ดีขึ้น จงหลุดพ้นจากกรรมเวรที่ตนเองสร้างไว้ จงมีภพภูมิที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็น เทวบุตร เทวดาในสรวงสวรรค์ เมือ่ ได้รบั บุญแล้ว จงอโหสิกรรมให้เราด้วย” คาถาบริกรรมและปฏิบัติเพื่อปลดหนี้ ต่อเจ้ากรรมนายเวร ตั้งแต่อดีตชาติ เนื่องเพราะเราทุกๆ คน เคยมีหนี้สิน (หนี้ กรรม) มาตัง้ แต่อดีตทัง้ โดยเจตนา และไม่เจตนา พอมาในชาตินี้ จึงปรากฏว่าเกือบทุกคนที่ต้อง เสียเงินทอง เสียทรัพย์สินไปโดยไม่ได้กลับคืนมา การใช้บุญ สร้างความส�ำเร็จในปัจจุบัน 31


เช่น มีผู้มาขอยืมเงินไป แล้วไม่เอามาคืน โดนลัก ทรัพย์ โดนอุบัตเิ หตุในทรัพย์สนิ ทุกชนิดเสียหาย บางคนขายของโดยสินเชื่อแล้วยังไม่ได้เงิน บาง คนโดนโกงแชร์ ฯลฯ เป็นต้น และเกือบทุกๆ คน ท�ำบุญท�ำทาน ถวายพระมากมายแต่ไม่เคยคิดที่ จะน�ำเงินที่มีมาใช้หนี้เก่าที่ติดค้างมาตั้งแต่อดีต ชาติ เจ้ากรรมหนี้ จึงมาทวงคืนตามเวลาและ จังหวะทีเ่ หมาะสมของเขา จึงเกิดเรือ่ งขึน้ ว่า ท�ำไม เราเป็นคนถือศีลท�ำทานแล้ว ยังมีเหตุการณ์ โกงหนี้สินเกิดขึ้นไม่เว้นเลย ฉะนั้น เพื่อเป็นการปลดหนี้กรรม และ ได้รับอโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรดังกล่าว เสียแต่บดั นี้ เพือ่ ความเป็นมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว และสกุล จึงขอให้ท่านบริกรรม-ปฏิบัติ ดังนี้ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ

(สวด 3 จบ)

“ท่านเจ้ากรรมนายเวรทัง้ หลาย ทีข่ ้าพเจ้า (นาย, นาง) ได้ตดิ หนี้ท่านเท่าใด เวลาใด ตั้งแต่ อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ทั้งโดยเจตนาและ โดยไม่เจตนา ข้าพเจ้าขอปวารณาว่า ตั้งแต่วันนี้ 32 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


เป็นต้นไป ข้าพเจ้าจะขอทยอยใช้หนี้คืนให้ ทุกบาททุกสตางค์จนกว่าจะหมด และขออโหสิกรรม ให้แก่ขา้ พเจ้าเพือ่ ความสุขความเจริญของข้าพเจ้า และครอบครัวด้วยเทอญ” (นั่งบริกรรมโดยถือเหรียญ 1 บาท ไว้ใน มือเสร็จแล้วเอาเหรียญหย่อนกระปุกหรือถ้วยไว้ ทุกๆ วัน จนครบ 4 เดือน แล้วเอาเหรียญทัง้ หมด ไปท�ำบุญท�ำทาน ห้ามน�ำไปซื้อของกลับมา) ให้ ท่านท�ำตอนเช้าก่อนที่จะใช้เงินต่างๆ ในทุกๆ วัน ปฏิบัติธรรมอย่าข้ามขั้นตอน อย่าย้อน ความหมาย พระพุทธองค์ ทรงประกาศหลักส�ำคัญ หรือที่เรียกว่า “หัวใจของพระพุทธศาสนา” ดังนี้คือ ขั้นที่ 1 ไม่ท�ำชั่วทั้งปวง ขั้นที่ 2 เพียรสร้างความดีให้ถงึ พร้อม ขั้นที่ 3 ช�ำระจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส นั้นก็คือ อยากเป็นคนปกติต้องละชั่วให้ได้ เสียก่อน เมื่อละชั่วแล้ว ก็ต้องเร่งหมั่นเพียร พยายามสร้างสมคุณงามความดี การใช้บุญ สร้างความส�ำเร็จในปัจจุบัน 33


โอวาทธรรม

คัมภีร์กัปป์สุดท้าย องค์พระศรีอาริยเมตไตรย และพระมหา โพธิสัตว์กวนอิม ทรงน้อมสดับฟังพระวจนะแห่ง องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงเรื่องการประคับ ประคองช่วยเหลือเหล่าเวไนยสัตว์ ที่ต้องผจญ กับความทุกข์ยากและสิ่งชั่วร้าย ในช่วงวาระกัป สุดท้ายว่า “ฟ้าเบือ้ งบนจะทรงบัญชา ให้เทพยดาผู้คมุ เกณฑ์ก�ำหนดตารางสวรรค์ ลงมายังโลกมนุษย์ เพือ่ ส�ำรวจดูคมั ภีร์กปั สุดท้ายนี้ หากพบว่ามีเหล่า สาธุชนเผยแผ่ออกไป ด้วยความเคารพศรัทธา พวกเขาทัง้ หลาย ย่อมสามารถรอดพ้นจากเกณฑ์ วาระแห่งมหันตภัยได้ และทุกชีวิตในครอบครัว จะไร้ทุกข์โศก” ผูท้ ลี่ ะเว้นกรรมชัว่ ถือศีลกินเจ ประกอบ แต่คณ ุ งามความดี จะไม่ต้องเศร้าสลดวิตกกังวล ทีจ่ ะได้ประสบพบเจอกับภัยพิบตั ทิ งั้ 10 ประการ อันได้แก่ 34 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


1. ถูกเพลิงไหม้เผาผลาญ ถูกน�้ำไหลบ่า ท่วมทัน 2. ถูกเมฆหมอก ควันพิษ ท�ำลายล้าง 3. มึนซึม หลับใหลหมดสติตาย 4. ถูกสัตว์ร้าย งูพษิ ขบกัด 5. ถูกประหัตประหาร เข่นฆ่าตายด้วยภัย สงคราม 6. สามีภรรยาต้องพลัดพรากหย่าร้าง 7. ต้องเร่ร่อน อพยพหลบหนี ไม่มีที่อยู่ อาศัย 8. ต้องเผชิญกับอากาศทีผ่ นั แปร ทัง้ หนาว เหน็บ ทั้งร้อนและแห้งแล้ง 9. ต้องเศร้าโศก ต่อภาพของซากศพทีก่ อง เกลื่อนกลาดทัง้ แผ่นดิน 10. ไม่ได้พบเห็นความสงบสุขและสันติ หากมนุษย์ในโลก จิตใจชั่วร้าย ต�่ำทราม ลบหลู่หลักธรรมคัมภีร์ สิ้นศรัทธาในคุณความดี ถึงเกณฑ์ปีวอก ปีระกา ปีจอและปีกุน เมื่อใด เมื่อนั้น มีข้าวก็ไร้คนกิน มีเสื้อก็ไร้คนใส่ มีถนน ก็ไร้คนเดิน มีบ้านก็ไร้คนอยู่ มีที่นาก็ไร้คนท�ำ โอวาทธรรม คัมภีร์กัปป์สุดท้าย 35


จวบจนถึงเดือนห้าเดือนหก สัตว์ร้ายงูพิษจะ ออกเพ่นพ่านไปทั่ว เข้าเดือนแปดเดือนเก้าเหล่า คนชั่วร้ายจะตายสิน้ จนซากศพเกลื่อนกลาดพื้น บนท้องถนนคนล้มตายนับไม่ถว้ น มหันตภัย มาถึง หนึง่ หมืน่ คนตายเก้าพัน พืชพันธุธ์ ญ ั ญาหาร เก็บเกี่ยวได้ผลน้อย เกิดลมพายุฝนฟ้าคะนอง เหล่าพญานาคโหดร้ายเกะกะระรานไปทั่ว ถึงกาลเวไนยสัตว์มภี ยั องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ผู้เป็นใหญ่ จึงบัญชาส่งสองขุนพลจอมเทพ ผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์ ลงสู่แดนมนุษย์เหนือ บรรยากาศโลก เทพยดาที่สั ญ จรอยู ่ เ หนือ โลกมนุษย์ จะบัญชาการส่งหมู่ดาว “อ่านชิง” ลงเก็บกวาดคนชั่วร้ายทั้งหมด จะเกิดทุพภิขภัย ข้าวยากหมากแพง

36 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


องค์พระศรีอาริยเมตไตรย จะปรากฏ สองขุนพลจอมทัพ ผู้พิทักษ์ด่านประตู สวรรค์ ลงสู่แดนมนุษย์นับจากปีจอ เริ่มต้น ด้วยโรคระบาด จนถึงปีกนุ ประชาราษฎร์ในเก้าคน รอดตายเพียงหนึ่ง!

1. ภัยจากแรงลมมหาศาล

2. ภัยจากไฟโหมลุกไหม้

3. ภัยจากน�้ำท่วมใหญ่

4. ภัยจากการท�ำศึกสงคราม

5. ภัยจากโรคร้ายที่ไม่เคยมีมาก่อน

6. ภัยจากสัตว์ร้ายมีพิษขบกัด

7. ภัยจากกระแสไฟฟ้า ฟ้าผ่า

8. ภัยจากอาหารขาดแคลน อดอยาก

9. ภัยจากการคลอดบุตร ทารกร่างกาย ผิดปกติ โอวาทธรรม คัมภีร์กัปป์สุดท้าย 37


10. ภัยจากการสูญสิน้ ของมวลมนุษยชาติ

องค์สมเด็จพระศากยมุนีพระพุทธเจ้า ทรงครองธรรมกาล 3,000 ปี ลุถึงปัจจุบัน ครบบริบูรณ์ พระศรีอาริยเมตไตรยทรงสืบทอด ครองธรรมกาลต่อ เริ่มเข้าเกณฑ์ ปีวอก จนถึงปีชวด พืชพันธุ์ ธัญญาหารจะไม่สมบูรณ์ ผู้คนอดอยากตาย มีภัยสงครามยากจะหลีกหนี! หากมีคนน�ำคัมภีรน์ ี้ ออกไปเผยแผ่ถงึ พัน ถึงหมื่น จะรอดพ้นจากภัยพิบัติเข้าถึงยุคบรรพ กษัตริย์เหยาและซุ่น อันเป็นยุคที่บ้านเมืองเจริญ รุ่งโรจน์ สังคมมีความยุตธิ รรม ผู้คนได้ประสบสุข เกษมสันต์อยู่ร่วมกันในโลกดอกบัว แห่งมหาสันติ เบ่งบาน คนพาลสันดานหยาบ แม้ล่วงรู้คัมภีร์กลับ ลบหลู่ปกปิดมุ่งท�ำลาย ย่อมประสบกับเภทภัยทัง้ สิบประการ ตายแล้วก็ยากจะได้กลับมาเกิดอีก สาธุชนคนดี ประกอบด้วยเมตตาจิตตัง้ ใจ เผยแผ่คัมภีร์ออกไป เขาเหล่านั้นย่อมประสบแต่ ความเป็นสิรมิ งคล ทุกคนในครอบครัวจะร่มเย็น เป็นสุข สามารถรอดพ้นจากมหันตภัยทัง้ หลายได้ 38 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ได้เข้าเฝ้า พระผู้เป็นเจ้าเบื้องบนสูงสุด เพื่อกราบบังคมทูล รายงานถึงความดี ความชั่ว ที่มนุษย์ได้กระท�ำ ครั้นองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงทราบข่าวสภาพ ความเลวร้ายบนโลกมนุษย์ ก็ทรงพิโรธยิ่งนัก และตรัสบริภาษต่อว่า เหล่าเทพยดาทั้งหลายว่า “เสียแรงเปล่าที่ชาวโลกพากันจุดธูปเทียนบูชา กราบไหว้ แต่กลับไม่ยอมอบรมสัง่ สอนเวไนยสัตว์ ทั้งหลายเหล่านั้น มาจนบัดนี้ ในโลกมนุษย์จึง เนืองแน่นไปด้วยคนใจบาปหยาบช้า ผู้คนไม่มี มโนธรรมส�ำนึกหลงเหลืออยู่เลย ดังนั้นจึงต้องมี ราชโองการโทษทัณฑ์ ให้เกิดภัยพิบตั ติ ่อเนือ่ งกัน มาหลายปี เพื่อก�ำราบคนชั่วช้าสามานย์ และให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงจิตใจชาวโลกเสียใหม่” ในเวลานัน้ บรรดาเหล่าทวยเทพทั้งหลาย ได้กราบทูลวิงวอน แม้องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม แห่งทะเลทักษิณ ถึงกับพระวรกายทรุดหมอบลง กับพื้นพระบรมวิมาน ทรงพร�่ำทูลขอให้โปรด กรุณาชาวโลกเป็นหลายครัง้ ว่า ผูช้ วั่ ร้ายสมควรดับ ผูด้ งี ามควรคัดออก องค์เง็กเซียนองค์เต้ จึงทรงพระบัญชา ชี้ขาดว่า โอวาทธรรม คัมภีร์กัปป์สุดท้าย 39


“ดีชั่ว สองฝ่ายแยกกัน! ให้สงครามเจาะจงเลือกที่เกิด! ให้โรคระบาดเจาะจงเลือกคนเป็น!” และให้จอมเทพพิทกั ษ์ธรรม จงรับราชโองการ กวาดล้างมนุษย์ท่กี ระท�ำชั่วร้าย ดังต่อไปนี้

1. พวกที่กล่าวโทษ ด่าว่าฟ้าดิน

2. พวกทีด่ ำ� เนินชีวติ ปฏิบตั ติ นผิดหลักฟ้า ฝืนหลักธรรม

3. พวกที่ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่

4. พวกที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าเป็นอาชีพ ฆ่าเป็นกีฬา 5. พวกทีล่ กั ขโมย ปล้นชิง หยิบฉวยทรัพย์ สมบัติของผู้อ่นื 6. พวกที่โกหกมดเท็จ พูดจาหลอกลวง ให้คนหลงเชื่อ 7. พวกที่ประพฤติผิดในกาม มักมาก ในตัณหาราคะ 8. พวกทีช่ อบดืม่ สุรา ยาเมา สูบบุหรี่ หลงใหล ในสิ่งเสพติด ของมอมเมาสติทุกประเภท 40 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


9. พวกที่ไม่ยึดถือศีลธรรม จิตใจขาด หิริโอตัปปะ ไม่ส�ำนึกละอายใจในการท�ำชั่ว ไม่เกรงกลัวบาปกรรม 10. พวกที่ท�ำลายพระศาสนา บิดเบือน หลักธรรม หลอกลวงเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 11. พวกที่เหยียบย�่ำท�ำลาย พระคัมภีร์ หลักธรรม อักษรหนังสือ 12. พวกทีใ่ จเหีย้ มโหด เข่นฆ่าเบียดเบียน ชีวิตผู้อื่น เพื่อผลประโยชน์ของตน 13. พวกที่ท�ำลายผู้อื่น เพื่อมุ่งผลก�ำไร และความสุขส่วนตน 14. พวกที่ค้าขายใช้เล่ห์เหลี่ยม ขูดรีด คดโกงตาชั่ง 15. พวกที่ค้าขายสินค้าปลอม ยาปลอม หลอกลวงชาวบ้าน 16. พวกทีใ่ ช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบาย ค้าขาย เอาเปรียบคนอื่น 17. พวกทีห่ าประโยชน์จากผู้อนื่ ด้วยการ หลอกลวงต้มตุ๋น โอวาทธรรม คัมภีร์กัปป์สุดท้าย 41


18. พวกที่พูดจาหยาบคาย ทุบตีด่าว่า บุพการี ปู่ ย่า ตา ยาย

19. พวกที่ชอบพูดจาให้ร้ายป้ายสีผู้อื่น

20. พวกทีอ่ ารมณ์ร้าย โมโหโกรธา ด่าว่า คนอื่นไปทั่ว 21. พวกที่ชอบว่ากล่าว ชอบต�ำหนิโทษ ผู้อื่นด้วยใจอคติไม่เที่ยงธรรม 22. พวกผู้ชายที่ไม่จริงใจต่อภรรยา พวก ผู้หญิงที่ไม่เคารพซื่อสัตย์ต่อสามี 23. พวกทีช่ อบยุแหย่ ท�ำลายชีวติ ครอบครัว ผู้อื่นให้แตกแยกล่มสลาย 24. พวกพี่น้อง ที่ไม่รักใคร่ปรองดองกัน คอยแต่แก่งแย่งชิงดีชงิ เด่นฟ้องร้องแย่งชิงทรัพย์ สมบัติมรดก 25. พวกที่วงศ์ตระกูลเดียวกัน แต่กลับ ทะเลาะเบาะแว้งไม่สามัคคีกลมเกลียว 26. พวกที่ ช อบยุ ย งส่ ง เสริ ม ให้ ผู ้ อื่ น ฟ้องร้องคดีความ 27. พวกทีไ่ ม่มคี วามจริงใจ เป็นคนลวงโลก สวมหน้ากากเข้าหากัน 42 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


28. พวกหน้าเนือ้ ใจเสือ ภายนอกแต่งกาย ให้ดูดี แต่ภายในสกปรกโสมม 29. พวกที่อาศัยอ�ำนาจหน้าที่ ใช้อทิ ธิพล ในทางที่ผิด 30. พวกทีก่ ดขีร่ าษฎร ยักยอก ฉ้อราษฎร์ บังหลวง โกงกินบ้านเมือง 31. พวกที่ชักศึกเข้าบ้าน ล้างผลาญ ประเทศชาติ เพื่อผลประโยชน์ของตน 32. พวกผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของ ตนให้ดี กลับใช้อบุ ายวางแผนแก่งแย่งชิงกันเป็นใหญ่ 33. พวกทีช่ อบประจบสอพลอ พะเน้าพะนอ ยกย่องเชิดชูรับใช้คนเลว 34. พวกที่คอยมุ่งร้าย รังแกคนท�ำงานที่ ซื่อสัตย์สุจริต 35. พวกคนพาลสันดานบาป ทีค่ อยก่อกวน ให้ผู้คนเดือดร้อนอยู่ไม่เป็นสุข 36. พวกคนร�่ำรวย แต่ใจร้ายข่มเหง คนยากไร้ 37. พวกที่ชอบยกย่องคนรวย เหยียบย�่ำ คนจน โอวาทธรรม คัมภีร์กัปป์สุดท้าย 43


38. พวกทีเ่ ห็นคนตกทุกข์ได้ยาก ไม่อยาก ช่วยเหลือ 39. พวกที่พบเห็นคน อยู่ในฐานะล�ำบาก ได้รับความทุกข์แต่กลับเฉยแล้งน�ำ้ ใจ 40. พวกที่เห็นผู้อื่นร�่ำรวย ก็เกิดความ อิจฉาริษยา 41. พวกที่เห็นผู้อื่นในฐานะสูงส่ง ด้วย ชื่อเสียงเกียรติยศก็เกิดความโกรธแค้นชิงชัง 42. พวกที่มีจิตใจอาฆาตมาดร้าย ใช้ ไสยศาสตร์มนต์ด�ำสาปแช่งผู้อ่นื 43. พวกทีร่ ำ�่ เรียนคาถาอาคมท�ำร้ายผูอ้ นื่ ท�ำเสน่ห์ยาแฝดฝังรูปฝังรอย 44. พวกที่ชอบฝึกวิชามาร ท�ำพิธใี ช้ภูตผี กลั่นแกล้งท�ำลายล้างผู้อ่นื 45. พวกทีช่ อบเผาป่า ท�ำลายสุสานบุกรุก สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 46. พวกที่กนิ ทิง้ กินขว้าง ไม่รู้จักพระคุณ ข้าว น�้ำ อาหาร

47. พวกที่ทุบตีเด็กเล็กไร้เดียงสาด้วย

44 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


โทสะ ข่มเหง รังแกเด็กๆ ผู้ที่ไม่สามารถจะช่วย ตนเองได้

48. พวกที่อกตัญญู ไม่รู้คุณคน

49. พวกทีป่ ระพฤติตน คิดแบบอย่างชีน้ ำ� สอนให้เด็กอนุชนรุ่นหลัง กระท�ำตามจนต้อง กลายเป็นคนเลว ชีวิตไร้แก่นสาร 50. พวกที่ถือตัวว่าอาวุโสสูงอายุ ใครว่า กล่าวไม่ได้ ท�ำผิดไม่ยอมรับ ตักเตือนไม่ยอมแก้ไข 51. พวกอนุชนรุ่นหลัง ไม่ร้จู กั เด็ก ไม่ร้จู กั ผู้ใหญ่ ไม่ยดึ ถือหลักคุณสัมพันธ์ 52. พวกที่ไม่พิจารณาส�ำรวจดูกรรมดี กรรมชั่วของตนเอง 53. พวกทีเ่ คยตักเตือนให้ทำ� ความดี กลับ ทุ่มเถียงดื้อด้านไม่ยอมฟัง 54. พวกที่คอยเสาะแสวงหาแต่ช่องทาง กระท�ำชั่วอยู่ไม่ว่างเว้น “นี่คือ 54 ข้อกรรมชั่ว ที่ผู้ใดประพฤติ ผู้นั้นจะต้องถูกตรวจตรา ควบคุมเก็บกวาดให้ เรียบร้อย ไม่ให้เหลือไว้ในโลก! เมื่อตายลงไปก็ ต้ อ งถู ก เหวี่ย งเข้ า สู ่ ห นทางเปรต สั ต ว์ น รก โอวาทธรรม คัมภีร์กัปป์สุดท้าย 45


อสุรกาย ยามยังมีชีวิตอยู่ให้พวกเขาเหล่านั้น มีอันเป็นไป สูญพันธุ์ทั้งตระกูล ให้บ้านแตก สาแหรกขาด ให้นองเลือดท่วมแผ่นดิน ให้กระดูก ทับถมในพงพี บ้านเรือนของพวกเขาให้ถูกผู้อื่น อยู่อาศัย ที่นาของพวกเขาให้ไร้คนจะเพาะปลูก ท�ำกินได้! หากมนุษย์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตน ให้ละเว้นความชั่ว สร้างสมคุณความดีผู้ที่เจ็บไข้ ได้ป่วยก็จะหาย อายุจะยั่งยืน” ครั้นครบก�ำหนดเวลา 3 ปี ที่ให้มนุษย์เร่ง ปฏิบตั แิ ต่สงิ่ ดีงาม เมือ่ กระแสความคิดจิตใจและ การกระท�ำของเหล่าเวไนยสัตว์ ถูกน�ำขึน้ กราบทูล รายงานเบื้องบน ทันทีที่องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงทราบ พระองค์ทรงมีพระราชโองการดังนี้ “ข้าฯ จะลงมาตระเวนตรวจตราดูทุกแห่ง อย่างละเอียดถี่ถ้วน ข้าฯ จะด�ำเนินการพิพากษา ตัดสินให้เกิดภัยสงครามอีกระลอกหนึ่ง ภายใน เวลาไม่กี่เดือนให้เกิดโรคระบาดขึ้นอีก บางส่วน ทุกหนทุกแห่งจะถูกเก็บกวาดให้หมดสิ้น! ต่อให้ วิงวอนถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มิตอบ สนอง ต่อให้กนิ ยารักษาโรค ยาก็ไม่ได้ผล ถึงแม้ ต�ำราเสินหนงยังอยู่ ยาวิเศษแค่ไหน ดีชั่วมีผล 46 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ต่างกันคนดีมคี ณ ุ ธรรม กินยารักษาโรคก็สมั ฤทธิ์ ผล คนชั่วช้าสามานย์กนิ ยาแล้วก็ไม่อาจรอด บัดนี้ ข้าเห็นสภาพการณ์ว่า น่าเวทนา ไม่มีวิธีการใด สามารถช่วยเวไนยสัตว์ได้ทัน ต่อให้จุดธูปบูชาข้าฯ ก็เสียแรงเปล่าที่เห็นข้า เป็นเทพยดา น่ากราบไหว้สักการะแต่ปัจจุบันมี ทุกข์ไม่ยอมช่วย ใช่วา่ ข้าฯ จะบิดเบือนต่อเบือ้ งบน ข้าฯ ก็ได้กราบบังคมทูลวิงวอน ด้วยความ เร่งรีบร้อนรนอย่างยิ่ง และต่อชาวโลกเบื้องล่าง ข้าฯ ก็ให้ป่าวประกาศเผยแผ่สัจธรรม ชี้น�ำ ย�้ำเตือนให้ผู้คนได้รับรู้ บัดนีถ้ งึ วาระเข้าสูป่ ลายกัปเกณฑ์มหันตภัย ยุคสุดท้ายปุถุชนธรรมดาให้เก้าคนตายเหลือไว้ เพียงหนึ่ง ให้เกิดสงครามอาวุธหอกดาบมีขึ้น รอบด้าน โรคระบาดจู่โจมบุกรุกทุกแห่งหน อสุ นี บ าตสายฟ้ า ฟาด ผ่ า ดั ง สนั่ น สะเทือ น เลื่อนลั่น อุทกภัยใหญ่น�้ำไหลหลากท่วมท้น บ้านเรือน วาตภัยลมพายุผกผันกวาดไปทุก หนแห่งธรรมชาติแห้งแล้ง ชีวิตทั้งหลายยากจะ อยู่รอด พญามารมาเคาะประตูบ้านในยาม ค�่ำคืน โรคระบาดเข้าประชิดตัวในเวลากลางวัน โอวาทธรรม คัมภีร์กัปป์สุดท้าย 47


เสือร้ายจากป่าเขาออกอาละวาด จะหลบหนีกัน อย่างไร อสรพิษเลื้อยเต็มถนนหนทางจนยาก จะเดิน! มหันตภัยทั้งสิบนี้ ยากจะหลีกหนีพ้น! หากสามารถผ่านพ้นไปได้ จึงจะนับว่าเป็นยอดคน นีแ่ หละคือสิบมหันตภัยอันใหญ่หลวง ข้าฯ มีเพียง ค�ำเตือนให้มนุษย์ทงั้ หลายปรับปรุง เปลีย่ นแปลง จิ ต ใจยั ง พอมี โ อกาส จงรี บ แก้ ไ ขส� ำ นึ ก ในความผิดบาป เมือ่ ได้ยนิ ได้ร้ขู ่าวนีใ้ ห้เร่งกลับตัว กลับใจโดยทันที! อย่ามัวรีรอจนกระทั่งภัยพิบัติ มาประชิดตัว ถึงตอนนั้นจะวิงวอนร�่ำร้องให้ ช่วยเหลืออย่างไรก็ไร้ผล จงสร้างบุญท�ำกุศล สะสมคุณความดีกันเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อหลบหลีก และเป็นเกราะก�ำบังวิบัติภัย เหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลายเอย จงรีบเร่งตั้ง จิตศรัทธาเคารพกตัญญูต่อฟ้าดิน บิดามารดา จงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง ประชาราษฎร์ คนยากจนให้รู้จักเจียมตน ตั้งมั่นอยู่ในความ มัธยัสถ์ ผู้มากมีมั่งคั่งจงรีบเร่งช่วยเหลือเกื้อกูล แก่ผยู้ ากไร้ ผูป้ ราดเปรือ่ งเรืองปัญญา จงพยายาม ตักเตือนช่วยชี้แนะผู้ต้อยต�่ำด้อยความรู้ ให้ได้ 48 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ผ่านพ้นโลกีย์ไปด้วยกัน บุคคลใดไร้บุญบารมี จะตกจมลงสู่ทะเลทุกข์ แต่ผ้มู สี มั พันธ์สะสมมาดี ย่อมจะได้พบกับความสงบสุขและสันติในที่สุด” “บัดนีข้ ้าฯ แฝงธรรมญาณ ยืมปากกาท่าน ไหว้วานบรรดาผู้รู้จักตัวอักษรหนังสือ คัดเขียน ถ่ายทอดให้ข้าฯ แม้หนึ่งเล่ม จะช่วยปกป้อง รักษาให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ถ่ายทอดให้ขา้ ฯ สิบเล่ม ทัง้ ครอบครัวจะพ้น เคราะห์ภัยอันตราย เผยแพร่ออกไปให้ขา้ ฯ ร้อยเล่ม จะปกปักษ์ รักษาให้อายุยั่งยืน อีกทั้งโชคลาภ วาสนาเพิ่มพูนทวี รีบแจก จ่ายธรรมทานคัมภีร์นี้โดยทันทีทันใด จะปกป้อง รักษาให้เกียรติศักดิ์รุ่งโรจน์มยี ศถา หากพบผู้ใดไม่รู้หนังสือ จงใช้วาจาเมตตา บอกต่อให้เขาได้ฟังได้เข้าใจ ถ้าแม้นมีคนโฉด เขลาชั่วร้ายไม่ศรัทธา เคราะห์ภัยจะมาถึงตัว จะประสบวิบัติให้ปวดเศียรเวียนหัว หน้ามืด ตาลาย เจ็ดทวารเลือดไหล ถึงที่ต้องไปเมืองผี ด้วยสิบเหตุเภทภัยร้ายนัน้ โอวาทธรรม คัมภีร์กัปป์สุดท้าย 49


ข้าฯ ไม่อาจกล่าวให้ละเอียดมากความ ไปกว่านี้ คิดอยากจะเผยความลับสวรรค์ ก็เกรง ด้วยเบื้องบนจะลงทัณฑ์ หากคนทั้งหลายไม่เชื่อไม่ศรัทธา ดูหมิ่น ดูแคลนว่าไม่จริง ไม่นานมหันตภัยที่กล่าวไว้จัก มาถึงตัว ผู้มีใจศรัทธา น้อมจิตเชื่อฟังตั้งมั่นอยู่ใน คุณธรรมความดีถือศีลกินเจ เบื้องบนย่อมทรง โปรดเมตตา ปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาด มิให้เภทภัยใดๆ เข้าใกล้ถงึ ตัวได้เลย”

50 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ โอวาทธรรม คัมภีร์กัปป์สุดท้าย 51


พระผู้ลงมาช่วยโลกยุคปัจจุบัน มีที่มาอ้างอิง 2 แห่ง คือ 1.จากหนังสือพระคริสตธรรมใหม่ หน้า 563 “พระองค์ผู้ทรงม้าขาว มีพระนามว่า “สัตย์ซื่อและสัตย์จริง” พระองค์พิพากษาและ ทรงกระท�ำสงครามด้วยความเป็นธรรม พระนาม จารึกไว้ไม่มีใครรู้จัก นอกจากพระองค์ “ทรง ฉลองพระองค์สีจุ่มเลือด และพระนาม คือ พระวาทะของพระเจ้าจอมกษัตริย์ และจอมเจ้านาย ผู้ถือคฑาเหล็ก” 2.จากค�ำกล่าว แห่งหลวงปู่โลกอุดร “พระผู้มาโปรดโลกยุคปัจจุบัน คือ พระผู้ครอง จีวรสีแดงเพลิง” พระผู้มาช่วยโลก คือ พระกษิติครรภ์ มหาโพธิสตั ว์ กับพระมหาโพธิสตั ว์กวนอิมนัน่ เอง (ชาวโลกจงอย่าวิตกใดๆ เลย) 52 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระกษิตคิ รรภ์มหาโพธิสตั ว์ คือ “พระผู้ ถือลูกแก้วสารพัดนึก” อันเป็นผลการสร้าง ของมหาฤๅษี 109 เทพ พรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน 9 แสนจักรวาลร่วมกันสร้าง ซึ่งส�ำเร็จจาก การรวมของแก้ว 9 ประการ (รัตนตรัย) คือ องค์พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมเป็น “องค์แก้วสารพัดนึก” มีฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เหนือฤทธาใดๆ ในจักรวาลเพื่อพิทักษ์รักษา ดูแลจักรวาล และเผยแผ่พระธรรมเพื่อชาวโลก บรรลุ ธ รรมทั้ ง หมดทั้ ง สิ้ น ให้ ลุ ล ่ ว งไปโดย สมบูรณ์ ดูแลปกป้องชาวโลกตลอดไป พระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ ผู้ถือลูกแก้ว สารพัดนึกในพระหัตถ์ซ้าย และถือคฑาเหล็ก ในพระหัตถ์ขวา เผยแผ่พระธรรมในทุกที่ทุก สถานใน 3 โลก นี่คือ พระรัตนตรัยอันเป็นที่พึ่ง ของชาวพุทธ และชาวโลกทั้งปวง คือผู้เป็นครู นั่นเองชาวโลกไม่ต้องทุกข์ร้อนไป

พระผู้ลงมาช่วยโลกยุคปัจจุบัน 53


ค�ำอธิบายศัพท์ พระศรีอาริยเมตไตรย พระโพธิสตั ว์ผ้จู ะ เสด็จมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ ที่ 5 ในอนาคตข้างหน้า สืบต่อจากพระสัมมา สัมพุทธเจ้าองค์ที่ 4 คือ องค์สมเด็จพระศากยมุนี พุทธเจ้า ในกัปป์นมี้ ชี อื่ ว่า ภัทรกัปป์ อันหมายถึงช่วง กาลเวลาที่จะมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติบนโลกนี้ถึง 5 พระองค์ พระโพธิสตั ว์กวนอิม พระฉายานามตาม คติชมพูทวีป คือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ หมายถึง พระโพธิสัตว์ผู้ทรงคอยสดับฟังเสียง ความปริเวทนาสุขทุกข์ของชาวโลก องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ มหาเทพผู้เป็นใหญ่ บนสวรรค์ พระองค์เป็นราชาแห่งเทพ เป็นองค์ ประมุขผู้ปกครองดูแลเทพเจ้าใหญ่น้อยทั้งปวง ในคติไทย คือ พระอินทร์ (ท้าวสักกะเทวราช) 54 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


เทพยดาผู้คุมเกณฑ์ก�ำหนดตารางสวรรค์ ทางจีนขานพระนามว่า “เทียนเหลอเซียน” เป็น เทพยดาผู้ควบคุมดูแลเกีย่ วกับวาระความผันแปร ของโลกและจักรวาลให้ด�ำเนินไปตามเกณฑ์ ก�ำหนดอย่างถูกต้อง กษัตริย์เหยาและซุ่น เป็นกษัตริย์ในยุค โบราณของจีนช่วงเวลาก่อนปี พ.ศ. 1814 และ ก่อนปี พ.ศ. 1712 ตามล�ำดับ ทั้งสองพระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่สูงส่งด้วยคุณธรรมความดี ในยุคสมัยของพระองค์บ้านเมืองร่มเย็น ประชาราษฎร์อยู่กันอย่างสงบสันติสุข พลเมือง ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรมจรรยา ปราศจากโจร ผู้ร้าย ยามค�่ำคืนนอนก็ไม่ต้องปิดประตูหน้าต่าง ทรัพย์สินท�ำตกหล่นตามถนนหนทาง ก็ไม่มีใคร เอาไป หลักคุณสัมพันธ์ หมายถึง ความดีงาม ในการเกี่ยวกันและอยู่ร่วมกันของผู้คนตาม สถานภาพของตน ได้แก่ 1. พ่อแม่ลกู พ่อแม่ตอ้ งรักดูแลเอาใจใส่ลกู ลูกต้องรู้จักส�ำนึกพระคุณมีความกตัญญูกตเวที ต่อพ่อแม่ พระผู้ลงมาช่วยโลกยุคปัจจุบัน 55


2. พีแ่ ละน้อง ต้องรักใคร่สามัคคีปรองดอง ซึ่งกันและกัน 3. สามีและภรรยา ทัง้ สองฝ่ายต้องเคารพ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน 4. เพื่อนต่อเพื่อน ระหว่างเพื่อนฝูงต้อง ต่างมีความซื่อสัตย์จริงใจต่อกันในมิตรภาพ 5. ผู้น�ำและประชาราษฎร์ ผู้น�ำปกครอง ต้องมีคุณธรรม เมตตา กรุณา เอื้ออาทร ประชา ราษฎร์ต้องมีความซื่อสัตย์จงรักภักดี เสินหนง เป็นกษัตริย์ในยุคโบราณของจีน ประมาณ 5,000 ปีล่วงมาแล้ว พระองค์เป็น กษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถในหลายด้าน เช่น ทรงเป็นผู้คิดประดิษฐ์คันไสไม้ และทรงค้น พบเวชศาสตร์จนี ในเรือ่ งยาป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนวิธดี ูแลเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยให้ แก่มวลมนุษย์

56 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


หลักแห่งการ บ�ำเพ็ญธรรม 10 ประการ 1.ตั้งปณิธาน ก่อนท�ำกิจ จึงลงแรง ดั่งปณิธาน รวบรวมจิต

จิตมุ่งมั่น ทุ่มเทไป ตั้งไว้ ศรัทธาขลัง

มีจุดหมาย อย่างมีหวัง ยิ่งมีพลัง มุ่งมั่นไป

2.รักษาศีล รักษาศีล ทุกชั่วยาม ยับยั้งใจ เป็นผู้น�ำ

อยู่ในกฎ มิอาจผ่าน กายวาจา เหล่าเวไนย

บทข้อห้าม ทางสายธรรม การกระท�ำ เลียนแบบเอย

3.จิตอ่อนน้อม น้อมจิตต�่ำ มิเคยคิด ยิ่งคล้อยต�่ำ รับรองด้วย

คู่บ�ำเพ็ญ อยู่สูง ยิ่งชี้ชัด ใจไสว

อยู่เป็นนิจ ข่มผู้ใด เมตตาไซร้ ชนขานนาม

หลักแห่งการบ�ำเพ็ญธรรม 10 ประการ 57


4.ส�ำรวมสาม (กาย วาจา ใจ) ผู้บ�ำเพ็ญ ปฏิบัติตน อยู่ในธรรม วาจาค�ำ ส�ำรวม ทุกเวลา คิดก่อนพูด มิกล่าวร้าย ผู้ใดหนา จึงสมญา ผู้บ�ำเพ็ญ เช่นวันนี้ 5.ขันติ ใช้ขันติ ยับยั้ง ให้สงบ มิหวั่นไหว ยอมถอยหลัง มิแข็งขัน จึงชนะ ใจคน

พายุใจ ใจอดทน จิตผ่อนปรน ที่ตนวอน

6.ขยันหมั่นเพียร หนักก็เอา เบาก็สู้ คู่ใจรัก จิตประจักษ์ ความสุขใจ งานที่ท�ำ แรกขยัน อาจล�ำบาก ต้องตรากตร�ำ หลังขมผ่าน หวานชดเชย ได้กลับคืน

58 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


7.เมตตาจิต จิตโพธิ เมตตาดล กายและใจ ยอมอภัย

มีแต่ให้ บันดาลสุข มีแต่ให้ นี่คือหลัก

มิหวังผล แก่ผู้ให้ แก่เวไนย เมตตาจิต

8.มั่นคงเด็ดเดี่ยว จิตเพียงหนึ่ง ทุ่มเทใจ ให้แก่ธรรม มีฝักใฝ่ น�ำตัวตน ให้หลงวน ด้วยมั่นคง กับจุดหมาย มิสับสน ฝ่าฟันพ้น หลากปัญหา เด็ดเดี่ยวจริง 9.ใจใฝ่ธรรม หมั่นศึกษา หลักพระธรรม เป็นพื้นฐาน หากเกียจคร้าน ดวงปัญญา ฤๅสร้างเสริม อ่านแล้วคิด คิดแล้วท�ำ จิตดีเริ่ม เปลี่ยนแปลงเดิม ที่เลวร้าย ด้วยใฝ่ธรรม

หลักแห่งการบ�ำเพ็ญธรรม 10 ประการ 59


10.รู้ผิดรู้ชอบ ฟังธรรมมา จิตรอบคอบ มิหลงผิด หลีกห่างพ้น

เกิดปัญญา รู้ผิดชอบ ตัดสินความ ตามเหตุผล เดินตามทาง กฎกรรมวน วังมายา รู้ชอบเอยฯ

60 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม หลักแห่งการบ�ำเพ็ญธรรม 10 ประการ 61


การสร้างรอยยิ้ม ในครอบครัว 1. สัญญากับตนเองไม่ท�ำผิดอีก 2. ชมกันหน่อย 3. ให้ก�ำลังใจกันบ้าง 4. ฟังเขาพูดมากกว่าพูดให้เขาฟัง 5. ถามไถ่ทุกข์สุขกันบ้าง 6. รู้จักปฏิเสธงานสังคมบ้าง 7. ท�ำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว 8. รู้จักกล่าวค�ำขอโทษ-ไม่เป็นไร 9. อดทน อดกลั้น ระงับโทสะ 10. ลดทิฐิ หมั่นกล่าวค�ำขอบคุณ

62 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์

ของพระมหาฤๅษีบรมครูปฐมนวโกฏิ แห่งยุคปฐมกัปร์

ของยุคพระเวทย์ (พระนวมหาฤๅษีเป็น บรมครูของทุกศาสดามาก่อนทัง้ สิ้น) 1. พระมหาฤๅษีบรมครูเสด็จ (พ่อแก่) จุไลย ไตรภพเมตต์ (เอกภพ) องค์ประธานปฐม 109 กัปร์กัลป์โกฏิกู่อยู่ด้วยสิทธัตถะ กาลนานเทอญ 2. พระมหาฤๅษีบรมครูพรหมคัมภีรภาพ 3. พระมหาฤๅษีบรมครูเตโชนาคราช 4. พระมหาฤๅษีบรมครูประไลยโกฏิ 5. พระมหาฤๅษีบรมครูทัสมงคล 6. พระมหาฤๅษีบรมครูตาไฟ 7. พระมหาฤๅษีบรมครูตาวัว 8. พระมหาฤๅษีบรมครูนาลัย 9. พระมหาฤๅษีบรมครูนารอด (องค์ธรรมิก ฆราชคู่ลงมาช่วยโลกยุคปัจจุบัน) พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 63


10. พระกษิตคิ รรภ์มหาโพธิสตั ว์ คู่บารมีอมตะ นิพพาน “น�ำโม ตี้จั้งอ้วงผู่ซ่ะ” 11. พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ชั่วนิจนิรนั ดร์ “น�่ำโมกวน ซื่ออิมผู่ซ่ะ” พระมหาฤๅษีนวโกฏิทุกพระองค์ บรรลุ อรหันต์มาก่อน และด�ำรงอมตะอยู่ที่นอกฟ้าป่า หิมพานต์ พระมหาฤๅษีบรมครู ผู้ทรงประทานเสก เทพธิดาสวรรค์ คือ พระนางไพสะเทวีให้มาเป็น พระแม่โพสพเทวี เป็นพันธุ์ข้าวเลี้ยงโลกจวบจน ปัจจุบันนี้ พระมหาฤๅษีบรมครู ทรงเป็นครูผู้สอน พระพุทธเจ้าทุกพระองค์มาก่อน ทรงบันดาล ทุกสรรพสิง่ ทัง้ หลาย ให้เกิดมีในโลกนีแ้ ละให้ดำ� รง อยู่ตลอดไป

64 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระคาถา

พญาครุฑมหาอ�ำนาจ

(ให้สวดนะโม 3 จบ ก่อนทุกพระคาถา)

โอม มะมุต มหา มุต ข้าพญาครุฑ จะเดิน หน ฝูงนาคาจงถอยไปให้พ้น ข้าจะเสกด้วยนะโม พุทธายะ นะชาลีติ ปู่ก้าวเสด็จก๋า สิทธัตถะฯ (ปุจฉา สวดพระคาถาอย่างไร จึงจะขลังเกิด ความศักดิ์สทิ ธิ์)

พระคาถาขอพระพรชัยต่อพรหมโลกเทวา

(ขอต่อชีวิต)

1. ท่านท้าวมหาพรหมระติกา (ปกครอง พรหม 4 หน้า) 2. ท่านท้าวมหาสหบดีพรหม (ปกครอง พรหม 3 หน้า) 3. ท่านท้าวสักกะเทวราช (องค์อินทร์ ปกครองเทพทั้งหลาย) พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 65


4. ท่านท้าวหะทะตะรัฐฐะมหาราช (เป็น พ่อซือ้ ส่งมนุษย์ทกุ คนมาเกิดในโลก และปกครอง โลกมนุษย์ แม่ซ้อื มี 12 องค์ตามเดือนเกิด) ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา โตเสนโตวะระธัมเมนะ โตสัญฐานะสิเววะเร โตสังอะกาสินันตุนันโต สะจิตตังนะมามิหังสิทธัตถะ

พระคาถาพญาพาลีถอนต้นรัง

(ถอนได้ทุกอย่าง, คุณไสยฯ)

นะมะพะทะ ยะทาพะลัง อมพญาพาลีมัง อุสุพภะวัง รูปะขันทัง ปิยังมะมะ สิทธัตถะ นะชาลีติฯ

หาย คลาย หมด ไป ไป หมด คลาย หาย

66 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระคาถาชู ช กขอ 2 กุ ม ารจาก พระเวชสันดร

(ขอได้ทุกอย่าง, คดีถูกใส่ร้ายฯ)

กอ ข้อ ขอ ชาลีโย กัณหาโสชูชกโก ปูชะโก ละภะเต ปูชัง วันตะโก ปะติวันถานัง ยะโส จิตติน ติโพ มิตตัง นะทุปะติ นาชาลีติ สิทธัตถะฯ

พระคาถามหาเมตตา 4 ทิศ

(ขอให้คนทัง้ หลายเมตตา)

สีท่ ศิ วิภาพิน สีภ่ ฟู า้ หน้าครูเทพ, ข้าจะเสก ให้ตัวข้างาม แต่คนทั้งหลาย, ชายเห็นชายรัก หญิงเห็นเอ็นดู จักษุวิญญา, เอ้จิตพรรณนา อิมาหันเต เอ้จติ จงมา หาจิตข้า นะชาลีติ สิทธัตถะฯ

พระคาถากรึงงานให้ส�ำเร็จ

คะเตสิก คะเตสิก คะเตสิก, กรึงสะระณัง อะหังปิดหู อะหังปิดตา อะหังปิดใจ, ชานามิ มะ ชานามิ, ขอให้อยู่กับที่ อยู่ตรงนี้ อยู่ดดี ี อยู่ด้วย, นะโมพุทธายะ นะชาลีติ สิทธัตถะฯ พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 67


พระคาถาบูชาหลวงปู่โลกอุดร

(ขอความส�ำเร็จที่ปรารถนา)

โลกุตโล จะมหาเถโร อะหัง,

วันทามิตัง สะทาเมตตาลาโภ,

นะโสมิยะ อะหะพุทโธฯ

“อมอุอะมะ นะโมพุทธายะ ยะสะสุมัง สิทธัตถะ”

(คาถาหัวใจหลวงปู่โลกอุดร)

พระคาถาเสด็จปู่มหาฤๅษีท�ำลาย สิ่งชั่วร้าย

(ทุกอย่าง)

ปู่ ก้าวเสด็จก๋า นะโมพุทธายะ,

ยะธาพุทโมนะ ก๋าเสด็จก้าวปู่,

ขอปู่จงท�ำลายสิ่งไม่ดที ั้งหลายให้สิ้น,

ทุ ก สิ่ ง ทุ ก สารทิ ศ สิ้ น ด้ ว ย นะชาลี ติ สิทธัตถะฯ

68 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระคาถาเสด็จปูม่ หาฤๅษีลา้ งบาปกรรม ให้

(ล้างได้เมื่อศรัทธาท่าน)

พุทธัง เสด็จปู่ล้างบาปกรรมของข้าให้ส้นิ

ธัมมัง เสด็จปู่ล้างบาปกรรมของข้าให้ส้นิ

สังฆัง เสด็จปู่ล้างบาปกรรมของข้าให้ส้ิน

เสด็จปู่ล้างบาปกรรมของข้าให้สิ้นด้วย

นะโมพุทธายะ นะชาลีติ สิทธัตถะฯ

พระคาถาอิติปิโส 8 ทิศ

(ฤทธิ์แห่งพระนารายณ์)

อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ทิศบูรพาคงกระพันชาตรี ติ หัง จะ โต โร ทิ นัง ทิศอาคเนย์ฝนแสนห่า (มหานิยม) ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท ทิศทักษิณเกลื่อนสมุทร (ปลิดชีพ) โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ ทิ ศ หรดี ขว้างจักร (ท�ำลาย) พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 69


ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ ทิศประจิมตรึงไตรภพ (พลิกแผ่นดิน, ย่นระยะทาง) คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ ทิศพายัพเกลื่อนจักร (ปราบมาร) วา โธ โน อะ มะ มะ วา ทิ ศ อุ ด รพุทธะวาดหิมพานต์ (ญาณรู้พุทธะ) อะ วิช สุ นุส สา นุต ติ ทิศอิสานแปลงรูป (หายตัว)

พระคาถาเปิดทุกอย่าง (สุดแต่จะอธิษฐาน)

พุทธังเปิด...ธัมมังเปิด...สังฆังเปิด... ข้ า พเจ้ า ขอเปิ ด ...ด้ ว ยนะโมพุ ท ธายะ สิทธัตถะ นะชาลีติฯ

พระคาถาแผ่เมตตา 4 ทวีป 5 โลก

ข้าพเจ้าขอแผ่เมตตา ต่อ พรหมโลก เทวโลก มนุ ษ ย์ โ ลก นรกโลก มารโลก ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงมีความสุขกาย สุขใจ อย่าได้มเี วรซึง่ กันและกันเลย จงรักษาตนให้พน้ จาก ทุกข์ภัยพิบัติทั้งหลายนั้นๆ ด้วยนะโมพุทธายะ นะชาลีติ เทอญฯ 70 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระคาถาก�ำแพง 7 ชั้น

(ป้องกันอันตรายทุกอย่าง)

อะสังวิสโุ ล ปุสะพุพะตรึง อะระหัง สะระหัง ปุตตัง ชามามิ นะชามามิ ด้วยนะโมพุทธายะ นะชาลีติ สิทธัตถะฯ

พระคาถาส่งดวงวิญญาณให้ไปเกิดใหม่

กัมมะโตเมตตัง ปะติชวี ติ ตะวิตงั ชีวติ นังจุติ พุทธังชีวิตตัง ข้าพเจ้าน�ำสัตว์ที่มีชีวิต ขอให้ไปปฏิสนธิเทอญ ธัมมังชีวิตตัง ข้าพเจ้าน�ำสัตว์ที่มีชีวิต ขอให้ไปปฏิสนธิเทอญ สังฆังชีวิตตัง ข้าพเจ้าน�ำสัตว์ที่มีชีวิต ขอให้ไปปฏิสนธิเทอญ

พระคาถาขับไล่ผีและถอนคุณไสย

(ใช้ร่วมกับพระคาถาพญาพาลีฯ) พุทธัง ปัดตะ ชามิ.. ธัมมัง ปัดตะ ชามิ.. สังฆัง ปัดตะ ชามิ..

พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 71


ข้าพเจ้าขอขับไล่ ปัดตะชามิ ด้วยนะโม พุทธายะ นะชาลีติฯ

พระคาถาปลุกธาตุ 4 ให้ศักดิ์สิทธิ์

(พระยาธรรมมิคฆราช)

สิทธิ ปัฐวี ภะลาเตชา อิทธา ธาตุดิน ของข้ามีก�ำลังเดชฤทธิ์ สิทธิ อาโป ภะลาเตชา อิทธา ธาตุน�้ำ ของข้ามีก�ำลังเดชฤทธิ์ สิทธิ เตโข ภะลาเตชา อิทธา ธาตุไฟ ของข้ามีก�ำลังเดชฤทธิ์ สิทธิ วาโย ภะลาเตชา อิทธา ธาตุลม ของข้ามีก�ำลังเดชฤทธิ์ สิทธิ อาโก ภะลาเตชา อิทธา ธาตุอากาศ ของข้ามีก�ำลังเดชฤทธิ์ สิ ท ธิ วิ ญ ญาโณ ภะลาเตชา อิ ท ธา ธาตุวิญญาณ ของข้ามีก�ำลังเดชฤทธิ์ พุทธัง กันตัง พุทธังรักษา ธัมมัง กันตัง พุทธังรักษา สังฆัง กันตัง พุทธังรักษา 72 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระพุทธัง อุด พระพุทธเจ้าห้ามอาวุธ อุดอธรรม ด้วย พระพุทธัง พระธัมมัง อุด พระธรรมเจ้าห้ามอาวุธ อุดอธรรม ด้วย พระธัมมัง พระสังฆัง อุด พระสังฆเจ้าห้ามอาวุธ อุดอธรรม ด้วย พระสังฆัง พระพุทธัง ปิด พระพุทธเจ้าแผลงฤทธิ์ ปิดอธรรม ด้วย พระพุทธัง พระธัมมัง ปิด พระธรรมเจ้าแผลงฤทธิ์ ปิดอธรรม ด้วย พระธัมมัง พระสังฆัง ปิด พระสังฆเจ้าแผลงฤทธิ์ ปิดอธรรม ด้วย พระสังฆัง สั พ เพ พุ ท ธา ภะละปั ต ตา ปั ญ เจกะ นันจะ ยังพะลัง อะระหังตัง นันจะ เตเชนะ รักขัง นันธามิ สัพพะโส พุ ท โธ อโหสิ ก รรม พวกศั ต รู ห มู ่ ม าร ทั้งหลาย เมตตา พุทโธ อโหสิกรรม พวกหมู่คน ทั้งหลาย พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 73


สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ ให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ทงั้ ปวงฯ

พระคาถาพุทธคุณแห่งพระพุทธเจ้า ทุกพระองค์

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุรสิ ะทัมมะ สาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ

พระคาถา 3 พระแม่ให้พร

พุ ท ธั ง ธั ม มั ง สั ง ฆั ง ขอพระแม่ ธ รณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ โอบกอดอุ้มชูเลี้ยงดู ขอน�้ำมหามนต์ แห่งพระแม่ราดรดตัวข้าพเจ้านี้ ให้เจริญรุ่งเรือง จะวะพะกะ พุทโธ วะโมตุ ทันตานัง สัมปะติฉามิ ด้วยนะชาลีติ ปู่ก้าว เสด็จก๋า เทอญฯ

พระคาถาสรรเสริญพระคุณแม่

สุหทา มาตา มารดาเป็นผู้ใจดี ชนยะนุตี มาตา มารดาเป็นผู้ให้เกิด

74 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


โมเสนุตี มาตา มารดาเป็นผู้เลี้ยงดู โตเมนุตี มาตา มารดาเป็นผู้ค้มุ ครองรักษา วิญ ญนุ ตี มาตา มารดาเป็ น ผู ้ ห ่ ว งใย เดือดร้อน อนุกะมุปะกา ปะติฏธา จะ ปุ พุ เพ ระ สะ หะ ที จะ โน มะ คุ สะ สะ โล กะ สุ สะ มาตา มารดาเป็นผู้เอ็นดูเป็นที่พึ่ง เป็นผู้ให้รู้รสน�้ำนม มาก่อน เป็นทางแห่งโลกสวรรค์

พระคาถาไล่ศตั รูให้หายกระเด็นไป

อิตินะพุทโธยา อะยะวะนะอิติ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ขอให้ไล่ปัดศัตรูให้หายกระเด็นไป ด้วย นะโมพุทธายะ สิทธัตถะ นะชาลีติ เทอญฯ

พระคาถาของานเกี่ยวกับแผ่นดิน จากพระแม่ธรณี พระแม่ธรณีเจ้าเอ๋ย อยู่แล้วหรือยัง แม่อยู่ นี่แล้วไง ลูกขอเนื้องานที่ดินของแม่ ให้ลูกหน่อย ขอมากๆ หน่ อ ย จะได้ เ ลี้ ย งคอหอย ด้ ว ย นะโมพุทธายะ นะชาลีติ เทอญฯ พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 75


พระคาถาของานเกี่ยวกับการเงิน

(ใช้ร่วมกับคาถาพญาครุฑ) พญาครุฑเจ้าเอ๋ย อยู่แล้วหรือยัง ข้าอยู่ แล้วไง ขอให้ช่วยได้งานการเงินการทองทุกอย่าง ขอมากๆ หน่อย จะได้เลี้ยงคอหอย ด้วยนะโม พุทธายะ นะชาลีติฯ

พระคาถาเสด็จปู่ (พ่อแก่) ครอบเศียร ครอบครูทุกอย่าง เศียรปู่ 109 ครอบลูกแก้วให้เกิดฤทธา ฤทธา เกิดให้แก้วลูก ครอบ 109 ปู่เศียร ปู่ก้าวเสด็จก๋า ก๋าเสด็จ ก้าวปู่ ด้วยนะโมพุทธายะ สิทธัตถะ นะชาลีติฯ

พระคาถาเพิม่ ความศักดิส์ ทิ ธิท์ กุ อย่าง อธิษฐานเอา

พุทธัง อาราธนานัง...(ตัวข้า)...ขลังนะชาลีติ สิทธัตถะ ธัมมัง อาราธนานัง...(ตัวข้า)...ขลังนะชาลีติ สิทธัตถะ สังฆัง อาราธนานัง...(ตัวข้า)...ขลังนะชาลีติ สิทธัตถะ 76 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระคาถาสมปรารถนาทุกอย่าง ในสิ่งที่ต้องการ ต้องได้นะ ต้องมานะ ต้องได้แน่ ด้วย นะชาลีติ สิทธัตถะ

พระคาถาขนุน

(หนุนเนื่องทุกอย่างให้ส�ำเร็จ) ตัง ขัง ณะ มะโล ดัง ตูม ตูม นะ ด้วยนะชาลีติ สิทธัตถะ

พระคาถามะขวิด (ขจัดอุปสรรค สิ่งไม่ดีต่างๆ) ตะ มะ ฟะ ตัก ละ ถะ ตัง โต ตุ ด้วยนะชาลีติ สิทธัตถะ

พระคาถามะรุม (เมตตาและค้าขายดี)

นะมะพะทะ ยะถาพะลัง ด้วยนะชาลีติ สิทธัตถะ

พระคาถามะยม (เมตตามหานิยม)

เมตตา ตะสะขลัง งง งวย ดักลูกด้วย นะชาลีติ สิทธัตถะ พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 77


พระคาถาทับทิม (มีชอื่ เสียงโด่งดัง)

ทะทั ง มะลิ ดั ง ปากครุ ฑ นาคเล็ ก ด้วยนะชาลีติ สิทธัตถะ

พระคาถาเงาะถอดรูป

ตะ สะ ระ จะ อะ ดาวสวยงามลู ก ด้วยนะชาลีติ สิทธัตถะ

พระคาถาเจรจาส�ำเร็จทุกอย่าง

มา...มา มะ มา...มา พูดเจรจาให้ส�ำเร็จ มิไม่ไปไหน

พระคาถาเรียกทุกสิง่

(มะยม, เกลือ, พริก, น�้ำตาล) มา...มา ยะ มา...มา ข้ารับเอา เพราะ... รักข้า

นะตักลาภ...ด้วยนะชาลีติ สิทธัตถะ ฯ

78 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระคาถาขอพรมหาเทพทัง้ 7 พระองค์

พระคาถาบูชาแพทย์ปชู่ วี กโกมารภัจร์

พระศิวะ (อิศวร) ข้าขอพร ความส�ำเร็จทุก ประการ พระแม่อมุ าเทวี ข้าขอพร ให้บนั ดาลความสุข พระพรหม ข้าขอพร ให้โลกเกิดสันติสุข พระแม่สุรัสวดี ข้าขอพร ให้เลิศทางสมอง พระนารายณ์ ข้าขอพร ปราบศัตรูนำ� ธรรมะ ชนะมาร พระแม่ลักษมี ข้าขอพร ทรัพย์ศฤงคาร เพิ่มพูน พระพิฆเนศวร ข้าขอพรให้ทำ� ลายอุปสรรค มารร้ายทั้งปวง (รักษาพระพุทธเจ้า) โอมะ นะโม ชีวะโก สิระสา อะหัง กรุณโิ ก สัพพะสัจจะ โอสะถะ ทิพะพะมันตัง ปะภาโส สุรยิ าจันทัง โกมารภัจร์ ประภาเสสิ ปัณฑิโต สุเมธะโส อะโรคา สุมะนาโมฯ พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 79


พระคาถาเสกเป่าให้คนป่วยหายจาก โรคร้ายต่างๆ พุทธังหาย ธัมมังหาย สังฆังหาย ขอให้หายจากโรค...ด้วยนะโมพุทธายะ นะชาลีติ สิทธัตถะ เทอญ

พระคาถาต่อชีวติ ผูป้ ว่ ย

พระคาถาเรียกเงินทองไหลมาเทมา

พระคาถาส�ำเร็จพระธรรมโดยปาฏิหาริย์

โยรุกเข มหาโยรุกเข ขอให้....(ออกชื่อ) ...ผู ้ ป ่ ว ย ต้ น ไม้ ห รือ คนที่ต ายแล้ ว สามารถ กลั บ ฟื ้ น คืน มาได้ และเจริญ งอกงาม ด้ ว ย นะโมพุทธายะๆๆ นะชาลีติ สิทธัตถะ นะมะอะอุ ปะตะหะ เพี้ยงฯ (สวด 3 จบ) พูดไปจะเป็นเงินเป็นทองมาไวๆ ปะพะ ปะจะ ตะปะ, งะปะ ทะมะ วะวะ ด้วยนะชาลีติฯ

ธะมะมะ ผะจะปะ ตะขะมะ ตะปะกะ สะพะนะ จะตะบะ สะขะวะ ระสะทะ ตะสะสะ ปะตะหะ ด้วยนะชาลีติฯ

80 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พระคาถาอธิษฐานสูงสุดกูแ่ ห่งมหาฤๅษี 109

(ตามจิตปรารถนา)

วิชงั ชา วรังนา ธนัง โหนตุนงั ขออธิษฐาน... ด้วย นะโมพุทธายะ สิทธัตถะ นะชาลีติ เทอญฯ

พระคาถารองสุดกู่ สายเทพ-มหาเทพ และจะส่งให้สงู สุด พะ พะ พะ มะ ธะ, ระ นะ มะ พะ คะ, คะ มะ ละ วะ หะ ยะ หะ สะ ระ ทะ, งะ นะ ปะ ระ ปะ, อะ ละ หะ สะ สะ ด้วยนะโมพุทธายะ สิทธัตถะ นะชาลีติ เทอญฯ (วิสัชนา-จะต้องน้อมร�ำลึก ถึงครูบาอาจารย์ ปู่มหาฤๅษี และผู้เรียบเรียงทุกครั้ง และให้สวด ทุกวัน วันละ 1 จบ)

ค�ำเตือน

ผูใ้ ดศรัทธาท่องไปสวดไปก็จะส�ำเร็จผลตาม อานิสงส์ 35 ข้อที่เสด็จปู่กล่าวไว้ทุกประการ พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 81


แต่ถ้า ผู้ใดแอบอ้างพระคาถาเหล่านี้เป็น ของตน เพือ่ ชือ่ เสียง หรือผลประโยชน์ใดๆ แอบแฝง ก็จะมีโทษถึงตาย และตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิด เสด็จปู่จะขอเตือนพวกขาดศีลธรรมประจ�ำใจ “ข้าพเจ้า...ขออุทศิ ผลบุญธรรมทานในครัง้ นี้ให้แก่ตัวข้าพเจ้า และผู้เรียบเรียงพระคาถานี้ เพื่อเผยแผ่แก่ผู้มีจิตสะอาด และให้แก่พ่อแม่ครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ เทพอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ นาค ครุฑ ญาติมติ ร วงศ์วาร และบริวารทัง้ หลาย ขอให้ศัตรูวนิ าศสันติ เทอญฯ”

82 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


อานิสส์ 35 ข้อ

ที่ได้จากสวดพระคาถา

ทุกพระองค์ทรงตรัสว่า ขอให้ทุกท่าน ตั้งใจสวด พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ของเสด็จ ปู่พระมหาฤๅษีบรมครู ท่านจะเกิดผลานิสงส์ ได้พร 35 ประการ ดังนี้ 1. สวดระลึกถึงเสด็จปูพ่ ระมหาฤๅษีบรมครู ทุกพระองค์อยู่เป็นนิจ เทพอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ นาค ครุฑ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะปกปัก รักษาตลอดไปกาลนานเทอญ 2. กุศลผลบุญจะเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ยงิ่ ๆ ขึน้ ไปทุกทิวาราตรี จะไม่มสี งิ่ เลวร้ายมาแผ้วพาน 3. สร้างสมแต่อริยมรรคผล เป็นสมุฏฐาน ปักใจ แห่งกุศลกรรมมีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป 4. โพธิจิตย่อมไม่บังเกิดความท้อถอย มีแต่บึกบึนอดทนผลบุญเสริมส่งตลอดไป 5. สมบูรณ์ดว้ ยเครือ่ งบริโภค อุปโภคตลอด ไป ไม่ขาดแคลนแสนจะสมบูรณ์ตลอดไป พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 83


6. แคล้วคลาดปราศจากโรคาพยาธิ โรคภัย ไข้เจ็บ ตลอดจนทุกโรคไม่มาเบียดเบียนตลอดไป 7. รอดพ้นจากอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย ไม่พบปะสิง่ เลวร้ายทัง้ ปวง ช่วยปกป้อง คุ้มครอง ให้ทั้งหมด 8. ปราศจากโจรภัย ไม่มาพบปะเจอะเจอ ทั้งสิ้น พบแต่ความดีมีน�้ำใจเมตตาสงสารดี ทุกประการ 9. เป็นที่เคารพยกย่องจากคนทั่วไป คน เข้ามาพบปะเจรจาด้วยเสมอ สมาคมด้วย มีแต่ ความเจริญ 10. เทพารักษ์คุ้มครอง อุ้มชูช่วยเหลือ เสมอ บารมีเสด็จปู่ พระมหาฤๅษีจะคอยดูแล รักษาเสมอไป 11. พระแม่ธรณีทุกพระองค์ เสด็จพ่อ ทุกพระองค์ทงั้ 16 ชัน้ ฟ้า 15 ชัน้ ดิน จะคุ้มครอง ดูแล 12. จะเกิดในตระกูลทีด่ เี ลิศประเสริฐสูงสุด ร่างกายจะสมบูรณ์ไม่มพี ิการและเภทภัยใดๆ 13. มีรูปอินทรีย์ กายอินทรีย์ดีทุกอย่าง ทั้งกาย วาจา ใจ มีแต่ความสุขไม่มที ุกข์ใดๆ 84 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


14. ได้จุติในแดนสวรรค์ และพรหมโลก เทพ พรหม ทุกพระองค์คุ้มครองมีแต่ส่งให้สูง ทุกชั้นไป 15. ภพหน้า จะไปบังเกิดในศีลสาวกของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะได้พบแต่ พระธรรมเสมอไป 16. สามารถหยั่งรู้อดีตชาติ อนาคตชาติ รู้ที่ไปที่มาได้ตลอด เข้าสู่สภาวะบรรลุธรรมได้ ในที่สุด 17. คิดประสงค์สิ่งใด ย่อมได้ดั่งมโน ปรารถนาทุกประการ ทานบารมี บุญหนุนน�ำ สืบเนื่องไป 18. วงศ์วาร ญาติตระกูล อีกทั้งบริวาร เสพแต่ความสุขเกษมส�ำราญ ปราศจากทุกข์ ภัยไข้เจ็บทัง้ ปวง 19. สิ่งอัปมงคลทั้งหลาย ย่อมหายไปสิ้น ทุกทิศานุทิศในสากลโลก ไม่มีโศกมีแต่สุขตลอด กาล 20. ไม่เกิดในนรกภูมหิ รือกลียคุ แต่จะต้อง ไปเกิดในที่ๆ มีพระธรรมซึ่งชนะมารเสมอไป พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 85


21. หากเดินทางสัญจรไป ณ ทีแ่ ห่งหนใด จะได้รบั แต่ความสะดวกสบาย ไร้อปุ สรรคทัง้ ปวง ตลอดไป 22. ในยามราตรีย่อมนิมิตฝัน ในทาง ศุภมงคล ปราศจากการฝันร้ายไม่ดจี ะไม่ได้พบเจอ 23. บรรพบุรุษวงศาคณาญาติที่ล่วงลับ ไปแล้วจะพ้นจากแดนนรกภูมิ แดนทุกข์ทงั้ ปวงและ เสด็จปู่สามารถให้ญาติพนี่ ้องเกิดร่วมบิดามารดา ร่วมตระกูลทุกภพชาติได้ตลอดไป 24. ก�ำเนิดในภพหน้าจะได้มีบุญวาสนา มียศศักดิ์ เกิดในตระกูลแห่งธรรมทุกภพไป ถึง ธรรมแท้จริง 25. มีสติปัญญารอบรู้เป็นเลิศ มีใจอัน ประเสริฐเปีย่ มล้นด้วยเมตตาธรรมทีด่ ยี งิ่ ๆ ตลอดไป 26. ปัจฉิมกาลจักส�ำเร็จ บรรลุธรรม ได้ สัมโพธิญาณล่วงรู้ในพระธรรมแห่งพระพุทธเจ้า ทุกพระองค์ 27. จะเกิ ด ปาฏิ ห าริ ย ์ แห่ ง การสวด พระคาถานีเ้ ป็นนิจ คิดอะไรก็จะสมปรารถนาส�ำเร็จ ประโยชน์ได้ 86 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


28. ความศักดิส์ ทิ ธิม์ หาศักดิส์ ทิ ธิม์ พี ร้อม ในพระคาถาฯ ค่าสุดที่จะประมาณได้เทอญ 29. พระคาถาทุกพระคาถานี้ ศักดิ์สิทธิ์ สุดๆ ทุกบทแยกน�ำไปใช้ได้ตามปรารถนาขลัง สุดๆ เทอญ 30. ตั้งแต่อดีตกาลมา มีผู้น�ำบ�ำเพ็ญ ภาวนา บรรลุธรรมมามากทุกยุคทุกสมัยจริงๆ เทอญ 31. ใครมีเหตุดีหรือร้ายสวดพระคาถานี้ แล้ว อธิษฐานตามปรารถนาได้เลย ใช้ได้ทงั้ สิ้น 32. ความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์ ใน พระคาถามี 3 ประการ 1 มีอทิ ธิฤทธิ์ 2 จิตทันใจ 3 เร็วทันที 33. ใจทีผ่ กู พันในพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ค�ำว่าตรัยสรณคมน์ จิตตัง้ มัน่ บรรลุธรรมถึงญาณ 34. อยากได้อะไร ให้เสด็จปู่ฯ ช่วยอะไร ให้ตงั้ ใจท่องพระคาถา จะได้ผลสมจริงทุกพระคาถาฯ ช่วยได้ทันใจ ทันตาเห็นไม่ต้องกังวลสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น

พระคาถามหาศักดิ์สิทธิ์ 87


35. ช่วยได้ทกุ อย่าง ล้างกรรมได้ ให้กรรม ค่อยๆ หมดไป ไม่ต้องคิดหนักใจ เสด็จปู่ให้ไป เกิดใหม่ก็ได้ ดับไฟนรกก็ได้เทอญ ขอความส� ำ เร็ จ จงมี แ ต่ ทุ ก คนที่ ส วด พระคาถาทั้งหมดนี้ ให้ความส�ำเร็จลุล่วงไปทุก ทิวาราตรีเทอญฯ สาธุ สาธุ สาธุฯ เสด็จปู่มหาฤๅษีฯ กล่าวว่า “พระคาถา ศักดิ์สิทธิ์สุดๆ กว่านี้ยังไม่เห็น ที่ไหนมี” ทั้งหมด ที่กล่าวมานี้ ขออุทศิ เพื่อมรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 เทอญ เปรียบดั่งเสด็จปู่ให้ส�ำเภาทองเพื่อส่ง ลูกหลานสู่ฝั่งนิพพาน เสด็จปู่จะคอยดูแลทุกภพ ชาติตลอดไป

88 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ค�ำอธิษฐานขอพร ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมี 30 ทัศ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จ นิพพานไปแล้ว มากยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทราย ในท้ อ งมหาสมุ ท รทั้ง 4 ด้ ว ยเดชะพระคุ ณ พระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ พระบารมีพระโพธิสตั ว์ พระปัจเจกพระโพธิสตั ว์เจ้า พระอรหันต์ทงั้ หลาย และพระบารมีของพระองค์ พระสมณโคดมบรมครู ขอให้ส่งพลังมายัง ตัวข้าพเจ้าส�ำเร็จ จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าเป็น ผู้ชนะต่ออุปสรรค และบารมีทุกพระองค์พ้นมาร ทัง้ หลาย ขอให้ครอบครัวอย่าได้มที กุ ข์ภยั ตลอดไป ขอให้การประกอบอาชีพเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป

ค�ำอธิฐานขอพร 89


กฎแห่งกรรม กฎแห่งกรรม คือ ท�ำดี ดีตอบสนอง ท�ำชั่ว ชั่วตอบสนอง เป็นต้นว่า หว่านพืชใด ย่อม ได้ผลของพืชนั้น เป็นสัจธรรมเที่ยงแท้ที่มิเคย เปลี่ยน มีบางคนได้ท�ำความดี แต่หน้าที่การงาน กลับไม่ก้าวหน้าสมหวัง หรือไม่ก็เจ็บป่วยตาย ก็หาว่าสวรรค์ไม่มตี า ดีชั่วไม่มีตอบสนอง ที่เป็น เช่นนี้ เพราะเขาไม่ทราบระบบกรรมถ่องแท้ สาเหตุเพราะยังไม่หมดกรรมทีบ่ รรพบุรษุ สร้างไว้ ลูกหลานจึงต้องพลอยรับกรรมนัน้ ด้วย มีบางคน ท�ำแต่ความชั่ว แต่หน้าที่การงานกลับก้าวหน้า และอายุยืน ก็หาว่าฟ้าดินล�ำเอียงที่เป็นเช่นนี้ สาเหตุ เ พราะบุ ญ กุ ศ ลที่ บ รรพบุ รุ ษ สร้ า งไว้ ยังไม่หมด ซึ่งส่งผลถึงลูกหลานได้รับบุญนั้น ด้วย บุคคลอย่าได้โทษฟ้าดินเป็นอันขาด พึงรู้ ว่ากรรมดีกรรมชั่วย่อมส่งผลเสมอ ไม่ช้าก็เร็ว ขัน้ ใกล้ส่งผลถึงตนเอง ขัน้ ไกลส่งผลถึงบุตรหลาน ไม่ มีก ารผิด พลาด ดั ง นั้น ผู ้ ท� ำ ดีผ ลบุ ญ มาก โชควาสนาก็มาก นอกจากส่งผลถึงตนเอง 90 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


แล้วยังส่งผลถึงลูกหลานอีกด้วย ผู้ท�ำชั่วบาป มากภัยพิบัติก็มาก นอกจากส่งผลถึงตนเอง ลูกหลานยังต้องพลอยรับภัยเคราะห์ (กรรม) นั้นด้วย โชคหรือเคราะห์ของคนล้วนก่อตัวมา จากบาปและบุญ จึงขอให้ท�ำแต่ความดี และ เว้นความชั่ว ชาวโลกมักสร้างเวรกรรม โดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ถ้าจะหลีกเลี่ยงจากเวรกรรมก็จงอย่าก่อ เวรสร้างกรรม หรือเบียดเบียนคิดท�ำร้ายผู้อื่น ไม่หาเรือ่ งหาราวหรือปัน้ น�ำ้ เป็นตัววิพากษ์วจิ ารณ์ นินทาว่าร้ายผู้อื่น รู้จักให้อภัยอดกลั้นอดทน อ่อนน้อมถ่อมตนก็จักไม่มเี วรกรรมต่อกัน หรือถ้าหากมีหนี้กรรม ที่สร้างจากชาติ ปางก่อน ตกทอดถึงชาตินี้ เจ้ากรรมนายเวร ก็ย่อมจะมาทวงคืน ดังนัน้ ผู้มีหนี้กรรม ถ้าไม่ถูก โรคภัยเบียดเบียน ก็มักไม่ประสบความส�ำเร็จ ในอาชีพการงาน ชีวติ มีแต่ปญ ั หา อุปสรรคนานา หรือไม่ก็ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บ หรือเสีย ทรัพย์ เป็นต้น ถ้าจะแก้กรรมของชาติก่อน ก็จงอย่าได้ โทษฟ้าโทษดิน ไม่ใจคับแคบตระหนี่ถี่เหนียว กฎแห่งกรรม 91


ตั้งหน้าตั้งตาท�ำความดี หมั่นสร้างบุญกุศล ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพื่อเอากุศลนี้ไปไถ่บาป จึงจะสามารถแก้เวรกรรม (สะเดาะเคราะห์) ได้ภาษิตว่า “เวรจงแก้แต่อย่าก่อ” เมื่อสร้าง กรรมใดกรรมนั้นจักเป็นเงาตามตัว แม้จะไป วอนพระเจ้า กรรมนั้นก็ไม่อาจแก้ได้ มีแต่การ ท�ำความดีสร้างกุศลเท่านั้น เช่น พิมพ์หนังสือ สวดมนต์ หนังสือธรรมะแจกจ่าย บรรยายธรรม ชี้แนะให้คนละชั่วท�ำดี ผลบุญเหล่านี้แรงมาก เบื้องบนจึงจะสามารถอนุญาต ให้น�ำบุญมาลบ ล้างเวรกรรมเมื่อนั้นหนี้กรรมต่างๆ ก็จักหมดไป

รวยหรือจนอยู่ท่ตี น ผู้ที่ชาตินี้เกิดมามีฐานะร�่ำรวย เพราะชาติ ก่อนได้เคยบ�ำเพ็ญมา และถ้าชาติน้ปี ระพฤติตน อ่อนน้อมถ่อมตน มีความเมตตา หมั่นท�ำบุญ ให้ทาน สร้างสมบุญบารมี จักร�่ำรวยถาวร บุตร หลานเจริญรุ่งเรือง ผู้ทชี่ าตินเี้ กิดมาในตระกูลร�ำ่ รวย แต่ใช้จ่าย ฟุ่มเฟือยสุร่ยุ สุร่าย ไม่ร้จู กั สร้างบุญกุศล เย่อหยิง่ ยโส ชอบข่มเหงรังแกคนอื่นอย่างไร้เมตตา ส่วนเรื่องการบุญการกุศล ตระหนี่ถี่เหนียวแต่ 92 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


เรือ่ งสุรานารี การพนันเท่าไหร่เท่ากัน ไม่เสียดาย เงินทอง เมื่อใดบุญเก่าเสพหมดรวยอยู่ไม่นาน ก็ จั ก กลั บ ยากจน ครอบครั ว ล� ำ บาก ไร้ ค น เหลียวแล ลูกหลานก็พลอยล�ำบากไปด้วย ผู้ทชี่ าตินี้ เกิดในครอบครัวยากจนต�ำ่ ต้อย แต่ขยันและประหยัด สงบเสงี่ยมเจียมตน เป็น คนใจดี ไม่ประพฤติชั่ว รักถนอมสิ่งของ ย่อมจัก ได้บุญดีมีความกตัญญู ยากจนไม่นานจักกลับ ร�่ำรวย ผู้ที่ชาตินี้ เกิดในครอบครัวยากจนต�่ำต้อย ไม่เสงี่ยมเจียมตน เกียจคร้าน ไม่ยอมท�ำงาน ท�ำการ เอาแต่กินและเที่ยวเตร่ ไม่พยายาม หาความเจริญก้าวหน้า บั้นปลายคงต้องตกสู่วถิ ี ดาวโจร นั่นย่อมจะยากจนและตกต�่ำยิ่งขึ้น จงจ�ำไว้ว่าความยากดีมีจน แม้จะได้ถูก ก�ำหนดไว้ในดวงชะตาแล้วก็ตาม แท้จริงแล้ว ดวงชะตานั้น ตนเองคือผู้สร้างและผู้รับนั่นเอง ไฉนจึงไม่บ�ำเพ็ญคุณความดี แล้วจะอยู่ในสังคม ได้อย่างไร? ขอให้ท่านทั้งหลายจงรู้แจ้งสัจธรรม นี้ แล้วเร่งรีบปฏิบัติ กฎแห่งกรรม 93


กรรมก�ำหนด พี่น้องมีอะไรหน่อยก็ทะเลาะวิวาท พี่ไม่ ยอมผ่อนปรนน้อง น้องก็ไม่เคารพย�ำเกรงพี่ เป็น เพราะ ชาติก่อนต่างขาดเมตตาธรรมข่มเหงรังแก กัน ชาตินี้ต้องมาเกิดเป็นพี่น้องกันหรือมาแย่ง สมบัติกัน พี่น้องต้องกลายเป็นคู่แค้น สามีภรรยาที่ชอบทะเลาะวิวาทกัน เป็น เพราะชาติก่อนภรรยาคิดร้ายต่อสามี หรือสามี ข่มเหงภรรยา จึงเป็นเวรกรรมต่อกัน ชาตินจี้ งึ ต้อง มาเกิดเป็นสามีภรรยากันอีก หรือฝ่ายหญิงมา เกิดเป็นชาย หรือฝ่ายชายมาเกิดเป็นหญิง เพือ่ ใช้ หนี้กรรม ที่ชาตินี้ก�ำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก หรือแก่ชรา ไร้บตุ รหลานดูแลเป็นเพราะชาติก่อนท�ำแท้งหรือ ฆ่าทารกแรกเกิด ชาตินี้จึงต้องอยู่คนเดียวเป็น กรรมสนอง 94 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ที่ชาติน้ีเกิดเป็นทาสหรือคนใช้ ต้องถูก ข่มเหงรังแก เป็นเพราะชาติก่อนเป็นเถ้าแก่หรือ นายหญิงใจคอคับแคบโหดร้าย ชาตินี้จึงต้องมา เกิดเป็นนายบ่าวอีกแต่กลับกัน เพือ่ เป็นการชดใช้ หนี้กรรม ทีช่ าตินอี้ ยูอ่ ย่างไม่สขุ สบายยากจนล�ำบาก กินไม่อมิ่ ท้อง เป็นเพราะชาติกอ่ นไม่รกั ธัญญาหาร กินทิ้งกินขว้าง ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย ชาตินี้ จึงต้องล�ำบากยากจนคิดท�ำการใด ก็ประสบแต่ ความล้มเหลวอันเป็นกรรมสนอง ทีช่ าตินอี้ ายุไม่ยนื มีโรคภัยไข้เจ็บอยู่เสมอ เป็นเพราะชาติก่อนชอบฆ่าสัตว์ตดั ชีวติ ไร้เมตตา ปรานีต่อสัตว์ ส่งผลให้ชาตินี้ถูกตัดทอนอายุขัย ต้องรับทุกข์ทรมานจากการเบียดเบียนของโรค ภัยไข้เจ็บ ซึ่งเป็นกรรมสนอง ที่ชาตินี้แม้จะใฝ่ธรรมะมุ่งหลุดพ้น ไม่กล้า ท�ำชั่วแม้แต่น้อยมุ่งท�ำความดีขัดเกลาตน แต่ ต้องมีภาระผูกพันทางครอบครัวมาก ไม่อาจ ปลีกตัวพ้นจากภาวะหน้าที่ เป็นเพราะชาติก่อน กฎแห่งกรรม 95


ติดค้างหนีส้ นิ เขายังไม่ช�ำระ หรือยังไม่ได้ทดแทน บุญคุณเขา ชาตินี้จึงต้องชดใช้หนี้กรรม ดังนั้น แม้จะใฝ่ธรรมะ คิดบ�ำเพ็ญธรรมก็ไม่อาจปลด เปลื้องพันทนาการจากทุกข์นนั้ จึงกล่าวได้ว่า ที่ชีวิตในชาตินี้ไม่สมหวัง เป็นเพราะวิบากกรรมจากชาติก่อน เป็นมูลเหตุ วิบากกรรมเหล่านี้ ต้องขจัดให้สิ้นเสียก่อน (โดยการสร้างบุญกุศล) คิดท�ำการใดจึงจะราบรืน่ ไร้ อุ ป สรรคขวากหนาม แต่ ถ ้ า ไม่ เ ชื่ อ เรื่ อ ง กฎแห่งกรรม ชาตินี้ยังคงสร้างบาปกรรมต่อ ไปอีก ทุกภพทุกชาติกจ็ กั ชดใช้ไม่รจู้ กั จบสิน้ ขอให้ ท่านทัง้ หลายพึงสังวร และจงเร่งรีบสร้างความดี ทุกอย่างเท่าที่มีโอกาสได้ท�ำ เพราะพรุ่งนี้อาจ ไม่มีโอกาสได้ท�ำ! ขออนุโมทนา

96 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


พึงท�ำทุกอย่าง เพื่อไม่ให้อนาคตต้องเป็นทุกข์ อย่าคิดผิดว่า เมื่อถึงวันนั้นเวลานั้น ก็จะ จ�ำไม่ได้แล้วว่าเราเป็นเรา อะไรเกิดขึ้น ก็ไม่ เดือดร้อน ความคิดเช่นนี้อาจจะเกิดแก่เราแล้ว ในอดีตชาติ และมาในปัจจุบัน เมื่อต้องพบกับ ความเดือดร้อน เราก็เดือดร้อน มิใช่ว่าเราไม่ เดือดร้อน ทั้งที่ไม่ใช่ว่าเราจะจ�ำได้ว่า เราเป็นเรา ไม่ว่าจะเกิดเป็นใคร เป็นอะไรเมื่อใด ภพชาติ ไหนก็ตาม เมื่อเป็นทุกข์ ก็ต้องทุกข์ เมื่อเป็น สุขก็ต้องเป็นสุข จึงไม่ควรประมาทอย่างยิ่ง จึง ควรพยายามท�ำทุกอย่าง เพื่อไม่ให้ในอนาคต ต้องเป็นทุกข์ หรือเพื่อไม่ให้กรรมไม่ดีที่ท�ำไว้ ตามทัน ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม

กฎแห่งกรรม 97


ค�ำขอขมา และอธิษฐานจิต คนเราเกิ ด มาหลายภพหลายชาติ มี เจ้ากรรมนายเวรทีแ่ ตกต่างกัน การสวดมนต์และ ขอขมากรรมเพือ่ ลดและปลดหนีก้ รรมให้ลดน้อย อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้ ตั้งนโม 3 จบ สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะระราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ หากข้าพเจ้า...จงใจ หรือประมาทพลาด พลัง้ ล่วงเกินบิดามารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริย สงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึง ผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตาม มาขออนุญาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติ 98 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ทัว่ ไป ขอถอนค�ำอธิษฐาน ค�ำสาบานทีจ่ ะติดตาม คู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้ า พเจ้ า จะประพฤติ ต น ในทางที่ ถู ก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามี ความสว่างทัง้ ทางโลกทางธรรม ตัง้ แต่บดั นีต้ ราบ เข้าสู่พระนิพพานเทอญ หากมีผู้ใด เคยสร้างเวรสร้างกรรมกับ ข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้า ยิ น ดี อ โหสิ ก รรมให้ ยกถวายพระพุ ท ธเจ้ า ให้เป็นอภัยทาน ขอถอนความอาฆาตพยาบาท และค�ำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้า พ้นจากค�ำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรม นายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ ได้พบแสงสว่างทัง้ ทาง โลกทางธรรมเทอญ

กฎแห่งกรรม 99


ค�ำเตือน มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ เหมือนปลา ทีว่ า่ ยอยูใ่ นตู้ ว่ายเวียนไปมาไม่รจู้ บ จะไม่สามารถ หลุดพ้นจากตู้ได้ นอกจากความตายหรือหลุมศพ นั่นเอง มนุษย์ทุกชีวิตจะต้องเกิด แก่ เจ็บ และ ตาย เป็นของแน่นอนที่สุด แล้วท�ำไมจึงต้องมา กลั่นแกล้งกัน ทะเลาะกัน เกลียดชังกัน อิจฉา ริษยากันเพื่ออะไร ท�ำไมไม่อภัยให้ซึ่งกัน และกัน ท�ำให้เกิดสุข จิตจะได้สงบ ไม่กลุ้มใจ ท�ำให้เกิดความเครียด ดังนั้นเรามาร่วมกัน หั น เข้ า หาธรรมะ เพื่อ จะได้ มีจิต สงบสบาย คลายทุกข์ และจะได้ละโลภ โกรธ หลง เพื่อ ตั ด กิ เ ลส อั น เงิ น ทอง ลาภ ยศ สรรเสริ ญ หรือ เกียรติยศต่างๆ ล้วนแล้ว แต่ไม่จีรังยั่งยืน เมื่อได้แล้วก็เสื่อมไป ดังนั้น จงปลงเสีย แล้วรีบ สร้างความดีตงั้ แต่วันนี้ พรุ่งนี้อาจไม่มีเวลาท�ำ บุญเราไม่เคยสร้าง... ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า...! 100 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


“ลูกเอ๋ย ก่อนจะเทีย่ วไปขอบารมีหลวงพ่อ องค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของ ตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึง ค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้า จะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่ เที่ยวไปขอยืมมาจนล้นตัว เมื่อท�ำบุญท�ำกุศล ได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพ หน้า หมัน่ สร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง จงจ�ำไว้นะ เมือ่ ยังไม่ถงึ เวลาเทพเจ้าองค์ใด จะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดิน ก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหน มาช่วยเจ้า” (นี่คือ ค�ำเทศนาของเจ้าประคุณสมเด็จ พระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่ได้โปรดชี้ธรรม ไว้ในนิมิต หลังจากที่ท่านล่วงลับไปแล้วเมื่อ 100 กว่าปี อันเป็นปฐมเหตุที่พวกเราทั้งหลาย จะต้องเร่งสร้างความดีกันอย่างไม่มที ี่สิ้นสุด)

กฎแห่งกรรม 101


คัมภีร์ปลุกชาวโลก: เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ พระเจ้ากวนอู หรือท้าวสักกะเทวราช (เง็กเซียนฮ่องเต้) องค์ท่ี 18 พระเจ้ากวนอูตรัสไว้ว่า คุณค่าของความ เป็ น มนุ ษ ย์ นั้ น อยู ่ ที่ ก ารมี ค วามจงรั ก ภั ก ดี ความกตัญญู และมีคุณธรรม จึงจะนับได้ว่าเป็น มนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุด และสามารถยืนหยัดอยู่ บนสวรรค์หรือบนพิภพนี้ได้ หากมนุษย์เราไม่ จงรักภักดีต่อประเทศชาติ ไม่กตัญญูต่อบิดา มารดา ไม่รักษาสัจธรรมแล้วไซร้ ถึงตัวยังมีชีวิต อยู่ แต่ด้านจิตใจเสมือนหนึ่งได้ตายจากไปแล้ว และจะอยู่แบบลับๆ ล่อๆ ไม่มีความหมายอะไร จิตของมนุษย์คอื เจ้า เจ้าก็คอื จิต ถ้ากระท�ำสิง่ ใด ที่ไม่ละอายต่อจิตแล้ว ก็เท่ากับไม่ละอายต่อเจ้า การกระท�ำสิ่งใดที่หลอกลวงจิตตน ก็เท่ากับ หลอกลวงเจ้า เพราะฉะนั้นสาธุชนควรรู้ถึงสาม ข้อที่ควรเกรงกลัว 102 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


1.เกรงกลัวต่อโองการสวรรค์ 2.เกรงกลัวต่อผู้หลักผู้ใหญ่ 3.เกรงกลัวต่อค�ำพูดของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสี่ข้อที่ควรรู้ (รู้ฟ้า รู้ดิน รู้เขา รู้ตน) พึงระมัดระวังไม่ให้ตัวเองกระท�ำในสิ่งที่ผิด จงอย่าคิดว่าหลบอยูใ่ นห้องมืดหรือบ้านร้าง ท�ำสิง่ ชั่วช้าสามานย์ แล้วจะไม่มีใครเห็น แท้ที่จริง การเคลื่อนไหว หรือการกระท�ำใดๆ ล้วนอยู่ใน สายตาของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น สิบตาต่าง เพ่งมาที่การกระท�ำของพวกเราอยู่ และจงอย่า คิดว่า ที่พูดนั้นปราศจากข้อมูล กรรมที่คนเรา ก่อขึ้นย่อมได้รับสนองทั้งนั้น จะไม่ผิดพลาดแม้ แต่เส้นผมเพียงเส้นเดียว กามตัณหาเป็นยอด แห่งความชั่วทั้งปวง ความกตัญญูเป็นยอดแห่งความดี โปรดอย่าคิด ว่าสิ่งที่ขัดต่อศีลธรรม หากแต่มผี ลประโยชน์แก่ ตนแล้วก็ไปกระท�ำ สิ่งที่ชอบธรรมแต่ไม่เกิด ประโยชน์แก่ตน แล้วไม่ยอมกระท�ำ หากท่านใดทีท่ ำ� ให้ข้าฯ ผิดหวัง จงมาทดลองคมมีดของข้าฯ ความเป็ น คนนั้ น ควรเคารพฟ้ า ดิ น สักการบูชาสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิ์ เซ่นไหว้บรรพบุรษุ ทีล่ ว่ งลับ ค�ำภีร์ปลุกชาวโลก: พระเจ้ากวนอู 103


ไปแล้ว กตัญญูต่อผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง เคารพ กฎหมายของบ้านเมือง เคารพครูบาอาจารย์ รักพี่รักน้อง มีสัจจะต่อเพื่อนฝูง ผูกมิตรกับบ้าน ใกล้เรือนเคียง ก่อสันติสุขระหว่างสามีภรรยา อบรมลูกหลานให้ความสะดวกแก่ผู้อื่นเสมอๆ สร้างบุญกุศลทั้งในที่แจ้งและที่ลับ ช่วยเหลือ ผู้เดือดร้อน จุนเจือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ทะนุบ�ำรุง หรือก่อสร้างโบสถ์ศาลา บริจาคทุนทรัพย์ร่วม พิมพ์หนังสือธรรมะ และคัมภีร์ บริจาคยาแก่ ผู้เจ็บไข้ แจกจ่ายน�้ำแก่ผู้กระหาย ไม่ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต สร้างถนน ซ่อมสะพาน สงเคราะห์ ผู้เป็นหม้าย บรรเทาทุกข์ร้อนของผู้อื่นเพื่อ พยุงบุญกุศลที่ตนได้สร้างสมมา ช่วยเหลือ ผู้มีความทุกข์ และอย่ายุยงผู้อื่นให้มีคดีความ สละเงินทองเพือ่ ส่งเสริมผูอ้ นื่ สมหวัง ในสิง่ ทีด่ งี าม แนะน�ำชี้แนะผู้อื่นให้รู้กฎแห่งกรรม ไม่จองเวร ต่อกัน ไม่โกงตาชั่ง คบค้าสมาคมกับคนที่มี ศีลธรรม ไม่คบหาคนชั่วเป็นมิตร จงปกปิด ความชั่วของผู้อื่น และสรรเสริญแต่ความดีงาม ของผู้อื่นเท่านั้น จงมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ ช่วย เหลือผู้ประสบอุทกภัยหรืออัคคีภัย กลับเนื้อ กลับตัวเป็นคนมีคุณธรรม ส�ำนึกผิด และเริ่มต้น 104 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


เป็นคนดี ต้องมีจิตเมตตาการุณย์ อย่าให้มี ความชั่วช้าสามานย์อยู่ในสมอง ถ้าเป็นสิ่งที่มี ประโยชน์ต่อส่วนรวม จงมีจิตมั่นคงและปฏิบัติ ให้ดี การกระท�ำของตนไม่มใี ครรู้เห็น แต่เทพยดา เบื้องบนรู้แจ้งมาตลอด และจะประทานบุญ ต่ออายุขัยให้ลูกหลานรุ่งเรือง เคราะห์ร้ายและ ความเจ็บไข้ได้ป่วย จะไม่มาเยี่ยมเยียน ภัยพิบัติ ไม่อาจมาก่อกวน ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงในบ้าน จะอยู่อย่างสงบ ดาวมงคลจะให้ผล หากมีจติ คิดชัว่ ไม่ประกอบกรรมดี คิดไป ข่มขืนลูกเมียคนอืน่ ท�ำให้การสมรสของผู้อนื่ ต้อง พังทลายลง ท�ำลายชือ่ เสียงของผู้อนื่ อิจฉาริษยา เมื่อเห็นผู้อื่นมีปัญหา กระท�ำสิ่งที่เป็นประโยชน์ แก่ตน โดยไม่ค�ำนึงถึงความเดือดร้อนเสียหาย ของผู้อื่น เพื่อให้ครอบครัวตนร�่ำรวย หรือเมื่อ ไม่สมเจตนารมณ์ตนก็โทษฟ้าดิน โทษฝน โทษลม กล่าวร้ายนักปราชญ์ท�ำลายพระพุทธรูป และ เหยียดหยามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฆ่าวัวควาย และสุนัข เอาหนังสือ หรือหนังสือพิมพ์ไปเช็ดน�้ำอุจจาระ หรือสิ่งสกปรก เอาอิทธิพลหรือความร�่ำรวยของ ตนไปข่มเหงผู้บริสุทธิ์และคนยากจน ยุแหย่บิดา ค�ำภีร์ปลุกชาวโลก: พระเจ้ากวนอู 105


มารดาหรือพี่น้องของผู้อื่น เกิดความแตกร้าว กินใจกัน ไม่เชื่อสัจธรรม ประพฤติตนเยี่ยงโจร ปล้นฆ่า ข่มขืน ไม่เกรงกลัวต่อบาป ไม่ละอาย ต่อฟ้าดิน ชอบมีชีวิตฟุ้งเฟ้อ ชอบโอ้อวดไม่รู้จัก ประหยัด ไม่ขยันหมั่นเพียรในหน้าที่การงาน ไม่ เสียดายพืชผลกินทิ้งกินขว้าง ไม่รู้จักบุญคุณคน ไม่เพียงแต่หลอกลวงตัวเอง ยังหลอกลวงจิตใจ ทัง้ ๆ ทีจ่ ติ ตนรูว้ า่ อะไรดีอะไรชัว่ ค้าขายไม่ยตุ ธิ รรม ชอบโกงตาชั่ง ตั้งตนเป็นศาสดา หลอกลวงผู้อ่นื ให้เห็นผิดเป็นชอบ ว่าสามารถน�ำพาผู้คนสู่ สวรรค์ได้ ท�ำทุกวิถีทางทั้งทางตรงและทางอ้อม ขอเพียงได้หลอกลวงทรัพย์สินของผู้อื่น มาเป็น ของตน ชอบบิดพลิว้ ความจริง พูดจาไม่อยู่ในร่อง ในรอย บนบานต่อฟ้าดินแต่ลับหลังวางแผน ท�ำลายผู้อื่น ขาดคุณธรรม ทวนกระแสสังคม ไม่เชือ่ ว่าท�ำดีได้ดี ท�ำชัว่ ได้ชวั่ น�ำพาผู้อนื่ ไปทางชัว่ ไม่ยอมท�ำความดี วันๆ ท�ำแต่สิ่งชั่วร้ายสามานย์ ชอบเล่นลิ้น ก่อคดีความ การประพฤติชั่วร้ายนี้ ผลคือจะได้รบั ภัยวิบตั จิ ากอุทกภัย อัคคีภยั ขโมย ปล้นจี้ โรคร้าย ลูกหลานโง่เขลา และบุตรชาย เกิดจะเป็นโจร บุตรีเกิดเป็นหญิงชั่ว ตัวเองก็ อายุสั้นบ้านแตกสาแหรกขาด ผลกรรมนี้จะ 106 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


สัมฤทธิ์ผลในชาตินี้เป็นอย่างเร็ว หรือไม่ก็ตกอยู่ กับลูกหลานตน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบอย่าง ละเอียดไม่มีการผิดพลาดแม้แต่นิด ความดีกับ ความชัว่ ในสองทางนีจ้ ะแบ่งแยกทางความโชคดี และเคราะห์กรรม ท�ำดีย่อมได้ดี ท�ำชั่วย่อมได้ชั่ว ผลกรรมตอบสนอง การกล่าวของข้าฯ นี้ หวังว่า ผู้คนทัง้ หลายจงปฏิบตั ติ าม ถึงแม้เป็นค�ำพูดตืน้ ๆ แต่ก็เป็นประโยชน์แก่กายและใจ หากมีใคร พูดจาเยาะหยัน จะได้รับโทษจากข้าฯ โดยคมมีด ของข้าฯ ผู้ที่หมั่นอ่านคัมภีร์นี้ จะแคล้วคลาดจาก เคราะห์ร้าย และความมั่งมีศรีสุขจะมาเยือน ขอบุตรได้บุตร มีอายุยนื นาน มั่งมีด้วยโภคทรัพย์ และชื่อเสียง ปรารถนาสิ่งใดในทางถูกต้อง จะได้สมหวังทุกประการ ผลบุญเหล่านั้นจะ มีได้ก็ต่อเมื่อประกอบกรรมดีเท่านั้น ข้าฯ ไม่มี การล�ำเอียงใดๆ เพียงต้องการคุ้มครองผู้มี ศีลธรรม ผู้มีจิตเมตตา และนักบุญเท่านัน้ ขอให้ ชาวโลกจงปฏิบัติแต่ความดี ละเว้นจากความชั่ว ทั้งปวง

ค�ำภีร์ปลุกชาวโลก: พระเจ้ากวนอู 107


เหตุการณ์จริง เทพเจ้ากวนอูจุตลิ งโปรดมวลมนุษย์ ประจักษ์หลักฐานทีป่ ระเทศจีน มณฑลเสฉวน มณฑลเสฉวนก�ำลังมีโรคระบาด ทีด่ า้ นขวา วัดเทพหยังเจีย่ น มีคนแก่คนหนึ่งชื่อว่าหวังซันฉง ปกติชอบท�ำบุญท�ำทาน อุทิศเวลารวบรวมผู้คน ทั่วทุกทิศมาสร้างที่บูชาใหญ่ ที่วัดหวินเฟิง เวลา ตอนเที่ ย ง วั น ที่ 6 เดื อ นเมษา คนงานชื่ อ เฉินชิ่งมามองดูที่บูชา ได้มองเทวรูปของพุทธะ คือเทพเจ้ากวนอู อยู่ๆ กลองในวัดก็ดังขึ้นเอง เขาตกใจรีบคุกเข่าลง ก็มเี สียงเทพตะโกนออกมา ด้วยความโกรธ “ตัวข้าพเจ้านี้ ตอนสมัยยังมี ชีวติ อยู่ ใช้ความซือ่ สัตย์เทีย่ งธรรมในการปกครอง ถึงแม้ข้าฯ อยู่บนชั้นสวรรค์ แต่ก็มีจิตใจอาทร ในโลกมนุ ษ ย์ อยากจะฉุ ด ช่ ว ยผู ้ ค นเพื่ อ ให้ รอดพ้นจากเภทภัย แต่ว่ามวลชนในโลกนี้มีแต่ ก่อกรรมชั่ว ข้าฯ มิอาจทนดูจิตญาณเหล่านั้น เป็นเถ้าถ่าน จึงมาบอกกล่าวแก่พวกเจ้าทัง้ หลาย ส่วนมากไม่เคารพฟ้าดิน ไม่กตัญญูพ่อแม่ 108 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ไม่ศรัทธาในเทพเจ้า ก่อกรรมมากมาย ปวงเทพ ได้รายงานต่อเง็กเซียนฮ่องเต้ ข้าฯ ถึงได้ลงมา ตรวจสอบ ในพันคนมีสักสิบคนที่ท�ำความดี จึงมีค�ำสั่งลงมาจะกวาดล้างให้หมด ข้าฯ และ ปวงพุทธะได้วิงวอนขอร้องไว้ จึงบอกให้เหลือ ครึ่งหนึ่ง อยากให้ทุกบ้านบ�ำเพ็ญความดี ท�ำดี ทุกแห่งหนอยู่เป็นสุข ข้าฯ จึงมาสอนสั่งพวกเจ้า เคารพฟ้าดิน กราบไหว้บรรพชน กตัญญูพ่อแม่ รักษาศีล เคารพครูบาอาจารย์ รักพี่น้อง พี่รัก น้องต้องเอ็นดู น้องรักพี่ต้องเคารพ มีสัจจะ ต่อเพื่อนฝูง มีความปรองดองต่อเพื่อนบ้าน สามีภรรยาเคารพซึง่ กันและกัน รักลูกหลานต้อง อบรมสั่งสอน ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไฉนพวกเจ้ายังไม่ปฏิบตั ิ ทัง้ นีม้ าอีกครัง้ หนึง่ เตือน ให้เร่งท�ำพิมพ์โอวาท เป็นหนังสือแจกจ่าย ใครได้พบโอวาทเหล่านี้ รีบเร่งแก้ไขปรับปรุง สลายเวรกรรม เป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว” ประจักษ์หลักฐาน คนผู้หนึง่ ตอนมีชวี ติ อยู่ ได้ก่อกรรมท�ำเข็ญ มากมาย ทั้งครอบครัวไม่เคยเชื่อถือโอวาทของ เทพเจ้า ก่อนเสียชีวติ ได้มเี ลือดออกจากทวารทัง้ หก ค�ำภีร์ปลุกชาวโลก: พระเจ้ากวนอู 109


คนผู้หนึ่งไม่เชื่อเทพเจ้า เมื่อฟังโอวาทแล้ว หัวเราะเยาะ ผ่านไปสามวันก็เสียชีวิต เพราะว่า ตอนมีชีวติ อยู่ก่อกรรมท�ำเข็ญมากมาย อีกครอบครัวหนึ่งไม่เชื่อโอวาทนี้ รวมถึง ได้หัวเราะเยาะ ยังไม่ทันหยุด ก็รู้สึกเหมือน ตบปากตัวเอง และมีอาการพูดเพ้อเจ้อ ไม่นาน ทัง้ ครอบครัว สิบสามคนก็เอา มีดเชือดคอตัวเอง ทั้งครอบครัวเสียชีวิต คนหนึ่งเป็นคนใจดี วันหนึ่งฝันเห็นมีเทพ มาบอกเขาว่า คือ เทพเจ้ากวนอู ได้รบั พระบัญชา จากเทพหลีจู่ ให้มาสอนพวกเธอว่า วันที่หนึ่ง เดือนหก ให้กราบไหว้ไปทางทิศเหนือ ขอยา ทันใดนั้นก็มีกระดาษแผ่นหนึ่งลอยมา ข้างใน ใจความได้บอกว่าเป็นยาวิเศษ สามารถช่วย ผู้ทตี่ กทุกข์ทมี่ โี รคร้ายต่างๆ บุคคลใดมีใจศรัทธา ในการอธิษฐานจะได้รับผลที่ดี อีกคนหนึง่ บอกว่าค้าขายก�ำไรเยอะ ก็รบั ปาก ว่าจะพิมพ์โอวาทแจกจ่าย ต่อมาเขาก็ลมื ต่อมา เขาก็ได้รับเคราะห์เร่รอนไปเรื่อย มีอยู่วันหนึ่ง ได้เห็นโอวาท คิดถึงสมัยที่อยู่ก่อนนี้รับปาก แล้วไม่ได้ท�ำ ท�ำให้ได้รับเคราะห์แบบนี้ ตนเอง 110 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


เลยรีบพิมพ์โอวาท 1,200 เล่ม อีกสองปีต่อมา ก็สามารถมีเงินเก็บ และสามารถกลับบ้านได้ มีชายคนหนึ่งอธิษฐานเพื่อจะขอลูก จึงได้ พิมพ์โอวาท 1,200 เล่ม ก็ได้ลูกชายสองคน สมปรารถนา มีชายคนหนึ่งตาไม่ดี ดังนั้นจึงอธิษฐาน พิมพ์โอวาท 1,200 เล่ม ไม่นานตาก็สามารถ มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น เดือนแปดฝนตกหนัก ลูกเห็บตกกระหน�่ำ บ้านสามีภรรยาคู่หนึ่ง ได้อธิษฐานขอฟ้าดินว่า กรุณาอย่าท�ำให้บ้านเรือน หรือพืชผลเสียหาย และได้พมิ พ์โอวาทแจกจ่าย 1,000 เล่ม จากนัน้ อากาศก็หายเป็นปกติ ชายคนหนึ่ง เห็นโอวาทนี้ศักดิ์สิทธิ์ ใน วันนั้นก็พิมพ์ 1,000 เล่ม จากนั้นขออธิษฐาน ให้คนในบ้านเจอแต่สริ มิ งคล แต่เนือ่ งจากภรรยา คนที่สองปกติอยู่บ้านจะไม่ค่อยปรองดองกัน หลังจากอ่านโอวาทนีแ้ ล้วก็คอ่ ยๆ หายและคืนดีกนั ทุกอย่างก็ค่อยๆ เป็นไปอย่างราบรื่น เลยพิมพ์ โอวาทนี้แจกจ่าย ค�ำภีร์ปลุกชาวโลก: พระเจ้ากวนอู 111


ทุกท่านได้เห็นโอวาทเหล่านี้ อย่าได้หมิ่น แคลนหวังให้ประกาศไปทัว่ สารทิศ ผลอันนี้ จะได้ เห็นทันตา อันนี้เป็นนิมิตที่ดี อาจที่จะค�ำนึงได้ หลังจากอ่านสิ่งเหล่านี้ ช่วยแจกจ่ายให้คนอื่น ต่อไป ขอให้ทะนุถนอมอักษรนีจ้ ะเต็มไปด้วยกุศล ไม่จ�ำกัด

112 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ลักษณะการปักธูป (ดูแบบภาษาจีน) หน้า 115-117 อธิษฐานโดยปักธูปกลางกระถาง สามดอก หลังจากธูปผ่านไปครึ่งหนึ่ง ให้สังเกตธูปว่า เป็ น มงคลหรือ อั ป มงคล ค� ำ ท� ำ นายนี้ตั้ง แต่ เมืองปักกิ่งไปทั่วโลก เป็นเวลาสี่สิบกว่าปีแล้ว จนปัจจุบัน จึงอยากเปิดเผยให้ญาติธรรมรู้ ได้ ฉุ ด ช่ ว ย และถื อ ว่ า เป็ น สิ่ ง ที่ ดี มี ทั้ ง หมด ยี่สิบสี่แบบ แบบที่ 1 อยู่เย็นเป็นสุข แบบที่ 2 ภายในเจ็ดวันทีบ่ า้ นอาจจะต้อง มีชุดไว้ทุกข์ แบบที่ 3 อายุขยั ขวายาวอายุยนื ซ้ายสัน้ อายุสั้น แบบที่ 4 ยศถาบรรดาศักดิ์ ขวา ซ้ายสัน้ เท่ากัน ถูกลดต�ำแหน่ง แบบที่ 5 เทพมาเยือนที่บ้าน ต้องรีบ ถวายธูป ลักษณะการปักธูป 113


แบบที่ 6 พุทธะมาเยือนต้องรีบถวายธูป แบบที่ 7 ภายในเดือนนี้ อาจจะถึงแก่ชวี ติ หรือภายในครึ่งปีอาจจะมีบาดเจ็บเล็กน้อย แบบที่ 8 ภายในสิบวันจะได้ลาภ แบบที่ 9 ภายในสามวัน จะต้องมีคนมา ส่งข่าวเป็นมงคล ปิติ มงคล

แบบที่ 10 ภายในเจ็ดวันมีลาภ กับความ แบบที่ 11 ภายในสามวัน จะมีความเป็น

แบบที่ 12 ภายในเจ็ดวัน จะมีคนร้าย มาก่อเรื่อง แบบที่ 13 เข้ามีโจรปล้น และกลางคืน จะมีขโมย แบบที่ 14 บ�ำเพ็ญจนกระทัง่ ส�ำเร็จมีความ เป็นมงคล แบบที ่ 15 เพียบพร้อมด้วยกุศล และ เทพยดาคุ้มครอง แบบที่ 16 นิมิตหมายของธูปแห่งฟ้าดิน 114 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


แบบที่ 17 ภายในสามวั น จะมี ค นมา เชื้อเชิญ แบบที ่ 18 ภายในเจ็ดวันจะมีคนมาก่อ เรื่องวุ่นวาย แบบที่ 19 ภายในเจ็ดวันจะมีโรคภัยไข้เจ็บ แบบที่ 20 มีการสะเดาะเคราะห์แล้ว มีบุญวาสนา แบบที่ 21 ให้เร่งสร้างบุญกุศลย่อมได้ รับการคุ้มครอง ท�ำแต่เรื่องปิติย่อมได้รับสวรรค์ คุ้มครอง แบบที ่ 22 ภายในสามวันมีองค์ปรมาจารย์ มารับควันธูปต้องเร่งถวาย แบบที่ 23 ภายในสิบวัน จะมีเรือ่ งสิรมิ งคล สมปรารถนา แบบที่ 24 ผู้บ�ำเพ็ญจะมีสุขภาพแข็งแรง เสริมสร้างภูมปิ ัญญา ได้รับบุญวาสนาพร้อมทัง้ ลาภ

ลักษณะการปักธูป 115


มหันตภัยมาอยู่ต่อหน้าต่อตาแล้ว ห้าพญามารมากวาดล้างโลก ทุกคนต้องระมัดระวังตัว อย่าให้เวลาจวนตัวจะเสียใจเอง ขอเตือนเหล่าสาธุชนทัง้ หญิงชาย การบ�ำเพ็ญธรรมไม่ใช่ของล้อเล่น ทุกคนจะไขว่คว้าโอกาสแล้วแต่ตัวเอง เร่งฝีเท้าทันด่วนขึ้นนาวาธรรม

116 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ลักษณะการปักธูป 117


118 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


ลักษณะการปักธูป 119


รายชื่อหนังสือธรรมะ ที่เคยพิมพ์แจกฟรีมีดังนี้

120 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์


รายนามผู้ร่วมบริจาคพิมพ์หนังสือเล่มนี้ 121


122 คนบุญ ยุคพระศรีอาริย์



การสรางรอยยิ้มในครอบครัว ๑. สัญญากับตนเองไมทําผิดอีก ๒. ชมกันหนอย ๓. ใหกําลังใจกันบาง ๔. ฟงเขาพูดมากกวาพูดใหเขาฟง ๕. ถามไถทุกขสุขกันบาง ๖. รูจักปฏิเสธงานสังคมบาง ๗. ทํากิจกรรมรวมกันในครอบครัว ๘. รูจักกลาวคําขอโทษ-ไมเปนไร ๙. อดทน อดกลั้น ระงับโทสะ ๑๐. ลดทิฐิ หมั่นกลาวคําขอบคุณ


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.