Mellow_issue_4

Page 43

Human Resources

คำ�ว่า “ศิลปะ” ไม่ได้ถูกจำ�กัดไว้ด้วย รูปแบบตายตัว มันสามารถปรับให้เข้ากับทุกสิ่ง ได้เสมอ แค่ลองทำ�หลายๆแบบ อย่าหยุดนิ่ง เรียนรู้ตลอดเวลา เราสามารถใช้ศิลปะทำ�อะไร ได้มากมาย ใช่ว่าศิลปินจะไส้แห้งซะทุกคน

จี๊ป ภาสินี คงเดชะกุล หญิงสาวที่หลายคนอิจฉาเธอเพราะงานที่เธอทำ�คืองานอดิเรกที่เธอรัก ตั้งแต่เด็กจนโตเธออยู่กับศิลปะมาโดยตลอด ผลงานของเธอก็เป็นที่รู้จักและชื่นชอบของเด็กไทยอยู่ ไม่น้อย ด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ บวกกับจินตนาการสุดสร้างสรรค์ ทำ�ให้อะไรที่เป็นเธอ ก็ คืออะไรที่พวกเรารักนั่นเอง การได้ทำ�ในสิ่งที่ตัวเองรัก ไม่สามารถสำ�เร็จได้เสมอไป หากไม่ทุ่มเทกับมันจริงๆ อย่าแค่เพียง พูดว่าคุณรักแต่จงลงมือทำ�ให้ได้รู้ว่าคุณรักมันจริงแค่ไหน ทำ�ให้สุดฝีมืออย่านึกถึงแต่ผลของมัน เพราะความสุขมันอาจจะอยู่ในช่วงของการกระทำ�มากกว่าปลายทางก็เป็นได้

วัยเด็กของ Jeep :: ก็เป็นเด็กธรรมดา ไม่ค่อยชอบเรียนหนังสือเท่าไหร่ จะ ชอบวาดรูปมากกว่า ตอนเด็กก็จะอาศัยอยู่ตามห้างบ่อยเพราะ ที่บ้านมีร้านรองเท้าเปิดอยู่ในห้าง ก็จะเดินเล่นอยู่ในแผนก ของเล่นเพลินเลย ความฝันตอนเด็ก :: เราไม่ได้มีอาชีพในฝันนะ แต่ที่เรียกว่าฝันสูงสุดตอนนั้นคือ การได้เรียนศิลปะที่ศิลปากร เพราะเราแทบไม่รู้อะไรอย่างอื่น เลยนอกจากศิลปะ Idol ในดวงใจ :: เราจะชอบเเบบคนที่เคยร่วมงานกัน เคยรู้จักกันมากกว่า แต่ ไม่ได้มองเค้าเป็นต้นแบบซะทั้งหมด แค่หยิบจากตรงนั้นของ เขามาใส่ของเรา อย่างละนิดอย่างละหน่อย อย่างตอนทำ�ที่ Flynow ก็มีคุณสมชาย ส่งวัฒนา เจ้าของ Flynow ก็เอา สิ่งดีๆที่เค้าสอนมาเก็บไว้ ตอนฝึกงานที่ แพรว ก็เจอพี่แมน stylist เราก็เอาส่วนดีๆที่เป็นเค้ามาปรับใช้กับเรา ที่มาของแรงบันดาลใจ :: ทุกอย่างรอบตัวมันใช่แรงบันดาลใจหมดเลยนะ การเดิน ทางท่องเที่ยวไปพบสิ่งใหม่ๆ พบเจอผู้คน ฟังเพลง ดูหนัง สิ่งของต่างๆ ทั้ง ตู้ เตียง ก็ใช่นะ ระบุความให้มันชัดไม่ได้ จริงๆ มันต้องได้พบและสัมผัส ณ เวลานั้นๆ มันก็ทำ�ให้ชีวิต เราดำ�เนินต่อไปในทิศทางต่างๆ ตัวตนที่แท้จริงของ Jeep :: เราเป็นคนเฉยๆนะ แต่ถ้าคนไม่สนิทจะบอกว่าเราน่ากลัว เพราะหน้านิ่งมันเลยดูโหดมั้ง เราจะมีช่องว่างระหว่างกัน นิดนึงกับคนแปลกหน้าจะไม่ได้สนิทกับใครง่ายๆซะทีเดียว แต่ ถ้าสนิทแล้วเราจะสนุกมากเลยนะ ตลกด้วย คุยได้ทุกเรื่องเลย style การเเต่งตัว :: แล้วแต่ช่วงแล้วแต่อารมณ์นะ จะเป็นแนว mix&match จับ โน่นผสมนี่ จะไม่หวานมากเพราะบุคลิกเราไม่ได้หวานขนาดนั้น เราเป็นคนผมหยักศก ใส่แว่นด้วย พอใส่อะไรไปนิดมันก็ดู เยอะเลย เราก็เลยใส่แบบเรียบๆ แต่ถ้าจะใส่เยอะก็เยอะแบบ

สุดๆไปเลยนะบางที เสื้อผ้าที่มีในตู้ก็โทน ขาว เทา ดำ� มุมมองแฟชั่นของเด็กสมัยนี้ :: ถ้าเอาทั่วไปส่วนใหญ่ที่เจอเลยนะ ค่อนข้างตามกระแส เห็น ดาราใส่อะไร แป๊บเดียวก็มีของก็อปออกขายใส่กันทั่วบ้านทั่ว เมือง เห็นบ่อยก็พวกผมลอน ต่อขนตา ใส่big eye ชุดผ้า ชีฟอง เยอะมากเลย แต่บางคนที่มีคาแรคเตอร์ เค้าก็แต่งของ เค้าออกมาได้น่าดูดี ดูมีเรื่องราวเฉพาะให้น่าสนใจมากกว่าอะไร ที่เป็นแพทเทิร์นเหมือนๆกัน ทำ�ไมถึงรักศิลปะ :: จริงๆทุกคนรักศิลปะหมดแหละ ที่เราชอบศิลปะก็เพราะเรา ทำ�อะไรอย่างอื่นไม่ได้แน่ และเราก็มีความสุขกับมัน อยู่ได้นาน ที่สุดแล้ว ถ้าถามว่าทำ�งานกี่วัน ตอบได้เลยว่า ทุกวันจริงๆ ไม่ ค่อยว่างเท่าไหร่ พอว่างเราก็วาดรูปเล่นอยู่ดี จนไม่รู้อะไรงาน อะไรเล่น มันมีความสุขเหมือนกันเลย เหมือนเราทำ�งานอดิเรก ศิลปะมันถูกฝังไปทุกอย่างที่ทำ�จนไม่รู้ตัวหรอกว่าชอบหรือไม่ ชอบ แต่ไปทำ�อย่างอื่นคงไม่ไหว คิดว่าการเป็นศิลปินนี่ไส้แห้งจริงไหม มันเลี้ยงชีพได้จริง รึเปล่า :: สำ�หรับเรามันได้นะ มันแล้วแต่ว่าคนเราต้องการมากน้อยแค่ ไหน มันก็เหมือนกันทุกอาชีพแหละนะ มันขึ้นอยู่กับว่าเงินเข้า มาเท่าไหร่เเล้วใช้ไปเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าทำ�อะไรหรอกนะ ถ้าจะทำ� มันจริงๆมันอยู่ได้อยู่แล้ว ศิลปะมันแปรรูปได้มากมายเลย เปรียบเทียบศิลปะไทยกับเมืองนอก :: จริงๆก็ไม่ได้รู้มากนะเพราะไม่ได้จบเมืองนอกมา แต่เท่าที่ เคยไปเที่ยวมาก็พอบอกได้ว่า ต่างมาก ของเมืองนอกค่อน ข้างอิสระกว่าเยอะ มีจินตนาการที่ล้ำ�มาก ส่วนของไทยจะมีข้อ จำ�กัดเยอะมาก และขั้นตอนคิดงานก็ต่างกัน การมองผลงาน ก็ต่างกัน ของเค้า เวลาออกแบบชิ้นงานสักชิ้นเขาคิดค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ ค่าหนังสือที่เค้าอ่าน ค่าอุปกรณ์ รวมเข้ามาในราคาที่ ออกแบบ แต่ของไทยนี่อะไรที่จับต้องไม่ได้เค้าจะไม่นับเลยนะ เรียกเงินค่าออกแบบได้น้อยกว่าอะไรที่จับต้องได้ เช่นเอาโลโก้ ไปทำ�ป้าย ไทยก็ไปทุ่มเงินตรงตัวป้ายแต่โลโก้นี่ไม่สนใจเท่าไหร่

นี่แหละที่ต่างมากจากเมืองนอก และที่เมืองนอกออกจากบ้าน ก็เจอmuseumแหละ เด็กๆนี่ก็ได้ดูงานศิลปะดีๆ ส่วนของไทย ออกจากบ้านมาไกลแค่ไหนถึงจะได้ดูอะไรดีๆบ้าง มันต่างกันที่ รากเหง้าเลยก็ว่าได้ ที่มาของลายเส้นเอกลักษณ์ที่คนรู้จัก :: มันเป็นความบังเอิญมากเลยนะ ช่วงนั้นเป็นดีไซเนอร์อยู่ที่ flynow งานยุ่งมากเราต้องเหนื่อยกว่าคนอื่นนิดนึงเพราะไม่มี ความรู้ด้านแฟชั่นเลย ต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ช่วงนั้นต้องรอเค้า ขึ้นแบบเสื้อ เรามีเวลานิดนึง มันคันมืออยากวาดรูปมาก ก็เลย ยืมสีเมจิกพี่มาวาดเล่นๆ เร็วๆ แบบ quick sketch เราไม่ ได้คิดมาว่าเราจะวาดแบบนี้ ใช้สีแบบนี้ ทุกอย่างมันมีอยู่แค่นั้น จริงๆ เหมือนเพลงบลู ที่เกิดจากคนดำ�ที่แต่งจากความกดดัน เราก็คล้ายๆกัน มันออกมาเอง คิดงานไม่ออกทำ�ยังไง :: คิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิด ออกไปเที่ยวเล่น ไปดูหนังฟังเพลง ไม่ก็นอนไปเลย หัวว่างก็คิดออกเอง ไปตะบี้ตะบันคิดก็ไม่ ออกอยู่ดี ถึงออกก็ไม่ดีหรอก คนอื่นอาจบอกว่าสวยแต่เรารู้ อยู่ว่ามันไม่ดีหรอก ชีวิตที่ได้ทำ�งานอดิเรกเป็นอาชีพ เป็นยังไงบ้าง :: ก็เพลินดีนะ จริงๆมันทุกอาชีพแหละไม่ได้จำ�กัดแค่ศิลปะที่ จะมีความสุขเท่านั้น ถ้าชอบมัน เราก็จะไม่รู้สึกเหมือนไม่ได้ ทำ�งานอยู่ อย่างทนายชอบว่าความเค้าก็มีความสุขของเขา เราได้ทำ�อะไรที่เรารักเราถนัด มันก็ไม่มีวันเบื่อ ทำ�ได้ทุกวัน ถ้า ถามว่างานอกิเรกทำ�อะไร ก็ทำ�งานนี่แหละ เหมือนกัน งานกราฟฟิกในเชิงธุรกิจ :: งานกราฟฟิกมันมีอยู่ทุกที่เลยนะ เมื่อ2-3ปีก่อนจะค่อน ข้างบูมมาก เมืองไทยนี่จะฮิตเป็นพักๆ เป็นช่วงๆ อะไรมาก็ ทุ่มความสนใจไปหมด มันก็อยู่ที่ว่าศิลปะจะไปอยู่บนอะไรช่วง ไหน แบบถ้าฮิตกระเป๋า ก็จะได้เห็นกราฟฟิกมากมายบนนั้น เสื้อผ้าก็มี หนังสือ ทุกอย่างมันมีศิลปะ มีกราฟฟิกร่วมด้วย เสมอ มันต้องคู่กัน เหมือนถ้ากระดาษมันแย่มาก แต่เรามีโลโก้ มีลายที่ดีมาก มันก็จะดูดีขึ้นมา มันช่วยได้มากเลยนะ

2014 JANUARY.FEBRUARY /

MELLOW

43


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.