เสนาสาร ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

Page 1

กองทัพบก

R O Y A L

T H A I

A R M Y

M A G A Z I N E

เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน

For Country, Religions, Monarchy, and People www.rta.mi.th

www.rta.mi.th

ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗


เชิญชวนก�ำลังพล ทบ. และผู้สนใจ

อันเนื่องมาจากปก ทหาร คือตัวแทนของความเข้มแข็ง ทรหด อดทน ความคล่องตัวกระฉับกระเฉง ปกของนิตยสาร เสนาสาร ฉบับประจ�ำเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗ นี้ จึงขอเสนอภาพการฝึกผสมหน่วยปฏิบตั กิ ารพิเศษ กองทัพบกไทยกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ภายใต้รหัสการฝึก Strike 2013 เพื่อสื่อถึงความเข้มแข็ง ทรหด อดทน ความคล่องตัวกระฉับกระเฉงในระหว่างการฝึก ถือเป็นการพัฒนา ขีดความสามารถของก�ำลังพลของกองทัพบกด้วย อนึง่ ในการฝึก Strike 2013 ครัง้ นี้ ประเทศไทยได้รบั เกียรติเป็นเจ้าภาพในการฝึก โดยมีหน่วยบัญชาการ สงครามพิเศษ เป็นหน่วยรับผิดชอบด�ำเนินการฝึก ซึง่ ถือเป็นอีกก้าวของการเตรียมความพร้อมส�ำหรับเหตุการณ์ รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตาม ทหาร คือหน่วยงานที่ปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงทั้งภายในและภายนอก เป็นที่พึ่ง ของประชาชนในยามเกิดเหตุการณ์ภัยจึงจ�ำเป็นที่จะต้องท�ำการฝึก เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกมิติเช่นกัน

สมเด็จผงพุทธคุณ พระพุทธเมตตาเสนานาถ

เหรียญพระพุทธรูป พระพุทธเมตตาเสนานาถ

เช่ า บู ช ารู ป หล่ อ ลอยองค์ เหรี ย ญพระพุ ท ธรู ป และพระสมเด็ จ ผง พระพุ ท ธคุ ณ พระพุ ท ธเมตตาเสนานาถ เพื่ อ น� ำ รายได้ ไ ปจั ด ซื้ อ อุ ป กรณ์ ทางการแพทย์ให้กบั รพ.ในสังกัด ทบ. ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

รูปหล่อลอยองค์ พระพุทธเมตตาเสนานาถ

ผู ้มีจิตศรัทธาบริจาคและเช่ าบู ชาได้ท่หี น่วยทหารและโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก

อาคารรับรองกองทัพบก เกียกกาย พร้อมแล้วส�ำหรับก�ำลังพลจากต่างจังหวัดทีเ่ ดินทางมาราชการใน กทม. ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอย ๔๓ ตร.ม. ประกอบด้วยห้องพักเตียงเดี่ยว ๒๐ ห้อง เตียงคู่ ๖๖ ห้อง และห้องพักพิเศษเชื่อมต่อกัน ๑๔ ห้อง ครบครั น ด้ ว ยสิ่ ง อ� ำ นวยความสะดวก เที ย บเท่ า โรงแรมเอกชน ในราคาเริ่ ม ต้ น เพี ย ง ๕๐๐ บาท สอบถามรายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ ม โทร. ๐๒-๑๖๐-๘๖๗๑-๔ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง


ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ผู้อ�ำนวยการ พล.ต.พลภัทร วรรณภักตร์ รองผู้อ�ำนวยการ พ.อ.วัชระ นิตยสุทธิ์ พ.อ.ม.ล.กุลชาต ดิศกุล บรรณาธิการ พ.อ.อนุชา ชุ่มค�ำ ประจ�ำกองบรรณาธิการ พ.อ.หญิง วัชราภรณ์ วัชรพาณิชย์ พ.อ.หญิง ปิยฉัตร ฉัตรกุล ณ อยุธยา พ.ท.สุรชัย มงคล พ.ท.หญิง ศิริยา เขื่องศิริกุล ร.อ.ชัยพร มีเฉลา ร.ต.หญิง อนุสรา ขันนารัตน์ ร.ต.หญิง ศลิษา คล้ายทอง ผู้จัดการ พ.อ.วินธัย สุวารี เหรัญญิก พ.ท.มานิตย์ บัวคลี่ใบ ประจ�ำกองจัดการ จ.ส.อ.บุญส่ง บุญมาก จ.ส.อ.นันทพัฒน์ สุคนธสาร ส.ท.สิทธิชาติ กระจายศรี นายอภิสิทธิ์ ชุ่มทอง

บทบรรณาธิการ สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันอีกครั้งในรอบ ๔ เดือน ส�ำหรับนิตยสาร เสนาสาร ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗ ยังคงอัดแน่นด้วยเนื้อหาสาระ เช่นเคย และในห้วงที่ผ่านมาได้มีวันส�ำคัญส�ำหรับคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็น วันจักรี วันฉัตรมงคล และวันพืชมงคล ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความเป็นมาที่ยาวนาน นิตยสารเสนาสาร จึงได้หยิบเอาประวัตคิ วามเป็นมาของวันส�ำคัญดังกล่าวมาน�ำเสนอ นอกจากนี้ท่านผู้อ่านยังจะได้ทราบข่าวคราวความเคลื่อนไหวภายในกองทัพบก ผ่านบทความพิเศษจากส่วนบัญชาการ ทั้งกรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กรมก�ำลังพลกองทัพบก กรมส่งก�ำลังบ�ำรุงกองทัพบก ตลอดจนบทความการฝึกร่วม ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกภายใต้รหัส STRIKE 2013 และการฝึกร่วมการป้องกันภัย ทางอากาศ ส�ำหรับท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของคอลัมน์ Top Soldier ก็พลาด ไม่ได้คะ่ เพราะในฉบับนี้ เราได้นำ� เสนอเรือ่ งราวของ ๓ ทหารกล้าทีเ่ สีย่ งชีวติ ช่วยเหลือ เด็กจมน�ำ้ ในพืน้ ทีส่ ามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเรือ่ งราวของผูก้ องมะขาม ผูพ้ ลีชพี เพื่อปกป้องแผ่นดิน และพิเศษสุด ๆ ในนิตยสารเสนาสารฉบับนี้ คือคอลัมน์ใหม่ อย่าง ๑๐๘ คดี กฎหมายใกล้ตัว ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามในข่าวทหารบก สุ ด ท้ า ยนี้ ก องบรรณาธิ ก ารเสนาสาร ขอขอบคุ ณ ทุ ก หน่ ว ยที่ ใ ห้ ก าร สนับสนุนข้อมูล และภาพถ่าย ท�ำให้เสนาสารฉบับนี้สมบูรณ์ครบทั้งเนื้อหาสาระ ซึ่งกองบรรณาธิการหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความรู้ พร้อมความบันเทิง จากเสนาสารฉบับนี้ค่ะ

ข้อคิดเห็นและบทความที่นำ�ลงในเสนาสารเป็นของผู้เขียน มิใช่ข้อคิดเห็นหรือนโยบายของหน่วยงานของรัฐ และมิได้ผูกพันต่อทางราชการแต่อย่างใด สำ�นักงานเลขานุการกองทัพบก ในกองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำ�เนินนอก เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐ โทรศัพท์/โทรสาร ๐ ๒๒๘๑ ๘๗๑๖ โทร.ทบ. ๙๗๘๒๔ พิมพ์ที่ หจก. อรุณการพิมพ์ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๘๒ ๖๐๓๓-๔ โทรสาร ๐ ๒๒๘๐ ๒๑๘๗-๘


Contents ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

๑๐

๑๒

๒๖

๒๘

๔๓

๕๐

 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

กับพระพุทธศาสนา  ๖ เมษายน "วันมหาปฐมบรมจักรีวงศ์"  ฉัตรมังคละอาศิรวาท  วันฉัตรมงคล  พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ  การจัดท�ำห้องเรียนจ�ำลองการปฏิบัติการ ทางยุทธวิธีของ ทบ.  STRIKE 2013 : สู่การพัฒนาขีดความสามารถ การฝึกและการปฏิบัติการพิเศษ ไทย-จีน  การฝึกร่วมการป้องกันภัยทางอากาศ ในการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี ประจ�ำปี ๒๕๕๗  ตารางเปรียบเทียบระบบบ�ำเหน็จบ�ำนาญเดิม กับระบบ กบข.  แนวทางปฏิบัติในการดูแลก�ำลังพล ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจ (Duty of Care)

๓ ๔ ๖ ๗ ๙ ๑๐ ๑๒ ๑๖ ๒๐ ๒๑

 SHOT นี้ "โลกไม่ลืม" ๒๔  การด�ำเนินการพลังงานทดแทนของ ทบ. ๒๖  หน่วยท�ำลายล้างวัตถุระเบิด (EOD Anothai Unit) ๒๘  ๑๐๘ คดี กฎหมายใกล้ตัว ๓๒  “จักรดาวสดุดี” วีรชน ผู้สละชีพ เพื่อชาติ : ๓๖

พันเอก ศิวัช ศรีอุปโย  สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ ๓ ทหารกล้า แห่งปัตตานี ผู้ช่วยเด็กจากการจมน�้ำ  สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการประชาสัมพันธ์ กองทัพบก  เที่ยวราชบุรี ดูของดีที่บ้านทหารช่าง  สะพานเครื่องหนุนมั่นขนาดหนัก (HEAVY SUPPORT BRIDGE)  AGUSTA WESTLAND 139 สู่ความพร้อมในการขนส่ง และงานทางธุรการ

๓๘ ๔๑ ๔๓ ๕๐ ๕๔


พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กับพระพุทธศาสนา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ อุปถัมภกยอยกพระศาสน์ภาร เวลาเช้าไท้ทรงบาตรยึดนาถสงฆ์ ทรงสดับเทศนาเวลาค�่ำ ทรงส่งเสริมเติมศึกษาพระภิกษุ พระไตรปิฎกช�ำระสละจาร ทรงสร้างวัดวาอารามอร่ามเลิศ อุโบสถพระเจดีย์วิหารรมย์ “โพธาราม” (๒) นามวัดเก่าเด่นด้าวนัก วัดประจ�ำของพระองค์ยงรุจี บูรณะ “วัดสะแก-วัดสระเกศ” พระบรมบรรพต “ภูเขาทอง” ชม “วัดสุทัศนเทพวราราม” (๓) มี “พระใหญ่” หรือ “พระโต” ภิญโญเยือง อารามเก่าสร้างขึ้นใหม่พิไลเจิด อีกปฏิสังขรณ์ขจรอ�ำไพ

ท�ำนุมาพุทธศาสน์ประสาทสาส์น เนื่องมานานช่วงพระชนม์ประดนธรรม ถวายตรงเวลาเพลประเคนพร�้ำ ปุจฉาค�ำพระคุณเจ้าอะคร้าวธาร เกื้อกูลลุสังคายนาวิชาฉาน จารึกลานลืออัครานุกรม “วัดพระแก้ว” (๑) เลอประเสริฐพราวเพริศสม ศาลารายหอไตรธมร่มบุรี ทรงพิทักษ์วัดบุราณฐานกรุงศรีฯ พระเจดีย์มีพระธาตุประสาธน์คม ขุดคลองเขตรอบรั้ววัดพัฒน์ปฐม ชนนิยมสักการะประจ�ำเมือง ชื่อวัดนามหลากหลายชื่อระบือเรื้อง งามเมลืองมาจากเมืองสุโขทัย เจียรประเสริฐวัดมากมายขยายไซร้ ศาสน์เกรียงไกรเอกอุดมเหมาะสมแล

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ข้าราชการกองทัพบก (พลตรี สมศักดิ์ บวรสิน ประพันธ์) (๑) (๒) (๓)

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ร.๑ พระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” (ชาวบ้านเรียกว่า วัดพระโต หรือวัดพระใหญ่), ร.๓ โปรดเกล้าฯ พระนามว่า “วัดสุทัศนเทพธาราม” ร.๔ โปรดเกล้าฯ พระนามว่า “วัดสุทัศนเทพวราราม”

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

3


๖ เมษายน

"วันมหาปฐมบรมจักรีวงศ์" สืบเนือ่ งจากวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ เป็นวันทีพ่ ระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษก ขึน้ ครองราชย์เป็นกษัตริยแ์ ห่งราชวงศ์จกั รีสบื ทอดต่อจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และทรงสร้างกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวง ของไทย ด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว ในปี พ.ศ. ๒๔๑๖ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูปพระเจ้าอยูห่ วั ทัง้ ๔ พระองค์ (ร.๑ - ๔) เพือ่ ประดิษฐานไว้ให้พระมหากษัตริยอ์ งค์ตอ่ มา พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนได้ถวายบังคมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นธรรมเนียมปีละครั้ง และโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญ ไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และมีการย้ายที่หลายครั้ง เช่น พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ปราสาท และพระที่นั่ง

4

เสนาสาร


ศิวาลัยปราสาท เป็นต้น ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ ๖ ทรงโปรดให้ยา้ ยพระบรมรูปทัง้ ๔ (ร.๑ - ๔) มาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ ๕ พระชนกนาถ จนกระทั่งในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๖๑ การซ่อมแซมก่อสร้างและประดิษฐานพระบรมรูปทั้ง ๕ รัชกาล จึงส�ำเร็จ ลุล่วง และได้มีพระบรมราชโองการประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูป ในวันที่ ๖ เมษายนปีนั้น และต่อมา โปรดให้เรียกวันที่ ๖ เมษายน ว่า “วันจักรี” ซึ่งถือเป็นวันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และมหาจักรีบรมราชวงศ์ ส�ำหรับชื่อของราชวงศ์จักรีมีที่มาจากบรรดาศักดิ์ “เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์” ต�ำแหน่งสมุหนายก ซึ่งเป็นต�ำแหน่ง ทางราชการที่พระองค์เคยทรงด�ำรงต�ำแหน่งมาก่อนในสมัยกรุงธนบุรี ค�ำว่า “จักรี” นี้พ้องเสียงกับค�ำว่า “จักร” และ “ตรี” ซึ่งเป็นเทพอาวุธของพระนารายณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง พระแสงจักรและพระแสงตรีไว้ ๑ ส�ำรับ และก�ำหนดให้ใช้เป็นสัญลักษณ์ประจ�ำราชวงศ์จักรีสืบมาจนถึงปัจจุบัน และเนื่องในวันจักรี ๖ เมษายน ขอเชิญชวนข้าราชการทุกหมู่เหล่า นิสิตนักศึกษา หน่วยงานของรัฐบาล และเอกชน และประชาชนจากทุกสาขาอาชีพเข้าร่วมพิธวี างพวงมาลา และบ�ำเพ็ญกุศลให้กบั พระมหากษัตริยผ์ ยู้ งิ่ ใหญ่ผทู้ รงอุทศิ พระองค์ ทัง้ นีเ้ พือ่ เป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริยแ์ ห่งราชวงศ์จกั รี ทีท่ รงสร้างกรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของไทย และทรงบ�ำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการต่อแผ่นดินไทย เพือ่ ความสงบ สุขของอาณาประชาราษฎร์ของพระองค์อย่างแท้จริง

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

5


ฉัตรมังคละอาศิรวาท วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

ภูมิพลอดุลยเดชฉันท์ ๑๔

งานพิธีฉัตรมังคละ มิ่งมหาบรมจ�ำลอง “ราชภาระ” โอษฐ์ตรึกตรา “เพื่อประโยชน์สุข” สันต์ประจ�ำ พระหฤทัยมั่นกิจหนุน การเกษตร น�้ำ ดินวิธี ปรีชญาประยุกต์นิจเนือง ด�ำริมาผดุงถกล อ่างเก็บน�้ำรักษ์ดินเหมาะสม เขื่อนและฝายกักน�้ำสิทธิ์เจต ปถพีใหญ่กว้างด�ำรง วนสณฑ์ยึดดินขจร ผองทุกข์ราษฎร์ประดาประกาย ทรงดับทุกข์ขจัดประสงค์ ทั่วสกลพิเทศถวัลย์ อัจฉริยภาพอิษฏ์ผอง ไอศวรรย์พระชนม์พรรษปรีดิ์ นิรภัยพยาธิไร้

ภูวเนตรเฉลิมฉลอง อภิเษกปฐมวิภา ทศพิธราชธรรม พสกทั่วทุกที่วิบุล พัฒนาปรับชีพวิถี ทฤษฎีใหม่น�ำรุจเรือง ผลิตผลขยายประดน พืช สัตว์ ปลา เพาะพันธุ์อุดม ต้นน�้ำธารปกป้องนิเวศน์ การเพาะปลูกประชาจ�ำนง ทรงพิทักษ์พนองศิขร ปกปักโตยพกพื้นทลาย คือทุกข์อธิราชพระองค์ เกื้อสุขยลพิศาลอนันต์ สดุดีพระเกียรติกึกก้อง ปราชญ์วิชาวิภูรุจี ทรงเกษมสราญฤทัย ทรงสฤษฏ์เมลืองสิรี

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ข้าราชการกองทัพบก (พลตรี สมศักดิ์ บวรสิน ประพันธ์) 6

เสนาสาร


วันฉัตรมงคล

นวันที่ ๕ พฤษภาคมของทุก ๆ ปี เป็นวันส�ำคัญ อี ก วั น หนึ่ ง ของพสกนิ ก รชาวไทย ที่ อ ยู ใ ตรม พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุ ล ยเดช เพราะเป็ น วั น ที่ พ ระองค์ ไ ด้ เ สด็ จ เถลิ ง ถวั ล ย ราชสมบัติ โดยการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณขัตติย ราชประเพณี เสด็จขึน้ ครองราชย์เป็นล�ำดับที่ ๙ แห่งราชวงศ์จกั รี เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ โดยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีว่า

“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

เหล่ า พสกนิ ก รชาวไทยจึ ง ถื อ ว่ า วั น ที่ ๕ พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันมงคลสมัย และได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม จัดงานพระราชพิธีเฉลิมฉลองพระเศวตฉัตรหรือพิธีฉัตรมงคล ซึ่ ง เรี ย กอี ก อย่ า งว่ า “พระราชพิ ธี ฉั ต รมงคล” เพื่ อ ระลึ ก ถึ ง พระราชพิธบี รมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ล อดุลยเดช ความเป็ น มาของพระราชพิ ธี มี ห ลั ก ฐานปรากฏไว้ ใ น หลักศิลาจารึกที่วัดศรีชุมของพญาลิไท ตั้งแต่ในสมัยพ่อขุน ผาเมืองได้อภิเษกให้พ่อขุนบางกลางหาว ให้เป็นผู้ปกครองของ เมืองสุโขทัย หรือเมื่อสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีบรม ราชาภิเษกให้ถูกต้องและสมบูรณ์ โดยพระมหากษัตริย์องค์ใด ที่ยังไม่ได้รับการประกอบพระราชพิธี จะใช้ค�ำว่า “พระบาท” 7


น�ำหน้า “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ไม่ได้ แต่เดิมพระราชพิธี ฉัตรมงคลถือว่าเป็นพิธีของเจ้าพนักงานในพระราชฐานของ พระองค์ ที่ มี ห น้ า ที่ รั ก ษาเครื่ อ งราชู ป โภค และได้ จั ด เตรี ย ม การสมโภชสังเวยเครื่องราชูปโภคที่ตนเองรักษาของทุกปีของ ในเดือนหก โดยไม่ได้ถือว่าเป็นงานหลวง จนกระทัง่ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ทรงเสด็ จ ขึ้ น ครองราชย์ จึ ง ได้ มี พิ ธี ฉั ต รมงคลเป็ น ครั้ ง แรก เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๓ โดยมีพระราชด�ำริว่า วันที่พระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกนั้น เป็ น มหามงคลสมั ย ซึ่ ง ประเทศทั้ ง ปวงที่ มี พ ระเจ้ า แผ่ น ดิ น ย่อมนับถือวันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล แต่ในกรุงสยาม มิได้มีการนักขัตฤกษ์อันใด ครั้งนี้ตรงกับสมัยที่เจ้าพนักงานได้ สมโภชเครือ่ งราชูปโภคแต่เดิมมา ควรทีจ่ ะมีการสมโภชพระมหา เศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ จึงได้ทรงพระราชด�ำริ จัดการพระราชกุศลพระราชทานชื่อว่า ฉัตรมงคล นี้ขึ้น โดยการ พระราชพิธี ฉัตรมงคลเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยูห่ วั ทรงด�ำริขนึ้ นัน้ มีการนิมนต์พระสงฆ์มาสวดเจริญพุทธมนต์ 8

ในวันขึน้ ๑๓ ค�ำ่ เดือน ๖ มีการถวายภัตตาหารแด่ พระสงฆ์ เวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตร ณ พระที่ นั่ ง ดุ สิ ต มหาปราสาท และพระที่ นั่ ง ไพศาลทักษิณ ส� ำ หรั บ ปั จ จุ บั น ได้ มี พิ ธี พ ระราชกุ ศ ล ทักษิณานุประทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เพื่อพระองค์ทรงได้อุทิศ ส่ว นกุศ ลถวายให้ แ ก่ บุพการี เป็นพระราชพิธสี งฆ์สดับกรณ์ พระบรมอัฐิ สมเด็จสวดพระพุทธมนต์ แล้วราชาคณะจะถวาย พระธรรมเทศนา ซึ่งได้เพิ่มพระราชพิธีตรึงหมุด ชัยเฉลิมพล โดยจะพระราชทานให้แก่หน่วยงาน ทหาร และเจ้าพนักงานจะอัญเชิญเครื่องราช กกุ ธ ภั ณ ฑ์ ขึ้ น ประดิ ษ ฐานบนใต้ แ ท่ น พระมหา ปฎลเศวตฉัตร พระครูหัวหน้าพราหมณ์จะอ่าน ประกาศพระราชพิ ธี แล้ ว พระสงฆ์ จ ะเจริ ญ พระพุทธมนต์ ในเวลาเที่ยงตรงทางทหารบก และทหารเรือ จะยิงปืนใหญ่เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ ๒๑ นัด โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงเสด็ จ พระราชด� ำ เนิ น ถวายภั ต ตาหารแด่ พระสงฆ์ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย บู ช าเทพยดารั ก ษานพปฎลมหาเศวตฉั ต ร สิริราชกกุธภัณฑ์ พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียน สมโภชนพปฎลมหาเศวตฉัตร สิริราชกกุธภัณฑ์ พนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร บัณเฑาะว์ และดุริยางค์แล้ว พราหมณ์ เ จิ ม นพปฎลมหาเศวตฉั ต ร โหรผู ก ผ้ า สี ช มพู ทรงพระกรุ ณ าโปรดเกล้ า ฯ ให้ ส มเด็ จ พระบรมโอรสาธิ ร าช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระสุหร่าย เครื่องราชกกุธภัณฑ์ และพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ทองค�ำ ประจ�ำราชการ เป็นอันเสร็จพระราชพิธี เนื่องจากวันที่ ๕ พฤษภาคม เป็นวันฉัตรมงคลซึ่งเป็น วันส�ำคัญต่อประเทศและประชาชนชาวไทย เราทุกคนควรจะ ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ ขอพระองค์ทรงมี พระชนมายุยิ่งยืนนาน และเป็นมิ่งขวัญก�ำลังใจแก่พสกนิกร ชาวไทยไปชั่วกาลนาน

เสนาสาร


พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

ารเกษตรกรรมนับว่ามีความส�ำคัญต่อการด�ำรงชีวติ ของมวลมนุษย์อย่างมาก เพราะธัญญาหารทีบ่ รรดาเหล่าเกษตรกร ปลูกได้ในแต่ละปีถูกน�ำมาใช้เป็นอาหาร ดัดแปลงเป็นอุปโภคต่าง ๆ เช่น ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค โดยการเพาะปลูกของเกษตรกรในแต่ละครัง้ ได้ให้ความส�ำคัญกับเมล็ดพืชพันธุอ์ นั เป็นปัจจัยส�ำคัญต่อวิถกี ารผลิตแบบพึง่ พิงธรรมชาติ นอกเหนือจากการมีแผ่นดินทีอ่ ดุ มสมบูรณ์ น�ำ้ ฝนทีม่ ปี ริมาณเพียงพอ และปัจจัยอืน่ ๆ ด้วยเหตุนที้ กุ ปีทางราชการจึงจัดให้มพี ระราชพิธี พืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญขึ้น เพื่อให้เกษตรกรมีขวัญก�ำลังใจ มีความเชื่อมั่นในการลงทุนเพาะปลูก โดยก�ำหนดในเดือน พฤษภาคมของทุกปี พระราชพิธจี รดพระนังคัลแรกนาขวัญ จะท�ำในวันพืชมงคลเป็นวันส�ำคัญทีก่ ำ� หนดขึน้ เพือ่ ระลึกถึงความส�ำคัญของเกษตรกร ที่มีต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นพระราชพิธีโบราณสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ประกอบด้วย ๒ พระราชพิธี คือ พระราชพิธีพืชมงคล และพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พิธีพืชมงคลแรกนาขวัญ เป็นพิธีท�ำขวัญเมล็ดพืชต่าง ๆ เพื่อให้เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นปราศจากโรคภัยและให้อุดมสมบูรณ์ เจริญงอกงาม ส่วนพิธีแรกนาขวัญ เป็นพิธีเริ่มต้นการไถนาเพื่อหว่านเมล็ดข้าว มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เป็นอาณัติสัญญาณว่า บัดนี้ ฤดูกาลแห่งการท�ำนาและเพาะปลูกได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยในหนังสือพระราชพิธสี บิ สองเดือน พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ได้กล่าวถึงพระราชพิธี แรกนาขวัญไว้ว่า “การแรกนาต้องเป็นธุระของผู้ซึ่งเป็นใหญ่ในแผ่นดินเป็นธรรมเนียมโบราณ เช่น ในเมืองจีนเมื่อสี่พันปีล่วงมาแล้ว พระเจ้าแผ่นดินก็ทรงไถนาเองเป็นคราวแรก” ในประเทศสยามเองผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินก็ท�ำเช่นนี้ เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ราษฎร ชักน�ำให้มีความมั่นใจในการท�ำนา เพราะเป็นสิ่งส�ำคัญจะได้เลี้ยงชีวิตทั่วหน้า ส�ำหรับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในปัจจุบันได้ด�ำเนินตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี เว้นแต่บางอย่างได้ มีการดัดแปลงให้เหมาะสมกับกาลสมัย อาทิ พิธีของพราหมณ์ก็มีการตัดทอนให้เหลือน้อยลง พระยาแรกนาขวัญก็ให้ตกเป็นหน้าที่ ของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จ พระราชด�ำเนินไปทรงทอดพระเนตรพระราชพิธที กุ ปี มีขา้ ราชการชัน้ ผูใ้ หญ่ ทูตานุทตู และประชาชนจ�ำนวนมากมาชมการแรกนาขวัญ เมื่อเสร็จพิธีประชาชนจะพากันแย่งเก็บเมล็ดข้าว น�ำไปผสมกับพันธุ์ข้าวที่ปลูกหรือเก็บไว้เป็นถุงเงินเพื่อความเป็นสิริมงคล กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรกระท�ำในวันพืชมงคล ๑. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ ๒. จัดนิทรรศการ แสดงประวัตคิ วามเป็นมา และความส�ำคัญของวันพืชมงคล รวมทัง้ พระราชพิธจี รดพระนังคัลแรกนาขวัญ

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

9


การจัดท�ำห้องเรียนจ�ำลอง

การปฏิบัติการทางยุทธวิธีของ ทบ.  กรมยุทธการทหารบก

ทบ. ได้ให้ความส�ำคัญกับการปรับปรุงการด�ำเนินงาน และการพัฒนาด้านการฝึกศึกษาและหลักนิยมของ ทบ. ให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดย ผบ.ทบ. ได้อนุมัติ แนวทางในการด�ำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การฝึก พัฒนาทักษะ เสริมสร้างความรู้ ขีดความสามารถให้กับก�ำลังพล รวมทั้งการใช้เครื่องช่วยฝึก และเทคโนโลยีสนับสนุนให้การฝึก มีประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับข้อจ�ำกัด ด้านงบประมาณของ ทบ. ทัง้ นีป้ จั จุบนั ผบ.ทบ. ได้สงั่ การให้ นขต.ทบ. (ทภ. - กองพัน) จัดท�ำห้องเรียนจ�ำลองการปฏิบัติการ

10

เสนาสาร


ทางยุทธวิธีของหน่วย โดยพิจารณาจากการปฏิบัติงานตาม ภารกิจ สภาพแวดล้อม และภัยคุกคาม รวมทัง้ การใช้องค์ความรู้ (Know-how) ของหน่ ว ย เพื่ อ เสริ ม สร้ า งขี ด ความสามารถ ในการใช้อาวุธ และเทคนิคการปฏิบัติของหน่วย โดยไม่จ�ำเป็น ต้ อ งของบประมาณเพิ่ ม เติ ม อั น จะท� ำ ให้ ก ารปฏิ บั ติ ภ ารกิ จ เป็ น ไปอย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพมากยิ่ ง ขึ้ น โดยก� ำ หนดรู ป แบบ ห้องเรียนจ�ำลองการปฏิบัติการทางยุทธวิธีเป็น ๒ ระดับ ได้แก่ ๑. ระดับ ๑ : ห้องเรียนจ�ำลองการปฏิบตั กิ ารทางยุทธวิธี ขั้นต้น (Basic) เพื่อฝึกการตกลงใจ และการยิงปืนทางยุทธวิธี มุ่งเน้นให้ก�ำลังพลสามารถตัดสินใจในสถานการณ์เฉพาะ/วิกฤต รวมทั้งสามารถตอบโต้การปฏิบัติของฝ่ายตรงข้ามด้วยเทคนิค การยิง และการด�ำเนินกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใน เวลาที่ก�ำหนด ๒. ระดับ ๒ : ห้องเรียนจ�ำลองการปฏิบตั กิ ารทางยุทธวิธี ขัน้ สูง (Advance) เป็นการฝึกทักษะการตัดสินใจและการใช้อาวุธ ด้วยระบบสนามฝึกยิงปืนยุทธวิธีเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยี ที่ ส ามารถจ� ำ ลองรู ป แบบ สถานการณ์ สภาพแวดล้ อ มของ สนามรบจริงมาแสดงในลักษณะเป็นภาพเคลื่อนไหวสามมิติ ส่งผลให้ผู้รับการฝึกรู้สึกเสมือนว่าก�ำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ ปฏิบัติการจริง รวมทั้งระบบการฝึกยิงปืนทางยุทธวิธีเป็นระบบ ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์วัดผลการยิงประกอบอาวุธประจ�ำกาย จึงท�ำให้สามารถวัดผลการฝึกยิงปืนได้อย่างละเอียด แม่นย�ำ เป็ น ขั้ น ตอน ส่ ง ผลให้ ผู ้ รั บ การฝึ ก สามารถน� ำ ผลการยิ ง ไป ปรุงแก้ไขได้โดยง่าย ในการด�ำเนินการจัดท�ำห้องเรียนจ�ำลองการปฏิบัติการ ทางยุทธวิธที งั้ ๒ ระดับของ ทบ. มี ยศ.ทบ. เป็นหน่วยรับผิดชอบ ในการจัดท�ำ ปัญหา บงการ และสถานการณ์การฝึก (ในรูปแบบ กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

แผ่นบันทึกข้อมูล (CD)) คูม่ อื การใช้งาน รวมทัง้ ชีแ้ จงรายละเอียด ให้กับ นขต.ทบ. ตลอดจนการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล การด�ำเนินการของหน่วย และมี ยก.ทบ. เป็นหน่วยก�ำกับดูแล ทางฝ่ายอ�ำนวยการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดท�ำห้องเรียน จ�ำลองการปฏิบัติการทางยุทธวิธีขั้นต้น (Basic) ของ นขต.ทบ. (มีก�ำหนดแล้วเสร็จใน พ.ค.๕๗) ส�ำหรับการจัดท�ำห้องเรียน จ� ำ ลองการปฏิ บั ติ ก ารทางยุ ท ธวิ ธี ขั้ น สู ง (Advance) ซึ่ ง มี ความจ�ำเป็นต้องใช้งบประมาณสูงนั้น เพื่อให้การด�ำเนินการ เป็นไปตามมาตรการประหยัดงบประมาณของ ทบ. จึงได้กำ� หนดให้ สวพ.ทบ. และ ยศ.ทบ. ประสานกั บ สทป. เพื่ อ พิ จ ารณา ใช้ประโยชน์จากโครงการวิจัยและพัฒนาระบบสนามฝึกยิงปืน ยุทธวิธีเสมือนจริงของ สทป. ต่อไป ทัง้ นีก้ ารจัดท�ำห้องเรียนจ�ำลองการปฏิบตั กิ ารทางยุทธวิธี ของ ทบ. ดังกล่าวสอดคล้องกับที่ ผบ.ทบ. ได้กรุณาอนุมัติ ให้ปีงบประมาณ ๒๕๕๗ เป็นปีแห่งการเตรียมความพร้อม ทบ. ไปสู่อนาคตที่มุ่งเน้นให้ นขต.ทบ. ได้มีการเตรียมความพร้อม ในด้านต่าง ๆ ทั้ง ๖ สายงาน (ด้านก�ำลังพล, การข่าว, ยุทธการ, ส่งก�ำลังบ�ำรุง, กิจการพลเรือน งบประมาณและปลัดบัญชี) ซึง่ การจัดท�ำห้องเรียนจ�ำลองการปฏิบัตกิ ารทางยุทธวิธขี อง ทบ. โดยการน�ำองค์ความรู้ และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการ เตรียมความพร้อมด้านยุทธการ ในลักษณะการวิจัยและพัฒนา ยุทโธปกรณ์บนพื้นฐานการพึ่งพาตนเอง มีความมุ่งหมายเพื่อที่ จะน�ำพา ทบ. ไปสู่อนาคตตามวิสัยทัศน์ ทบ. ๒๕๖๕ คือ เป็น กองทัพบกทีม่ คี วามพร้อม ศักยภาพ และทันสมัยในภูมภิ าคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป

11


สู่การพัฒนาขีดความสามารถการฝึกและ

การปฏิบัติการพิเศษ ไทย-จีน

 ศูนย์สงครามพิเศษ

ภายใต้รหัส Strike 2013 การฝึกผสมหน่วย

ปฏิ บั ติ ก ารพิ เ ศษกองทั พ บกไทยกั บ หน่ ว ยปฏิ บั ติ ก ารพิ เ ศษ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน นอกจากจะเป็นการเสริมสร้าง ความสั ม พั น ธ์ อั น ดี ร ะหว่ า งประเทศแล้ ว ยั ง ถื อ เป็ น การฝึ ก เพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาขีดความสามารถด้าน การฝึกและการปฏิบัติการพิเศษของหน่วยรบพิเศษของทั้งสอง ประเทศอีกด้วย ส�ำหรับการฝึกผสมหน่วยรบพิเศษ ไทย-จีน มีขนึ้ ครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ภายใต้ชื่อรหัสการฝึกว่า Strike 2007 ณ เมืองกวางโจว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยแต่ละ ประเทศจะสลับกันเป็นเจ้าภาพ และในการฝึกปีนี้ถือเป็นการฝึก ครั้งที่ ๔ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการฝึก ส�ำหรับการฝึกผสมในปี ๒๕๕๖ นี้ กองทัพบกไทยซึ่งเป็น หน่วยรับผิดชอบการฝึกได้อนุมัติให้หน่วยบัญชาการสงคราม พิ เ ศษเป็ น หน่ ว ยด� ำ เนิ น การฝึ ก ภายใต้ ร หั ส Strike 2013 โดยด�ำเนินการฝึกในลักษณะแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อพัฒนา

12

เสนาสาร


ขี ด ความสามารถด้ า นการฝึ ก และการปฏิ บั ติ ก ารพิ เ ศษของ ทั้งสองประเทศ ห้วงตั้งแต่วันที่ ๘ ถึงวันที่ ๒๐ ธันวาคม ซึ่งมี การจัดก�ำลังเข้ารับการฝึกจากฝ่ายไทย จ�ำนวน ๑๘๔ นาย ประกอบด้วย ส่วนบังคับบัญชา และฝ่ายอ�ำนวยการจากกองพลรบ พิเศษที่ ๑ จ�ำนวน ๑๕ นาย, หน่วยทางยุทธวิธีจาก กรมรบพิเศษ ที่ ๓ จ�ำนวน ๘๕ นาย, หน่วยบินจาก ศบบ. MI-17 ๓ ล�ำ พร้อมก�ำลังพล ๑๕ นาย รวมทั้งส่วนสนับสนุนการฝึก ๗๐ นาย และฝ่ายจีน จ�ำนวน ๑๓๕ นาย ประกอบด้วย ส่วนบังคับบัญชา และฝ่ า ยอ� ำ นวยการจากภู มิ ภ าคทหารกวางโจว ๒๐ นาย, หน่วยทางยุทธวิธีจากกองพลผสมที่ ๑๒ จ�ำนวน ๙๘ นาย, หน่วยบิน MI-171 ๓ ล�ำ พร้อมก�ำลังพล ๑๒ นาย รวมทั้ง ส่วนสนับสนุนการฝึก ๒๗ นาย

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

13


14

เสนาสาร


ท�ำการฝึกในเรื่องการฝึกปัญหาที่บังคับการ ส�ำหรับส่วนบังคับบัญชา การฝึกแลกเปลี่ยนส�ำหรับ หน่วยทางยุทธวิธี ได้แก่ การต่อต้านการก่อการร้าย เทคนิคพิเศษการลาดตระเวนหาข่าวและการเฝ้าตรวจ เทคนิ ค การยิ ง ปื น ต่ อ ต้ า นการก่ อ การร้ า ย การฝึ ก พลซุ ่ ม ยิ ง และการปฏิ บั ติ ก ารซุ ่ ม ยิ ง ในสนามรบ การแทรกซึ ม เข้ า สู ่ ที่ ห มายด้ ว ยการกระโดดร่ ม ทาง ยุทธวิธี การเข้าสู่อาคารและการปฏิบัติการต่อต้าน การก่อการร้ายในเมือง การฝึกภาคสนามใช้ระยะ เวลาในการฝึก ๒ สัปดาห์ แบ่งการฝึกเป็น ๒ ห้วง คือ การฝึกแลกเปลี่ยนในภาคที่ตั้ง และการฝึกภาคสนาม ซึง่ ได้กระท�ำพิธปี ดิ การฝึก เมือ่ วันที่ ๒๐ ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมี พลโท เจีย เซี่ยวเหว่ย เสนาธิการทหาร มณฑลทหารบกกวางโจว และคณะผู้บังคับบัญชาฝ่าย จีนร่วมพิธี ผลการฝึ ก ก� ำ ลั ง พลได้ เ รี ย นรู ้ แ นวความคิ ด และหลักนิยมทางทหารของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ มิตรประเทศทีม่ คี วามแตกต่างกันสามารถน�ำมาพัฒนา ขีดความสามารถ และประยุกต์ใช้ในด้านการปฏิบตั กิ าร ทางทหารของหน่วยปฏิบัติการพิเศษไทยได้ รวมทั้ง วิทยาการและเทคนิคใหม่ เช่น การกระโดดร่มจาก

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

อากาศยานเฮลิคอปเตอร์ล�ำเลียงขนาดกลางแบบ เอ็มไอ ๑๗๑ ของจีน ทีส่ ามารถกระโดดร่มจากแรมป์ทา้ ยเครือ่ งได้ โดยใช้สายเคเบิลภายในเครือ่ ง ส�ำหรับการดึงร่ม ทั้งนี้หน่วยได้ให้โรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงคราม พิเศษ และศูนย์การบินทหารบก ท�ำข้อพิจารณาร่วมกัน เพื่อปรับปรุง และประยุกต์เทคนิคในการใช้เฮลิคอปเตอร์ เอ็มไอ ๑๗ ที่ประจ�ำการ ใน ทบ. ส�ำหรับการกระโดดร่มแบบสายดึงประจ�ำที่ต่อไป ส�ำหรับการฝึกผสมหน่วยรบพิเศษ ไทย-จีน ในครั้งนี้สามารถ เสริ ม สร้ า งความสั ม พั น ธ์ ท างการทหารระหว่ า งกองทั พ บกไทยและ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้เป็นอย่างดี และถือเป็นการพัฒนาไปสู่ การฝึกขัน้ สูงต่อไปได้ในอนาคต นับเป็นการลับคมการฝึกของกองทัพบกไทย ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

15


การฝึกร่วมการป้องกันภัยทางอากาศ ในการแข่งขันการปฏิบัติการ ทางอากาศยุทธวิธี ประจ�ำปี ๒๕๕๗  หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก

16

เสนาสาร


ารแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีเป็น กิจกรรมส�ำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของกองทัพอากาศ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจ�ำทุกปี โดยได้พัฒนา ปรับปรุง รูปแบบจาก การแข่งขันใช้อาวุธทางอากาศในอดีต ในปัจจุบันได้เพิ่มเติม รูปแบบให้สอดคล้องครอบคลุมกับภารกิจของกองทัพอากาศ ทั้งในการปฏิบัติการทางทหาร และการปฏิบัติการทางทหาร ที่นอกเหนือจากสงคราม ส�ำหรับการแข่งขันการปฏิบัติการ ทางอากาศยุทธวิธี ประจ�ำปี ๒๕๕๗ ก�ำหนดให้มีขึ้นระหว่าง วันที่ ๒๓ ธ.ค. ๕๖ - ๒๔ ม.ค. ๕๗ ณ สนามฝึกใช้อาวุธ ทางอากาศชัยบาดาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยที่เข้าร่วม การแข่งขันฯ มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับ มอบหมาย สามารถประเมินขีดความสามารถของนักบินพร้อมรบ, หน่วยก�ำลังภาคพื้น และหน่วยสนับสนุน และน�ำผลการประเมิน เป็นเกณฑ์พิจารณาในการจัดการฝึกอื่น ๆ ต่อไป โดยในห้วง วันที่ ๗ - ๑๑ ทีผ่ า่ นมา กองทัพบกโดยหน่วยบัญชาการป้องกันภัย ทางอากาศกองทัพบก ได้จดั ก�ำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าร่วมการ ฝึกการป้องกันภัยทางอากาศ ร่วมกับกองทัพอากาศ ณ สนามฝึก ใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จว.ลพบุรี ได้แก่ เรดาร์เตือนภัย ทางอากาศระดับต�่ำ LAADS, เครื่องควบคุมการยิง flycatcher, อาวุธน�ำวิถีต่อสู้อากาศยานระดับต�่ำ IGLA - S และอาวุธน�ำวิถี ต่อสู้อากาศยานระดับต�่ำ STARSTREAK และในส่วนป้องกันภัย กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

ทางอากาศของกองทัพอากาศ จัดยุทโธปกรณ์จากกรมทหารต่อสู้ อากาศยานรักษาพระองค์ ได้แก่ เรดาร์ Giraffe - 40, เรดาร์ ควบคุมการยิง SKYGUARD ปตอ.ขนาด ๓๐ มม. (MAUSER), จรวดต่อสู้อากาศยาน RBS - 70 และจรวดต่อสู้อากาศยาน QW - 2 ส�ำหรับการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี ของ ทอ. ที่หน่วยเข้าร่วมการฝึก ประกอบไปด้วย ๒ ประเภท ได้ แ ก่ การใช้ อ าวุ ธ แบบกระสวนมู ล ฐาน หรื อ Basic Box Pattern และการใช้อาวุธทางอากาศยุทธวิธี ประเภทระเบิด หรือ Air Strike โดยมีวัตถุประสงค์ของการฝึกฯ ดังนี้ ๑. เพื่อให้ก�ำลังพลได้ฝึกปฏิบัติกับอากาศยานจริง และ ช่วยชดเชยส่วนที่ขาดหายไปในการฝึกป้องกันภัยทางอากาศ ในภาคตรวจค้นของการฝึกตามวงรอบประจ�ำปี โดยใช้อากาศยาน จริงบินทางยุทธวิธีในการโจมตีเป้าหมาย ซึ่งจะแตกต่างจาก การฝึกตามวงรอบประจ�ำปี ที่เน้นการฝึกทางยุทธวิธีของหน่วย ในการป้องกันภัยทางอากาศเพื่อสนับสนุนให้กับหน่วยด�ำเนิน กลยุทธ์เป็นหลัก ๒. เพือ่ ให้กำ� ลังพลได้รบั ความรูแ้ ละได้ทดสอบการปฏิบตั ิ ตามภารกิจต่าง ๆ ในเรื่องการทดสอบระบบพิสูจน์ฝ่าย (IFF) ของระบบเรดาร์กับอากาศยานจริง รวมถึงระบบตอบโต้การ ต่อต้านทางอิเล็กทรอนิกส์ (ECCM)

17


๓. เพือ่ ให้กำ� ลังพลสามารถปฏิบตั กิ ารสกัดกัน้ อากาศยาน ตามรูปแบบ/เทคนิค ในการโจมตีทางยุทธวิธีของอากาศยานได้ ทั้งนี้ได้มีพิธีเปิดการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศ ยุทธวิธี ประจ�ำปี ๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๕ ม.ค. ๕๗ ที่ผ่านมา โดยมี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้บัญชาการทหารอากาศ, เสนาธิการ ทหารบก และผู ้ บั ญ ชาการหน่ ว ยบั ญ ชาการป้ อ งกั น ภั ย ทาง อากาศกองทัพบกเข้าร่วมพิธีเปิดการฝึกฯ ดังกล่าว ซึ่งหน่วยได้ เข้าร่วมสาธิตการป้องกันภัยทางอากาศร่วมระหว่างกองทัพบก และกองทัพอากาศ และเข้าร่วมการปฏิบัติการโดยใช้เครือข่าย เป็นศูนย์กลาง หรือ Network Centric Operation โดย ส่งสัญญาณภาพจากเครื่องควบคุมการยิง flycatcher ไปยัง ห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสามารถเห็นภาพร่วมกัน ทั้งของกองทัพบกและกองทัพอากาศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย ผบ.ทบ. ที่ ก� ำ หนดให้ ป ี ๒๕๕๗ เป็ น “ปี แ ห่ ง การเตรี ย ม ความพร้อมกองทัพบกไปสู่อนาคต” 18

จากผลการฝึ ก ฯ ท� ำ ให้ ก� ำ ลั ง พลได้ ท ราบถึ ง เทคนิ ค และยุ ท ธวิ ธี ก ารโจมตี ข องอากาศยานชนิ ด ต่ า ง ๆ ต่ อ ระบบ อาวุธ ปตอ. ตลอดจนธรรมชาติของการปฏิบัติการทางอากาศ ซึ่งก�ำลังพลสามารถประเมินค่าการปฏิบัติภารกิจในการสกัดกั้น อากาศยาน ตามรูปแบบและเทคนิคการโจมตีซึ่งใกล้เคียงกับ รูปแบบของสงครามในปัจจุบัน นอกจากนั้น หน่วยยังได้ทดสอบ ขีดความสามารถของระบบเรดาร์, อาวุธ ปตอ. และก�ำลังพล เมื่อต้องปฏิบัติภารกิจกับอากาศยานสมรรถนะสูง และเป็น การช่วยเติมเต็มภาคตรวจค้นในการฝึกเป็นหน่วยกองร้อยให้มี ความชัดเจน รวมทั้งช่วยให้การประกันคุณภาพการฝึกเป็น หน่วย ร้อย.ปตอ. ในเรื่องกฎการติดพันมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยหน่วยจะน�ำแนวความรู้ที่ได้รับจากการฝึกมาเป็นปัจจัย ในการพั ฒ นาหลั ก นิ ย มการป้ อ งกั น ภั ย ทางอากาศของ ทบ. ต่อไป เสนาสาร


กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

19


ตารางเปรียบเทียบระบบบ�ำเหน็จบ�ำนาญเดิม กับระบบ กบข.  กรมก�ำลังพลทหารบก

รายการ ๑. ผู้เป็นสมาชิก

ระบบบ�ำเหน็จบ�ำนาญ

ระบบ กบข.

ข้าราชการทุกประเภทซึ่งรวมข้าราชการ ๑. ข้าราชการทุกประเภท ยกเว้นข้าราชการการเมือง การเมือง ๒. ผู้เป็นข้าราชการอยู่ก่อนวันที่ ๒๗ มี.ค. ๔๐ และสมัคร เป็นสมาชิก ภายในวันที่ ๒๖ มี.ค. ๔๐ ๓. ผู้ที่เข้ารับราชการหรือโอนมาเป็นข้าราชการ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๐ เป็นต้นไป

๒. เกษียณอายุ หรืออายุ ๕๐ ปี มีสิทธิเลือกรับบ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญ (เหตุสูงอายุ) ๒๕ ปีขึ้นไป บ�ำเหน็จ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย (เหตุรับราชการนาน) คูณเวลาราชการ บ�ำนาญ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย คูณเวลาราชการหารด้วย ๕๐

๑. ๒. ๓.

ข้าราชการทุกประเภท ยกเว้นข้าราชการการเมือง ผู้เป็นข้าราชการอยู่ก่อนวันที่ ๒๗ มี.ค. ๔๐ และสมัคร เป็นสมาชิก ภายในวันที่ ๒๖ มี.ค. ๔๐ ผู้ที่เข้ารับราชการหรือโอนมาเป็นข้าราชการ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๐ เป็นต้นไป

๓. ลาออกจากราชการหรือถูกปลดออกจากราชการ (อายุไม่ถึง ๕๐ ปี) ๓.๑ เวลาราชการไม่ถึง ๑๐ ปี ไม่มีสิทธิรับบ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญ

ไม่มสี ทิ ธิรบั บ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญแต่ได้รบั เงินสะสม เงินสมทบ และ ผลประโยชน์ของเงินดังกล่าว ๓.๒ เวลาราชการตัง้ แต่ ๑๐ ปี มีสิทธิรับบ�ำเหน็จ มีสทิ ธิรบั บ�ำเหน็จและได้รบั เงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ แต่ไม่เกิน ๒๕ ปี ของเงินดังกล่าว ๓.๓ เวลาราชการตัง้ แต่ ๒๕ ปี มีสิทธิเลือกรับบ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญ มีสิทธิเลือกรับบ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญเช่นเดียวกับรายการที่ ๒ ขึ้นไป (เกษียณอายุ และมีเวลาราชการ ๒๕ ปีขึ้นไป) ๔. ออกจากราชการเพราะเหตุทุพพลภาพ เหตุทดแทน เหตุสูงอายุ หรือถูกปลดออกจากราชการ (อายุ ๕๐ ปีขึ้นไป) ๔.๑ เวลาราชการตั้งแต่ ๑ ปี ขึ้นไป แต่ไม่ถึง ๑๐ ปี ๔.๒ เวลาราชการตัง้ แต่ ๑๐ ปี ขึ้นไป ๓.๓ กรณีทพุ พลภาพเนือ่ งจาก ปฏิบัติราชการ

มีสิทธิรับบ�ำเหน็จ

มีสิทธิรับบ�ำเหน็จและได้รับเช่นเดียวกับรายการที่ ๓.๒

มีสิทธิเลือกรับบ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญ

มีสิทธิเลือกรับบ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญเช่นเดียวกับรายการที่ ๒

มีสิทธิเลือกรับบ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญ และได้ มีสิทธิเลือกรับบ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญเช่นเดียวกับรายการที่ ๒ รับบ�ำนาญพิเศษอีกส่วนหนึ่งตาม พ.ร.บ. และได้รับบ�ำนาญพิเศษอีกส่วนหนึ่ง ตาม พ.ร.บ.บ�ำเหน็จบ�ำนาญ บ�ำเหน็จบ�ำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ ข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔

๕. ถู ก ไล่ อ อกจากราชการหรื อ ไม่ได้รับบ�ำเหน็จหรือบ�ำนาญ เสี ย ชี วิ ต เพราะเหตุ ป ระพฤติ ชั่ ว อย่างร้ายแรง ๖. เสียชีวิตระหว่างรับราชการ

๗. เสียชีวิตระหว่างรับบ�ำนาญ

ตนเองหรือทายาทได้รับเงินสะสม และผลประโยชน์ของเงิน ดังกล่าว

ทายาทได้รับ บ� ำ เหน็จ ตกทอด ซึ่ ง เท่ า กั บ เงินเดือนเดือนสุดท้ายคูณเวลาราชการ และ หากเสียชีวติ เนือ่ งจากปฏิบตั ริ าชการทายาท จะได้รับบ�ำนาญพิเศษอีกส่วนหนึ่ง

ทายาทจะได้รับเงิน ๒ ส่วน คือ ๑. บ�ำเหน็จตกทอด ซึ่งเท่ากับเงินเดือน เดือนสุดท้ายคูณเวลา ๒. ราชการเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงิน ดังกล่าว หากเสียชีวิตเนื่องจากปฏิบัติราชการทายาทจะได้รับบ�ำนาญ พิเศษอีกส่วนหนึ่ง ทายาทมีสิทธิรับบ�ำเหน็จตกทอด จ�ำนวน ทายาทมีสิทธิรับบ�ำเหน็จตกทอด จ�ำนวน ๓๐ เท่าของบ�ำนาญ ๓๐ เท่า ของบ�ำนาญ

** หมายเหตุ ทหารชาย ที่เป็นทหารกองหนุนอยู่ในเกณฑ์รับเบี้ยหวัด ต้องรับเบี้ยหวัดก่อน 20

เสนาสาร


แนวทางปฏิบัติในการดูแลก�ำลังพล ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจ (Duty of Care)

 กรมข่าวทหารบก

ในระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เข้าร่วม การประชุม ผบ.ทบ.ภูมิภาคแปซิฟิก ครั้งที่ ๘ (PACC VIII) ณ เมือง Auckland นิวซีแลนด์ ในห้วง ๗ - ๑๒ ก.ย. ๕๖ ทีป่ ระชุม ได้หารือถึงการเสริมสร้างความเป็นเอกภาพ และความท้าทาย ส� ำ หรั บ ก� ำ ลั ง พลทางบกในการปฏิ บั ติ ภ ารกิ จ รั ก ษาสั น ติ ภ าพ รวมทัง้ ภารกิจในการดูแลก�ำลังพล (Duty of Care) ซึง่ ในประเด็น ของ Duty of Care ทีป่ ระชุมเห็นว่านอกเหนือจากการช่วยเหลือ และสร้างสภาวะทีเ่ กือ้ กูลต่อการด�ำรงชีวติ ของประชาชนในพืน้ ที่ แล้ว กองก�ำลังทางบกจ�ำเป็นต้องให้ความส�ำคัญต่อการดูแล ก�ำลังพลทีม่ อี าการผิดปกติทางจิต (Psychological Disorder) อัน มีผลมาจากความเครียดและความบอบช�้ำทางด้านจิตใจ (Trauกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

matic Stress) ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ควรให้ความส�ำคัญ ในการก�ำหนดแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกันต่อไปในอนาคต ในการนี้ ผบ.ทบ. ได้ด�ำริให้ ขว.ทบ. ศึกษาแนวทางการ ดูแลก�ำลังพลหลังการปฏิบตั ภิ ารกิจทางทหารของกองทัพสหรัฐฯ และออสเตรเลีย เนือ่ งจากกองทัพทัง้ สองประเทศมีประสบการณ์ สูง และแนวทางการปฏิบัติเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางจาก นานาประเทศ ซึง่ ทบ.สามารถน�ำความรูท้ ไี่ ด้มาพัฒนาระบบการ ดูแลก�ำลังพลของ ทบ. ให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์แก่ ก�ำลังพลของ ทบ. อย่างแท้จริง แนวทางการดูแลก�ำลังพลหลังการปฏิบตั ภิ ารกิจทางทหาร ของกองทัพสหรัฐฯ เน้นการดูแลก�ำลังพลไม่ให้เกิดความเครียด 21


และพัฒนาอาการจนถึงขั้นบอบช�้ำทางจิต (Post - Traumatic Stress Disorder - PTSD) โดยบูรณาการงานด้านการรักษา พยาบาล การประเมินขีดความสามารถของก�ำลังพล และการ ช่วยเหลือพัฒนาอาชีพหลังปลดประจ�ำการเข้าด้วยกัน ทั้งนี้ มีการจัดตัง้ หน่วย/โครงการทีส่ ำ� คัญหลายโครงการ เพือ่ ท�ำหน้าที่ ดูแลก�ำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ และได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง จากการรบ รวมทั้งโครงการที่ให้ค�ำปรึกษาแก่ก�ำลังพลในการ กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเดิมหรือหน่วยใหม่ และโครงการ ที่ให้บริการด้านสวัสดิการแก่ก�ำลังพลและครอบครัวขณะอยู่ ระหว่างการพักฟื้น ส�ำหรับแนวทางการดูแลก�ำลังพลหลังการปฏิบัติภารกิจ ทางทหารของกองทั พ ออสเตรเลี ย เน้ น การดู แ ลก� ำ ลั ง พล ทัง้ ก่อนและหลังกลับจากการปฏิบตั ภิ ารกิจทางทหาร โดยจัดให้มี การฝึก Mental Health Training ในหน่วยทหารทุกระดับ เพื่อเสริมสร้างให้ก�ำลังพลมีสุขภาพจิตที่ดี สามารถปฏิบัติงาน ภายใต้ ภ าวะความตึ ง เครียด และความบอบช�้ำทางจิตใจได้ นอกจากนี้ กองทัพออสเตรเลียให้ความส�ำคัญต่อการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยระบบ Duty of Care ให้มีความทันสมัย เหมาะกับทหารออสเตรเลียอยู่เสมอ อีกทั้งเปิดโอกาสให้องค์กร อิสระต่าง ๆ สามารถตรวจสอบระบบ Duty of Care ได้ ตลอดเวลา 22

เสนาสาร


บทสรุป กองทัพสหรัฐฯ และออสเตรเลีย เห็นว่า สถาบันครอบครัว เป็นส่วนส�ำคัญในการรักษาอาการผิดปกติทางจิต (Psychological Disorder) อันมีผลมาจากความเครียดและความบอบช�้ำทาง ด้านจิตใจ (Traumatic Stress) ของก�ำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจ ด้านการทหาร โดยหน่วยงาน/โครงการของรัฐบาลและกองทัพ จะให้การสนับสนุนในด้านการให้ค�ำปรึกษา สวัสดิการ และ ด้านเทคนิคทางการแพทย์อย่างใกล้ชดิ แก่กำ� ลังพลและครอบครัว ควบคู่ไปด้วยอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ การวิจัยเพื่อหาแนวทาง การรักษาอาการผิดปกติดงั กล่าวทีม่ คี วามทันสมัย และเหมาะสม กับก�ำลังพล รวมทั้งการเตรียมการด้านสุขภาพจิตของก�ำลังพล ในหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ก่อนเข้าปฏิบัติภารกิจ ทางทหาร ถือเป็นแนวทางที่ ทบ. สามารถน�ำมาปรับใช้กับ ทหารผ่านศึกในโอกาสต่อไปได้

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

23


24

เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน

เสนาสาร


กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

25


การด�ำเนินการ

พลังงานทดแทน ของ ทบ.

 กรมส่งก�ำลังบ�ำรุงทหารบก

ากสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่า พลังงานหลักที่น�ำมาใช้ส�ำหรับชีวิตประจ�ำวันคือน�้ำมันปิโตรเลียมนั้น นับวันจะยิง่ มีปริมาณลดลงและมีราคาสูงขึน้ ประเทศต่าง ๆ จึงหันมาให้ความส�ำคัญกับพลังงานทดแทน ส�ำหรับประเทศไทย รัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายด้านพลังงานทดแทน รวมทั้งได้มีแผนพัฒนาและส่งเสริม การใช้พลังงานทดแทนระยะเวลา ๑๕ ปี (ปี ๒๕๕๕ - ๒๕๖๔) โดยมีเป้าหมายในการใช้พลังงานทดแทนเป็นสัดส่วน ๒๐% ของพลังงานทั้งหมด กห. ได้ตอบสนองต่อนโยบายด้านพลังงานทดแทนของ รัฐบาล โดยก�ำหนดแผนยุทธศาสตร์พลังงานทดแทนของ กห. พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๖๘ มีประเด็นส�ำคัญในเรื่องการพัฒนา พลังงานทดแทนให้เหมาะสมกับสภาพของหน่วยและภารกิจ ที่ต้องใช้พลังงานเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อน รวมทั้ง รมว.กห. ได้ประกาศวิสัยทัศน์และเจตนารมณ์ให้ กห. เป็นหน่วยน�ำและ เป็นแบบอย่างในการใช้พลังงานในหน่วยทหารให้เป็นแบบอย่าง แก่ส่วนราชการอื่น ๆ โดยพิจารณาให้บริษัทเอกชนเป็นผู้ร่วม ลงทุน รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและ

26

ส่วนราชการอื่น ๆ ทั้งนี้ ในส่วนของเหล่าทัพจะต้องพิจารณา ใช้ ป ระโยชน์ จ ากพื้ น ที่ ท หารที่ มี อ ยู ่ เ พื่ อ ด� ำ เนิ น โครงการด้ า น พลังงานทดแทน ส�ำหรับ ทบ. ได้ก�ำหนดแนวทางการด�ำเนินการพลังงาน ทดแทนของ ทบ. โดยให้ กบ.ทบ. เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก และแบ่งเป้าหมายในการพัฒนาพลังงานทดแทนเป็น ๓ ระยะ ได้แก่ การด�ำเนินการในระยะสัน้ , ระยะปานกลาง และระยะยาว ต่ อ มา ผบ.ทบ. ได้ อ นุ มั ติ ห ลั ก การด� ำ เนิ น การโครงการผลิ ต พลังงานทดแทนในรูปแบบต่าง ๆ เป็นแผนงานระยะสัน้ ของ ทบ.

เสนาสาร


(พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘) สรุ ปสาระส�ำ คั ญคื อ การส่ ง เสริ ม การน�ำเทคโนโลยีการผลิตพลังงานทดแทนที่ได้รับการยอมรับ แล้ ว ว่ า มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ, มี ค วามคุ ้ ม ค่ า และให้ ผ ลตอบแทน การลงทุนที่เหมาะสม รวมทั้งสามารถตอบสนองแนวนโยบาย ของรัฐบาลและ กห. มาด�ำเนินการผลิตและใช้งานใน ทบ. ต่อมา ผบ.ทบ. ได้กรุณาแต่งตั้งคณะกรรมการกิจการ พลังงานทดแทนของ ทบ. โดยมี รอง เสธ.ทบ. ที่รับผิดชอบ สายงานส่งก�ำลังบ�ำรุงเป็นประธาน เพือ่ ก�ำหนดนโยบาย/แนวทาง พิจารณากลั่นกรอง และก�ำกับดูแลการด�ำเนินโครงการพลังงาน ทดแทนของ ทบ. รวมทั้งได้กรุณาแต่งตั้งคณะท�ำงานกิจการ พลังงานทดแทนของ ทบ. โดยมี จก.กบ.ทบ. เป็นประธาน เพือ่ ศึกษาข้อมูลและด�ำเนินงานด้านต่าง ๆ ให้สำ� เร็จตามเป้าหมาย อย่างเป็นรูปธรรม รวมทัง้ ได้กรุณาอนุมตั หิ ลักการให้บริษทั เอกชน ทีม่ คี วามสนใจจัดท�ำโครงการพัฒนาพลังงานทดแทนร่วมกับ ทบ. เข้าท�ำการส�ำรวจพื้นที่ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในด้านความ คุ้มค่าของการลงทุน, ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และผลกระทบ ด้านอื่น ๆ (ถ้ามี) พร้อมจัดท�ำแผนงาน/โครงการในรายละเอียด เสนอ กบ.ทบ ในปัจจุบัน (ก.พ. ๕๗) มีบริษัทเอกชนให้ความสนใจใน การเข้าร่วมโครงการจ�ำนวน ๑๒ บริษัท โดยมีแผนด�ำเนินการ ผลิตพลังงานทดแทนในรูปแบบทีแ่ ตกต่างกันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ได้แก่ การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์, การปลูกหญ้า เนเปียร์เพื่อผลิตเป็นก๊าซชีวภาพ, กระแสไฟฟ้า และน�้ ำมัน ไบโอดีเซล และการใช้วัสดุเหลือใช้อินทรีย์มาผลิตก๊าซชีวภาพ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ทั้งนี้ บริษัทฯ ดังกล่าวได้เข้าส�ำรวจพื้นที่ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการด�ำเนินการเรียบร้อยแล้ว และ คณะท�ำงานกิจการพลังงานทดแทนของ ทบ. ได้เชิญบริษัทฯ มาเสนอแผนการด� ำ เนิ น งานของบริ ษั ท เพื่ อ พิ จ ารณาความ เหมาะสม รวมทั้งก�ำหนดระเบียบ, หลักการ และแนวทาง ในการบริหารจัดการกิจการพลังงานทดแทนให้บรรลุผลตาม เป้าหมาย สามารถพัฒนาพลังงานทดแทนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อ ทบ. อย่างยั่งยืน โดยค�ำนึงถึงประโยชน์ที่จะมีต่อก�ำลังพล, หน่วย, ภารกิจ และการมีส่วนร่วมของหน่วยในภาพรวมของ ทบ. เป็นส�ำคัญ

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

27


28

เสนาสาร


หน่วยท�ำลายล้างวัตถุระเบิด (EOD Anothai Unit)  หน่วยท�ำลายล้างวัตถุระเบิดอโณทัย กรมสรรพาวุธทหารบก

บึ้ม !!! บึ้ม !!! บึ้ม !!!

“เมื่อเสียงระเบิด หรือแม้แต่คนตะโกนว่าเกิดเหตุระเบิด คนส่วนใหญ่จะท�ำอะไร ?" หลายคนอาจวิง่ หนี หรือหลบไปอยูใ่ นที่ ๆ ปลอดภัยจากการระเบิด แต่มคี นอยูก่ ลุม่ หนึง่ ทีเ่ ดินเข้าหา เหตุการณ์ ถึงแม้จะรู้เป็นอย่างดีว่า การเข้าหาวัตถุระเบิดในแต่ละครั้งมีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาด ซึง่ อาจหมายถึงชีวติ ของคนกลุม่ นีด้ ว้ ย แต่กลับกันหากการเข้าหาวัตถุระเบิดครัง้ นัน้ ประสบความส�ำเร็จ ก็หมายรวมถึงอีกหลาย ๆ ชีวิตที่จะปลอดภัยด้วย คนกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า "อีโอดี” ความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทวี ความรุนแรงขึ้นในหลากหลายรูปแบบ ท�ำให้ประชาชนในพื้นที่ หวาดกลั ว และได้ รั บ ผลกระทบจากเหตุ ค วามรุ น แรงอย่ า ง ต่อเนื่อง ซึ่งเหตุความไม่สงบดังกล่าว เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ทั้งการลอบยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทหาร ต�ำรวจ และประชาชน หรือแม้แต่การวางระเบิด ซึ่งผู้ก่อความไม่สงบได้น�ำวัตถุระเบิด กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

แสวงเครื่อง มาใช้ในการลอบท�ำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชน จึงเป็นเหตุผลให้มีการจัดตั้งหน่วยท�ำลายล้างวัตถุระเบิดอโณทัย ขึ้นเมื่อ ปี ๒๕๔๗ โดยกรมสรรพาวุธทหารบก ได้จัดก�ำลังพล จากแผนกวิชาอาวุธและกระสุน รร.ทหารสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธ ทหารบก และจัดจากแผนกตรวจซ่อมและท�ำลาย กองคลังแสง กรมสรรพาวุธทหารบก เพื่อท�ำหน้าในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดน 29


ภาคใต้ เป็นเวลากว่า ๑๐ ปี ทีห่ น่วยท�ำลายล้างวัตถุระเบิดอโณทัย ปฏิบตั ภิ ารกิจอย่างต่อเนือ่ ง ปัจจุบนั หน่วยท�ำลายล้างวัตถุระเบิด อโณทัย มี พ.อ.กฤตภาส เครือเนตร เป็นผู้บังคับหน่วย ภารกิจของหน่วยท�ำลายล้างวัตถุระเบิดนั้น เป็นการ เข้าด�ำเนินการให้วัตถุระเบิดแสวงเครื่อง และสรรพาวุธระเบิด ทุกชนิดที่ยังไม่ระเบิด และอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชน และเจ้าหน้าที่ เช่น ลูกระเบิดขว้าง ชนิดต่าง ๆ ลูกระเบิดยิงจากเครือ่ งยิงลูกระเบิด กระสุนชนิดต่าง ๆ ทีเ่ สือ่ มสภาพและอาจก่อให้เกิดอันตราย การท�ำงานของเจ้าหน้าที่ อีโอดี จึงเป็นงานที่เสี่ยง หากเราท�ำส�ำเร็จ ท�ำให้วัตถุระเบิดนั้น ปลอดภัย นั่นคือชีวิตของเรา และคนที่อาจจะต้องได้รับผล จากการถูกระเบิดก็รอดชีวิตด้วย ในขณะเดียวกัน แต่หากเกิด ความผิ ด พลาดในระหว่ า งการปฏิ บั ติ ภ ารกิ จ การท� ำ งานนั่ น ก็หมายถึงชีวิตของเจ้าหน้าที่อีโอดี ที่อาจจะแค่บาดเจ็บ พิการ 30

หรืออาจจะต้องเสียชีวิต ตามเหตุการณ์ที่เคยพบเห็นในโทรทัศน์ และหน้าหนังสือพิมพ์ หลักสูตรอีโอดี จะรับผู้ที่เข้ารับการศึกษาประมาณ ๓๐ ถึง ๓๕ คน ต่อหลักสูตร และจะต้องท�ำการสอบภาควิชาการ ในเรื่องยุทโธปกรณ์กระสุน ระเบียบการท�ำลายปี ๔๗ และ การท�ำลาย และท�ำการทดสอบร่างกาย ซึง่ คะแนนทัง้ ภาควิชาการ และสมรรถภาพร่างกาย ต้องผ่าน ๗๐ เปอร์เซ็นต์ เมือ่ ผ่านเข้าไป เรียนหลักสูตรแล้ว จ�ำต้องท�ำการเรียนภาคทฤษฎีที่เข้มข้น เกือบ ๓ เดือนและฝึกภาคสนามอีก ๑ เดือน เกี่ยวกับการ ท�ำลายสรรพาวุธที่ยังไม่ระเบิด รวมทั้งกระสุนที่เสื่อมสภาพ ไม่ได้มาตรฐาน ภาควิชาการจะต้องจ�ำยุทโธปกรณ์เกีย่ วกับกระสุน และวัตถุระเบิดที่มีใช้ในกองทัพบกและในโลกของคอมมิวนิสต์ ซึ่งจะต้องจดจ�ำลักษณะ การท�ำลาย อันตรายของวัตถุระเบิด รวมทัง้ การท�ำงาน เพือ่ ให้เข้าใจกระสุนและวัตถุระเบิดแต่ละชนิด ว่ามีการท�ำงานอย่างไร เมื่อจบหลักสูตรก็จะต้องลงไปท�ำงานในพื้นที่ ๓ จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วงานด้านวัตถุระเบิด แสวงเครื่อง (Improvised Explosive Devices) เป็นงาน ด้านหนึง่ ของอีโอดี (Explosive Ordnance Disposal) เท่านัน้ เอง วัตถุระเบิด ประกอบด้วยองค์ประกอบ คือ กลไกการ จุดระเบิด, เชือ้ ปะทุ และดินระเบิด โดยเริม่ การท�ำงานจาก กลไก การจุดระเบิด ทีเ่ ราอาจจะไปสัมผัสถูก, กดถูก, สะดุดถูก, ยกของ ที่กดทับออก, คนร้ายกดรีโมทสั่งการจากระยะที่ปลอดภัย, วิทยุ สือ่ สารและมือถือโดยการเข้ารหัส (DTMF) จึงเป็นทีม่ าของสิง่ แรก ที่ผู้พบเห็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง หรือ IED (Improvised เสนาสาร


Explosive Device) ที่จะต้องปฏิบัติ คือ การห้ามไปสัมผัสโดน อย่างเด็ดขาด และห้ามเคลื่อนย้าย ล�ำดับต่อมา คือ การกั้นพื้นที่ และล�ำเลียงผู้คนออกจากพื้นที่ในรัศมี ๑๐๐, ๒๐๐ และ ๔๐๐ เมตร โดยขึ้นอยู่กับการคาดการณ์น�้ำหนักของวัตถุระเบิดที่ ๕, ๕ - ๑๐ และมากกว่า ๑๐กิโลกรัม ตามล�ำดับ และท�ำการกัน้ พืน้ ที่ ใน ขัน้ ตอนที่ ๓ คือ การติดต่อกับเจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจ ซึง่ เจ้าหน้าที่ EOD ของต�ำรวจที่มีประจ�ำในทุกจังหวัดจะมีอ�ำนาจเต็มทางกฎหมาย และความรับผิดชอบในยามปกติ ในขณะที่ EOD ของหน่วยงาน ทหารจะมีอำ� นาจเต็มในพืน้ ทีข่ องหน่วยทหาร และในยามสงคราม หรือไปเป็นตามการร้องขอจาก EOD ต�ำรวจ เราจึงเป็นเพียง ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน กระบวนการปฏิบัติงานของหน่วย ทลร. ของ สพ.ทบ., วิ วั ฒ นาการของหน่ ว ย, อั น ตรายจากวั ต ถุ ร ะเบิ ด ตลอดจน แนวทางทีส่ ามารถอ�ำนวยการให้หน่วย ทลร.สามารถปฏิบตั งิ านได้ อย่างมีประสิทธิภาพทีส่ ดุ ซึง่ ความส�ำเร็จ หรือ ความดีความชอบ มิได้ปรากฏ หรือแสดงได้ด้วยเงินทอง และชื่อเสียง แต่สิ่งที่ ต้องการที่สุด คือ ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ของ ประชาชนและผูป้ ฏิบตั งิ านซึง่ ทุกเสีย้ วเวลาล้วนเต็มไปด้วยหายนะ ร้ายแรง จุดเป็นจุดตายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เป็นการลดโอกาส การน�ำมาซึ่งการต่อรอง และเจรจา ในสิ่งที่ท�ำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี ได้ประโยชน์จากการใช้วัตถุระเบิด มาเป็นเครื่องมือต่อรอง ในความมั่นคงของชีวิตและทรัพย์สิน การปฏิบัติงานในด้านนี้ควรให้ความส�ำคัญสูงสุดในการ ปฏิบัติงาน ถึงแม้จะเป็นต้นทุนที่สูง หากเทียบกับการสูญเสีย ทีต่ ามมา จึงไม่ควรข้ามสิง่ ส�ำคัญนีไ้ ป แต่จดุ หนึง่ ทีส่ ำ� คัญกว่าสิง่ ใด กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

คือการมีสติและไม่ประมาท สุดท้ายนี้ ผมอยากฝากข้อคิดดี ๆ จาก พ.อ.มานะ ประภาศิริ บูรพาจารย์แห่ง EOD ที่กล่าวกับ นั ก ท� ำ ลายวั ต ถุ ร ะเบิ ด ว่ า “อย่ า ตั้ ง ตนอยู ่ ใ นความประมาท และอย่ายึดถือเอาความเคยชิน เพราะความเคยชิน เป็นหนทาง แห่ ง ความประมาท แล้ ว จะเกิ ด อั น ตราย” เพราะชี วิ ต ที่ ว ่ า ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชีวิตเราคนเดียว แต่รวมถึงชีวิตของประชาชน ผู้บริสุทธิ์บนท้องถนน บนผืนแผ่นดินไทยด้วย จะว่าไปแล้ว "อีโอดี" เปรียบเสมือนทัพหน้าที่ต้องเผชิญ กับอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต เป็นผู้พิทักษ์ชีวิตของประชาชน ชีวติ ทุกย่างก้าวระหว่างปฏิบตั หิ น้าทีข่ องอีโอดีเสมือนกับการก้าว เท้าข้างหนึง่ ไปสูม่ อื มัจจุราช ทีพ่ ร้อมจะกระชากวิญญาณของเขา ทันทีทเี่ สียงระเบิดดัง นัน่ ไม่ใช่แค่การท�ำงานผิดพลาด แต่หมายถึง ชีวิต !!! ขณะเดียวกันหน่วยท�ำลายล้างวัตถุระเบิด ก็เป็นวีรบุรุษ และเป็นอีกเขี้ยวเล็บหนึ่งของกองทัพบกไทย... 31


คดี กฎหมายใกล้ตัว  ส�ำนักงานพระธรรมนูญทหารบก

การบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ากการที่ได้มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหาร ร า ช ก า ร ใ น ส ถ า น ก า ร ณ ์ ฉุ ก เ ฉิ น ใ น ร ะ ดั บ สถานการณ์ ที่ มี ค วามร้ า ยแรง มี ผ ลบั ง คั บ ใช้ ร ะหว่ า ง ๒๒ ม.ค. ๕๗ ถึง ๒๒ มี.ค. ๕๗ ระยะเวลา ๖๐ วัน ซึ่งกฎหมาย ให้ก�ำหนดระยะเวลาครั้งหนึ่งได้ไม่เกิน ๙๐ วัน แต่อาจขยาย ระยะเวลาได้ครั้งละไม่เกินสามเดือนโดยความเห็นชอบของ คณะรัฐมนตรี มีหลายท่านอาจไม่เข้าใจถึงหลักการ เหตุผล และความจ�ำเป็น ตลอดจนอ�ำนาจในการประกาศใช้กฎหมายนี้ เป็นอย่างไร เพื่อเป็นการท�ำความเข้าใจโดยง่ายต่อรายละเอียด ทั้งหมดโดยย่อ ภายใต้ข้อจ�ำกัดของกรอบหน้ากระดาษที่พอ จะให้ ห มอกฎหมายเขี ย นอธิ บ ายความแจ้ ง ให้ ท ่ า นได้ รู ้ คื อ เหตุผลทีม่ กี ารประกาศใช้นนั้ เนือ่ งจากมีการใช้กำ� ลังประทุษร้าย ต่อชีวิตหรือทรัพย์สินหรือมีเหตุที่เชื่อได้ว่าการท�ำรุนแรงกระทบ ต่ อ ความมั่ น คงของรั ฐ ความปลอดภั ย ในชี วิ ต หรื อ ทรั พ ย์ สิ น และมี ค วามจ� ำ เป็ น ที่ จ ะต้ อ งเร่ ง แก้ ป ั ญ หาหรื อ แก้ ไ ขเยี ย วยา

32

ความเสี ย หายจากภั ย พิ บั ติ ส าธารณะอั น มี ม าอย่ า งฉุ ก เฉิ น และร้ า ยแรง ซึ่ ง นายกรั ฐ มนตรี โ ดยความเห็ น ชอบของ คณะรั ฐ มนตรี เ ป็ น ผู ้ มี อ� ำ นาจประกาศ การประกาศ สถานการณ์ ฉุ ก เฉิ น นั้ น จะประกาศทั่ ว ราชอาณาจั ก รหรื อ เฉพาะบางเขตหรือบางท้องที่ก็ได้ ซึ่งการประกาศใช้ในครั้งนี้ เป็ น การประกาศใช้ เ ฉพาะที่ ใ นเขตกรุ ง เทพฯ ในเขตท้ อ งที่ กทม. จ.นนทบุรี อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ในการประกาศนี้นายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ ผู ้ รั บ มอบอ� ำ นาจมี อ� ำ นาจหน้ า ที่ โดยออกข้ อ ก� ำ หนดหลาย ประการด้ ว ยกั น ได้ แ ก่ ห้ า มมิ ใ ห้ บุ ค คลออกนอกเคหสถาน ในเวลาที่ก�ำหนด, ห้ามมิให้ชุมนุม หรือมั่วสุมกัน, ห้ามเสนอข่าว จ�ำหน่ายหรือแพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ที่มีข้อความอันท�ำให้ ประชาชนหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูล ข่าวสารท� ำให้ เข้ า ใจผิ ด ในสถานการณ์ ห้ า มการใช้ เ ส้ น ทางคมนาคมหรื อ การใช้ยานพาหนะหรือก�ำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคม

เสนาสาร


หรือการใช้ยานพาหนะ, ห้ามการใช้อาคารหรือเข้าไป หรืออยู่ ในสถานที่ใด ๆ, ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่ก�ำหนด เพื่ อ ความปลอดภั ย ของประชาชนดั ง กล่ า วหรื อ ห้ า มผู ้ ใ ด เข้าไปในพื้นที่ที่ก�ำหนด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อก�ำหนด ดั ง กล่ า วนี้ ให้ มี ผ ลบั ง คั บ เมื่ อ ๒๓ ม.ค. ๕๗ และมี อ� ำ นาจ ออกประกาศ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอ�ำนาจจับกุมและควบคุม ตั ว บุ ค คลที่ ต ้ อ งสงสั ย ว่ า เป็ น ผู ้ มี ส ่ ว นร่ ว มกระท� ำ การให้ เ กิ ด สถานการณ์ฉุกเฉิน หรือผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระท�ำ การเช่นนั้น, มีอ�ำนาจออกค�ำสั่งเรียก เรียกบุคคลมาเพื่อให้ ถ้อยค�ำ หรือส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ฉุกเฉิน, มีอำ� นาจ ยึด หรือ อายัด อาวุธ สินค้า เครือ่ งอุปโภค บริโภค เคมีภณ ั ฑ์ หรือวัตถุอื่นใด กรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้หรือจะใช้สิ่งนั้น เพื่อกระท�ำการหรือสนับสนุน ให้เกิดเหตุสถานการณ์ฉุกเฉิน, มีอ�ำนาจตรวจค้นตามความจ�ำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อระงับ เหตุร้ายแรงเพื่อให้ยุติโดยเร็ว เป็นต้น มีข้อสังเกตว่า ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการฯ นั้น นายกรัฐมนตรีอาจแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ต�ำรวจ หรือทหาร ซึ่งมีต�ำแหน่งไม่ต�่ำกว่าอธิบดีผู้บัญชาการต�ำรวจ แม่ทัพ หรือ เทียบเท่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่และก�ำหนดให้เป็นหัวหน้า ผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่และบังคับ บัญชาข้าราชการและพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยให้การปฏิบตั หิ น้าที่ ของส่วนราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งพนักงาน เจ้าหน้าที่เป็นไปตามการสั่งการของหัวหน้าผู้รับผิดชอบนั้น เว้นแต่การปฏิบัติหน้าที่ทางทหารให้เป็นไปตามกฎระเบียบ หรื อ ข้ อ บั ง คั บ เกี่ ย วกั บ การใช้ ก� ำ ลั ง ทหารแต่ จ ะต้ อ งปฏิ บั ติ ให้ ส อดคล้ อ งกั บ แนวทางการด� ำ เนิ น การที่ ผู ้ ซึ่ ง ได้ รั บ แต่ ง ตั้ ง เป็ น หั ว หน้ า ผู ้ รั บ ผิ ด ชอบก� ำ หนด ในการบั ง คั บ ใช้ พ.ร.ก. การบริหารราชการฯ ในสามจังหวัดชายแดนใต้จนถึงปัจจุบัน นายกรั ฐ มนตรี ได้ แต่ง ตั้ง แม่ทัพภาคที่ ๔ เป็นผู้รับหัว หน้า ผู ้ รั บ ผิ ด ชอบและในสถานการณ์ ชุ ม นุ ม ก่ อ ความไม่ ส งบ ในกรุงเทพมหานคร เดือน เม.ย. - พ.ค. ปี ๕๓ นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้ง ผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้รับหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฯ ครั้ ง นี้ นายกรั ฐ มนตรี ได้จดั ตัง้ หน่วยงานพิเศษเป็นการเฉพาะ คือ ศูนย์รกั ษาความสงบ (ศรส.) และมีค�ำสั่งแต่งตั้งให้ ผบ.ต�ำรวจแห่งชาติเป็นหัวหน้า ผูร้ บั ผิดชอบ อีกทัง้ มีคำ� สัง่ ให้ขา้ ราชการต�ำรวจ ข้าราชการทหาร

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

และข้ า ราชการพลเรื อ น ซึ่ ง เป็ น ผู ้ ป ฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ห รื อ ได้ รั บ มอบหมายเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนี้ด้วย ดังนั้น ข้าราชการทหาร หากได้รับการร้องขอจากหัวหน้าผู้รับผิดชอบ จะต้ อ งมี ค วามพร้ อ มในการปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ใ นฐานะพนั ก งาน เจ้าหน้าที่ ตามที่กฎหมายให้อ�ำนาจไว้ การคุ ้ ม ครองเจ้ า หน้ า ที่ การที่ ข ้ า ราชการทหารเป็ น พนักงานเจ้าหน้าที่นั้น จะท�ำให้เป็นผู้มีอ�ำนาจหน้าที่และมีฐานะ เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาและมีอำ� นาจหน้าที่ เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือต�ำรวจตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญาตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศก� ำหนด ประการส�ำคัญทีต่ อ้ งเข้าใจ พ.ร.ก.การบริหารราชการฯ ก�ำหนดว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือ ทางวินัยนั้น ต้องเข้าใจด้วยว่าจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในกรอบของ กฎหมาย กล่าวคือจะต้องเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการระงับหรือ ป้องกันการกระท�ำผิดกฎหมาย โดยมีเงื่อนไขประกอบกัน ๓ ประการ คือ การกระท�ำทีส่ จุ ริต, ไม่เลือกปฏิบตั แิ ละไม่เกินสมควร แก่เหตุหรือไม่เกินกว่ากรณีจ�ำเป็นหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ บทก�ำหนดโทษ ผู้ใดฝ่าฝืนข้อก�ำหนด ประกาศ หรือค�ำสั่งที่ออกตามพระราชก�ำหนดนี้ต้องระวางโทษ จ� ำ คุ ก ไม่ เ กิ น ๒ ปี หรื อ ปรั บ ไม่ เ กิ น ๔๐,๐๐๐ บาท หรื อ ทั้งจ�ำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เพื่อใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการฯ นั้น ผู้มีอ�ำนาจควรที่จะได้ ตระหนักถึงเหตุผลและความจ�ำเป็นอย่างแท้จริงในการที่จะ ประกาศใช้ฯ รวมตลอดถึงความเป็นไปได้ในการบังคับใช้ที่จะ ให้สัมฤทธิผลเป็นรูปธรรมเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและ ประเทศชาติเป็นไปเพือ่ ความสงบสุขอย่างแท้จริง ในทางกลับกัน หากผูม้ อี ำ� นาจกระท�ำไปโดยไม่สจุ ริตบนพืน้ ฐานอคติอนั ได้แก่ รัก (รักและห่วงตัวเอง) โลภ โกรธ และหลง ซึ่งจะท�ำให้การบังคับใช้ กฎหมายนั้นไร้ผล ไร้ทิศทาง และ ไร้ความชอบธรรมจากเหตุ ดังกล่าว จะท�ำให้เกิดการเสียหายในตัวกฎหมายอย่างยิ่งหรือ กล่าวอีกนัยหนึง่ กฎหมายขาดความศักดิส์ ทิ ธิก์ ารกระท�ำดังกล่าว เป็นการท�ำลายกฎหมายพิเศษอย่างแท้จริงและอาจเป็นผู้สร้าง ความรุนแรงให้เกิดขึน้ เองได้จากการประกาศใช้กฎหมายนีจ้ ะด้วย เจตนาหรือไม่ก็ตาม อนิจจาถ้าเป็นเช่นนี้การบริหารสหกรณ์ให้มี การกู้ฉุกเฉินยังมีประโยชน์เสียกว่า

33


ตอน ข้าราชการทหารและก�ำลังพล กับการเล่นแชร์

วัสดีครับเพื่อนทหารและบรรดาสมาชิกวารสาร กองทัพบก ที่เคารพรักทุกท่าน ก่อนอื่นต้องขอ ขอบพระคุณผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบกเป็นอย่างสูง ที่เล็งเห็นความส�ำคัญของกฎหมายและ ให้โอกาสแก่ สธน. ทบ. ในการเขียนบทความทางกฎหมายลงในวารสารดังกล่าว ซึ่งดังค�ำที่นิยมกล่าวกันทั่วไปว่าการบูรณาการใด ๆ ทั้งหมด ต้องให้ครบวงจรตั้งแต่ต้นน�้ำ กลางน�้ำ และปลายน�้ำ นั่นจึงจะ ท�ำให้การด�ำเนินการในกรณีนั้น ๆ สมบูรณ์ได้ด้วยดี ซึ่งความ จริงเรื่องดังกล่าวในพุทธศาสนาได้มีกล่าวไว้แล้วโดยสามารถ น� ำ มาเที ย บเคี ย ง เพื่ อ ใช้ ป ระโยชน์ ไ ด้ ใ นทุ ก เรื่ อ งแม้ ก ระทั่ ง การปฏิบัติงานราชการและส่วนตัวได้ดีจนบรรลุผลส�ำเร็จ เพียง แต่ว่าคนไทยเราขาดการศึกษาในทางพุทธศาสนาอย่างแท้จริง จึงท�ำให้ไม่มีต้นทุนที่จะใช้หลักศาสนามาเป็นประโยชน์ เรื่อง ดังกล่าวมีอยู่ว่า การด�ำเนินการ เพื่อเผยแพร่งานทางศาสนานั้น พระพุทธองค์ได้ชี้แนะสาวกว่า ภิกษุทั้งหลายเธอจงไปประกาศ พรหมจรรย์ (เผยแพร่หลักธรรมค�ำสอน) ให้ถึงพร้อมด้วยความ งดงาม (บรรลุผลส�ำเร็จ) ทัง้ ในเบือ้ งต้นหรือต้นน�ำ้ (อาทิกลั ยานัง) ในท่ามกลางหรือกลางน�้ำ (มัชเฌกัลยานัง) และงดงามในที่สุด หรือปลายน�้ำ (ปริโยสานกัลยานัง) ในความเป็นทหารก็เช่นกัน

34

ในการทีจ่ ะบรรลุผลส�ำเร็จทัง้ หลายในหน้าทีก่ ารงานจะต้องรอบรู้ นอกจากวิชาการในเหล่าของตนเองแล้ว กฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็จะต้องใฝ่หาที่จะเรียนรู้ด้วย อย่ามองข้ามว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ส�ำคัญ ซึ่งบางเรื่องอาจ เป็นเหตุให้ถึงกับถูกลงโทษลงทัณฑ์และอาจถูกปลดออกจาก ราชการได้ โดยที่ตนเองไม่คาดคิดมาก่อนว่าการกระท�ำเช่นนี้ จะเป็นความผิดนอกจากตัวเองรู้แล้วจะต้องขยายความรู้ในเรื่อง ต่าง ๆ ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบด้วย หรือกล่าวอีกในหนึ่ง ในชีวิตราชการนั้นจะต้องด�ำเนินวิถีทางเริ่มรับราชการ ขณะรับ ราชการ จวบจนกระทัง่ เกษียณอายุราชการจะต้องด�ำเนินไปด้วย ความสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้านด้วยดี จึงจะขึ้นชื่อว่า ได้ปฏิบัติ ราชการด้วยความไม่ประมาท แต่ในข้อเท็จจริงแล้วก็ยากที่ ทหารจะรู้ในเรื่องดังกล่าวไปเสียทั้งหมดนับว่าเป็นเรื่องยากด้วย เหตุที่มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องเป็นจ�ำนวนมาก ยกตัวอย่าง เบา ๆ สัก ๑ เรื่องในฉบับนี้เป็นปฐมฤกษ์ คือ เรื่องการเล่นแชร์ เดิม ได้มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี ๒๔๙๘ ห้ามข้าราชการและพนักงาน องค์การรัฐบาลเล่นการลงแชร์ด้วยเหตุผลที่อาจก่อให้เกิดหนี้สิน และอาจเป็นเหตุให้เกิดคอร์รัปชันขึ้นได้ง่าย ซึ่งต่อมาเมื่อปี ๒๕๔๖ ได้มีมติยกเลิกเล่นแชร์ดังกล่าวให้สามารถเล่นแชร์ได้ เพื่อให้เหมาะสมแก่กาลสมัยแต่เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา ที่จะต้องกวดขันดูแลผู้ใต้บังคับบัญชามิได้หมกมุ่นหรือเอาใจใส่ เกี่ยวกับการเล่นแชร์ในสถานที่ราชการจนเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการ หรือแตกความสามัคคี หรือเป็นหนี้สินโดยไม่สมควร ซึ่งแม้จะไม่ผิดวินัยฐานเล่นแชร์แต่ยังคงเป็นความผิดทางวินัย และสามารถด� ำ เนิ น การทางวิ นั ย ตามกฎหมายหรื อ ระเบี ย บ ที่มีในฐานะอื่นได้ นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทหารหรือก�ำลังพล ส่วนใหญ่อาจไม่ทราบหรือทราบก็มองเป็นเรื่องเล็กน้อย กรณี ดังกล่าวหากไม่ปฏิบตั ติ ามแล้ว หากส่งผลกระทบในทางทีเ่ สียหาย ใด ๆ ขึ้นมาอาจถูกด�ำเนินการทางวินัยได้ทั้งผู้บังคับบัญชาและ ผู้ใต้บังคับบัญชาเนื่องจากได้มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี ๒๕๓๑ ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเคร่งครัดหากฝ่าฝืน ให้พิจารณาลงโทษทางวินัยทุกราย ฉบับนี้ขอมอบเกร็ดความรู้ เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เพียงหอมปากหอมคอเท่านี้ก่อนไว้พบกัน ในเรื่องใหม่ฉบับหน้าต่อไปครับ

เสนาสาร


ตอน เอาปืนหลวงไปจ�ำน�ำมีโทษอย่างไร ซุนวู กล่าวว่า "เมื่อโลกมีสันติภาพ สุภาพบุรุษย่อม

วางดาบไว้ข้างตัว" ดาบของซามูไร คือดาบแห่งเกียรติยศ ซามูไรจะไม่ยอม ให้มันหลุดจากข้างกายโดยเด็ดขาด มันต้องติดตัวพวกเขาตลอด เวลา ยามนอนก็ตอ้ งมีมนั อยูใ่ ต้หมอนด้วย เฉกเช่น ชายชาตินกั รบ ทหารย่อมมีอาวุธปืนไว้เคียงกายตลอดเวลา เพื่อป้องกันตนเอง และใช้ในการปฏิบตั หิ น้าทีใ่ นการรักษาพิทกั ษ์เอกราช ความมัน่ คง ของรัฐ และสถาบันพระมหากษัตริย์ วันนี้มี ค�ำถาม ว่านาย ก. รับราชการทหาร มีค�ำสั่งให้ลง ไปประจ�ำการที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ จากนัน้ เอาปืนหลวงไปจ�ำน�ำ ต่อมาได้รบั ค�ำสัง่ ให้กลับมาประจ�ำการทีเ่ ดิม ถ้านาย ก. หาเงินไป ไถ่ปนื คืนไม่ได้นาย ก.จะต้องรับโทษทางวินยั ทหารจะรุนแรงสูงสุด ประการใด จะมีผลอย่างไรต่อหน้าทีก่ ารงาน เนือ่ งจากนาย ก. คือ พ่อของหนูคะ่ ขอบพระคุณล่วงหน้าส�ำหรับผูท้ จี่ ะให้ความกระจ่าง ตอบปัญหา ดังนี้ ๑. ความผิดทางอาญา กล่าวคือ นาย ก.รับราชการทหาร ไปปฏิบัติราชการใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ นาย ก.อยู่ในฐานะ “พนักงานเจ้าหน้าที”่ หรือเจ้าพนักงานทหารผูบ้ งั คับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ มีหน้าทีใ่ นการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวติ ทรัพย์สนิ ของประชาชนและรั ก ษาความสงบเรี ย บร้ อ ยของบ้ า นเมื อ ง ตามที่ ก ฎหมายให้ อ� ำ นาจไว้ และทางราชการจ่ า ยอาวุ ธ ปื น ของทางราชการไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ นาย ก.อยู่ในฐานะ ผู ้ ค รอบครองและมี ห น้ า ที่ จ ะต้ อ งใช้ แ ละรั ก ษาทรั พ ย์ สิ น ของทางราชการไว้ จนกว่าจะส่งคืนหลังจากจบภารกิจหรือ ตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่งหรือตามระเบียบของทางราชการ การที่ นาย ก.น�ำอาวุธปืนของทางราชการไปจ�ำน�ำนั้น เป็นความผิด อาญาฐานมี ห น้ า ที่ รั ก ษาอาวุ ธ ปื น ของทางราชการเบี ย ดบั ง

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

เอาทรัพย์ของทางราชการไปโดยทุจริตการกระท�ำเป็นความผิด ส�ำเร็จแล้ว แม้ต่อมาภายหลังจะน�ำเงินไปไถ่ถอนคืน ความผิด ทางอาญาดังกล่าวไม่ได้ระงับไปด้วย ความผิดมีโทษถึงจ�ำคุก (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๗ โทษจ�ำคุกตั้งแต่ ๕ ปี ถึง ๒๐ปี หรือตลอดชีวิต) ๒. ความผิดทางวินัย กล่าวคือ นาย ก.รับราชการทหาร เอาอาวุธปืนไปจ�ำน�ำ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ อาวุธปืน ซึ่งเป็นอาวุธประจ�ำกาย มีข้อบังคับทหาร ค�ำสั่ง ค�ำชี้แจง เรื่อง การควบคุมศาสตร์ภัณฑ์ประจ�ำกายฯ และวินัยการรักษาอาวุธ และเครื่องยุทโธปกรณ์ โดยสรุป ศาสตราภัณฑ์ที่ได้จ่ายประจ�ำ กายเมื่อเสร็จกิจราชการแล้วต้องรีบน�ำส่งคืนโดยเร็วหรือตาม ข้ อ ก� ำ หนด การไม่ ป ฏิ บั ติ ต ามข้ อ บั ง คั บ หรื อ ค� ำ สั่ ง ดั ง กล่ า ว จึงมีความผิดทางวินัยทหาร ฐานยักยอกทรัพย์ของทางราชการ มีโทษทางวินัยประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ถึงขั้นไล่ออก เข้าเกณฑ์ ปลดออกและถอดยศได้

ข้อเตือนใจ

ท่านผู้รู้กล่าวว่า

"ของตีตรา มีทะเบียน อันได้แก่ ปืน รถ และเมีย ขอให้จ�ำไว้ว่า หยิบยืม ฝาก หรือใช้ ท�ำแทนกันไม่ได้" ครับ

35


“จักรดาวสดุดี” วีรชน ผู้สละชีพ เพื่อชาติ :

พันเอก ศิวัช ศรีอุปโย  ทีมข่าวทหารบก

พันเอก ศิวัช ศรีอุปโย (ผู้กองมะขาม) เกิดเมื่อ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยก�ำเนิดแต่ในช่วงวัยเด็ก พ่อและแม่ ได้ย้ายภูมิล�ำเนาไปอยู่ที่ จว.เชียงใหม่เป็นการถาวร เขาจึงเริ่มศึกษา ชั้ น อนุ บ าลที่ โ รงเรี ย นอนุ บ าลดรุ ณ นิ มิ ต จว.เชี ย งใหม่ ศึ ก ษา ชัน้ ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นที่ รร.มงฟอร์ตวิทยาลัยและ ส�ำเร็จการศึกษาชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ที่ รร.ปรินส์รอยแยลส์วทิ ยาลัย สมัยที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เด็กชายมะขามได้เริ่มต้น กรุยทางชีวติ ตามความใฝ่ฝนั ของตนเองทีอ่ ยากเป็นทหารโดยพยายาม พัฒนาสรีระให้แข็งแรงขึน้ ด้วยการผูกถุงทรายทีต่ น้ ขาตัง้ แต่เช้าทุกวัน จะถอดออกก็ต่อเมื่อยามจะนอนเท่านั้น ในวันหยุดก็จะไปขี่จักรยาน ทางไกลพร้อมถุงทรายนั้นทุกครั้ง และเมื่อถุงทรายรั่วเขาก็เปลี่ยน เป็นถุงบรรจุแท่งเหล็กแทน ซึ่งท�ำให้เหล็กบาดต้นขาจนเลือดไหล อยู่บ่อย ๆ แต่เขาก็ไม่ยอมถอดออก พันเอก ศิวชั ศรีอปุ โย สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารถึง ๒ ครัง้ ด้วยใจทีม่ งุ่ มัน่ และในการสอบครัง้ ที่ ๒ เขาก็สามารถสอบผ่านข้อเขียน 36

ได้ทั้ง ๔ เหล่าโดยสอบได้ที่ ๑ ของเหล่าทหารเรือแต่เขาตัดสินใจ เลือกสมัครเป็นทหารบก โดยบอกพ่อแม่ว่าต้องการใช้ชีวิตอยู่ในที่ โล่ ง แจ้ ง ไม่ ช อบอึ ด อั ด อยู ่ บ นเรื อ หรื อ เครื่ อ งบิ น ที่ แ คบ ๆ ชี วิ ต การเป็ น ทหารหาญเหล่ า ทั พ บกจึ ง เริ่ ม ขึ้ น นั บ แต่ นั้ น เป็ น ต้ น มา... ในฐานะนั ก เรี ย นเตรี ย มทหาร รุ ่ น ที่ ๔๑ และนั ก เรี ย นนายร้ อ ย พระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ ๕๒ พั น เอก ศิ วั ช ศรี อุ ป โย เป็ น คนจิ ต ใจละเอี ย ดอ่ อ น มีเมตตาสูงและพร้อมที่จะเป็นผู้ให้ ระหว่างการศึกษาใน รร.นายร้อย พระจุลจอมเกล้า หนุ่มน้อยมะขามไม่เคยขอเงินจากทางบ้านอีก ทั้งยังเจียดเงินเบี้ยเลี้ยงที่มีน้อยนิดหาซื้อหนังสือจ�ำนวนมากและ เมื่ออ่านจบแล้วก็บริจาคให้ห้องสมุดของโรงเรียน จนเมื่อพ่อแม่ มีโอกาสเยีย่ มชมห้องสมุดนัน้ ในวันรับปริญญาก็พบว่ามีหนังสือทีม่ ชี อื่ “นนร. ศิวัช ศรีอุปโย” เป็นผู้บริจาคถึงประมาณ ๓๐% ของหนังสือ อ่านนอกเวลาเรียนทั้งหมดที่มีอยู่ เมื่อส�ำเร็จการศึกษาจาก รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้าแล้ว ร้อยตรี ศิวชั ศรีอปุ โย ได้สมัครไปบรรจุเพือ่ รับราชการที่ จว.นราธิวาส ด้วยเหตุผลว่า “รักและสงสารในหลวง อยากรับใช้บ้านเมือง ให้เกิดความสงบสุข ในหลวงจะได้สบายพระราชหฤทัย” พ่อแม่ จึงยอมจ�ำนนด้วยหัวใจที่เป็นห่วงสุดชีวิต พันเอก ศิวัช ศรีอุปโย เริ่มรับราชการครั้งแรก เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ในต�ำแหน่งผู้บังคับชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนกองพันที่ ๑ กรมพั ฒ นาและพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ยากรที่ ๑ (ในสมั ย นั้ น ) ซึ่ ง ปั จ จุ บั น ได้แปรสภาพหน่วยเป็นกองพลทหารราบที่ ๑๕ พ.ศ. ๒๕๔๙ ปฏิบัติหน้าที่ในต�ำแหน่งผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองร้อยทหารราบที่ ๑๕๑๑๑ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ๓๑ รับผิดชอบ พืน้ ที่ อ.เจาะไอร้อง จว.นราธิวาส และต่อมาใน ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ - ๒๕๕๑ หน่วยได้ย้ายมารับผิดชอบในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จว.นราธิวาส เสนาสาร


พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๓ ปฏิบัติหน้าที่ในต�ำแหน่งรองผู้บังคับ กองร้อย กองร้อยทหารราบที่ ๑๕๑๑๑ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ๓๑ รับผิดชอบพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จว.นราธิวาสและใน ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้รับความไว้วางใจให้เลื่อนต�ำแหน่งเป็นผู้บังคับกองร้อย กองร้อย ทหารราบที่ ๑๕๑๑๑ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ๓๑ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ปัจจุบัน ปฏิบัติหน้าที่ในต�ำแหน่งผู้บังคับ กองร้อย กองร้อยทหารราบที่ ๑๕๑๒๓ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ๓๐ รับผิดชอบพื้นที่ อ.รือเสาะ จว.นราธิวาส พันเอก ศิวชั ศรีอปุ โย เป็นนายทหารทีม่ คี วามรูค้ วามสามารถ มีคุณธรรมและความเสียสละ จริงจังในการปฏิบัติหน้าที่ มีความ นอบน้อมต่อผูบ้ งั คับบัญชาและบุคคลรอบข้าง ทัง้ ยังมีความเป็นกันเอง กับผูร้ ว่ มงานในทุกระดับชัน้ ส่งผลให้เป็นทีไ่ ว้วางใจของผูบ้ งั คับบัญชา ตลอดมา ระยะเวลากว่า ๘ ปีในดินแดนปลายด้ามขวาน ที่พันเอก ศิวัช ศรีอุปโย อุทิศชีวิตให้กับหน้าที่การงาน โดยไม่นึกถึงความสุข สบายของตนเอง และทุกครั้งที่ลูกมะขาม...ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของพ่อแม่กลับบ้านเขาจะช่วยพ่อแม่ดแู ลซ่อมแซมบ้านในส่วนทีช่ ำ� รุด โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนได้รับการชื่นชมจากเพื่อนบ้านอยู่เสมอ และด้วยหัวใจอันละเอียดอ่อนและมีกตัญญูสูง พันเอก ศิวัช ศรีอุปโย ได้คิดทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ด้วยการน�ำเงินเก็บส่วนตัว กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

ไปดาวน์ บ ้ า นและเตรี ย มที่ จ ะกู ้ เ งิ น เพื่ อ ซื้ อ บ้ า นที่ อ.ปราณบุ รี จว.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเตรียมย้ายมารับราชการที่ค่ายธนะรัชต์ หลังจากส�ำเร็จการศึกษาหลักสูตรเสนาธิการทหารตามความตั้งใจ และจะรั บ พ่ อ แม่ ไ ปอยู ่ ด ้ ว ยกั น เพื่ อ ดู แ ลในบั้ น ปลายของชี วิต โดย ได้ปรับผังตัวบ้านให้แม่ได้มีพื้นที่ส�ำหรับปฏิบัติธรรมด้วย แต่อนิจจา! บ้านยังไม่ทันสร้างเสร็จ ลูกมะขามดวงใจของพ่อและแม่ก็จากไป พันเอก ศิวัช ศรีอุปโย ผู้เป็นที่รักของผู้บังคับบัญชาเพื่อน ร่วมงาน รวมถึงคนไทยพุทธและไทยมุสลิมในพื้นที่ อ.สุไหงปาดีและ อ.รือเสาะ จากไปอย่างสมเกียรติ สมความตั้งใจที่จะอุทิศทั้งชีวิต เพื่อชาติและอธิปไตยของดินแดนไทย จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิด และซุ่มยิงทหาร ในวันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๑๖.๑๕ น. บนถนนสายในหมู่บ้านบือเจาะบองอ หมู่ ๗ ต.สาวอ อ.รือเสาะ จว.นราธิวาส ในปี ๒๕๕๗ นี้ โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันที่หล่อหลอม นักเรียนเตรียมทหารทุกนายให้เป็นสุภาพบุรุษผู้น�ำ มีความสามัคคี มีระเบียบวินัย มีความรู้คู่คุณธรรม ยึดมั่นในระบบเกียรติศักดิ์และ จงรักภักดีตอ่ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ได้มอบรางวัล “จักรดาวสดุด”ี ให้แก่ พันเอก ศิวชั ศรีอปุ โย เพือ่ เป็นการเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคณ ุ ในฐานะวี ร ชนที่ ป ฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ด ้ ว ยความมุ ่ ง มั่ น กล้ า หาญ สละชี พ อุทิศตนสร้างคุณประโยชน์ให้แก่กองทัพ สังคม และประเทศชาติ 37


สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ

๓ ทหารกล้าแห่งปัตตานี ผู้ช่วยเด็กจากการจมน�้ำ  ทีมข่าวทหารบก

หลายท่านคงจ�ำเหตุการณ์ ๓ ทหารกล้าวีรบุรษุ ทีช่ ว่ ยเด็ก จากการจมน�้ ำ ในพื้ น ที่ จั ง หวั ด ปั ต ตานี ซึ่ ง จ.ส.อ.เอกพงศ์ สวัสดิ์พันธ์, ส.ต.ไพรวัลย์ สุขพอ และ พลทหาร ทรงพันธ์ อินทรานนท์ ได้ถอดเสื้อเกราะ หมวกแคบร้า เสื้อชุดฝึก และ วางอาวุธปืนไว้หน้าฐาน แล้วรีบวิ่งไปที่บริเวณประตูน�้ำคลอง ชลประทาน ซึ่งอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการ ประมาณ ๑๕๐ เมตร และกระโดดลงน�้ำไปช่วยงมหาเด็ก จนพบร่างของ เด็กชาย ซูไฮมิง สาและ อายุ ๗ ปี จมอยู่ใต้น�้ำ และรีบน�ำขึ้นมาบนฝั่ง ปรากฏว่าเด็กชาย ได้หยุดหายใจไปแล้ว จึงได้ท�ำการผายปอด ปั๊มหัวใจ จนสามารถช่วยให้เด็กฟื้นคืนชีพสามารถหายใจได้เอง โดยเหตุ ก ารณ์ ดั ง กล่ า วเป็ น ที่ ส นใจของสื่ อ และประชาชน ทั่วประเทศ ในแง่มุมของความกล้าหาญ ที่ทหารทั้ง ๓ นาย กระโจนลงน�้ ำ โดยไม่ ห ่ ว งชี วิ ต ของตนเอง ใช้ ค วามสามารถ จากการฝึ ก ช่ ว ยชี วิ ต เด็ ก ให้ ฟ ื ้ น จากการจมน�้ ำ อย่ า งถู ก วิ ธี 38

ตลอดจนในมุมมองทีห่ ลายท่าน มองว่าระบบรักษาความปลอดภัย ไม่มีความรัดกุม วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ฟังความรู้สึก ข้อเท็จจริงในเหตุการณ์จาก ๓ ทหารกล้าค่ะ ข่าวทหารบก : ทั้งสามคนได้ลงมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ภาคใต้เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่แล้วคะ จ.ส.อ.เอกพงศ์ : ถ้ า ว่ า ไปแล้ ว ...ตั ว ผมเอง จ.ส.อ. เอกพงศ์ เริม่ ลงพืน้ ทีภ่ าคใต้ครัง้ แรกเมือ่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ปฏิบตั งิ าน อยู่ในพื้นที่ประมาณ ๓ ปี (จบภารกิจตอนปี ๒๕๕๐) และ หน่วยต้นสังกัดก็ได้รับภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ชายแดนใต้อีกครั้ง ในปี ๒๕๕๒ ก็ท�ำงานอยู่ในพื้นที่นี้มาจนถึง ปัจจุบันครับ ส�ำหรับ ส.ต.ไพรวัลย์ ลงมาปฏิบัติภารกิจ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ จนถึงปัจจุบัน ส่วนน้อง พลฯ ทรงพันธ์ ได้เข้ารับราชการทหารกองประจ�ำการที่จังหวัดปัตตานีเมื่อ ๑ พ.ย. ๕๖ จนถึงปัจจุบัน ครับ เสนาสาร


ข่าวทหารบก : ปัจจุบันประชาชนชาวไทยในภาคอื่น ๆ มองว่าสถานการณ์ในภาคใต้ ไม่มคี วามปลอดภัย และมีเหตุการณ์ ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ส�ำหรับทั้ง ๓ ท่านซึ่งอยู่ในพื้นที่เอง มองสถานการณ์ในภาคใต้เป็นอย่างไรคะ จ.ส.อ.เอกพงษ์ และ ส.ต.ไพรวัลย์ : การอยู่ในพื้นที่ มาหลายปี ท�ำให้เข้าใจสถานการณ์ในพืน้ ทีม่ ากขึน้ ผมว่าเหตุการณ์ ความไม่ ส งบในพื้ น ที่ช ายแดนใต้เ ป็นสถานการณ์ที่มีการบ่ม เพาะมาเป็นเวลายาวนาน การจะแก้ไขปัญหาต้องใช้ระยะเวลา และความอดทน สิ่งที่ผู้บังคับบัญชามีนโยบายมาอย่างต่อเนื่อง ว่าต้องท�ำให้ส�ำเร็จนั่นคือ การแยกมวลชนประชาชนผู้บริสุทธิ์ ออกจากขบวนการก่อเหตุร้าย ทหารต้องเข้าไปเพื่อปรับมุมมอง และทัศนคติของชาวบ้านให้มีความเข้าใจในการท�ำงานของ ภาครัฐ กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

ข่าวทหารบก : จากเหตุการณ์ที่ทั้ง ๓ ท่านได้ช่วยชีวิต เด็กจมน�้ำ เมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา มีหลายกระแสเกิดขึ้น ทั้งในแง่ของความกล้าหาญ และชื่นชม ตลอดจนมองว่าเราไม่มี ความรัดกุมในระบบรักษาความปลอดภัย จึงอยากจะถามว่า ในวินาทีนั้นทั้ง ๓ ท่านมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของตน เองรึเปล่า เพราะในภาพเห็นมีการถอดเสื้อเกราะด้วย ๓ ทหารกล้า : ตอนนั้นไม่คิดอะไรเลยครับ ได้ยินเสียง ชาวบ้านตะโกนว่าเด็กจมน�้ำ พวกผมก็วิ่งสุดแรงเกิด คิดแค่ว่า ไปถึงเร็ว ช่วยเด็กเร็ว ทางรอดชีวติ ก็จะมีเยอะ...คิดถึงแต่ชวี ติ เด็ก เท่านั้น วินาทีนั้นยอมรับว่าขั้นต้นไม่ได้ห่วงความปลอดภัยของ ตัวเองเลย เพราะว่าเด็กได้จมน�้ำหายไปแล้ว จะรอเวลาไม่ได้ เด็กจะขาดอากาศนานเกินไป เราต้องรีบหาเด็กให้เจอและท�ำการ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เสื้อเกราะ ปืน อะไรที่มันถ่วงน�้ำหนักตัว 39


โดนน�้ำแล้วจะเสียหาย ก็ถอดไว้ แต่พอจบเหตุการณ์แล้วพวกผม ก็เห็นว่ามีเพือ่ น ๆ ทหารอีก ๓ คนเค้ามายืน รปภ.ให้พวกเราครับ พวกนี้ใส่มาครบชุดเลยครับทั้งเสื้อเกราะ, หมวกเหล็ก และปืน ข่าวทหารบก : ในภาพเหตุการณ์เห็นว่ามีการช่วยชีวิต เด็กด้วยวิธีการผายปอด เลยอยากจะทราบว่าทั้ง ๓ ท่านได้มี การเรียนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากที่ไหนมาก่อนรึเปล่าคะ จ.ส.อ.เอกพงศ์ : โรงเรี ย นนายสิ บ ทหารบก ครั บ ในหน่วย พล.ร.๑๕ ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ จากกองพันเสนารักษ์ มาให้ ค วามรู ้ อ ย่ า งต่ อ เนื่ อ งทั้ ง ด้ า นเหตุ ก ารณ์ ฉุ ก เฉิ น และ การบรรเทาสาธารณภั ย ให้ กั บ พี่ น ้ อ งประชาชน นอกจากนี้ ในการฝึ ก ทหารใหม่ ยั ง ได้ มี ก ารสอนวิ ธี ก ารปฐมพยาบาล เบื้องต้นด้วยเช่นกันครับ และนี่ คื อ ความรู ้ สึ ก จากใจของทหารกล้ า ทั้ ง ๓ นาย เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของผู้เสียสละ ของทหาร ที่ยึดมั่น ในหน้าที่ ดังค�ำขวัญที่ว่า กองทัพบก เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ที่ท�ำให้เราทั้งหลายประจักษ์ด้วยสายตาแล้วว่า พวกเขาเสียสละเพื่อประชาชนโดยแท้จริง

40

เสนาสาร


สื่ออิเล็กทรอนิกส์

เพื่อการประชาสัมพันธ์กองทัพบก  กองประชาสัมพันธ์ ส�ำนักงานเลขานุการกองทัพบก

ปั

จจุบันการถ่ายทอดหรือส่งต่อข้อมูลสื่อสารต้อง อาศัยความรวดเร็ว ฉับไว ถูกต้อง และสามารถ เข้ า ถึ ง กลุ ่ ม ผู ้ รั บ สารได้ ห ลากหลายกลุ ่ ม กองทั พ บก โดย ผู้บัญชาการทหารบก ได้กรุณาอนุมัติให้ส�ำนักงานเลขานุการ กองทั พ บกด� ำ เนิ น การจั ด ท� ำ สื่ อ ประชาสั ม พั น ธ์ รู ป แบบใหม่ เพื่อให้ประชาชนและสื่อมวลชน รวมถึงก�ำลังพลใน ทบ. เอง ได้เข้าถึงข้อมูล การประชาสัมพันธ์ที่ ทบ. น�ำเสนอได้โดยง่าย สะดวกรวดเร็ ว และสามารถเปลี่ ย นแปลงข้ อ มู ล ให้ ทั น สมั ย ได้ตลอดเวลา สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยการจัดท�ำ เว็บไซต์ “ประชาสัมพันธ์กองทัพบก” และจัดท�ำแอปพลิเคชัน บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตใช้ชื่อว่า Army Public Ralations ทั้งในระบบ Android และ IOS โดยสื่อทั้ง ๒ แบบมีการเชื่อมโยง ข้อมูลและน�ำเสนอข้อมูลแบบเดียวกัน ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งาน ได้ตามความสะดวกของแต่ละคน มีเนื้อหาสาระที่ส�ำคัญ เช่น กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

41


สรุปข่าวประจ�ำวันที่เกี่ยวข้องกับ ทบ. เป็นการลงเนื้อหา ที่ได้จากการสรุปข่าวประจ�ำวันจากสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อโทรทัศน์ ของ ศปส.ทบ. เพื่อให้ นขต.ทบ. ทั่วทั้งประเทศได้รับทราบข่าว เช่ น เดี ย วกั บ ส่ ว นกลางและได้ น� ำ ไปพิ จ ารณาใช้ ด� ำ เนิ น การ หากมีข่าวที่เกี่ยวข้องกับหน่วย ค�ำสัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ. เป็นการเผยแพร่ค�ำสัมภาษณ์ ของ ผบ.ทบ. ที่ให้กับสื่อมวลชน ในโอกาสต่าง ๆ เพื่อเป็นการ ยืนยันการให้ข่าวและให้ตรวจสอบความถูกต้องการน�ำเสนอข่าว ของสื่อมวลชนเช่นกัน ข่าวประชาสัมพันธ์กองทัพบก เป็นการเผยแพร่กิจกรรม ต่าง ๆ ของหน่วยใน ทบ. ที่เกี่ยวกับประชาชนทั่วไป อาทิ การประกาศรับสมัครบุคคลพลเรือนเข้ารับราชการ การเชิญชวน ประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของ ทบ. ฯลฯ

42

กองทั พ บกชี้ แ จงประชาชน เป็ น การน� ำ ค� ำ ชี้ แ จงการ แถลงข่าว การตอบโต้ข่าวสารที่เกิดขึ้นในห้วงเวลา จัดท�ำข้อมูล โดยทีมงานโฆษก ทบ. เพื่อยืนยันการให้ข่าวและใช้ตรวจสอบ ความถูกต้องการน�ำเสนอข่าวของสื่อมวลชน และยังมีหัวข้อที่เป็นประโยชน์อีกจ�ำนวนมาก จึงขอเชิญ ชวนก�ำลังพลทุกนายของกองทัพบกได้น�ำไปใช้งาน โดยเว็บไซต์ ประชาสัมพันธ์กองทัพบก สามารถเข้าถึงได้โดยมี URL “www. armypr.rta.mi.th” แอปพลิเคชัน “Army Public Relations” สามารถดาวน์ โ หลดแอปพลิ เ คชั น ได้ โ ดยระบบ Android เข้าไปที่ Google Play กด Search แล้วพิมพ์ Army Public Relations ส่วนระบบ IOS เข้าไปที่ App Store กด Search แล้วพิมพ์ Army Public Relations และดาวน์โหลดเข้าไป ใช้งานได้ทันที

เสนาสาร


เที่ยวราชบุรี

ดูของดี ที่บ้านทหารช่าง  ทีมข่าวทหารบก

นสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง เมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่ ตื่นใจถ�้ำงาม ตลาดน�้ำด�ำเนิน เพลินค้างคาวร้อยล้าน ย่านยีส่ กปลาดี ค�ำขวัญยาวเหยียด

อั น เป็ น เอกลั ก ษณ์ ที่ โ ดดเด่ น ไม่ เ หมื อ นใครของจั ง หวั ด ราชบุรี ดึงดูดให้พวกเราไปเยี่ยมเยือนเมืองประวัติศาสตร์ ทีส่ ำ� คัญของประเทศแห่งนี้ ซึง่ นอกจากจะมีแหล่งท่องเทีย่ ว มากมายดังค�ำขวัญของจังหวัดแล้ว ในเขตทหารก็มีสถานที่ ท่องเที่ยวน่าสนใจไม่แพ้กัน ทีมข่าวทหารบกออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตอน ๗ โมงเช้า เพือ่ เดินทางไปยังเมืองราชบุรี เราใช้เวลาเดินทาง ประมาณ ๑ ชั่ ว โมงเศษก็ ม าถึ ง จุ ด หมายแรก ซึ่ ง ก็ คื อ ค่ายภาณุรังษี บ้านทหารช่าง ทันทีที่ไปถึงเราได้พบกับ พี่หนุ่ม นายทหารหนุ่มแห่งกรมการทหารช่าง ก�ำลังรอ ต้อนรับทีมงานเพื่อจะน�ำไปเยี่ยมชมของดีในค่ายทหาร จังหวัดราชบุรี โดยพี่หนุ่มได้พาเราไปสักการะศาลเจ้าพ่อ หลักเมืองราชบุรี เพือ่ ความเป็นสิรมิ งคลแก่ทมี ข่าวทหารบก ศาลเจ้ า พ่ อ หลั ก เมื อ งราชบุ รี เ ป็ น ศาลหลั ก เมื อ ง แห่ ง เดี ย วในประเทศไทยที่ ตั้ ง อยู ่ ใ นค่ า ยทหาร เป็ น สิ่ ง ศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสักการะของก�ำลังพลในจังหวัดราชบุรี และประชาชนทัว่ ไป สร้างขึน้ ในสมัยรัชกาลที่ ๒ ซึง่ พระองค์ ทรงย้ า ยที่ ตั้ ง เดิ ม ของเมื อ งราชบุ รี ม าฝั ่ ง ซ้ า ยของแม่ น�้ ำ แม่กลอง เนื่องจากทรงพิจารณาเห็นว่าที่ตั้งเดิมของเมือง เสียเปรียบเชิงยุทธศาสตร์ต่อพม่า ต่อมาสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื อ งราชบุ รี ไ ด้ ย ้ า ยกลั บ ไปอยู ่ ฝ ั ่ ง ขวาของแม่ น�้ ำดั ง เดิ ม แต่ไม่ได้ย้ายหลักเมืองตามไปด้วย ยังคงตั้งอยู่ที่เดิม ต่อมา กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

 ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองราชบุรี  43


กรมทหารราบที่ ๔ ได้ใช้พื้นที่ตั้งเป็นค่ายทหาร ก่อนเปลี่ยนเป็นที่ตั้ง ของกรมการทหารช่างในปัจจุบัน และในเดือนเมษายนของทุกปี จังหวัดราชบุรจี ะจัดงานสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพือ่ เปิดโอกาส ให้ประชาชนทั่วไปได้มาปิดทอง สรงน�้ำเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ อี ก ทั้ ง ยั ง เป็ น การสมโภชหลั ก เมื อ งอี ก ด้ ว ย นอกจากนี้ ใ นบริ เ วณ ศาลหลักเมืองยังมีกำ� แพง และประตูเมืองเก่าราชบุรี ซึง่ ได้รบั การดูแล อย่างดีจากกรมการทหารช่างอีกด้วย จุ ด หมายต่ อ ไปที่พี่หนุ่ม ได้พาพวกเราไปก็คือ พิพิธภั ณ ฑ์ ทหารช่าง ณ ที่นี้เราได้พบพี่มนตรี วิทยากร และผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ ซึ่งพี่มนตรีรับหน้าที่บรรยายตลอดห้วงเวลาในพิพิธภัณฑ์ 44

พิพิธภัณฑ์ทหารช่าง จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ บนเนื้อที่ ๒ ไร่เศษ มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมเกียรติประวัติ และผลงาน ของทหารช่างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยการจัดแสดงแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ประกอบด้วย พิพธิ ภัณฑ์กลางแจ้ง อาคารชัน้ เดียว และอาคาร สองชั้น ซึ่งพี่มนตรีพาเราเข้าชมอาคารชั้นเดียวเป็นจุดแรก ภายใน อาคารชั้นเดียวได้จัดแสดงเกียรติประวัติของนายทหารช่างที่สร้าง ชือ่ เสียงให้แก่เหล่าทหารช่าง ประวัตเิ จ้ากรมทหารช่างตัง้ แต่ทา่ นแรก จนถึงท่านปัจจุบนั ภารกิจของทหารช่างในอดีต และบทบาทของทหาร ช่างในยุคปัจจุบนั ต่อมาพีม่ นตรีได้พาเรามายังอาคารสองชัน้ เดิมเป็น บ้านพักของเจ้ากรมทหารช่างท่านแรก โดยชั้นล่างได้จัดแสดงเครื่อง แต่งกายทหารช่างสมัยโบราณ และอาวุธปืนโบราณ ในส่วนชั้นบน จัดแบ่งการจัดแสดงเพือ่ เทิดพระเกียรติบคุ คลส�ำคัญ ๒ พระองค์ ได้แก่ ห้องจอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษี สว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช และห้องพลเอก พระบรม วงศ์เธอ กรมพระก�ำแพงเพชรอัครโยธิน ก่อนปิดท้ายที่พิพิธภัณฑ์ กลางแจ้ง อันเป็นส่วนจัดแสดงยุทโธปกรณ์ และเครื่องมือทหารช่าง ที่เคยใช้ในยามสงคราม สนับสนุนการเคลื่อนที่ของฝ่ายเรา และ ขัดขวางการเคลื่อนที่ของฝ่ายตรงข้าม รวมไปถึงเครื่องที่ใช้ในการ พัฒนาประเทศ เช่น รถโยกคันทีพ่ ระบรมวงศ์เธอ กรมพระก�ำแพงเพชร อัครโยธินทรงใช้ตรวจการสร้างทางรถไฟ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี การจัดแสดงปืนใหญ่โบราณที่ใช้รักษาเมืองราชบุรี ระหว่างปี พ.ศ. ๒๓๑๐ - พ.ศ. ๒๔๘๔ โดยปืนใหญ่ดงั กล่าวขุดพบภายในค่ายภาณุรงั ษี ถื อ เป็ น มรดกส� ำ คั ญ ที่ ท หารช่ า งมี ห น้ า ที่ ใ นการดู แ ลรั ก ษาเพื่ อ ชาวราชบุรีทุกคน และทีมข่าวทหารบกก็ถือโอกาสขอบคุณและร�่ำลา พี่มนตรีเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป เสนาสาร


กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

45


ก่อนเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป ทีมข่าวทหารบกมีโอกาส แวะชมและเลือกซือ้ สินค้าโอท็อป ซึง่ จัดตัง้ โดยสมาคมแม่บา้ นทหารบก สาขากรมการทหารช่ า ง ซึ่ ง ภายในนอกจากจะแสดงสิ น ค้ า ของ แม่ บ ้ า นทหารบกแล้ ว ยั ง เป็ น ศู น ย์ แ สดงสิ น ค้ า พื้ น เมื อ งของ จังหวัดราชบุรีอีกด้วย ถึงตอนนี้ทีมงานของเราเริ่มถามหาอาหาร กลางวัน พี่หนุ่มจึงต้องพาทีมงานแวะรับประทานอาหารกลางวัน กันก่อนที่จะไปยังจุดหมายต่อไปในช่วงบ่าย อิ่ ม จากอาหารกลางวั น พั ก ท้ อ งและสนทนากั บ พี่ ห นุ ่ ม ไกด์กิตติมศักดิ์ของเรา ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปยังค่ายบุรฉัตร จุดหมายต่อไปของเรา

46

เสนาสาร


 ค่ายบุรฉัตร 

ค่ายบุรฉัตรห่างจากตัวเมืองราชบุรีประมาณ ๑๐ กิโลเมตร เพิ่งรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬากองทัพบก ครั้งที่ ๖๔ ไปหมาด ๆ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีสนามกีฬาขนาดมาตรฐาน ทั้งสนามกอล์ฟ สระว่ายน�้ำ และสนามกีฬาอเนกประสงค์ตั้งอยู่ ในค่าย สถานที่ตั้งของค่ายอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข ๓๐๘๗ อันเป็นเส้นทางไปยังอ�ำเภอสวนผึ้ง สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ก�ำลัง เป็นทีน่ ยิ มส�ำหรับนักท่องเทีย่ วทีม่ เี วลาไม่มากนัก ทีค่ า่ ยบุรฉัตรแห่งนี้ เราได้พบกับพีเ่ พชร และพีเ่ จ๊ก ๒ เจ้าหน้าทีด่ แู ลการท่องเทีย่ วในค่ายฯ โดยพี่ ๆ ทั้งสองได้พาเรามายังส�ำนักงานการท่องเที่ยวกรมการทหาร ช่าง เพื่อชี้แจงและท�ำความรู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในค่าย บุรฉัตร ก่อนจะพาเราไปยังสถานีทดสอบก�ำลังใจ ซึ่งสถานีดังกล่าวมี ๒ กิจกรรมส�ำหรับหน่วยงานราชการ เอกชน และประชาชนทั่วไป มาท�ำการทดสอบ ได้แก่ หน้าผาจ�ำลองบนความสูง ๒๑ ฟุต และ หอเลื่อนข้ามล�ำน�้ำ ระยะทางยาว ๑๒๐ เมตร ถือเป็นหอเลื่อนที่มี กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

ความยาวมากทีส่ ดุ ในประเทศไทยด้วย ทัง้ สองกิจกรรมอยูใ่ นการก�ำกับ ดูแลของผู้ควบคุมที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรปีนหน้าผาสากล และ การท�ำงานในที่สูง รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้มีมาตรฐานความปลอดภัย สูงเทียบเท่าเอกชน น่าเสียดายทีท่ มี ข่าวทหารบกไม่มโี อกาสได้ทดสอบ เนื่องจากมีมวลชนก�ำลังเข้ารับการฝึก นอกจากสถานีทดสอบก�ำลังใจ ในค่ายบุรฉัตรยังมีสถานที่ พักผ่อนหย่อนใจที่ส�ำคัญคือ สนามกอล์ฟภาณุรังษี เป็นสนามกอล์ฟ ทีส่ ร้างโดยทหารช่าง มีขนาด ๑๘ หลุม เปิดให้บริการเมือ่ ๒๓ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นสนามกอล์ฟทีม่ ที ศั นียภาพทีส่ วยงาม ขนาบข้างด้วย เทือกเขางู รองรับการแข่งขันทีส่ ำ� คัญมาแล้วหลายรายการ โดยล่าสุด เพิง่ รับหน้าทีเ่ ป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟในกีฬากองทัพบก ครัง้ ที่ ๖๔ เมือ่ เดือนมีนาคมทีผ่ า่ นมา บริเวณสนามกอล์ฟยังมีบา้ นพัก รับรองส�ำหรับรองรับนักท่องเที่ยว โดยแบ่งเป็นเรือนรับรองสุดหรู จ�ำนวน ๘ ห้อง ที่พักโบกี้รถไฟ ๖ ห้องใหญ่ และบ้านพักริมน�้ำ ๒ หลัง 47


48

เสนาสาร


ตกเย็นพี่เพชร และพี่เจ๊กพาทีมข่าวทหารบกมาชมถ�้ำระฆัง ถ�้ ำ ส� ำ คั ญ ภายในค่ า ยบุ ร ฉั ต ร เป็ น ถ�้ ำ ที่ ค รั้ ง หนึ่ ง พระบาทสมเด็ จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จประพาส ที่ผนังถ�้ำมีจารึกลาย ฝีพระหัตถ์พระปรมาภิไธยย่อ "จปร." พร้อมกับตัวเลข ๑๑๘ เป็น ถ�้ำหินปูนตั้งอยู่บนเขาพญาปราบ เหตุที่ได้ชื่อว่าถ�้ำระฆัง เพราะ ภายในถ�้ำมีหินย้อยเป็นรูประฆัง ปัจจุบันมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็น จ�ำนวนมาก จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าถ�้ำค้างคาว ความน่าสนใจ อยู่ที่ทุกวันเวลาหกโมงเย็น ฝูงค้างคาวนับล้านจะบินออกจากถ�้ำ เป็นขบวนยาวเหยียด เป็นความแปลกของธรรมชาติที่ได้สร้างสรรค์ ไว้ให้กับโลกของเรา หลังจากเพลิดเพลินจากการชมฝูงค้างคาว ก็ถงึ เวลาทีเ่ ราต้อง บอกลากับพี่หนุ่ม ผู้ท�ำหน้าที่ดูแลเราตลอดการเดินทาง พี่เพชร และ พี่เจ๊ก เจ้าหน้าที่ส�ำนักงานการท่องเที่ยวกรมการทหารช่าง ก่อนจบ ทริปการเดินทางสู่ราชบุรีในครั้งนี้ ทีมข่าวทหารบกขอขอบคุณกอง กิจการพลเรือน กรมการทหารช่าง ที่อ�ำนวยความสะดวกตลอดการ เดินทางในจังหวัดราชบุรี และขอแสดงความยินดีเพราะล่าสุดได้ยิน มาว่าทางกรมการทหารช่างได้งบประมาณอุดหนุนจากกระทรวง การท่องเทีย่ วและกีฬา และส�ำนักงานส่งเสริมการท่องเทีย่ วกองทัพบก เพื่อปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่การท่องเที่ยวในกรมการทหารช่าง หวังว่าเมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จเมื่อไหร่ทีมข่าวทหารบกจะมีโอกาส ได้เข้ามาเยี่ยมชมอีกครั้งครับ กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

49


สะพานเครื่องหนุนมั่นขนาดหนัก (HEAVY SUPPORT BRIDGE)

 กรมการทหารช่าง

นึ่งในพันธกิจของทหารช่าง คือการสนับสนุนการเคลื่อนที่ของฝ่ายเรา โดยการบูรณาการความรู้ทักษะตลอดจน ยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยในการเสริมสร้างความคล่องแคล่วแก่หน่วยด�ำเนินกลยุทธ์ ปัจจัยอันส�ำคัญ อันส่งเสริมความส�ำเร็จ คือการมียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย โดยเฉพาะสะพานของทหารช่าง ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่ส�ำคัญในการสนับสนุนการรบเท่านั้น แต่ยัง สามารถอ�ำนวยประโยชน์ยงิ่ ต่อภารกิจบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ปจั จุบนั อีกด้วย ทหารช่างเป็นกลไกหลัก ของกองทัพบกในการบรรเทาวิกฤตการณ์ในหลากหลายรูปแบบ ผลงานทีผ่ า่ นมาล้วนเป็นทีป่ ระจักษ์ถงึ ผลสัมฤทธิ์ อย่างไรก็ตามการจัดหา ยุทโธปกรณ์ที่มีศักยภาพอย่างสะพานเครื่องหนุนมั่นขนาดหนักมาประจ�ำการนั้น เป็นอีกก้าวส�ำคัญในการเตรียมความพร้อมสู่อนาคต ปัจจุบันสะพานเครื่องหนุนมั่นมีประจ�ำการมาเป็นเวลากว่า ๒๐ ปี และใช้ในการปฏิบัติภารกิจสนับสนุนหน่วยทางยุทธวิธี และ ใช้ในการช่วยเหลือประชาชน จ�ำนวน ๔ ชนิด บางชนิดมีข้อจ�ำกัดในเรื่องชั้นรับน�้ำหนัก ความยาว ความกว้าง การจราจร, ความลึกของ พื้นท้องน�้ำ รวมทั้งใช้ก�ำลังพลและเวลาในการประกอบสร้างนาน ไม่ทันต่อความต้องการด้านปัจจัยเวลา เพื่ อ เป็ น การเพิ่ ม ศั ก ยภาพในการปฏิ บั ติ ภ ารกิ จ สนับสนุนการเคลื่อนที่ของหน่วยทางยุทธวิธี และเป็น ประโยชน์ในเรื่องการบรรเทาสาธารณภัยช่วยเหลือพี่น้อง ประชาชนให้ได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพมากขึ้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จึงได้ กรุณาอนุมตั แิ ผนงานโครงการ ประจ�ำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ยุทธศาสตร์ที่ ๒ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจกรรมการเตรียม ความพร้อมในการช่วยเหลือป้องกันบรรเทาสาธารณภัย และภัยพิบัติ โดยให้จัดหา “สะพานเครื่องหนุนมั่นขนาด หนัก” โดยวิธีรัฐบาล ต่อรัฐบาล ระหว่างรัฐบาลไทยกับ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดย ครม. มีมติอนุมตั หิ ลักการให้ 50

เสนาสาร


ผบ.ทบ. หรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการซื้อขายสะพานเครื่องหนุนมั่นขนาดหนักพร้อมอุปกรณ์ จ�ำนวน ๑ ชุด เมื่อ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖ สะพานเครื่องหนุนมั่นขนาดหนัก (HEAVY SUPPORT BRIDGE) เป็นสะพานเครื่องหนุนมั่น ที่สามารถต่อทอดกันได้ยาวถึง ๕๑ เมตร โดยไม่มตี อม่อรายทาง สามารถรับน�ำ้ หนักยานยนต์สายพานและยานยนต์ลอ้ ได้ถงึ ๖๐ ตัน ท�ำด้วยเหล็กเกรดดี จึงเหมาะส�ำหรับ ใช้งานในทางทหารและกิจการบรรเทาสาธารณภัยในภารกิจที่รุนแรงและฉุกเฉิน เช่น การทอดข้ามถนนที่ถูกน�้ำตัดขาด หรือใช้แทน สะพานเดิมที่ช�ำรุดเสียหายจากอุทกภัยหรือเหตุน�้ำป่าไหลหลาก, การทอดข้ามล�ำน�้ำ และการทอดข้ามช่องว่างเป็นต้น

ตารางการเปรียบเทียบข้อมูลสะพานเครื่องหนุนมั่นชนิดต่าง ๆ ล�ำดับ

รายการ

๑. สะพานเครื่องหนุนมั่น M.4 (26/22) ๒. สะพานแบลี่ย์ M.2 (DS) ๓. สะพานโครงแผงขนาดกลาง MGB (GS) สะพานโครงแผงขนาดหนัก ๔. แบบ 84A (T84A) ๕.

สะพานโครงแผงขนาดหนัก Heavy Support Bridge (HSB)

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

ความสามารถ ความยาวสูงสุด การรับน�้ำหนัก (เมตร) (ตัน)

ก�ำลังพล ก่อสร้าง (นาย)

เวลา (นาที)

ความกว้างการ จราจร (เมตร)

หมายเหตุ

๔๕

๑๓.๗

๓๕

๑๕๐

* ไม่มีตอม่อรายทาง

(W50) T55

๒๔

๔๖

๑๕๐

๓.๘

* ไม่มีตอม่อรายทาง

๖๐

๓๑

๒๕

๙๐

* ไม่มีตอม่อรายทาง

๕๐

๑๐ - ๕๒

๗ - ๑๒

๘ - ๖๐

๓.๘

๖๐

๑๗ - ๕๑

๓๐ - ๗๕

* มีตอม่อรายทาง * มีข้อจ�ำกัดเกี่ยวกับ ความลึกท้องน�้ำ * ไม่มีตอม่อรายทาง * ไม่มีข้อจ�ำกัดเกี่ยวกับ ความลึกท้องน�้ำ

51


สะพาน ๑ ชุด ประกอบด้วยตัวสะพาน ๖ ช่วง ความยาวช่วงละ ๘.๕ เมตร ความกว้าง ๔ เมตร สะพานดังกล่าวเคลื่อนย้ายด้วย ยานยนต์ล้อ ๖ คัน โดยมีรถวางสะพาน ๑ คัน จุดเด่นของสะพานแบบนี้คือ เคลื่อนที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุได้เร็ว การวางสะพานท�ำได้ง่ายใช้ เวลาเพียง ๗๕ นาที และการเก็บสะพาน ๗๕ นาที (ส�ำหรับความยาว ๕๑ เมตร) ด้วยก�ำลังคนเพียง ๖ คน และสามารถปรับความยาว การทอดข้ามได้ ๕ ช่วง คือ ๑๗, ๒๕.๕, ๓๔, ๔๒.๕ และ ๕๑ เมตร จึงท�ำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีความอ่อนตัว เหมาะสมในการใช้งานกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

การประกอบชุดสะพาน สะพานเครื่องหนุนมั่นขนาดหนัก จ�ำนวน ๑ ชุด ประกอบด้วย ๑. ชุดสะพาน (BRIDGE BAYS ASSEMBLY) รวม ๖ ชุด ประกอบด้วย ๑.๑ ทอดกลางสะพาน (BRIDGE BAYS) (ยาวทอดละ ๘.๕ เมตร) จ�ำนวน ๔ ชุด ๑.๒ ทอดลาดสะพาน (BRIDGE BAYS) (ยาวทอดละ ๘.๕ เมตร) จ�ำนวน ๒ ชุด ๒. รถยนต์สร้างสะพาน (ERECTION VEHICLE) จ�ำนวน ๑ คัน ๓. รถยนต์บรรทุกสะพาน (TRANSPORTATION VEHICLE) จ�ำนวน ๖ คัน ๔. การฝึกอบรมและชิ้นส่วนซ่อมควบคู่ ภายในระยะเวลา ๓ ปี (DOCUMENTS (ENGLISH) TECHNICAL SERVICE TRAINING AND SPARE PARTS FOR 3 YEARS)

ข้อมูลทางเทคนิค

น�้ำหนักของรถวางสะพาน ๓๒.๕ ตัน น�้ำหนักของรถบรรทุกสะพาน ๒๐.๘ ตัน น�้ำหนักของช่วงสะพาน ๙.๒ ตัน ความยาวในการวางสะพาน ๑๗, ๒๕.๕, ๓๔, ๔๒.๕, ๕๑ เมตร ความกว้างของสะพาน ๔ เมตร เวลาในการวางสะพาน ๗๕ นาที (ส�ำหรับความยาว ๕๑ เมตร) พลประจ�ำ (เฉพาะชุดประกอบสร้าง) ๖ คน ความเร็วในการเดินทาง ๘๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ ๖๕๐ กิโลเมตร 52

เสนาสาร


กรมการทหารช่างได้จัดส่งก�ำลังพล จ�ำนวน ๑๐ นาย เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการใช้งานและ ซ่อมบ�ำรุง ณ เมือง หวู่ฮั่นสาธารณรัฐประชาชนจีน ในห้วงวันที่ ๖ - ๒๕ มกราคม ๒๕๕๗ โดยเข้ารับการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่ อ ให้ ก� ำ ลั ง พลดั ง กล่ า วมี ค วามรู ้ ค วามเข้ า ใจในการใช้ ง าน การปรนนิบัติบ�ำรุง และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่าง มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ปั จ จุ บั น สะพานเครื่ อ งหนุ น มั่ น ขนาดหนั ก คณะกรรมการตรวจรับยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก ได้ท�ำการ ตรวจรับสิ่งอุปกรณ์ ณ กรมการทหารช่างเรียบร้อยแล้ว และ ได้จดั การฝึกอบรมทัง้ ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิ ในการปรนนิบตั ิ บ�ำรุง, การซ่อมบ�ำรุง และการประกอบสร้างโดยเจ้าหน้าที่ ผู ้ ช� ำ นาญการจากบริ ษั ท ผู ้ ผ ลิ ต สาธารณรั ฐ ประชาชนจี น ให้กับเจ้าหน้าที่และก�ำลังพลของกรมการทหารช่าง และผู้แทน หน่วยทหารช่างสนามของกองพล เพิม่ เติม เป็นระยะเวลา ๑๕ วัน ท�ำการ โดยท�ำการฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ ๒๑ เมษายน ถึงวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ทีผ่ า่ นมา และจะท�ำการส่งมอบสะพานเครือ่ ง หนุนมั่นขนาดหนักให้กับกองพลทหารช่างต่อไป กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

การจัดหายุทโธปกรณ์สมัยใหม่อย่างสะพานเครือ่ งหนุนมัน่ ขนาดหนัก (HEAVY SUPPORT BRIDGE) มาประจ�ำการนั้น นอกจากจะแสดงถึ ง การเตรี ย มความพร้ อ มของทหารช่ า ง ต่อภารกิจสนับสนุนการรบ ตลอดจนบรรเทาสาธารณภัยและ ช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ในทุกสถานการณ์ ทัง้ เป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพและเป็นการ ส่งเสริมภาพลักษณ์ของกองทัพบก และประกาศถึงศักยภาพ ของกองทัพบกไทยทีท่ นั สมัย พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึง่ ในการแก้ไข และการบรรเทาสาธารณภัยในชาติอาเซียน สอดคล้องในอันที่ จะน� ำ ไปสู ่ วิ สั ย ทั ศ น์ ก องทั พ บกปี ๒๕๖๕ ซึ่ ง ก� ำ หนดไว้ ว ่ า “เป็ น กองทั พ บกที่ มี ค วามพร้ อ ม มี ศั ก ยภาพและทั น สมั ย ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ซึ่งกรมการทหารช่าง จะได้มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มก�ำลังและ ขีดความสามารถต่อไป

53


AGUSTA WESTLAND 139 สู่ความพร้อมในการขนส่ง และงานทางธุรการ

54

เสนาสาร


 กรมการขนส่งทหารบก

าม "โครงการจัดหา ฮ.ใช้งานทั่วไประยะที่ ๑ ห้วง ๒" ซึ่งผูกพันข้ามปีงบประมาณ ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ จึงเป็นที่มาของ การด�ำเนินการจัดหา ฮ.ท.๑๓๙ : เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทัว่ ไปแบบ ๑๓๙ (AGUSTA WESTLAND 139) ซึง่ กองทัพบกจัดหา เข้าประจ�ำการที่ฝูงเฮลิคอปเตอร์กองการบิน ศูนย์ควบคุมการเคลื่อนย้าย โดย ฮ.ดังกล่าว คณะกรรมการก�ำหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์ มาใช้ในกองทัพบกหรือ กมย.ทบ. ได้มีมติเห็นชอบ และผู้บัญชาการทหารบกได้กรุณารับรองแบบเมื่อ ๑ มีนาคม ๒๕๕๕ กองทัพบกโดยกรมการขนส่งทหารบกได้ท�ำสัญญาซื้อขาย จ�ำนวน ๒ ล�ำ พร้อมการฝึกนักบินและช่าง, ชิ้นส่วนซ่อมควบคู่, เครื่องมือซ่อมบ�ำรุงและบริภัณฑ์ภาคพื้น (Total Package) จากบริษัท AGUSTA WESTLAND สาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ ด�ำเนินการส่งมอบพัสดุทงั้ หมด เสร็จเรียบร้อยแล้ว รวมทัง้ การฝึกนักบินและช่าง เพือ่ ให้มคี วามพร้อมในการปฏิบตั งิ าน ทัง้ นีใ้ นส่วนนักบิน จ�ำนวน ๖ นาย ได้เข้ารับการฝึก เมื่อ ๒๗ กันยายน - ๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ ณ ศูนย์ฝึกของบริษัท ณ ประเทศอิตาลีและได้รับการรับรอง การบินตามมาตรฐาน หลังจากนัน้ ได้รบั การฝึกบินเพิม่ ความช�ำนาญ ในประเทศไทยเพือ่ ให้มคี วามพร้อมสมบูรณ์ ขณะนีฝ้ งู เฮลิคอปเตอร์ ศูนย์การเคลือ่ นย้ายกองทัพบก พร้อมใช้งาน ฮท.๑๓๙ เพือ่ ตอบสนองภารกิจตามทีก่ องทัพบกสัง่ การ รวมทัง้ ในอนาคตอันใกล้จะส่งนักบิน เพื่อเข้ารับการฝึกครูการบิน ณ ศูนย์การฝึกของบริษัทเพื่อมาถ่ายทอดและสร้างนักบินรุ่นใหม่ เพิ่มเติม ซึง่ เมือ่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗ ทีผ่ า่ นมา ผูบ้ ญ ั ชาการทหารบก ได้กรุณารับเชิญเป็นประธานในพิธรี บั มอบ ฮ.ท.๑๓๙ เพือ่ ประจ�ำการ ฝูง ฮ.กบบ.ศคย.ทบ. ในภารกิจการขนส่ง และภารกิจอื่น ๆ ทางธุรการ เพื่อเสริมสร้างเขี้ยวเล็บกองทัพบกต่อไป

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗

55


สมรรถนะและจุดเด่น

 เครื่องยนต์ GASTURBINE แบบ TURBOSHAFT ยี่ห้อ PRATT&WHITNEY รุ่น PT6C-67C ก�ำลัง 1,679 SHP จ�ำนวน ๒ เครื่อง  ความเร็วเดินทาง 150 KNOT  พิสัยบิน ๘๘๒ กม. (490 NM)  ความจุถังน�้ำมันเชื้อเพลิง ๒,๐๘๘ ลิตร (551 GAL)  ความสิ้นเปลือง สป.๓ จ�ำนวน ๖๐๐ ลิตร/ชั่วโมง (158 GAL/ชั่วโมง) (รอสถิติการใช้งาน)  สป.๓ ที่ใช้ น�้ำมันเชื้อเพลิงอากาศ JP8/JET A–1  บรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุดไม่เกิน ๑๓ นาย (ไม่รวม นักบินและช่าง) ปกติจัดที่นั่งแบบ ๗ และ ๙ ที่นั่ง  ติดเปลพยาบาล ๒ เปล พร้อมเจ้าหน้าที่ ๖ นาย และช่างเครื่อง  น�ำหนักบรรทุก ๕,๘๘๖ ปอนด์

นอกจากสมรรถนะที่สูงขึ้นกว่า ฮ.รุ่นเดิม (BELL 212) ซึ่งมีใช้ในกองทัพบก ฮท.๑๓๙ ยังมีความทันสมัยตามเทคโนโลยี ที่พัฒนาขึ้น ซึ่งช่วยในด้านความปลอดภัยและสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ดังนี้ ๑. Digital Moving Map แผนที่ดิจิตอลซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลจากดาวเทียมและสถานีส่งสัญญาณต่าง ๆ ช่วยแสดงต�ำแหน่ง อากาศยาน รวมทั้งช่วยในการพิจารณาภูมิประเทศรอบด้าน ๒. Fight Director (FD) & Fight Management System (FMS) ระบบจัดการบินช่วยในการก�ำหนดความสูง ความเร็ว อัตราไต่-ร่อน ของอากาศยาน รวมทั้งก�ำหนดเส้นทางการบินและการตั้งการบินอัตโนมัติ (Auto Pilot) ๓. 4-Axis Digital Automatic Flight Control System (DAFCS) ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติ 4 แกน ท�ำงานร่วมกับ ระบบ FD&FMS ๔. Terrain Awarness And Warning System (TAWS) ระบบแจ้งเตือนภูมิประเทศ ช่วยแจ้งเตือนนักบินเมื่อเส้นทางการบิน มีแนวโน้มไม่ปลอดภัยโดยท�ำงานร่วมกับระบบ Digital Moving Map และ FMS ๕. Traffic Collision Avoidance System (TCAS) ระบบหลีกเลี่ยงและแจ้งเตือนการชนกันของอากาศยาน ๖. Weather Radar เรดาร์ตรวจสภาพอากาศ ๗. Active Vibration Control System (AVCS) ระบบลดการสั่นสะเทือนของอากาศยาน 56

เสนาสาร


เชิญชวนก�ำลังพล ทบ. และผู้สนใจ

อันเนื่องมาจากปก ทหาร คือตัวแทนของความเข้มแข็ง ทรหด อดทน ความคล่องตัวกระฉับกระเฉง ปกของนิตยสาร เสนาสาร ฉบับประจ�ำเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗ นี้ จึงขอเสนอภาพการฝึกผสมหน่วยปฏิบตั กิ ารพิเศษ กองทัพบกไทยกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ภายใต้รหัสการฝึก Strike 2013 เพื่อสื่อถึงความเข้มแข็ง ทรหด อดทน ความคล่องตัวกระฉับกระเฉงในระหว่างการฝึก ถือเป็นการพัฒนา ขีดความสามารถของก�ำลังพลของกองทัพบกด้วย อนึง่ ในการฝึก Strike 2013 ครัง้ นี้ ประเทศไทยได้รบั เกียรติเป็นเจ้าภาพในการฝึก โดยมีหน่วยบัญชาการ สงครามพิเศษ เป็นหน่วยรับผิดชอบด�ำเนินการฝึก ซึง่ ถือเป็นอีกก้าวของการเตรียมความพร้อมส�ำหรับเหตุการณ์ รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตาม ทหาร คือหน่วยงานที่ปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงทั้งภายในและภายนอก เป็นที่พึ่ง ของประชาชนในยามเกิดเหตุการณ์ภัยจึงจ�ำเป็นที่จะต้องท�ำการฝึก เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกมิติเช่นกัน

สมเด็จผงพุทธคุณ พระพุทธเมตตาเสนานาถ

เหรียญพระพุทธรูป พระพุทธเมตตาเสนานาถ

เช่ า บู ช ารู ป หล่ อ ลอยองค์ เหรี ย ญพระพุ ท ธรู ป และพระสมเด็ จ ผง พระพุ ท ธคุ ณ พระพุ ท ธเมตตาเสนานาถ เพื่ อ น� ำ รายได้ ไ ปจั ด ซื้ อ อุ ป กรณ์ ทางการแพทย์ให้กบั รพ.ในสังกัด ทบ. ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

รูปหล่อลอยองค์ พระพุทธเมตตาเสนานาถ

ผู ้มีจิตศรัทธาบริจาคและเช่ าบู ชาได้ท่หี น่วยทหารและโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก

อาคารรับรองกองทัพบก เกียกกาย พร้อมแล้วส�ำหรับก�ำลังพลจากต่างจังหวัดทีเ่ ดินทางมาราชการใน กทม. ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอย ๔๓ ตร.ม. ประกอบด้วยห้องพักเตียงเดี่ยว ๒๐ ห้อง เตียงคู่ ๖๖ ห้อง และห้องพักพิเศษเชื่อมต่อกัน ๑๔ ห้อง ครบครั น ด้ ว ยสิ่ ง อ� ำ นวยความสะดวก เที ย บเท่ า โรงแรมเอกชน ในราคาเริ่ ม ต้ น เพี ย ง ๕๐๐ บาท สอบถามรายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ ม โทร. ๐๒-๑๖๐-๘๖๗๑-๔ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง


กองทัพบก

R O Y A L

T H A I

A R M Y

M A G A Z I N E

เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน

For Country, Religions, Monarchy, and People www.rta.mi.th

www.rta.mi.th

ประจำ�เดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๕๗


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.