หนังสือพิมพ์ Builder News ปี​ี่ที่ 7 ฉบับที่ 175 ปักษ์หลัง เดือนมิถุนายน 2554

Page 33

นโยบายธนาคารชาติบังคับให้มีเงินมัดจำบ้าน 5% คอนโด 10% เพราะกลัวว่าถ้าปล่อยให้กู้กันไม่รู้จักการออมมาก่อนก็ จะเหมือน Hamburger ท้ายสุดก็นโยบายทิ้งทวนกู้ 0% 2 ปี บ้านหลังแรกไม่เกิน 3 ล้านบาท หันมาดูนโยบายเลือกตัง้ คราวนีท้ เี่ ริม่ มีเสียงปีเ่ สียงกลอง เริ่มติดป้ายหาเสียงกันถ้วนหน้า ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทีน่ า่ สนใจคือมีพรรคการเมืองส่งผูเ้ ข้ารับสมัครคราวนี้ 40 พรรค มีทั้งพรรคใหญ่ 2 พรรค แข่งกัน ระหว่างรูปหล่อ นายกอภิสิทธิ์ กับสาวนักการเมืองใหม่เปิดกล่อง นามสกุล ชินวัตร น้องสาวอดีตนายกเดิม พรรคกลางอีก 3-4 พรรค ที่เหลือเป็นพรรคเล็กพรรคน้อย การหาเสียงด้วยนโยบาย ครั้งนี้ก็มีคุณภาพมากขึ้น แข่งกันเสนอนโยบายให้กับประชาชนเลือกที่มีหาเสียง ยุคเดิมก็มีที่เน้นตัวบุคคล มีป้าย หาเสียงในรอบแรกๆ เช่น ของ ดร.ปุระชัย เช่น รักษ์โลก เลือกพรรครักษ์สันติ คนอ่านป้ายก็ไม่เข้าใจว่านโยบายเชิงปฏิบัติเป็นอย่างไร หรือสไตล์คุณชูวิทย์ก็เลือกบุคคล หรือ ไม่ก็ No Vote เพราะไม่ชอบเสือ สิงห์ กระทิง แรด ดังนั้น ป้ายหาเสียงรอบแรก (การหาเสียงผ่ายป้าย ผ่านนโยบาย ผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ หรือทางโทรทัศน์) และ รอบต่อๆ ไป คงจะตามมาเป็นระลอกๆ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ป้ายหาเสียงก็จะโดนใจผู้เลือก ยกเว้นจะซื้อเสียง ซึ่งไม่

นโยบายหาเสียงเลือกตั้ง 2554 กับ อสังหาฯ

ครบรอบเลือกตั้งใหญ่อีกครั้ง ปี 2554 รัฐบาลนายกอภิสิทธิ์หมดเทอมลงแล้ว พร้อมทั้งทิ้ง ผลงานที่ประชาชนชอบและไม่ชอบไว้ให้รัฐบาลชุดหน้ามาบริหารต่อไป ก่อนจะหมดเทอม ทุก รัฐบาลจะต้องปิดท้ายหรือส่งท้ายกัน ด้วยการอนุมัติโครงการต่างๆ ตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้ คราวนี้ก็เช่นกัน ประชุม ครม. นัดหลังๆ สื่อก็เรียกกันว่าเป็นการทิ้งทวนนโยบาย การทิ้งทวน ที่ดังและเกี่ยวข้องกับอสังหาฯ ก็คือ อนุมัติให้คนชั้นกลางและชั้นล่างที่ซื้อบ้านหลังแรกไม่เกิน 3 ล้านบาท กู้ ธอส. ดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 2 ปี และค่าธรรมเนียมการโอนก็ออกให้ครึ่งหนึ่ง ซึ่ง มีทั้งกระแสตอบรับ และกระแสท้วงติงว่า จะรู้อย่างไรว่าบ้านหลังแรกหรือเปล่า และดูเหมือน ว่างบ 25,000 ล้านบาท จาก ธอส. จะไปกระจุกตัวที่ลูกค้า ธอส. หรือไม่ กลับมาดูนโยบายเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยของชาติ ทุกชาติ จะต้องมีนโยบายที่อยู่อาศัยเพื่อประชาชนทั้งสิ้น เพราะเป็น ทั้งปัจจัย 4 ของชีวิตคนทุกคน อีกทั้งที่อยู่อาศัยเป็นสินค้า สั งคมที่ รัฐ จะต้อ งดู ให้คนเบี้ยน้อยหอยน้อยได้มีที่อยู่ตาม อัตภาพและได้รบั การช่วยเหลือจากรัฐ มิฉะนัน้ ถ้าประชาชน ไม่สามารถจะเป็นเจ้าของหรือมีที่อยู่อาศัยถาวรได้ ความ มัน่ คงของรัฐของสังคมก็จะสัน่ คลอน แม้ในอเมริกาประเทศ ที่รวยที่สุดในโลกเป็นรัฐเน้นเสรีทุนนิยมสุดขั้ว ก็ยังต้องลง มาดูให้ประชาชนทุกคนได้เข้าถึงความสามารถทีจ่ ะซือ้ บ้านได้ วิธกี ารก็จะเน้นการจัดทำเงินให้ประชาชนกูซ้ อื้ บ้าน ดอกเบี้ย ถูก กู้ระยะยาวให้ทุกคน และใน 3 ปีที่ผ่านมาการปล่อยกู้ ซื้อบ้านก็หละหลวมมาก ปล่อยให้สถาบันการเงินที่มีเงิน หมุนเวียนมากมายเอามาปล่อยกู้อย่างไม่มีข้อกำหนด ไม่มี เครดิตพอจะใช้คืนได้ก็ปล่อยกู้ ดอกเบี้ยก็ 0% มิหนำซ้ำยัง ปล่อยให้มีการปล่อยกู้โดยไม่ต้องชำระเงินคืนล่วงหน้า 2-3 ปี และจะกู้กี่หลังก็ได้ จึงเกิดการเก็งกำไร ปั่นราคาบ้านกัน ทั่วอเมริกา คนจนกู้คนละ 3 หลัง อยู่เอง 1 หลัง เอาไป

เช่า 1 หลัง เก็งกำไรอีก 1 หลัง พอดอกเบีย้ ลอยตัวขึน้ ราคาที่ดินบ้านตกลง คืนไม่ได้ เป็นหนี้กันทั่วหน้า สถาบัน การเงินอเมริกาก็เจ๊งทั้งระบบ ล้มละลายกันเรียกกันว่าเป็น โรค Hamburger เหมือนกับที่ไทยล้มละลาย ปี 2540 ที่ เรียกกันว่าเป็นโรคต้มยำกุ้ง ทุ ก ประเทศต้ อ งลงมาดู น โยบายที่ อ ยู่ อ าศั ย ทั้ ง สิ้ น ประเทศด้อยพัฒนา เช่น ไทยในอดีต ประเทศลาตินอเมริกา เช่น บราซิล ประเทศแอฟริกา คนจนเยอะมาก คนส่วนใหญ่ อยู่ในสลัม หรือที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย คุณภาพชีวิตเลว ต่ำกว่ามาตรฐานมาก เวลาจะเลือกตั้ง นักการเมืองก็จะ ต้องมาหาเสียงกับคนส่วนใหญ่ หรือคนจนของประเทศ คน ในสลัมเหล่านีแ้ หละทีจ่ ะเป็นคะแนนทีส่ ำคัญ ดังนัน้ นโยบาย ทีอ่ ยูอ่ าศัยช่วยเหลือคนจนส่วนใหญ่ จึงเป็นนโยบายทีส่ ำคัญ ในการหาเสียงทุกครั้ง ในอดีตสมัยเลือกตั้ง นายกทักษิณก็มีนโยบายจัดหาที่ อยู่ให้กับผู้มีรายได้น้อย แปลออกมาเป็นนโยบายบ้านเอื้อ อาทรที่มีดี ทั้งนโยบายและมีจุดอ่อนที่เป็นช่องทางคอรัปชั่น กันจนบัดนี้ ยังมีนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำด้วยการ จัดหาเงินกูซ้ อื้ บ้านให้กบั ข้าราชการดอกเบีย้ ต่ำ มีการกระตุน้ เศรษฐกิจด้วยการลดภาษีการโอน ทัง้ บ้านคนจนและคนรวย มีนโยบายแก้หนี้เสียด้วยการสร้างองค์กรขึ้นมารองรับหนี้ เสีย NPL เช่น ปรส. หรือ บสท. บรรษัทบริหารสินทรัพย์ ของไทย จนสามารถใช้อสังหาฯ กระตุ้นเศรษฐกิจตกต่ำได้ ผลมาแล้ว รัฐบาลชุดนายกอภิสิทธิ์ก็เช่นกัน มีนโยบายออก มาเป็นระลอก ที่ต้องชะลอการล้นตลาดของคอนโด ก็ออก

สนใจอะไรเลย นอกจากจำนวนเงินที่จะได้ ซึ่งก็รู้กันอยู่ว่า อยู่เขตนอกๆ ในชนบทที่ประชาชนมีโอกาสน้อยที่จะใช้ วิจารณญาณของตนเอง ทั้งรายได้น้อย ดังนั้น เงินไม่มา กาไม่เป็น ก็ยังปรากฏอยู่ในหลายพื้นที่ของประเทศ นโยบายอะไรที่จะต้องลงมาเน้นให้เห็น คงจะแยกได้ว่า ความต้องการของประชาชนชนบทกับในกรุงไม่เหมือนกัน แต่เนือ่ งด้วยในชนบทไม่คอ่ ยจะสนใจนโยบาย สนใจตัวบุคคล กับระบบแรกเสียง แต่ในกรุงนั้นนโยบายสำคัญยิ่ง นโยบาย คนกรุงที่มีผู้รู้ มีการศึกษา มีรายได้สูง จะต้องทำการบ้าน ให้ดีว่าเขามีปัญหาอะไร จะแก้อย่างไรในด้านการเมือง คือ การทะเลาะเบาะแว้งกันไม่รู้จบ ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ต่อมาก็เรื่องการเดินทางสัญจร นโยบายขนส่งมวลชนจึง ปรากฏเกือบทุกพรรค นโยบายสิ่งแวดล้อมเดิมสำคัญ เดี๋ยวนี้เป็นรองความขัดแย้งในสังคม นโยบายที่อยู่อาศัย ของคนจนเมืองที่ต้องการที่อยู่เป็นอีกนโยบายที่คนในกรุง ต้องการเห็น โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง เรา คงต้องดูการหาเสียงต่อๆ ไปว่า แต่ละพรรคจะกลั่นกรอง นโยบายออกมาให้จับต้องได้ และให้ถูกใจช่วยแก้ไขปัญหา ประชาชนได้แค่ไหน มิใช่ออกมาบอกว่าเลือกหนุ่มหล่อสาว สวย เลือกดารา นักกีฬา ดาราหนัง แล้วคนกรุงจะเลือก ลองดูกันต่อไปอย่างใกล้ชิดใน 1 เดือนนี้ คงจะได้ ศึกษานโยบายทีก่ ลัน่ กรองออกมาเป็นรูปธรรมมากขึน้ นะครับ ขอให้ทุกพรรคโชคดี ทำงานเพื่อส่วนรวมให้มากๆ และอย่า เอาเปรียบสังคมเลย ขอให้โชคดีครับ

33


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.