264 พฤฏษศาสตร์
พลาสซึมของเซลล์ หลังจากนั้นสารที่เป็ นตัวพานี้ กจ็ ะกลับมาที่เยือ่ หุ ม้ เซลล์เพื่อทำาหน้าที่รับไอออนจาก ภายนอกเซลล์ใหม่อีก 2.2.2 ทฤษฎี ATPase ของการขนย้ายไอออน ทฤษฎีน้ ีได้เสนอโดยฮอดเจส (Hodges) ใน ปี 1973 กล่าวว่า ATPase เป็ นเอนไซม์ที่ทาำ ให้ ATP เปลี่ยนเป็ น ADP พร้อมกับปลดปล่อยพลังงานออก มาเพื่อใช้ในการขนย้ายไอออนผ่านเยือ่ หุ ม้ เซลล์ ก
า
ร ลำา เ ลี ย ง แ ร่ ธ า ตุ อ า ห า ร ำ การลำาเลียงเกิดขึ้นพร้อมกับการลำาเลียงน้าโดยผ่ านไปทางไซเล็มขึ้นสู่ ส่วนบนของพืช โดยใช้วิธี การเดียวกับการลำาเลียงน้าำ ได้แก่ แรงดึงแคพิลลารี่ การแพร่ ของแร่ ธาตุอาหาร และแรงดึงจากการคายน้าำ ำ นวิธีที่เชื่อว่าเป็ นวิธีที่ทาำ ให้เกิดการลำาเลียงแร่ ธาตุอาหารได้มากที่สุดเช่นเดียว ซึ่งแรงดึงจากการคายน้าเป็ กั บ ก า ร ลำา เ ลี ย ง น้าำ ำ 1. การลำาเลียงสารอินทรี ย ์ น้าตาลซู โครสที่ได้จากกระบวนการสังเคราะห์แสงจะถูกลำาเลียงไปใช้ ยังส่ วนต่างๆของพืชทางโฟลเอ็ม ซึ่งมีทิศทางการลำาเลียงเกิดขึ้ นทั้งขึ้นและลง ส่ วนการลำาเลียงทางด้าน ำ ข้างเกิดขึ้นน้อยมาก อัตราความเร็ วของการลำาเลียงทางโฟลเอ็มจะช้ากว่าการลำาเลียงน้ าทางไซเล็ มมาก ก า ร ลำา เ ลี ย ง ที่ เ กิ ด ขึ้ น มี ก ล ไ ก ก า ร ลำา เ ลี ย ง ดั ง นี้ 1.1 สมมติ ฐ านว่ า ด้ว ยการไหลเวี ย นของไซโทพลาซึ ม (cytoplasm streaming hypothesis) กล่าวคือ จะมีการลำาเลียงอันเนื่องมาจากการไหลเวียนของไซโทพลาซึมภายในเซลล์ ซึ่งมีอตั ราความเร็ ว ตั้งแต่ 2-3 มิลลิเมตรต่อชัว่ โมง จนถึงหลายร้อยมิลลิเมตรต่อชัว่ โมง การไหลเวียนของไซโทพลาซึ มจะ เกิดอยูต่ ลอดเวลา และมีหลายทิศทางในเซลล์เดียวกัน และอาจมีการไหลเวียนสวนทางกันด้วย ทั้งนี้ข้ ึน กับความเข้มข้นของสารที่อยูภ่ ายในเซลล์ การลำาเลียงนี้ จะเกิดขึ้นช้ามาก และเกิดในเซลล์ที่มีชีวิตเท่านั้น ำ ถ้า เซลล์ข องโฟลเอ็ม ตายลง การลำา เลี ย งจะหยุ ด ลงเช่ น กัน ซึ่ ง ต่ า งจากการลำา เลี ย งน้าทางไซเล็ ม 1.2 สมมติ ฐ านว่ า ด้ว ยการไหลที่ เ กิ ด จากแรงดัน (Munch pressure flow hypothesis) หรื อ สมมติฐานการไหลของมวลสาร (mass flow hypothesis) กล่าวคือ เกิดการลำาเลียงสารอาหารเนื่องมาจาก ความแตกต่างของค่าชลศักย์ระหว่างแหล่งผลิตอาหาร (source) กับแหล่งที่ ตอ้ งการสารอาหาร (silk) ทำาให้เกิดการผลักดันสารละลายที่อยู่ในใบลงมาสู่ ลาำ ต้นและรากทางท่ออาหาร ซึ่ งการไหลเวียนของ ำ ่เกิดขึ้นโดยอาศัยแรงดึงเนื่ องจากการคายน้าำ สารละลายในโฟลเอ็มจะสัมพันธ์กบั การเคลื่อนที่ของน้าที แ ล ะ ก า ร ห มุ น เ วี ย น ข อ ง น้าำ ใ น พื ช ด้ ว ย ำ การลำาเลียงอินทรี ยส์ ารของพืชเริ่ มจากเซลล์ในชั้นมีโซฟิ ลล์ของใบมีการสร้างน้าตาลกลู โคสจาก กระบวนการสังเคราะห์แสง กลูโคสจะแพร่ เข้าสู่เซลล์รอบๆเส้นใบซึ่งล้อมรอบด้วยโฟลเอ็ม และเปลี่ยน ำ เป็ นน้าตาลซู โครสก่อนเข้าเซลล์ท่อลำาเลียงอาหารซึ่ งเป็ นองค์ประกอบหนึ่ งของโฟลเอ็ม การเคลื่อนที่ ำ ของน้าตาลซู โครสเข้าเซลล์ท่อลำาเลียงอาหารนี้ มีการเคลื่อนที่โดยวิธีใช้พลังงาน ATP จากกระบวนการ