Loeitime 63

Page 1

หน้า 1 ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559 บันทึกของนายทองหนัก / น.7 , “สวนป่าห้วยศอก” อ.ดา่ นซ้าย ตัวอยา่ งทีด่ ีของการจัดการป่าไมโ้ ดยเอกชน / น.11 , แนะน�ำเสน้ ทางเชื่อมโยงการทอ่ งเทีย่ วหนองหิน : อุทยานทางธรณี / น.14

ชาวเลยถวายอาลัยในหลวง

พระมหากรุณาธิคณ ุ เสด็จ5ครัง้ ต่อหน้า 5

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

ราคา 12 บ.

ในหลวงซือ้ ทีด่ นิ อ.ด่านซ้าย39ไร่

ท�ำโครงการตามพระราชด�ำริเพือ่ ราษฎร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้รับการยกย่องจากนานาประเทศว่าเป็นกษัตริย์นักพัฒนา ทรงก่อตั้งโครงการตาม พระราชด�ำริทั่วประเทศ ทรงงานหนักเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตพสกนิกรให้อยู่ดีกินดีอย่างพอเพียง พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ต่อหน้า 4

ลูกชายควาญช้างพระทีน่ งั่ สุดปลืม้

พ่อรับเสด็จในหลวงครัง้ แรกบนภูกระดึง พระราชกรณียกิจในการเสด็จ พระราชด�ำเนินของพระบาทสมเด็จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว รั ช กาลที่ 9 และ สมเด็ จ พระนางเจ้ า ฯ พระบรม ราชินีนาถ เสด็จพระราชด�ำเนิน เยี่ยมราษฎรภาคตะวันออกเฉียง เหนือ เมือ่ วันที่ 2-20 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ต่อหน้า 4


หน้า 2

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ หาทีส่ ดุ มิได้ ข้าพระพุทธเจ้า หนังสือพิมพ์เลยไทม์พลัสนิวส์

ต้นไม้ประจ�ำจังหวัด

ฉบับบันทึกประวัตศิ าสตร์

เมื่ อ ครั้ ง ที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทร์ ม หา ภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชด�ำเยี่ยมราษฎรที่ จังหวัดเลยครั้งแรกเมื่อวันที่ 6-7 พฤศจิกายน 2498 โดยได้แวะทอดพระเนตรทัศนียภาพอันสวยงามบน ภูกระดึงเป็นจุดแรก ทั้งสองพระองค์ทรงประทับใจมาก โดยเฉพาะป่า สนสองใบและสนสามใบที่ขึ้นอยู่ทั่วยอดภูกระดึง ก่อนเสด็จกลับ ทรงปลูกต้นสนสามใบไว้ และ พระราชทานให้เป็นต้นไม้ประจ�ำจังหวัดเลยด้วย ต้นสนสามใบมักเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่สูงจาก ระดับทะเลปานกลาง 500-1,500 เมตร และชอบ อากาศเย็น ชาวบ้านเรียกว่า “แปก” ในพื้นที่จังหวัด เลยมี ต ้ น สนสามใบ-สองใบทั้ ง ปลู ก เองและขึ้ น ตาม ธรรมชาติอยูท่ วั่ ไป แม้ตามพืน้ ทีร่ าบในตัวเมืองเลยส่วน ราชการหลายแห่งก็นิยมปลูกไว้ประดับส�ำนักงาน ให้ ความร่มรื่น และปลูกประดับไว้ตามริมถนน ต้นสนสามใบเป็นส่วนหนึง่ ทีเ่ พิม่ เสน่หใ์ ห้เมืองเลย เป็นทีช่ นื่ ชอบของนักท่องเทีย่ วเพราะความสวยงามและ มี ก ลิ่ น หอมเย็ น เมื่ อ อยู ่ ท ่ า มกลางป่ า สน ซึ่ ง ใน ประเทศไทยมีไม่กี่จังหวัดที่มีต้นสนเจริญเติบโตได้ดีทั้ง บนเขาและในเมือง

แม้ชาวไทยได้ท�ำใจไว้ล่วงหน้าบ้างแล้ว แต่เมื่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จสวรรคต ในวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ความโศกเศร้า ก็ปกคลุมไปทั้งแผ่นดิน ยิ่งเมื่อได้ดูสารคดีพระราช กรณียกิจทางโทรทัศน์แล้ว น�ำ้ ตาของประชาชนก็ไหลซ�ำ้ แล้วซ�้ำอีก เพราะภาพที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงงานหนักเพื่อประชาชน ใน พระราชหฤทัยคิดถึงแต่ความอยู่ดี กินดีของประชาชน เท่านั้น หลั ง การเสด็ จ สวรรคต ได้ เ กิ ด ปรากฏการณ์ ประชาชนออกท�ำความดีหลากหลายรูปแบบเพื่อถวาย เป็นพระราชกุศล ให้โดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ เคยเกิดขึ้นมาก่อน สะท้อนให้เห็นธาตุแท้ของคนไทยที่ มีแต่น�้ำใจ เอื้อเผื้อเผื่อแผ่ และเกิดความสมัครสมาน สามัคคีโดยไม่ต้องมีใครมาบังคับให้ท�ำ มีประชาชน จ�ำนวนมากได้นอ้ มน�ำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปใช้ด�ำเนินชีวิตอย่างจริงจัง ในหนังสือพิมพ์เลยไทม์พลัสนิวส์ฉบับนี้ ได้น�ำเรื่อง ราวของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เกี่ยวกับจังหวัดเลยมา บั น ทึ ก ไว้ เ ป็ น ประวั ติ ศ าสตร์ โดยเฉพาะพระ มหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกร เสด็จพระราชด�ำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ และ

สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินน ี าถทรงปลูกต้นสนสามใบบนภูกระดึง

แต่น่าเสียดาย ในระยะหลังมานี้ผู้หลักผู้ใหญ่ใน บ้านเมืองไม่ให้ความส�ำคัญปลูกต้นไม้ประจ�ำจังหวัดชนิด นีเ้ ท่าทีค่ วร ทีป่ ลูกไว้อยูต่ ามริมทางหลวง โดยเฉพาะสาย ภูเรือก็ถูกโครงการขายถนนท�ำลายล้มหายตายจากไป โดยไม่มีการปลูกทดแทน จึงต้องขอฝากถึงนายคุมพล บรรเทาทุกข์ ผู้ว่า ราชการจังหวัดเลยคนใหม่ หันมาให้ความส�ำคัญ ให้สม กั บ ที่ ไ ด้ รั บ พระราชทานจากสมเด็ จ พระนางเจ้ า ฯ พระบรมราชินนี าถ ให้เป็นต้นไม้ประจ�ำจังหวัด รณรงค์ ให้ทุกภาคส่วนปลูกกันให้มากๆ ทั้งตามพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ส่วนตัว ลองหลับตานึกภาพดู หากในจังหวัดเลยมองไปทาง ไหนก็มีแต่ต้นสนสามใบ จะสวยงามเพียงใด นักท่อง เที่ยวมาคงได้บรรยากาศ ถ่ายรูปคู่กับต้นสน สวยไม่แพ้ ที่เกาหลี-ญี่ปุ่น ยิ่งเป็นช่วงนี้ด้วยแล้ว ต้นสนสามใบเข้า กับอากาศหนาวเย็นได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว... เป็นเสน่ห์อีกจุดหนึ่งที่จะสามารถดึงดูดให้นักท่อง เที่ยวเข้ามามากขึ้น โดยแทบไม่ต้องลงทุนอะไรมาก.

พระบรมวงศานุวงศ์ เยี่ยมราษฎร 5 ครั้ง ครัง้ แรกในปี 2498 เสด็จทอดพระเนตรทัศนียภาพ บนภูกระดึง และเยี่ยมราษฎรที่มาเข้าเฝ้าที่หน้าศาลา กลางจั ง หวั ด สร้ า งปลาบปลื้ ม อย่ า งหาที่ สุ ด มิ ไ ด้ แ ก่ ประชาชนที่มาเข้าเฝ้ารับเสด็จ ปี 2512 เสด็จพระราชด�ำเนินพร้อมด้วยสมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ ที่หน้าศาลากลางจังหวัด โดยน�ำ พระพุทธนวราชบพิตรมาพระราชทานให้เป็นพระพุทธ รูปประจ�ำจังหวัด ปี 2516 แม้เป็นพืน้ ทีส่ แี ดง เต็มไปด้วยอันตรายแต่ ในหลวงไม่ทอดทิ้งประชาชน เสด็จพระราชด�ำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และ พระบรมวงศานุวงศ์ไปที่บ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย เพื่อให้ก�ำลังใจและปลอบขวัญราษฎรที่อยู่ ในพื้นที่สู้รบระหว่างคอมมิวนิสต์กับรัฐบาลไทย ปี 2520 เสด็จพระราชด�ำเนินมามอบสิง่ ของให้แก่ ทหาร ต�ำรวจที่ท�ำหน้าที่ตามแนวชายแดน และเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรที่มาคอยรับเสด็จที่โรงเรียนเมืองเลย และปี 2524 เสด็จฯทอดพระเนตรโครงการพัฒนา เพื่อความมั่นคงบ้านห้วยปลาดุก ในรูปหมู่บ้านป่าไม้ บ้านชมเจริญ อ.ปากชม นอกจากนีไ้ ด้นำ� เรือ่ งราวของบุคคลทีเ่ กีย่ วข้อง เคย ถวายงานเมื่อครั้งเสด็จฯที่จังหวัดเลยมาน�ำเสนอด้วย รวมถึงเรือ่ งราวของโฉนดทีด่ นิ ที่ อ.ด่านซ้าย ซึง่ พระบาท สมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้สละพระ ราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อไว้ท�ำโครการงพัฒนาปศุสัตว์ หนังสือพิมพ์เลยไทม์พลัสนิวส์ฉบับนี้จึงถือเป็น ฉบับพิเศษที่ควรค่าแก่การเก็บรักษาอย่างยิ่ง.

หนังสือพิมพ์เลยไทม์พลัสนิวส์ ที่ปรึกษา นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว พล.ต.ต.อรรถกฤษ ธารีฉัตร นายสมศักดิ์ ขจรเฉลิมศักดิ์ นายยงยุทธ ทิพรส ผศ.ไพฑูรย์ ยาบุ ษ ดี บรรณาธิ ก ารอ� ำ นวยการ นายธงชั ย ชั ย สา บรรณาธิ ก าร นายภั ท ราวุ ธ บุ ญ ประเสริ ฐ กองบรรณาธิ ก าร นายบุ ญ ชู ศรี ไ ตรภพ นายวสันต์ สุนา , ฝ่ายการตลาด นางสาวมินตรา สตางค์จันทร์ ส�ำนักงานเลขที่ 29/20 ถ.ร่วมใจ ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย 42000 โทรศัพท์-โทรสาร 042813243 เว็บไซต์ www.loeitime.blogspot.com เฟซบุ๊ค : น.ส.พ.เลยไทม์ออนไลน์ อีเมล์ loeitimeplusnews@hotmail.com , muangloeitime@hotmail.com


ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

หน้า 3

ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ หาทีส่ ดุ มิได้ ข้าพระพุทธเจ้า คุณ กรินทร (ชุมสาย) ทองปัชโชติ ชมรมศิษย์เก่า สวนกุหลาบวิทยาลัย จังหวัดเลย สมาคมกีฬายิงปืนจังหวัดเลย คณะผูบ้ ริหาร และพนักงานในกลุม่ บริษทั โอ.เอ็น.เค


หน้า 4

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

ปรับปรุงพันธุส์ ตั ว์ของเกษตรกรให้มี ความสมบู ร ณ์ แ ข็ ง แรงอยู ่ เ สมอ ปัจจุบันมีส�ำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เลย เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ มี เกษตรกรร่วมโครงการจ�ำนวน 430 ครัวเรือน.

ข่าวต่อหน้า 1 โฉนดที่ดิน ศู น ย์ พั ฒ นาปศุ สั ต ว์ ต ามพระ ราชด�ำริ อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นหนึง่ ใ น พื้ น ที่ ที่ พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 ได้กอ่ ตัง้ ขึน้ บนทีด่ นิ ทีท่ รงซือ้ ไว้เนือ้ ทีจ่ ำ� นวน 39 ไร่ ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ณ บริเวณบ้านเดิ่น ต.ด่านซ้าย จ.เลย เมื่อครั้งเสด็จฯเยี่ยมราษฎร ในพืน้ ทีต่ ำ� บลกกสะทอน อ.ด่านซ้าย เมื่อปี พ.ศ.2516 ซึ่งมีพระนามเต็ม ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ใน พระบรมโกศปรากฎในโฉนดที่ดิน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต่ อ มาในปี 2525 พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ พระราชทานพระราชด�ำริให้ทดลอง ปลูกผลไม้เมืองหนาว เพือ่ สาธิตและ เผยแพร่แก่เกษตรกรที่หลัก โดย กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จังหวัดชลบุรี ได้เข้าไปด�ำเนินการ เพื่อสนองพระราชด�ำริ โดยใช้ชื่อ โครงการว่า “โครงการศูนย์ศึกษา การพั ฒ นาการเกษตรตามพระ ราชด�ำริ” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่ฯหัวทรงเห็นว่าบริเวณข้างเคียง เป็นทีด่ นิ สาธารณะส�ำหรับเลีย้ งสัตว์ ที่อ�ำเภอด่านซ้ายสงวนไว้ จ�ำนวน ประมาณ 1,200 ไร่ ทีก่ ำ� ลังถูกบุกรุก แผ้วถางป่าทุกปี จึงทรงมีพระบรม ราชโองการโปรดเกล้ า ฯ ให้ ก รม ปศุสตั ว์เข้าไปด�ำเนินการส�ำรวจพืน้ ที่ เพื่ อ พั ฒ นาให้ เ ป็ น ศู น ย์ ส าธิ ต ด้ า น ปศุสตั ว์ และพระราชทานเปลีย่ นชือ่ โครงการเป็น “โครงการศูนย์พัฒนา

ลูกควาญช้าง

ปศุสัตว์ ตามพระราชด�ำริ อ�ำเภอ ด่านซ้าย จังหวัดเลย” และภายหลัง ได้เปลีย่ นชือ่ เป็นศูนย์พฒ ั นาปศุสตั ว์ ตามพระราชด�ำริ อ�ำเภอด่านซ้าย โดยมีภารกิจและวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรมและเผย แพร่ ค วามรู ้ ด ้ า นปศุ สั ต ว์ ใ ห้ แ ก่ เกษตรกร และสามารถน�ำความรู้ที่ ได้รับไปประกอบอาชีพ , เพื่อสาธิต การเลี้ ย งปศุ สั ต ว์ ร ่ ว มกั บ การท� ำ

เกษตรแบบผสมผสาน และ เกษตรกรสามารถน� ำ ไปปฏิ บั ติ ใช้ พัฒนาอาชีพเป็นการเลี้ยงสัตว์แบบ ธุรกิจ โดยการฝึกอบรมเกษตรกรให้ มี ค วามรู ้ เ รื่ อ งการเลี้ ย งและการ ป้องกันโรคระบาดสัตว์เบื้องต้น ส่ง เสริ ม การเลี้ ย งสั ต ว์ สู ่ เ กษตรกรให้ สามารถผลิ ต อาหารโปรตี น และ จ� ำ หน่ า ยเป็ น รายได้ เ สริ ม แก่ ค รั ว เรือน ตลอดจนพัฒนาสุขภาพและ

พระราชกรณียกิจในการเสด็จ พระราชด�ำเนินของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 และสมเด็จ พระนางเจ้ า ฯพระบรมราชิ นี น าถ เสด็จพระราชด�ำเนินเยี่ยมราษฎร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 2-20 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ซึ่ง จั ง หวั ด เลยเป็ น หนึ่ ง ในพื้ น ที่ ที่ ทั้ ง สองพระองค์เสด็จพระราชด�ำเนิน ระหว่ า งวั น ที่ 6-7 พฤศจิ ก ายน 2 5 9 8 โ ด ย จุ ด แ ร ก เ ส ด็ จ พระราชด� ำ เนิ น ไปทอดพระเนตร ทัศนียภาพอันสวยงามของอุทยาน แห่งชาติภกู ระดึง ในระหว่างทีเ่ สด็จ บนภูกระดึงครั้งนั้นทางกรมป่าไม้ และจังหวัดเลยได้น�ำช้างสองเชือก มาถวายเป็นพระราชพาหนะ โดยคัด เลือกช้างของนายทองหนัก สุวรรณ สิงห์ ประธานสภาจังหวัดเลยใน ขณะนั้น ปัจจุบันได้ล่วงลับไปแล้ว นายทนง สุวรรณสิงห์ บุตร ชายคนสุ ด ท้ อ งของนายทองหนั ก อดีตข้าราชการส�ำนักงานจังหวัดเลย ปั จ จุ บั น เป็ น ประธานชมรมคนรั ก ในหลวงจังหวัดเลย เล่าว่า เมือ่ ครัง้ ทัง้ สองพระองค์เสด็จพระราชด�ำเนิน เยี่ยมราษฎรที่จังหวัดเลยเป็นครั้ง แรก ตนอายุเพียง 5 ขวบ พ่อเล่า ว่า ระหว่างการเตรียมการรับเสด็จ ทางกรมป่าไม้ได้ติดต่อมาที่จังหวัด

นายทนง สุวรรณสิงห์

เลยให้คัดเลือกช้างขึ้นไปถวายเป็น พระราชพาหนะบนภูกระดึง พ่อ ของตนในขณะนั้ น มี ช ้ า งอยู ่ ห ลาย เชือก มีอาชีพรับจ้างชักลากไม้ด้วย จึงได้รับการคัดเลือก โดยก่อนที่จะ เดินทางไปภูกระดึงนั้น ต้องน�ำช้าง มาเดิ น หน้ า ศาลากลางจั ง หวั ด ท่ามกลางผูค้ นมากมาย เพือ่ คัดเลือก เอาช้างเชือกที่ไม่ตื่นกลัว 2 เชือก ส่วนผ้าปูรองประทับบนหลังช้าง แม่ ของตนก็เป็นคนท�ำเอง เพราะเรียน จบด้านเย็บปักถักร้อย หลังจากนั้น พ่อของตนและผู้ ดูแลช้างทั้งหมด 5 คน ได้เดินทาง ขึน้ ไปทีภ่ กู ระดึง ใช้เวลา 2 วัน จึงเดิน ขึ้นถึงหลังแป โดยขึ้นทางผาหมา กดูก เพราะทางคนเดินปกติที่ใช้อยู่ แล้ว เป็นหุบเหว ลาดชันมาก เมื่อถึงวันรับเสด็จ พ่อของตน ได้ท�ำหน้าที่เป็นควาญช้าง และมีผู้ ท� ำ หน้ า ที่ เ ท้ า ช้ า งอี ก สองคนเดิ น ควบคุมช้างอยูด่ า้ นล่าง ซึง่ ได้เตรียม

ป.ป.ช.วางมาตรการป้องกันทุจริติ ในอปท.เสนอคณะรัฐมนตรี ด้วยส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาร้องเรียน ผู้บริหารท้องถิ่นว่า มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ ใน ลักษณะที่เข้าข่ายเป็นการทุจริตเชิงนโยบายจ�ำนวนมาก และเกิดขึน้ บ่อยครัง้ อย่างต่อเนือ่ ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้ท�ำการศึกษา วิเคราะห์ปัญหา และสาเหตุอันสืบ เนื่องมาจากเรื่องกล่าวหาร้องเรียนดังกล่าว และสมควร เสนอมาตรการป้องกันการทุจริตเชิงนโยบายของ อปท. ต่ อ คณะรั ฐ มนตรี เพื่ อ ให้ มี ก ารปรั บ ปรุ ง การปฏิ บั ติ ราชการ หรือวางแผนงานโครงการของ อปท. เพื่อ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตต่อต�ำแหน่งหน้าที่ แบ่ง เป็น 4 ด้าน ได้แก่ 1. มาตรการด้านกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และการจัดตั้ง อปท. มีการเสนอให้เพิ่มบทบัญญัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แสดงบัญชี รายการทรัพย์สินและหนี้สินเปิดเผยในที่สาธารณะให้ ประชาชนทราบ นอกจากนีห้ า้ มพรรคการเมือง ส.ส. ส.ว. หรือผูบ้ ริหาร อปท. แห่งอืน่ ให้การสนับสนุนทัง้ ทางตรง และทางอ้อมแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ห้ามผู้สมัครเป็นผู้บริหารท้องถิ่นและผู้บริหาร ท้ อ งถิ่ น แทรกแซงการเลื อ กตั้ ง สภาท้ อ งถิ่ น เช่ น สนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น

ซึ่ ง หากฝ่ า ฝื น จะต้ อ งมี โ ทษทาง อาญา รวมไปถึ ง ได้ ก� ำ หนดบท ลงโทษใหม่หนักขึ้น ซึ่งหากพบ ใครกระท�ำการฝ่าฝืนกฎหมาย เลื อ กตั้ ง ซึ่ ง มี ผ ลท� ำ ให้ ก าร เลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม อาจถูกเพิก ถอนสิทธิเลือกตัง้ ตลอดชีวติ และหากมีตัวการร่วมก็ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอด ชีวิตเช่นเดียวกัน 2. มาตรการด้านการบริหาร ควรแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัด เก็บรายได้ของ อปท. โดยให้อ�ำนาจข้าราชการฝ่าย ประจ� ำ เป็ น ผู ้ พิ จ ารณาประเมิ น ภาษี เพื่ อ ลดการใช้ ดุลยพินิจของผู้บริหารท้องถิ่นในการจัดเก็บรายได้ใน ลักษณะทีเ่ อือ้ ประโยชน์แก่เครือญาติหรือพวกพ้อง และ ให้การพิจารณาอุทธรณ์ภาษีอยู่ในรูปแบบของคณะ กรรมการพิจารณาอุทธรณ์ภาษี ให้มีคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการจัด เก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ มีขา้ ราชการ ในหน่วยงาน และองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ ในท้องถิ่นเป็น กรรมการ และให้เสนอรายงานการติดตามผลดังกล่าว

ต่อสภาท้องถิ่น ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของ ประชาชน และติดประกาศให้ประชาชน ทราบด้วย ข้อเสนอส�ำคัญคือ ให้ยกเลิกหลัก เกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุน เฉพาะกิจให้ อปท. ทั้งนี้ใน กรณี ที่ มี ค วามจ� ำ เป็ น ต้ อ ง ด�ำเนินโครงการตามนโยบาย เร่งด่วนของรัฐบาล ให้รัฐบาล จัดสรรงบประมาณในส่วนของรัฐบาลเองเพื่อด�ำเนิน โครงการดังกล่าวเท่าที่จ�ำเป็น และต้องมีการก�ำหนดวิธี การจัดสรรงบประมาณให้ชัดเจน เพื่อลดการวิ่งเต้น แสวงหาผลประโยชน์ และเป็นการตัดช่องทางไม่ให้ นักการเมืองระดับชาติเข้ามาเรียกรับผลประโยชน์จาก อปท. นอกจากนั้น รัฐบาลต้องจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไป ให้ อปท. เพียงพอต่อการจัดท�ำบริการสาธารณะตาม อ�ำนาจหน้าที่และการบริหารงานของ อปท. ก�ำหนด กรอบเงินอุดหนุนที่มีความชัดเจน โดยค�ำนึงถึงขนาด พืน้ ทีแ่ ละจ�ำนวนประชากรในพืน้ ที่ สถานะทางเศรษฐกิจ วิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ด้วย อีกข้อเสนอที่น่าสนใจคือ มาตรการป้องการทุจริต เกี่ยวกับการเรียกรับผลประโยชน์จากเงินรางวัลประจ�ำ

ช้างไปสองเชือก เ พื่ อ ใ ห ้ ทั้ ง สองพระองค์แยก กั น ป ร ะ ทั บ พระองค์ละเชือก แต่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 ทรง มีพระราชประสงค์ให้สมเด็จพระนาง เจ้าพระบรมราชินีนาถมาประทับ ด้วยกัน ซึ่งช้างที่ทรงประทับชื่อ พลายค�ำหมื่น ห ลั ง เ ส ร็ จ สิ้ น ก า ร เ ส ด็ จ พ ร ะ ร า ช ด� ำ เ นิ น บ น ภู ก ร ะ ดึ ง พระบาทสมเด็ จ พระเข้ า อยู ่ หั ว ใน พระบรมโกศได้ ท รงพระราชทาน เหรียญที่ระลึกให้แก่ข้าราชบริพาร ซึ่งพ่อของตนก็ได้รับพระราชทาน ด้วย การเสด็จพระราชด�ำเนินของ ทั้ ง สองพระองค์ ค รั้ ง นั้ น นั บ เป็ น ศิริมงคลสูงสุดในชีวิติของครอบครัว สุรรณสิงห์ สุดปลาบปลื้มหาที่สุด มิได้ และเป็นสิ่งปลูกฝักให้ตนจงรัก ภั ก ดี ต ่ อ สถาบั น พระมหากษั ต ริ ย ์ เรื่อยมา และน�ำพระราชด�ำรัส ค�ำ สอนของพระองค์มาใช้ในการด�ำเนิน ชีวิต และถ่ายทอดให้คนอื่นได้ร่วม รับรู้ด้วย.

ปี (โบนัส) ของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น โดย เสนอให้ออกกฎหมายหรือระเบียบก�ำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการก�ำหนดเงินประโยชน์ตอบแทนอื่น เป็นกรณีพเิ ศษอันมีลกั ษณะเป็นเงินรางวัลประจ�ำปีทเี่ ป็น มาตรฐาน โดยใช้หลักเกณฑ์พิจารณาผลการปฏิบัติงาน หรือใช้ระบบโบนัส ของข้าราชการพลเรือนมาเทียบเคียง ทัง้ นีใ้ นระว่างด�ำเนินการออกกฎหมายหรือระเบียบ ดังกล่าว ให้ชะลอการจัดสรรเงินให้เป็นประโยชน์ ตอบแทนอืน่ เป็นกรณีพเิ ศษอันมีลกั ษณะเป็นเงินโบนัส ของ อปท. ไว้ก่อน ส่วนปัญหาการจัดซือ้ จัดจ้างทีม่ เี ป็นจ�ำนวนมากนัน้ ให้รฐั บาลด�ำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกีย่ วกับ การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 อย่าง จริงจังกับผู้ประกอบการที่ร่วมมือกับผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่นในการฮั้วประมูล หรือทุจริต และสัง่ ให้เปิดเผยราคากลางการจัดซือ้ จัดจ้าง แก่สาธารณะทุกครั้ง ทั้ ง นี้ ค วรให้ มี ก ารแต่ ง ตั้ ง คณะกรรมการกลาง (บอร์ด) บริหารงานบุคคลขององค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น ท�ำหน้าที่เป็นองค์กรกลางในการบริหารงานบุคคล ของ อปท. โดยปราศจากแทรกแซงจากอ�ำนาจเมืองท้อง ถิ่น โดยให้แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง แต่ห้ามแต่งตั้งบุคคลซึ่งด�ำรงต�ำแหน่ง หรือเคยด�ำรง ต�ำแหน่งผูบ้ ริหารหรือสมาชิกสภาท้องถิน่ โดยมีวาระการ ด�ำรงต�ำแหน่งวาระเดียว มีอำ� นาจหน้าที่ เช่น ด�ำเนินการ สอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการใน อปท. ซึง่ ตรงนีน้ บั เป็นการแก้ไขปัญหาทีเ่ คยเกิดขึน้ มาแล้ว อย่ า งกรณี องค์ ก ารบริ ห ารส่ ว นต� ำ บล (อบต.) ใน จ.มหาสารคาม หลายสิบแห่ง จัดสอบบรรจุแข่งขันคน เป็นพนักงานส่วนต�ำบลโดยมิชอบ ซึ่งปัจจุบันมี นายก อบต.-ข้าราชการระดับสูงในท้องถิ่น ถูกค�ำสั่งหัวหน้า คสช. พักงานไปแล้ว และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก�ำลัง ไต่สวน และขยายผลไปยังพื้นที่ทั่วประเทศด้วย.


ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

หน้า 5

พระมหากรุณาธิคณ ุ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จ จ.เลย ๕ ครัง้ จังหวัดทั่วราชอาณาจักร มีผงจากองค์พระธาตุศรีสองรัก จังหวัดเลยนี้รวมอยู่ด้วย

ครั้งที่ ๓ วันศุกร์ ที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๑๖ เวลา ๑๐.๑๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จ ฯ โดย เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรนิ ธรเทพรัตนสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้า ฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ จากที่ประทับแรม ณ เขื่อน อุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ไปทรงเยีย่ ม ต�ำรวจ ทหาร และ ราษฎรที่จังหวัดเลย และจังหวัดเพชรบูรณ์ เวลา ๑๑.๓๕ น. เสด็จ ฯ ถึงหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ต�ำบลกกสะท้อน อ�ำเภอ ด่านซ้าย จังหวัดเลย พระราชทานสิ่งของแก่ผู้แทนต�ำรวจ และผูแ้ ทนกองก�ำลังคุม้ ครองหมูบ่ า้ น ซึง่ เป็นราษฎรอาสา สมัคร และมีพระราชปฏิสนั ถารกับต�ำรวจและอาสาสมัคร เหล่านั้น ต่อจากนัน้ ทรงพระราชด�ำเนินไปยังหมูบ่ า้ นหมากแข้ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านในหุบเขาที่จัดตั้งมาเป็นเวลานานถึง ๒๐๐ ปี ปัจจุบันมี ๖๘ หลังคาเรือน ประชากร ๔๓๑ คน มี จิตใจรักสงบและรักถิ่นฐานเป็นอย่างยิ่ง เสด็จ ฯ ทอด พระเนตรหมู่บ้านและพระราชทานกระแสพระราชด�ำรัส ทรงแนะน�ำให้ลูกบ้านท�ำไร่แบบขั้นบันได เพื่อช่วยในการ เก็บน�ำ้ และรักษาเนือ้ ดินไม่ให้พงั ทลายในฤดูฝน แล้วทอด พระเนตรโรงเรียนประชาบาล พระราชทานเครื่องแบบ นักเรียน เครือ่ งมือในการเกษตร เครือ่ งอุปโภคบริโภคและ ยาประจ�ำบ้าน แล้วเสด็จ ฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้า โดยทั่วถึง ครั้งที่ 1 วันอาทิตย์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๔๙๘ เวลาเช้าตรู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรม ราชินนี าถ เสด็จออกจากศาลากลางจังหวัดขอนแก่นโดยเครือ่ งบินพระทีน่ งั่ ไปยัง ภูกระดึง จ.เลย บนภูกระดึงเสด็จพระราชด�ำเนินลงจากเครือ่ งบิน ทัง้ สองพระองค์ขนึ้ ทรงช้าง ประทับทอดพระเนตรภูมปิ ระเทศอันสวยงาม สัตว์และพันธุไ์ ม้บนภูกระดึงทีแ่ ปลก ตา มีราษฎรเดินทางขึ้นไปเฝ้าชมพระบารมีเป็นจ�ำนวนมาก ทรงไต่ถามทุกข์สุข ของราษฎรที่มาเฝ้าฯโดยทั่วกัน ภายหลังที่เสวยพระกระยาหารกลางวัน เสด็จ พระราชด�ำเนินออก ทรงปลูกต้นสน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่สถานที่และเป็นอนุสรณ์ ในการเสด็จพระราชด�ำเนินครั้งนี้ เวลา ๑๔.๐๐ น. เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งลงสู่สนามหญ้าโรงเรียนบ้านศรีฐาน ได้ทรงพระราชด�ำเนินไต่ถามทุกข์สุขของราษฎร สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรง ถามถึงการเดินทางมาเฝ้ารับเสด็จฯของชาวบ้าน ซึ่งทรงได้รับค�ำตอบว่า “มาแต่ หลังภูโน่น เดินมาแต่ ๒-๓ วันก่อน อยากเห็นให้เต็มตา วันนี้มารอแต่เช้า” และบางคนตอบเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “ฮ้อนถ่อใด๋กะอดได้ ขอให้เห็นเจ้าอยู่หัว คักๆเถอะ” หลังจากนั้นได้เสด็จพระราชด�ำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งต่อไปยังจังหวัดเลย บนเส้นทางเสด็จผ่านทรงโปรดให้แวะสถานเพาะเลี้ยงครั่ง เพราะทรงทอด พระเนตรเห็นทิวไม้ที่ได้รับการทะนุบ�ำรุงไว้แปลกกว่าแห่งอื่น ในตอนที่ประทับ เฮลิคอปเตอร์ขึ้นภูกระดึงท�ำให้ทรงสนพระทัย ขบวนรถพระที่นั่งเลี้ยวไปทาง จังหวัดเลยตามก�ำหนดการเดิม ประมาณ 14 กิโลเมตร เมื่อทรงทราบว่าไม่ได้ไป ทางสถานเพาะเลี้ยงครั่ง ได้โปรดให้กลับรถพระที่นั่ง เพื่อไปทอดพระเนตรสถาน เพาะเลี้ยงครั่ง แล้วเสด็จต่อไปยังจังหวัดเลย ซึ่งถนนเป็นฝุ่นมากจนถึงปากทางที่ว่าการ อ�ำเภอวังสะพุง ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้านนักเรียนและประชาชน เฝ้ารับเสด็จอย่างคับคั่ง ซุ้มรับเสด็จจัดท�ำไว้อย่างสวยงาม มีนาคพ่นน�้ำทั้งสองข้าง อ�ำนวยการสร้างโดย นายช่างชลประทาน นายรังสี สิริรังสี ชาวอ�ำเภอวังสะพุงทูลเกล้าถวายฯของป่า แปลกๆ เช่น นกยูง ไก่ฟา้ เลียงผา นกเค้าแมว และลิงเล็ก ซึง่ พระนางเจ้าพระบรม ราชินีนารถทรงโปรดมากแล้วเสด็จต่อไปยังเมืองเลย เวลา ๑๙.๐๐ น. เศษ อากาศเริ่มมืดสลัว สองข้างทางเสด็จมีประชาชนตั้ง โต๊ะบูชาไว้ริมถนน ส่วนมากจุดธูปเทียนบูชา ท�ำให้ได้ภาพแสงเทียนแวววาว ท่ามกลางบรรยากาศมืดสลัว เป็นภาพงดงามมาก ประชาชนนั่งพนมมือเมื่อรถ พระที่นั่งผ่านไป ขบวนรถพระที่นั่งเคลื่อนผ่านซุ้มรับเสด็จที่ท�ำด้วยไม้ไผ่เป็นรูป ป้อมเจดีย์อย่างสวยงาม เสด็จถึงศาลากลางเป็นเวลาพลบค�่ำ เสด็จประทับปะร�ำหน้าศาลากลาง ประชาชนโห่ร้องถวายพระพรและคอยเฝ้าชมพระบารมีอยู่เป็นจ�ำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งให้ราษฎรกลับไปพักผ่อนก่อน และให้มาเฝ้า ในวันรุ่งขึ้น เพราะทรงเป็นห่วงว่าราษฎรจะเหนื่อยและเป็นเวลาค�่ำมากแล้ว แต่ ราษฎรส่ ว นมากต่ า งพากั น วนเวี ย นอยู ่ บ ริ เ วณนั้ น หลั ง จากเสวย พระกระยาหารค�ำ่ แล้ว ได้เสด็จลงทอดพระเนตรการแสดงพืน้ เมืองซึง่ ทางจังหวัด จัดถวาย ทรงสนพระทัยการแสดงของชาวเขาแห่งอ�ำเภอเชียงคานมาก

พันต�ำรวจเอกต่อศักดิ์ ยมนาค ผูว้ า่ ราชการจังหวัด กราบบังคมทูลรายงาน สภาพของจังหวัดความว่า “ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าราชการ พ่อค้า คหบดีและประชาชนในจังหวัดเลย ขอพระราชทานพระ บรมราชวโรกาสกราบบังคมทูลพระกรุณาแสดงความปิติโสมนัสในโอกาสที่ใต้ฝ่า ละอองธุลีพระบาททั้งสองพระองค์ได้ทรงอุตส่าห์เสด็จโดยราชพาหนะต่างๆ ฝ่า ความยากล�ำบากในการเดินทาง จนมาปรากฏพระองค์ให้ขา้ พระพุทธเจ้าทัง้ หลาย ได้มโี อกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลพี ระบาท ถวายความจงรักภักดีและชมพระบุญญา บารมี ณ บัดนี้ นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้าทัง้ หลายรูส้ กึ ปลืม้ ปิตทิ จี่ ะพรรณนาให้สมกับความจริงใจของ บรรดาข้าพระพุทธเจ้า จังหวัดเลยเป็นจังหวัดทุรกันดารทีส่ ดุ การไปมาไม่สะดวก เนื่องจากห่างไกลเส้นทางรถไฟมาก ทางรถยนต์ก็เพิ่งสร้างและเปิดให้ไปมาเมื่อ ๓-๔ ปี มานี้เอง จึงไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ของชาติไทยมาก่อนว่ามีพระ มหากษัตริย์ของประเทศไทยพระองค์ใดได้เสด็จมาถึง โดยเฉพาะการเสด็จมา เยีย่ มเยียนจังหวัดเลยในครัง้ นี้ ก็ปรากฏว่าใต้ฝา่ ละอองธุลพี ระบาททัง้ สองพระองค์ ได้เสด็จมาด้วยความยากล�ำบากเป็นอันมาก ทัง้ สองพระองค์เสด็จพระราชด�ำเนินเยีย่ มราษฎรอย่างใกล้ชดิ ทรงปฏิสนั ถาร กับกลุม่ ชาวแม้วทีม่ าเฝ้าชมพระบารมี ชายแม้วคนหนึง่ ถอดห่วงเงินเครือ่ งประดับ คอออกทูลเกล้า ฯ ถวาย หญิงแม้วทูลเกล้า ฯ ถวายปิ่นเงิน ทรงพระราชทาน เหรียญที่ระลึกโดยทั่วกัน ของถวายที่จังหวัดเลยมีแปลก ๆ เช่น นกยูง นกแก้ว ไก่ฟ้า ผีเสื้อตากแห้งประดับเป็นภาพต่าง ๆ ปุ่มไม้ประดู่สลักเป็นรูปพระธาตุศรี สองรัก เป็นต้น หลังจากนัน้ ทรงขับรถยนต์พระทีน่ งั่ ไปทอดพระเนตรกิจการของชลประทาน น�้ำหมาน จากชลประทานน�้ำหมาน แล้วทรงขับรถยนต์พระที่นั่งไปสนามบิน จังหวัดเลยเพื่อเสด็จพระราชด�ำเนินไปจังหวัดอุดรธานี เครื่องบินพระที่นั่งมารอ รับเสด็จที่สนามบินจังหวัดเลย เมื่อเสด็จพระราชด�ำเนินถึงสนามบิน ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งไปให้ราชการ ราษฎรได้เฝ้าอย่างใกล้ชิด ก่อนจะเสด็จขึ้นเครื่องบินพระที่นั่งออกจากสนามบิน จังหวัดเลย เสด็จทอดพระเนตรภูมิประเทศอ�ำเภอเชียงคานเลียบล�ำน�้ำโขงและ เสด็จไปยังจังหวัดอุดรธานี

ครั้งที่ ๒ วันศุกร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๑๒ เวลา ๑๒.๒๐ น. เสด็จพระราชด�ำเนินถึงสนามโรงเรียนประจ�ำจังหวัดเลย เพื่อพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตรประจ�ำจังหวัด ทรงมีพระราชด�ำรัสว่า “ทรงยินดีทไี่ ด้เสด็จ ฯ ไปเยีย่ มจังหวัดเลยอีกครัง้ หนึง่ และได้มาพบประชาชนอย่างใกล้ชดิ ทรงขอบใจทุกคนทีพ่ ร้อมกันมาเฝ้า ฯ รับเสด็จ ฯ ด้วยน�้ำใจไมตรี จังหวัดเลยเป็นจังหวัดชายแดนส�ำคัญที่ได้ชื่อว่ามีภูมิประเทศ ผิดกว่าจังหวัดอื่นโดยมาก กล่าวคือ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบและภูเขาสูง แต่ก็ เหมาะแก่การท�ำอาชีพหลายอย่าง เช่น ท�ำไร่ ท�ำนา ท�ำป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์ ทั้ง ยังอุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติซงึ่ อาจพัฒนาให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ได้มากมาย หลายทาง ความเอาใจใส่ของทางราชการโดยเฉพาะของฝ่ายปกครอง และฝ่าย จังหวัดจะสามารถท�ำให้จังหวัดมีฐานะดีขึ้นมาก ทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคมและ ด้านการรักษาความมั่นคง” วันจันทร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๔๙๘ ส�ำหรับพระพุทธนวราชบพิตรมาพระราชทานด้วย พระพุทธนวราชบพิตร ตัง้ แต่เช้าตรู่ ราษฎรชาวจังหวัดเลยได้คอยเฝ้ารับเสด็จเพือ่ ชมพระบารมีอย่าง นัน้ ได้สร้างขึน้ เพือ่ พระราชทานเป็นพระพุทธรูปประจ�ำจังหวัด ทีฐ่ านบัวทรงบรรจุ ใกล้ชิด การจัดรับเสด็จเป็นไปอย่างเรียบร้อย พระพิมพ์ไว้องค์หนึ่งเป็นพระที่ท�ำขึ้นด้วยผงศักดิ์สินธิ์ ซึ่งทรงได้มาจากทุกทั่ว

ครั้งที่ ๔ วันศุกร์ ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๒๐ เวลา ๑๑.๔๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชด�ำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา จากพระต�ำหนักภูพานราชนิเวศน์ ไป ยังสนามบินกองทัพภาคที่ ๒ ส่วนหน้า อ�ำเภอเมืองสกลนคร เพื่อประทับเครื่อง บิน ซี-๑๒๓ พระที่นั่ง เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและไทยบ้านอาสา ป้องกันตนเองจังหวัดเลย ตลอดจนกองบังคับการหน่วยผสม พลเรือน ต�ำรวจ ทหาร ๑๗๑๘ อ�ำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เวลา ๑๓.๑๕ น. เสด็จพระราชด�ำเนินถึงท่าอากาศยานเลย แล้วประทับ รถยนต์พระที่นั่งพระราชด�ำเนินต่อไปยังสนามหน้าศาลากลางจังหวัดเลย เสด็จ เข้าพลับพลาพิธี นายชาญ พันธุมรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กราบบังคมทูล เบิกผู้มีจิตศรัทธาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดย เสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย จากนั้นพันเอกอาทิตย์ ก�ำลังเอก ผู้บัญชาการกองพลที่ ๓ ปฎิบัติหน้าที่ผู้ บังคับการหน่วยผสม พลเรือน ต�ำรวจ ทหาร ๑๗๑๘ (พตท. ๑๗๑๘) กราบบังคม ทูลถวายรายงานเกีย่ วกับประวัตคิ วามเป็นมาและกิจการของไทยบ้านอาสาป้องกัน ตนเอง (ทสป.) จังหวัดเลย ซึง่ ล้วนเป็นราษฎรทีอ่ าศัยอยูต่ ามชนบทในพืน้ ทีป่ ฎิบตั ิ การของหน่วยผสม พลเรือน ต�ำรวจทหาร ๑๗๑๘ และได้สมัครใจมารับการฝึก อบรม เพือ่ น�ำวิชาความรูไ้ ปใช้ในการป้องกันหมูบ่ า้ นของตนเอง ให้รอดพ้นจากการ คุกคามของผูก้ อ่ การร้ายคอมมิวนิสต์ โดยใช้อาวุธเท่าทีม่ อี ยูแ่ ละทีไ่ ด้รบั การบริจาค ตลอดจนที่ทางราชการมอบให้ นอกจากนัน้ ยังได้อาสาสมัครปฏิบตั กิ ารร่วมกับเจ้าหน้าทีท่ หาร ในการกวาด ล้างผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ด้วยความกล้าหาญ แม้จะยังขาดแคลนอาวุธ จน ประสบความส�ำเร็จหลายครั้งด้วยกัน ครั้งที่ ๕ วันศุกร์ ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๔ เสด็จพระราชด�ำเนินไปยังโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงบริเวณห้วยปลา ดุก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณรอยต่อของอ�ำเภอปากชม อ�ำเภอ เชียงคาน กิง่ อ�ำเภอนาด้วง และอ�ำเภอเมืองเลย โครงการนีก้ องบัญชาการหน่วย ผสม พลเรือน ต�ำรวจ ทหาร ๒๑ เป็นฝ่ายริเริ่มด�ำเนินการตามพระราชด�ำริ โดย มีวัตถุประสงค์ในการจัดที่ดินท�ำกิน ตลอดจนจัดสรรที่อยู่อาศัยในรูปหมู่บ้านป่า ไม้ ที่มีความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ราษฎรที่ยากจน ซึ่งถูกภัยคุกคามจากผู้ก่อการ ร้าย ตลอดจนเพื่ออนุรักษ์ป่าไม้ต้นน�้ำล�ำธารและปลูกสวนป่าทดแทน ในโอกาสนี้ได้เสด็จพระราชด�ำเนินทอดพระเนตรโครงการพัฒนาลุ่มน�้ำห้วย ชมตามแนวพระราชด�ำริ ซึ่งประกอบด้วยอ่างเก็บน�้ำห้วยชม อ่างเก็บน�้ำห้วยไร่ และอ่างเก็บน�้ำห้วยโป่ง ซึ่งสามารถสนับสนุนน�้ำให้แก่พื้นที่เพราะปลูกในเขต โครงการฯ เป็นเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๑,๗๐๐ ไร่ ตลอดจนทรงปล่อยปลานิล ปลายี่สกเทศ และปลาตะเพียนขาว จ�ำนวนรวม ๙๐,๐๐๐ ตัว ลงในอ่างเก็บน�้ำ ทั้งสามแห่งด้วย เสร็จแล้วเสด็จพระราชด�ำเนินโดยรถยนต์พระทีน่ งั่ ไปยังบริเวณหน้าโรงเรียน บ้านชมเจริญ พระราชทานใบส�ำคัญแสดงสิทธิท�ำกินตามแนวพระราชด�ำริให้แก่ ตัวแทนกลุ่มราษฎรที่ขาดแคลนที่ท�ำกิน เพื่อให้สามารถเข้าท�ำประโยชน์ในเขต พื้นที่ป่าเสื่อมโทรมหรือที่รกร้างว่างเปล่าของรัฐ โดยมีสิทธิท�ำกินได้ตลอดชั่วลูก ชั่วหลาน แต่จะไม่ให้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน ป้องกันการซื้อขายที่ดินดังกล่าว ซึ่งจะ เป็นการก่อปัญหาต่อไปไม่สิ้นสุด นอกจากนั้นยังเป็นการแก้ไขปัญหาการบุกรุก ป่าไม้ตน้ น�ำ้ ล�ำธารอันมีคา่ อีกด้วย. (หมายเหตุ : ข้อมูลจากส�ำนักงานวัฒนธรรม จ.เลย)


หน้า 6

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

มทบ.28 ฝึกอบรมชาวบ้านอาสาพิทักษ์ป่าภูหลวง สืบสานปณิธานสมเด็จพระราชินี เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2559 ที่โรงเรียน บ้ า นนาหลวงยางเดี่ ย ว ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย พล.ต.ชาญชัย เอมอ่อน ผูบ้ ญ ั ชาการมณฑลทหารบกที่ 28 (มทบ.28) ค่ า ยศรี ส องรั ก เป็ น ประธานพิ ธี เ ปิ ด โครงการฝึกอบรมราษฎรอาสาสมัครพิทกั ษ์ ป่า (รสทป.) รุ่นที่ 1 พ.อ.อ�ำนวย ยอดพันธ์ หัวหน้าฝ่าย กิจการพลเรือน มทบ.28 กล่าวว่า การจัด โครงการนี้ได้ด�ำเนินการตามนโยบายของกองอ�ำนวย การรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ได้น้อมน�ำพระ ราชด�ำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ มายึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติและขอรับการสนับสนุน งบประมาณจากกองอ�ำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร โดยมีวตั ถุประสงค์เพือ่ ถ่ายทอดพระราชปณิธาน และความห่วงใยของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรม ราชิ นี น าถ ให้ ร าษฎรได้ เข้ า ใจ ซาบซึ้ ง ในพระ มหากรุณาธิคณ ุ ร่วมกันดูแลรักษาป่าไม้ เพือ่ ถวายเป็น พระราชสักการะ เพือ่ สร้างจิตส�ำนึกแก่ราษฎรทีอ่ าศัย อยูร่ อบพืน้ ทีป่ า่ ให้เกิดความรักหวงแหนทรัพยากรป่า

ไม้ และสร้างจิตส�ำนึกและอุดมการณ์ร่วมกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ของรัฐกับราษฎรในพื้นที่ในการป้องกัน รักษาป่าให้เป็นรูปธรรม เพือ่ ให้ราษฎรมีความรูค้ วาม เข้าใจเห็นคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้สัตว์ป่าและวิธี การอนุรักษ์ตลอดจนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อ

ขยายผลสู่ญาติพี่น้องในครอบครัวต่อไป ในการฝึ ก อบรมครั้ ง นี้ วิ ท ยากรฝึ ก อบรม นอกจากเจ้าหน้าที่ชุดครูฝึกทหารแล้วยังได้รับการ สนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดครูฝึกจากส�ำนักงานจัดการ ทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 ( อุดรธานี) และเจ้าหน้าที่ส�ำนัก

เลยพบผูป้ ว่ ยโรคอุจจาระร่วงกว่า 1 หมืน่ รายแล้ว

ทุนคุณพุ่ม

นายวิ ว รรธน์ ก่ อ อาหาร หากจะหยิ บ จั บ วิ ริ ย กมล นายแพทย์ สิง่ ของเข้าปากต้องล้างมือ สาธารณสุ ข จั ง หวั ด เลย ให้สะอาดก่อนเสมอ หรือ เปิดเผยว่า จากข้อมูลของ หลังออกจากห้องน�้ำต้อง ง า น ร ะ บ า ด วิ ท ย า ล้ า งมื อ ทุ ก ครั้ ง โดย ส� ำ นั ก งานสาธารณสุ ข เฉพาะต้องใช้หลัก “กิน จังหวัดเลย พบว่า ตั้งแต่ ร้อน ใช้ชอ้ นกลาง และล้าง วั น ที่ 1 มกราคม – 3 มือ”เสมอ ก็จะท�ำให้ลด ตุลาคม 2559 พบผู้ป่วย การป่วยด้วยโรคอุจจาระ โรคอุจจาระร่วงแล้ว 10,686 ราย พบมากที่อ�ำเภอ ร่วงได้ วังสะพุง 1,713 ราย รองลงมาคืออ�ำเภอเมืองเลย หากมี อ าการเป็ น โรคอุ จ จาระร่ ว ง ให้ ดื่ ม 1,452 ราย และอ�ำเภอด่านซ้าย 1,139 ราย จึงฝาก สารละลายน�ำ้ ตาลเกลือแร่ มีไข้ อาเจียนรุนแรง ต้อง เตือนประชาชนให้ระมัดระวังเรื่องการรับประทาน รีบน�ำส่งสถานบริการสาธารณสุขทันที

บริหารพืน้ ทีอ่ นุรกั ษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) กรมอุทยานแห่ง ชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ปกครองอ�ำเภอ วังสะพุง เจ้าหน้าที่อบต.เขาหลวง โรงพยาบาลส่ง เสริมสุขภาพต�ำบลเขาหลวง ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส�ำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นราษฎรในพื้นที่ ต�ำบลเขาหลวงรวมจ�ำนวน 100 คนรวมระยะเวลาการ ฝึกอบรม 4 วัน 3 คืน ทั้งนี้ ในพิธีเปิดได้มีการอัญเชิญธง “พิทักษ์ป่า เพื่อรักษาชีวิต” ที่มีตราสัญญลักษ์ประจ�ำพระองค์ ของสมเด็ จ พระนางเจ้ า ฯพระบรมราชิ นี น าถ มา ประดิษฐาน ณ สถานที่ฝึกอบรม เพื่อเป็นขวัญก�ำลัง ใจแก่เจ้าหน้าที่ วิทยากร และผู้เข้าร่วมกับการฝึก อบรมด้วย. นายคุมพล บรรเทาทุกข์ ผวจ.เลย เป็นประธานมอบ ทุนการศึกษามูลนิธคิ ณ ุ พุม่ เพือ ่ ส่งเสริมสนับสนุน สงเคราะห์เด็กทีม่ คี วาม บกพร่องและมีความ ต้องการจำ�เป็นพิเศษ ให้แก่ เด็กออทิสติก และเด็ก พิการรุนแรงและยากจน อายุระหว่าง 1 – 18 ปี มี ภูมลำิ �เนาอยูใ่ นจังหวัดเลย จำ�นวน 103 ทุน ทุนละ 5,000 บาท เพือ ่ เป็นการ ช่วยลดภาระค่าใช้จา่ ยและ เป็นกำ�ลังใจให้กบั ครอบครัวอีกทางหนึง่ ด้วย

บอร์ดกองสลากฯตรวจตลาดวังสะพุง เปิดตัวบริษทั ประชารัฐรักสามัคคีเลย เตรียมยึดโควตาแม่คา้ ขายเกินราคา

เมื่ อ วั น ที่ 21 กั น ยายน 2559 ผศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย พร้อมด้วย พ.ท.หนุน ศันสนาคม กรรมการใน คณะกรรมการสลากกิ น แบ่ ง รั ฐ บาล เดิ น ทางมาที่ ต ลาดค้ า สลากกิ น แบ่ ง รัฐบาล อ.วังสะพุง จ.เลย เพื่อส�ำรวจ ราคาการจ�ำหน่ายสลากฯ หลังทราบว่า ผู้ค้าคนกลางมีการจ�ำหน่ายเกินราคาที่ กฎหมายก� ำ หนด พร้ อ มรั บ ทราบ ปัญหาความเดือดร้อนจากผู้ค้ารายย่อย ซึ่งระหว่างที่คณะของ ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย พร้อมด้วย พ.ท.หนุน ศันสนาคม เดินตรวจตลาดอยู่ นั้นมีประชาชนที่เป็นกลุ่มผู้ค้ารายย่อยเข้ามาร้องเรียน ปัญหาความเดือดร้อนว่าไม่สามารถซื้อ-จองสลากผ่าน ระบบธนาคารกรุงไทยได้ ไปกินไปนอนรอคิวกดตู้ เอทีเอ็มข้ามวันข้ามคืน แต่ก็กดไม่ได้ เพราะสลากฯหมด ตั้งแต่ 5 นาทีแรก จึงจ�ำเป็นต้องมาเดินหาซื้อสลากฯ จากตลาดนัดวังสะพุงในราคาที่สูงเกิน 80 บาท เมื่อไป เดิ น ขายเกิ น ราคาที่ ก ฎหมายก� ำ หนดก็ ถู ก เจ้ า หน้ า ที่ ต�ำรวจจับกุม จึงขอให้ทางกองสลากฯ จัดสรรสลากฯ มาให้ผู้ค้ารายย่อยโดยตรง หรือหาวิธีการที่ให้ผู้เดินเร่ ขายเข้าถึงสลากฯมากกว่านี้ ขอแค่เพียงครอบครัวละ 2 เล่มเท่านั้นก็อยู่ได้แล้ว ผศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย กล่าวภายหลัง การเดิน ส� ำ รวจตลาดว่ า ได้ รั บ ทราบปั ญ หาข้ อ เดื อ ดของ ประชาชนผู้เดินเร่ขาย ทางกองสลากฯต้องด�ำเนินการ ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จะตรวจสอบกลุม่ นิตบิ คุ คล ทีไ่ ด้รบั โควตาจากกองสลากฯ แล้วไปขายเกินราคา หาก พบกระท�ำผิด โดยผ่านการบวนการยุตธิ รรมทัง้ หมดแล้ว

ผศ. ธนวรรธน์ พลวิชย ั

ก็จะยึดโควตาคืนทันที เพื่อน�ำไปจัดสรรเข้าระบบซื้อจองของธนาคารกรุงไทย เพื่อให้กระจายไปให้ผู้ค้าราย ย่อยทีย่ งั ไม่ได้รบั สลากฯแต่ละงวดอีกกว่า 100,000 ราย ส่วนจ�ำนวนการผลิตสลากฯนั้นยังคงไว้ที่ 60 ล้านฉบับ เพราะถือว่าเป็นจ�ำนวนที่เหมาะสมกับตลาดดีอยู่แล้ว ทั้งนี้ บรรยากาศการจ�ำหน่ายสลากฯ ที่ตลาด วังสะพุงก่อนที่คณะผศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย จะเดิน ทางมาถึง พบว่า มีการจ�ำหน่ายเกินราคา 80 บาท แต่ เมื่อคณะของผศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย เดินทางมาถึง ผู้ค้าได้น�ำป้ายราคามาเปลี่ยนให้ต�่ำกว่า 80 บาท ทันที และเมื่อคณะผศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย เดินทางกลับ ไป ผูค้ า้ เจ้าของแผงได้นำ� ป้ายบอกราคาเกิน 80 บาท ขึน้ มาวางเช่นเดิม.

จั ง หวั ด เลยเปิ ด ตั ว บริ ษั ท ประชารัฐรักสามัคคีเลย ระดมทุน จากทุ ก ภาคส่ ว น จั ด ตั้ ง บริ ษั ท ท�ำการค้าและส่งเสริมการพัฒนา ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากชุ ม ชน ทั้ ง ด้ า น การเกษตร แปรรูป และการท่อง เที่ยวชุมชน ทีโ่ รงแรมใบบุญแกรนด์ อ�ำเภอ เมืองเลย จังหวัดเลย มีการแถลง เปิดตัว จัดตั้ง บริษัท ประชารัฐรัก สามัคคีเลย (วิสาหกิจเพือ่ สังคม) ซึง่ เป็นกิจการที่ระดมทุนจากทุกภาค ส่วนในจังหวัด ทั้งภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาค ข้าราชการ ภาควิชาการ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ใน วงเงินจดทะเบียนระยะแรก 4,000,000 บาท เพือ่ เป็น ทุนขับเคลือ่ นกิจการ น�ำไปสูก่ ารสร้างความเข้มแข็งให้ กับเศรษฐกิจฐานราก แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และส่ง เสริมการพัฒนา เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ให้กับ วิสาหกิจและผู้ประกอบการในพื้นที่ นายคุมพล บรรเทาทุกข์ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า ในระยะเริ่มต้น บริษัทประชารัฐรักสามัคคี เลย จ�ำกัด จะส่งเสริมการพัฒนาและผลิตสินค้าใน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสินค้าการเกษตร เช่น การปลูกและ จ�ำหน่ายไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้เมืองหนาว , การปลูก แมคคาเดเมีย และผลผลิตจากกล้วย กลุ่มแปรรูป ได้แก่ การแปรรูปผลผลิตแมคคาเดเมีย แปรรูป ผลผลิตจากกล้วย ผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายตุ่ย และกลุ่ม การท่องเที่ยวชุมชน ได้แก่การส่งเสริมกิจกรรมการ ท่ อ งเที่ ย ววิ ถี ชุ ม ชน พื้ น ที่ อ� ำ เภอด่ า นซ้ า ย ภู เรื อ

เชียงคาน หนองหิน และอ�ำเภอเมือง เป็นต้น นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม พัฒนาการ จังหวัดเลย กล่าวว่า ขณะนี้มีภาคเอกชน ภาคประชา สังคม ข้าราชการ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ให้ ความสนใจและสมัครเข้าร่วมลงหุ้นแล้วเป็นจ�ำนวน กว่า 2 ล้านบาท และจะสามารถท�ำการยืน่ จดทะเบียน จัดตั้งบริษัทได้ภายในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ นายเกรียงศักดิ์ ตันกิจเจริญ ทีป่ รึกษาหอการค้า จังหวัดเลย แกนน�ำภาคเอกชน และเป็นคณะผูก้ อ่ การ จัดตั้ง ยืนยันว่าจะสามารถระดมทุนจัดตั้ง บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีเลย (วิสาหกิจเพื่อสังคม) ได้ และ จะเป็ น ก� ำ ลั ง ส� ำ คั ญ ในการสนั บ สนุ น และพั ฒ นา ผลิตภัณฑ์ของชุมชนต่างๆ ในจังหวัดเลย ให้ประสบ ความส�ำเร็จ และเป็นส่วนหนึง่ ในการสร้างความมัน่ คง ให้ แ ก่ เ ศรษฐกิ จ ฐานรากของจั ง หวั ด เลยได้ อ ย่ า ง แน่นอน. (ภาพ-ข่าวโดยสนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย)


หน้า 7

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559 หมายเหตุ นายทองหนัก สุวรรณสิงห์ อดีต ส.ส.เลย ได้เขียนบันทึกเรือ ่ งราวระหว่างทีเ่ ป็นควาญช้าง พระที่ นั่ ง เมื่ อ ครั้ ง พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ใน พระบรมโกศ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จประพาสบนภูกระดึงเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2498.

ตามเสด็จประพาสจังหวัดเลยครั้งแรก ประมาณต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2498 ขณะนั้น ข้าพเจ้าด�ำรงต�ำแหน่งประธานสภาจังหวัดเลย ได้รับ ทราบจากนายธ�ำรง ป่าไม้เขตอุดรธานีว่า พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินนี าถ จะเสด็จจังหวัดเลยเป็นครัง้ แรก ในช่วงกลาง เดือนพฤศจิกายน 2498 และก่อนจะเสด็จประทับแรม ที่จังหวัดเลย จะเสด็จประพาสบนภูกระดึงก่อน การรับ เสด็จบนภูกระดึงนั้นเป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ ขณะนั้น นายวิเชียร กุญชร ณ อยุธยา ซึ่งด�ำรงต�ำแหน่งอธิบดี กรมป่าไม้ ได้รอ้ งขอ ให้ขา้ พเจ้าน�ำช้างขึน้ ไปบนภูกระดึง 2 เชื อ ก เพื่ อ เป็ น ช้ า งทรงส� ำ หรั บ เสด็ จ ประพาสบน ภูกระดึง ข้าพเจ้าก็ได้รับหน้าที่ไว้ ขณะนั้น ข้าพเจ้ามีช้างใหญ่อยู่ 5 เชือก โดยปกติ ช้างเป็นสัตว์ที่ใจเสาะชอบตื่นตกใจและวิ่งหนี ฉะนั้น ก่อนจะน�ำช้างขึน้ ไปรับเสด็จจึงจ�ำเป็นต้องฝึกช้างให้เชือ่ ง เดิมข้าพเจ้าได้เลือกเอาช้างพังชื่อ “บุญเพ็ง” ซึ่งเป็น ช้างที่สวยที่สุดในจังหวัดมาฝึก โดยให้ควาญช้างน�ำจาก ป่าขี่เข้ามาในเมืองตอนเช้าๆ ให้ได้พบกับผู้คนและพบ รถยนต์ เพื่อให้ชินและเชื่องขึ้น ฝึกหัดช้างบุญเพ็งไม่ได้ ผล พอขับขี่เข้ามายังไม่ถึงตัวเมือง พบรถยนต์ก็วิ่งหนี เข้าป่า จึงได้เปลี่ยนเอาช้างพลาย “ค�ำหมื่น” และสีดอ “ทองคูณ” พยายามฝึกอยู่ประมาณ 1 เดือน ช้างเชื่องดีพอที่จะเป็นช้างทรงได้ เมื่อหมายก�ำหนดการได้ออกมาว่า จะเสด็ จ ถึ ง ภู ก ระดึ ง วั น ที่ 6 พฤศจิ ก ายน เมื่ อ วั น ที่ 4 พฤศจิกายน 2498 ข้าพเจ้าจึงได้ นายทองหนัก น�ำช้าง 2 เชือก พร้อมด้วยควาญ 4 คน ซึ่งเป็นควาญเท้าช้าง (ใน จ�ำนวนนีม้ ี ด.ช.องอาจ สุวรรณสิงห์ และ ด.ช.อ�ำนาจ สุวรรณสิงห์ บุตรชายของข้าพเจ้าด้วย) ได้ไปส�ำรวจ ทางขึ้น และได้ขึ้นทางบ้านนาน้อย ด้านหลังภูกระดึง ทางขึ้นชันมาก ครั้งแรกคิดว่าคงขึ้นไม่ได้เสียแล้ว ตอนเช้าวันที่ 5 ทดลองปลดเครือ่ งพันธนาการต่างๆ ออกเหลือแต่ตัวช้างเปล่า แล้วไล่ช้างไต่เขาขึ้นไป ช่วง ใกล้หลังเขาทางชันมาก ช้างทัง้ 2 เชือก ใช้งวงดึงต้นไม้ โหนตัวขึน้ ไปบนหลังเขาจนได้ กรมป่าไม้ได้จดั คนมาช่วย หาบหามสัมภาระขึ้นและมาพักอยู่ใกล้ๆ พลับพลารับ เสด็จ เช้าวันที่ 6 พฤศจิกายน 2498 ได้เตรียมตัวใส่ ประคับบนหลังช้างส�ำหรับทรงประทับ เอาโซ่ผกู ขาช้าง และเตรียมปลอกขาช้างไว้พร้อมเสด็จ ไปรอรับเสด็จยัง จุดแรกใกล้ๆ พลับพลารับเสด็จ การเสด็จขึน้ ประทับบน หลังช้างนั้น ต้องท�ำหอคอยไว้ให้สูงเท่ากับหลังช้าง และ มีบันใดทางขึ้นหอคอยพาดไว้ เวลาประมาณ 10 นาฬิกา เครือ่ งบินเฮลิคอปเตอร์ ซึง่ เป็นเครือ่ งบินพระทีน่ งั่ ของทัง้ สองพระองค์กม็ าถึง พอ เสด็จลงจากเครื่องบิน ทั้งสองพระองค์ก็เสด็จขึ้นไปยัง หอคอย เดิมได้เตรียมช้างส�ำหรับประทับพระองค์ละ

บันทึกของนายทองหนัก

รับเหรียญพระราชทาน

เชื อ ก แต่ ส มเด็ จ พระนางเจ้ า ฯ พระบรมราชิ นี น าถ มี พ ระราช ประสงค์ประทับช้างเชือกเดียวกับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช้าง พลายหมื่ น ค� ำ ที่ ท รงประทั บ นั้ น ข้าพเจ้าเป็นควาญช้างเอง จึงได้ไส ช้างเข้าโดยน�ำด้านซ้ายเข้าเทียบชิด สุวรรณสิงห์ กับหอคอย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จประทับก่อนทางด้านขวาของประคับ และ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินนี าถเสด็จประทับด้าน ซ้าย ข้าพเจ้าเองนั่งหมอบติดกับศีรษะช้าง ด้วยเกรงว่า จะแตะต้องพระยุคลบาท เมื่ อ เสด็ จ ประทั บ บนช้ า งทรงแล้ ว ขบวนเสด็ จ ก็ เคลือ่ น โดยอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมข้าราชการกรมป่าไม้ ประมาณ 6 คน เดินน�ำหน้าบุตรชายทัง้ สองของข้าพเจ้า ซึ่งแต่งชุดลูกเสือเดินคู่กันน�ำหน้าช้างทรง และมีควาญ เท้าช้าง 2 คน เดินอยู่ข้างช้างทรง ส�ำหรับคอยระวัง เวลาช้างตืน่ ตกใจ ออกจากบริเวณหอคอยน�ำเสด็จไปตาม ทางเดินซึ่งกรมป่าไม้โดยได้ยกร่องเป็นรูปถนน กว้างประมาณ 2 เมตร คดเคี้ยวไปตามธรรมชาติ จุดแรกตรงไปยังพระพุทธรูป เมือ่ ไปถึงทัง้ สอง พระองค์ ก็เสด็จลงจากหลังช้าง เพื่อสักการะพระพุทธรูป ขณะ นั้ น ข้ า พเจ้ า ได้ ยิ น พระกระแสรั บ สั่ ง สมเด็ จ พระบรม ราชินีนาถว่า “ขนตาเขางอนๆงาทั้งสองก็งามนัก” ข้าพเจ้าเห็นทัง้ สองพระองค์ทรงยืนอยูต่ รงหน้าช้างพลาย ในระยะใกล้ ข้าพเจ้าตกใจมาก จึงรีบขับช้างให้หนั หน้า หนี เพราะนึกถึงค�ำโบราณที่กล่าวว่า ช้างพลาย งูเห่า จะนั่งหรือยืนอยู่ตรงหน้าย่อมเกิดอันตราย ได้เวลาพอ

สมควรแล้วก็เสด็จขึ้นประทับบนหลังช้างต่อไปยังสระ อโนดาต ถึงสระอโนดาตก็เสด็จลงทอดพระเนตรสระเป็น เวลาพอสมควร แล้วเสด็จขึ้นประทับบนหลังช้าง เพื่อ เสด็จกลับพลับพลาที่ประทับ ในขณะทีท่ รงประทับบนหลังช้าง ทัง้ สองพระองค์ มีพระกระแสอยู่ตลอดเวลา ส่วนมากเป็นภาษาอังกฤษ ซึง่ ข้าพเจ้าฟังไม่ออก ข้าพเจ้าต้องเคร่งครัดการท�ำหน้าที่ ควาญเพราะเกรงช้างจะตื่นวิ่งไป ซึ่งอาจเกิดภยันตราย แด่พระองค์ได้ ขบวนเสด็จครั้งนั้นมีทหารถือปืนเตรียม พร้อมเดินอยู่ข้างช้างฝ่ายละ 10 คน ห่างประมาณ 5 วา เสียงหญ้าแห้งจากทหารเดินท�ำให้ช้างตื่นตัวส่ายไป ส่ายมา ข้าพเจ้าต้องแกว่งข้อเอาขอช้างจรดไว้ท่ีศรีษะ ช้าง เกรงช้างจะวิ่ง สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรม ราชินนี าถทรงมีรบั สัง่ ถามว่า “ท�ำไมเขาจึงเดินซิกแซ็ก อย่างนี้” ข้าพเจ้าจึงได้หยุดชะงัก แล้วโบกมือให้ทหาร ทีอ่ ยูท่ งั้ สองข้างออกไปห่างๆ ช้างจึงเดินเป็นปกติ สมเด็จ พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงรับสั่งว่า “อ๋อเขา กลัว” มีพระกระแสรับสั่งกับข้าพเจ้าอีกว่า “ตอนกลาง คืนผูกเขาไว้ทไี่ หนและเขาทานอะไร” ข้าพเจ้ากราบทูล ว่า “ผูกไว้ตามชายป่าโดยอาศัยกล้วยป่าและหญ้า เป็นอาหาร..พระเจ้าข้า” และทรงมีพระกระแสรับสั่ง ว่ า “โซ่ นี้ ผู ก ขาเขาไว้ ท� ำ ไมเดิ น ล� ำ บาก” ข้ า พเจ้ า กราบทูลว่า “ข้าพระพุทธเจ้าได้เตรียมพร้อมไว้ เผื่อ ว่าบางทีชา้ งอาจจะตืน่ ตกใจวิง่ ไปก็จะเกิดภยันตรายได้ ถ้าช้างตืน่ ตกใจท�ำท่าจะวิง่ จะได้ทงิ้ โซ่นลี้ งไปให้ควาญ ช้างผูกกับต้นไม้ วิ่งไปไม่ได้” ทรงมีรับสั่งว่า “อ๋อ รอบคอบดีนะ” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระ

ผบ.ทบ.ส่ง“มือปราบป่าไม้” นัง่ เสธ.มทบ.28ค่ายศรีสองรัก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามค�ำสัง่ ที่ 485/2559 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2559 เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ จ�ำนวน 307 นาย ในส่วนการเปลีย่ นโยกย้ายต�ำแหน่งทีเ่ กีย่ วข้อง กับมณฑลทหารบกที่ 28 (มทบ.28) ค่ายศรีสองรัก จ.เลย มี 4 ต�ำแหน่ง คือ 1.พ.อ.อดุลย์ แนบสนิท (ตท. 22) เสธ.มทบ.28 เป็น รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 , พ.อ.ชาญพงษ์ ทองสุกแก้ว (ตท.18) เสนาธิการ มทบ.25 เป็นรองผู้บัญชาการ มทบ.28 , พ.อ.สายัน

ทัศศรี (ตท.20) เสนาธิการ มทบ.21 เป็น รองผู้บัญชาการ มทบ.28 และ พ.อ.สมหมาย บุษบา(ตท.24) ผูบ้ งั คับ กรมพัฒนา 2 เป็นเสนาธิการ มทบ. 28 ส�ำหรับ พ.อ.สมหมาย บุษบา เสนาธิการ มทบ. 28 คนใหม่นั้น เมื่อครั้งได้รับมอบหมายจากผู้บังคับ บัญชาให้ดำ� เนินการตามค�ำสัง่ ของ คสช.ในการปราบ ปรามการบุกรุกป่าไม้ ได้นำ� ก�ำลังเจ้าหน้าทีห่ น่วยงาน

ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ขอคืนผืนป่าและด�ำเนินคดีกับผู้ กระท�ำความผิดหลายราย โดยมีบุคลิกการท�ำงานที่ เคร่งขรึม พูดจาตรงไปตรงมา จนได้รบั การขนานนาม ว่าเป็น “มือปราบป่าไม้”.

นางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเสด็จประพาสบนภูกระดึง ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็เสด็จกลับยังพลับพลารับเสด็จ และเสวยพระกระยาหารกลางวัน จากนัน้ อธิบดีกรมป่าไม้ได้เรียกข้าราชการยืนรอรับ เสด็ จ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่หัวได้ทรงพระราชทานเหรียญ รามาอนุสรณ์แก่ขา้ ราชการทีย่ นื รอ รั บ เสด็ จ และข้ า พเจ้ า ก็ ไ ด้ รั บ พระราชทานจากพระองค์ ท ่ า น ด้วยนับเป็นพระมหากรุณาธิคณ ุ หา ที่เปรียบมิได้ จากนั้นทั้งสองพระองค์ก็ได้ เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์ ลงมายังเชิง เขา ที่บ้านศรีฐาน แล้วเสด็จ ประทั บ รถยนต์ พ ระที่ นั่ ง มายั ง จังหวัดเลย ในขณะนั้นถนนจาก อ�ำเภอภูกระดึงมายังจังหวัดเลยเป็นหินลูกรังมีฝุ่นมาก กรมทางหลวงแผ่นดินได้น�ำรถน�้ำมารดถนน เพื่อไม่ให้ มีฝนุ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงสัง่ ให้งดการเอา น�้ ำ รดถนน และให้ เ อาน�้ ำ ไปใช้ ท างอื่ น เพื่ อ เป็ น ประโยชน์แก่ประชาชน เมื่อเสด็จถึงจังหวัดเลย ทางจังหวัดเลยได้จัดที่ ประทับแรมบนศาลากลางจังหวัดเลย (ปัจจุบันคือที่ ว่าการอ�ำเภอเมืองเลย) ห้องประทับแรมคือ ห้องนาย อ�ำเภอในปัจจุบัน ตอนกลางคืนบรรดาข้าราชการได้มี การแสดงละครและร�ำถวาย ทั้งสองพระองค์ทรงทอด พระเนตรอยู่เกือบ 2 ยาม มีประชาชนมาคอยชมพระ บารมีอย่างเนืองแน่น เต็มถนนหนทางทุกหนทุกแห่ง จนหลี ก กั น ไม่ ไ หว ด้ ว ยเดชะพระบารมี ปกเกล้ า ปกกระหม่อม แม้จะมีประชาชนมาร่วมรับเสด็จจ�ำนวน แสน เหตุการณ์ครัง้ นัน้ เรียบร้อยดีไม่มเี หตุรา้ ยอะไรเกิด ขึ้น มีแต่เสียงแซ่ซ้องสาธุกาลตลอดเวลา รุง่ ขึน้ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2498 เวลาประมาณ 09.00 น. ทั้งสองพระองค์เสด็จออกประทับ ณ ห้อง ประชุม ให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเข้าเฝ้าและถวายสิ่งของ ข้าพเจ้าได้น�ำไม้เท้าเลี่ยมเงิน 2 อัน ซึ่งได้มาจากแขวง เมืองหลวงพระบางถวาย เมื่อเสร็จการเข้าเฝ้าแล้ว ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จ ไปเสวยพระกระยาหารกลางวั น ที่ ศ าลารั บ เสด็ จ ชลประทานน�้ำหมาน บ้านท่าแพ ส่วนเหล่าพสกนิกร มากมายได้วิ่งจากตัวเมืองไปคอยส่งเสด็จที่สนามบิน บ้านนาอาน ซึ่งขณะนั้นเป็นหินลูกรัง มีที่พักผู้โดยสาร หลังเก่าๆ อยูห่ นึง่ หลังทางการได้จดั ให้พระภิกษุ 10 รูป ไปคอยสวดชยันโต เวลาประมาณ 13 นาฬิกา ก็เสด็จถึงสนามบิน โดย ทรงขับรถยนต์พระทีน่ งั่ ด้วยพระองค์เอง ในขณะทีเ่ สด็จ ถึงสนามบิน ประชาชนได้เข้ามาชมพระบารมีอย่างใกล้ ชิด ทรงนมัสการพระสงฆ์ แล้วเสด็จขึ้นเครื่องบินไปยัง จังหวัดอุดรธานี การเสด็จถึงสนามบินอุดรธานีนั้น ได้ล่าช้าไป ประมาณ 20 นาที ท�ำให้เหล่าพสกนิกรทีน่ นั้ วิตกกังวล ไปต่างๆ นานา แต่เพราะพระองค์ทรงรับสัง่ ให้เครือ่ งบิน พระที่นั่งตรงไปยังอ�ำเภอเชียงคาน แล้วเลียบฝั่งแม่น�้ำ โขงไปยังจังหวัดหนองคาย ก่อนถึงจังหวัดอุดรธานี ทองหนัก สุวรรณสิงห์ 20 พฤศจิกายน 2517


หน้า 8

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

ชาวเลยหมื่นคนแปรอักษรถวายอาลัยในหลวงร.9

สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อชมคลิปข่าวนี้

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2559 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเลย นายคุมพล บรรเทาทุกข์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานพิธีถวายอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ โดยชาวจังหวัดเลย ทุกหมู่เหล่า จาก 14 อ�ำเภอ จ�ำนวนกว่า 10,000 คน พร้อมใจกันสวมชุด สีดำ� และสีขาว มาชุมนุมแปรอักษรค�ำว่า “เลย” เป็นภาษาอังกฤษสีดำ� และ แปรเป็นรูปหัวใจสีขาว ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เสด็จ ประพาสอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ในปี 2498 จากนั้นได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน พื้นที่ชายแดน ทรงเยี่ยมประชาชน ราษฎรไทยอาสาป้องกันตนเอง และ สถานศึกษา ในพื้นที่จังหวัดเลย รวม 5 ครั้ง

พระราชทานพระ ราชด�ำริ ให้จัดตั้งศูนย์พัฒนา ปศุสัตว์ อ�ำเภอด่านซ้าย เพื่อ ศึกษา พัฒนา และให้ความรู้ แก่ราษฎร ในการเพราะเลี้ยง และขยายพั น ธุ ์ สั ต ว์ เพื่ อ พัฒนาชีวติ ความเป็นอยู่ ทรงรับกิจการของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จงั หวัด เลย เข้าเป็นโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 52 เพือ่ ให้ความรู้ และความช่วย เหลือ แก่นักเรียนที่ครอบครัวยากจน ขาดแคลน ได้มีโอกาสทางการศึกษา พระราชทานแนวพระราชด�ำริ ให้กรมชลประทานก่อสร้างอ่างเก็บน�ำ้ น�ำ้ เลย เพือ่ เก็บกักน�ำ้ จากแม่นำ�้ เลยไว้ใช้ประโยชน์ทางการเกษตรตลอดแนว แม่น�้ำเลย เกิดประโยชน์แก่พื้นที่การเกษตรแล้วกว่า 35,000 ไร่ รวมทั้ง

เปิดถนนคนเดิน“เพลินภู” แลนด์มาร์คท่องเที่ยวใหม่เมืองเลย เมือ่ วันที่ 8 ตุลาคม 2559 บริเวณถนน เจริญรัฐ หน้าเทศบาลเมืองเลย นายคุมพล บรรเทาทุกข์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็น ประธานเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเทีย่ ว เทศบาลเมืองเลย ภายใต้ชื่อ “ถนนคนเดิน เพลินภู” เพือ่ ส่งเสริมการท่องเทีย่ วภายใน เขตเทศบาลเมืองเลย รวมทัง้ สร้างจุดสนใจ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่ า งชาติ ให้ เข้ า มาท่ อ งเที่ ย วในตั ว จังหวัดเลยเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการ กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและ สร้ า งรายได้ ใ ห้ ป ระชาชนในพื้ น ที่ ต าม นโยบายของรัฐบาล โดยพิธเี ปิดมีการแสดง ศิลปวัฒนธรรมของชาวไทด�ำ การแสดง จากชุมชนต่างๆในเทศบาลเมืองเลย และ การแสดงดนตรี ไ ทยจากโรงเรี ย นสั ง กั ด เทศบาลเมืองเลย นายสัมพันธ์ คูณทวีลาภผล นายก

เทศมนตรีเมืองเลย กล่าวว่า การเปิดถนนคนเดิน เพลินภู เทศบาลเมืองเลยร่วมกับหอการค้าจังหวัดเลย ได้ก�ำหนดพื้นที่บริเวณถนนเจริญรัฐหน้าเทศบาลเมือง เลย เป็ น สถานที่ ส� ำ หรั บ จ� ำ หน่ า ยอาหารพื้ น เมื อ ง

อาหารส�ำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์จากชุมชน สินค้าท�ำมือ สินค้าหัตถกรรม สินค้าของที่ระลึก รวมทั้งงานศิลปะ ต่าง ๆ ตลอดจนจัดให้มีเวทีชุมชนส�ำหรับให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ได้มาแสดงความสามารถเชิง สร้างสรรค์ การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดี งามของท้องถิน่ ทุกวันเสาร์ ตัง้ แต่เวลา 16.00-22.00 น. โดยมีผู้ประกอบการ ชมรม กลุ่ม องค์กรชุมชนต่างๆ น�ำสินค้ามาร่วม สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อชมคลิปข่าวนี้ จ�ำหน่ายและจัดแสดงจ�ำนวน 320 ราย ท่ามกลางประชาชนให้ความ สนใจ เข้ามาชมงานและเลือกซื้อ สินค้ากันอย่างเนืองแน่น.

ช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในฤดูฝน ด้วยน�้ำพระราชหฤทัยอันยิ่งใหญ่ ที่ได้พระราชทานแก่พสกนิกรใน จังหวัดเลย ก่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ทัง้ ด้านความมัน่ คงของบ้านเมือง ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ การศึกษา การพัฒนาด้านการเกษตร และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น. (ภาพโดย ส.อ.ปกรณ์ วรแสง , ชนาธิป อินทรวิชะ)

เลี้ยงอาหารกลางวัน

นายณัฐกร พัฒนชัยกุล ผู้ บริหารพัฒนชัยยนต์กรุป๊ ร่วม กับนางสดศรี สิทธิบญ ุ กรรมการบริหารสโมสร ไลออนส์เมืองเลยพร้อมด้วย สมาชิก จัดกิจกรรมเลีย้ ง อาหารกลางวันเด็กนักเรียนที่ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำ� จังหวัดเลย เพือ ่ ให้กำ�ลังใจเด็ก ทีม่ คี วามบกพร่องทางสติ ปัญญาและร่างกาย ให้มโี อกาส ทัดเทียมเด็กปกติ และเพือ ่ เป็นการแบ่งเบาภาระด้านงบ ประมาณของทางราชการด้วย.


ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ หาทีส่ ดุ มิได้ ข้าพระพุทธเจ้า คณะผูบ้ ริหารและพนักงาน บริษทั ในเครือพัฒนชัยยนต์ กรุป๊

หน้า 9


หน้า 10

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

นับตัง้ แต่ คสช.เข้ามายึดอ�ำนาจบริหารประเทศ น�ำ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หนึ่งในผลงานที่โดด เด่นก็คือการทวงคืนผืนป่า โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มนายทุน ผู้มีอันจะกิน ที่เข้าไปครอบครองพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่ง จังหวัดเลยเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ ด�ำเนินการยึดคืนผืนป่าไปแล้วกว่า 20,000 ไร่ โดยส่วน ใหญ่เป็นสวนยางพารา และยังมีพื้นที่ถูกจับกุมด�ำเนิน คดีที่เป็นรูปแบบสวนป่าด้วย จากการด� ำ เนิ น การตาม มาตรการดั ง กล่ า ว พบว่ า ที่ ดิ น ประเภทสวนป่า ส่วนใหญ่ที่อยู่ใน พื้นที่อ�ำเภอภูเรือและด่านซ้าย มี ประวัติความเป็นมาและจุดประสงค์การตั้งสวนป่าที่ คล้ายกันคือ ผูถ้ อื ครองเป็นบุคคลฐานะค่อนข้างดีอาศัย อยู่ในกรุงเทพฯ ออกมาซื้อที่ดินที่เป็นไร่ข้าวโพด ไร่มัน ส�ำปะหลังเดิมของชาวบ้าน แล้วปลูกต้นไม้ยืนต้นหลาก หลายชนิด เพื่อสร้างป่าไว้หลีกหนีความวุ่นวายในเมือง สวนป่ า ห้ ว ยศอก บ้ า นห้ ว ยตาด ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย เป็นสวนป่าอีกหนึง่ แห่งทีพ่ ลิกฟืน้ ไร่ขา้ วโพด และภูเขาหัวโล้นให้กลายเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ มีพชื พันธุ์ ไม้หลากหลายขึน้ เต็มพืน้ ทีก่ ว่า 170 ไร่ เป็นแหล่งอาหาร ให้ชาวบ้านได้พึ่งพิง เก็บเห็ด หาหน่อไม้ ยาสมุนไพรได้ ทั้งปี ซึ่งถือว่าเป็นป่าชุมชนไปโดยปริยาย นายสุรศักดิ์ ศรีนาม ผูด้ แู ลสวนป่าห้วยศอก เล่า ว่า เดิมทีพื้นที่บริเวณนี้เป็นไร่ข้าวโพด มีแต่ความแห้ง แล้ง เป็นดินแดงลูกรัง เมื่อปี 2533 คุณอรรถ เสนา สาร (ชื่อเดิมมิสเตอร์อัลเฟรดเอเดรียน เซนเฮาเซอร์ เป็นชาวสวิสเซอร์แลนด์ ปัจจุบันอายุ 83 ปี ซึ่งได้รับ สัญชาติไทยมาตั้งแต่ พ.ศ.2522 เพราะเข้ามาท�ำงานใน ประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ.2494) ได้ซื้อที่ดินต่อจากชาว บ้านทีม่ ี นส.3 อยูแ่ ล้ว และมีชาวบ้านเจ้าของไร่ขา้ วโพด ข้างเคียงขอให้คุณอรรถซื้อที่ดินเพิ่ม จนในที่สุดถึง ปัจจุบนั ขยายเนือ้ ทีส่ วนป่าห้วยศอกออกไปรวม 179 ไร่ 1 งาน 8 ตารางวา แรกเริม่ ก็ตงั้ ใจแค่จะปลูกต้นสัก ปลูก ไม้ผล ไม่มกี ารตัดต้นไม้ใหญ่ทมี่ อี ยูเ่ ดิม พร้อมสร้างบ้าน พักไว้ด้วย 1 หลัง และมีการขึ้นทะเบียนจัดตั้งสวนป่า กับส�ำนักงานป่าไม้จงั หวัดเลย(ในขณะนัน้ ) อย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย โดยตั้งชื่อตามล�ำน�้ำห้วยศอกที่ไหลผ่าน การตัง้ สวนป่าไม่ได้หวังว่าจะท�ำธุรกิจจากทีด่ นิ ตรง นี้ แต่เนื่องจากพื้นที่กว้างขวาง ประกอบกับคุณอรรถ ก็อายุมากแล้ว จึงไม่มีเวลามาดูแล ก�ำลังคนงานก็มีไม่ เพียงพอ สวนป่าสักจึงกลายเป็นป่ารกมาก อยู่ๆมาก็ กลายเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ขึ้น มีชาวบ้านเข้ามาเก็บหา เห็ดหาหน่อไม้ และของป่าอื่นๆ คุณอรรถ เมื่อเห็นดังนี้ ก็เปลีย่ นความตัง้ ใจ ให้ปา่ ตรงนีค้ งไว้ แต่บางครัง้ จ�ำเป็น ต้องตัดต้นไม้ในบางส่วนออก เพือ่ เป็นการตกแต่ง ตัดสาง ไม่ให้แน่นหนาจนเกินไป เพราะจะท�ำให้ต้นสักเจริญ เติบโตช้า ซึ่งการตัดไม้ได้ท�ำเรื่องขออนุญาตจากทาง ราชการอย่างถูกต้อง และบางครัง้ ต้นไม้ทอี่ ยูร่ มิ ถนนล้ม พาดสายไฟ ก็ต้องตัดออก ส่วนไม้ที่ได้ ก็น�ำไปบริจาคให้ แก่วดั หรือโรงเรียน หรือชาวบ้านมาขอไปซ่อมแซมอาคาร บ้านเรือน

“สวนป่าห้วยศอก”

อ.ด่านซ้าย

ตัวอย่างที่ดีของการจัดการป่าไม้โดยเอกชน

รายงาน พิเศษ

พืน ้ ทีส่ วนในอดีตเป็นไร่ขา้ วโพดและภูเขาหัวโล้น

สวนป่าห้วยศอกในปัจจุบน ั

ทางเข้าสวนป่าห้วยศอกในปัจจุบน ั

ทั้ ง นี้ จากการเข้ า ตรวจ สอบพื้ น ที่ ข องผู ้ สื่ อ ข่ า วพบว่ า ภายในสวนป่าแห่งนี้ ค่อนข้าง อุดมสมบูรณ์ เขียวครึ้มร่มรื่น พบชาวบ้านเข้ามาเก็บหาของป่า เช่น ด้วงไม้ไผ่ เห็ด หน่อไม้ และ พืชผัก ซึง่ ทางผูด้ แู ลสวนป่าก็ไม่ ได้หวงห้ามแต่อย่างใด สวนป่าห้วยศอกจึงถือเป็น ตัวอย่างหนึ่งของการจัดการป่า ไม้โดยเอกชนที่ท�ำได้อย่างดี อยู่ ร่วมกับชุมชนอย่างปกติสขุ การ บั ง คั บ ใช้ ก ฎหมายของภาครั ฐ กั บ สวนป่ า ลั ก ษณะนี้ จึ ง ต้ อ ง ทางเข้าสวนป่าห้วยศอกในปีแรก ภาพสเก็ตของนายอรรถ อ า ศั ย แ น ว ท า ง รั ฐ ศ า ส ต ร ์ อย่างไรก็ตาม จากการที่สวนป่าห้วยศอกมีพื้นที่ น�้ำไม่ได้สูงมาก ในฤดูน�้ำหลาก น�้ำก็ล้นไหลไปได้ มากกว่านิตศิ าสตร์ มองทีเ่ จตนารมณ์ของเจ้าของสวนป่า กว้างใหญ่ ปัญหาการขัดแย้งหรือกระทบกระทัง่ กับพืน้ ที่ นอกจากนี้ ยังเคยมีกรณีร้องเรียนเรื่องการครอบ และผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับชุมชน สภาพแวดล้อมที่ ข้างเคียงก็มบี า้ งเป็นเรือ่ งปกติ จนบางครัง้ ก็ถกู ร้องเรียน ครองเนื้อทราย สัตว์ป่าสงวน ซึ่งสัตว์เหล่านี้ ตนเริ่มต้น ฟืน้ ฟูขนึ้ มา จากภูเขาหัวโล้น กลายเป็นป่าทีช่ ว่ ยให้ลำ� น�ำ้ มีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง จากการน�ำมาเลี้ยงในป่า เพียงไม่กี่ตัว หลังจากที่ได้ไป ห้วยศอกไม่เหือดแห้ง และเป็นที่ชะลอความแรงของน�้ำ การตัดต้นไม้ และการก่อสร้างฝายกั้นทางน�้ำห้วยศอก เห็นสวนป่าในประเทศอังกฤษ ไม่ได้มเี จตนาทีจ่ ะท�ำการ ไม่ให้ไหลลงไปสมทบกับแม่น�้ำหมัน สร้างความเสียหาย ซึ่งตนได้ชี้แจงกับหน่วยงานราชการที่เข้ามาตวรจสอบ ค้าแต่อย่างใด แต่ด้วยความไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย เมื่อเนื้อ ให้กับพื้นที่ด้านล่าง แล้ว การก่อสร้างฝายดังกล่าวนั้น เป็นเพียงคันกั้นน�้ำ ทรายขยายพั น ธุ ์ เ พิ่ ม ขึ้ น จนเลี้ ย งดู ไ ม่ ไ หว ตนจึ ง ท� ำ จึงควรส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สวนป่าลักษณะนี้เกิด เพือ่ ท�ำเป็นถนนคอนกรีตข้ามไปยังบ้านพัก ใต้คนั กัน้ น�ำ้ หนังสือไปทีห่ น่วยงานราชการทีด่ แู ลเรือ่ งนี้ ให้มารับเนือ้ ขึ้ น มากๆ น� ำ พื้ น ที่ เ หล่ า นี้ เ ป็ น กรณี ศึ ก ษา และใช้ มีทอ่ ให้นำ�้ ไหลผ่านได้ตามปกติคล้ายสะพาน และคันกัน้ ทรายไปเลี้ยงแล้ว นายสุรศักดิ์กล่าว ประโยชน์ร่วมกับทางราชการได้ไม่มากก็น้อย .

เพกา หรือลิ้นฟ้า หรือชื่อที่ชาวภาค กันธิกา ศรีจันทร์แก้ว อายุ 43 ปี สอง อีสานเรียกว่า “หมากลิ้นไม้” เป็นไม้ผล พิเศษ สามีภรรยา เจ้าของไร่ศรีทอง บ้านห้วย ประเภทผัก มีรสขม นิยมรับประทานเป็น ม่วง ต.โคกขมิ้น อ.วังสะพุง เป็นหนึ่ง ผักเครือ่ งเคียงอาหารทีม่ รี สจัด เช่น น�ำ้ พริก ในเกษตรกรที่ ป ลู ก เพกาเตี้ ย จนประสบ ลาบ หรือน�ำเป็นส่วนผสมของพร่าเนื้อสัตว์ มีสรรพคุณ ทางยาหลายประการ เช่น สมานแผล แก้อักเสบบวม แก้ ท้องร่วง บ�ำรุงธาตุ แก้นำ�้ เหลืองเสีย เจริญอาหาร แก้ทอ้ ง ร่วง เป็นต้น ปัจจุบันเพกาพันธุ์เตี้ยก�ำลังเป็นที่นิยมปลูกเป็นเชิง พาณิชย์ มีเกษตรกรจ�ำนวนมาก หันมาปลูกขายฝักและ ความส�ำเร็จ ทั้งๆที่ใช้เวลายังไม่ถึงปี สามารถมีรายได้จาก เพาะต้นพันธุ์ขายกันอย่างจริงจัง สามารถสร้างรายได้ให้ การขายฝักเพกาและขายต้นพันธุไ์ ด้แล้วรวมกันกว่า 5 แสน ครอบครัวเป็นอย่างดี บาท นายวรรณะ ศรีจันทร์แก้ว อายุ 45 ปี และนาง นางกันธิกา ศรีจันทร์แก้ว เกษตรกร เปิดเผยว่า เดิมพื้นที่ 14 ไร่หลังบ้านเป็นไร่อ้อย แต่ต้นทุนสูงมาก จึง โละอ้อย แล้วมาปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้าแทน รวม 2,400 ต้น แต่กาแฟเป็นพืชที่ต้องการร่มเงา แสงแดดร�ำไร จึง น�ำเพกาเตี้ยมาปลูกแซม รวมประมาณ 4,000 ต้น พร้อม กับได้น�ำกล้วยน�้ำว้าอีก 1,000 ต้น มาปลูกแซมด้วย แต่ ปรากฏว่า หลัง 8 เดือนผ่านไป เพกาเริม่ ให้ผลผลิต ท�ำให้ มีรายได้จากการขายฝักเพกาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยมี พ่อค้ามารับซื้อกิโลกรัมละ 50 บาท ไปขายที่ตลาดใน

รายงาน

จังหวัดใกล้เคียง แต่หากเป็นช่วงฤดูแล้ง ราคาก็จะขยับ ขึ้นไปอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 60-70 บาท นางกันธิกากล่าวอีกว่า แต่ทเี่ ป็นรายได้หลักจริงๆ ก็ คือการขายต้นพันธุ์ มีเกษตรกรทั้งในจังหวัดเลยและต่าง จังหวัด ให้ความสนใจเข้ามา ซื้อไปปลูกจ�ำนวนมาก โดย ขายในราคาต้นละ 40 บาท ซึ่งการขยายพันธุ์นั้น ใช้วิธี การขุดเอารากต้นเพกาเตี้ย ที่แข็งแรงแล้วมาตัดเป็นท่อน ยาวท่อนละ 2 นิ้ว ปักลง ในถุงเพาะช�ำ ที่มีส่วนผสมของดิน 1 ส่วน และแกลบ 3 ส่วน ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จะเริ่มแทงยอดออกมา และเมื่อถึงเดือนที่ 4 ก็เริ่มขายได้ วิธีการนี้จะท�ำให้ได้ พันธุ์เตี้ยแท้ ต่างจากการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ซึ่งมีโอกาส กลายพันธุ์สูงมาก ส�ำหรับวิธกี ารปลูกต้นเพกาเตีย้ ขุดหลุมลึกและกว้าง ประมาณ 20 คูณ 20 เซนติเมตร แต่ละต้นห่างกัน 2 เมตร เพกาเป็นพืชที่ไม่ค่อยชอบน�้ำมากนัก จึงควรหลีกเลี่ยง ปลูกในที่ชุ่มชื้น หรือมีน�้ำขัง เมื่ออายุได้ 4 เดือน ก็เริ่มให้ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 และปุ๋ยเร่งดอก นอกจากนี้ยังใช้น�้ำ หมัก จุลินทรีย์หน่อกล้วย ให้เป็นอาหารเสริมด้วย ส่วน

ปลูกเพกาเตีย้ ให้ ร่มเงากาแฟ แต่ กลายเป็ นรายได้ หลัก

นายวรรณะ - กันธิมา ศรีจน ั ทร์แก้ว

ยาฆ่าแมลงไม่ได้ใช้ เพราะเพกามีความขมเป็นเกราะ ป้องกันตัวเองอยูแ่ ล้ว เป็นพืชทีป่ ลูกง่าย ไม่ตอ้ งบ�ำรุงดูแล รักษามากนัก ต้นทุนต�ำ่ แต่ทำ� รายได้ให้มาก เมือ่ เทียบกับ การปลูกอ้อย ที่ยิ่งปลูก ก็ยิ่งเป็นหนี้ ในพื้นที่ 14 ไร่ ที่ตนปลูกพืชทั้งเพกาเตี้ย กาแฟ และ กล้วยน�ำ้ ว้า สามารถเก็บผลผลิตขายหมุนเวียนได้ตลอดทัง้ ปี รวมรายได้ปีละไม่ต�่ำกว่า 8 แสนบาท เกษตรกรทีส่ นใจปลูกเพกาพันธุ์ วอาร์โค้ด เตี้ย คุณวรรณะ ศรีจันทร์แก้ว เพืสแกนคิ ่อชมคลิปข่าวนี้ นางกันธิกา ศรีจันทร์แก้ว ยินดีให้ ค� ำ ปรึ ก ษา และเป็ น แหล่ ง เรี ย นรู ้ ศึกษาดูงาน ติดต่อได้ที่หมายเลข โทรศัพท์ 083-2905158.


หน้า 11

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

ยามาฮ่ า คลั บ ทั ว ร์ ร ง ่ ิ ทริ ป 2016 “รอยยิ้ม...ความสนุก...ความประทับใจ ของเหล่าบันดาสาวก YAMAHA” บริษทั พี.ซี.วาย เทรดดิง้ จ�ำกัด ร่วมกับ บริษทั ไทยยา มาฮ่าเมอเตอร์ จ�ำกัด ได้มอบความสนุกสนานกับกิจกรรม คาราวาน ทัวร์รงิ่ บนเส้นทางชุมแพ-หล่มสัก โดยกิจกรรม นี้ได้รวมกลุ่มสมาชิก Yamaha Caravan น�ำโดย Yamaha M-Slaz และYamaha ตระกูล R-Serie พร้อมด้วย Yamaha Clab รุน่ อืน่ ๆ ขับขีไ่ ปยังสวนรุกขชาตินำ�้ ผุดทัพ ลาว เพื่อร่วมปลูกป่าอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวของชาว อ.ชุมแพ กับบรรยากาศที่สวยงาม อากาศที่สดชื่น และร่วมท�ำกิจกรรมต่างๆกับทีมงาน หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกันมาตลอดทั้งวัน ก็ถึงเวลา แห่งความประทับใจ จุดนี้ทางทีมงานได้เลือกร้านอาหาร ในอ�ำเภอชุมแพเป็นสถานที่ meeting สังสรรค์ พร้อมร่วม ชมและเชียร์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขัน Moto Gp งานนี้เรียกเสียงแฮจากสมาชิกคลับทุกคน ขอบคุ ณ สมาชิ ก คลั บ ทุ ก ท่ า นที่ ไ ด้ เ ดิ น ทางมาร่ ว ม กิจกรรมดีๆที่ทางบริษัทฯได้จัดขึ้นนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โอกาสหน้ า เราจะมาร่ ว มกิ จ กรรมกั น อี ก ครั้ ง นะคะ ติดต่อข่าวสารของเราได้ที่ facebook พี.ซี.วาย เทรดดิ้ง จ�ำกัด.

แนะชาวสวนยางใช้กรดฟอร์มิกปลอดภัยกว่า นายวัฒนมงคล ทรัพย์มี เกษตร จังหวัดเลย กล่าวว่า เมือ่ ก่อนเกษตรกร ชาวสวนยางจังหวัดเลยผลิตยางแผ่น ดิบโดยใช้กรดฟอร์มิกผสมน�้ำยางเพื่อ ให้น�้ำยางจับตัวแล้วน�ำไปรีดให้เป็น แผ่น ซึง่ เกษตรกรต้องใช้ความละเอียด ความประณีตและต้องใช้เวลานานในการผลิต ผลผลิตทีไ่ ด้ มาจะมีมาตรฐานวัดที่ชัดเจน ปัจจุบันเกษตรกรได้เปลี่ยน มาเป็ น การผลิ ต ยางก้ อ นถ้ ว ยเกื อ บทั้ ง หมด เนื่ อ งจาก ประหยัดต้นทุนและเวลาในการผลิต ยิ่งกว่านั้นยังน�ำสาร ทีท่ ำ� ให้ยางจับตัวเร็วกว่ากรดฟอร์มกิ มาใช้ ท�ำให้เกิดความ เสียหายต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่น ได้ยางคุณภาพต�่ำไม่เป็นที่ ต้องการของโรงงาน ท�ำให้หน้ายางและเครือ่ งจักรเสียหาย เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางได้มีสุขภาพที่ดี

ยางมีคุณภาพ ต้นยางมีอายุการเก็บ เกีย่ วทีย่ าวนานและไม่เป็นอันตรายต่อ สิ่งแวดล้อม จึงขอเชิญชวนเกษตรกร ชาวสวนยางจังหวัดเลยใช้กรดฟอร์มิก ซึง่ เป็นกรดอ่อนสลายตัวง่ายไม่ตกค้าง ในแผ่นยาง มีความปลอดภัยค่อนข้าง สูง เนื้อยางจับตัวได้สมบูรณ์ ส่วนยางที่แห้งจะเหลืองสวย ไม่คล�ำ้ เนือ้ ยางแห้งเร็ว แน่นและยืดหยุน่ ดี ไม่มผี ลกระทบ ต่ อ คนและสั ต ว์ รวมทั้ ง อุ ต สาหกรรมการผลิ ต และสิ่ ง แวดล้อม หากเกษตรกรชาวสวนยางพารามีปัญหาเรื่องการ ผลิตยางพารา ขอเชิญเกษตรกรรับค�ำปรึกษาได้ทสี่ ำ� นักงาน เกษตรอ�ำเภอใกล้บ้านท่านหรือที่ส�ำนักงานเกษตรจังหวัด เลย โทรศัพท์ 042-811643 หรือทาง E-mail : loei@ doae.go.th

ลิ้นไม้

สรรพคุณ ต�ำรายาไทย ใช้เมล็ดต้มน�้ำดื่มแก้ไอและขับ เสมหะ ใช้เป็นยาระบาย เมล็ดแก่ มีรสขม เป็นยา ระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ เมล็ดแห้ง ท�ำน�้ำจับเลี้ยงแก้ ร้อนใน กระหายน�้ำ ฝักแก่ มีรสขมรับประทานได้ แก้ ร้อนในกระหายน�ำ้ ช่วยเจริญอาหาร ระงับไอ ฝักอ่อน มีรสขมร้อน ใช้เป็นยาขับลม ฝักแก่ มีรสขม แก้ร้อน ในกระหายน�้ ำ เปลื อ ก หรือแก่น ใช้เป็นยา แก้ ฟ กช�้ ำ และ น�ำไปเข้ากับยา อื่นหลายตัว แก้ น�้ ำ เหลื อ งเสี ย บ� ำ รุ ง เลื อ ด เป็ น ยาแก้ พิ ษ เปลือกต้น รสฝาด ขม เย็น ช่วยสมานแผล ดับพิษกาฬ แก้ร้อนใน แก้ท้องร่วง ท�ำให้น�้ำเหลืองเป็นปกติ ดับ พิษโลหิต แพทย์ในชนบทใช้ตำ� ผสมกับเหล้าโรงพ่นตามตัว สตรีที่ทนอยู่ไฟไม่ได้ให้ผิวหนังชา ต�ำผสมกับน�้ำส้ม มดแดง และเกลือสินเธาว์ กินเป็นยาขับลมในล�ำไส้ แก้บิด แก้อาเจียนไม่หยุด ต้มน�้ำกินเป็นยาขับเสมหะ แก้เสมหะจุกคอ ขับเลือดเน่าในเรือนไฟ บ�ำรุงโลหิต แก้บิด แก้จุกเสียด ฝนกับเหล้ากวาดปาก แก้พิษซางเม็ดสีเหลือง แก้ละออง แก้ซางเด็ก ทาแก้ปวดฝี แก้ฟกบวม ราก มีรสขมฝาด ใช้เป็นยา บ�ำรุงธาตุ แก้ทอ้ งร่วง แก้บดิ แก้ทอ้ งเสีย ขับเหงือ่ แก้ ไข้สันนิบาต ฝนกับน�้ำปูนใสทาแก้อักเสบฟกบวม ใบ มีรสฝาดขม ต้มน�้ำดื่มแก้ปวดท้อง เจริญอาหาร แก้ ปวดข้อ ราก รสฝาดขมร้อน เป็นยาบ�ำรุงธาตุ ท�ำให้ เกิดน�้ำย่อยอาหาร แก้ไข้สันนิบาต แก้ท้องร่วง ฝนกับ น�ำ้ ปูนใส ทาแก้บวมอักเสบ ทัง้ ห้า (ราก ล�ำต้น ใบดอก และผล ) มีรสฝาดขมเย็น เป็นยาสมานแผล แก้อกั เสบ ฟกบวม แก้ท้องร่วง แก้ไข้ แก้น�้ำเหลืองเสีย.


หน้า 12

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

ปัจจุบนั ภาษาอังกฤษกลายเป็นสิง่ จ�ำเป็นในการด�ำรง ชีวิตไปแล้ว ยิ่งหลังจากนี้ ประเทศไทยได้เข้าสู่ประชาคม อาเซียน การสือ่ สารด้วยภาษาอังกฤษจึงเป็นสิง่ ทีห่ ลีกเลีย่ ง ได้ยาก มิฉะนัน้ ประเทศจะล้าหลัง ตามเพือ่ น บ้านไม่ทนั เสียโอกาสในการแข่งขัน ทัง้ ด้าน เศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา ดังนัน้ หลายหน่วยงานด้านการศึกษาได้เห็นถึงความ ส�ำคัญ เร่งพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการปลู ก ฝั ง การเรี ย นรู ้ ปู พื้ น ฐานตั้ ง แต่ เ ด็ ก นักเรียนชั้นอนุบาล โรงเรียนบ้านท่าลี่ อ.ท่าลี่ จ.เลย เป็นอีกหนึ่งหน่วย งานที่เห็นความส�ำคัญของการการเรียนรู้ภาษาอังกฤษใน ระดับชั้นอนุบาล จึงได้ร่วมกับสมาคมครูผู้สอนปฐมวัย จังหวัดเลย ชมรมครูผสู้ อนภาษาอังกฤษเลยเขต 1 และ ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1 จัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารเสริมสร้างทักษะและเทคนิค การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ส�ำหรับครูผู้สอนปฐมวัย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 โดยมีนายสายรุ่ง ปลั่งกลาง รองผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษาเลยเขต 1 เป็นประธานพิธีเปิด

อบรมภาษาอังกฤษครูปฐมวัย นายสมัย พวงกันยา ผู้อ�ำนวยการ พิเศษ โรงเรียนบ้านท่าลี่ กล่าวว่า ในการจัดอบรม ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างทักษะ และเทคนิคการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษส�ำหรับครู ปฐมวัย สามารถน�ำไปใช้ในการบูรณาการ ออกแบบ กิจกรรมให้เหมาะสมกับผู้เรียน ตามกรอบนโยบายของ ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1 ซึ่ง ในกิจกรรมครัง้ นี้ ครูปฐมวัยต้นแบบอ�ำเภอท่าลีไ่ ด้รว่ มกับ สมาคมครูผู้สอนปฐมวัยจังหวัดเลย และชมรมครูผู้สอน ภาษาอังกฤษเลยเขต 1 ได้สนับสนุนทีมวิทยากร จิตอาสา ที่มีความรู้ความสามารถมาถ่ายทอดเทคนิคประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์กบั ครูผสู้ อนในระดับปฐมวัยอย่างมาก รวมถึงได้รับความอนุเคราะห์ คณะศึกษานิเทศก์จากกลุ่ม งานนิเทศติดตามและประเมินผล ส�ำนักงานเขตพื้นที่การ ศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1 มาเป็นวิทยากรด้วย โดย มีผู้เข้ารับการอบรมครั้งนี้มีจ�ำนวนทั้งสิ้น 36 คนซึ่งเป็นครู ผู้สอนในระดับปฐมวัยอ�ำเภอท่าลี่ นายสายรุ่ง ปลั่งกลาง รอง ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1 กล่าวว่า การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ของเด็ ก ในระดั บ ปฐมวั ย ถื อ เป็ น ความจ�ำเป็นอย่างยิ่ง หากได้รับ การปลูกฝังตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นก็ ส่งผลให้มีความช�ำนาญ เกิดทักษะ การสื่ อ สารภาษาอั ง กฤษได้ เ ป็ น อย่างดี ซึง่ ปกติแล้วครูทสี่ อนระดับ

รายงาน

นายจิตติศกั ดิ์ นามวงษา ผูอ้ ำ� นวยการ โรงเรี ย นนาแห้ ว วิ ท ยา อ.นาแห้ ว จ.เลย กล่ า วว่ า ตามที่ ส� ำ นั ก งานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้จัดท�ำโครงการระบบ บริหารเครือข่ายอัศวิน มอก. และโรงเรียนต้นแบบการเผย แพร่มาตรฐาน เพื่อคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และสิ่ง แวดล้อม ประจ�ำปี 2558 ซึ่งทีม“อัศวิน มอก. น.ว.ก๋อ” โรงเรียนนาแห้ววิทยา ได้ส่งโครงงานน�้ำดื่มบริสุทธิ์นาแห้ว วิทย์ เพือ่ คุณภาพชีวติ ความปลอดภัย และสิง่ แวดล้อม เข้า ร่วมประกวด และได้เป็นโรงเรียนต้นแบบการเผยแพร่ มาตรฐาน เพื่ อ คุ ณ ภาพชี วิ ต ความปลอดภั ย และสิ่ ง แวดล้อม ประจ�ำปี 2558 ส่งผลให้บุคลากรนักเรียน โรงเรียนนาแห้ววิทยา และประชาชนในเขตพื้นที่อ�ำเภอ

รายงาน

พิเศษ

‘อัศวิน มอก.’นาแห้ววิทยา

สพป.เลย 1 มอบบ้านให้เด็กยากไร้

สร้างจากรายได้การแสดงกายกรรมจีน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2559 นายรอง ปัญสังกา ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขตพื้นที่ การศึ ก ษาประถมศึ ก ษาเลยเขต 1 เป็ น ประธานพิธีมอบบ้านให้แก่เด็กหญิงปนัดดา ทองพราว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเพียซ�ำพุวิทยา อ�ำเภอเมืองเลย ตามโครงการบ้านน�้ำใจ สพป.เลย เขต 1 นายยืนยง ปาลี รองผู้อ�ำนวยการ ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เลย เขต 1 กล่าวว่า ตามที่ศึกษาธิการจังหวัด เลยได้เล็งเห็นความส�ำคัญในการสร้างโอกาส ให้กับนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนที่มีฐานะยากจนและ มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย ไร้ที่พึ่งจะต้องได้รับ ความช่วยเหลือ ดูแลเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ จึงได้จัดตั้ง กองทุนสนับสนุนช่วยเหลือนักเรียนในเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 1 โดยในรอบแรกได้จัดมหกรรม กายกรรมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ระดมเงินได้ 1,200,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วย เหลือนักเรียนทีย่ ากจน ไร้ทพี่ งึ่ ได้มบี า้ นเป็นของตนเองที่ แข็งแรงและปลอดภัย เพื่อสร้างความรัก ความอบอุ่น ให้ขวัญก�ำลังใจแก่นักเรียนที่ยากจนไร้ที่พึ่งให้มีคุณภาพ ชีวิตที่ดีขึ้น และเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่ นักเรียนทีย่ ากจน และไร้ทพี่ งึ่ ให้มคี วามก้าวหน้าทางด้าน

ปฐมวัยไม่ได้เรียนจบ ด้านภาษาอังกฤษมา โดยตรง การ ถ่ายทอดความรู้ไปสู่ เด็ ก อาจท� ำ ได้ ไ ม่ มี ประสิ ท ธิ ภ าพดี นั ก ทางส� ำ นั ก งานเขต พื้ น ที่ ก า ร ศึ ก ษ า ประถมศึ ก ษาเลย เขต 1 จึ ง ต้ อ งให้ ความส�ำคัญกับเรือง ปั ญ หานี้ เ ป็ น พิ เ ศษ จึ ง ไ ด ้ จั ด ก า ร ฝ ึ ก นายสมัย อบรมครั้งนี้ขึ้น เพื่อ นายสายรุง่ ปลัง่ กลาง ให้มีเทคนิคใหม่ๆ ที่ จะน�ำไปสอนเด็กซึ่งถือเป็นแห่งที่ 3 ในเขตแล้วที่ได้ด�ำเนิน การฝึกอบรม นางกนกกร บุญเติม นายกสมาคมครูผสู้ อนปฐมวัย จ.เลย กล่าวว่า การศึกษาต้องเริ่มระดับปฐมวัย ไม่ว่าจะ เป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เริม่ เรียนรูป้ ฏิสมั พันธ์กบั เพือ่ น ถ้าไปเริม่ เรียนตอน ป.5 ถือว่าช้าไป หากเด็กได้เรียนรูต้ งั้ แต่ 3-5 ขวบ จะถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมมาก โดยมีคณะผู้ เชี่ยวชาญน�ำโดยคุณวิจิตรา บุษบา ที่จบด้านการเขียน หลักสูตรภาษาอังกฤษมาโดยเฉพาะ ได้กำ� หนดรูปแบบการ เรียนการสอนให้เหมาะสมของแต่ละชัน้ ซึง่ จากการติดตาม หลังการฝึกอบรมมาแล้ว 3 อ�ำเภอ ปรากฏว่า เห็นความ เปลีย่ นแปลง เด็กนักเรียนชัน้ ปฐมวัยมีการใช้ภาษาอังกฤษ

การศึกษา ประกอบอาชีพที่สุจริต เป็นคนดีของชุมชน และสังคม ส�ำหรับการให้แก่เด็กหญิงปนัดดา ทองพราว ครั้ง นี้ ส�ำเร็จลงได้ด้วยความร่วมมือจากผู้ปกครอง ผู้น�ำ ชุมชนและนายก อบต. คณะครู และผู้บริหารโรงเรียน กลุ่มคุณภาพการศึกษาดินด�ำน�้ำสวย หัวหน้าส่วน ราชการทั้งภาครัฐ และเอกชน ผู้ใหญ่ใจดี ตลอดจนผู้มี จิตศรัทธาที่ได้ให้ความเมตตาช่วยเหลือ และสนับสนุน ในการสร้างบ้านนักเรียนครั้งนี้ จนส�ำเร็จลุล่วงไปด้วยดี นับเป็นหลังที่ 15 ในระยะที่ 2 ซึ่งก�ำหนดไว้ที่ 16 ส่วน ระแรกได้ด�ำเนินก่อสร้างและส่งมอบแล้วจ�ำนวน 14 หลัง.

นาแห้วและพื้นที่ใกล้เคียง มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง มาตรฐาน ตระหนักถึงความส�ำคัญ และประโยชน์ของการ มาตรฐาน มาตรฐานน�้ำบริโภค ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และการรักษา สิ่ ง แวดล้ อ ม ที ม อั ศ วิ น มอก. น.ว.ก๋อ จึงได้น�ำหลักการและ กิจกรรมดังกล่าว มาพัฒนาต่อ ยอด เพือ่ ให้เกิดประโยชน์สงู สุด และมีความยั่งยืนในท้องถิ่น น า ง ส า ว ธัญญรัศท์ สุภษร ค รู ที่ ป รึ ก ษ า โครงการ กล่าวว่า จากการเข้ า ร่ ว ม การประชุมก�ำนัน ผู ้ ใ ห ญ ่ บ ้ า น หั ว ห น ้ า ส ่ ว น ราชการ อ� ำ เภอ นาแห้ว จังหวัดเลย ประจ�ำเดือนกันยายน และตุลาคม 2558 นั้น ท�ำให้ทราบว่าอ�ำเภอนาแห้ว มี นโยบายพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น เพื่อรองรับ จ�ำนวนนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือ แหล่งท่องเที่ยวในอ�ำเภอ นาแห้ว บางแห่งถูกละเลยไม่เห็นคุณค่า ขาดการดูแลเรือ่ ง ความสะอาด ภูมทิ ศั น์ สภาพสิง่ แวดล้อมโดยทัว่ ไป และสิง่ อ�ำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ ได้รับความนิยมมาก ได้แก่ ผาหมวก ผาหนอง น�้ำตกตาด เหือง (น�้ำตกมิตรภาพไทย-ลาว) น�้ำตกคิ้ง น�้ำตกช้างตก น�้ำตกวังตาด น�้ำตกธารสวรรค์ (อยู่ด้านหลังโรงเรียน นาแห้ววิทยา) พระธาตุดนิ แทน วัดศรีโพธิช์ ยั บ้านแสงภา วัดโพธิ์ชัย บ้านนาพึง เมื่อจ�ำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ปัญหาที่ตามมา คือ สภาพสิ่งแวดล้อมที่ทรุดโทรมลง ปริมาณขยะทีเ่ พิม่ ขึน้ โดยผูว้ า่ ราชการจังหวัดเลย ได้มนี โย บายรณรงค์สร้างความเข้าใจ สร้างจิตส�ำนึกในการรักษา ความสะอาด ไม่ทิ้งขยะมูลฝอย รักษาความเป็นระเบียบ เรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนโยบายการพัฒนาแหล่งท่อง เที่ยวในท้องถิ่น ของอ�ำเภอนาแห้ว และนโยบายรณรงค์

พวงกันยา

นางกนกกร บุญเติม

นางจำ�นง ศรีมงั กร

ที่ดีขึ้น และจะจัดการฝึกอบรมต่อไปให้ทั่วถึงทั้งจังหวัด นางจ�ำนงค์ ศรีมังกร ผู้บริหารโครงการภาษา อังกฤษเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1 กล่าว ว่า เราเห็นว่า การเรียนการสอนภาษาอังกฤษน่าจะเริม่ ต้น มาตั้งแต่ปฐมวัย หลังจากที่เราได้ด�ำเนินการอบรมไปแล้ว สองรุ ่ น ที่ อ.เชี ย งคาน กั บ อ.ปากชม ได้ เ ห็ น ความ เปลี่ยนแปลง คือ ครูผู้สอนมีความ กระตือรือร้น ตื่นตัวมากขึ้น น�ำความ สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อชมคลิปข่าวนี้ รู้ที่ได้ไปสอน และนักเรียนก็มีความ สุข สนุกสนานทีไ่ ด้เรียนภาษาอังกฤษ ส่งผลให้ผลการเรียนออกมาเป็นที่ พอใจอย่างยิ่ง. สร้างความเข้าใจ สร้างจิตส�ำนึกในการรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะมูลฝอย รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของ บ้านเมือง ของผู้ว่าราชการจังหวัดเลย จะช่วยท�ำให้แหล่ง ท่องเที่ยวตลอดจนมีสิ่งแวดล้อมที่ดีเกิดขึ้นในท้องถิ่นและ ด�ำรงไว้ได้อย่างยั่งยืนต่อไป ทีมอัศวิน มอก. น.ว.ก๋อ ได้เล็งเห็นและตระหนักถึง ความส� ำ คั ญ ของการมาตรฐาน และมาตรฐานด้ า นสิ่ ง แวดล้อม ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาและรักษาแหล่ง ท่องเที่ยวในท้องถิ่นให้ยังคงอยู่และยั่งยืน ตลอดจนช่วย เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัยในชีวิต และมี สิ่งแวดล้อมที่ดีเกิดขึ้นแก่ประชาชนในท้องถิ่น รวมทั้ง สามารถรักษา ปรับปรุง และพัฒนาด�ำรงไว้ให้คงอยู่อย่าง ยั่งยืนสืบไป ทีมอัศวิน มอก. น.ว. จึงได้มีการจัดท�ำโครง งานอัศวิน มอก. น.ว. ร่วมใจพัฒนา รักษาแหล่งท่องเที่ยว ในท้องถิน่ เพือ่ เป็นการเผยแพร่ให้ความรู้ ตระหนักถึงความ ส�ำคัญ และประโยชน์ของเรื่องการมาตรฐาน มาตรฐาน ด้านสิ่งแวดล้อมแก่สมาชิกในเครือข่ายและชุมชนต่อไป โดยโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากร นักเรียน โรงเรียนนาแห้ววิทยาและชุมชน มีความรู้ความเข้าใจและ ตระหนักถึงความส�ำคัญเรื่องการมาตรฐาน และมาตรฐาน ด้านสิ่งแวดล้อม ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ความ ปลอดภัย และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อเสริม สร้างให้เยาวชนในท้องถิน่ ใช้ความรูด้ า้ นการมาตรฐานและ มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ความคิดสร้างสรรค์ ความเป็น ผู้น�ำ ในการจัดท�ำกิจกรรมเครือข่าย เพื่อประโยชน์ของ ตนเอง และประโยชน์ ส าธารณะ และเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ต่อไปได้ และเพื่อส่งเสริมให้เกิดความ สัมพันธ์ระหว่างเครือข่ายเยาวชน โรงเรียน และชุมชน โดย ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆของโครงงานอัศวิน มอก. น.ว. ร่วมใจพัฒนา รักษาแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น ส�ำหรับการด�ำเนินโครงการนี้ได้มีกิจกรรมรณรงค์ ปลุกจิตส�ำนึกให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นหลากหลายรูป แบบ เช่น จัดกิจกรรมเสียงตามสาย ประชาสัมพันธ์ให้ ความรู้ เรือ่ งการมาตรฐาน มาตรฐานด้านสิง่ แวดล้อม และ การอนุรกั ษ์แหล่งท่องเทีย่ วในท้องถิน่ , การจัดนิทรรศการ เคลื่อนที่ให้กับโรงเรียนระดับประถมศึกษา ในเขตพื้นที่ อ�ำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย จ�ำนวน 4 โรงเรียนโดยการ บรรยายให้ความรู้ การแสดงละคร เกีย่ วกับ การมาตรฐาน และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนีย้ งั มีการจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนพิทกั ษ์ปา่ รักษาแหล่งต้นน�ำ้ เพือ่ สิง่ แวดล้อมทีด่ ี และการพัฒนาแหล่ง ท่องเที่ยวต่างๆด้วย.


ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

หน้า 13


หน้า 14 ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษเลย (อพท.5) ได้ด�ำเนิน งานโครงการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการการท่อง เที่ ย วอย่ า งยั่ ง ยื น และสร้ า งความร่ ว มมื อ ของภาคี เครือข่ายในการพัฒนาพืน้ ทีพ่ เิ ศษ ในโครงการนีไ้ ด้จดั กิจกรรมน�ำร่องเพื่อสร้างความร่วมมือและเชื่อมโยง โครงข่ายเส้นทางการท่องเทีย่ วส�ำคัญในอ�ำเภอหนอง หินขึ้นในวันที่ 3-4 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา โดย สร้างสรรค์เส้นทางและโปรแกรมเชื่อมโยงแหล่งท่อง เที่ ย วส� ำ คั ญ และมี ค วามเป็ น เอกลั ก ษณ์ เ ฉพาะ ประกอบด้วย คุนหมิงเมืองเลย หรือสวนหินผางาม ฟูจิเมืองเลย หรือ ภูป่าเปาะ สวนสวรรค์ และถ�้ำ พระโพธิสัตว์ โดยอาจเรียกได้ว่า โครงข่ายเส้นทาง ท่องเที่ยว “หนองหิน : อุทยานทางธรณี” โดยมี แนวคิดว่า หากเชือ่ มโยงความน่าสนใจของทุกแห่งเข้า ด้วยกัน จะท�ำให้นักท่องเที่ยวได้รับความหลากหลาย จากการท่องเทีย่ ว ขณะเดียวกันท�ำให้นกั ท่องเทีย่ วใช้ เวลามากขึน้ กระจายการท่องเทีย่ วมากขึน้ รวมไปถึง การมีวันพักแรมในแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลดีต่อ การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนในท้องถิ่นจากการท่อง เที่ยวที่พัฒนาขึ้น กิ จ กรรมนี้ ไ ด้ ช ่ ว ยส่ ง เสริ ม ศั ก ยภาพด้ า นการ บริหารจัดการท่องเทีย่ วอย่างเชือ่ มโยงในพืน้ ทีน่ ำ� ร่อง อ�ำเภอหนองหิน ทีค่ รอบคลุมด้านการสร้างการมีสว่ น ร่วมในการจัดการการท่องเทีย่ วร่วมกันของภาคีเครือ ข่ายในการพัฒนาพื้นที่พิเศษเลย ทั้งในกลุ่มชุมชน กลุ่มมัคคุเทศก์ ผู้ประกอบการ หน่วยงานท้องถิ่น จากข้อมูลทางธรณีวิทยาได้สันนิษฐานว่า เทือก เขาหินปูนนี้เดิมเป็นทะเล ชายฝั่งที่ติดต่อกับทวีป ระดับตืน้ ถึงค่อนข้างลึก เริม่ แรกเกิดจากการสะสมตัว ของตะกอนจากทะเล เช่น เศษปะการัง เปลือกหอย ซากพืช ซากสัตว์ถูกท�ำลายและถูกกระแสน�้ำพัดเข้า ชายฝัง่ มารวมกับตะกอนทีถ่ กู ชะล้างพัดพามาจากพืน้ ทวีป และจากตะกอนที่สะสมทับถมกันมาเป็นเวลา นาน ท�ำให้ปริมาณตะกอนมีจ�ำนวนมาก น�้ำหนัก มหาศาล แล้วเกิดการ กดอัดแน่นเป็นหินปูนแผ่น มหึมาตามรอยต่อของทวีป ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก หินปูน ในบริเวณนี้ถูกดันตัวยกขึ้นเมื่อประมาณ 255 ล้านปี ในอดีต แล้วผ่านกระบวนการผุกร่อนจากลม แดด ฝน และแตกหักพังจากแผ่นดินไหว การสั่นสะเทือนของ แผ่นดินหลายครั้งมาเป็นเวลานาน จึงท�ำให้ภูเขา หินปูนโดยรอบมีลักษณะขรุขระสวยงามแปลกตา แตกต่างจากภูเขาทั่วๆ ไป นอกจากลักษณะสัณฐาน แล้ว ในหลายบริเวณยังมีความแปลกพิสดาร คือ ภายในเทือกเขามีถำ�้ เล็กและถ�ำ้ ใหญ่ มากกว่า 400 ถ�ำ้ นอกจากนี้ ในบริเวณหุบเขายังมีป่าดิบแล้งและป่า เบญจพรรณ ที่คงความอุดมสมบูรณ์ สวนหินผางาม สวนหินผางามเป็นเทือกเขาหินปูนขนาดใหญ่ น้อยกระจายทั่วบริเวณในพื้นที่ เขาหินปูนเหล่านี้มี ลักษณะเป็นผาหินรูปทรงแปลกตา จนได้รบั การขนาน นามว่าเป็นคุนหมิงเมืองไทย “สวนหินผางาม” สถาน ที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “คุนหมิงเมืองไทย” เกิด จากกระบวนการผุพงั ทางธรณีวทิ ยา ตามเส้นทางเดิน ภายในสวนหินมีหินปูนรูปร่างต่างๆ เนื่องจากการ กร่อนของหินปูนโดยน�้ำฝน เช่น รูปร่างคล้ายดวงตา ข้ า งเดี ย ว รู ป ร่ า งคล้ า ยหนามแหลม สะพานหิ น ธรรมชาติ ท�ำให้เกิดลักษณะเอกลักษณ์แปลกตา มีชอื่ ตามจินตนาการของผู้พบเห็น เช่น ผาอินเดียนแดง อะเมซิ่งไทยแลนด์ (ผาตาเดียว) ผาช้างร้องไห้ ผา กระต่าย ถ�้ำส่องดาว (มีลักษณะเป็นช่องโพรงเหนือ ศีรษะ) ช่องสรีระ (ช่องแคบ) หินเต่า เป็นต้น สวนสวรรค์ สวนสวรรค์เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติภูเขา หินปูนที่มีความซับซ้อนและมีความสวยงาม โดยมี พรรณไม้ตามธรรมชาติทงั้ ดอกไม้ พืชสมุนไพรและไม้ หายากที่พบเฉพาะถิ่น ภายในถ�้ำมีหินงอกหินย้อย สามารถเข้าไปเที่ยวชมธรรมชาติอันมหัศจรรย์ของ เทือกเขาหินปูน เหมาะส�ำหรับการเดินท่องเทีย่ วและ การผจญภัย มีระยะทางทั้งสิ้น 500 เมตร ระหว่าง

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

แนะน�ำเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยว หนองหิน : อุทยานทางธรณี

“มหัศจรรย์แห่งภูผา สวนหินผางาม-ถ�้ำโพธิสัตว์-ภูป่าเปาะ-สวนสวรรค์”

สวนหินผางาม

ถ�ำ้ โพธิสต ั ว์

ภูปา่ เปาะ

สวนสวรรค์

สวนหินผางาม

ถ�ำ้ โพธิสต ั ว์

ทางจะพบกับพืชพันธุ์ทนแล้งบนเขาหินปูนนานาชนิด ท่ามกลางโขดหิน ตะปุ่มตะป�่ำของป่าหินปูน และมีจุด ชมวิวที่มองเห็นท้องฟ้ากว้างมีบรรยากาศราวกับสวน สวรรค์

360 องศา และแต่ละองศาทีม่ องก็จะมีทศั นียภาพทีแ่ ตก ต่างกันออกไป ทั้งภูเขาส�ำคัญๆ เช่น ภูกระดึง ภูหลวง ภูหอ สวนหินผางาม หรือสภาพพืน้ ทีร่ าบทีม่ กี ารปลูกข้าว งามสะพรั่ง และทัศนียภาพของทะเลหมอก

ภูป่าเปาะ ภูป่าเปาะ อยู่ที่บ้านผาหวาย ยอดภูป่าเปาะอยู่สูง จากระดับน�้ำทะเลปานกลาง 910 เมตร ด้วยสภาพ ธรรมชาติทสี่ วยงาม บนยอดภูมสี ภาพอากาศทีเ่ ย็นสบาย ภูป่าเปาะ นักท่องเที่ยวที่ได้ยินชื่อหรือได้มาเยือนภูป่า เปาะ จะได้รับรู้และประทับใจในวิวทิวทัศน์ของภูหอซึ่ง เป็ น มุ ม มองจากภู ป ่ า เปาะ ซึ่ ง ในบางเวลาที่ มี ห มอก ปกคลุมจะมีทัศนียภาพคล้ายภูเขาฟูจิในญี่ปุ่น อันเป็น ที่มาของชื่อ “ฟูจิเมืองเลย” นอกจากนี้ยังมีคุณค่าและ ความน่าสนใจของภูมลิ กั ษณ์ทแี่ ปลกตาจากบนยอดภูปา่ เปาะเป็นภูเขายอดปลายตัด เป็นที่ราบเล็กๆ ท�ำให้ผู้ที่ อยูบ่ นยอดภูปา่ เปาะ สามารถมองทัศนียภาพโดยรอบได้

ถ�้ำพระโพธิสัตว์ ถ�ำ้ พระโพธิสตั ว์มลี กั ษณะเป็นโตรกผา และสวนหิน สวยงามแปลกตาเช่นเดียวกับสวนหินผางาม แต่พื้นที่มี ขนาดเล็กกว่านักท่องเที่ยวจึงนิยมมาเที่ยวกันน้อยกว่า สวนหินผางาม จากลานจอดรถข้างวัดถ�้ำโพธิสัตว์จะมี เส้นทางเดินไปตามป่าเบญจพรรณประมาณ 300 เมตร จึงถึงเชิงเขาทางเข้าถ�้ำโพธิสัตว์ ผ่านโพรงถ�้ำที่แบ่งออก เป็นคูหามากมาย มีลกั ษณะเป็นผนังหินขรุขระซึง่ แต่ละ คูหามีชื่อเรียกและสิ่งน่าสนใจที่แตกต่างกัน นอกจากแหล่งท่องเที่ยวส�ำคัญเหล่านี้แล้ว ยัง สามารถท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติ เช่น น�้ำตก เพียงดิน น�ำ้ ตกสวนห้อม และแหล่งท่องเทีย่ วชุมชน

ที่บ้านผาหวาย เป็นต้น เส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยว หนองหิน : อุทยานทางธรณี จึงเป็นทางเลือกใหม่ในการเดิน ทางท่องเที่ยวส�ำหรับผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวใน บรรยากาศธรรมชาติและวัฒนธรรม ของความ มหัศจรรย์แห่งภูผา ในช่วงฤดูหนาวที่จะถึงนี้ เพื่อ ทดลองสัมผัสกับการท่องเที่ยวตามวิสัยทัศน์ของ การพัฒนาพืน้ ทีพ่ เิ ศษเลยทีก่ ำ� หนด ไว้วา่ “เมืองน่า พักผ่อนและเรียนรูป้ ระสบการณ์ทอ่ งเทีย่ วเชิงนิเวศ เอกลักษณ์ วัฒนธรรมท้องถิน่ การพัฒนาทีย่ งั่ ยืน สู่ คุณภาพระดับสากล” ผูส้ นใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิม่ เติม ได้ที่ : ศูนย์บริการการท่องเที่ยวสวนหินผางาม (คุณเล็ก) : โทรศัพท์ 085 752 7007 ส� ำ นั ก งานพื้ น ที่ พิ เ ศษเลย (คุณแก๊ส) : โทรศัพท์ 095 664 6806


หน้า 15

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559

เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ ได้ยืนบนเวทีนี้ และฝนก็มี ที่ ผ ่ า นมา มี ข ่ า วดี ว ่ า ความมัน่ ใจว่าจะได้รบั รางวัล น.ส.เพ็ญประกาย เทียงโงก ใดรางวังหนึ่งแน่นอน เพราะ หรือ “ฝน” นักกีฬาเพาะกายหญิงของไทยไป คนที่ได้รองแชมป์ ในรายการที่ฝนได้แชมป์ เขา คว้าแชมป์ทรี่ ฐั แอริโซนา สหรัฐอเมริกา ซึง่ ถือเป็น เคยได้อันดับสามในรายการโอลิมเปียมาแล้ว ดัง ผูห้ ญิงไทย และเอเชียคนแรกทีไ่ ด้รบั รางวัลนี้ จน นั้นเราต้องกลับไปเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ได้ รั บ การจั บ ตามองจากวงการเพาะกายโลก เลยไทม์พลัสนิวส์ : อะไรที่คิดว่าเป็นจุดเด่น

หลังจากนั้นสองปีหลังก็ไปเรียนวิทยาศาสตร์การ กีฬาที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามจนจบปริญญา ตรี แล้วเข้าท�ำงานในฟิตเนสที่ จ.ชลบุรี ตอนปี พ.ศ.2552 (ค.ศ.2009) ขณะนั้น ท�ำงานเป็นครูฝกึ อยูฟ่ ติ เนสทีพ่ ทั ยา แรกๆก็แค่ อยากมีซิกแพก แต่เล่นแล้วรู้สึกว่าชอบ เพราะ ท�ำให้ดูแข็งแรง สุขภาพดี และในปีถัดมาก็เข้า

ส ุ ในโลก แหงอ.นาด วง ่ ด “ฝน”สาวกลามงามที ้ ้ ่

พ่อ-แม่

เพราะปกติ สรีระร่างกายของหญิงชาวเอเซียนั้น เมื่อเทียบกับชาวยุโรปหรือแอฟริกันนั้นยากที่จะ เอาชนะได้ในกีฬาประเภทนี้ ข่าวชิ้นนี้ ยิ่งดีขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อหญิงแกร่ง รายนี้เป็นชาวอ�ำเภอนาด้วง จ.เลย นี่เอง สร้าง ความภาคภูมใิ ห้แก่ครอบครัว น�ำชือ่ เสียงมาสูบ่ า้ น เกิดเมืองนอน ทีมงานเลยไทม์พลัสนิวส์ ไม่รอช้า รีบเดิน ทางไปสัมภาษณ์ “ฝน” สาวกล้ามสวยทีส่ ดุ ในโลก วัย 34 ปี ที่บ้านเลขที่ 264 หมู่ 4 บ้านแสงเจริญ ต.นาด้วง อ.นาด้วง จ.เลย เลยไทม์พลัสนิวส์ : ความรูส้ กึ หลังได้แชมป์ รายการนี้ ฝน : รู้สึกดีใจมากที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะ เป็ น ผู ้ ห ญิ ง เอเชี ย คนแรกที่ ท� ำ ได้ และแชมป์ รายการนี้ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรายการมิส โอลิมเปียโดยอัตโนมัติ ซึง่ ถือว่าเป็นรายการใหญ่ ที่สุดในโลก มีเพียง 30 คน ในโลกนี้เท่านั้นที่จะ

ที่ชนะใจกรรมการจนสามารถคว้าแชมป์รายการ นี้มาครอง ฝน : จริงๆแล้ว กีฬาที่ก�ำลังเล่นนี้ ไม่ได้ถึง ขั้นเพาะกาย ในวงการเรียกว่า รุ่นวูเม่นฟิสิกส์ กล้ามเนื้อจะไม่ใหญ่เท่ากับเพาะกาย รายการนี้ กรรมการเขาจะดูความสมบูรณ์ของกล้ามเนื้อ ความแห้งของกล้ามเนื้อ ความสมดุลของกล้าม เนื้อ ดูลีลาการโชว์บนเวที ว่าเรามีความมั่นใจ ขนาดไหน รวมถึงการแต่งตัว หน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส ทุกอย่างคิดเป็นคะแนนหมด เลยไทม์พลัสนิวส์ : เริ่มเล่นกีฬาเพาะกาย ตั้งแต่เมื่อไหร่ ฝน : เดิมทีก็เป็นคนชอบออกก�ำลังกายอยู่ แล้ว ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กประถมที่ร.ร.ชุมชน บ้ า นนาด้ ว ง และระดั บ มั ธ ยมต้ น -ปลาย ร.ร.นาด้วงวิทยา ก็เป็นนักกรีฑา วิ่งระยะกลาง ตัวแทนโรงเรียนมาโดยตลอด หลังจากเรียนจบ ม.6 ก็เข้าเรียนต่อทีว่ ทิ ยาลัยพลศึกษามหาสารคาม

แข่งขันเป็น ค รั้ ง แ ร ก รายการชิง แชมป์ ประเทศไทย ก็ได้รางวัลชนะ เลิ ศ เลย หลั ง จากนั้นจึงเริ่มเล่น อย่างจริงจังมาโดย ตลอด ขึ้นสู่ระดับอาชีพ ตะเวน แข่งขันรายการต่างๆของสหพันธ์ เพาะกายนานาชาติ (International Federation of Bodybuilding and Fitness : IFBB) จัดขึน้ ส่วนใหญ่อยูใ่ น สหรั ฐ อเมริ ก า เพื่ อ เก็ บ คะแนนสะสมคัดเลือกผูท้ ี่ คะแนนดีทสี่ ดุ หรือแชมป์ ของแต่ละรายการเข้าไป แข่งในระดับมิสโอลิมเปีย เพียง 30-40 คน ซึ่งถือว่า เป็นรายการใหญ่ที่สุด ที่เป็น ความไฝ่ฝันของนักเพาะกายทั่ว โลกอยากขึน้ ไปยืนบนเวทีนี้ และ ในครั้งนี้ฝนก็ท�ำได้ส�ำเร็จ เลยไทม์พลัสนิวส์ : มีการ เตรี ย มความพร้ อ มอย่ า งไร บ้าง ฝน : เริ่มตั้งแต่การหมั่นฝึก ซ้ อ ม ควบคุ ม การอาหารที่ มี ประโยชน์ ต้องมีโปรตีน และไข มั น ดี ไม่ มี ส ่ ว นผสมของ คาร์โบไฮเดรตกินวันละ 6 มื้อ ยกเว้นวัน อาทิตย์ จะกินอะไรก็ได้ที่ต้องการ ที่ส�ำคัญ การเล่นกีฬาประเภทนี้ต้องมีวินัย ต้องอดทน ต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ เลยไทม์พลัสนิวส์ : สังคมภายนอกมองผู้ หญิงเล่นเพาะกายดูนา่ กลัว และดูไม่เป็นผูห้ ญิง เต็ม 100% จริงหรือไม่ ฝน : ส�ำหรับฝนเองแล้ว ขอยืนยันว่าเป็นผู้ หญิงแท้ๆ ปัจจุบันก็แต่งงานมีครอบ ครัวแล้ว ที่ เล่นเพาะกาย เป็นความชื่นชอบส่วนตัว ดูแล้ว เป็นผู้หญิง healthy ดี เลยไทม์พลัสนิวส์ : ผลตอบแทนทีไ่ ด้รบั จาก การเล่ น กี ฬ าชนิ ด นี้ จ นประสบความส� ำ เร็ จ มี อย่างไรบ้าง

ฝน : ก่อนอืน่ ก็คอื สุขภาพ แข็ ง แรง สามารถ ประกอบอาชี พ ได้ ป ั จ จุ บั น ฝ น เ ป ิ ด ฟิตเนสชื่อ “สยาม บาร์ เ บล” ตั้ ง อยู ่ เลขที่ 77/27 หน้า ห มู ่ บ ้ า น เรื อ นภิ ษ า ถนน ชัยพรวิถี ต.หนอง ปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สามารถ มีรายได้ส่งเงินมา จุ น เจื อ ครอบครั ว พ่อแม่อยู่ที่บ้านท�ำ ไร่ ท�ำนา มีฐานะ ยากจน พี่ ช ายก็ ประสบอุบตั เิ หตุเสียชีวติ เมือ่ 10 ปีทแี่ ล้ว ฝนกลาย เป็นก�ำลังหลักของครอบครัว ปัจจุบัน พ่อแม่ก็ไม่ ล�ำบากมากแล้ว ตอนเป็นเด็กจ�ำได้ว่าครอบครัวเรายากจน พ่อกับแม่ต้องท�ำไร่ท�ำนาส่งฝนกับพี่ชายเรียน หนังสือ เมื่อถึงหน้าแล้ง พ่อ-แม่ก็จะเข้ากรุงเทพ ไปท�ำงานก่อสร้าง ส่วนฝนก็ช่วยแม่ทุกอย่าง ทั้ง ท�ำไร่ ท�ำนา ท�ำงานก่อสร้าง เพื่อช่วยแบ่งเบา ภาระพ่อแม่ เมื่อจบ ม.6 แม่ก็ให้เลือกเอาว่าจะ เรียนต่อหรือจะออกมาท�ำงาน ฝนเป็นคนชอบ เรียนหนังสืออยู่แล้ว ก็ขอแม่เรียนต่อ ซึ่งแม่ก็ไม่ ได้บังคับ เล่นกีฬาก็สนับสนุนด้วยดีมาตลอด

ข้อมูลจำ�เพาะ น.ส.เพ็ญประกาย เทียงโงก หรือ “ฝน” เกิดเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2525 ที่บ้านแสงเจริญ ต.นาด้วง อ.นาด้วง จ.เลย , ส่วนสูง 168 ซ.ม. , น�้ำหนัก 68 ก.ก. , งานอดิเรกชอบ ช้อปปิ้ง ดูหนัง , อาหารที่ชื่นชอบ คือ ส้มตำ� ไก่ย่าง และสเต๊กเนื้อ , คติประจำ�ใจ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน.

สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อชมคลิปข่าวนี้


หน้า 16

ฉบับที่ 63 ปีที่ 6 ประจ�ำเดือนตุลาคม 2559


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.