baibuabook2

Page 1

BonBaiBua Book

บนใบบัว ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 ปักษ์หลัง พฤษภาคม 2552

ฉบับ ครั้งหนึ่งในความทรงจำ� ฉบับสองแล้วนะ

1


Content Jumper เที่ยว(เล่น) เรื่อง/ภาพ โดย กบบันจี้ & บก.ตุ๊

Goodtaste กิน (ดูด)ดื่ม โดย KobLover Movie&Books นอนดูหนัง(หรือ)นั่งอ่านหนังสือ โดย เจ้าชายกบ Pic&Post การ์ดเขียนคำ� ภาพเล่าเรื่อง โดย น้าอ๊บ Lover เรื่องรัก(ร้าง) โดย ม.จิตฏาร์ Tree of life ต้นไม้ใบหญ้า(อ่อน) โดย ข้าวใหม่ Notebooks เรื่องเล่าและบันทึก โดย รติ จุลกะเศียน

www.bonbaibua.com

Poem เขียนกลอนเล่นบนใบบัว โดย วาดวลี

3 11 16

26 29 32 36 42

สารบัญ

โอ้...อาดัง-ราวี-หลีเป๊ะ แรก(ดูด)ที่ Sometime’s

นอนดูหนัง : อภินิหารเข็มทิศทองคำ� (The Golden Compass) นั่งอ่านหนังสือ : ธุลีปริศนา (His Dark Materials) โลกของ Pooh. พัดลมของ Pooh บางพื้นที่ในหัวใจ โอ..มลุลี นี่หรือคือ “มะลิวัลย์” ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด ถนนความรัก

ที่ปรึกษา : ฤทัย สุภัทรพันธุ์ ดุลย์ จุลกะเศียน บรรณาธิการบริหาร : รติ จุลกะเศียน บรรณาธิการ : เจ้าชายกบ กองบรรณาธิการ : ข้าวใหม่, กบบันจี้ ฝ่ายการตลาด : กบบันจี้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ : จินตา จุลกะ ออกแบบปก, รูปเล่ม, เวบไซต์ : Sister Print & Media Group เจ้าของ ผู้เผยแพร่ ผู้โฆษณา : กลุ่มบนใบบัว(ไม่)จำ�กัด 204/381 ซ.2/13 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110 โทรศัพท์/แฟกซ์ : 02 5714099 อีเมล์ : bonbaibua@hotmail.com ติดต่อโฆษณา : ดวงฤทัย 081 4855880 2ข้อความในหนังสือเล่มนี้เป็นลิขสิทธิ์ของเวบไซต์ www.bonbaibua.com แต่เพียงผู้เดียว ห้ามนำ�เผยแพร่หรือตีพิมพ์โดยไม่ได้รับอนุญาต


Jumper

เที่ยว(เล่น) เรื่อง/ภาพ by : กบบันจี้ & บก.ตุ๊

โอ้.....

อาดัง-ราวี-หลีเป๊ะ

เมื่อต้นปี 2552 ในเดือนกุมภาพันธุ์ เพื่อนรุ่นน้องจากที่ทำ�งานเก่าของ

ฉันที่แม้เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่จากการได้พบปะพูดคุย นัดกินข้าว กันบ้าง เคยไปเที่ยวด้วยกันบ้าง จึงนับได้ว่าแทบสนิทสนม ถูกอัธยาศัย และจริตกันดี ได้พูดคุยระหว่างการร่วมทริปเชียงคานว่า เดือนเดียวกันนี้ เธอมีแผนจะเช่ารถตู้ไปหลีเป๊ะกัน-- โอ้ววว หลีเป๊ะในความทรงจำ� ฟ้าใส เมฆสวย หาดทรายขาว ทะเลสีครามแสนงาม กี่ปีมาแล้วที่ใฝ่ฝันว่าจะ ได้กลับไปอีกครั้ง 3 3


พ้นเดือนกุมภาพันธ์ผ่านไปไม่นาน ถามไถ่ไปทางจดหมาย อีเล็คทรอนิค ถึงประสบการณ์การเดินทางด้วยการเช่ารถตู้ไป กันเองนัน้ เป็นอย่างไรบ้าง ด้วยว่าอยากได้มาเป็นข้อมูลสำ�หรับการ เดินทางประสาคนชอบเที่ยวเหมือนๆ กัน เมล์ที่ได้รับตอบกลับ มา อ่านไปขำ�ไป จนอดไม่ได้ที่จะขออนุญาตเจ้าของเมล์นำ�มาเล่า สู่กันฟังในคอลัมน์ Jumper : )

“อาดัง-ราวี-หลีเป๊ะ” วันแรก :

ไปถึงท่าเรือปากบารา อ.ละงู จ.สตูล ประมาณ 7 โมงเช้า รอลงเรือ สปรีดโบ๊ตตอน 11 โมงครึ่ง (มีการเข้าใจผิดคิดว่าเช่าเหมาลำ� ไปถึง ปุ๊บจะได้ลงเรือเลย) เลยต้องแกร่วอยู่แถวนั้น 2-3 ชั่วโมง กินข้าว บ้าง นอนเล่นบ้างที่ท่าเรือระหว่างทางก่อนถึงเกาะอาดัง(ที่พัก) เรือ แวะ เกาะตะรุเตา ให้เดินเล่น-ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกราวครึ่งชั่วโมง เดิน ทางต่อ-แวะ เกาะไข่ (ก่อนขึ้นเกาะให้ทุกคนตัดเล็บก่อน-กลัวไข่เจ็บ) แล้วจึงไปต่อที่หน้า เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งเป็นท่าเรือ เปลี่ยนเป็นเรือหางยาว ไปเกาะอาดัง พักบ้านอุทยานชื่อ กัลปังหา มี 10 เตียง เราไปกัน 9 คน (แต่ตอนนอนรู้สึกเตียงที่ 10 จะไม่ว่างนะ) 4


ถึงบ้านพักราวๆ บ่าย2 โมง วางของเสร็จก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดดำ�น้ำ� (ขาสัน้ บ้างยาวบ้างแล้วแต่เจ้าของขา) ไปดำ�น้�ำ ทีแ่ รก เกาะราวี วันแรกได้ที่ เดียวเพราะเราไปถึงช้า ปะการังทีน่ ไี่ ม่คอ่ ยสวยเท่าไหร่ เพราะเป็นปะการัง แข็ง แต่หาดทรายกับน้ำ�สวยมาก นอนเถือกแถก ดำ�ผุดดำ�ว่ายจนเย็นก็ กลับที่พัก สั่งอาหารกิน (เมนูปลาทั้งนั้น-กะว่าพรุ่งนี้จะได้ว่ายน้ำ�เก่ง) 5


วันที่สอง :

รุ่งเช้ากินอาหารเช้าเสร็จ สั่งอาหารกล่องไว้มื้อกลางวัน นัดเรือ มารับตอน 9 โมงครึ่ง ไปดำ�เกาะแรกชื่อ เกาะหินซ้อน มีปะการัง อ่อนด้วย สวยมาก แต่น้ำ�ค่อนข้างแรง ต้องอาศัยเชือก ไปต่อที่ เกาะหินงาม บนเกาะหินงามมาก มีประติมากรรมเต็มเกาะ เอาหินมา ซ้อนกันจนได้ 13 ก้อนโดยไม่ล้ม จะถือว่าคำ�อธิษฐานสำ�เร็จ (ไม่รู้จริง เปล่า-เราเลยเล่นโยนกอง) แล้วลงไปดำ�น้�ำ ด้านหลังเกาะ-สวยมาก น้ำ� ใสแจ๋ว ทรายขาวมาก ดำ�จนเพลิน กระแสน้ำ�กำ�ลังพอดี ว่ายตามปลา สนุกมาก ปลาเยอะ หลากหลายชนิดเลยอยู่นานเป็นพิเศษ ขึ้นเรือไป แวะที่ เกาะรอกลอย หาที่กินข้าว เกาะนี้วิวสวย (จริงๆ สวยทุกเกาะ) ก่อนกินข้าวก็เล่นน้ำ�-ถ่ายรูป ว่ายเพลินไปไกลถึงน้ำ�ลึกว่ายกลับแทบ ไม่ทัน หอยเม่นดำ�พรืดไปหมด มองไกลๆ คิดว่าหินใต้น้ำ� ว่ายกลับ แทบไม่ทัน เล่นน้ำ�จนหนำ�ใจพอเรือเจ้าอื่นมาเราก็ขึ้นไปกินข้าว กินอิ่ม เราก็ไปต่อที่ เกาะจาบัง

66


ทีน่ ปี่ ะการังอ่อน โค-ตะ-ระ สวยเลย แต่น�้ำ แรงมาก น้�ำ ลึกด้วย เหมือนเราอยู่กลางทะเล ไม่ใช่ใกล้เกาะเหมือนที่อื่นๆ ว่ายเองไม่มี ทางได้ดู ต้องสาวเชือกทีเ่ ขาผูกทุน่ ไว้ให้ (ดีนะทีย่ งั สาวอยูถ่ า้ แต่งงาน แล้วคงอดดู) ขึ้นจากจาบังรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยไปแวะหลีเป๊ะ เดิน เล่นชมวิว-ถ่ายรูป (ฝาหรั่งเยอะมาก ลอยอยู่ตามชายหาดว่าจะเก็บ มาแล้ว แต่กลัวเน่า-สงสัยลอยอยูน่ าน-เหีย่ วแล้ว) กลับถึงอาดังราว 4 โมงเย็น

อาบน้�ำ สบายตัว 5 โมงออกกำ�ลังขา ปีนเขาขึน้ ผาชะโงก แค่ 700 เมตรเอง...แทบตาย ชมวิวหมูเ่ กาะอาดัง-ราวี สวยอีกแล้ว ชมจนอิม่ คิดว่าจะไม่ตอ้ งกินข้าวเย็นอยูแ่ ล้ว แต่ฟา้ เริม่ คำ�ราม ลมเริม่ พัด แรง ขึ้น แรงขึ้น เม็ดฝนเริ่มทิ้งตัวมาทักทาย(หรือท้าทายไม่แน่ใจ) เลย รีบจ้ำ�ลงจากเขาแทบไม่ทัน....เฮ้อ หมดแรง ต้องกินข้าวกันอีกมื้อ... ก่อนหิวเบียร์มานั่งจิบข้างเตียง แบ่งปันประสบการณ์กลางทะเลว่า ใครเจออะไรมาบ้าง เห็นอะไรมาบ้าง อวดกันว่าเห็นเยอะกว่า...ไม่รู้ ว่าปลาตัวเดียวกันหรือเปล่า...ก็ว่ายอยู่ใกล้ๆ กันนั้นแหละ...ฮา 7


วันที่สาม :

รุง่ เช้าอีกวันฟ้าปลอดโปร่ง รีบขึน้ ฝัง่ เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดย สวัสดิภาพ... จ่ายค่าความมันส์ไป 4,100 บาท เก็บคนละ 5,000 เหลือคืน คนละ 900 บาทค่ะ จากการสอบถามข้อมูลคร่าวๆ ได้ความว่า เธอและเพื่อนๆ ไป กัน 9 ชีวิต โดยเช่ารถตู้เหมาคันไปจากกรุงเทพมหานคร ออกเดิน ทางตัง้ แต่คนื วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ เฉลีย่ แล้วใช้งบประมาณ สำ�หรับการท่องเที่ยวครั้งนี้ประมาณ 40,000 บาท ต่อ 3 คืน 3 วัน(รวมการเดินทาง) นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายต่อหัวที่ไม่แพงเกินไปเลย ได้ทั้งความสนุกสนาน ความสบายใจ กินอิ่ม นอนหลับในแบบที่ เลือกสรรกันเองโดยไม่ต้องเหนื่อยมากเกินไปจากการขับรถอีกด้วย ฉันนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่ฉันกับครอบครัวนับหัวได้ 4 คน เคยไปหลีเป๊ะด้วยการขับรถเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 7 ที่นั่งออก จากบางบัวทองประมาณ 2-3 ทุ่ม โดยการสลับกันขับและสลับกัน นอน ไปถึงตัวเมืองสตูลมีเวลากินอาหารเช้าในตลาดประมาณ 6-7 โมงเช้าก่อนทีจ่ ะช่วยกันคลำ�ทางต่อไปยังท่าเรือปากบาราตามเวลานัด 10 โมงเช้า เพื่อพบตัวแทนของบริษัท สตูลฮอลิเดย์ทัวร์ จำ�กัด ซึ่ง เราหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและติดต่อซื้อทัวร์ไว้ ในราคา (ถ้าจำ�ไม่ ผิด) 4,500 บาทต่อหัว สำ�หรับโปรแกรมทัวร์ตะรุเตา-เกาะไข่-อา ดัง-ราวี-เกาะหินซ้อน-เกาะจาบัง-หลีเป๊ะ อาหารทุกมื้อ โดยนอน รีสอร์ทเปิดใหม่บนเกาะหลีเป๊ะ 4 วัน 3 คืน 8


ความสะดวก สบาย ความมันส์ สนุกสนานและบริการที่ได้รับจาก ไกด์ประจำ�กลุม่ ของเรานับว่าคุม้ ค่า แต่เป็นที่นา่ เสียดายว่า วันคืนที่เราไป ช่วงนั้น ใครจะเชื่อว่าต้นเดือนธันวาคมอย่างนั้นจะกลายเป็นมรสุมครั้งที่ เกือบจะรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีของเกาะหลีเป๊ะ!!! เราต้องติดมรสุมจนออกไปดำ�น้�ำ ตามโปรแกรมไม่ได้ 1 วัน แต่บริษทั รับผิดชอบด้วยการคืนเงินค่าทัวร์ให้เราส่วนหนึ่ง วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันเดิน ทางกลับ เราต้องลุ้นว่าเราจะต้องติดเกาะ(หลีเป๊ะ)ไหม เพราะมรสุมที่ว่า ทำ�ให้เรือเฟอร์รไี่ ม่สามารถออกจากฝัง่ ได้ ทำ�ให้มนี กั ท่องเที่ยวทัง้ ชาวไทย และต่างชาติตกค้าง(คืน) อยูเ่ ป็นจำ�นวนไม่นอ้ ย แต่ไกด์ของเราก็สามารถ ทำ�ให้พวกเราเดินทางกลับถึงฝั่งได้โดยปลอดภัย เสียดายว่า จากการ ติดต่อกลับไปเมื่อเร็วๆ นี้ ฉันพบว่าบริษัทนี้ได้ปิดการดำ�เนินกิจการแล้ว แต่ตัวแทนคนที่เคยติดต่อก็ยังมีน้ำ�จิตน้ำ�ใจให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับ ลูกค้าเก่าขอบคุณจริงๆ

9


เบ็ดเสร็จค่าใช้จ่ายสำ�หรับครอบครัวเรา 4 คน ประกอบไปด้วยค่า ทัวร์, ค่ารับฝากรถบริเวณท่าเรือปากบารา 3 คืน, ค่าทิปไกด์, ค่าน้ำ�มัน จากบางบัวทอง-ท่าเรือปากบารา-บางบัวทอง, ค่าอาหารระหว่างการเดิน ทาง น่าจะตกอยู่ที่ 28,000 บาทต่อ 5 วัน 5 คืน (รวมการเดินทาง) ไม่รทู้ �ำ ไมเมือ่ ถึงบรรทัดนีน้ กึ ไปถึง “รักออกแบบไม่ได้” แต่ส�ำ หรับ การเดินทาง ฉันว่าเราเลือกได้ เราตัดสินใจได้ เราปรับเปลี่ยนได้ --และเราออกแบบได้ 10

เวบไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=7&lg=1 http://www.lipeh.com/


Goodtaste

by : KobLover

กิน(ดูด)ดื่ม

แรก(ดูด)ที่ Sometime’s

11 11


ความ

ที่เป็นคนที่ไม่ค่อยสรรหา(ที่กิน) ติดจะเป็นคนลิ้นจระเข้ เสียด้วยซ้ำ� ทำ�ให้นึกลำ�บากใจอยู่บ้างเหมือนกันที่จะเขียนถึง (ร้าน)กิน (ดูด) ดื่ม ที่ทำ�ให้ปลื้มและประทับใจ แต่ร้านเดิมๆ ย้ำ�ๆ และซ้ำ�ๆ ระหว่างวันคืนของชีวิต ก็ไม่ใช่ว่าจะ ขีร้ วิ้ ขีเ้ หร่เสียทีเดียว สังเกตจากตัวเองว่า ยังกลับไปกิน(ซ้�ำ )ได้...ไม่เคย นึกรังเกลียด ก็น่าเพียงพอที่จะแนะนำ�และบอกต่อใครต่อใครได้บ้าง กระมัง

ร้าน Sometime’s เวลา+มนตรา ถูกแนะนำ�และชักชวนให้เข้าไปลิม้ ลองและสัมผัสบรรยากาศครัง้ แรก วันนัน้ คืนนัน้ ตัง้ แต่วนั ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2551 ในบรรยากาศทึบทึม ด้วยว่าเป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าแล้ว ช่วงเวลา ที่ว่า ไม่มากพอสำ�หรับการดูดโกโก้เย็นแก้วแรกหมดด้วยซ้ำ�พนักงานร้าน ก็เดินมาขออนุญาตคิดเงิน--เพราะร้านปิด 4 ทุ่ม!!! ในค่ำ�คืนนั้น ร้าน Sometime’s จึงเป็น Sometime ที่ลางเลือน เสียจริงๆ ด้วยอคติทวี่ า่ ราคาเครือ่ งดืม่ ต่อแก้วจากเมนูทสี่ งั่ มานัน้ ค่อนข้าง แพง เมื่อเทียบกับเวลาที่คิดว่าจะได้นั่งละเลียด จนไม่นึกประทับใจและ ทำ�ให้นึกอยากกลับมาอีกครั้ง 12


ไม่นา่ เชือ่ ว่า ช่วงเวลาต่อมาอีกไม่กเี่ ดือน ข้าพเจ้าจะได้กลับไปที่ร้าน Sometime’s แห่งนั้นอีกถึง 2 ครั้ง คงต้องขอขอบคุณ มิตรสหายกลุ่มกาแฟจาก Hi5 ที่นัดแนะ นัดหมาย มีตติ้งจนบทสรุปมาตกอยู่ที่ร้าน Sometime’s เพราะเมื่อถึงเวลานั้นจนล่วง เลยมาถึงเวลานี้ ร้านนี้ได้กลายเป็นร้านหนึ่ง ในความทรงจำ�ของข้าพเจ้าและคนข้างใจไป เสียแล้ว จากประสบการณ์(ดูด)ครั้งที่ 2 ที่ร้าน Sometime’s ข้ า พเจ้ า มี เ วลาพิ จ ารณาร้ า นโดยรอบ พบว่า การตกแต่งร้านทำ�ให้รู้สึกเป็นกันเอง เหมือนอยู่บ้าน มีบริการอินเตอร์เน็ต wifi ให้ ใ ช้ ฟ รี มี มุ มโต๊ ะ -เก้ า อี้ หลากหลาย บรรยากาศให้เลือกนั่ง มุมที่ดูเป็นทางการ มุมที่ดูสบายๆ มุมที่ดูหรูหรา มุมที่เหมือน มุมพักผ่อน ฯลฯ พนักงานบริการไม่วุ่นวาย จนกว่าเราจะสั่นกระดิ่งเรียก ข้าพเจ้ายังรับฟังข้อมูลมาว่าเจ้าของเป็น มัณฑนากร นั่นทำ�ให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำ�ไมถึงตกแต่งร้านออกมาได้บรรยากาศ อบอุ่น ข้อติติงเล็กน้อยสำ�หรับการใช้บริการ ในวันนั้นเห็นจะเป็นด้วยเรื่องห้องน้ำ�

13


หนึ่งคือ กระดาษชำ�ระไม่ได้รับการเพิ่มเติมเมื่อหมด หนึ่ง คือ อ่างน้ำ�ในห้องน้ำ�ใช้งานไม่ได้ นอกจากเมนูดูดแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูกิน ทั้งของคาว ของ หวาน ของกินเล่น เมนูเครื่องดื่มนั้นนอกจากกาแฟ ยังมีชา เครือ่ งดืม่ ผลไม้ เครือ่ งดืม่ เพือ่ สุขภาพ ซึง่ เมือ่ เปรียบเทียบราคา กับสิ่งต่างๆ ที่ได้รับ เวลานั้นไม่ได้ทำ�ให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าต้องจ่าย แพงมากมายเกินไปเลย นัน่ จึงเป็นเหตุผลให้ขา้ พเจ้ากลับไปกิน และดูดเป็นครั้งที่ 3 รู้สึกไม่แปลกใจตัวเองเท่าไหร่ หากจะหา โอกาสแวะไปอีก

14 14


และอาจจะไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นความตัง้ ใจของเพือ่ น รุ่นน้องข้าพเจ้า ที่ทำ�ให้ได้แวะเวียนไป Sometime’s เป็นครั้ง ที่ 4 และอดนึกขำ�ไม่ได้เมื่อได้เห็นน้องซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมรีคน หนึ่ง (ฮ่า) เดินเลียบๆ เคียงๆ บริเวณที่ตั้งเครื่องดื่มอัลกอฮอล์​์ สารพัดชนิดและยี่ห้อ “น้อง...ถ้าปิดดึกกว่านี้นะ แหล่มเลย”

ร้าน Sometime’s ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 71(คลองตัน) ระหว่างซอยปรีดีพนมยงค์ 38 กับ 40 ร้านเปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด 07.00 - 22.00 น. ถ้าขับรถไปเองให้จอดรถบนอาคารคลองตัน รถเมล์สายที่ผ่าน 22,71,109,115,133,ปอ1,126,ปอพ.17,19 หรือนั่งรถไฟฟ้า BTSลงสถานีพระโขนงแล้วเลือกใช้บริการรถโดยสารต่อ

15


Movie & Books by : เจ้าชายกบ

นอนดูหนัง(หรือ)นั่งอ่านหนังสือ

นอนดูหนัง

อภินิหารเข็มทิศทองคำ� The Golden Compass

16

16


The Golden Compass อภินิหารเข็มทิศทองคำ � ภาพยนตร์ผจญภัยแฟนตาซีที่ถูก สร้างจากหนังสือชุด ธุลีปริศนา (His Dark Materials) เป็น เรื่องราวของหนูน้อยไลรา เด็ก กำ�พร้าผู้ถูกเลี้ยงและเติบโตมาใน แวดวงนักวิชาการ เพราะความ ฉลาด แก่น ซน คะนอง ของเธอ ทำ�ให้ตอ้ งตกกระไดพลอยโจน ได้ รับรูค้ วามลับ ได้รบั ของสำ�คัญ ได้ เรียนรู้โลกใหม่ๆ จนนำ�ไปสู่การ ผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ The Golden Compass สำ � หรั บ ผู้ ดู ที่ ก ลั บ มาหาหนั ง สื อ อ่านอย่างข้าพเจ้ากับผูอ้ า่ นหนังสือ แล้วจึงดูภาพยนตร์ ความรู้สึก และอรรถรสคงแตกต่างกันอย่าง แน่นอน จากหนังสือ...ผู้ประพันธ์เน้น ความสำ�คัญของการเล่าเรื่อง แต่ เมื่อเป็นภาพยนตร์ด้วยข้อจำ�กัด หลายๆ ด้ า น รวมถึ ง การต้อง ดัดแปลงบทประพันธ์เพื่อทำ�เป็น

บทภาพยนตร์ จึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะดำ�เนินเรื่อง ตามรายละเอียด ปลีกย่อยในหนังสือได้ทั้งหมด ดารานำ�แสดงอย่าง นิโคล คิดแมน พระเอกเจมส์ บอนด์ คนล่าสุด แดเนียล เคร็ก รวม ถึง อีวา กรีน สาวบอนด์จากภาค คาสิโน รอยัล ร่วมด้วยนักแสดง เด็กหน้าใหม่ในบท ไลรา ดาโกต้า บลู ริชาร์ด ทีถ่ กู คัดเลือกโดย ฟิล ลิป พูลแมน เจ้าของบทประพันธ์ ส่วนภูติประจำ�ตัวส่วนใหญ่น่าจะ ใช้เทคนิคสร้างขึน้ ฉากตืน่ ตา ตืน่ ใจ หลายฉาก ล้วนทำ�ให้ข้าพเจ้า รู้สึกตื่นเต้นไปด้วยขณะชม The Golden Compass คงเป็นอีกตัวอย่างของภาพยนตร์ ทีถ่ กู ดัดแปลงจากหนังสือ ทีท่ �ำ ให้ ข้ า พเจ้ า รู้ สึ ก เข็ ด ขยาดกั บ ความ สับสน จนอาจต้องเลือกระหว่าง 2 สิ่งที่ชื่นชอบ อ่านหนังสือเพื่อความสนุก กับดูหนังเพื่อความบันเทิง 1717


นั่งอ่านหนังสือ

ธุลีปริศนา

(His Dark Materials)

18 18

มหันตภัยขั้วโลกเหนือ (The Golden Compass) ฟิลลิป พูลแมน : เขียน วันเพ็ญ บงกชสถิตย์ : แปล พิมพ์ครั้งที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551, สำ�นักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ทีน จำ�นวน 448 หน้า ราคาปก 235 บาท


1 เมษายน 2552 ข้าพเจ้าหยิบหนังสือเล่มแรกในชุด ไตรภาคของ ธุลีปริศนา(His Dark Materials)มหันตภัยขั้วโลกเหนือ (The Golden Compass) อันถูกให้เครดิตไว้บนปกหน้าว่า บรรณารักษ์และผู้อ่านทั่วโลกโหวต ให้เป็นหนังสือดีที่สุดในรอบ 70 ปี รางวัลคาร์เนกีออฟคาร์เสกีส์ ย้ำ�ด้วยเครดิตปกหลังว่า วรรณกรรมเยาวชนแฟนตาซีเรือ่ งยิง่ ใหญ่แห่งศตวรรษขายดีที่สุดทั่วโลก แปลแล้วกว่า 40 ภาษา

ซึ่ ง นำ �ไลราไปสู่ ก ารผจญภั ย ยั ง ดิ น แดนขั้วโลกเหนือ

ยอมรับว่าเป็นเพราะภาพยนตร์ The Golden Compass อันมีชอื่ ภาษา ไทยว่า อภินิหารเข็มทิศทองคำ� ซึ่ง มีหนูน้อย ดาโกต้า บลู ริชาร์ด นำ�แสดงในบท ไลรา ร่วมด้วย แด เนียล เคร็ก และ นิโคล คิดแมน แท้ๆ ที่ทำ�ให้ข้าพเจ้าถึงบางอ้อว่า ภาพยนตร์สร้างจากหนังสือดัง และจากการได้ดู The Golden Compass นั่นเอง ทำ�ให้ข้าพเจ้า รู้สึกค้างคาเมื่อรู้ว่า ภาพยนตร์ยังมี The Golden Compass เป็น ตอนต่อไป----- และเป็นต้นเหตุ ปฐมบทของ ธุลีปริศนา(His Dark ให้ขา้ พเจ้าต้องหาหนังสือชุดนีม้ าอ่าน Materials)อันนำ�ไปสู่การผจญภัย ในเล่มต่อๆ ไปในโลกแฟนตาซีที่ นับเป็นความผิดพลาดของข้าพเจ้า มนุษย์ทุกคนจะต้องมีภูติประจำ�ตัว แท้ทเี ดียว เมือ่ พบว่า หลังเริม่ ต้นอ่าน ไลรา เด็ ก หญิ ง กำ � พร้ า แก่ น ซน หนังสือไปได้ไม่กี่บท ข้าพเจ้าก็รู้สึก แต่ฉลาดถูกฝากเลี้ยงให้เติบโตใน ว่า อ่านสนุกดี แต่แล้วข้าพเจ้าก็กลับ ท่ามกลางนักวิชาการของอ๊อกฟอร์ด คิดเนื้อเรื่องสับสนไปกับภาพยนตร์ ได้ล่วงรู้ความลับบางอย่าง รวมถึง ทำ�ให้รู้สึกว่า อ่านแล้วทำ�ไมความ อยากอ่านจึงลดลง มิตรภาพระหว่างเพื่อน 19 19


ไม่เหมือนหนังสือที่กำ�ลังอ่าน ควบคู่กันไปอย่าง ระบำ�ดอกฝนที่ ระนอง ของ บัญชร ชวาลศิลป์ อัน เป็นหนังสือแนวท่องเทีย่ ว ขนาดบาง การอ่านหนังสือแล้วได้ดูภาพยนตร์ หรือการดูภาพยนตร์แล้วจึงได้อ่าน หนังสือนับเป็นดาบสองคมสำ�หรับ ข้าพเจ้าเสมอ ด้วยการนำ�ไปเปรียบ เทียบความสนุก เปรียบเทียบเนือ้ หา ของหนังสือกับบทภาพยนตร์ ความเหมือนกัน ความแตกต่างกัน มันทำ�ให้ข้าพเจ้าไม่แน่ใจ ควรจะทำ�อย่างไรก่อนและหลังจึงจะ ดีกว่ากัน หรือชีวิตต้องเลือก --อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอไป???

20

มีดนิรมิต (The Subtle Knite) ฟิลลิป พูลแมน : เขียน เอื้อนทิพย์ พีระเสถียร : แปล พิมพ์ครั้งที่ 10 มีนาคม 2551, สำ�นักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ทีน จำ�นวน 376 หน้า ราคาปก 198 บาท หลังจบเล่มแรกของ ธุลปี ริศนา(His Dark Materials) มหันตภัยขัว้ โลก เหนือ (The Golden Compass) 10 เมษายน 2552 ข้าพเจ้าก็เริ่มต้นอ่านเล่มที่ 2 มีดนิรมิต (The Subtle Knite) ด้วยความหวังว่าน่าจะรีบอ่านให้จบ ครบ 3 เล่ม


ก่ อ นที่ จ ะมี ภ าพยนตร์ ภ าคต่ อ ไป เข้าฉาย มีดนิรมิตถูกจั่วคำ�โปรยไว้ บนปกหน้าว่า สุดยอดวรรณกรรม เยาวชนที่ขายได้แล้วกว่า 8 ล้านเล่ม ทั่วโลก

ในเล่มนี้ โลกแฟนตาซีที่เคยคิดว่ามีโลกเดียว ในเล่มแรกหมดไปแล้ว ตั้งแต่ลอร์ดแอนเดรียสเปิดประตูสู่ โลกอื่นขึ้น

ขอสารภาพในความโง่ เขลา เบา ปั ญ ญาต่ อ โลก ที่ ไ ม่ เ คยรู้ จั ก วรรณกรรมชุดนี้มาก่อน เพราะเมื่อ เข้าไปค้นหาภาพปกของหนังสือชุดนี้ พบว่าลิงค์ของวิกิพีเดีย สารานุกรม เสรี มีการจัดทำ � รายละเอียดของ ธุลีปริศนา ไว้ด้วย เป็นข้อมูลที่ให้ สาระความรู้ เ บื้ อ งหน้ า เบื้ อ งหลั ง มากมาย

มีโลกต่างๆ มากมายที่ทับซ้อนกัน แต่ สิ่ ง ที่ ทำ �ให้ ข้ า พเจ้ าไม่ เ ข้ าใจเป็ น อย่างยิ่ง คือประตูระหว่างโลกต่างๆ ขนาดของแต่ ล ะประตู น่ า จะแตก ต่ า งกั น และมี อ ยู่ ต รงนั้ น ตรงนี้ มากมาย--หรือไร

จึงรู้สึกว่าตัวละครผลุบโผล่กันไปมา ได้เป็นว่าเล่น และที่สำ�คัญไม่จำ�กัด ขนาด จำ�นวนด้วย บอลลูนเอย เรือ มีดนิรมิต (The Subtle Knite) เหาะเอย กองทหารเอย เปิดเรื่องที่โลก(ของเรา)ที่ วิล อาศัย ทีม่ ดุ เข้า มุดออก ได้อย่างน่าอัศจรรย์ อยู่ เขาและครอบครัวกำ�ลังตกอยู่ ในสถานการณ์ลำ�บาก แต่ด้วย ขอสารภาพว่า ข้าพเจ้าอ่านแล้วรู้สึก สถานการณ์พาไปหรือเหตุบังเอิญก็ ปวดขมับ เรือ่ งของสงคราม การช่วง ว่าได้ เขาได้พบประตูสู่โลกอื่น โลก ชิงอำ�นาจ เป็นพล็อตที่ขายได้ตลอด กาลหรือไร?? ที่สามารถให้เขาหลบซ่อนตัวได้ และพลิกให้เขามีบทบาทสำ�คัญใน 21 ธุลีปริศนา ร่วมกับ ไลรา


และเมื่อได้อ่าน มีดนิรมิต ทำ�ให้ข้าพเจ้ากระจ่างว่า สงคราม ในธุลีปริศนา คือสงครามระหว่าง มนุษย์กับพระเจ้า โอ้ววว....มายก็อด

ต่อไปนี้ ประเทศไทยจะเป็นไปในรูป แบบไหน และหนทางใดกับความขัด แย้งที่ไม่เข้าท่าจะสิ้นสุด

หรือเราต้องการ “ปีศาจ” เพื่อดูดจิตวิญญาณของผู้คน อย่างน้อยเพื่อให้มนุษย์เท่าเทียมกัน ข้าพเจ้ารู้สึกหดหู่อย่างประหลาด เ มื่ อ พ ย า ย า ม ตั้ ง ห น้ า ตั้ ง ต า จนไม่ต้องคิดถึงการแก่งแย่ง ชิงดี อ่ า นหนั ง สื อ ชุ ด นี้ ขณะที่ หู รั บ ชิงเด่น ฟั ง สถานการณ์ บ้ า นเมื อ งของ ประเทศไทยไปด้วย ช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ ซึ่ ง ควรจะเป็ น ช่ ว งที่ ป ระเทศไทย เบิกบาน สนุกสนาน รื่นเริง ตาม ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย สรงน้�ำ พระ รดน้ำ�ผู้ใหญ่ เล่นน้ำ�สงกรานต์ ชาวต่างชาตินำ�เงินตราเข้ามาจับจ่าย ท่ อ งเที่ ย ว กลั บ กลายเป็ น จลาจล กลางกรุงและตามจังหวัดต่างๆ ประชาชนผูไ้ ม่รอู้ โิ หน่อเิ หน่ตอ้ งหวาด ผวา ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าพา กันปิดตัว 22 22

สู่เส้นทางมรณะ (The Amber Spyglass) ฟิลลิป พูลแมน : เขียน เอื้อนทิพย์ พีระเสถียร : แปล พิมพ์ครั้งที่ 7 มีนาคม 2551, สำ�นักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ทีน จำ�นวน 584 หน้า ราคาปก 295 บาท


24 เมษายน 2552 เป็ น วั น สุ ด ท้ า ยที่ สิ้ น สุ ด การอ่ า น หนังสือไตรภาค ธุลีปริศนา (His Dark Materials) สู่เส้นทางมรณะ (The Amber Spyglass) หนังสือเล่มนี้ถูกจั่วไว้บนปกหน้าว่า ติ ด อั น ดั บ หนั ง สื อ ขายดี ที่ สุ ด ของ NEW YORK TIMES นานกว่าหก เดือน วรรณกรรมเยาวชนเรื่องแรก ที่ได้รับรางวัล Whitbread Book of the Year รางวัลวรรณกรรมที่ ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งเกาะอังกฤษ เพราะรางวัล ยอดขายและกระแส ความนิยม ที่วรรณกรรมแฟนตาซี ชุดนี้เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก ทำ�ให้ ข้า พเจ้า (ยิ่ง)รู้สึ กว่า ตั วเองช่า งเป็น คนขวางโลกนั ก หนา อคติ ที่ มี ต่ อ ความรุนแรง เกลียดกลัวและชิงชัง สงคราม ส่งผลให้ขา้ พเจ้าไม่นกึ ปลืม้ กับการอ่านหนังสือไตรภาคชุดนี้นัก

ยอมรับว่าข้าพเจ้าจำ�ทน...เพื่อที่จะ อ่านให้จบ ข้าพเจ้าไม่รู้สึกสนุกสนานไปกับการ อ่าน ใช่...มันเป็นวรรณกรรมทีว่ า่ ด้วยการ ผจญภั ย ซึ่ ง มี ฉ ากสงครามไหนจะ เหมือนหนังสือแนวท่องเที่ยวได้

23 23


ส่ ว นหนึ่ ง คงเป็ น เพราะกระแส ภาพยนตร์ The Golden Compass หรือ อภินิหารเข็มทิศทองคำ� ที่เข้าฉายในประเทศไทย ทำ�ให้ผู้ได้ ลิขสิทธิพ์ มิ พ์หนังสือชุดนี้ ถึงกับยอม ใช้(หรือยอมรับ) อภินิหารเข็มทิศ ทองคำ� แทน มหันตภัยขั้วโลกเหนือ ซึ่งเป็นชื่อหนังสือแปลภาษาไทยของ สำ�นักพิมพ์ ดังปรากฎในหน้าคำ�นำ� สำ�นักพิมพ์ในการพิมพ์ครั้งที่ 7 อันเป็นปีที่ภาพยนตร์เข้าฉายพอดี ความที่ข้าพเจ้าไม่ใช่คนอ่านหนังสือ ตามกระแส จึงไม่แน่ใจว่า หนังสือชุดนี้ได้รับ ความนิยมมากแค่ไหนในหมู่ผู้อ่าน คนไทย ผูแ้ ปลได้รบั ความกดดันจาก การถูกเร่งต้นฉบับ(แปล)แค่ไหน แต่บางท่อน บางตอน ข้าพเจ้ารูส้ กึ ได้ ถึงความไม่เรียบร้อยของรูปประโยค อ่านแล้วต้องพยายามแปลไทยเป็น ไทย 24 24

บางตอนอ่ า นกระโดดข้ า มไปเลย เพราะเกินจินตนาการ เพราะความที่ไม่แน่ใจว่า ผู้แปลมี เวลามากน้อยแค่ไหน เนื้อหาบาง ตอนจึงทำ�ให้ขา้ พเจ้าข้องใจ เช่น ทูต กับ ภูต ศัพท์ภาษาอังกฤษนั้นน่าจะ แตกต่างกัน แต่การพิมพ์เป็นภาษา ไทย แตกต่างกันแค่พยัญชนะเดียว แต่ถ้าพิมพ์ผิด.....ความหมายผิดกัน ลิบลับ สู่เส้นทางมรณะ (The Amber Spyglass) เป็นการผจญภัยต่อ เนื่องของสงครามที่ยังไม่สิ้นสุด วิลใช้มีดนิรมิตเปิดประตูสู่โลกอื่นๆ เพื่อตามหาไลรา และเรื่องที่น่าทึ่ง คือ พวกเขาเปิดประตูสู่ดินแดนของ คนตาย สิ่ ง ที่ ทำ �ให้ ข้ า พเจ้ า อดทึ่ ง มิ ไ ด้ กั บ ผู้ ประพันธ์ ฟิลลิป พูลแมน นักเขียน ผู้ให้ความสำ�คัญกับการ “เล่าเรื่อง”


สามารถเล่าเรื่องที่ดูเหมือน(อธิบาย) ปริ ศ นาและคำ � ตอบ คำ � อธิ บ าย ระหว่างภูติของคนกับภูติของแม่มด ยากให้เป็นเรื่องง่ายๆ หรือภูติของคนในโลกเราที่ไม่เคย แต่ ก็ ไ ม่ ว ายทำ � ให้ ข้ า พเจ้ า สั บ สน ปรากฏ งงงวยได้ ความรักอย่างสุดซึ้งตรึงใจของเด็ก เรื่ อ งที่ ค้ า งคาใจมาตั้ ง แต่ ก ารอ่ า น หนุ่ ม เด็ ก สาววั ย 12 ขวบกว่ า ๆ เล่มแรก ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง เมื่อเทียบกับความรักระหว่างเพื่อน พ่อ-แม่-ลูก การเดินทางเข้า-ออก ความรักระหว่างครอบครัว พ่อระหว่างโลกต่างๆ...แม้กระทั่งโลก แม่-ลูก ของคนตาย อย่างที่ออกตัวไว้ตั้งแต่แรก ความเชื่อเกี่ยวกับการสร้างโลกและ ด้ ว ยความดั ง ของหนั ง สื อ และผู้ พระเจ้า ความรักสุดซึ้งระหว่างทูต ประพันธ์ ทำ�ให้ข้าพเจ้าอดกังขาตัว เองไม่ได้เลย ว่าทำ�ไมรู้สึกผิดหวัง สวรรค์เพศชายด้วยกัน เมื่อได้อ่านหนังสือไตรภาคชุดนี้จบ ตั ว ละครที่ จู่ ๆ ก็ ห ายไปโดยไม่ มี ลง เหตุผล และโผล่กลับมาเพื่อเหตุผล ........ หรื อ ข้ า พเจ้ า จะเด็ ก เกิ นไปสำ � หรั บ ที่จะกำ�จัดตัวละครอีกตัว ความเข้าใจ ที่ ข้ า พเจ้ า ดู แ ล้ วไม่ มี เ หตุ ผ ลที่ ต้ อ ง หรื อ ข้ า พเจ้ า จะโตเกิ น ไปสำ � หรั บ สร้างขึ้นมาเลย จินตนาการ 25 25


Pic & Post by : น้าอ๊บ

การ์ดเขียนคำ� ภาพเล่าเรื่อง

โลกของ Pooh. พัดลมของ Pooh

26

26


(สาร)พัดลมเรียงราย หลากสี หลายแบบ ต่างขนาด ลายมือตัวบรรจง น้ำ�หนักหนา หนัก(แน่น) ดูจริงจัง --และจริงใจ โลกของ Pooh ระหว่างการเดินทางไปอำ�เภอเชียงคานด้วยกัน เขาติดพัดลมเด็กเล่นรูปโปเกมอนไปด้วย เป็นพัดลมที่ใช้ถ่านขนาด AA จำ�นวน 2 ก้อนเป็นแบตเตอรี่ ฉันเข้าใจว่านอกจาก พัดลมโปเกมอนจะเป็นของเล่นแล้ว ยังเป็นอุปกรณ์ยังชีพอย่างหนึ่งของน้องภู--ที่ขาดไม่ได้ เพราะเขาเปิดให้พัดลมทำ�งานเกือบตลอดเวลา ไม่ว่าจะขณะนั่งไปรถ...ที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ� ระหว่างนั่งพักทานอาหาร หรือระหว่างเดินเล่น “เจ๊ไปซื้อถ่านก่อน” ฉันได้ยินประโยคนี้บ่อยมากจากแม่น้องภู “โห..เจ๊ ค่าถ่านแพงกว่าพัดลมอีกมั้ง” ฉันแซว “ใช่ เจ๊ใช้ถ่านอัลคาไลน์ด้วยนะ” น้องภูเป็นเด็กที่ชื่นชอบ “พัดลม” ทุกชนิด โลกของ Pooh จะจินตนาการเกี่ยวกับพัดลมให้เป็นอะไรบ้าง.....ฉันไม่อาจรู้ได้เลย รู้แต่ว่า พัดลม สามารถทำ�ให้น้องภูมีสมาธิได้ด้วย ป่านนี้แล้ว พัดลมโบราณแบบหนึ่งที่น้องภูอยากได้

27 27


ฉันไม่แน่ใจว่า แม่น้องภูหาซื้อได้หรือยัง เพราะฉันเอง นึกถึงหน้าตาของพัดลมชนิดนี้ไม่ออกเอาเสียเลย อยากพยายามช่วย(มอง)หา แต่ก็ไม่เคยเห็นพัดลมที่ว่าจากตลาดโบราณที่ไหน ได้แต่หวังว่า--สักวันคงเจอ โลกของ Pooh ได้สอนให้ฉันรู้ซึ้งถึงคำ�ว่า “แม่” และคำ�ว่า “อดทน” --มากกว่าที่เคยคิดว่ารู้จักและเข้าใจมาตลอดชีวิต อาจเป็นเพราะฉันไม่มีโอกาสได้รู้จักครอบครัวเด็กพิเศษคนไหน ช่องว่างระหว่างฉันกับเรื่องละเอียดอ่อนเหล่านี้.....ห่างไกลลิบลับ ฉันอาจได้ยินคำ�ว่า ออทิสติก มานาน แต่ไม่เคยเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงพฤติกรรมของเด็กเหล่านี้ แม่น้องภูเป็นตัวอย่างของความเป็น “แม่” ซึ่งฉันออกจะแน่ใจว่า แม่ที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ อุปนิสัยหนึ่งของเธอที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้คือ ความอดทน ใช่....ฉันเชื่อว่า คนเราสามารถเปลี่ยนกันได้ โดยเฉพาะบุพการีที่ได้ชื่อว่า พ่อและแม่ ถ้าทำ�เพื่อลูก!!!

28

28


Lover

เรื่องรัก(ร้าง) by : ม.จิตฏาร์

บางพื้นที่ในหัวใจ เธอวาดวงกลมชีวิตของเธอ ฉันวาดวงกลมชีวิตของฉัน วงกลมของเราซ้อนทับกัน...นิดนึง เกิดเป็นพื้นที่เล็กๆ ขึ้นตรงกลาง ในความสัมพันธ์ ฉันจึงแรเงาสีชมพูลงไป แต่เธอเลือกที่จะปล่อยให้มันเปล่าว่างอยู่อย่างนั้น และแอบระบายสีอยู่ในใจเงียบๆ โดยไม่ได้บอกฉัน แต่ไม่ว่าเธอจะระบายสีใด ในตอนนั้น...ฉันก็คิดไปเองว่า มันคงจะเป็นสีเดียวกัน 29 29


วันเวลาเหมือนสายลม พัดพาวงกลมช่างอ่อนไหวของเรา ให้เคลื่อนห่างกันออกไปทีละ น้อย...ทีละน้อย เวลาไม่เคยทำ�ให้มันใกล้กันมาก ขึ้น... และตอนนี้สีชมพูของฉันเริ่มซีด จางลงแล้ว ในขณะที่สีภายในใจของเธอที่ฉัน ไม่เคยรู้ ก็ยังคงไม่รู้อยู่เช่นเดิม เพียงแต่ฉันคิดว่ามันไม่สำ�คัญเท่า ไหร่แล้ว...ในยามนี้ เราสบตากันเงียบๆ ดวงตาของเธอยังคงสวยเหมือน วันแรกที่ได้เจอ

30 30


เพียงแต่บางความหมายเปลี่ยนไป วันนี้...ดวงดาวเล็กๆ นั้นไม่มีคำ�ตอบ แต่มีบางคำ�ตอบ ซึ่งฉันควรจะยอมรับและเข้าใจ เหมือนเด็กซนๆ ที่ขีดวงกลมล้อมรอบชีวิตตัวเองไว้ บางทีเธอก็เป็นแบบนั้น บางทีเธอก็ขีดวงกลมให้ใหญ่ขึ้น เพื่อที่เธอจะได้ออกมาวิ่งเล่นได้ไกลขึ้น และเมื่อรู้ตัวว่ามันไกลมากไปแล้ว เธอก็ขีดให้มันเล็กลง แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น...เธอไม่เคยเดินออกมานอกวงกลมที่เธอขีดไว้ และไม่ว่าอย่างไร...พื้นที่ที่ซ้อนทับกันของเราไม่เคยเพิ่มขึ้น ........... ฉันค่อยๆ ลบเส้นรอบวงที่เริ่มจางนั้นออกจากกระดาษ ที่เราต่างวางทิ้งไว้ ทั้งวงกลมของเธอ และวงกลมของฉัน เหลือไว้เพียงพื้นที่ที่วงกลมของเราเคยซ้อนทับกัน ในช่วงชีวิตหนึ่ง...ตรงนั้น ซึ่งฉันยังคงแอบเก็บเอาไว้ระบายสีชมพูอย่างเงียบๆ อยู่ในใจเสมอ ในวันที่คิดถึงเธอ... 3131


โอ..มลุลี Tree of life

by : ข้าวใหม่

32

32

นี่หรือคือ “มะลิวัลย์”

ต้นไม้ใบหญ้า(อ่อน)


เจ้ า ดอกไม้ ก ลี บ เรี ย ว แหลมเล็ ก ที่ มี สั ด ส่ ว นพอ เหมาะและสวยงามบนต้ น ที่ เ ลื้ อ ยเป็ น เถาวั ล ย์ ไ ด้อย่าง พอดีต้นนี้เข้ากับรั้วบ้าน

ปักษ์นี้ยังคงเป็นดอกไม้ที่อยู่ตามป่าเขาในชนบทอีกเช่นเคย ในชนบทคำ�ว่า “รั้ว” นั่นคือ ต้นไม้ประดามีที่ปลูกไว้เป็นแนวตามขอบ ที่ดินของแต่ละบ้าน “รั้ว” ที่ไม่ต้องมีประตูรั้ว และเป็น “รั้ว” ที่ไม่มีรูปแบบมาตรฐานตามตำ�ราไหน นอกจากตำ�ราความเชื่อเกี่ยว กับพืชมงคลของไทยแต่โบราณ ผสมกับคุณประโยชน์ทางอาหารและ สมุนไพรแล้ว ก็คงจะมีแต่ดอกไม้นี่แหละ ที่ทุกบ้านขาดไม่ได้เลย แม้ไม้ดอกส่วนใหญ่จะกินไม่ได้ หรือไม่นิยมกิน แต่การปลูกไม้ดอก ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูง เมื่อถึงคราวไหว้พระ ตักบาตร หรือเอา ดอกไม้ไปวัด ก็ได้ดอกไม้หลากหลายชนิดหน้าบ้านนี่แหละที่กำ�รวมกัน นี่เป็นภาพอย่างหนึ่งที่มีเสน่ห์มาก เป็นศิลปะในแจกัน บ้างก็เป็น ดอกไม้ที่เพาะปลูกขึ้นมาใหม่ บ้างก็เป็นพันธุ์ไม้ป่าอย่างเช่น “มะลิวัลย์” นางเอกของเราปักษ์นี้ 33 33


34 34


มะลิวัลย์หรือมะลิวัลย์ป่า ลองใช้บริการอากู๋(เกิ้ล)เล่นๆ ดู ปรากฏว่า มะลิ วัลย์นั้นมีอีกชื่อที่สวยเก๋ตามแบบฉบับของสาวกรุงอีกชื่อว่า “มลุลี” อีกชื่อ หนึ่งด้วย ที่หน้าบ้านยาย รั้วลวดหนามกั้นเขตที่ดินฝั่งตรงข้ามถนน ตอนนี้เต็มไป ด้วยต้นไม้ป่าและเถาวัลย์ บางต้นออกดอกสวย เสียแต่ว่าไม่สามารถเสาะ หาได้ว่าชื่อต้นอะไร เมื่อมองประมาณด้วยสายตา รั้วป่ารกๆ เต็มไปด้วย ดอกไม้ที่เจ้าของที่คงไม่ตั้งใจปลูก หนึ่งในนั้นก็คือมะลิวัลย์นั่นเอง เท่าที่สังเกตดูหลายบ้านทีเดียวที่มีเถาของมะลิวัลย์เลื้อยพันปะปนกับต้นไม้ ชนิดอื่น เมื่อตอนเด็กๆ ทุกครั้งที่เดินผ่านดอกมะลิวัลย์ ข้าพเจ้าเป็นอัน ต้องแวะทักทายดอมดมดอกไม้สีขาวนี่แทบทุกครั้งไป พร้อมกับความรู้สึก ส่วนตัวที่นึกถึง ศีล ธรรมะ แม่ชี หรืออะไรเทือกนั้น ซึ่งตรงข้ามกับกลิ่นที่ หอมหวานเย้ายวน เหมือนหญิงสาวที่ปรายตาให้ชายหนุ่มต้องตามไปค้นหา และทำ�ความรู้จักโดยสิ้นเชิง (โอ้ววว... ดอกไม้เจ้าชู้) มาถึงวันนี้ ถ้าหากมีโอกาส ข้าพเจ้าไม่ลังเลแม้แต่น้อย ที่จะร้อยเจ้าดอกไม้ กลีบเรียวแหลมเล็ก ที่มีสัดส่วนพอเหมาะและสวยงามบนต้น ที่เลื้อย เป็นเถาวัลย์ได้อย่างพอดีต้นนี้เข้ากับรั้วบ้าน และถ้าจะให้ดีแล้วจะต้องปน กับดอกไม้หรือต้นไม้อื่นๆ ด้วย เผื่อจะได้อารมณ์ รั้วศิลปะแบบบ้านๆ เหมือนเมื่อครั้งสมัยยังเด็ก คุณล่ะ สนใจลองหาเถาวัลย์ที่ว่านี้มาพันเกี่ยวที่รั้วดูบ้างไหม?

35 35


Notebooks

เรื่องเล่าและบันทึก by : รติ จุลกะเศียน

คÇาม½Ñนäม่มีÇÑนÊิéนÊØ´

ขณะที่ฉันเดินคิด นอนคิด นั่งคิด

(หา) เรื่องทำาเวบไซต์บนใบบัวดอทคอม จุดประสงค์ใหญ่ใจความเบื้องต้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าการ(ดิ้น)รน หาพื้นที่เพื่อลงสนามขีดเขียนให้ตัวเอง ได้คิด--มากขึ้น ได้คุย--มากขึ้น ได้อ่าน--มากขึ้น ได้เขียน--มากขึ้น 36


แต่จะกว้าง(ขวาง)ได้มากกว่าเดิมไหม...ไม่เคยคิดเลย ใช่...ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด ฉันใฝ่และฝันจะเป็นนักเขียนมาตั้งแต่เด็กๆ “สนาม¿รีก็มี...ทำาไมไม่ลงไปล่ะ” “มันไม่ได้ดั่งใจเสมอไปน่ะสิ” เสียงในใจตะแบงตอบตัวเองไปอย่างนั้น หลายครั้งที่คิดเข้าข้างตัวเอง จากเวบไซต์ที่เปิดให้เขียนได้, สร้างบล็อคส่วนตัวได้, แปะรูปได้ ฉันไม่ใช่เซียนไซเบอร์ตัวจริง เสียงจริง ความรู้ว่าด้วยคอมพิวเตอร์ก็มีไม่มากมาย อัตตาที่มี(มาก)มาแต่กำาเนิด ฉุดรั้งให้วนเวียนอยู่ใต้กะลาของตัวเอง--เสียเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งเท่านั้น จึงจะปล่อยให้หัวใจออกมาเริงร่าบนใบบัว จากเมืองปากน้ำา จังหวัดสมุทรปราการ เราอพยพครอบครัวมาปักหลักกันที่จังหวัดนนทบุรี วันหนึ่ง แม่ยื่นสมุดเล่มหนึ่งให้ฉันในวัยวันนั้นใกล้ 40 ปีแล้ว เห็นเข้าถึงกับอึ้ง!!! 37


มันเป็นสมุดนักเรียนเล่มเขื่อง สีของปก เดิมเป็นสีฟ้านั้นจางลงและดูเก่าคร่ำาคร่า เห็นลายมือตัวเองบนปกสมุดเล่มนั้น เรื่อง เก้าโพดำา ประพัน¸์โดย---พลิกเป ดหน้าแรก ชื่อเรื่อง...ลายมือ... รูปวาด...นามปากกา เป ดอ่านในหน้าถัดไป--ถัดไป--ถัดไป

20 กว่าหน้าที่เขียนด้วยลายมือ ลายมือของเด็กประถมสมัยที่ยังไม่ได้ถูกปลูกฝัง ความฝันและจินตนาการของเด็กประถม...กี่ขวบกันแน่??? กลับจดจำาไม่ได้เสียแล้ว แต่ประมาณได้ว่าน่าจะอยู่ชั้นประถมปีที่ 4 หรือ 5 เก้าโพดำา จากลายมือเขียนของเด็ก 10 กว่าขวบ ที่ผ่านสายตาของผู้ใหญ่วัย 44 ดูมีสีสันและจินตนาการของนิยาย ได้ เริ่มต้นไว้เหมือนผู้ประพันธ์จะรู้ที่มา ที่ไป ของเรื่องและตัวละคร มีบทเริ่มต้น แต่เสียดายไม่มีจุดจบ 38


ที่ไม่รู้จะยาวไกลไปอีกกี่หน้า... ความฝันไม่มีวันสิ้นสุดนั้น มักสะดุดไว้ครึ่งๆ กลางๆ อยู่ร่ำาไป!!! ฉันย้อนกลับไปเปิดดูบันทึก, ไฟล์(เก่า เก็บ)ของตัวเอง หลายเรื่อง หลากบันทึก หลายชื่อ หลายนามปากกา เริ่มต้น---แต่ไม่เคยเขียนจนจบมากมาย ช่างน่าอับอาย(ตัวเอง)ยิ่ง นัก

ช่างต่างกันลิบลับนักกับความฝันของผู้หญิงอีกคน ผู้หญิงที่มีระบบ ระเบียบกับชีวิต แม้กระทั่งในวันที่ลาจากโลกนี้ไปแล้ว หลังคุณยายผู้เป็นคุณอาของแม่เสียชีวิต พี่สาวหอบสมุดบัญชีขนาด ใหญ่มาให้ 3 เล่ม

39


“ลองอ่านดูหน่อยสิ” สมุดบัญชีปกเขียวหนาหนัก 3 เล่มนั้น พลิกเปิดดูข้างในเป็นต้นฉบับนิยายเรื่อง เงาบ้านสนหมู่ หรือ เงา แห่งความพินาศ เป็นตัวพิมพ์ดีดเรียบร้อย หลายช่วงหลายตอน มีลายมือกำากับของการตรวจทานและแก้ไขต้นฉบับ โดยคุณยาย ถอดความและอาศัยเค้าโครงมาจากนวนิยายภาษาอังกฤษ ก่อน พ.ศ.2477 แต่ไม่ได้ระบุถึงชื่อต้นฉบับภาษาอังกฤษ คุณยายได้ผูกเนื้อเรื่อง, ตัวละคร, สำานวน ภาษาและการดำาเนิน เรื่อง เป็นแบบยุคสมัยของคุณยาย สมัยที่ยังอยู่ในยุคเจ้าขุน มูลนาย ก่อนที่สังคมไทยจะเปลี่ยนแปลงไป --อย่างมากมาย ©ันคิดและเดาเอาเองว่า ต้นฉบับของคุณยายชุดนี้ ไม่เคยได้รับการตีพิมพ์ เผยแพร่ที่ใดมาก่อน ในฐานะหลานคนหนึ่งของคุณยาย ฉันคิดที่จะสานฝันของคุณยาย--ให้เป็นจริง ด้วยการเผยแพร่ผล งานที่คุณยายวิริยะ อุตสาหะถอดความและสร้างเค้าโครง ตลอดจนจัดทำาต้นฉบับไว้ ให้ปรากฏแก่สายตาคนภายนอก แต่ฉันรู้สึกหนักใจเมื่ออ่านต้นฉบับจบทั้ง 3 เล่ม 40


ฉันพบปัญหาจากต้นฉบับซึ่งมีทั้งหมด 75 ตอน เนื้อเรื่องเยิ่นเย้อเกินไป มีฉากที่คลุมเครือหลายจุดเกินไปรวมถึง แก่น--ที่มาของชื่อเรื่อง บทสรุปไม่โดนใจเพียงพอ ระหว่างคนร้ายกับคนดี--ฉันแยกไม่ออก ตัวละครมีหลากหลายมากมายเกินไป ฉันจำาเป็นต้องเรียบเรียง ลำาดับเรื่องใหม่เพื่อให้กระชับ อาจถึงกับต้องสร้างเค้าโครงใหม่ ใช้ภาษาให้อ่านง่ายตามสมัยที่ควรจะเป็นไหม ระหว่างเรื่อง เก้าโพดำา ที่เขียนไม่จบ กับเรื่อง เงาแห่งความพินาศ ที่เรียบเรียงจบแล้ว ล้วนทำาความหนักใจให้ฉันไปคนละแบบ โอ้ว....หรือความฝันจะไม่มีวันสิ้นสุด--อีกครั้ง !!!

41


Poem เขียนกลอนเล่นบนใบบัว by : วาดวลี

ถ น น ค ว า ม รั ก วาดวลี

42 42


เราเผื่อเหลือและเผื่อขาดเสมอ เมื่อคิดจะเริ่มต้นรักใครสักคน.. แต่เราก็ขาด และเกิน เสมอ เมื่อความรักนั้นมาถึง ไม่มีทฤษฎีตายตัว ไม่มีสูตรสำ�เร็จสำ�หรับทางปฏิบัติ ความสอดคล้องเหมือนหนทางยาวไกล ของขบวนรถไฟที่ยังมาไม่ถึง ฉันรอเธอบนทางเท้าคนเดิน เธออาจมีวิธีลัดนับร้อยวิธี ที่จะยึดครองสิ่งที่ปรารถนา แต่ในเมื่อเรา.. ...รักกันรวดเร็ว แต่สัมพันธ์นั้นเชื่องช้า

ฉันไม่รีบร้อน.. แต่ปลายทางของเธออยู่ที่ไหน? แต่ถ้าหนทางเธอมีหลายสาย ฉันจะอยู่บนรถขบวนไหนดี.. ? ถึงจะเจอเธอ เมื่อวันนั้นมาถึง 43 43


THA BOA

*RELAXING ATMOSPHERE BEAUTIFUL SEAVIEW & SUNSET GOOD BEACH FOR SWIMMING & SNORKELLING 44

CONTACT MR.TOUAN


SUN MOON STAR BUNGALOW, HAADYAO KOHPHANGAN, THAILAND

AI FOOD, VEGETARIAN FOOD AT & FISHING TRIPS

T N TEL : 66-077-349139, 66-086-2790166

45


บนใบบัว BonBaiBua Book

พบกันเดือนละ 2 เล่ม

BonBaiBua.com

46


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.