นิธิ นิธิวีรกุล 121
ต่ อ ม าใ นรั ช ส มั ย ข องส มเด็ จ พ ระบรมไ ตรโลกน าถ พระเจ้าติโลกราชแห่งเมืองเชียงใหม่ได้ยกทัพมาตีเมือง หน้าด า่ นทางตอนเหนือข องอยุธยาในเขตลมุ่ แ ม่นำ้ ย มและ แม่น้ำน ่าน มีค วามในพระราชพงศาวดารระบุว่า “ศักราช 813 มแมศก (พ.ศ.1994) ครั้งนั้นมหาราช มาเอาซากังราวได้แล้ว จึ่งเอาเมืองศุกโขไท เข้าปล้นเมือง มิได้ กเลิกทักก ลับคืน” มหาราชในพงศาวดารก็คือพระเจ้าติโลกราชนั่นเอง และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ปรากฏชื่อเมืองนี้ในเอกสาร หลั ง จากนั้ น ไ ม่ มี ก ารก ล่ า วถึ ง เ มื อ งช ากั ง ร าวอี ก เ ลย จนกระทั่งสิ้นอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา แล้วไฉนชากังราวถึงกลายมาเป็นกำแพงเพชร? สมเด็ จ พ ระเจ้ า บ รมว งศ์ เ ธอ กรมพ ระยาด ำรง ราชานุภาพ ได้ทรงนิพนธ์ไว้ในพระราชพงศาวดารฉบับ พระราชหัตถเลขาว่า “ข้ า พเจ้ า ไ ด้ ต รวจส อบแ ผนที่ เ ข้ า กั บ เ รื่ อ งที่ มี ม าใ น พระราชพงศาวดาร เห็นว่าเมืองชากังราวจะเป็นเมืองอื่น นอกจากเมืองกำแพงเพชรทุกวันนี้ไม่ได้” โดยกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงเทียบเคียง กับสภาพเป็นจริงทางภูมิศาสตร์ นอกจากนั้นยังทรงพบ ชื่อเมืองชากังราวในกฎหมายตราสามดวง พระไอยการ ลักพา ที่กล่าวถึงเมืองชากังราวไว้คู่กันกับกำแพงเพชรว่า