BLPD Newletter Vol.65

Page 1

ปีที่ 6 ฉบับที่ 65 เดือน มีนาคม 2557

หน้าใส ใส กับความใส่ใจของคุณ “อูฐ” เป็นพาหะแพร่เชื้อไวรัส MERS สู่มนุษย์ อินสตาแกรม (Instagram) คืออะไร แนะนําหลักสูตร ข้อกําหนด ISO/IEC 17025

AMMST คืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไร กับประเทศไทยและอาเซียน

การวิเคราะห์ด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟี โปรดส่งข้อคิดเห็น คําแนะนําหรือคําถามที่ blpd@dss.go.th โทร. 02-2017425 โทรสาร 02-2017429 หากต้องการยกเลิกการรับข่าวสาร กรุณาแจ้งที่ blpd@dss.go.th ข้อมูลเพิ่มเติม http://blpd.dss.go.th/


สวัสดีสมาชิก พศ. สารทุกท่าน สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน ตอนนี้ประเทศไทยก็เริ่มเข้าสู่ช่วงต้นของฤดูร้อนกันแล้วนะคะ ถึงแม้อุณหภูมิ จะสูงขึ้น แต่ขอให้ทุกท่านมีความเย็นสงบภายในจิตใจกันนะคะ และ สํานักฯ ก็ยังคงให้บริการฝึกอบรมกันต่อไปค่ะ โดยอาจมีการเปลี่ยนบรรยากาศจัดนอกสถานที่กันบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่ออํานวยความสะดวกให้แก่ผู้เข้าอบรมเป็นหลักค่ะ ตามความตั้งใจของสํานักฯ ที่ว่า You’re satisfied : Inspire Our Mind to Provide Training Service. โชคดีทุก ท่านค่ะ

หลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้น

ดาวน์โหลดแผนฝึกอบรม

C003

ความไม่แน่นอนของการวัดทางเคมี

C004

การสอบเทียบพีเอชมิเตอร์

20-21 พ.ค. 57

M006

การทดสอบจุลนิ ทรีย์ในน้ํา

21-23 พ.ค. 57

Q008

การตรวจติดตามคุณภาพภายในตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025

22-23 พ.ค. 57

C009

การทวนสอบผลการสอบเทียบเครื่องมือวัด

28 พ.ค. 57

B008

เทคนิคการใช้และการดูแลรักษาพีเอชมิเตอร์

28 พ.ค. 57

T008

การตรวจวิเคราะห์หาค่า BOD และ COD ในน้าํ เสีย

7-8 พ.ค. 57

29-30 พ.ค. 57

สถานที่อบรม อาคารสถานศึกษาเคมีปฏิบัติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ รายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครออนไลน์ได้ที่ http://blpd.dss.go.th/ ติดต่อสอบถาม : คุณจรวยพร โทรศัพท์ : 087 095 7475 , 0 2201 7460 อีเมล : blpd@dss.go.th โทรสาร : 0 2201 7461

ยาปฏิชีวนะ สารที่สกัดได้จากเชื้อราหรือแบคทีเรียบางชนิด ในปัจจุบันนี้สามารถ สังเคราะห์ได้จากสารเคมีหลายชนิด สามารถยับยั้งการเติบโตหรือฆ่าเชื้อได้อย่างกว้างขวาง ก่อให้เกิดประโยชน์ในวงการแพทย์ย่างมาก เช่น เพนิซิลลิน สเตร็ปโตไมซิน เป็นต้น การใช้ ยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้อง ได้แก่ ใช้ยาเฉพาะกรณีมีการติดเชื้อแบคทีเรียจริง ใช้ยาในขนาดระยะเวลา อย่างเคร่งครัด และวิธีการที่ถกู ต้อง ภายใต้การคําแนะนําของแพทย์และเภสัชกร ใช้เมื่อจําเป็น ไม่ควร ซื้อยาปฏิชีวนะเก็บไว้ใช้เองคราวละมากๆ เนือ่ งจากการติดเชื้อแต่ละประเภทนั้น จะต้องใช้ยาให้เหมาะ กับเชื้อที่เป็นสาเหตุ ซึ่งในแต่ละครั้งอาจต่างกันไป จึงควรไปพบแพทย์หรือปรึกษาเภสัชกรทุกครั้ง

2 |BLPD NEWSLETTER

ปี ที่ 6 ฉ บั บ ที่ 6 5 เ ดื อ น มี น า ค ม 2 5 5 7


หน้าใส ใส กับความใส่ใจของคุณ นพเก้า เอกอุ่น : noppakao@dss.go.th

ปกติในแต่ละวันหลังจากที่เรา ตื่นนอนและทํากิจวัตรประจําวันแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้สําหรับผู้หญิง คือ การบํารุงผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงการแต่งหน้าเพื่อเสริมสร้างความ มั่นใจก่อนออกจากบ้านเพื่อไปทํางาน โดยผลิ ต ภั ณ ฑ์ ห ลั ก ที่ ส าวๆ นิ ย มใช้ ได้ แ ก่ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ บํ า รุ ง ผิ ว หน้ า ซึ่ ง ปั จ จุ บั น ก็ มี ว างขายในท้ อ งตลาดกั น มากมายหลายยี่ ห้ อ ทั้ ง ที่ ผ ลิ ต ใน ประเทศและต่ า งประเทศ ราคาก็ มี ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาท ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ก็แตกต่างกันไป แล้วแต่ความต้องการของผู้ผลิตที่จะให้ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ นั้ น ๆ มี คุ ณ สมบั ติ อ ย่ า งไร เช่ น เพื่ อ ทํ า ให้ ห น้ า กระจ่ า งใส หรื อ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ต่อมาคือครีมกัน แดด สาวๆ หลายคนคงไม่ปฏิเสธว่าถ้า หากวั น ไหนไม่ ไ ด้ ท าครี ม กั น แดดแล้ ว แทบไม่ อ ยากก้ า วออกจากบ้ า นเลย ทีเดียว เพราะประเทศไทยเราเป็นเมือง ร้ อ น และแดดก็ แ รงมาก ซึ่ ง ถ้ า อ่ า น ส่ ว นผสมข้ า งขวดแล้ ว ก็ จ ะเห็ น ว่ า สิ่ ง เหล่ า นี้ ล้ ว นผลิ ต จากสารเคมี ทั้ ง นั้ น ถึ ง แม้ ว่ า องค์ ก ารอาหารและยา หรื อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะอนุญาตให้วาง จําหน่ายได้ แต่ก็ไม่มีใครรับประกันได้ ว่าหากล้างทําความสะอาดออกไม่หมด จะเกิ ด ผลข้างเคี ยงกั บร่ างกายหรื อไม่ อย่างไร รวมถึงเครื่องสําอางต่างๆ ที่มี อยู่ ม ากมาย ทั้ ง แป้ ง สี ท าตา (Eye shadow) สี ท า แ ก้ ม (Brush on) ที่ เขี ย นขอบตา (Eyeliner) รวมถึ ง ที่ ปั ด

ขนตา (Mascara) เป็ น ต้ น ซึ่ ง ตาม ปกติ โ ดยทั่ ว ไปแล้ ว ต้ อ งล้ า งทํ า ความ สะอาดผิวหน้าก่อนนอน แต่คุณสาวๆ ทราบหรือไม่ ว่าผลิ ตภัณฑ์เหล่านี้ล้วน แล้วแต่ล้างออกยากทั้งสิ้น เนื่องจากมี ส่ ว นผสมที่ ทํ า ให้ ติ ด ผิ ว หน้ า ทนนาน ระหว่างวัน ดังนั้นจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ผิ ว หน้ า ของคุ ณ ถู ก ทํ า ความสะอาดได้ อย่างหมดจดแล้วจริงๆ บางคนเป็นสิว อยู่บ่อยๆ ก็คิดว่าเป็นเพราะตัวเองเป็น คนผิวหน้ามัน แต่ที่จริงสาเหตุหนึ่งอาจ มาจากการล้างหน้าไม่สะอาดก็เป็นได้ วันนี้ผู้เ ขียนจึงอยากจะแนะนํ าวิธีล้า ง หน้ า อย่ า งถู ก วิ ธี เ พื่ อ เป็ น ทางเลื อ กแก่ คุณสาวๆ กันนะคะ 9 ขั้นตอนของการล้างหน้าให้สะอาด 1. เช็ ด เครื่ อ งสํ า อางออกจากใบหน้ า โ ด ย ใ ช้ ค รี ม ล้ า ง ห น้ า (Cleansing cream) เช็ ด เครื่อ งสํ า อางและขจั ด สิ่งสกปรกที่สามารถละลายในไขมัน ได้ อ อกเสี ยก่ อ น ทั้ ง นี้ ต้อ งพยายาม เช็ดออกให้ได้มากที่สุด และทําอย่าง เบามื อ ไม่ เ ช่ น นั้ น อาจเกิ ด ริ้ ว รอย ก่อนวัยได้นะคะ 2. ล้างหน้าด้วยน้ําอุ่น เป็นการเปิดรูขุม ขน ช่ ว ยให้ โ ฟมล้ า งหน้ า หรื อ cleanser ทําความสะอาดผิวหน้าได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 3. เลื อ กใช้ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ล้ า งหน้ า สู ต ร อ่ อ นโยน ที่ มี ค่ า pH ใกล้ เ คี ย งกั บ ผิวหนังมากที่สุด สําหรับผู้ที่ผิวหนัง แพ้ง่าย ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ ปราศจากไขมัน ส่วนผู้ที่ผิวมันมาก

BLPD NEWSLETTER

ค ว ร ใ ช้ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ล้ า ง ห น้ า ที่ มี ส่ ว นผสมของ BHA (beta hydroxy acid) AHA (alpha hydroxy acid) และ Zinc ซึ่งช่วยในการลดสิวได้ 4. ล้างมือให้สะอาดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มี สิ่งสกปรกติดมือไปติดใบหน้า ก่อนที่ จะนวดผลิตภัณฑ์ล้างหน้านั้นลงบน ผิวหน้า 5. นวดผิวหน้าที่มีผลิตภัณฑ์ล้างหน้าอยู่ พยายามไม่ลงน้ําหนักมือแรงเพราะ จะทํ า ให้ เ กิ ด ริ้ ว รอยและอาจทํ า ให้ เกิดการระคายเคืองได้ 6. ล้างหน้าด้วยน้ําสะอาด จนมั่นใจว่า ไ ม่ มี ค ร า บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ล้ า ง ห น้ า เหลืออยู่ 7. เช็ดหน้าให้แห้ง โดยใช้ผ้าขนหนูซับ เบาๆ ห้ามเช็ดโดยถูไปถูมาเด็ดขาด 8. ใช้ สํ า ลี ชุ บ โทนเนอร์ (toner) เช็ ด ผิวหน้า โดยเลือกโทนเนอร์สูตรที่ไม่ มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจ เกิดการระคายเคือง หากต้องการให้ รูขุมขนกระชับ ควรเลือกใช้สูตรที่มี ส่วนผสมของ BHA และ AHA ทั้งยัง ช่ ว ยในเรื่ อ งป้ อ งกั น เส้ น ขนคุ ด บน ใบหน้าซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้เกิด สิ ว หั ว ดํ า ได้ การใช้ โ ทนเนอร์ นั้ น นับว่าสําคัญมาก เพราะว่าโทนเนอร์ จะช่วยปรับสภาพผิวหน้า ทั้งยังช่วย ปิ ด รู ขุ ม ขนจากการล้ า งหน้ า และ ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองไม่เข้าไป อุดตันในรูขุมขนอีกด้วย อ่านต่อหน้าที่ 4

ปี ที่ 6 ฉ บั บ ที่ 6 5 เ ดื อ น มี น า ค ม 2 5 5 7 | 3


9. ขั้นตอนสุดท้ายบํารุงผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น นุ่มนวลแก่ ผิวหน้า และป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวหน้าและยังช่วยลดริ้วรอยได้อีกด้วย สําหรับคนผิวมันไม่จําเป็นต้องใช้ ผลิตภัณฑ์ที่ผสมมอยส์เจอไรเซอร์ก็ได้ 10.การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับลักษณะผิวของตัวเองก็เป็นสิ่งสําคัญ สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมได้ดังนี้ค่ะ ผิวมัน เป็นผิวที่มักมีน้ํามันเคลือบผิวมากทั่วหน้า เกิดสิวง่าย รูขุมขนใหญ่ชัดเจน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดผิวที่ทําให้ ผิวแห้งลง อย่างที่เป็ นสบู่ ก้อนหรื อโฟม ก็จะดีกว่า เจลใสหรือน้ําเปล่า หลังล้ างหน้าแล้ว การเช็ ดทําความสะอาดด้วย ผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมัน (Oil control) หรือโทนเนอร์ ก็จะช่วยให้การทําความสะอาดผิวหมดจดดียิ่งขึ้น ผิวผสม เป็นผิวที่มักมีน้ํามันเคลือบเยอะบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก หรือคาง) แต่บริเวณแก้มกลับแห้งตึง รูขุมขนกว้างแต่ ไม่เห็นชัดมาก ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดผิวแบบที่ไม่ลดความมันมากเกินไป เช่น แบบเจลใส โดยหลังล้างหน้า เลือกผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมัน (Oil control) หรือโทนเนอร์ เช็ดทําความสะอาดบริเวณทีโซน ผิวธรรมดา เป็นผิวที่มักมีน้ํามันเคลือบในปริมาณที่พอเหมาะ รูขุมขนเห็นไม่ชัด ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดผิวแบบ อ่อนๆ เช่น เจลใส หลังล้างหน้าใช้โลชั่น (Lotion) เช็ดผิวเป็นครั้งคราว ผิวแห้ง เป็นผิวที่ขาดน้ํามันเคลือบผิว บางรายอาจลอกเป็นขุยๆ รูขุมขนเล็ก มักจะเป็นผิวที่แพ้ง่าย คนผิวแห้งจึงควร หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดผิวหรือโลชั่นโดยไม่จําเป็น ใช้แค่น้ําเปล่าล้างหน้าก็พอค่ะ ข้อมูลเหล่านี้ สาวๆ บางท่านอาจทราบกันแล้ว แต่อาจละเลยไป อย่าลืมนะคะว่าเมื่อเราสูงวัยขึ้นหน้าใสๆ อาจไม่กลับมา เรามาดูแลผิวหน้ากันนะค่ะ เพื่อความสวยใสตลอดกาล ที่มาของข้อมูล ⇒ http://www.lebellashop.com/ ⇒ http://jayounbeautynan.lnwshop.com/

“อูฐ” เป็นพาหะแพร่เชื้อไวรัส MERS สู่มนุษย์........(ต่อจากหน้าที่ 5) ผู้ป่วยโรคนี้ในประเทศไทย อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังคงมีความเสี่ยง เนื่องจากมีผู้แสวงบุญชาวไทยเดินทางไปประกอบพิธี ฮัจญ์ ในประเทศแถบตะวันออกกลาง และมีนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบตะวันออกกลางที่เดินทางเพื่อเข้ามาท่องเที่ยว หรือ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทย ซึ่งสามารถอ่านข้อมูลการเฝ้าระวังและศึกษาวิธีการป้องกันการติดเชื้อที่ สํานักโรคติดต่อ อุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข : http://beid.ddc.moph.go.th/th_2011/news.php?items=668 ที่มาของข้อมูล ⇒ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000022156 ⇒ http://www.google.com/hostednews/afp/article/ALeqM5iTMmUbDyZCTeaXmwoYJNmTGASTuw?docId=0 dcbb178-bd28-4d6b-9822-98369177d473 ⇒ http://th.wikipedia.org/wiki/ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์กลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง

4 |BLPD NEWSLETTER

ปี ที่ 6 ฉ บั บ ที่ 6 5 เ ดื อ น มี น า ค ม 2 5 5 7


“อูฐ” เป็นพาหะแพร่เชือ้ ไวรัส MERS สู่มนุษย์ เรียบเรียงโดย นวพร เลิศธาราทัต : nawaporn@dss.go.th

เ ชื้ อ ไ ว รั ส โ ค โ ร น า ส า ย พั น ธุ์ ตะวั น ออกกลาง กลุ่ ม อาการโรค ทางเดินหายใจ (Middle East respiratory syndrome coronavirus, MERS -CoV) เป็นเชื้อไวรัสชนิดโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับไวรัส ที่ทําให้เกิด SARS ตรวจพบครั้งแรกใน ตะวันออกกลางช่วงกันยายน 2555 ใน ผู้ ป่ ว ยชาวกาตาร์ ที่ เ พิ่ ง เดิ น ทางไปยั ง ซาอุ ดิอ าระเบี ย ซึ่งกํ าลั งป่ ว ยเป็น โรค ทางเดินหายใจและไตวาย ข้ อ มู ล ณ วั น ที่ 7 กุ ม ภาพั น ธ์ 2557 องค์การอนามัยโลก รายงานพบ ผู้ ป่ ว ยยื น ยั น การติ ด เชื้ อ ไวรั ส โคโรน่ า แล้ว รวมผู้ป่วย 182 ราย เสียชีวิต 79 ราย คิดเป็นอัตราการป่วยตาย ร้อยละ 43.40 โดยพบรายงานผู้ ป่ ว ยทั้ ง หมด จาก 11 ประเทศ ดั ง นี้ จอร์ แ ดน ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ อังกฤษ สหรัฐ

อาหรั บ เอมิ เ รตส์ ฝรั่ ง เศส ตู นี เ ซี ย เยอรมนี อิตาลี โอมาน และคูเวต นั ก วิ จั ย ทราบข้ อ มู ล น้ อ ยมาก เกี่ ย วกั บ ต้ น กํ า เนิ ด หรื อ วิ ธี ก ารที่ เ ชื้ อ ไวรัสชนิดนี้แพร่สู่คน อย่างไรก็ตาม ผล การศึ ก ษาโดย เอี ย น ลิ ป คิ น นั ก วิ จั ย อาวุ โ สจากมหาวิ ท ยาลั ย โคลั ม เบี ย พบว่ า ไวรั ส MERS “แพร่ ห ลายเป็ น พิเศษ” ในอูฐ โดย 2 ใน 3 ของอูฐอายุ น้ อ ยมี เ ชื้ อ ไวรั ส ชนิ ด นี้ อ ยู่ ใ นทางเดิ น หายใจ ทีมวิจัยได้นําตัวอย่างเลือดและ ข อ ง เ ห ล ว จ า ก โ พ ร ง จ มู ก แ ล ะ ช่องทวารหนักของอูฐกว่า 200 ตัวใน ซาอุดีอาระเบียมาทําการศึกษาระหว่าง เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2556 โดย ใช้ เ ทคโนโลยี ห้ อ งแลปเคลื่ อ นที่ ซึ่ ง ก็ พบว่ามีสารภูมิต้านทาน (แอนติบอดี ) โรค MERS และไวรั ส ที่ ยั ง แอ็ ก ที ฟ

BLPD NEWSLETTER

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโพรงจมูกของอูฐ อายุน้อย ทีมวิจัยยังได้ศึกษาตัวอย่างเลือด ของอูฐโหนกเดียว (dromedary camels) ที่เก็บระหว่างปี พ.ศ. 2535-2553 ซึ่งทํ าให้ พบว่าไวรัส MERS เกิ ดขึ้น มา นานกว่า 20 ปีแล้ว และไวรัสที่พบใน อูฐเหล่านี้เป็นชนิดเดียวกันกับที่พบในผู้ ติดเชื้อไวรัส MERS ผู้ ติ ด เ ชื้ อ ส่ ว น ใ ห ญ่ เ ป็ น ช า ว ซาอุดีอาระเบีย และพบบ้างประปราย ในจอร์แดน กาตาร์ ตูนิเซีย และสหรัฐ อาหรับเอมิเรตส์ ก่อนหน้านี้ มีการพบ ผู้ป่วยในฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และ อังกฤษ ทว่ าทุกรายล้วนเคยมี ประวัติ เดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลาง สํ า หรั บ ในประเทศไทย ตั้ ง แต่ เดื อ นกั น ยายน 2555 จนถึ ง วั น ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 ยังไม่พบรายงาน อ่านต่อหน้าที่ 4

ปี ที่ 6 ฉ บั บ ที่ 6 5 เ ดื อ น มี น า ค ม 2 5 5 7 | 5


อินสตาแกรม (Instagram) คืออะไร ดลยา สุขปิติ : dollaya@dss.go.th

สําหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูป ไม่ว่าจะไปที่ไหน ทําอะไร เจอสิ่งสวย ๆ ง า ม ๆ แ ล้ ว เ ป็ น ต้ อ ง ห ยิ บ โทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้ แต่ ใ นปั จ จุ บั น ด้ ว ยความสามารถของ โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ หรื อ ที่ เ ราเรี ย กว่ า ส ม า ร์ ท โ ฟ น นั้ น ส า ม า ร ถ ติ ด ตั้ ง แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เพิ่มเองได้ ทําให้ การถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องที่ สนุ ก มากขึ้ น เพราะมี แ อพพลิ เ คชั่ น สําหรับแต่งภาพให้เลือกใช้งานมากมาย และแอพพลิ เ คชั่ น แต่ ง ภาพยอดฮิ ต อั น ดั บ ต้ น ๆ ที่ ผู้ ใ ช้ ง านสมาร์ ท โฟน หลายคนจะต้ อ งรู้ จั ก และคุ้ น เคย แน่นอน นั่นก็คือ อินสตาแกรม สําหรับ บางคนที่ ยั ง ไม่ รู้ ว่ า อิ น สตาแกรม คื อ อะไร มาทําความรู้จักกับแอพพลิเคชั่น ตัวนี้กัน อินสตาแกรม คือ แอพพลิเคชั่น ถ่ายภาพและแต่งภาพบนสมาร์ทโฟน ที่มาพร้อมกับลูกเล่นการแต่งเติมสีสัน ให้ กั บ รู ป ภาพด้ ว ย ฟิ ล เตอร์ (Filters) ต่าง ๆ ที่ให้เราสามารถเลือกปรับภาพ ได้หลากหลายและสวยงาม ได้ตามใจ ชอบทั้งในเรื่องของ สี แสง เรียกได้ว่า สามารถปรับอารมณ์ของรูปภาพได้ตาม ต้องการ และสามารถแชร์รูปภาพสวย ๆ ที่ อ ยู่ ใ นสั ง คมออนไลน์ อื่ น ๆ เช่ น 6 |BLPD NEWSLETTER

ท วิ ต เ ต อ ร์ (Twitter) เ ฟ ส บุ ค (Facebook) ทั ม เบอร์ (Tumblr) และ โฟร์ ส แควร์ (Foursquare) เป็นต้น และในตัวอินสตาแกรมเอง ก็ เ ป็ น สั ง คมออนไลน์ ก ารแบ่ ง ปั น ภาพถ่าย (Social Photo Sharing) เพราะ อินสตาแกรมสามารถให้มี ค น ที่ ติ ด ต า ม คุ ณ (Followers) แ ล ะ มี ค น ที่ คุ ณ ติ ด ต า ม (Following) ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกติดตามชมรูปภาพ ความเคลื่อนไหวการใช้ งานของเพื่อน ๆ ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นหากถูกใจ ชอบรูปภาพไหน สามารถกด Like รวมไปถึง แสดงความคิดเห็น ในรูปภาพนั้นได้ ลักษณะเด่นๆ ของ อินสตาแกรม ถ่ า ยภาพและแต่ ง ภาพด้ ว ยด้ ว ย ฟิ ล เตอร์ (Filters) คื อ โปรแกรมที่ ใ ช้ ใ น การเปลี่ยนรูปแบบ มีให้เลือกหลายรูปแบบ ถ่ายภาพพร้อมเลือกฟิลเตอร์แบบเรียลไทม์ (Live Filter) เลือกฟิลเตอร์ได้ ขณะกําลังถ่ายภาพ ไม่ต้องใส่ทีหลัง เครื่ อ งมื อ แต่ ง ภาพ เช่ น หมุ น ภาพ ใส่ ก รอบภาพ เพิ่ ม แสงให้ กั บ ภาพ และเบลอภาพ (Tilt-Shift ) เฉพาะส่วนที่ต้องการได้ แชร์ รู ป ภาพไปยั ง เว็ บสั ง คมออนไลน์ไ ด้ เช่น Facebook Twitter Tumblr Flickr และ Foursquare อัพโหลดรูปภาพได้ไม่จํากัด มี ร ะบบ คนที่ ติ ด ตามคุ ณ และมี ค นที่ คุ ณ ติ ด ตาม เลื อ กติ ด ตามบุ ค คล ที่ต้องการได้ สามารถแสดงความคิดเห็น และกด ถูกใจ รูปภาพที่ชื่นชอบได้ ระบุตําแหน่งที่ถ่ายภาพและแสดงบนแผนที่ (Photo Maps) อินสตาแกรม เป็นแอพพลิเคชั่นฟรี 100% นอกจากนี้ สิ่งที่มีเพิ่ มขึ้ นถัดมาจากเดิม คือ เลือกคลิปวิดีโอที่อยู่ภายใน เครื่องมือถือ (อัลบั้มวิดีโอ) มาโพสต์ผ่านอินสตาแกรม แท็กชื่อบุคคลที่ต้องการลงบนรูปภาพ (Add People) ซึ่งคล้ายกับการแท็ก ปี ที่ 6 ฉ บั บ ที่ 6 5 เ ดื อ น มี น า ค ม 2 5 5 7


ชื่อเพื่อนบนเฟสบุค นอกจากนี้ยังเพิ่มเมนู Photos of You ในหน้าโปรไฟล์ของ ผู้ใช้งานเพื่อใช้แสดงรูปจากคนที่แท็กมาหาเรา สําหรับการแท็กรูปภาพสามารถใช้ งานได้ ในหน้าก่อนแชร์รูปภาพโดยจะมีเมนู Add People เพิ่มเข้ามา ส่วนใครที่ กําลังกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวในหน้า Photos of You สามารถตั้งค่าได้ว่าจะ ให้รูปภาพที่ถูกแท็กแสดงบนไทม์ไลน์หรือไม่

สําหรับเวอร์ชั่นล่าสุด เวอร์ชั่น 5.0 ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android โดยการ เปลี่ ย นแปลงได้ เ พิ่ ม เมนู ที่ เ รี ย กว่ า Instagram Direct ให้ ผู้ ใ ช้ อิ น สตาแกรมส่ ง รู ป ภาพหรื อวิ ดี โ อให้ กับ เพื่ อ น ๆ บนอิ น สตาแกรมแบบส่ ว นตั ว หรือ แบบลั บ ๆ นั่นเอง ฟีเจอร์นี้คล้าย ๆ กับ Direct Message ของทวิตเตอร์ สําหรับฟีเจอร์นี้ทํา ให้ผู้ใช้สามารถส่งภาพหรือวิดีโอให้กับเพื่อนทีละคน หรือหลาย ๆ คนก็ได้ โดย เลือกจากรายชื่อที่ต้องการ เพื่อส่งภาพให้กับเพื่อน ๆ แล้วก็สามารถโต้ตอบผ่าน กล่องแสดงความคิดเห็น และกดถูกใจ รูปภาพที่เพื่อนส่งมาให้ได้ นอกจากนี้ยัง สามารถรับภาพและวิดีโอจากคนที่ไม่ได้ติดตามได้ด้วยการกด Direct Request เพื่อตอบรับ

BLPD NEWSLETTER

ปั จ จุ บั น อิ น สตาแกรม มี ย อด ผู้ใช้งานทั่วโลก นอกจากการใช้งานไม่ ยุ่งยาก โปรแกรมสื่อความหมายได้ง่าย ต่อการเข้าใจ มีการแบ่งปันโดยบรรยาย คําอธิ บายของภาพที่ถ่ายไว้ พร้อมทั้ง ระบุพิกัด สถานที่ ทํ าให้ นักถ่ายภาพ มืออาชีพหรือสมัครเล่นที่มีความสนใจ ในการถ่ า ยทอดภาพในมุ ม มองของ ตนเอง มีการบอกต่อถึงผลงานภาพถ่าย เหล่านั้น ยังสะดวกในการติดต่อสื่อสาร และเปลี่ ย นความเห็ น จนตอนนี้ อิ น สตาแกรม ได้ ก ลายเป็ น เครื่ อ งมื อ การตลาดออนไลน์ตัวหนึ่งไปแล้ว โดยมี ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายประชาสัมพันธ์ ได้เข้าถึงง่าย ทําให้ผู้บริโภคจดจําสินค้า ได้มากขึ้น เพราะการที่ง่ายต่อการเข้า ใช้ อาจจะมี ผู้ ใ ช้ นํ า ไปใช้ ใ นทางที่ ล่อแหลม เราจึ งควรใช้ อิ นสตาแกรม อย่ า งระมั ด ระวั ง และไม่ อ่ อ นไหวกั บ ภาพหรื อ คํา บรรยาย ในโลกออนไลน์ เกินไป อาจจะทําให้เกิดผลเสียได้ ทั้งนี้ การใช้งานที่อยากให้ภาพถ่ายของเราได้ เผยแพร่สู่ สาธารณะชน หรื อเพื่ อนใน เครื อข่ายของเราได้รวดเร็วที่สุ ด เป็ น เหตุ ผ ลหนึ่ ง ที่ ต ากล้ อ ง หรื อ ผู้ ที่ ช อบ ถ่ ายภาพนั้ นนิย มใช้งานแอพพลิเคชั่ น อิ น สตาแกรม บางครั้ ง ผลงานก็ ไ ม่ จําเป็นต้องถูกนําเสนอแบบยิ่งใหญ่ แค่ มุมมองเล็ก ๆ น้อย ๆ บางมุมก็สามารถ เก็บเป็น สมุดรูปภาพ ดี ๆ ไว้นําเสนอ แก่ผู้ที่สนใจ หรือบางทีเหล่าคนทั่วไปที่ ได้ใ ช้ งานแอพพลิ เคชั่นตัวนี้ก็สามารถ พบเห็นงานของเราได้ทันทีผ่านฟังก์ชั่น ของตั ว แอพพลิ เ คชั่ น ไม่ แ น่ บ างที เ รา อาจจะได้ผู้ติดตามผลงานของเราเป็น ศิลปินชื่อดังที่ใช้แอพพลิเคชั่นนี้ในการ หาแรงบันดาลใจก็เป็นได้ อ้างอิง ⇒ http://www.kapook.com

ปี ที่ 6 ฉ บั บ ที่ 6 5 เ ดื อ น มี น า ค ม 2 5 5 7 | 7


ข้อกําหนด ISO/IEC 17025 ลัดดาวัลย์ เยียดยัด : laddawan@dss.go.th

ยุคของการแข่งขันทางการค้า สิ่งสําคัญอย่างหนึ่ง คือ ห้องปฏิบัติการที่ทําหน้าที่ ตรวจสอบคุณภาพสินค้า ซึ่งปัจจุบันนี้ผลการวิเคราะห์ทดสอบที่มีความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งจําเป็น ที่ห้องปฏิบัติการต้องแสดงให้เป็นที่ยอมรับ ดังนั้นห้องปฏิบัติการจึงต้องยกระดับการวิเคราะห์ ทดสอบให้มีคุณภาพโดยดําเนินการตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 : ข้อกําหนดทั่วไปว่า ด้วยความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการสอบเทียบ ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ห้ อ งปฏิ บั ติ ก ารต้ อ งพั ฒ นาบุ ค ลากรให้ มี ค วามรู้ ความเข้ า ใจเกี่ ย วกั บ ข้ อ กํ า หนดของ มาตรฐานสากลดังกล่าว เพื่อที่จะสามารถนําความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาห้องปฏิบัติการ ให้สอดคล้องกับข้อกําหนด อนึ่ง สํานักฯ เห็นความสําคัญในเรื่องดังกล่าว จึง เปิดให้บริการฝึกอบรมในหลักสูตร ข้อกําหนด ISO/IEC 17025 เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการ โดยเปิด ให้ บ ริ ก ารแบบการฝึ ก อบรมระยะสั้ น จํ านวน 2 วั น ค่า ใช้ จ่ า ย จํานวน 3,000 บาท รวมทั้ง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจใน หลักสูตรดังกล่าวได้มีช่องทางในการเรียนรู้ได้มากขึ้น สํานักฯ ได้ เปิดให้บริการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และยังได้รับประกาศนียบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (ecertificate) ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 เป็นต้นไป

ผู้สนใจสามารถไปลงทะเบียนฝึกอบรมผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ที่ http://www.e-learning.dss.go.th

8 |BLPD NEWSLETTER

ปี ที่ 6 ฉ บั บ ที่ 6 5 เ ดื อ น มี น า ค ม 2 5 5 7


AMMST คืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไรกับ ประเทศไทยและอาเซียน เรียบเรียงโดย จุฑามาศ ภูมิภาค และ ปวิน งามเลิศ : pawin@dss.go.th

การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้าน วิท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี (ASEAN Ministerial Meeting on Science and Technology) หรือ AMMST เป็น การประชุ ม ของผู้ นํ า ในกลุ่ ม อาเซี ย น โดยผู้ นํ า ในกลุ่ ม อาเซี ย นมี ค วามเห็ น ร่ ว ม กั น ว่ า “วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ แ ล ะ เทคโนโลยี คื อ หั ว ใจสํ า คั ญ ของการ เติบโตทางเศรษฐกิจ เสริมสร้างความ เป็ น อยู่ ข องชุ ม ชน และส่ ง เสริ ม การ รวมกลุ่มของ ASEAN” วัตถุประสงค์ ของการจัดประชุมเพื่ อหารือ กําหนด นโยบาย และติดตามผลความคืบหน้า ของการดํ า เนิ น งานความร่ ว มมื อ ด้ า น วิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี ภ ายใน ประชาคมอาเซียน AMMST จัดขึ้นครั้ง แรกเมื่อ พ.ศ. 2523 ที่พัทยา จังหวั ด ชลบุ รี และจั ด ประจํ า ทุ ก 3 ปี โดย หมุนเวียนประเทศเจ้าภาพการประชุม อยู่ ภ ายในประชาคมอาเซี ย นด้ ว ยกั น หรื อ ประเทศอื่ น ๆที่ มี ค วามประสงค์ ส ร้ า ง ค ว า ม ร่ ว ม มื อ กั บ อ า เ ซี ย น นอกจากนี้แล้วภายในระหว่างช่วง 3 ปี จะมี ก ารจัด ประชุม หารื อ อย่างไม่ เป็ น ทางการขึ้นอีกด้วย เ นื่ อ ง จ า ก วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ เทคโนโลยี แ ละนวั ต กรรมเป็ น ปั จ จั ย สํ า คั ญ ในการพั ฒ นาทางเศรษฐกิ จ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้ ผู้ นํ า ในกลุ่ ม อาเซี ย นจึ ง ได้ มี ก ารจั ด ตั้ ง ค ณ ะ ก ร ร ม า ธิ ก า ร อ า เ ซี ย น ด้ า น วิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี (ASEAN

Committee on Science and Technology) หรือ COST เมื่อปี พ.ศ. 2521 เพื่อที่จะได้บรรลุเป้าหมายที่วาง ไว้ ว่ า ในปี พ.ศ. 2564 (ปี 2020) ASEAN จะมีการแข่งขันทางเทคโนโลยี ความสามารถในเชิ ง กลยุ ท ธ์ แ ละการ เปิดตัวเทคโนโลยีด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับ การรับรอง การฝึกอบรมกําลังคนและ เครื อ ข่ า ยด้ า นวิ ท ยาศาสตร์ ที่ เ ข้ ม แข็ ง และสถาบันเทคโนโลยีให้เป็นศูนย์ความ เป็นเลิศ วิ ทยาศาสตร์ เทคโนโลยีแ ละ นวั ต กรรม COST มี ห น้ า ที่ ส ่ง เสริ ม ความร่ว มมื อ ด้า นวิ ท ยาศาสตร์แ ละ เทคโนโลยีระหว่างสมาชิกอาเซียนกับ ประเทศคู ่เ จรจา รวมทั้ ง องค์ ์ก รอื่ น ๆ โดยกําหนดสาขาความร่วมมือ 9 สาขา และมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการในแต่ ละสาขาดังนี้ คณะอนุกรรมการด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อ าหาร (SubCommittee on Food Science and Technology : SCFST) คณะอนุกรรมการด้านเทคโนโลยี ชี ว ภ า พ (Sub-Committee on Biotechnology : SCB) คณะอนุกรรมการด้านอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ (SubCommittee on Microelectronics and Information Technology : SCMIT) คณะอนุกรรมการด้านเทคโนโลยี

BLPD NEWSLETTER

วัสดุศาสตร์(Sub-Committee on Material Science and Technology : SCMST) คณะอนุกรรมการด้านการวิจัยพลัง งานนอกแบบ (Sub-Committee on Non-Conventional Energy Research : SCNCER) คณะอนุกรรมการด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ท างทะเล (SubCommittee on Marine Science and Technology : SCMSAT) คณะอนุกรรมการด้านอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์ (Sub-Committee on Meteorology and Geophysics : SCMG) คณะอนุกรรมการด้านการพัฒนา โครงสร้างพื้น ฐานและทรัพยากร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (SubCommittee on Science and Technology Infrastructure and Resources Development : SCIRD) คณะอนุกรรมการด้านเทคโนโลยี อวกาศและการประยุ ก ต์ (SubCommittee on Space Technology and Applications : SCSTA) สําหรับประเทศไทยกับ AMMST และ COST นั้น ล่าสุดได้จัดการประชุม

ปี ที่ 6 ฉ บั บ ที่ 6 5 เ ดื อ น มี น า ค ม 2 5 5 7 | 9


ASEAN Committee on Science and Technology (COST) Retreat on "The Future of ASEAN STI : 2 0 1 5 & Beyond " ขึ้ น เมื่ อ วั น ที่ 11 - 12 ธั น วาคม 2553 ณ จั ง หวั ด กระบี่ โดยสํ า นั ก งานคณะกรรมการนโยบายวิ ท ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการสร้างความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม เ ต รี ย ม พ ร้ อ ม กั บ ก า ร เ ข้ า สู่ ป ร ะ ช า ค ม เ ศ ร ษ ฐ กิ จ อ า เ ซี ย น ใ น ปี พ .ศ . 2 5 5 8 ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านนโยบายเศรษฐกิจการค้า ผู้แทนจากสํานักงานเลขานุการอาเซียนและผู้แทนจากภาคเอกชนจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ส่วนการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ AMMST ครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่ กรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวี ย ดนาม เมื่ อ วั น ที่ 26 พฤศจิ ก ายน 2555 โดยมี H.E. Dr. Nguyen Quan รั ฐ มนตรี ก ระทรวงวิ ท ยาศาสตร์ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ป ร ะ เ ท ศ เ วี ย ด น า ม เ ป็ น ป ร ะ ธ า น ก า ร ป ร ะ ชุ ม ส า ร ะ ก า ร ป ร ะ ชุ ม เ พื่ อ พิ จ า ร ณ า ผ ล การประชุ ม อย่ า งไม่ เ ป็ น ทางการของรั ฐ มนตรี วิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี ค รั้ ง ที่ 6 และการประชุ ม COST และพิจารณาความคืบหน้าของการดําเนินงานความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายในประชาคมอาเซียนในช่วงปีที่ ผ่านมา

ภาพการจัดประชุม AMMST และ COST ในปีที่ผ่านมา ที่มา : http://www.sti.or.th/th/index.php? option=com_content&view=article&id=177:201010-19-19-37-56&catid=41:2010-04-24-18-4752&Itemid=91

อ้างอิงจาก ⇒ http://www.asean.org/communities/asean-economic-community/category/asean-ministerial-meeting-onscience-and-technology-ammst ⇒ http://www.asean.org/communities/asean-economic-community/category/pre ⇒ http://www.thaibizchina.com/thaibizchina/th/china-economicbusiness/result.php?SECTION_ID=576&ELEMENT_ID=11267 ⇒ http://www.sti.or.th/th/index.php?option=com_content&view=article&id=177:2010-10-19-19-3756&catid=41:2010-04-24-18-47-52&Itemid=91 10 |BLPD NEWSLETTER

ปี ที่ 6 ฉ บั บ ที่ 6 5 เ ดื อ น มี น า ค ม 2 5 5 7


การวิเคราะห์ดว้ ยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟี อารีย์ คชฤทธิ์ : aree@dss.go.th

Q : Makeup gas มีความสําคัญอย่างไรในการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟี A : การวิเคราะห์ด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟี จะต้องมีแก๊สผ่านตัวตรวจวัดด้วยอัตราการไหลระหว่าง 30-40 ml/min จึงจะให้ Chromatogram ของผลการวิเคราะห์ที่มีลักษณะพีกที่แคบ และสมมาตร มี ความไวการวิเคราะห์ต่ํา แต่สําหรับการวิเคราะห์โดยใช้ Capillary column ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายใน ปัจจุบัน จะใช้อัตราการไหลของแก๊สพาอยู่ที่ 1-10 ml/min ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลการตรวจวัดที่ดีจึงต้องมี การผ่าน makeup gas เพิ่มที่ปลายของคอลัมน์ เพือ่ ให้อัตราการไหลของแก๊สที่ไหลเข้าสู่ตัวตรวจวัดอยู่ ในช่วงที่เหมาะสม Makeup gas ที่ใช้ต้องไม่เป็นแก๊สชนิดเดียวกันกับแก๊สที่ใช้สาํ หรับจุดเปลวไฟ (Flame) แต่อาจ เป็นแก๊สชนิดเดียวกันกับ carrier gas ก็ได้ ขึ้นกับชนิดของตัวตรวจวัด สําหรับตัวตรวจวัดชนิด electron capture detector (ECD) อาจใช้ auxiliary gas เป็น makeup gas ได้ การเลือกชนิด และ อัตราการไหลของ makeup gas ผู้ใช้สามารถหาข้อมูลได้จากคู่มือประกอบการใช้เครื่องของแต่ละบริษัท อ้างอิง ⇒ http://www.msp.ch/cs/Reference_Guide.pdf

สํานักพัฒนาศักยภาพ นักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัตกิ าร กรมวิทยาศาสตร์บริการ อาคารสถานศึกษาเคมีปฏิบตั ิ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 Phone: 0 2201 7425 Fax: 0 2201 7429 E-mail: blpd@dss.go.th

BLPD NEWSLETTER

ที่ปรึกษา ดร. จันทร์เพ็ญ เมฆาอภิรกั ษ์ นายอนุสิทธิ์ สุขม่วง บรรณาธิการ นางสาวปัทมา นพรัตน์ กองบรรณาธิการ นางชุติมา วิไลพันธ์ นางอารีย์ คชฤทธิ์

ปี ที่ 6 ฉ บั บ ที่ 6 5 เ ดื อ น มี น า ค ม 2 5 5 7 | 1 1


โปรดส่งข้อคิดเห็น คําแนะนําหรือคําถามที่ blpd@dss.go.th โทร. 02-2017425 โทรสาร 02-2017429 หากต้องการยกเลิกการรับข่าวสาร กรุณาแจ้งที่ blpd@dss.go.th ข้อมูลเพิ่มเติม http://blpd.dss.go.th/


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.