เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ : หนทางกลับ

Page 1


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 : หนทางกลับ 天师执位 : 归途

ฝานลั่ว 樊落 เขียน อิ๋งอิ๋ง แปล Copyright © 2009 by 樊落 (Fanluo) Thai Language Edition © 2017 by Bakerybook Publishing through Tuttle-Mori Agency Co., Ltd. สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558 เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ 978-616-7477-37-4 พิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 2560 ราคา 270 บาท บรรณาธิการเล่ม : OhM ภาพปก : Leila ศิลปกรรม : Pancat รูปเล่ม : BOOKCREATION จัดพิมพ์และจัดจำ�หน่ายโดย ห้างหุ้นส่วนสามัญ เบเกอรี่บุ๊ค 77/12 ซอยประชาอุทิศ 75 แยก 10 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 ฝ่ายขาย : 086-534-0240 ฝ่ายบรรณาธิการ : 082-796-6696 http://www.bakerypublishing.com bakerybook@hotmail.com http://www.facebook.com/Bakerypublishing ขอขอบคุณฟอนท์สวยๆ จาก www.f0nt.com


ตอน หนทางกลับ

1

ดึกสงัด รถสปอร์ตสีแดงคันหนึ่งก�ำลังพุ่งตัวไปบนถนนอย่างบ้าคลั่ง ในช่วง เวลาที่ไร้ผู้คนและยวดยานสัญจรเช่นนี้ เป็นเวลาอันเหมาะเจาะส�ำหรับการ แข่งรถซิ่ง น่าเสียดายที่เบาะนั่งข้างคนขับปราศจากสาวงาม จึงไร้ซึ่งเสียง หวานๆ ที่จะชื่นชมเทคนิคการขับรถของเขา คิดแล้วน่าเบื่อชะมัด! เนี่ยรุ่ยถิงเอื้อมมือไปหยิบกระป๋องเบียร์จากถุงพลาสติกของร้าน สะดวกซื้อที่เพิ่งซื้อมาเมื่อครู่ เปิดฝาแล้วยกขึ้นกระดกลงคอไปหลายอึก เขา ปรับเสียงเพลงแจ๊สหวานนุ่มให้ดังขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับกดเท้าเหยียบคันเร่ง บังคับรถสปอร์ตคันหรูให้พุ่งทะยานไปข้างหน้าราวกับติดปีก ขับไปด้วย ดื่มไปด้วย ช่างเป็นความรื่นรมย์อย่างเหลือแสน แต่จู่ๆ กระป๋องเบียร์ซึ่งอยู่ในช่องวางแก้วก็โยกไหวไปมา จากนั้นก็ค่อยๆ ลอยขึ้น หมุนวนอยู่กลางอากาศหลายตลบ ก่อนจะพุ่งตัวทะลุกระจกรถ ปลิวออกไป 1


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ภายนอก “Shit!” เนี่ยรุ่ยถิงเหลียวมองกระจกรถที่ปราศจากร่องรอยความเสียหาย และกระป๋องเบียร์ทหี่ มุนวนอยูก่ ลางอากาศอีกหลายตลบก่อนจะร่วงหล่นลง ในถังขยะอย่างแม่นย�ำ ชายหนุม่ หันขวับกลับมายกนิว้ กลางใส่ทนี่ งั่ ว่างเปล่า ข้างกายอย่างไม่ใส่ใจในภาพลักษณ์ นี่มันปรากฏการณ์วิญญาณหลอนชัดๆ ชิ! คิดว่าเขาจะตกใจงั้นเหรอ หลายเดือนที่ผ่านมา เขาพบเจอ ปรากฏการณ์วิญญาณหลอนมาแล้วทุกรูปแบบ... ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนที่อย่างผิดธรรมชาติของวัตถุต่างๆ หรือการ ทีจ่ ๆู่ วัตถุกล็ อยตัวขึน้ อย่างเป็นปริศนา พอเจอบ่อยครัง้ เข้า จากทีเ่ คยขีข้ ลาด ตาขาวก็กลายเป็นใจกล้าขึน้ มาเพราะเหลืออด ครัง้ นีเ้ นีย่ รุย่ ถิงจึงไม่ลงั เลทีจ่ ะ หันไปตะคอกใส่มวลอากาศข้างกาย “เจ้าผีอัปลักษณ์เอ๊ย! นายเล่นพอรึยัง ชดใช้เบียร์กระป๋องนั้นให้ฉัน ด้วย ไม่งนั้ ละก็ ฉันจะให้นกั พรตมาก�ำจัดวิญญาณของนายให้แตกดับไปซะ!” “ขับรถห้ามดื่มเหล้า!” น�้ำเสียงกระจ่างใสที่แสนจะเย็นชาของชายหนุ่มดังสะท้อนอยู่ใน ห้องโดยสารภายในตัวรถ ไม่น่ากลัว...แค่เจือด้วยความรู้สึกเย็นเยือกเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเหตุการณ์เช่นนีเ้ กิดขึน้ เมือ่ หลายเดือนก่อน เนีย่ รุย่ ถิงคงตกใจจน เป็นลมล้มพับ แต่หลังจากต้องต่อกรกับวิญญาณเฮี้ยนที่เกาะติดเขาราวกับ ลูกอ่อนมานานวัน ความกลัวก็หมดไป ตอนนีเ้ ขาอ่านเกมเจ้าผีบา้ นีอ่ อกหมด แล้ว ที่แท้เจ้าผีตัวนี้ก็แค่ท�ำวางท่าข่มขู่เขาเป็นครั้งคราวเท่านั้น ถ้าจะเทียบ 2


ตอน หนทางกลับ เป็นเปอร์เซ็นต์แล้วก็ต้องบอกว่า เขาดุกว่าผีเยอะ! “แล้วนายยุง่ อะไรด้วยไม่ทราบ! เจ้าผีอปั ลักษณ์เฮงซวย ไปเกิดใหม่ ได้ก็ไม่ยอมไป เอาแต่ตามรังควานฉันอยู่ได้ นี่! ฉันจะบอกให้นะ ไม่ว่านาย จะอ้อนวอนยังไง ก็อย่าหวังว่าฉันจะเผากงเต๊กให้นายแม้แต่ใบเดียว!” ถ้ า เนี่ ย รุ ่ ย ถิ ง มี เ นตรหยิ น หยาง เขาจะสามารถมองเห็ น ได้ ว ่ า มี ชายหนุม่ ผมเงินผูห้ นึง่ ซึง่ สวมชุดข้าหลวงในยุคโบราณนัง่ อยูข่ า้ งๆ และเพราะ ค�ำพูดพล่อยๆ ของตน ใบหน้าเยือกเย็นของชายหนุม่ ผูน้ นั้ จึงส่องประกายแสง สีขาวซีด ท�ำให้รอยแผลเป็นบนหน้าผากดูเด่นชัดขึน้ กว่าเดิม ดวงตาเรียวยาว คู่นั้นหรี่ลงเล็กน้อย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าความฉุนเฉียวใกล้จะระเบิดตัว ออกมาแล้ว! น่าเสียดายที่เนี่ยรุ่ยถิงมองไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ จึงยังพ่นค�ำพูดต่อว่า ต่อขานไม่ยอมหยุด “เฮ้! นายคงไม่ได้อัปลักษณ์จริงๆ ใช่ไหม ถ้างั้นท�ำไมถึงไม่กล้าโผล่ หน้าออกมาละ หึ! แต่จะว่าไปก็ไม่แปลกหรอก อยู่กับหนุ่มหล่อแถมยังรวย สุดๆ แบบฉัน น้อยคนนักที่จะไม่รู้สึกว่าตัวเองต�่ำต้อย แต่ถ้านายตายเพราะ กระโดดตึกหรือถูกรถชน ไม่สิ ไม่สิ เอาเป็นว่าถ้านายตายด้วยสาเหตุอะไร ก็ตามทีไ่ ม่ใช่ตายตามธรรมชาติ ก็ไม่ตอ้ งเสนอหน้ามาให้ฉนั เห็นเลย แน่นอน ว่าฉันไม่ได้กลัวนายหรอกนะ! แต่ถ้าท�ำให้คนอื่นตกใจมันก็คงจะไม่ดีใช่มั้ย ล่ะ...” ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจริงๆ เหยียนไคแค่ปรายตามองครั้งเดียว กล่อง กระดาษทิชชูซึ่งอยู่บนที่นั่งด้านหลังก็พลันลอยขึ้น แล้วปลิวไปกระแทกใส่ ท้ายทอยของเนี่ยรุ่ยถิงเข้าอย่างจัง ถึงตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใดเนี่ยรุ่ยถิงกับจางเสวียนจึง 3


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 เข้ากันได้ดี สองคนนีเ้ ป็นพีน่ ้องร่วมสาบานกันชัดๆ ปากคอเราะร้ายจนถึงขัน้ ที่สามารถท�ำให้คนตายโมโหจนฟื้นคืนชีพได้ทั้งคู่! “โอ๊ย!” แน่นอนว่าอาวุธนั้นของเหยียนไคไม่ได้ท�ำให้เนี่ยรุ่ยถิงบาดเจ็บ แต่ อีกฝ่ายก็ลูบศีรษะตนเองพร้อมกับส่งเสียงโอดโอยดังลั่น “นายมีศักดิ์ศรีบ้างได้ไหม เถียงไม่ออกทีไรก็ใช้ก�ำลัง เป็นผีที่ไม่ได้ เรื่องเอาซะเลย!” ขณะที่ปากขยับ สายตาก็สอดส่ายไปมา เผื่อว่ามีวัตถุอะไรลอยมา กระแทกอีกจะได้หลบทัน แต่หลังจากล่อกแล่กอยู่นาน ก็ไม่เห็นว่าศัตรูจะ ลงไม้ลงมืออีก เขาจึงค่อยเบาใจ หันไปตั้งใจขับรถแทน เมื่อไม่มีเบียร์ให้ดื่ม เนี่ยรุ่ยถิงก็จ�ำต้องหาอย่างอื่นมาทดแทน เขา หยิบเครื่องดื่มขวดหนึ่งออกมา พลางนึกอ่อนระอาอยู่ในใจ... ดูเอาเถอะ หนุ่มหล่อเพลย์บอยติดอันดับอย่างเขาในตอนนี้กลับไม่ เหลืออะไรสักอย่าง เหล้ารสเลิศ หญิงงาม ชีวิตและปาร์ตี้ที่แสนสุขสันต์ ทุกอย่างมลายหายไปจนหมดสิ้น ท�ำได้แค่ออกมาซิ่งรถเล่นกลางดึกเท่านั้น เขาเป็นถึงหนุม่ โสดระดับห้าดาวแท้ๆ ท�ำไมถึงมีชวี ติ แห้งเหีย่ วและอเนจอนาถ ขนาดนี้ล่ะ! ถ้าเจ้าวิญญาณเกาะหลังตนนีช้ า่ งคุยหน่อยก็ยงั ดี แต่หมอนีด่ นั เงียบ เป็นเป่าสาก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาจงใจพูดจายั่วโมโหคงแทบไม่รู้สึกด้วยซ�้ำว่า มีวญ ิ ญาณตนนีอ้ ยู่ดว้ ย เพราะแบบนี้ละท�ำให้เขาต้องพูดกับตัวเองบ่อยมาก จนคนอื่นเริ่มสังเกตเห็น พนักงานในบริษัทต่างก็พากันซุบซิบว่าหมู่นี้เขาคง เครียดมากเกินไป ใครจะนึกล่ะว่าอันทีจ่ ริงแล้วเขาก�ำลังพยายามสานสัมพันธ์ กับผีอยู่! 4


ตอน หนทางกลับ “เฮ้! นายยังอยู่รึเปล่า” หลังจากที่ถูกกล่องกระดาษทิชชูกระแทกท้ายทอยแล้ว ก็ไม่มี ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติใดๆ อีก เนี่ยรุ่ยถิงนึกสงสัยว่าอีกฝ่ายยังปฏิบัติ หน้าที่วิญญาณเกาะหลังอยู่รึเปล่าจึงเอ่ยถามขึ้น เงียบ! ไม่มีเสียงตอบรับ เนี่ยรุ่ยถิงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “นี่ ขอร้องละพีช่ าย ฉันพูดคนเดียวมาตัง้ ครึง่ ค่อนวันแล้ว อย่างน้อย นายก็ควรจะตอบอะไรมาสักค�ำสิ นี่ถ้ากล้องวงจรปิดถ่ายติดภาพฉันพูดเอง เออเองอยู่คนเดียวแบบนี้ พวกต�ำรวจจราจรอาจจะคิดว่าฉันถูกผีสิง โอ๊ย!” ตอนที่รถแล่นมาถึงสี่แยกไฟแดง จู่ๆ มันก็เบรกตัวกะทันหันโดย ไม่ทราบสาเหตุ ล้อรถบดกับผิวถนน ส่งเสียงเสียดแหลมทิ่มแทงแก้วหู เนี่ยรุ่ยถิงไม่ได้เป็นคนเหยียบเบรก และผลของการไม่คาดเข็มขัดนิรภัยก็คือ เขากลายสภาพเป็นนักกายกรรมโหนเชือก ตัวเด้งขึ้นจากที่นั่งแล้วพุ่งไปทาง กระจกหน้ารถอย่างแรง... ไหล่ตึงขึ้นมากะทันหัน มือที่มองไม่เห็นคว้าร่างเขาไว้ได้ทัน ท�ำให้ เขารอดพ้นจากการกระแทกกับกระจกหน้ารถได้อย่างหวุดหวิด ทั้งยังดึงเขา กลับมานั่งที่เดิมได้อย่างปลอดภัย ความหวาดกลัวแผ่ซา่ นไปทัว่ ร่าง ท�ำให้เขาโมโหจนสุดกลัน้ แล้วหัน ไปตะคอกใส่ความว่างเปล่า “ไอ้ผีอัปลักษณ์! อย่าให้มันมากเกิน...” ปัง! ยังพูดไม่ทันจบ รถบรรทุกคันหนึ่งก็พุ่งทะยานเฉียดผ่านหน้ารถ สปอร์ตคันงามของเขาไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด รถคันนั้นแล่นมาด้วย ความเร็วสูง ท�ำให้เสียสมดุลและพุง่ ชนเข้ากับเกาะกลาง ก่อนจะพลิกคว�ำ่ ไป 5


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ด้านข้าง เกิดเป็นเสียงดังสนั่นลั่นถนน “พระเจ้า...” เนี่ยรุ่ยถิงหันขวับไปจ้องมองแล้วก็ต้องอ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว ถนน ฝั่งที่รถบรรทุกคันนั้นแล่นมาสัญญาณไฟจราจรยังคงเป็นสีแดงอยู่แท้ๆ นี่ ถ้าไม่ใช่เพราะวิญญาณเกาะหลังช่วยหยุดรถของเขาไว้ได้ทนั ท่วงทีละก็...เขา ไม่กล้าคิดต่อจริงๆ ปลายนิว้ ทีก่ มุ พวงมาลัยสัน่ ระริก เหงือ่ เย็นเยือกซึมออกมาจนชุม่ ไป ทั้งฝ่ามือ “ขะ...ขอบใจนะ เจ้าผีอัปลักษณ์” ชายหนุ่มพึมพ�ำเสียงแผ่ว ทว่ายังไม่ทนั ตัง้ ตัวตัง้ สติให้เข้าทีเ่ ข้าทาง เขาก็รสู้ กึ ได้วา่ เอวของตัวเอง ถูกกอดรวบไว้แน่น เนีย่ รุย่ ถิงไม่รวู้ า่ เกิดอะไรขึน้ รูส้ กึ เพียงว่ามีแสงสีขาววาด ผ่านด้านหน้า จากนั้นร่างกายของตัวเองก็ทะลุออกมาจากหลังคารถพร้อม กับใครอีกคน ซึ่งพาเขากระโดดพรวดขึ้นไปสูงหลายเมตรในครั้งเดียว หลัง จากนั้นเสียงระเบิดสนั่นก็ดังลั่นตามมา เปลวเพลิงพวยพุ่งขึ้นสู่เบื้องบนแล้ว แผ่ตัวกลืนกินรถสปอร์ตคันงามให้กลายเป็นกองไฟลุกโหมในชั่วพริบตา เปลวไฟเจิดจ้าที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าท�ำให้เนี่ยรุ่ยถิงถึงกับตาพร่า วินาทีเฉียดตายที่มาพร้อมกับภาพระทึกขวัญสร้างความตระหนกตกใจมาก เกินไป ชายหนุ่มตื่นกลัวจนเผลอกอดร่างที่อยู่แนบข้างไว้แน่น แม้จะมองไม่ เห็น แต่ไม่ได้หมายความว่าสัมผัสไม่ได้ เพราะเหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นอย่าง กะทันหันท�ำให้เหยียนไคไม่ได้หลบเลีย่ งการสัมผัสของอีกฝ่ายเหมือนทุกครัง้ ได้แต่ยืนนิ่ง ปล่อยให้ชายหนุ่มที่ตัวสั่นระริกโอบกอดเอาไว้อย่างแนบแน่น เหยียนไคร่ายอาคมให้ตวั เองค่อยๆ ลดระดับลงสูเ่ บือ้ งล่าง เนีย่ รุย่ ถิง รับรูเ้ พียงว่าเบือ้ งหน้าเขาตอนนีม้ แี สงสีเงินทอประกาย สรรพสิง่ รอบด้านล้วน 6


ตอน หนทางกลับ ถูกปกคลุมให้อยูภ่ ายใต้แสงสีเงินนี้ เขาหันไปมองทีด่ า้ นข้าง ร่างของชายหนุม่ คนหนึ่งซึ่งอยู่ในชุดอาภรณ์เสวียนอี1ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เส้นผมสีเงินยาวจรดเอวพลิ้วไสวไปตามสายลม แสงสีเงินโอบล้อม รอบร่างนั้น ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้เส้นผมปรากฏให้เห็นเพียงวับแวม ถึง อย่างนั้นเขาก็มองเห็นว่าที่เนินหน้าผากของชายผู้นั้นมีรอยแผลเป็นเส้นยาว ซึ่งช่วยเพิ่มความองอาจให้กับท่วงท่าสง่างามได้เป็นอย่างดี ดวงตาสีด�ำ วาววามดุจน�้ำหมึก เหี้ยมเกรียมดุจสัตว์ร้าย แต่ก็เจือไว้ด้วยบรรยากาศอัน สูงส่ง เนีย่ รุย่ ถิงสัมผัสได้วา่ ทัง้ ร่างนัน้ มีพลังชัว่ ร้ายแผ่ซา่ น ขณะเดียวกันก็ เปีย่ มด้วยความชิงชังทีม่ ตี อ่ ความชัว่ ร้าย บรรยากาศทีอ่ ยูต่ า่ งกันคนละขัว้ แต่ กลับมาบรรจบกันได้อย่างเป็นธรรมชาติบนร่างกายของชายผู้นี้ ผสานเป็น หนึ่งเดียวได้อย่างกลมกลืน ปราศจากความขัดแย้งแม้สักเศษเสี้ยว พลังอันอัศจรรย์ของชายผู้นี้ท�ำให้เขาตกตะลึงมากอยู่แล้ว ยิ่งได้มา เจอกับสิ่งที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้า เนี่ยรุ่ยถิงถึงกับอ้าปากค้าง หลังจากที่ เหม่อมองอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้หลุดเสียงพึมพ�ำแผ่วเบา “นาย...หล่อเป็นบ้า!” หางเสียงยังไม่ทันจางหาย ข้อมือของเขาก็ถูกกุมไว้ในฉับพลัน เหยียนไคกระชากร่างอีกฝ่ายไปด้านหลัง ดวงตาด�ำสนิทคูน่ นั้ กวาดมองความ มืดรอบด้านอย่างหวาดระแวง ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังหยินแห่งภูตผี พลังนี้รุนแรงถึงขั้นสามารถ ท�ำลายเขตอาคมที่เขาเพิ่งสร้างขึ้นอย่างรีบร้อนเมื่อครู่นี้ได้อย่างง่ายดาย 1

อาภรณ์เสวียนอี เป็นชุดส�ำหรับใส่ในเวลาประกอบพิธีบวงสรวงเทพเจ้าในยุคโบราณ มีสีด�ำ ปนแดง

7


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 “รีบหนีไปซะ!” เหยียนไคบอกเสียงเย็น ในยามที่ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อยเช่นนี้ เขาไม่อาจยอมให้เนี่ยรุ่ยถิง มาเสี่ยงอันตรายไปกับตนได้ ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหลือโอกาสให้ เลือกอีกต่อไป ล�ำแสงเจิดจ้าที่เปี่ยมด้วยพลังหยินชัว่ ร้ายเส้นหนึ่ง พุ่งตัวทะลุ ผ่านม่านราตรีสดี �ำเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว เหยียนไคสะบัดปลายแขน เสื้อ พลังวิญญาณที่รวบรวมไว้เปล่งประกายแสงสีฟ้าเย็นเยือก ปกป้องพวก เขาไว้ และยังคงวนเวียนอยู่โดยรอบตามการเคลื่อนไหว กลายเป็นประกาย แสงเยือกเย็นเด่นสะดุดตา ส่องสว่างไปทั่วทั้งบริเวณ จู่ๆ เสียงหัวเราะเย็นเยือกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นท่ามกลางความมืด “คิดจะเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ช่างไม่รู้จักประเมินก�ำลังตนเสียบ้าง เลย!” หลังถ้อยค�ำเย้ยหยัน พลังชั่วที่มืดทมิฬถึงขีดสุดก็ระเบิดตัวขึ้น ท่ามกลางความมืด แรงระเบิดนัน้ สัน่ สะเทือนแสงสีฟา้ เยือกเย็นของเหยียนไค ให้เลือนหายไปจนหมดสิ้น แต่พลังชั่วยังไม่ยอมรามือ มันพุ่งเข้าทิ่มแทงที่ กลางอกของชายหนุ่มจนร่างนั้นอ่อนยวบลงทันที เนี่ยรุ่ยถิงถลันเข้าช่วยพยุง อีกฝ่ายไว้ แล้วถามด้วยน�้ำเสียงร้อนรน “เป็นไงบ้าง” “หนีเร็ว!” เหยียนไคกัดฟันรวบรวมก�ำลังเฮือกสุดท้าย กุมแขนเนี่ยรุ่ยถิงไว้ ตั้งใจจะโยนร่างชายหนุ่มออกไปอีกทาง นึกไม่ถึงว่าพลังชั่วจะไม่ยอมให้เขา ท�ำเช่นนั้น มันถาโถมเข้าใส่และกระแทกจนตัวพวกเขาปลิวลอยออกไป ร่างของทั้งสองพลิกหมุนอยู่กลางอากาศหลายตลบ สุดท้ายจึงร่วง ตกลงบนพื้นพร้อมกัน 8


ตอน หนทางกลับ ในขณะที่สถานการณ์ก�ำลังคับขัน เงาร่างของใครบางคนพลัน ปรากฏขึน้ ตรงหน้า คนผูน้ นั้ ยืนขวางพลังทีเ่ ปีย่ มด้วยความชัว่ ร้ายนัน้ ไว้ พร้อม กับร้องตะโกนดังลั่น “หลีกไป!” แสงตะวันสว่างจ้าสาดส่องไปทัว่ ทิศ ฉีกกระชากม่านราตรีมดื ด�ำออก จนหมดสิ้น ผีร้ายวิญญาณเฮี้ยนต่างสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว “พี่ใหญ่!” เนี่ยรุ่ยถิงพยุงร่างของเหยียนไคขึ้นอย่างทุลักทุเล ทันที ที่เห็นว่าคนที่มาช่วยพวกเขาไว้คือเนี่ยสิงเฟิง ชายหนุ่มก็ถึงกับร้องเรียก เสียงหลงแล้วพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ผมไม่เห็นจะเคยรู้เลยว่าพี่มีพลังร้ายกาจ ขนาดนี้!” เนี่ยสิงเฟิงยิ้มน้อยๆ ในตอนที่ก�ำลังจะถามอีกฝ่ายว่าได้รับบาดเจ็บ ตรงไหนบ้างรึเปล่า ก็กลับรู้สึกวิงเวียนขึ้นมากะทันหัน ภาพทั้งหมดที่เห็น พลิกผันหมุนเวียน เสียงของเนี่ยรุ่ยถิงที่ในตอนแรกดังอยู่ข้างหูกลับค่อยๆ ห่างไกลออกไปทุกที ในที่สุดทุกอย่างก็จมลงสู่มิติอันมืดมิดเยียบเย็น “รุ่ยถิง!” เนี่ยสิงเฟิงสะดุ้งลืมตาขึ้น โคมไฟสีเหลืองอมส้มที่อยู่บนหัวเตียง ท�ำให้เขาต้องหรี่ตาลงโดยอัตโนมัติ ลมหายใจยังคงหอบถี่ นานทีเดียวกว่า จิตใจจะสงบลงและรับรู้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นแค่...ฝันร้าย! ตอนนี้จางเสวียนไปท�ำงานนอกสถานที่ เตียงคิงไซส์จึงดูกว้างไป ถนัดตา พอแหงนหน้ามองนาฬิกาบนผนังจึงเห็นว่าเข็มเพิง่ ชีบ้ อกเวลาตีหนึง่ เนี่ยสิงเฟิงลังเลอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายก็ตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาน้องชาย เสี ย งเรี ย กดั ง อยู ่ น านสิ บ กว่ า ครั้ ง จึ ง มี ผู ้ รั บ น�้ ำ เสี ย งง่ ว งงุ น ของ เนี่ยรุ่ยถิงดังมาตามสาย 9


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 “พี่ใหญ่! ถ้าพี่ยังโทรมาก่อกวนดึกดื่นแบบนี้อีก ระวังผมจะแจ้ง ต�ำรวจนะ” ถ้อยค�ำเช่นนัน้ ฟังดูแปลกหู เพราะส�ำหรับน้องชายทีเ่ ป็นนักท่องราตรี แล้ว ตีหนึ่งน่าจะเป็นเวลาเริ่มต้นมิใช่หรือ ความเปลี่ยนแปลงชนิดโลกหมุน กลับแบบนี้ท�ำเอาเนี่ยสิงเฟิงไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ แต่เมื่อรับรู้ว่า อีกฝ่ายน่าจะปลอดภัยก็รู้สึกเบาใจขึ้นไม่น้อย “เมือ่ กีฉ้ นั ฝันร้าย ฝันว่านายออกไปซิง่ รถกลางดึกจนเกิดอุบตั เิ หตุ...” “ซิง่ รถกลางดึก? นัน่ มันเรือ่ งเมือ่ ศตวรรษก่อนแล้ว ตัง้ แต่มเี จ้าผีเฮีย้ น นีม่ าอยูใ่ นบ้าน ผมก็ไม่เคยมีโอกาสออกจากบ้านหลังสีท่ มุ่ อีกเลย” เนีย่ รุย่ ถิง บ่นพึมพ�ำด้วยน�้ำเสียงปลดปลง “อ๊ะ! จริงด้วย เป็นเพราะจางเสวียนไม่อยู่ ใช่มั้ยล่ะ พี่อยู่คนเดียวเลยอ้างว้างจนนอนไม่หลับ ถึงได้คิดฟุ้งซ่านขนาดนี้ จะบอกให้นะ เมื่อกี้ผมก็ฝันว่าไปผจญภัยกับเจ้าผีเฮี้ยนอยู่เหมือนกัน ก�ำลัง สนุกอยู่แท้ๆ พี่ดันโทรมาขัดจังหวะซะได้” “เขาไม่เป็นไรใช่ไหม” เนี่ยสิงเฟิงรีบถาม หลังจากได้ฟังถ้อยค�ำของ น้องชายเขาก็หวนคิดถึงภาพเหยียนไคทีไ่ ด้รบั บาดเจ็บในความฝันเมือ่ ครูข่ นึ้ มาทันที “มีแต่ผเี ท่านัน้ ทีจ่ ะรู้ เขาไม่พดู ไม่จาสักค�ำ ผมจะรูไ้ ด้ไงล่ะว่าเขาเป็น อะไรรึเปล่า ไม่แน่ว่าตอนนี้เขาอาจก�ำลังแอบดูผมอยู่ก็ได้” เนี่ยสิงเฟิงก�ำลังจะอ้าปากถามต่อ แต่กลับมีเสียงของเหยียนไค ดังแว่วขึ้นในหู “นายท่าน ข้าสบายดีขอรับ” เป็นอันว่าทัง้ คูป่ ลอดภัยไร้กงั วล เขาคงจะคิดมากไปเองจริงๆ แต่พอ คิดถึงความฝันแปลกประหลาดเมื่อครู่ เนี่ยสิงเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะก�ำชับ 10


ตอน หนทางกลับ “จ�ำไว้ ระยะนี้อย่ากลับบ้านดึกเกินไป ที่ส�ำคัญอย่าขับรถสปอร์ต สีแดง” “รู้แล้วน่า ตอนนี้บ้านผมมีผีเฮี้ยนเป็นผู้คุมกฎ พี่คิดว่าผมยังมีสิทธิ์ ไปเที่ยวผับบาร์หรือกลับบ้านดึกดื่นได้อีกเหรอ ที่ส�ำคัญ ผมไม่มีรถสปอร์ต สีแดงสักหน่อย เอาละพี่ใหญ่ ผมจะบอกให้นะ ถ้าพี่อยากโทรศัพท์ก่อกวน ใครสักคนตอนดึกละก็ คนคนนั้นควรจะเป็นจางเสวียน เลิกกลั่นแกล้ง น้องชายที่น่าสงสารของพี่ได้แล้ว” “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉัน...” ไม่เปิดโอกาสให้เนีย่ สิงเฟิงอธิบาย พอพูดจบเนีย่ รุย่ ถิงก็กดวางสาย ไปทันที เฮ้อ! คงจะเป็นเขาที่คิดมากเกินไปจริงๆ เนี่ยสิงเฟิงยิ้มละเหี่ยใจกับ ตัวเอง แล้วโยนโทรศัพท์มือถือไปไว้ที่ด้านข้าง ฝันร้ายที่เหมือนจริงจนเหงื่อซึมออกไปทั่วร่างนี้ท�ำให้ตาสว่างเต็มที่ เนี่ยสิงเฟิงนอนเล่นอยู่บนเตียงครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ทนความเหนียวเหนอะนั้น ไม่ไหว ต้องลุกขึ้นไปอาบน�้ำ น�้ำอุ่นสาดลงมาจากฝักบัว ไอร้อนจากน�้ำปกคลุมไปทั่วห้องใน พริบตา ถึงอย่างนั้นเนี่ยสิงเฟิงก็ยังมองเห็นแสงสีทองเสี้ยวหนึ่งที่วาดผ่าน กระจกไป เขาชะงัก หันฝักบัวไปที่กระจก ฝ้าขุ่นมัวบนนั้นถูกน�้ำอุ่นรินรดจน เลือนหาย ร่างกายสมส่วนของเขาสะท้อนอยูบ่ นบานกระจกอย่างชัดเจน พอ ลองเอี้ยวตัวดูจึงเห็นว่า บนแผ่นหลังมีลวดลายที่เกิดจากเส้นแสงสีทอง สว่างไสว มันก�ำลังไต่ตัวขึ้นสู่ด้านบนอย่างช้าๆ แม้จะพบเจอผีวิญญาณเฮี้ยนมานักต่อนัก แต่สิ่งที่ได้เห็นอยู่ใน ขณะนี้ก็ท�ำให้ตกใจไม่น้อย เขาพยายามตั้งสติแล้วเพ่งมองเงาบนกระจก 11


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 อีกครัง้ จึงพบว่าลวดลายบนแผ่นหลังของตนมีเค้าโครงคล้ายมีดนอแรด แสง สีทองที่โอบล้อมรอบมีดนอแรดนั้นวนเวียนพลิ้วไหว เกิดเป็นลวดลายอัน แปลกประหลาด...แต่ก็ดูคุ้นตามาก เหมือน.... ความคิดที่อยู่ในหัววิ่งวุ่น นึกออกแล้ว! ตอนไปล่องเรือส�ำราญ เขา เคยดูแผนที่ทางอากาศของหมู่เกาะเงินทอง ต�ำแหน่งของหมู่เกาะเหล่านั้น เหมือนกับลวดลายที่ก�ำลังส่องแสงอยู่บนแผ่นหลังของเขาในตอนนี้ไม่มีผิด! ล�ำแสงสีทองทีส่ อ่ งประกายเรืองรองเจิดจ้า ท�ำให้เขาตาพร่าจนรูส้ กึ วิงเวียน แล้วจู่ๆ บางอย่างก็แวบขึ้นมาในสมอง ก่อนหน้านี้ตอนที่ช่วยจุดธูป สักการะอาจารย์เจ้าส�ำนักของจางเสวียน เขาซุม่ ซ่ามท�ำป้ายทองแดงชิน้ หนึง่ ร่วงตกพื้น ถ้าจ�ำไม่ผิด ด้านหลังของป้ายทองแดงมีรูปสัญลักษณ์แปลก ประหลาดแบบนี้ เ ช่ น กั น จ�ำได้ ว ่ า ตอนที่ สั ม ผั ส ป้ า ยนั่ น ดู เ หมื อ น... สติสัมปชัญญะของจะถูกควบคุมอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งด้วย เส้นสีทองทีว่ นเวียนอยูบ่ นแผ่นหลังค่อยๆ จางลง สุดท้ายก็เลือนหาย ไปจนหมดสิน้ เนีย่ สิงเฟิงรีบอาบน�ำ้ จนเสร็จ จากนัน้ จึงเดินตรงไปยังแท่นบูชา อาจารย์เจ้าส�ำนักในห้องรับแขก เพื่อค้นหาป้ายทองแดงชิ้นนั้น หลังจากทีพ่ วกเขาย้ายมาอยูด่ ว้ ยกันอย่างเป็นทางการ จางเสวียนก็ จัดแจงยกแท่นบูชามาตั้งไว้ในบ้านเขาอย่างไม่เกรงใจ บางครั้งเขาก็จะช่วย จุดธูปสักการะแทนอีกฝ่าย ป้ายทองแดงแผ่นนั้นก็วางอยู่บนแท่นบูชานี้ แต่ ตัวเขาเองไม่เคยใส่ใจมาก่อน เมื่อหาพบ เนี่ยสิงเฟิงก็รีบพลิกดูทั้งด้านหน้าและหลังทันที ทว่า อักขระยันต์และรูปสัญลักษณ์ทเี่ คยสลักไว้อยูบ่ นนัน้ กลับหายไปอย่างเกลีย้ ง เกลาหมดจด ตอนนี้ป้ายทองแดงจึงไม่ต่างอะไรกับแผ่นทองแดงธรรมดา 12


ตอน หนทางกลับ ชิน้ หนึง่ ถ้าไม่รมู้ าก่อนว่านีค่ อื รางวัลติดไม้ตดิ มือทีจ่ างเสวียนหยิบมาด้วยใน เหตุการณ์ถอดวิญญาณครั้งนั้น เขาคงจะโยนมันลงถังขยะไปในฐานะของ ไร้ประโยชน์แล้ว หรือจะมีสาเหตุบางอย่างที่ท�ำให้อักขระยันต์บนป้ายทองแดงถูก โยกย้ายมาอยู่บนร่างของเขา ในตอนที่เขาสัมผัสมัน? จางเสวียนเคยบอกว่าเขามีรอยสักบนร่างกาย ตอนนั้นเขานึกว่า อีกฝ่ายล้อเล่น แต่พอมาคิดดูดีๆ บางทีหมอนั่นอาจเห็นลวดลายที่อยู่บน แผ่นหลังของเขา ท�ำให้เข้าใจไปว่าเป็นรอยสัก แต่ท�ำไม...ลวดลายนี้ถึงดูเหมือนต�ำแหน่งของหมู่เกาะที่อยู่รอบๆ เกาะเงินทองได้ล่ะ คิดเท่าไรก็คิดไม่ตก เนี่ยสิงเฟิงจึงเดินกลับเข้าห้องนอน นาฬิกา แขวนผนังบอกว่าตอนนี้ดึกมากแล้วจริงๆ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะกดโทรศัพท์ ไปหาจางเสวียน ถึงอย่างไรก็นอนไม่หลับ ลองโทรไปก่อกวนเจ้าหมอผีนกั ต้มตุน๋ ตาม ค�ำแนะน�ำของน้องชายก็ไม่เลวเหมือนกัน โทรศัพท์ต่อติดอย่างรวดเร็ว จางเสวียนรับสายด้วยเสียงหัวเราะ ระริกระรี้ “ท่านประธาน ดึกป่านนี้แล้วคุณยังไม่นอนอีกเหรอ” จิ ต ใจที่ ก�ำลั ง สั บ สนดู เ หมื อ นจะสงบลงในทั น ที ที่ ไ ด้ ยิ น น�้ำ เสี ย ง กระจ่างใสนั้น เนี่ยสิงเฟิงเอนหลังพิงหัวเตียง แล้วถามด้วยน�้ำเสียงที่กลั้ว รอยยิ้ม “คุณตั้งใจท�ำงานดีรึเปล่า” “แน่นอน ถ้าไม่เชื่อถามหัวหน้าแผนกดูก็ได้” 13


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 หัวหน้าแผนกทีอ่ กี ฝ่ายเอ่ยอ้างก็คอื หัวหน้าแผนกธุรการซึง่ เป็นอดีต หัวหน้าของจางเสวียน อันที่จริงแล้วหมอนั่นไม่จ�ำเป็นต้องเข้าร่วมเป็นคณะ กรรมการประเมิ น ผลพนั ก งานในครั้ ง นี้ แต่ เ พราะเที ย นซื อ จอมกะล่ อ น ออดอ้อนไม่หยุด ว่าอยากขอไปเปิดหูเปิดตาและเรียนรู้ร่วมกับคนอื่นๆ บ้าง เนีย่ สิงเฟิงเห็นว่าระยะหลังเจ้าหมอผีนกั ต้มตุน๋ ตัง้ ใจท�ำงานดี ทัง้ ทีร่ วู้ า่ อีกฝ่าย แค่อยากไปเที่ยวสังสรรค์ แต่เขาก็ยอมปิดตาข้างหนึ่งแล้วอนุญาตให้ร่วม คณะไปด้วย “ท่านประธาน คุณโทรมาในเวลานี้ คงไม่ใช่เพื่อถามเรื่องงานหรอก ใช่มั้ย” เนีย่ สิงเฟิงทีต่ อนนีค้ วามขุน่ ข้องในใจเลือนหายไปจนหมด ตอบกลับ ไปอย่างอารมณ์ดี “แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ใช่” “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นเพราะ...คิดถึงผมจนนอนไม่หลับละสิ” “เลิกหลงตัวเองได้แล้ว อันที่จริงผมมีเรื่องอยากถามคุณ...” บทสนทนาของเนีย่ สิงเฟิงถูกแทรกด้วยเสียงเบาหวิวของหญิงสาวที่ ดังขึ้นจากอีกฝั่งของโทรศัพท์ “คุณผู้ชายคะ ดิฉันช่วยปรับอุณหภูมิน�้ำให้แล้วนะคะ...” แล้วจู่ๆ เสียงหวานใสนั้นก็เงียบไปกะทันหัน เหมือนถูกใครบางคน ปิดปากขึ้นกลางคัน รอยยิ้มบนใบหน้าของเนี่ยสิงเฟิงแข็งค้างไปในทันที เขา รูส้ กึ เหมือนตัวเองควรพูดอะไรสักอย่าง แต่ในตอนนีส้ มองกลับว่างเปล่า ไม่รู้ ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี “ท่านประธาน! อย่าเพิง่ เข้าใจผิดนะ ไม่ใช่อย่างทีค่ ณ ุ คิดนะ!” น�ำ้ เสียง ร้อนรนของจางเสวียนแทรกตัวขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ “ฟังผมก่อน เธอ 14


ตอน หนทางกลับ เป็นแค่พนักงานของโรงแรมเท่านั้น ไหนๆ ก็จ่ายเงินไปแล้ว ถ้าไม่ใช้ก็จะเสีย เงินเปล่า...ไม่ๆ ผมไม่ได้หมายถึงบริการแบบนัน้ นะ ท่านประธาน ผมซือ่ สัตย์ ต่อคุณคนเดียว ไม่วา่ จะร่างกายหรือจิตใจ ผมก็ไม่เคยคิดจะนอกใจคุณ...ถ้า คุณไม่เชื่อ เดี๋ยวผมจะให้ผู้จัดการมาอธิบายกับคุณเอง คุณรอผม...” “Stop!” ทัง้ ทีเ่ ขายังไม่ทนั พูดอะไรสักค�ำ แต่เจ้าหมอผีนกั ต้มตุน๋ กลับ ร่ายค�ำแก้ตัวออกมายาวเหยียด ริมฝีปากของเนี่ยสิงเฟิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ละเหี่ยใจ “ผมพูดตอนไหนว่าไม่เชื่อใจคุณ?” “จริงเหรอ แต่เสียงคุณ...ฟังดูเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ” ไม่มีใครยังอารมณ์ดีอยู่ได้ทั้งที่รู้ว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องคนรักหรอก นะ! แต่ความรูส้ กึ นัน้ เกิดขึน้ เพียงวูบเดียวเท่านัน้ เนีย่ สิงเฟิงเชือ่ ในความ จริงใจของจางเสวียน และยิ่งเชื่ออย่างหมดใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางท�ำเรื่อง เสื่อมเสียแบบนั้นแน่นอน “คุณจะไม่เก็บไปคิดมากไร้สาระแน่นะ?” ดูท่าทางอีกฝ่ายคงจะกังวลใจไม่น้อยจึงได้ถามเซ้าซี้ไม่ยอมเลิก หลังจากถูกเวียนถามอยู่หลายรอบ ในที่สุดเนี่ยสิงเฟิงก็ทนไม่ไหว “ผมไม่ได้ใจแคบแบบนั้นหรอกน่า หยุดถามเซ้าซี้เรื่องนี้ได้รึยัง!” “ท่านประธาน คุณท�ำเสียงแข็งใส่ผมแบบนี้ แสดงว่าโมโหอยู่จริงๆ ด้วย” น�้ำเสียงตัดพ้อที่วิ่งมาตามสายโทรศัพท์ท�ำให้เนี่ยสิงเฟิงรู้สึกจน ปัญญาขึ้นมาจริงๆ สุดท้ายเขาจึงเลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้อในการสนทนา “วันนี้คุณไปเที่ยวไหนมาบ้าง” “ไปมาหลายที่เลยละครับ ผมซื้อของฝากกลับไปให้ด้วยนะ” 15


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 พอหยิบยกเรื่องเที่ยวขึ้นมา จางเสวียนก็ถูกดึงดูดอย่างง่ายดาย เสียงกระจ่างใสคุยจ้อว่าวันนี้ตัวเองไปเห็นอะไรมาบ้าง เนี่ยสิงเฟิงอดทนฟัง จนจบ แล้วหาข้ออ้างวางสาย จนเมื่อกดวางสายแล้วจึงนึกขึ้นมาได้ว่ายัง ไม่ได้ถามเรื่องป้ายทองแดง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็วางกลับลงไปดังเดิม ถ้าขืนโทรกลับไปอีก อาจต้องอดทนฟังจางเสวียนโม้เรื่องเที่ยว อีกรอบ เอาเป็นว่ารอให้หมอนั่นกลับมาก่อนค่อยถามก็แล้วกัน จางเสวียนแนบโทรศัพท์มือถือไว้ที่หู รอจนมั่นใจว่าเนี่ยสิงเฟิงวาง สายไปเรียบร้อยแล้ว รอยยิม้ เบิกบานบนใบหน้าหล่อเหลาจึงจางหายไปทันที ประกายแสงสีทองไหลเวียนอยู่ในดวงตาสีฟ้าใสที่ตอนนี้ขุ่นมัว เขาจ้องมอง หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา “บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามส่งเสียง!” นำ�้ เสียงนัน้ ราบเรียบ แต่กลับเจือด้วยกลิน่ อายความเหีย้ มโหดอย่าง ยากจะบรรยาย ราวกับนีไ่ ม่ใช่คนทีเ่ พิง่ คุยโทรศัพท์ดว้ ยเสียงออดอ้อนนุม่ นวล อยู่เมื่อครู่ อากาศภายในห้องเยียบเย็นลงอย่างฉับพลัน ร่างกายของหญิงสาว ที่อยู่ในชุดนอนโปร่งบางพลันสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม นานทีเดียว กว่าเธอจะเค้นเสียงสั่นเทาออกมาได้ “ขะ...ขอโทษค่ะ ดิ...ดิฉันลืม...” “ออกไป!” แม้ใบหน้าของชายหนุ่มผู้นี้จะหล่อเหลา แต่ตอนนี้ในสายตาของ หญิงสาว เขาดูนา่ กลัวยิง่ กว่าภูตผีหรือมารร้ายเสียอีก น่ากลัว...จนเธอไม่กล้า 16


ตอน หนทางกลับ แม้แต่จะเอ่ยปากขอค่าเสียเวลา ได้แต่รีบหยิบเสื้อผ้ามาสวม แล้วคว้า กระเป๋าถือ แต่ขณะทีก่ �ำลังจะเดินไปทีป่ ระตู ธนบัตรหลายใบก็ลอยล่องลงมา อยู่ตรงหน้าอย่างไม่มีที่มาที่ไป เสียงเรียบเย็นดังขึ้นทางด้านหลัง “ถึงจะไม่ได้ใช้บริการ แต่เงินที่ควรจ่าย ผมก็จะจ่าย” แม้นำ�้ เสียงนัน้ จะฟังน่าขนลุกเพียงใดหญิงสาวก็ไม่ใส่ใจ เพราะทีน่ า่ กลัวยิ่งกว่าคือการที่ธนบัตรเหล่านี้ร่วงหล่นลงมาอย่างผิดธรรมชาติ ทว่าถึง จะตกใจจนตัวสั่นก็ยังอดไม่ได้ที่จะลนลานรีบก้มลงเก็บเงินขึ้นมา แล้ววิ่งหนี ออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่แม้แต่จะเอ่ยค�ำขอบคุณ ดวงตาสีฟ้าใสจับจ้องมองดูโทรทัศน์ตรงหน้าด้วยอาการเหม่อลอย อยู่ครู่ใหญ่ เสียงเบรกกะทันหันแว่วดังมาจากด้านนอก ผสานกับเสียง กรีดร้องของหญิงสาว ลมราตรีอึมครึมพัดโบก น�ำพาเสียงวัตถุกระทบพื้น ดังแว่วมาถึงหูของเขา ทว่าจางเสวียนกลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด มือยังคงหมุนรีโมต ไปมาด้วยท่าทางเบือ่ หน่าย แล้วจูๆ่ เสียงซ่าๆ ก็ดงั ขึน้ หน้าจอทีวที เี่ คยกระจ่าง ชัดกลับกลายเป็นคลืน่ ซ่าๆ สีขาวด�ำ หมอกสีเข้มกลุม่ ก้อนหนึง่ ลอดเข้ามาจาก ร่องหน้าต่าง แล้วกลายร่างเป็นมนุษย์สีด�ำในพริบตา! ดวงตาทั้งคู่ด�ำสนิทดุจน�้ำหมึก เปล่งประกายวาววามด้วยรัศมีแห่ง ความตาย! คิ้วของจางเสวียนขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “นายก�ำลังสร้างปัญหาให้ฉัน” “คนที่ไร้ประโยชน์ไม่จ�ำเป็นต้องมีชีวิตอยู่” เงาด�ำนั้นเหลือบมองมา แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “เจ้ากลัวว่าเนี่ยสิงเฟิงจะสงสัยรึไง” “เขาไม่เคยสงสัยฉัน” 17


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 จางเสวียนตอบเสียงเรียบ ยกแก้วไวน์บนโต๊ะขึ้นจิบช้าๆ นี่เป็นเหล้าที่เขาให้หญิงสาวคนนั้นรินให้ เขาเรียกเธอมาด้วยความ ตั้งใจว่าจะผ่อนคลายสักเล็กน้อย แต่ก็ต้องพบว่าตนเองไม่มีความสนใจใน ตัวหญิงสาวเลยสักนิด ต่อให้ไม่เกิดเรือ่ งยุง่ ยากเมือ่ ครู่ เขาก็ตงั้ ใจว่าจะไล่เธอ ออกไปอยู่แล้ว บางที...นอกจากเนีย่ สิงเฟิงแล้ว บนโลกนีอ้ าจไม่มใี ครท�ำให้เขาเกิด ความสนใจได้อีก นี่ถือเป็นเกียรติส�ำหรับอีกฝ่าย รอให้เขาหมดความสนใจ ก่อนเถอะ...คนคนนัน้ ก็ไม่จ�ำเป็นทีจ่ ะต้องมีชวี ติ อยูต่ อ่ ไป! จางเสวียนครุน่ คิด ขณะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ “เมื่อกี้ข้าพลาดไป พลังวิญญาณของเนี่ยสิงเฟิงร้ายกาจกว่าที่คิด ไม่นึกเลยว่าเขาจะสามารถทะลุมิติฝันร้ายได้” ร่างมนุษย์สีด�ำพูดขึ้นด้วย ท่าทางเสียดาย “ร้ายกาจถึงขนาดที่เจ้าแห่งความมืดอย่างตี้ชือยังต้องยอมจ�ำนน เชียวหรือ” จางเสวียนเหลือบมองอีกฝ่าย “หึ! เขาคือผู้แข็งแกร่งที่สุดมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ถึงตอนนี้เขาจะ สถิตอยู่ในร่างมนุษย์ก็ตาม เรื่องนี้...เจ้าก็น่าจะรู้ดีที่สุดนี่นา” ตี้ชือพูดเสียงเรียบคล้ายไม่ใส่ใจค�ำประชดของจางเสวียน เทพสงครามที่ถูกหล่อหลอมขึ้นด้วยพลังเทพแห่งเบญจจักรพรรดิ กระทั่งมารรัตติกาลผู้ปกครองความมืดอย่างเขายังต้องกริ่งเกรง! หลังจากค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเนี่ยสิงเฟิง ตี้ชือก็ไม่เคยปล่อย โอกาสที่จะได้ช่วงชิงพลังวิญญาณของอีกฝ่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งก่อนเขายอมใช้กระทั่งพันธสัญญาเทพสมุทรเพื่อล่อให้เนี่ยอี้ ติดกับ แต่กล็ ม้ เหลว ดังนัน้ เขาจึงสร้างอุบตั เิ หตุครัง้ นัน้ ขึน้ ทัง้ ทีไ่ ม่ใช่เป้าหมาย 18


ตอน หนทางกลับ แต่ บิ ด ามารดาของเนี่ยสิง เฟิง กลับเสียชีวิต ขณะที่เ จ้าตัว กลับไม่ได้รับ บาดเจ็บแม้แต่นดิ เดียว มิหน�ำซำ�้ เหตุการณ์ครัง้ นัน้ ยังท�ำให้เนีย่ สิงเฟิงรับรูถ้ งึ การคงอยู่ของเขา หลังอุบัติเหตุรถชนครั้งนั้น เนี่ยสิงเฟิงก็โจมตีใส่เขาเต็มแรง ท�ำให้ เขาต้องเร้นกายอยู่ในความมืดมิดเพื่อฟื้นฟูพลังนานนับสิบปี ในตอนที่ได้พบกันอีกครั้ง เนี่ยสิงเฟิงจึงไม่ได้รู้สึกคุ้นหน้าเขาโดย ไร้สาเหตุ เพราะเมือ่ สิบกว่าปีกอ่ นพวกเขาเคยปะทะกันมาแล้ว แต่อกี ฝ่ายจ�ำ เหตุการณ์นนั้ ไม่ได้ อาจเพราะจิตใต้ส�ำนึกของเขาไม่อยากจดจ�ำโศกนาฏกรรม ที่เกิดขึ้นกับบิดามารดาครั้งนั้น แต่เมือ่ พบเจอเหตุการณ์วญ ิ ญาณเฮีย้ นกระตุน้ ครัง้ แล้วครัง้ เล่า พลัง เทพของเนี่ยสิงเฟิงก็เริ่มฟื้นฟู พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ยืนยัน เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี หลังจากเวียนว่ายตายเกิดมานับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุด พวกเขาก็เดินทางมาถึงช่วงเวลาที่ต้องเปิดศึกตัดสินกันจนได้ “สรรพชีวิตล้วนมีเกิดแก่เจ็บตาย เทพเจ้าเองก็ไม่ได้อยู่เป็นนิรันดร์ เสมอไปหรอกนะ” จางเสวียนจิบเหล้าแล้วหมุนแก้วในมือเล่น จากนั้นจึงพูด ขึ้นด้วยเสียงเรียบๆ “ใจเย็น อีกไม่นานพวกเราก็จะกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ แล้ว ไม่ใช่รึไง” ตี้ชือมองอีกฝ่าย แล้วจู่ๆ ก็คลี่ยิ้มแปลกประหลาด “แน่นอน ความฝันเมือ่ กีม้ นั แค่อนุ่ เครือ่ งเท่านัน้ ของจริงมันหลังจากนี้ ต่างหาก” เงาร่างมนุษย์สีด�ำเดินมายืนข้างกายจางเสวียน ก้มหน้าลงสูดดม กลิ่นจากเส้นผมที่ข้างหู แล้วกระซิบเอ่ยเชื้อเชิญด้วยน�้ำเสียงเปี่ยมเสน่ห์ “ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล สนใจจะเล่นสนุกกับข้าหน่อยไหมล่ะ” 19


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 “ไม่มีปัญหา ถ้านายไม่รังเกียจที่จะอยู่ข้างล่าง” “ข้ารังเกียจ” “ฉันก็รังเกียจ” จางเสวียนพูดเสียงเบา รอยยิ้มเสี้ยวหนึ่งวาดผ่าน ดวงตาสีทองคู่นั้น “ถ้างั้นข้าคงต้องไปหาคนอื่นเล่นเป็นเพื่อนแล้วสินะ” ตี้ชือยักไหล่ด้วยความเสียดาย ก่อนที่ร่างจะสลายกลายเป็นหมอก สีด�ำลอดผ่านบานหน้าต่าง แล้วเลือนหายไปท่ามกลางฟากฟ้าสีราตรีในชั่ว พริบตา จางเสวียนเพียงพูดเสียงเรียบ “โชคดี!” คลืน่ สีขาวด�ำบนหน้าจอโทรทัศน์พลันเลือนหาย กลับมาเป็นรายการ บันเทิงอีกครั้ง มือเรียวกดปุ่มปิดโทรทัศน์ ละครเปิดฉากแล้ว การต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรมในครั้งนี้ น่าสนุกยิ่งกว่าละครน�้ำเน่าหลังข่าวเยอะ หวังว่าเนี่ยสิงเฟิงคงไม่ท�ำให้เขา ผิดหวัง ถ้าแม้แต่เทพเจ้ายังต้องพ่ายแพ้ให้กับความมืด โลกนี้ก็คงจะน่าเบื่อ ไม่น้อย!

20


ตอน หนทางกลับ

2

ช่วงพักเที่ยง ขณะที่เนี่ยสิงเฟิงก�ำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้อง ท�ำงาน ประตูกเ็ ปิดออก ใครบางคนจรดปลายเท้าย่องเข้ามาอย่างไร้สมุ้ เสียง ไม่ต้องเงยหน้ามองเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร... นอกจากเลขานุการซึ่งควบต�ำแหน่งคนรักของเขาแล้ว ไม่มีใครจะ ท�ำเรื่องน่ารักขนาดนี้! “ไหนว่าจะกลับมะรืนนี้ไง” เนี่ยสิงเฟิงถามโดยที่สายตาไม่ได้ละไป จากหน้าหนังสือพิมพ์ ทิวลิปสีด�ำดอกหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้า จางเสวียนชะโงกหน้าเข้ามา ใกล้แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมเป็นห่วงว่าคุณอยู่บ้านคนเดียวแล้วจะฟุ้งซ่าน เลยรีบกลับมา ก่อน นี่ผมซื้อมาเพื่อคุณโดยเฉพาะเชียวนะ ชอบรึเปล่า” ดอกไม้มเี พียงดอกเดียว แต่หอ่ อย่างวิจติ รบรรจง ทิวลิปสีด�ำให้ความ รู้สึกสูงส่ง งดงาม หายากนักที่เจ้าหมอผีนักต้มตุ๋นคนนี้จะเข้าใจรสนิยมของ 21


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 เขา เนี่ยสิงเฟิงยิ้มแล้วรับดอกไม้ไว้ “เอาใจแบบนีน้ า่ สงสัยนะ ถึงขนาดยอมควักเงินซือ้ ดอกไม้ราคาแพง ขนาดนี้ให้ผมเชียวเหรอ” “แทนค�ำขอโทษส�ำหรับเรื่องเมื่อคืน ท่านประธาน คุณยังโกรธอยู่ ใช่รึเปล่า” “เห็นผมเป็นคนใจแคบขนาดนั้นเชียว?” เนีย่ สิงเฟิงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ หมุนดอกไม้ในมือเล่น แต่ปลายนิว้ ดันไปเกีย่ วเข้ากับไส้แม็กทีใ่ ช้เย็บกระดาษห่อจนได้แผล เจ็บแปลบขึน้ มาทันที “คุณนี่ไม่ระวังตัวเอาซะเลย” พอเห็นว่ามีเลือดซึมออกมาจากปลายนิ้วของอีกฝ่าย จางเสวียนก็ ขมวดคิ้ว แย่งช่อดอกไม้มาแล้วโยนไปไว้ข้างๆ ก่อนจะส่งปลายนิ้วนั้นเข้าไป ในปาก จากนั้นจึงดูดเลียเบาๆ “ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นหรอกน่า” การกระท�ำเช่นนี้ของอีกฝ่ายท�ำให้เนี่ยสิงเฟิงรู้สึกกระสับกระส่าย ปลายนิ้วเชื่อมต่อถึงหัวใจ และตอนนี้น้ิวของเขาก็ถูกห่อหุ้มอย่างเร่าร้อนอยู่ ภายในโพรงปากอุ่น สัมผัสจากปลายนิ้วนั้นแล่นพล่านไปทั่วร่าง หัวใจของ เนี่ยสิงเฟิงกระตุกวูบ เขาอยากดึงมือออก แต่กลับถูกจางเสวียนขบไว้เบาๆ โดยไม่ยอมปล่อย ความรูส้ กึ เจ็บแปลบแล่นวูบวาบขึน้ พร้อมความรูส้ กึ จัก๊ จีท้ ี่ ชวนให้หวั ใจสัน่ ไหว เมือ่ จางเสวียนปล่อยนิว้ ของเขาออกจากริมฝีปาก ผิวหนัง บริเวณนั้นก็กลับสู่สภาพเรียบลื่น รอยแผลจางหายไปเรียบร้อยแล้ว “ท�ำตัวเหลวไหลอีกแล้วนะ!” เสียงเอ็ดของเนี่ยสิงเฟิงแหบพร่าเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นมอง ใน ดวงตาสีฟ้าของจางเสวียนฉายแววซุกซนหยอกเย้า เนี่ยสิงเฟิงทนไม่ไหวอีก 22


ตอน หนทางกลับ ต่อไป เขากุมมืออีกฝ่ายไว้แล้วกระชากร่างนั้นเข้ามาในอ้อมกอดทันที ริม ฝีปากสองคูป่ ระกบเข้าหากันอย่างโหยหา ในระหว่างทีพ่ วกเขาก�ำลังโอบกอด จุมพิตกัน จางเสวียนปรือตาขึ้นเล็กน้อย ประกายแสงสีทองวาดผ่านนัยน์ตา คูน่ นั้ ทิวลิปสีด�ำทีร่ ว่ งอยูบ่ นพืน้ ลุกไหม้เป็นลูกไฟ แล้วมอดหายเป็นจุณไปใน พริบตา “ท่านประธาน คุณเร่าร้อนขนาดนี้ อยากกอดผมในห้องท�ำงานใช่ รึเปล่า” เมื่อได้ฟังน�้ำเสียงกระจ่างใสที่เจือด้วยความอารมณ์หยอกเย้าของ จางเสวียน หัวใจของเนี่ยสิงเฟิงก็ดูเหมือนจะยิ่งเต้นแรงขึ้น ทว่าหลังจากที่ โอบกอดจุมพิตคลอเคล้ากันอยู่นาน เขาก็ยอมคลายอ้อมแขนออกในที่สุด ที่นี่คือบริษัท นี่คือเวลางาน และเขา...ไม่ใช่คนที่จะควบคุมตัวเองไม่ได้ถึง ขั้นที่จะมีอารมณ์ในทุกที่ทุกเวลา จางเสวียนที่ตอนนี้นั่งอยู่บนโต๊ะท�ำงานจ้องมองเขาด้วยนัยน์ตา หวานซึ้งและรอยยิ้มหวานหยด “กลัวว่าจะมีคนมาเห็นเหรอครับ ถ้าอย่างนั้น...เราค่อยมาท�ำกัน ที่นี่ตอนกลางคืนดีไหม” อืม...ข้อเสนอนี้ไม่เลว เมื่อคิดถึงบรรยากาศหวานล�้ำเมื่อครู่แล้ว เนี่ยสิงเฟิงก็รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมา เขามองจ้องหน้าอีกฝ่ายโดยละเอียด “คุณดู...แปลกไปจากเมื่อก่อน” รอยยิ้มบนใบหน้าจางเสวียนนิ่งค้างไปทันที “ตรงไหน?” เนี่ยสิงเฟิงเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าคนรักของเขาเปลี่ยนแปลง ไปอย่างไร เพียงแค่รู้สึกว่าช่วงนี้จางเสวียนเร่าร้อนกว่าเมื่อก่อนมาก แต่นี่ 23


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ไม่ใช่เรื่องแย่...ใครบ้างจะไม่อยากให้คนรักเร่าร้อนกับตนเอง ถึงแม้ว่าความ เร่าร้อนนั้นอาจจะท�ำให้เสียงานเสียการไปบ้าง เหมือนเช่นตอนนี้... ทัง้ ทีถ่ งึ เวลาท�ำงานแล้วแต่เขากลับไม่อยากออกห่างจากคนตรงหน้า ร่างกายของจางเสวียนเหมือนมีแรงดึงดูดแปลกประหลาด ท�ำให้เขาอยาก คลอเคลียชิดใกล้อย่างไม่อาจหักห้ามใจ ยิ่งเมื่อมองดูดวงตาสีฟ้าที่ส่อง ประกายท้าทายอยู่ในทีด้วยแล้ว เนี่ยสิงเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะชะโงกหน้าเข้า ไปหา แล้วเริ่มจุมพิตอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง เสียงกังวานใสดังขึ้น เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือของเนี่ยสิงเฟิง เขาหยิบมันออกมาแล้วกวาดตามองหน้าจอ ที่แท้ก็จิ้งจอกน้อยนั่นเอง พอ จางเสวียนเห็นเช่นนั้นก็พูดขึ้นทันที “ถ้าเป็นเสี่ยวหลีละก็ ต้องไม่ใช่เรื่องส�ำคัญแน่ครับ” “อาจจะเป็นเรื่องส�ำคัญก็ได้” เนีย่ สิงเฟิงจบจุมพิตด้วยความอาวรณ์ ยืดตัวขึน้ นัง่ ตัวตรงแล้วจึงกด รับโทรศัพท์ ความจริ ง ในครั้ ง นี้ พิ สู จ น์ ว ่ า ความสามารถในการคาดเดาของ จางเสวียนแม่นย�ำแค่ไหน ทันทีทเี่ ขากดรับสาย เสียงสดใสของฮัว่ หลีกพ็ งุ่ ผ่าน โสตประสาทเข้ามา “หวัดดีครับพีเ่ นีย่ พีใ่ หญ่ไม่อยู่ ถ้างัน้ คืนนีพ้ มี่ ากินข้าวทีร่ า้ นเราดีไหม ครับ ตอนนีม้ โี ปรโมชัน่ ลดยีส่ บิ เปอร์เซ็นต์ดว้ ยนะ พลาดไม่ได้เป็นอันขาดเลย ละครับ” เป็นค�ำพูดโฆษณาชวนเชือ่ ทีเ่ หมือนลอกมาจากในหนังสือฮาวทูไม่มี ผิด เนีย่ สิงเฟิงยิม้ ละเหีย่ ใจกับตัวเอง ก่อนหน้านีฮ้ วั่ หลีบอกว่าการไปโรงเรียน นัน้ น่าเบือ่ แต่เขาไม่รวู้ า่ จิง้ จอกน้อยใช้วธิ ไี หนเกลีย้ กล่อม ถึงท�ำให้คณ ุ ปูย่ อม 24


ตอน หนทางกลับ เปิดร้านอาหารจานด่วนให้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต้องถูกรีดไถ เพราะจิ้งจอก น้อยบังคับให้ทกุ คนร่วมลงขัน ทุกคนในบ้านจึงจ�ำต้องยอมรับสถานภาพเป็น ผู้ร่วมลงทุนกันหมดทุกคน ด้วยฝีมอื ท�ำอาหารของฮัว่ หลี ประกอบกับค�ำชีแ้ นะจากกูรผู รู้ ทู้ กุ เรือ่ ง อย่างเสี่ยวไป๋ ท�ำให้ธุรกิจร้านอาหารของพวกเขาด�ำเนินไปได้ดีทีเดียว คุณปู่ ดูออกว่าจิ้งจอกน้อยมีฝีมือด้านนี้ จึงลงทุนเพิ่มอีกสองหุ้น และจ้างนักศึกษา มาช่วยงานพวกเขา ดังนั้นช่วงนี้ฮั่วหลีจึงอยู่ที่ร้านตลอด เดิมทีเนี่ยสิงเฟิงยังเป็นห่วงว่าฮั่วหลีอาจโทรมาเพราะมีปัญหา เกิดขึ้นที่ร้าน นึกไม่ถึงว่าที่แท้ก็โทรมาเรียกลูกค้านี่เอง จางเสวียนแย่งโทรศัพท์มาไว้ในมือ แล้วพูดด้วยนำ�้ เสียงเย็นชาตอบ กลับไปในทันที “ถ้าฉันจ�ำไม่ผิด หุ้นส่วนน่าจะได้กินฟรีไม่ใช่เหรอ น้องชายที่รัก!” “เอ๋! พี่ใหญ่กลับมาแล้วเหรอ พอดีเลย งั้นคืนนี้พวกพี่มาที่ร้านด้วย กันเลยนะครับ ไม่คิดเงิน ผมไม่คิดเงิน ที่พูดเมื่อกี้ผมก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น ผม ไปท�ำงานก่อนละ แค่นี้นะครับ” ทันทีทรี่ วู้ า่ พีใ่ หญ่ของตนอยูด่ ว้ ย ฮัว่ หลีทรี่ วู้ า่ ครัง้ นีอ้ ดได้ก�ำไรแน่แล้ว จึงไม่กล้าพูดมากอีก รีบตัดบทแล้ววางสายไปทันที โทรศัพท์ของจิ้งจอกน้อยท�ำลายบรรยากาศหวามไหวเมื่อครู่ไปจน หมดสิ้น และบังเอิญว่าเลขานุการสาวก็เข้ามาส่งเอกสารพอดี บทโหมโรง อันจะน�ำไปสู่เหตุการณ์เริงรักในห้องท�ำงานจึงถูกปิดม่านลงเพียงเท่านี้ ในตอนที่ก�ำลังจะเปิดประตูกลับออกไปที่โต๊ะท�ำงานของตัวเอง เนี่ยสิงเฟิงก็ รั้งอีกฝ่ายไว้ด้วยค�ำถาม “จางเสวียน ดอกทิวลิปล่ะ?” 25


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 “ทิง้ ไปแล้ว ของทีไ่ ร้ประโยชน์กไ็ ม่จ�ำเป็นต้องเก็บไว้” จางเสวียนหัน กลับมามองสบสายตาประหลาดใจของคนรักแล้วยกยิ้มบางเบา “ไว้ผมจะ ซื้อดอกใหม่มาให้ ครั้งนี้จะตั้งใจเลือกให้ดี จะไม่ท�ำให้คุณบาดเจ็บอีก” คืนนัน้ เนีย่ สิงเฟิงและจางเสวียนมาทีร่ า้ นอาหารจานด่วนของฮัว่ หลี ตามค�ำชวน ร้ า นที่ เ ป็ น ผลจากการร่ ว มลงทุ น ของพวกเขาตั้ ง อยู ่ ใ นบริ เ วณที่ ครึกครื้นที่สุดของตลาดโต้รุ่ง ท่ามกลางบรรยากาศยามราตรีอันคึกคัก สามารถมองเห็นป้ายสีรุ้งที่เขียนไว้ว่า ‘ไก่ทอดจิ้งจอกน้อย’ ได้อย่างง่ายดาย ทีด่ า้ นล่างของป้ายยังมีรปู การ์ตนู SD ของจิง้ จอกกับแมวอยูด่ ว้ ย ราวกับเกรง ผู้อื่นจะไม่รู้ว่าร้านนี้มีจิ้งจอกเป็นเจ้าของ ชื่อร้านที่ให้บรรยากาศแบบชนบทช่างสมกับเป็นรสนิยมของฮั่วหลี จางเสวียนอดไม่ได้ที่จะถามเนี่ยสิงเฟิงด้วยรอยยิ้ม “มีคนรู้ว่าคุณเป็นหุ้นส่วนร้านไก่ทอดร้านนี้รึเปล่าครับ” ดวงตาคมกริบของเนี่ยสิงเฟิงเหลือบมองคนรักแวบหนึ่ง แล้วย้อน ถาม “คุณคิดว่าไงล่ะ” แน่นอนว่าเขาย่อมไม่รังเกียจที่จะเป็นหุ้นส่วนร้านไก่ทอด แต่เขาก็ ไม่อยากให้ลูกค้านึกถึงประธานกลุ่มธุรกิจสกุลเนี่ยขณะที่ก�ำลังรับประทาน ไก่ทอดหอมกรุน่ หรอกนะ บอกตามตรงว่ารสนิยมแต่ละอย่างของจิง้ จอกน้อย มักจะชวนให้เกิดความรู้สึกพรั่นพรึงอยู่บ่อยครั้ง โชคดีที่ฝีมือการท�ำอาหาร ของเขาไม่ได้แปลกประหลาดเหมือนรสนิยม พอฮั่วหลีหันมาเห็นพี่ชายทั้งสองเดินเข้ามาในร้าน ก็ตรงรี่เข้ามา ต้อนรับด้วยสีหน้าเบิกบาน น�ำทางพวกเขาไปยังห้องส่วนตัวทีอ่ ยูด่ า้ นใน ก่อน 26


ตอน หนทางกลับ จะให้บริกรน�ำน�้ำชาและของว่างมาเสิร์ฟ ท่าทางสั่งการนั้นดูยิ่งใหญ่สมเป็น เถ้าแก่ตัวน้อย “ลูกค้าเยอะดีน”ี่ จางเสวียนพูดขณะกวาดตามองไปยังโต๊ะด้านนอก ซึ่งตอนนี้ไม่เหลือที่นั่งว่าง ได้ยนิ จางเสวียนพูดประโยคนีพ้ ร้อมกับรอยยิม้ กริม่ เนีย่ สิงเฟิงก็เดา ออกได้ทันทีว่าคนรักก�ำลังคิดอะไรอยู่ ร้านของฮั่วหลีมีพวกเขาร่วมเป็น หุ้นส่วน ดังนั้นเงินปันผลที่พวกเขาจะได้รับตอนสิ้นปีก็ขึ้นอยู่กับผลก�ำไรของ ร้านนั่นเอง “ใช่ครับ” ฮั่วหลีพยักหน้าตอบรับอย่างซื่อตรงด้วยความดีใจ “คุณปู่ ยังบอกว่าถ้าสิ้นปีนี้ได้เงินปันผลเยอะ จะลงทุนเพิ่มให้อีก” อาหารถูกน�ำมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว ฮั่วหลีช่วยจัดจานชามให้ทุกคน อย่างคล่องแคล่ว ตอนทีเ่ นีย่ สิงเฟิงรับกระดาษทิชชูทอี่ กี ฝ่ายยืน่ มาให้ สติกลับ วูบไหวกะทันหัน ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าหมุนเวียนขึ้นมาอย่างฉับพลัน ร้าน อาหารที่พลุกพล่านกลายเป็นภาพทุ่งร้างกว้างใหญ่ สายฟ้าฟาดผ่าลงมาไม่ หยุด ประกายเพลิงลุกโชนขึน้ โอบล้อมขุนเขา ชายชุดขาวคนหนึง่ ก�ำลังน�ำพา สมาชิกร่วมเผ่ากรูกนั เข้าต้านทานเพลิงสวรรค์ ทว่าเปลวไฟยังคงโหมกระหน�ำ่ แผดเผาเสื้อผ้าอาภรณ์ของพวกเขาอย่างไร้ความปรานี ร่างจริงของชายหนุม่ ซึง่ อยูท่ า่ มกลางเปลวเพลิงปรากฏให้เห็นเพียง บางส่วน เสียงค�ำรามกึกก้องกูร่ อ้ งสูฟ่ ากฟ้าเบือ้ งบน เสียงนัน้ กังวานด้วยความ ห้าวหาญเยี่ยงผู้น�ำ เรือนกายสีแดงขนาดใหญ่ที่เปี่ยมด้วยความองอาจอัน เป็นลักษณะเฉพาะของจิ้งจอกไฟ นั่นคือชื่อเหยียน บิดาของฮั่วหลีซึ่งเป็น หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกไฟที่เคยพบกับพวกเขามาครั้งหนึ่งแล้ว ‘เผ่าจิ้งจอกไฟก�ำลังประสบเภทภัย ต้องรีบผนึกอัสนีสวรรค์เพื่อ 27


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ช่วยเหลือพวกเขา!’ ความคิดนี้พวยพุ่งขึ้นในจิตใจ แต่เพียงวูบเดียว เสียงของฮั่วหลีก็ สอดแทรกเข้ามาในโสตประสาท “พี่เนี่ยครับ พี่เป็นอะไรรึเปล่า” เนีย่ สิงเฟิงหลุดจากภวังค์ เขาหันมองรอบกายจึงพบว่าตอนนีต้ วั เอง ก�ำลังนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของร้านอาหารขายดี ไม่มีเหตุการณ์เพลิงสวรรค์ ล้างเผ่าพันธุ์จิ้งจอกไฟ ที่เห็นทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่อยู่ในความคิดของเขา เท่านั้น “ท่านประธาน คุณคงท�ำงานมากเกินไป กินข้าวเสร็จแล้วรีบกลับไป พักเถอะ” จางเสวียนบอกด้วยน�้ำเสียงเจือความห่วงใย เนี่ยสิงเฟิงพยักหน้า แต่ภาพอันน่าเวทนาที่เพิ่งได้เห็นเมื่อครู่ ท�ำให้เขาไม่สามารถลบความกังวล ออกไปจากใจได้ ระหว่างที่กินอาหาร เขาจึงเอ่ยปากถามฮั่วหลีขึ้นมาลอยๆ “ช่วงนี้เธอได้ติดต่อกับพ่อแม่บ้างรึเปล่า” “ครับ” ฮั่วหลีพยักหน้า “เมื่อวานก็เพิ่งคุยโทรศัพท์กัน ท่านพ่อ เข้มงวดมากเลยละครับ ก�ำชับให้เสี่ยวไป๋ชี้แนะผมเรื่องฝึกวิชาด้วย” หลังจากที่ได้พบกับพ่อแม่อย่างไม่คาดฝัน ชื่อเหยียนก็ใช้พลัง วิญญาณติดต่อสื่อสารกับลูกชายอยู่เสมอ บางครั้งก็มาเยี่ยมด้วยตนเอง ฮั่วหลีเคารพย�ำเกรงบิดาของตนมาก ดังนั้นนอกจากบริหารร้านอาหารแล้ว เขาจึงตั้งใจฝึกวิชาตามที่บิดาสั่งอย่างเคร่งครัด ได้ยนิ ค�ำบอกเล่าของจิง้ จอกน้อย เนีย่ สิงเฟิงจึงค่อยเบาใจ และรูส้ กึ ว่าข้อสันนิษฐานของจางเสวียนที่ว่าเขาคงท�ำงานมากเกินไปนั้นมีเหตุผล พักนีเ้ ขาทัง้ มองเห็นและได้ยนิ เสียงหลอนไม่หยุดหย่อน ไม่แน่วา่ อาจมีสาเหตุ จากความเคร่งเครียดเพราะการท�ำงานมากเกินไปจริงๆ 28


ตอน หนทางกลับ เพราะกลัวว่าทุกคนจะเบือ่ ฮัว่ หลีจงึ เอือ้ มมือไปเปิดโทรทัศน์ ซึง่ เป็น ช่วงเวลาของรายการข่าวพอดี ทันทีที่เห็นข่าวเพลิงไหม้บ้านหลังหนึ่งด้วย สาเหตุแก๊สระเบิด เนี่ยสิงเฟิงก็ขมวดคิ้ว “ท่านประธาน รู้จักเจ้าของบ้านนี้งั้นเหรอ” เสีย่ วไป๋ซงึ่ เชีย่ วชาญในการสังเกตสีหน้าคนอืน่ ถามขึน้ ทันทีทเี่ ห็นว่า เนี่ยสิงเฟิงมีสีหน้าผิดแปลกไป “เขาก็คือคุณหมอตู้ หมอที่อยู่บนเรือส�ำราญ” นีไ่ ม่ใช่ขา่ วใหม่ส�ำหรับเนีย่ สิงเฟิง เขารูเ้ รือ่ งนีใ้ นวันรุง่ ขึน้ หลังจากเกิด เพลิงไหม้ที่บ้านสกุลตู้ เพียงแต่ไม่ได้บอกเล่าให้ใครฟังเท่านั้น “คุณหมอคนนี้เลินเล่อเกินไปแล้ว เสี่ยวไป๋ เรื่องนี้สอนให้พวกเรารู้ ว่าต้องคอยตรวจสอบสายแก๊สบ่อยๆ จะได้รู้ว่ามีปัญหารั่วไหลรึเปล่า” ไม่มใี ครสนใจความคิดเห็นของจิง้ จอกน้อย กระทัง่ เสีย่ วไป๋ทถี่ กู ระบุ ชื่อก็ยังไม่แม้แต่จะหันไปมอง สายตาคมกริบของลูกแมวน้อยจับจ้องอยู่ที่ เนี่ยสิงเฟิง “เจ้ารู้สึกว่าทั้งเรื่องไฟไหม้และการตายของเขาไม่ปกติงั้นหรือ” “ต�ำรวจบอกว่าเป็นอุบตั เิ หตุ แต่ฉนั มีความรูส้ กึ ว่าเวลาทีเ่ ขาเสียชีวติ น่าสงสัยมาก” เนี่ ย สิ ง เฟิ ง เองก็ เ คยสงสั ย ว่ า คุ ณ หมอตู ้ น ่ า จะมี ส ่ ว นร่ ว มในคดี ฆาตกรรมบนเรือส�ำราญ แต่เพราะไม่มีหลักฐานถ้าพูดออกมาก็เท่ากับ เป็นการแหวกหญ้าให้งตู นื่ เดิมทีเขาตัง้ ใจว่าเมือ่ กลับถึงฝัง่ แล้วจะตรวจสอบ เรือ่ งทัง้ หมดอีกครัง้ แต่ยงั ไม่ทนั ได้เริม่ คุณหมอตูก้ เ็ สียชีวติ ไปก่อน นีอ่ าจเป็น แค่ความบังเอิญ...แต่ก็เป็นความบังเอิญที่พอดิบพอดีจนน่าสงสัย “ต�ำรวจตรวจสอบแล้วว่าเป็นอุบัติเหตุ ท่านประธาน คุณยังจะเก็บ 29


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 มาคิดมากอีกท�ำไมล่ะครับ” จางเสวียนคีบกับข้าวให้อย่างเอาใจ “หรือเป็น เพราะระยะนีเ้ จอคดีฆาตกรรมมากเกินไป เลยติดนิสยั ชอบเป็นคนไขปริศนา หาตัวฆาตกร ถ้าคุณคิดจะเปิดส�ำนักงานนักสืบละก็ ผมขอเป็นหุ้นส่วน ด้วยนะ” ฮั่วหลีรีบยกมือขึ้น “ถ้ามีก�ำไรละก็ ผมขอร่วมหุ้นด้วย!” ‘พูดถึงเรือ่ งเงินทีไร เจ้าสองพีน่ อ้ งต่างสายพันธุค์ นู่ มี้ อี นั ต้องพร้อมใจ กันกระดี๊กระด๊าราวกับเป็นฝาแฝดทุกที’ เนีย่ สิงเฟิงคิดอย่างอ่อนใจ แล้วยกมือขึน้ ลูบศีรษะจิง้ จอกน้อยเบาๆ ขณะพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าฉันจะเปิดส�ำนักงานนักสืบพลังวิญญาณขึน้ มาจริงๆ จะต้องชวน พวกเธอมาร่วมหุ้นด้วยแน่นอน” หลังจบมื้ออาหาร ฮั่วหลีเดินมาส่งเนี่ยสิงเฟิงและจางเสวียนที่หน้า ร้าน เมือ่ ทัง้ สองจากไปจนลับตาแล้ว เขาก็กลับเข้ามาท�ำงานต่ออย่างแข็งขัน จนถึงสีท่ มุ่ จึงปิดร้าน รอจนพนักงานเสิรฟ์ กลับไปหมด ปิดประตูรา้ นเรียบร้อย จึงเข้าไปค�ำนวณบัญชีประจ�ำวันกับเสี่ยวไป๋ต่อที่ห้องบัญชีด้านใน พูดถึงเรื่องค�ำนวณแล้ว ไม่มีใครละเอียดเท่าเสี่ยวไป๋ แค่ใช้อุ้งมือ แมวกดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ไม่นาน ก็สามารถค�ำนวณบัญชีประจ�ำวันนีไ้ ด้ เสร็จสิน้ ฮัว่ หลีทนี่ งั่ ดูอยูข่ า้ งๆ รินนำ�้ ผลไม้ให้อย่างประจบเอาใจ ในจังหวะนัน้ สายตาที่กวาดผ่านหน้าจอของกล้องวงจรปิดก็เบิกกว้างขึ้นทันที “เอ๊ะ! ท�ำไมถึงยังมีลูกค้าหลงอยู่อีกล่ะ” ในหน้าจอของกล้องวงจรปิดปรากฏภาพชายชุดด�ำคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ โต๊ะ ท่าทางเช่นนัน้ ดูคล้ายก�ำลังรอสัง่ อาหารไม่มผี ดิ ฮัว่ หลีจงึ รีบวิง่ ออกไปหา 30


ตอน หนทางกลับ โดยทันที “ขอโทษครับคุณลูกค้า วันนี้ร้านเราปิดแล้ว เชิญมาใหม่พรุ่งนี้นะ ครับ” “ปิดเร็วขนาดนี้เชียว” เสียงนั้นแหบพร่าราวกับเสียงเสียดสีกันของโลหะ ทันทีที่ชายหนุ่ม เงยหน้าขึ้น ฮั่วหลีก็ถึงกับตะลึงงัน เขารู้สึกคุ้นหน้าอีกฝ่ายไม่น้อย ชายผู้นี้ ดูคล้ายกับ...ทนายความที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อครั้งเหตุการณ์โคม นอแรด! จิง้ จอกน้อยขยีต้ าเพือ่ ดูให้แน่ชดั แต่ครัง้ นีก้ ลับรูส้ กึ ว่าใบหน้าของอีก ฝ่ายดูไม่คล้ายกับทนายผู้นั้นแล้ว แต่กลิ่นอายของเขาปราศจากความมีชีวิต ดวงตาก็ลึกล�้ำด�ำสนิทดุจน�้ำหมึก เมื่ออยู่บนผิวกายขาวซีดที่คล้ายคนไม่เคย ได้รบั แสงแดดด้วยแล้ว ยิง่ ให้ความรูส้ กึ เยียบเย็นจนขนลุกเกรียวขึน้ มาอย่าง บอกไม่ถูก ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็ก่อตัวขึ้นในหัว ชายผู้นี้น่าจะเป็นทูตที่เดิน ทางมาจากแดนหยิน ไม่ว่าย่างกรายไปทางไหน ก็จะน�ำพามาซึ่งความตาย! ต่อให้ซอื่ บือ้ แค่ไหน ฮัว่ หลีกร็ ดู้ วี า่ ตนไม่ใช่คตู่ อ่ สูข้ องอีกฝ่าย เด็กชาย จึงก้าวเท้าถอยหลังตามสัญชาตญาณ ขณะกวาดตามองไปยังมุมทั้งสี่ของ ร้าน เพือ่ ป้องกันไม่ให้ภตู ผีวญ ิ ญาณร้ายมาก่อกวน ภายในร้านจึงติดยันต์ ป้องกันเภทภัยของจางเสวียนและหลินฉุนชิ่งไว้ไม่น้อย จิ้งจอกน้อยนึกยินดี อยู่ในใจ ‘หวังว่ายันต์พวกนี้จะช่วยสยบหมอนี่ได้นะ!’ แต่ความหวังนั้นกลับพลันสลาย ดูเหมือนชายผู้นี้จะไม่เห็นยันต์ 31


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 เหล่านัน้ อยูใ่ นสายตาแม้แต่นดิ เดียว เขาลุกขึน้ ยืน แล้วค่อยๆ ย่างสามขุมมา หาฮัว่ หลี ยิง่ ร่างนัน้ ก้าวเข้ามาใกล้ ฮัว่ หลีกย็ งิ่ รูส้ กึ ได้วา่ แสงไฟรอบด้านก�ำลัง มืดลงทุกที ความเยียบเย็นอันเป็นสัญญาณของความตายเหมือนจะคืบคลาน เข้ามาหาทีละนิด จิ้งจอกน้อยจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาระแวดระวัง สองมือไขว้ไปด้านหลัง เตรียมจะปลดปล่อยโซ่เพลิงออกมาเพือ่ ใช้ในการต่อสู้ “เมี้ยว!” เสีย่ วไป๋พงุ่ ตัวกระโจนออกมาจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว มันยืนขวาง อยูต่ รงกลางระหว่างฮัว่ หลีและอีกฝ่าย เส้นขนลุกฟูตงั้ ชัน นัยน์ตาคมกริบของ แมวด�ำฉายแววอึมครึม จับจ้องไปที่ชายผู้นั้นอย่างเย็นชา ทั้งยังส่งเสียงขู่ ค�ำรามเหี้ยมเกรียม แสงสีฟา้ ทีไ่ ร้รปู ร่างขวางอยูต่ รงหน้าชายชุดด�ำ นัน่ คือจิตธรรมะแห่ง ธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างนักพรตทุกคน ชายผู้นั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่า อวี้ไป๋เฟิงผู้นี้จะมีพลังอาคมแกร่งกล้าแม้อยู่ในร่างแมว ดูเหมือนจะเป็นไป ไม่ได้แล้วที่เขาจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยไปโดยไร้ร่องรอย... ที่จริงนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร อีกไม่ช้าฮั่วหลีก็ต้องตกมาอยู่ใน ก�ำมือของเขาอยูด่ ี รังสีชวั่ ร้ายทีโ่ อบล้อมรอบร่างจึงแผ่วจางลง ใบหน้าทีข่ งึ ตึง อยู่เมื่อครู่กลับฉาบทาด้วยรอยยิ้มบางๆ “แมวที่เจ้าเลี้ยงไว้ดุจริง ไว้วันหลังข้าจะมาใหม่ก็แล้วกัน” ฮั่วหลีไม่ตอบ ได้แต่ยืนนิ่งจ้องมองตามชายหนุ่มที่หันหลังเดิน จากไป เมื่อเดินไปถึงหน้าประตู ชายผู้นั้นก็พลิกตัวหันกลับมา แล้วเอ่ยด้วย น�้ำเสียงเรียบเย็น “ฝากทักทายพ่อของเจ้าด้วยล่ะ” “เอ๋?” 32


ตอน หนทางกลับ ฮั่วหลียืนอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติรีบวิ่งไล่ตามไป ทว่าภายนอก กลับมีเพียงความมืดมิด ร่างของชายชุดด�ำผู้นั้นหายไปอย่างไร้เงา ฮั่วหลีจึง รีบวิ่งกลับมาถามเสี่ยวไป๋โดยที่ทั้งเสียงและเนื้อตัวยังคงสั่นเทา “เสี่ยวไป๋ ขะ...เขา...เขา...ปะ..เป็น...เป็น...ใคร” “มารร้าย! มารร้ายแห่ง...ความตาย!” พลังวิญญาณของเสี่ยวไป๋แข็งแกร่งกว่าฮั่วหลีมาก จึงสัมผัสถึง ไอจิตแห่งความตายได้ชัดเจนกว่า มันไม่ได้พบเจอไอจิตที่ชั่วร้ายรุนแรงถึง เพียงนีม้ าเนิน่ นานแล้ว ไอจิตทีเ่ ป็นดัง่ ความมืดอันไร้ขอบเขต พร้อมทีจ่ ะจูโ่ จม เข้าโอบล้อมจนไร้ซึ่งหนทางจะหลบหนี ท�ำได้เพียงยืนนิ่ง ยอมถูกควบคุมแต่ โดยดี แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายกลืนกินตามใจชอบ... เสี่ยวไป๋รีบวิ่งกลับไปที่ห้องบัญชี กระโดดขึ้นบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว อุง้ มือแมวกดย้อนภาพในกล้องวงจรปิด ทันทีทภี่ าพย้อนกลับมาถึงตอนทีช่ าย ชุดด�ำปรากฏตัว หน้าจอก็กลายเป็นจุดซ่าสีขาวด�ำ จากนัน้ เงาร่างสีด�ำทะมึน จึงค่อยๆ ปรากฏขึ้น ร่างนั้นทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ดูคล้ายกลุ่มก้อนหมอกสี ด�ำที่รางเลือนจนสามารถมองทะลุร่างกายไปเห็นผนังที่อยู่ด้านหลัง และดู เหมือนว่าชายหนุ่มจะรู้ตัวว่าก�ำลังถูกแอบมองจึงได้หันหน้ามายิ้มให้กล้อง “อ๊าก!” ภาพทีเ่ ห็นสยดสยองเกินไป ฮัว่ หลีตกใจจนร้องลัน่ แล้วหงายหลังลง บนพื้น ถึงตอนนี้จิ้งจอกน้อยจึงเพิ่งรับรู้ด้วยความหวาดกลัวว่า ที่เห็นอยู่ใน กล้องไม่ใช่ภาพเก่าแต่เป็นการถ่ายทอดสด! ที่แท้ชายผู้นั้นยังไม่ไปไหน แต่ยืนมองพวกเขาอยู่ด้านนอกด้วย สายตาเย็นชา ที่ส�ำคัญคือ จู่ๆ ห้องที่อยู่ด้านหลังก็มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้น กะทันหัน ฮั่วหลีหันไปมองหน้าจอทันทีตามสัญชาตญาณ จึงพบว่าเงาด�ำ 33


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 กลุม่ ก้อนนัน้ ก�ำลังค่อยๆ เคลือ่ นตัวมาทางห้องบัญชี เขาตกใจจนส่งเสียงร้อง รัวเร็วออกมาดังลั่น “เขาๆๆๆ เขาเข้ามาแล้ว เสี่ยวไป๋ๆๆ ช่วยด้วย! ท�ำยังไงกันดี ช่วย ด้วย!” “เจ้าเป็นถึงมารจิ้งจอกไฟนะอย่าลืม!” เสี่ยวไป๋เตือนสติด้วยเสียง เยือกเย็น “ไม่รู้รึไงว่าตกใจขนาดนี้มันน่าขายหน้าน่ะ!” พูดจบลูกแมวน้อยก็กระโดดลงจากโต๊ะ ยกอุง้ เท้าแมวขึน้ เตะฮัว่ หลี ไปทีหนึ่งเป็นการเรียกสติ นัยน์ตาคมกริบส่องประกายเหี้ยมเกรียมขณะมอง ไปที่ประตูห้องซึ่งยังคงปิดสนิท ไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามา “ที่เจ้าเห็นคือมารในใจ นั่นเป็นภาพลวงตา เขาก�ำลังก่อกวนจิตใจ ของเจ้า!” แค่ดจู ากวิชามายาภาพทีร่ า้ ยกาจขนาดนี้ ก็รไู้ ด้ทนั ทีวา่ ฝีมอื ของมาร ตนนีส้ งู ส่งเพียงใด แต่พอเห็นหน้าซีดขาวเป็นกระดาษของฮัว่ หลีแล้ว เสีย่ วไป๋ ก็ปิดปากเงียบ ไม่ได้บอกสิ่งที่ตนรับรู้ออกไป “ดูเหมือนปีศาจตัวนี้จะไม่กลัวยันต์ป้องกันสิ่งอัปมงคลด้วยสิ” ฮัว่ หลีรบี บอกกับเสีย่ วไป๋ดว้ ยความกังวล หลังจากทีแ่ อบหันไปหรีต่ ามองด้วย ความหวาดกลัวแล้วไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติจึงค่อยเบาใจ หันมาพูดกับเสี่ยวไป๋ ต่อ “คงเป็นเพราะอาคมของหมอนั่นร้ายกาจกว่าพี่ใหญ่กับลุงชิ่ง ถึงได้กล้า มาก่อกวนทีน่ ี่ แย่แล้ว! หรือเพราะเขาเห็นพวกเราขายดี ก็เลยคิดจะรีดไถเงิน จากเรา?” “วางใจเถอะ เขาไม่สนใจร้านนี้ของเจ้าหรอก” ตอนนี้ในใจของเสี่ยวไป๋เชื่อมั่นไปแล้วอย่างเต็มเปี่ยมว่า สิ่งที่อยู่ใน กะโหลกของจิง้ จอกน้อยคงไม่ใช่สมองแต่เป็น...แป้งเปียก! มันจึงอธิบายด้วย 34


ตอน หนทางกลับ น�้ำเสียงหงุดหงิดใจในความซื่อบื้อของอีกฝ่าย “ที่เขาสนใจคือพ่อของเจ้า! เมื่อกี้เจ้าก็ได้ยินไม่ใช่หรือ ที่เขาฝากไป ทักทายพ่อของเจ้าน่ะ” “ท่านพ่อของฉันมีทา่ นแม่อยูแ่ ล้ว ไม่มที างชอบปีศาจน่ากลัวแบบนี้ หรอก” ร่างของเสี่ยวไป๋เซถลา แข้งขาอ่อนจนเกือบสะดุดขาตนเองล้ม พอ ตั้งหลักได้มันก็กระโดดแผล็วขึ้นมาตะคอกเสียงดังลั่นใส่หน้าฮั่วหลีอย่าง เหลืออด “ทีข่ า้ พูดหมายความว่าเจ้านัน่ ประสงค์รา้ ยต่อพ่อเจ้า! ทีเ่ ขาโผล่หน้า มาที่นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ พรุ่งนี้พวกเราต้องรีบไปหาพี่ใหญ่เจ้า เล่าเรื่องทั้งหมด ให้เขาฟัง เขาอาจรู้ว่าที่แท้มารร้ายตนนี้เป็นร่างแปลงของภูตมารตนใด กันแน่!” “โทรหาพี่ใหญ่ตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ” เพราะรู้สึกว่าภัยร้ายก�ำลังคุกคามมาถึงตัว ฮั่วหลีจึงคิดว่าน่าจะรีบ ติดต่อจางเสวียนโดยเร็วที่สุดจะปลอดภัยกว่า “ดึกป่านนีแ้ ล้ว จางเสวียนกับท่านประธานคงก�ำลังยุง่ โทรไปตอนนี้ ต้องไม่มีคนรับสายแน่” เสี่ยวไป๋วิเคราะห์อย่างผู้รู้ “พรุ่งนี้ค่อยไปหาพวกเขา ดีกว่า วางใจเถอะ เป้าหมายของหมอนั่นไม่ใช่เจ้า มิเช่นนั้นมันคงลงมือ ไปแล้ว” “อืม นั่นสินะ” เมื่ อ ตั้ ง สติ คิ ด ทบทวนดู แ ล้ ว ก็ เ ห็ น ว่ า ถู ก ต้ อ งตามที่ เ สี่ ย วไป๋ พู ด ทุกอย่าง ฮั่วหลีที่ไม่เคยฝ่าฝืนค�ำแนะน�ำของอีกฝ่ายจึงพยักหน้าหงึกหงัก อย่างเห็นด้วย แล้วยื่นหน้าระรื่นเข้ามาถาม 35


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 “ถ้าเกิดอันตรายขึ้นมาจริงๆ นายจะปกป้องคุ้มครองฉันใช่ไหม” ถูกอุ้งเท้าแมวถีบใส่เต็มหน้าในทันที ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ เย้ยหยัน “แน่นอน ข้าจะคุม้ ครองให้เจ้าได้ไปเกิดใหม่โดยสวัสดิภาพยังไงล่ะ!” ที่เสี่ยวไป๋วิเคราะห์นั้นไม่ผิด! จางเสวียนกับเนี่ยสิงเฟิงก�ำลังยุ่งอยู่จริงๆ เพราะหลังออกจากร้าน ของฮั่วหลีแล้ว พวกเขาไม่ได้ตรงกลับคอนโดอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับไป ขับรถเล่นกันอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะย้อนกลับไปที่บริษัท! เวลานีเ้ ข้าสูช่ ว่ งกลางดึกแล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยของบริษทั ยังคงท�ำงานอยู่อย่างดีเยี่ยม ประตูใหญ่ก็ปิดล็อกแน่นหนา เนี่ยสิงเฟิงใช้ คียก์ าร์ดเปิดประตูดา้ นข้าง จากนัน้ ทัง้ คูจ่ งึ ขึน้ ลิฟต์มายังห้องท�ำงานประธาน บริษัทซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของตัวอาคาร หลังจากทีเ่ ข้าไป พวกเขาไม่ได้เปิดไฟ ทัง้ ยังกดล็อกประตู เนีย่ สิงเฟิง ยืนพิงประตูแล้วเอื้อมมือไปดึงร่างจางเสวียนเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ริมฝีปาก ของทั้งคู่จู่โจมเข้าหากันอย่างเร่าร้อนท่ามกลางความมืดสลัว ในระหว่างทางจางเสวียนดืม่ เบียร์ไปสองกระป๋อง ใบหน้าเนียนขาว จึงแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย เนี่ยสิงเฟิงมองดูจนรู้สึกใจเต้นมาตั้งแต่ตอนที่ขับรถ เมือ่ ครูแ่ ล้ว สุดท้ายเขาก็ไม่อาจต้านทานความเย้ายวนของอีกฝ่ายได้ จึงต้อง ยอมพามาลิ้มรสความเร่าร้อนของการเริงรักที่ห้องท�ำงานในบริษัท เสียงครางหอบต�่ำแสนรัญจวนใจดังขึ้นแผ่วเบาในห้องเงียบสงัด แขนขาของทั้งคู่สอดประสาน เสื้อนอกร่วงตกลงพื้นขณะที่ผิวเนื้อร้อนผ่าว เสียดสีกันและกัน จากนั้นคือเนกไทที่ถูกทิ้งขว้างไปอย่างไม่ไยดี 36


ตอน หนทางกลับ กระดุมเสือ้ เชิต้ ของจางเสวียนถูกปลดออกอย่างรวดเร็ว มือทีค่ อ่ นข้าง เย็นของเนี่ยสิงเฟิงลูบไล้ผืนอกเนียนเรียบนั้นตามใจชอบ เสียงครางแผ่วเบา ดังอยู่ข้างหู ริมฝีปากของจางเสวียนยกขึ้นเป็นรอยยิ้มยั่วเย้า ก่อนจะฉุดดึง คนในอ้อมแขนให้เดินไปยังหน้าโต๊ะท�ำงาน แล้วกระซิบเสียงแหบพร่า “ท่านประธาน คุณใจร้อนจังเลยนะ” มูล่ ที่ อี่ ยูด่ า้ นข้างไม่ได้ปดิ เมือ่ ทัง้ คูย่ นื พิงโต๊ะท�ำงาน จึงสามารถมอง เห็นแสงที่ส่องสว่างจากอาคารบ้านเรือนซึ่งอยู่ด้านล่างได้ถนัดตา แสงเงา ทับซ้อนผ่านบานกระจก ท�ำให้ราตรีนี้ดูอึมครึมกว่าปกติ โคมไฟถนนที่อยู่ไกลออกไปส่องแสงอ่อนจาง เงาด�ำเส้นหนึ่งทาบ ทับลงบนใบหน้าครึ่งซีกของจางเสวียนอย่างพอดิบพอดี ส่งให้ใบหน้าหล่อ เหลายิง่ เปีย่ มเสน่ห์ ตอนนีใ้ นสายตาของเนีย่ สิงเฟิง จางเสวียนดูคล้ายรูปสลัก หยกที่สมบูรณ์แบบ ดวงตาสีฟ้าไหวระริกอย่างซุกซนราวกับมีคลื่นน�้ำไหล เวียนอยู่ในนั้น ทั้งยังอ่อนเชื่อมด้วยอารมณ์เสน่หา มองดูคล้ายกับภูตน้อย แห่งความปรารถนาที่ก�ำลังท้าทายสติสัมปชัญญะเสี้ยวสุดท้ายของเขา ล�ำคอแห้งผาก...เขาเอี้ยวตัวเอื้อมมือไปท�ำท่าจะปิดมู่ลี่ แต่กลับถูก อีกฝ่ายยื้อมือไว้ให้หันกลับมาหาตน ท่อนแขนเนียนขาวโอบกอดรอบล�ำคอ แล้วเหนี่ยวรั้งลงมาประกบจูบ ริมฝีปากคลอเคล้าแนบชิด เนี่ยสิงเฟิงอด ไม่ได้ที่จะส่งเสียงเครือครางแผ่วเบาด้วยความรัญจวนใจ “นี่เป็นกระจกด้านเดียว คนข้างนอกมองไม่เห็นสักหน่อย จะปิด ท�ำไมล่ะครับ” เสียงเร่าร้อนกระซิบถามที่ริมหู แม้จะรู้ว่าเป็นเช่นนั้น แต่การแสดงความรักท่ามกลางบรรยากาศ เปิดโล่งแบบนีก้ ท็ �ำให้เขารูส้ กึ แปลกอยูด่ ี ทว่าจุมพิตดืม่ ดำ�่ ทีอ่ กี ฝ่ายปรนเปรอ ให้ก็สามารถสยบความกังวลในใจได้อย่างราบคาบ 37


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 “ผมไม่ชินที่จะเปิดม่านเวลาที่ท�ำเรื่องอย่างนี้” เขากระซิบตอบ “คุณไม่รู้สึกเหรอครับ ว่าแบบนี้...เร้าอารมณ์กว่า” ไม่เพียงกระซิบด้วยน�ำ้ เสียงหยอกเย้า แต่ยงั ออดอ้อนเขาด้วยจุมพิต เร่าร้อนไม่ห่าง เนี่ยสิงเฟิงไม่อาจต้านทานความเย้ายวนนั้นได้อีก เขากดร่าง ของอีกฝ่ายลงบนโต๊ะท�ำงาน โชคดีที่โต๊ะนี้กว้างมากพอ เมื่อดันกองเอกสาร ไปไว้ด้านข้างแล้ว ก็มีพื้นที่พอให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก เสื้อผ้าที่เสียดสีสร้างความรู้สึกหวามไหวยามเมื่อร่างกายบดเบียด เข้าหากัน เพียงแค่จุมพิตไม่อาจเติมเต็มความต้องการอีกต่อไป เนี่ยสิงเฟิง เอื้อมมือไปปลดเข็มขัดของจางเสวียนออก ยื่นมือเข้าไปลูบไล้แก่นกาย อ่อนไหวร้อนผ่าว เสียงหอบหายใจเบาแผ่วดังแว่ว สอดประสานกันดุจสาย พิณบนพิณชีเสียน1 ก่อให้เกิดระลอกคลื่นเสี้ยวเล็กๆ ขึ้นในใจของเนี่ยสิงเฟิง ขณะทีร่ า่ งกายเคล้าคลอกันอย่างโหยหา เสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดงั แว่ว มาจากโถงทางเดินด้านนอก การเคลื่อนไหวของทั้งคู่พลันชะงักงัน สายตา สองคู่เหลือบมองไปด้านนอกพร้อมกันโดยทันที แสงไฟวูบวาบสาดส่อง ไม่นาน...เสียงฝีเท้านัน้ ก็หนั เหไปยังทิศทาง อืน่ ทีแ่ ท้กเ็ ป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยทีม่ าเดินตรวจตราแต่ละชัน้ ตาม ปกติ เสียงฝีเท้านัน้ ยังคงวนเวียนอยูไ่ ม่ไกล เนีย่ สิงเฟิงทีก่ �ำลังตกอยูใ่ นห้วง อารมณ์หวานล�้ำ แม้อยากสานต่อสิ่งที่กระท�ำอยู่ต่อไป แต่อีกใจก็เกรงว่า พนักงานรักษาความปลอดภัยจะได้ยิน เขาจึงนิ่งค้างอยู่ในสภาพที่เนื้อตัว ร้อนผ่าวแนบชิด เห็นท่าทางละล้าละลังของอีกฝ่ายแล้วจางเสวียนได้แต่ กะพริบตาถี่ๆ เพ่งมอง ก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะพรืดออกมา เนี่ยสิงเฟิงรีบ 1

พิณชีเสียน คือพิณโบราณของจีน ให้เสียงทุ้ม มีประวัติยาวนานมากกว่าสามพันปี

38


ตอน หนทางกลับ ยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากอีกฝ่ายเป็นสัญลักษณ์ให้เงียบเสียง ผ่านไปครู่ใหญ่ กว่าเสียงฝีเท้าคูน่ นั้ จะค่อยๆ เลือนหาย ชายหนุม่ ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมือ่ ความเร่าร้อนถูกขัดจังหวะกลางคัน เขาก็พลันรูส้ กึ ขุน่ เคืองขึน้ มา จึงอดที่ จะเอ่ยปากไม่ได้ “ท�ำไมผมถึงมีความรู้สึกเหมือนพวกเราก�ำลังแอบคบชู้กันอยู่” “แบบนี้ก็ตื่นเต้นดีไม่ใช่เหรอครับ” ตื่นเต้น? เหลวไหวไม่เข้าเรื่องต่างหาก! ที่ถูกต้องแล้วพวกเขาควรจะกอดก่ายถ่ายทอดความรักกันในห้อง นอนที่บ้านอย่างเปิดเผย ไม่ใช่มาแอบท�ำอะไรลับๆ ล่อๆ ที่บริษัทแบบนี้! แต่พอเห็นรอยยิ้มระรื่นยั่วเย้าของคนที่ทอดกายอยู่ใต้ร่างของตัวเองแล้ว เนี่ยสิงเฟิงก็พลันรู้สึกว่า เขาต้องโดนยาเสน่ห์ของเจ้าเทียนซืออ่อนหัดคนนี้ เข้าไปแน่ๆ ถึงได้ใจอ่อนยอมท�ำตามข้อเสนอเหลวไหลของอีกฝ่าย “ถ้าอย่างนั้น...” เนี่ยสิงเฟิงกระซิบเสียงพร่า มุมปากยกขึ้นเป็น รอยยิ้มร้าย “ต่อจากนี้ไป ผมจะท�ำให้คุณตื่นเต้นจนลืมไม่ลงเชียวละ!” พูดจบก็ก้มหน้าลงจุมพิตจางเสวียนอย่างดื่มด�่ำ คอยดูเถอะ! คืนนีเ้ ขาจะลงโทษหมอนีใ่ ห้สาสม จะได้รซู้ งึ้ เสียทีวา่ ถ้า อยากได้ความตื่นเต้นก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สมน�้ำสมเนื้อ เสือ้ ผ้าถูกถอดออก ร่างกายเปลือยเปล่าของทัง้ คูก่ อดก่ายกันอยูบ่ น โต๊ ะ ท�ำงานตั ว ใหญ่ การสั ม ผั ส ลู บ ไล้ กั น และกั น ด้ ว ยความเร่ า ร้ อ นคื อ บทโหมโรงของการแสดงความรัก สติสัมปชัญญะเลือนหายไปท่ามกลาง เปลวเพลิงแห่งความปรารถนา นิว้ ยาวเรียวของเนีย่ สิงเฟิงไต่ไล้ไปตามผิวกาย เนียนเรียบเปลือยเปล่าของจางเสวียน ท่วงท�ำนองทีพ่ ร่างพรมลงไปนัน้ ราวกับ นักเปียโนฝีมือดี ที่ก�ำลังบรรเลงบทเพลงอันไพเราะ...บทเพลงที่เป็นของเขา 39


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 เพียงผู้เดียวเท่านั้น และเสียงครวญครางจากคนที่กระสับกระส่ายอยู่ใต้ร่าง ก็เป็นท่วงท�ำนองขับขานซึ่งเขารอคอยที่จะได้ยิน สุดท้าย เขาจึงสอดแทรกความแข็งแกร่งของตัวเองเข้าสู่ช่องทาง อ่อนนุ่มของอีกฝ่าย ท่ามกลางท่วงท�ำนองอันเร่าร้อนและอ่อนหวาน ไม่ปล่อยให้มเี วลาพักหายใจ เนีย่ สิงเฟิงกดขาของอีกฝ่ายไว้ กระทัน้ กายเป็นจังหวะไม่หยุด จากนั้นจึงรั้งขาของจางเสวียนขึ้นสูงจนเอวของ ฝ่ายนั้นยกลอยขึ้นจากโต๊ะ ไม่เหลือสิ่งใดให้เกาะเกี่ยวอีกต่อไป ด้วยท่วงท่าเช่นนี้ท�ำให้เขาสามารถส่งความรุ่มร้อนของตัวเอง สอดแทรกเข้าไปถึงส่วนลึกทีส่ ดุ ในร่างกายของอีกฝ่าย ช่องทางไวสัมผัสบีบรัด ตามสัญชาตญาณ ราวกับยินดีต่อการสอดแทรกเข้ามาของสิ่งนั้น ทั้งคู่แนบ ชิดกันจนแทบไม่เหลือช่องว่าง การเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งร่างกายและ หัวใจ ท�ำให้ความอบอุ่นเต็มตื้นขึ้นมาในใจของจางเสวียน จนเกิดความรู้สึก ว่า...พวกเขาได้หลอมรวมกระทั่งจิตวิญญาณให้เป็นหนึ่งและจะไม่มีวัน แยกจากกันอีก แรงกระแทกกระทั้นท�ำให้ใบหน้าหล่อเหลาต้องเชิดขึ้น ริมฝีปาก เปล่งเสียงครวญครางด้วยความสุขสมตามการเคลือ่ นไหวของอีกฝ่าย ไม่นาน ก็สมั ผัสได้วา่ มีกระแสอุน่ ร้อนแผ่ซา่ นเข้ามาในท้องน้อย เนีย่ สิงเฟิงปลดปล่อย ความปรารถนาเข้ามาในร่างกายเขา จากนั้นก็กอบกุมส่วนอ่อนไหวของเขา ไว้ แล้วขยับมือเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ความต้องการของเขาได้รับ การปลดปล่อยออกมาบ้าง หลังจากที่ความเร่าร้อนผ่านพ้นไป ทั้งสองโอบกอดกันอยู่บนโต๊ะ ครู่หนึ่ง “นี่ก็ดึกมากแล้ว คืนนี้ค้างที่นี่ก็แล้วกัน” เนี่ยสิงเฟิงกระซิบบอกที่ 40


ตอน หนทางกลับ ริมหู “เอาสิครับ ถ้างั้นผมไปอาบน�้ำก่อนนะ ท่านประธาน คุณจะไปด้วย กันไหม” มีห้องพักผ่อนอยู่ด้านข้างห้องท�ำงานของประธานบริษัท ในนั้นมี ครบทั้งโซฟาและเตียง แต่ไม่มีห้องอาบน�้ำ ถ้าอยากอาบน�้ำต้องลงไปที่ชั้น สิบเอ็ด ที่นั่นเป็นศูนย์นันทนาการส�ำหรับพนักงาน ซึ่งมีห้องอาบน�้ำไว้บริการ ด้วย เมือ่ ใคร่ครวญแล้วเนีย่ สิงเฟิงจึงส่ายหน้าปฏิเสธค�ำเชิญชวนของอีกฝ่าย ไม่แน่ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาจเห็นจากกล้องวงจรปิด ในตอนที่พวกเขาเดินเข้ามาในบริษัท ถ้าหากเห็นพวกเขาเดินไปห้องอาบน�้ำ ด้วยกันในเวลาดึกดืน่ แบบนีอ้ กี มิเท่ากับเป็นการเปิดเผยความจริงด้วยตนเอง หรอกหรือ “คุณไปก่อนเถอะ” จางเสวียนเดินออกจากห้องไปแล้ว เนีย่ สิงเฟิงจึงเริม่ จัดเก็บข้าวของ ที่กระจัดกระจายให้เรียบร้อย จากนั้นจึงเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่อยู่ใน ห้องด้านข้าง ดวงตาทั้งคู่ปิดลงเพื่อพักสายตา ไม่รทู้ �ำไมเขาถึงรูส้ กึ ว่าพักนีเ้ หนือ่ ยง่ายเหลือเกิน โดยเฉพาะหลังจาก ท�ำกิจกรรมอย่างว่า เมื่อลองนึกทบทวนจ�ำนวนครั้งที่มีความสัมพันธ์กับ จางเสวียนแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามากมายจนผิดปกติ อีกทั้งตัวเขาเองก็ยัง หนุ่มแน่น ไม่น่าจะหมดเรี่ยวแรงหรือร่างกายเสื่อมถอยเร็วขนาดนี้ ในขณะทีก่ �ำลังสะลึมสะลือ จมูกก็สมั ผัสได้ถงึ กลิน่ หอมจางทีร่ วยริน มาในอากาศ จางเสวียนกลับมาแล้ว ชายหนุ่มนั่งลงข้างเตียง จ้องมองมาที่ เขาแล้วหัวเราะคิกคัก “ท่าทางคุณเหนื่อยน่าดู ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ” 41


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 “ไม่” เนีย่ สิงเฟิงตอบรวบรัด ต่อให้ถกู บีบคอ เขาก็ไม่มที างยอมรับเด็ดขาด ว่าอ่อนเพลีย และยิ่งไม่มีทางยอมให้เจ้าหมอผีนักต้มตุ๋นผู้นี้บังคับให้เขา ดื่มน�้ำยันต์หรือกินยาบ�ำรุงต�ำรับจางเทียนซือเป็นอันขาด! “จริงเหรอครับ” เห็นได้ชัดว่าจางเสวียนไม่เชื่อ มือเย็นลูบไล้ที่หน้าผากของเขา... เมือ่ ถูกสัมผัส ร่างกายของเนีย่ สิงเฟิงก็สะดุง้ ขึน้ ราวกับถูกไฟฟ้าช็อต หัวใจเต้นแรงอย่างไม่อาจห้าม เบือ้ งหน้าพลันกลายเป็นสีด�ำมืด นีเ่ ป็นความ มืดที่เขาคุ้นเคย...มันเจือไว้ด้วยความเยียบเย็นของความตาย ความเงียบงัน และสีสันของมัจจุราช “คุณเป็นอะไรไป” จางเสวียนรูส้ กึ ตกใจปฏิกริ ยิ าตอบสนองของคนรัก จึงรีบชักมือกลับ โดยไม่รู้ตัว “ผมไม่เป็นไร” ความรู้สึกแปลกประหลาดจางหาย แต่ความประหลาดใจยังคงอยู่ เนี่ยสิงเฟิงรู้ตัวดีว่า หมู่นี้เขามักจะรู้สึกกังวลใจโดยไม่ทราบสาเหตุ ถ้าขืน ปล่อยไว้สุขภาพจิตมีหวังทรุดโทรมในเร็ววันอย่างแน่นอน เขาลองยื่นมือไปสัมผัสมือของจางเสวียน... ครั้งนี้ไม่เกิดเหตุการณ์ แปลกประหลาดใดๆ ความมืดด�ำแห่งความตายที่ได้เห็นเมื่อครู่คงเป็นเพียง ภาพหลอนอีกเช่นเคย “คุณดูเครียดจัง ผมนวดให้ดีมั้ยจะได้หลับสบาย ที่ส�ำคัญนี่เป็น บริการฟรีนะครับ ผมไม่คิดเงิน” จางเสวียนไม่ได้ซกั ไซ้อะไรอีก และโดยไม่รอฟังค�ำตอบ สองมือของ 42


ตอน หนทางกลับ เขาค่อยๆ กดนวดไปตามจุดต่างๆ บนศีรษะของแมวกวัก ด้วยน�้ำหนักมือที่ ก�ำลังดี ไม่นานเนี่ยสิงเฟิงก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น นัยน์ตาหลับพริ้ม เคลิบเคลิ้ม ไปกับการปรนนิบัตินั้น “ท่านประธาน อาทิตย์หน้ามีงานมอเตอร์โชว์ระดับนานาชาติด้วย พวกเราไปดูด้วยกันดีไหม” น�้ำเสียงออดอ้อนแว่วดังขึ้นข้างหู ‘โลกนี้ไม่มีอาหารกลางวันฟรีอย่างที่คุณปู่เคยบอกไว้ไม่มีผิด’ เนี่ยสิงเฟิงตัดสินใจได้ในนาทีนั้นว่า จากนี้ไป ก่อนจะรับบริการใดๆ จากเจ้าหมอผีนักต้มตุ๋น เขาต้องสอบถามราคาให้ถ้วนถี่ มิเช่นนั้นจะเป็น เหมือนคืนนี้ ที่ต้องกลายเป็นปลาบนเขียง ให้หมอนี่แล่เนื้อเถือทรัพย์สิน เอาตามใจชอบ!

43


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7

3

ทั้งสองนอนค้างที่บริษัท รุ่งเช้าเนี่ยสิงเฟิงจึงตื่นแต่เช้าไปอาบน�้ำ ภายในห้องพักผ่อนมีชุดสูทส�ำรองเตรียมไว้ เขาเลือกเสื้อสูทเพื่อเปลี่ยนใหม่ ส�ำหรับตนเองและจางเสวียน ส่วนเสื้อเชิ้ตและเนกไทต้องใช้ของเดิม ขณะ ช่วยผูกเนกไทให้เขา จางเสวียนก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มซุกซน “ไว้ผมจะหาเสื้อเชิ้ตมาเตรียมไว้ที่นี่ด้วย คราวหน้าจะได้มีเปลี่ยน นะครับ” ‘นี่ยังจะมีคราวหน้าอีกงั้นหรือ’ พอมองใบหน้าและแววตาวาววามของอีกฝ่ายแล้ว เนีย่ สิงเฟิงก็รไู้ ด้ ทันทีว่า กิจกรรมนอกเวลาในห้องท�ำงานระหว่างพวกเขาทั้งคู่จะต้องมีครั้ง ต่อไปอย่างแน่นอน หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ในตอนที่ก�ำลังเตรียมตัวจะท�ำงาน เสียงสนทนาก็ดงั แว่วมาจากด้านนอก จากนัน้ ประตูหอ้ งท�ำงานของเขาก็เปิด ออก ร่างของฮั่วหลีวิ่งพรวดเข้ามาทันที โดยมีจางเสวียนเดินตามมาทาง 44


ตอน หนทางกลับ ด้านหลัง “มีผีอาละวาดในร้านของจิ้งจอกน้อย เขาเลยมาขอความช่วยเหลือ จากพวกเราน่ะครับ” “ผี?” ที่แท้มารจิ้งจอกไฟก็กลัวผีด้วยหรือนี่! ได้ยินแบบนั้นเนี่ยสิงเฟิงไม่รู้ จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่พอเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของ ฮั่วหลีแล้ว เขาก็กลืนค�ำพูดที่ตั้งใจจะล้ออีกฝ่ายกลับลงท้องไปทันที “ใช่ครับใช่ เป็นผีที่น่ากลัวมาก...ไม่สิ ไม่ใช่ อันที่จริงมันคือมารร้าย ต่างหาก!” ฮั่วหลีพยักหน้ารัวๆ เหมือนเป็นการเน้นย�้ำ แล้วหยิบเอาแผ่น DVD ที่ก๊อปปี้ไฟล์จากกล้องวงจรปิดออกมา เพราะถูกมารร้ายที่แสนจะน่าสะพรึงกลัวข่มขู่ เมื่อคืนฮั่วหลีจึงไม่ กล้าอยู่ที่ร้านต่อ แต่รีบพาเสี่ยวไป๋กลับบ้านทันที เช้าวันนี้พอตื่นขึ้นก็ตรงดิ่ง ไปหาจางเสวียนที่คอนโด แต่ไม่ว่าจะกดออดนานแค่ไหนก็ไม่มีคนมาเปิด ประตูให้ โทรศัพท์มือถือก็โทรไม่ติด ด้วยเหตุนี้เสี่ยวไป๋จึงแนะน�ำว่าให้มาที่ บริษัทเลยจะดีกว่า “วันนีพ้ วกพีม่ าท�ำงานแต่เช้าเลย งานยุง่ มากเหรอครับ ถึงไม่มเี วลา รับโทรศัพท์” จิง้ จอกน้อยถามด้วยความบริสทุ ธิใ์ จและห่วงใย แต่คนฟังกลับร้อน ตัว สีหน้าของเนี่ยสิงเฟิงจึงกระอักกระอ่วนขึ้นมาเล็กน้อยแล้วรีบค้นหา โทรศัพท์มือถือ เสี่ยวไป๋สายตาไว มันมุดเข้าไปใต้โต๊ะ ใช้อุ้งเท้าแมวผลัก โทรศัพท์ที่ตกอยู่บนพื้นออกมาให้ ฮั่วหลีเห็นแบบนั้นจึงหันมาหาจางเสวียน “แล้วโทรศัพท์ของพี่ใหญ่ล่ะ ตกอยู่ใต้โต๊ะด้วยรึเปล่า” 45


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 “เปล่า ฉันลืมเอามา” จางเสวียนโกหกหน้าตาเฉย เนีย่ สิงเฟิงเหลือบมองไปบนโต๊ะท�ำงาน วูบหนึง่ โทรศัพท์มอื ถือของคนทีบ่ อกว่าลืมเอามาถูกหนีบอยูก่ ลางกองเอกสาร เขาจึงยื่นมือไปดันเบาๆ ให้เอกสารไถลไปบดบังโทรศัพท์ไว้อย่างมิดชิด แผ่น DVD ถูกเสียบเข้าไปในเครือ่ งเล่น พวกเขานัง่ ดูภาพทีถ่ กู บันทึก ไว้ตั้งแต่จนจบด้วยกัน แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีเหตุการณ์มารร้ายวิญญาณหลอน ปรากฏขึ้นแม้แต่น้อย จางเสวียนยื่นมือไปดีดหน้าผากฮั่วหลีแรงๆ หนึ่งที “ไหนล่ะผีที่นายว่า นายละเมอหรือไง” “มีจริงๆ นะพี่ใหญ่ ไม่เชื่อถามเสี่ยวไป๋ได้เลย” ฮัว่ หลีคล�ำหน้าผากป้อยแล้วชีไ้ ปทางคูห่ ู สายตาทัง้ สามคูห่ นั ขวับไป จับจ้องเสี่ยวไป๋เป็นตาเดียว ดวงตาคมกริบของแมวน้อยกะพริบปริบๆ อยู่ ครู่ใหญ่ ก่อนจะพึมพ�ำออกมาเบาๆ “พวกเราอาจจะตาฝาดไปเองก็ได้” “เฮ้! จะเป็นไปได้ไง สายตาฉันดีมากนะ” พอได้ยินเสี่ยวไป๋พูด แบบนัน้ จิง้ จอกน้อยก็รอ้ นรนขึน้ มาทันที “เมือ่ คืนพวกเราเห็นมารร้ายมาด้วย กันแท้ๆ...” “เจ้าหมายความว่าสายตาข้าแย่รึไง!” พอถูกอีกฝ่ายตะเบ็งเสียงใส่ ฮั่วหลีก็คอหดขึ้นมาทันทีแล้วพึมพ�ำ เสียงเบา “เปล่าสักหน่อย ฉันก็แค่อยากจะบอกว่าไม่มที างทีพ่ วกเราจะตาฝาด พร้อมกันต่างหาก” “อาจจะเป็นแค่วิญญาณเร่ร่อนทั่วไปก็ได้” จางเสวียนหยิบแผ่น 46


ตอน หนทางกลับ DVD ออกมาคืนให้ฮวั่ หลี “ใกล้จะถึงตงจือ้ 1แล้ว เชงเม้ง จงหยวน2 แล้วก็ตงจือ้ เป็นสามวันในหนึ่งปีท่ีจะมีพลังหยินหนาแน่นที่สุด โดยเฉพาะตงจื้อ เป็น วันที่พลังหยินเพิ่มพูนถึงขีดสุด พลังหยางไม่ก่อเกิด เจอผีง่ายกว่าเจอคน ถ้า นายยังรูส้ กึ ไม่สบายใจ ก็ไปเผากระดาษเงินกระดาษทองให้ผเี ร่รอ่ นซะ รับรอง ว่าพวกมันจะไม่มาก่อกวนนายอีก” ฟังค�ำพูดของจางเสวียนแล้ว หัวใจของเนี่ยสิงเฟิงพลันกระตุกวูบ ขึ้นมาทันที ทีร่ ะยะนีเ้ ขาจิตใจไม่คอ่ ยสงบ อาจเป็นเพราะพลังหยินรอบด้านหนา แน่นเกินไปก็เป็นได้ ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินแค่ต�ำนานเล่าขานเกี่ยวกับ เชงเม้งและจงหยวน นึกไม่ถึงว่าตงจื้อเองก็มีต�ำนานแบบนี้ด้วยเหมือนกัน “อ้อ ที่แท้เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง” ฮั่วหลีฟังแล้วเริ่มคล้อยตาม บางทีเขาอาจจะกลัวเกินเหตุไปเอง พอคิดได้แบบนัน้ จิง้ จอกน้อยก็ได้แต่ยกมือขึน้ เกาศีรษะด้วยความกระดากใจ ทว่าในตอนที่เตรียมจะบอกลา จู่ๆ เขาก็นึกเรื่องส�ำคัญเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “จริงด้วย พี่ใหญ่! พี่ยังไม่ได้คืนตลับเกมเครื่องนินเทนโด DS ให้ผม ใช่ไหม” “จิ้งจอกขี้งกเอ๊ย! เพิ่งยืมแค่ไม่กี่วันก็จะทวงคืนแล้ว มาเอาไป!” จางเสวียนพาฮั่วหลีออกไปหยิบตลับเกม เนี่ยสิงเฟิงนิ่งเงียบอยู่ ครู่ใหญ่จึงหันไปถามเสี่ยวไป๋ “แล้วตงจื้อยังมีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษอีกไหม” ตงจื้อ เป็นเทศกาลส�ำคัญของชาวจีน มักจะตรงกับวันใดวันหนึ่งในช่วงวันที่ 21-23 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันที่กลางคืนยาวนานที่สุดและกลางวันสั้นที่สุดในรอบปี 2 จงหยวน เทศกาลผีของชาวจีน ตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน ชาวจีนมักจะเซ่นไหว้ บรรพบุรุษกันในวันนี้ 1

47


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ลูกแมวน้อยกระโดดขึ้นมาบนโต๊ะท�ำงานของเขา ย�่ำเท้าแมวไปมา ขณะเอ่ยตอบ “ไม่มีอะไรหรอก แค่ในระยะนี้พลังหยินจะหนาแน่น เจ้าก็อย่ากลับ บ้านดึกจะได้ไม่ถูกผีตามรังควาน หมั่นจุดธูปกราบไหว้บรรพบุรุษ พวกท่าน จะได้คุ้มครอง นอกจากนี้...” มันยกอุ้งเท้าแมวขึ้นเกาหู ท�ำหน้าตาครุ่นคิด แล้วพูดเสียงเรียบ “อากาศหนาวมาก ระวังไข้หวัดด้วย” เนี่ยสิงเฟิงที่อุตส่าห์เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจแทบจะเซล้มจนตกเก้าอี้ ...ก็ได้...โอเค เขาจะระวัง...โดยเฉพาะข้อสุดท้ายน่ะนะ! “นี่...” หลังจากที่เสี่ยวไป๋เดินย�่ำเท้าไปมาอยู่หลายรอบ สุดท้ายก็ หยุดนิ่งจ้องหน้าเนี่ยสิงเฟิง “เจ้ารู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติบ้างรึเปล่า” “ผิดปกติ? อะไร” เนี่ยสิงเฟิงย้อนถามด้วยสีหน้างงงัน “เจ้ารู้สึกรึเปล่าว่า...” เสียงฝีเท้าที่ดังตึงตังอยู่ด้านนอกตัดบทค�ำพูดของเสี่ยวไป๋ จากนั้น ประตู ห ้ อ งก็ ถู ก ผลั ก เปิ ด ออกเต็ ม แรง ศิ ษ ย์ รั ก คนโตของจางเสวี ย นก้ า ว พรวดพราดเข้ามาในห้อง ดูจากท่าทางแล้วเหมือนว่าเขาคงวิ่งมาถึงห้องนี้ อย่ า งรวดเดี ย ว ถึ งได้หอบแฮ่กจนหน้าซีด แบบนั้น ฮั่ว หลีที่เ ดินตามมา ด้านหลังจ้องมองอย่างตกตะลึง “พี่ใหญ่เว่ย ต่อให้พี่อยากบริหารปอดก็ไม่เห็นต้องวิ่งรวดเดียวมา ถึงที่นี่แบบนี้เลยนี่นา” “ผะ...ผม...ผม...มี...เรื่อง...” เว่ยเจิ้งอี้ค้อมเอวหอบหายใจไปพร้อม กับเค้นค�ำพูดออกมาทีละค�ำอย่างยากเย็น นานทีเดียวกว่าลมหายใจถีร่ วั ของ เขาจะสงบลงได้บ้าง เขาเดินตรงเข้ามาดึงมือเนี่ยสิงเฟิง “ท่านประธาน อย่า เพิ่งถามอะไรทั้งสิ้น รีบไปกับผมก่อน เร็วเข้า!” 48


ตอน หนทางกลับ “มีคดีใหญ่อะไรทีต่ อ้ งการความช่วยเหลือจากท่านประธานของพวก เรางั้นเหรอ” จางเสวียนรีบถามแทนแมวกวักของตัวเอง “จะให้ช่วยน่ะไม่มี ปัญหาอยู่แล้ว แต่เรื่องราคา...” เว่ยเจิง้ อีย้ นื่ มือไปท�ำสัญลักษณ์หยุดตรงหน้าจางเสวียน แล้วพูดขึน้ ด้วยน�้ำเสียงเหนื่อยใจ “ท่านอาจารย์ครับ ผมขอร้องละ อย่าเพิ่งก่อกวนเลย จริงสิ คุณเอง ก็ต้องไปกับผมด้วย รวมทั้งนาย...เสี่ยวหลี แล้วก็แมวของนาย...” เห็นนายต�ำรวจเลือดเดือดร้อนรนขนาดนี้ เนี่ยสิงเฟิงก็รู้ได้ทันทีว่า ต้ อ งมี เ หตุ ก ารณ์ ร ้ า ยแรงแน่ เขาจึ ง คว้ า โทรศั พ ท์ เ พื่ อ จะโทรไปแจ้ ง กั บ เลขานุการสาวว่าจะต้องออกไปธุระ แต่ยังไม่ทันได้พูด เว่ยเจิ้งอี้ก็กระชาก ข้อมือเขาออกวิ่ง รถที่เว่ยเจิ้งอี้ขับมาหาพวกเขาเป็นรถต�ำรวจ เมื่อวิ่งออกมาจาก ตัวอาคาร นายต�ำรวจเลือดเดือดก็ผลักเนีย่ สิงเฟิงเข้าไปในรถโดยไม่พดู พล่าม ท�ำเพลง จางเสวียนรีบก้าวตามขึ้นไปพร้อมกับบ่นพึมพ�ำ “ศิษย์รัก คุณท�ำแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดว่าท่านประธานของ เราก่ออาชญากรรม จนต้องถูกต�ำรวจมาลากตัวไปสอบสวนหรอก” แต่ครัง้ นีเ้ ว่ยเจิง้ อีท้ เี่ คยมองจางเสวียนดุจเป็นเทพเจ้า กลับมองข้าม ความเห็นของเขาไปอย่างไม่น่าเชื่อ นายต�ำรวจหนุ่มจดจ่ออยู่กับการขับรถ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เห็นเช่นนั้นแล้วจึงไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก ท�ำให้ บรรยากาศในรถน่าอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง หนทางข้างหน้าเริม่ คุน้ ตาขึน้ เรือ่ ยๆ พร้อมกับทีค่ วามกังวลในใจของ เนีย่ สิงเฟิงเริม่ รุนแรงขึน้ ทุกขณะ เพราะนีค่ อื เส้นทางไปโรงพยาบาลเสิง้ อัน ถ้า ไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ เว่ยเจิ้งอี้ไม่มีทางขับรถต�ำรวจมารับเขาด้วย 49


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ตนเองตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้แน่นอน ในทีส่ ดุ รถก็มาหยุดอยูท่ โี่ รงพยาบาล หลังจากจอดรถเสร็จเรียบร้อย เว่ยเจิ้งอี้ก็รีบพาเนี่ยสิงเฟิงวิ่งเข้าไปยังอาคารผู้ป่วยฉุกเฉิน เมื่ อ มองเห็ น ว่ า แสงไฟสี แ ดงที่ อ ยู ่ ห น้ า ห้ อ งฉุ ก เฉิ น ซึ่ ง ตั้ ง อยู ่ ต รง สุดปลายทางเดินส่องสว่างอยู่ อีกทั้งด้านนอกยังมีนายต�ำรวจในเครื่องแบบ อีกสองนายยืนเฝ้า หัวใจทีเ่ ต้นรัวมาตลอดทางของเนีย่ สิงเฟิงก็กระตุกวูบ เขา ชะงักฝีเท้า หันไปมองหน้าเว่ยเจิ้งอี้ด้วยสายตางุนงง เนีย่ สิงเฟิงคุน้ เคยกับห้องนีเ้ ป็นอย่างดี ตลอดยีส่ บิ กว่าปีทเี่ กิดมา เขา เคยมาที่นี่มากกว่าหนึ่งครั้ง จึงเข้าใจถึงความรู้สึกในยามที่ต้องรอคอยด้วย ความกังวลและสิ้นหวังอยู่หน้าห้องนี้ดียิ่งกว่าใคร ตอนนี้หัวใจของเขาเต้น ไม่เป็นจังหวะ แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากถามออกไป “ใครเป็นอะไร” เห็นใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวั่นเกรงอย่างชัดเจนของแมวกวัก จางเสวียนจึงเอ่ยปากถามแทน “เนี่ยรุ่ยถิง” เว่ยเจิ้งอี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “รุ่ยถิง? จะเกิดเรื่องกับรุ่ยถิงได้ยังไง” แค่ได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับน้องชาย สติสัมปชัญญะของเนี่ยสิงเฟิง ก็เหมือนจะขาดผึงลงไปในพริบตา เขาก้าวพรวดเข้าไปกระชากคอเสื้อ เว่ยเจิ้งอี้ ทั้งเขย่าทั้งตะคอกถามเสียงดังลั่น “ท่านประธาน คุณใจเย็นก่อน ฟังเขาพูดให้จบก่อนเถอะครับ” เว่ยเจิง้ อีน้ กึ ว่าตัวเองจะถูกบีบคอจนสลบไปแล้ว โชคดีทจี่ างเสวียน รีบเข้ามาห้ามและดึงเนี่ยสิงเฟิงออกไปได้ ทั้งสองกุมมือกันและกันไว้ สัมผัส อบอุน่ ของมือทีถ่ กู กุมเอาไว้แน่นท�ำให้สติของเนีย่ สิงเฟิงค่อยๆ กลับคืนมา เขา 50


ตอน หนทางกลับ นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะรวบรวมเสียงเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้นกันแน่” “อุบัติเหตุรถชน” เมื่อเช้าตอนขับรถออกมาท�ำงาน เนี่ยรุ่ยถิงแวะเข้าร้านสะดวกซื้อ เพือ่ ซือ้ อาหารเช้า ตอนทีข่ า้ มถนนและก�ำลังจะเดินขึน้ บนทางเท้า จูๆ่ ก็ถกู รถ คันหนึ่งพุ่งเข้าใส่กะทันหัน โชคดีมีผู้เห็นเหตุการณ์รีบโทรแจ้งต�ำรวจ และ โชคดีอีกเช่นกันที่เว่ยเจิ้งอี้บังเอิญมาติดต่อธุระที่สถานีต�ำรวจซึ่งอยู่ไม่ไกล จากบริเวณนั้นพอดี ทั น ที ที่ ท ราบเรื่ อ ง เขาก็ รี บ มายั ง ที่ เ กิ ด เหตุ พอเห็ น ว่ า ผู ้ ที่ ไ ด้ รั บ บาดเจ็บคือเนี่ยรุ่ยถิง หลังจากพาตัวมาส่งที่โรงพยาบาลแล้วก็รีบโทรหา เนี่ยสิงเฟิง แต่โทรเท่าไรก็ไม่ติด จึงตัดสินใจขับรถไปรับถึงที่บริษัท “เป็นไปไม่ได้ รุ่ยถิงมีฝีมือขนาดนั้น...” เนี่ยสิงเฟิงพึมพ�ำเสียงแผ่วพร้อมกับส่ายศีรษะไปมาอย่างไม่อยาก เชื่อ เขารูจ้ กั น้องชายตัวเองดีทสี่ ดุ แม้หมอนีจ่ ะมีนสิ ยั ค่อนข้างเกียจคร้าน ดูภายนอกเหมือนคุณชายเจ้าส�ำอางจอมเจ้าชู้ที่ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราว แต่ ความจริงแล้วเนีย่ รุย่ ถิงฝึกศิลปะการต่อสูม้ าตัง้ แต่เด็ก ไม่วา่ จะเป็นปฏิกริ ยิ า ตอบสนองหรือความแคล่วคล่องว่องไว ล้วนอยูใ่ นระดับทีเ่ หนือกว่าเขาทัง้ สิน้ ต่อให้เป็นรถทีพ่ งุ่ เข้ามาด้วยความเร็วอย่างกะทันหัน เขาก็เชือ่ ว่าน้องชายต้อง สามารถหลบได้ทันอย่างแน่นอน ทีส่ �ำคัญมีวญ ิ ญาณพิทกั ษ์อย่างเหยียนไคติดตามอยูต่ ลอดเวลา เมือ่ มีอันตราย เหยียนไคจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยแน่... ตอนนีเ้ ขารูส้ กึ สับสนอลหม่าน ความว้าวุน่ เกาะกุมไปทัง้ ใจ เนีย่ สิงเฟิง 51


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ไม่อาจควบคุมสติให้สงบนิ่งได้เหมือนเช่นเคย เขารู้สึกเพียงว่ามีบางอย่าง ไม่ถกู ต้อง เมือ่ แหงนหน้าขึน้ มองดวงไฟสีแดงสดทีย่ งั คงส่องสว่างอยูห่ น้าห้อง ผ่าตัด เขาก็ตัดสินใจที่จะหยุดคิดเรื่องต่างๆ ไว้ชั่วคราว มุ่งไปที่การตั้งจิต อธิษฐานขอให้น้องชายปลอดภัยก็พอ นัยน์ตาที่เจือความเคว้งคว้างของเขาเหลือบมองไปที่จางเสวียน อีกฝ่ายดูเหมือนจะอ่านใจเขาได้ทะลุปรุโปร่งจึงเอื้อมมือมากุมมือเขาไว้ ทั้ง ยังตบบ่าเบาๆ และเอ่ยถ้อยค�ำปลอบใจ “วางใจเถอะครับ ต่อให้เนี่ยรุ่ยถิงเกิดเรื่องขึ้นจริง ผมก็จะไม่ยอมให้ ยมทูตอู๋ฉางพาวิญญาณเขาไปแน่ คุณอย่าเพิ่งคิดมากไปเลย ทุกอย่างอาจ จะไม่ได้แย่ขนาดนั้น” ‘No! นี่มันเป็นเหตุการณ์ที่แย่สุดๆ เลยต่างหาก!’ เว่ยเจิ้งอี้มองเนี่ยสิงเฟิงที่มีสีหน้าหม่นหมองอึมครึม แล้วหันไปมอง หน้าท่านอาจารย์ที่เคารพ จากนั้นจึงหันไปมองฮั่วหลีที่ยืนนิ่งอึ้งอยู่ข้างๆ สุดท้ายเขาก็ไม่รจู้ ะพูดอะไรดี จึงได้แต่หนั หลัง ยกมือขึน้ นวดหว่างคิว้ เห็นท่า ทางของเนี่ยสิงเฟิงแล้ว เขาไม่กล้าคิดเลยว่าถ้าท่านประธานผู้นี้รู้ความจริง เกี่ยวกับอุบัติเหตุ คนคนนี้จะท�ำเรื่องบ้าๆ อะไรออกมาบ้าง! ผ่านไปหลายชั่วโมง ในที่สุดแสงไฟสีแดงหน้าห้องผ่าตัดก็ดับลง! ทันทีที่แพทย์ผู้ท�ำการผ่าตัดเดินออกมา เนี่ยสิงเฟิงก็กระโจนพรวด เข้าไปหา คุณหมอโบกมือเล็กน้อยแทนความหมายให้เขาสงบสติอารมณ์ “การผ่าตัดเรียบร้อยดีครับ ตอนนี้เราต้องย้ายผู้ป่วยไปอยู่ในห้อง สังเกตอาการก่อน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการหลังผ่าตัด” “เขาบาดเจ็บมากรึเปล่าครับ” 52


ตอน หนทางกลับ “เราไปคุยกันที่ห้องท�ำงานผมดีกว่าครับ” สามสิบนาทีให้หลัง เนี่ยสิงเฟิงก็เดินออกมาจากห้องท�ำงานของ คุณหมอด้วยท่าทางเหม่อลอย “กระดูกซี่โครงหักทิ่มทะลุอวัยวะภายใน ท�ำให้ภายในมีเลือดออก ม้ามฉีกขาด กระดูกสันหลังหัก สมองใหญ่3ได้รบั ความกระทบกระเทือน เลือด ออกในกะโหลกศีรษะกดทับเยือ่ หุม้ สมอง ท�ำให้ระบบประสาทส่วนกลางของ คนไข้ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง คนไข้จะหมดสติไปอีกพักใหญ่ครับ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ...เขาจะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา แต่เรายังมีหวังครับ มี ความเป็นไปได้ทเี่ ขาจะตืน่ ขึน้ มาอีกครัง้ ผมใช้คำ� ว่าอาจจะ...นัน่ หมายความ ว่า เขาอาจไม่ตื่นขึ้นมาได้เช่นกัน แต่คุณเนี่ยครับ อย่าเพิ่งกังวลมากเกินไป ถ้าลองคิดดูให้ดี ฟังจากอาการที่ผมพูดมาเมื่อครู่ คุณก็คงรู้ว่านั่นเป็นอาการ ทีห่ นักหนาไม่นอ้ ย แค่บาดเจ็บอย่างใดอย่างหนึง่ ในนัน้ ก็สามารถเสียชีวติ ได้ แล้ว แต่นอ้ งชายของคุณยังรอดชีวติ มาได้ แสดงว่าพลังชีวติ ของเขาแข็งแกร่ง มาก เพราะฉะนั้นพวกเราต้องมีความหวังและต้องเชื่อมั่นว่า เขาจะต้องตื่น ขึ้นมาอย่างแน่นอนครับ” “ถ้าเขาฟื้นขึ้นมา ร่างกายของเขาจะกลับเป็นปกติได้รึเปล่าครับ” “เรื่องนั้น...ผม...เสียใจด้วยครับ เขาจะ...เดินไม่ได้ครับ” ทั้งหมดนี้คือบทสนทนาระหว่างเขากับคุณหมอ อันที่จริงตั้งแต่ได้ฟังอาการที่คุณหมอบอก เขาก็รู้อยู่แล้วว่าจะเกิด อะไรขึ้นเมื่อกระดูกสันหลังหัก ตัวเขาก็แค่ไม่อยากเผชิญหน้ากับความจริง อันโหดร้ายนี้เท่านั้น 3

สมองใหญ่ เป็นส่วนของสมองที่ใหญ่ที่สุด แบ่งเป็นสองด้านคือซ้ายและขวา มีหน้าที่ควบคุม การเคลือ่ นไหวทัง้ หมดของอวัยวะทุกชนิดของร่างกาย การรับรูค้ วามรูส้ กึ ต่างๆ การได้กลิน่ การ พูด การสื่อสาร การเรียน การเข้าใจและความจ�ำ

53


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 เนี่ยสิงเฟิงเดินเข้าไปยังเตียงผู้ป่วยอย่างเงียบๆ บนหน้าผากของ เนีย่ รุย่ ถิงยังมีคราบเลือดจางๆ ติดอยู่ คิว้ คูน่ นั้ ขมวดเป็นปมราวกับก�ำลังนอน จมอยู่ท่ามกลางทะเลแห่งความเจ็บปวด เนี่ยสิงเฟิงยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าเย็นเยือกดวงนั้น ผิวขาวซีด ของน้องชายท�ำให้เขารูส้ ึกรวดร้าวไปทัง้ หัวใจ ยากเหลือเกินทีจ่ ะยอมรับว่าที่ เกิดขึ้นทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง! ชายหนุม่ ทีเ่ มือ่ วานยังร่าเริงคึกคัก ตอนนีก้ ลับต้องมานอนซมอยูบ่ น เตียง แน่นิ่ง ราวกับเหลือแต่เพียงเนื้อหนังภายนอกที่ห่อหุ้มโดยปราศจาก จิตวิญญาณ “เรื่องนี้...จะให้คุณปู่รู้ไม่ได้เป็นอันขาด” เนี่ยสิงเฟิงพึมพ�ำเสียงแผ่ว แม้จะเป็นคนเข้มแข็งเยือกเย็น แต่ก่อน หน้านีค้ ณ ุ ปูก่ เ็ คยต้องเจ็บปวดอย่างสุดแสนกับการสูญเสียคนในครอบครัว... พ่อและแม่ของเขา ถ้าหากต้องรับรู้เรื่องราวครั้งนี้อีก เขาไม่รู้ว่าคุณปู่จะ สามารถทนรับความทรมานนี้ได้หรือไม่! “แต่คณ ุ ปูอ่ า่ นหนังสือพิมพ์ทกุ วัน เรือ่ งใหญ่ขนาดนีจ้ ะปิดไว้ได้ยงั ไง ล่ะครับ” “ปิดให้นานที่สุดเท่าที่จะท�ำได้!” ไม่ได้ถูกเนี่ยสิงเฟิงตวาดใส่เสียนาน แม้จะรู้สึกไม่คุ้นแต่จางเสวียน ก็ไม่ได้ต่อปากต่อค�ำอีก เพียงแค่พยักหน้าอย่างเข้าใจ “ได้ครับ ผมจะรีบโทรไปสั่งทุกคนไว้เดี๋ยวนี้” ฮั่วหลีเองก็ตกใจไม่น้อยกับเรื่องไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น จิ้งจอกน้อย ขดตัวอยูท่ มี่ มุ ห้อง ไม่กล้าส่งเสียงออกมาแม้แต่แอะเดียว หลังจากทีจ่ างเสวียน วิ่งออกไปแล้ว เว่ยเจิ้งอี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจเอ่ยปาก 54


ตอน หนทางกลับ “ขอโทษนะครับท่านประธาน เพราะเหตุการณ์ตอนนัน้ ฉุกละหุกมาก ผมก็เลยเซ็นชื่อในใบยินยอมการผ่าตัดในฐานะญาติแทนคุณไป” “ขอบคุณมาก” น�้ำเสียงเย็นเยียบนั้นยิ่งท�ำให้เว่ยเจิ้งอี้ไม่สบายใจ และในที่สุด เนีย่ สิงเฟิงก็ถามค�ำถามที่เขาคาดการณ์ไว้ออกมาจนได้ “คุณเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรง ท�ำไมถึง ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุของอุบัติเหตุรถชน” “เอ่อ...” นัยน์ตาที่ทั้งคมกริบและแข็งกร้าวของเนี่ยสิงเฟิงจ้องเขม็งมาที่เขา แล้วพูดต่อด้วยเสียงทุ้มต�่ำ “บนตั ว ของรุ ่ ย ถิ ง มี แ ผลที่ เ กิ ด จากการกระแทกไม่ น ้ อ ย นี่ ไ ม่ ใ ช่ อุบัติเหตุรถชนธรรมดาสินะ คนขับอยู่ที่ไหน พาผมไปพบเขาเดี๋ยวนี้!” “ก็...ได้ แต่คุณช่วยใจเย็นก่อนนะครับ ผมขอร้องละ” รู้ทั้งรู้ว่าเป็นการขอร้องที่เปล่าประโยชน์ แต่เว่ยเจิ้งอี้ก็ยังเลือกที่จะ พูดมันออกมาอยู่ดี เนีย่ สิงเฟิงหันมองไปทางฮัว่ หลี ทัง้ ทีย่ งั ไม่ได้เอ่ยปากแต่จงิ้ จอกน้อย ก็พยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว “วางใจเถอะครับพี่เนี่ย ผมจะดูแลพี่รุ่ยถิงให้เอง” หลังจากที่ทุกคนออกไปจากห้อง จิ้งจอกน้อยก็ทรุดตัวลงนั่งที่ข้าง เตียง ใช้มือทั้งสองประคองคางตัวเองเอาไว้ สายตาจดจ้องไปที่ร่างของ เนีย่ รุย่ ถิงซึง่ นอนนิง่ อยูบ่ นเตียง นานทีเดียวกว่าจะถอนหายใจแล้วพึมพ�ำเสียง เบากับเสี่ยวไป๋ “นายว่าถ้าพี่รุ่ยถิงเกิดโชคร้ายตายขึ้นมาจริงๆ พวกเราจะต้องตาม 55


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ไปช่วยเขาที่ปรภพรึเปล่า” เสีย่ วไป๋ทอี่ ยูใ่ นกระเป๋าเป้แจกลูกถีบแมวเข้าทีก่ ลางหลังของจิง้ จอก น้อยเต็มแรง “ปากเสีย!” “ฉันก็แค่ถามดูเท่านัน้ ” ฮัว่ หลีลบู หลังตัวเองไปมา “คุณปูเ่ คยสอนว่า แบบนี้เรียกว่าเตรียมตายไว้ล่วงหน้ายังไงล่ะ” “เตรียมตัวไม่ใช่เตรียมตาย!” เสีย่ วไป๋แก้ไขค�ำผิดให้ดว้ ยความโมโห แล้วจึงพูดต่อ “แต่นไี่ ม่ใช่ประเด็น ทีส่ �ำคัญตอนนีก้ ค็ อื ข้ามองไม่เห็นวิญญาณ ของเนี่ยรุ่ยถิง...” หน้าผากของชายหนุ่มมีสีอึมครึม ปราศจากพลังวิญญาณอย่างที่ คนเป็นพึงมี อีกทั้งยังสูญเสียพลังที่จะสามารถควบคุมสติสัมปชัญญะไปจน หมดสิ้น พูดง่ายๆ ก็คือตอนนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงเหลือแต่เพียงร่างกายที่ บาดเจ็บสาหัสซึ่งจะจากไปเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น “พีร่ ยุ่ ถิงคงไม่ได้ถกู ไป๋อฉู๋ างเอาวิญญาณไปแล้วใช่มยั้ ยมทูตพวกนี้ ท�ำงานไวกว่าแสงเสียอีก...” “จิ้งจอกงี่เง่าเอ๊ย! ถ้าถูกพาวิญญาณไปแล้ว เขายังจะนอนหายใจ อยู่ที่นี่ได้ยังไงกันล่ะ!” พูดแล้วเสี่ยวไป๋ก็ให้รู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกิน ดูเหมือนว่าตั้งแต่ตบะ ของจิ้งจอกน้อยถูกท�ำลายไปครึ่งหนึ่ง สติปัญญาและความคิดอ่านก็จะถูก ลดทอนไปครึง่ หนึง่ ด้วย แต่เพราะตนเองเป็นต้นเหตุให้ตบะของฮัว่ หลีหดหาย ดังนั้นจึงไม่อาจกล่าวต�ำหนิออกไป ได้แต่พร�่ำบ่นอยู่ในใจแล้วถามต่อ “หลังเกิดเรื่องเหยียนไคก็หายไป ที่เป็นแบบนี้เจ้าไม่รู้สึกแปลกใจ บ้างหรือไง” 56


ตอน หนทางกลับ “บางทีเหยียนไคอาจจะไปตามหาวิญญาณของพี่รุ่ยถิงก็ได้นะ” “หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น” เสีย่ วไป๋ร�ำพึง แม้มนั จะรูด้ วี า่ ความเป็นไปได้ในข้อนีน้ อ้ ยเสียยิง่ กว่า น้อย เนี่ยสิงเฟิงกับจางเสวียนตามเว่ยเจิ้งอี้มายังห้องท�ำงานในกรม ต�ำรวจ เมื่อมองผ่านหน้าจอของกล้องวงจรปิด พวกเขาก็เห็นเด็กหนุ่มวัยรุ่น แต่งกายประหลาดคนหนึ่งนั่งก้มหน้าขดตัวอยู่ในห้องสอบปากค�ำ “พวกคุณรูจ้ กั นักการเมืองเฉินทีก่ �ำลังโด่งดังคนนัน้ ใช่ไหม เจ้าเด็กนี่ คือลูกชายคนเดียวของเขา ชือ่ เฉินไข่ เพิง่ จะอายุครบสิบเจ็ด เป็นเด็กเป็นเล็ก แต่ไม่รู้จักตั้งใจเรียนหนังสือ วันๆ เอาแต่ขลุกอยู่กับพวกนักเลง เมื่อคืนเขา แอบเอารถสปอร์ตของพ่อออกมาซิ่ง ตอนที่ก�ำลังขับรถกลับบ้านเมื่อเช้า เขา เมา แล้วก็ขับรถชนคน” แน่นอนว่าเนีย่ สิงเฟิงย่อมเคยได้ยนิ ชือ่ เสียงเรียงนามของนักการเมือง เฉินผู้โด่งดัง หลายวันก่อนหนังสือพิมพ์เพิ่งลงข่าวว่านักการเมืองผู้นี้ได้ไป กล่าวปาฐกถาในหัวข้อความส�ำคัญของชีวติ ช่างน่าข�ำทีล่ กู ชายของเขากลับ ไม่ใส่ใจความส�ำคัญของชีวิตเพื่อนมนุษย์เลยแม้แต่น้อย เมาแล้วขับเป็นโทษสถานหนักก็จริง แต่ถ้าผู้กระท�ำผิดยังไม่บรรลุ นิตภิ าวะ อย่างมากก็คงถูกส่งไปยังสถานพินจิ ลงโทษพอประมาณ ไม่กปี่ หี ลัง จากนี้ก็จะได้รับอิสรภาพให้ออกมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง แต่นอ้ งชายของเขา...ผูท้ ไี่ ม่ได้ท�ำความผิดอะไรเลย อาจจะไม่ตนื่ ขึน้ มาอีกเลยตลอดชีวิต...เพียงเพราะความประมาทเลินเล่อของเด็กคนนี้! คนคนหนึ่งท�ำความผิด แต่กลับกลายเป็นผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งต้อง 57


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 รับโทษแทน นี่มันไม่ยุติธรรมเลยมิใช่หรือ ความโกรธแค้นสุมแน่นอยู่ในอก เนี่ยสิงเฟิงลุกขึ้นยืนแล้วพูดด้วย เสียงเย็นชา “ผมจะเข้าไปหาเขา!” “เดี๋ยวครับ!” จางเสวียนรีบเอื้อมมือไปฉุดรั้งอีกฝ่ายไว้ แล้วหันไป ทางเว่ยเจิ้งอี้ “ตรงทางแยกที่เกิดอุบัติเหตุมีกล้องวงจรปิดรึเปล่า ขอพวกเรา ดูหน่อยได้ไหม” ประโยคนั้นของจางเสวียนท�ำให้เว่ยเจิ้งอี้หน้าถอดสีในทันที พร้อม กับร้องโอดครวญอยู่ในใจ ‘ท่านอาจารย์ที่เคารพ! มีเรื่องอื่นตั้งมากมายให้พูด ท�ำไมคุณต้อง ยกเรื่องนี้มาพูดด้วย ให้ตายเถอะ! อยากให้มีคนถูกฆาตกรรมหรือไง!’ ทุกถนนทีม่ กี ารจราจรคับคัง่ ล้วนต้องติดตัง้ กล้องวงจรปิดเพือ่ ความ ปลอดภัย เมือ่ ไปถึงทีเ่ กิดเหตุและรูว้ า่ ผูไ้ ด้รบั บาดเจ็บคือเนีย่ รุย่ ถิง เว่ยเจิง้ อีก้ ็ ขอเทปบันทึกภาพในที่เกิดเหตุเพื่อน�ำมาเป็นหลักฐานทันที เรื่องที่กังวลที่สุดเกิดขึ้นตามคาด แม้ในใจอยากจะเอ่ยปากปฏิเสธ แต่ทนั ทีทเี่ งยหน้าขึน้ เห็นสายตาเยียบเย็นของเนีย่ สิงเฟิง ศีรษะก็พลันผงกรับ ไปโดยไม่รู้ตัว เขาเดินน�ำคนทั้งสองมายังห้องท�ำงานที่อยู่ข้างๆ ไม่ลืมที่จะล็อก ประตูไว้กอ่ นเพือ่ ความปลอดภัย แล้วบอกกับตัวเองว่า ถ้าท่านประธานดูคลิป วิดีโอนี้แล้วไม่อาละวาดละก็ เขาจะขอเปลี่ยนไปใช้แซ่จางตามท่านอาจารย์ เลยทีเดียว! ภาพแรกที่ปรากฏในคลิปคือบริเวณสี่แยก ตอนที่เนี่ยรุ่ยถิงเดินขึ้น มาถึงทางเท้า จู่ๆ รถสปอร์ตสีแดงสดคันหนึ่งก็พุ่งตรงเข้ามาในแนวขวาง 58


ตอน หนทางกลับ เนี่ยรุ่ยถิงมีปฏิกิริยาตอบสนองไวมาก เขาหลบไปด้านในทันทีที่รถพุ่งเข้ามา มิหน�ำซำ�้ ยังพลิกกายตีลงั กาอีกสองตลบ สุดท้ายจึงค้อมเอวและลุกขึน้ มายืน ได้โดยไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย ทว่ารถคันนั้นกลับหักเลี้ยว ก่อนจะพุ่งตัวเต็ม ความเร็วมุ่งหน้ามาทางเขาอีกครั้ง คราวนีต้ วั รถกับเนีย่ รุย่ ถิงอยูใ่ กล้กนั มากเกินไป ท�ำให้เขาหลบไม่ทนั รถสปอร์ตคันหรูพงุ่ เข้ากระแทกร่างของชายหนุม่ จนตัวปลิว ร่างกายล่องลอย ไปยังป้ายบอกทางที่ยื่นออกมาจากถนนฝั่งตรงข้าม หัวใจเต้นแรง! เนี่ยสิงเฟิงลุกพรวดขึ้นทันที เขาจ้องมองภาพเบื้อง หน้าโดยไม่ละสายตา ทีน่ า่ แปลกคือ ในชัว่ เสีย้ ววินาทีทปี่ า้ ยบอกทางคมกริบ ก�ำลังจะบาดคอของเนี่ยรุ่ยถิงให้ขาดออกจากกัน ร่างกายนั้นกลับหยุดชะงัก อยู่กลางอากาศ หลังจากหยุดนิ่งอยู่กับที่ราวสิบกว่าวินาที จึงได้ร่วงตกลงสู่ เบื้องล่าง เสียงเร่งเครื่องเสียดหูดังขึ้น รถสปอร์ตวิ่งกลับมาอีกครั้ง พุ่งตัว กระแทกเข้าตรงกลางกระดูกสันหลังของเนี่ยรุ่ยถิง ในตอนนี้ร่างกายของ ชายหนุ่มดูคล้ายเหยี่ยวกระดาษที่เชือกชักขาดผึง ศีรษะกระแทกเข้ากับราว กั้น เลือดสีแดงฉานสาดนองเต็มพื้นผิวถนนในพริบตา รถสปอร์ตคันนั้นแล่นต่อไปข้างหน้าราวอีกสิบกว่าเมตรจึงได้หยุด นิง่ เพราะชนเข้ากับเกาะกลาง นานทีเดียวกว่าเฉินไข่จะก้าวออกมา เด็กหนุม่ มีสหี น้าตะลึงงันเพราะฉากนองเลือดทีป่ รากฏให้เห็นอยูต่ รงหน้า เขาไม่ได้หนี หรือเข้าไปดูผู้บาดเจ็บ ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้ตัวเองถูกจับกุมโดย ไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ! แต่เป็นการฆาตกรรมโดยเจตนา! ไม่ว่าใครที่ได้เห็นก็ต้องดูออกทั้งนั้น ต่อให้เมาแล้วขับก็ไม่มีทางท�ำ 59


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 เรื่องบ้าคลั่งขนาดนี้ออกมาได้ เฉินไข่ใช้รถสปอร์ตเป็นอาวุธฆ่าคน ก่อเหตุ ฆาตกรรมต่อหน้าประชาชนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย! ไฟแห่งความโกรธแค้นลุกโหมโชติช่วง เนี่ยสิงเฟิงในตอนนี้อยู่ใน สภาพที่อารมณ์อยู่เหนือสติสัมปชัญญะทั้งปวง เขามั่นใจว่าทั้งตัวเองและ น้องชายไม่เคยรู้จักมักจี่กับเฉินไข่ ท�ำไมเด็กหนุ่มคนนั้นต้องท�ำเรื่องแบบนี้ คนคนหนึง่ ต้องสัง่ สมความแค้นแสนสาหัสถึงเพียงไหน จึงจะสามารถกระท�ำ เรื่องเหี้ยมโหดขนาดนี้ออกมาได้ “พาผมไปพบเขา!” เนี่ยสิงเฟิงเค้นเสียงลอดไรฟัน เว่ยเจิ้งอี้ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ สถานการณ์แบบนี้ต่อให้คนบ้ายังรู้ ว่าห้ามพาอีกฝ่ายไปเป็นอันขาด จริงอยู่ที่เนี่ยสิงเฟิงไม่ได้ลุกขึ้นมาโวยวาย อาละวาด แต่ยงิ่ เยือกเย็นก็ยงิ่ สัมผัสได้ถงึ ความกดดัน นายต�ำรวจหนุม่ รูด้ วี า่ ขอเพียงมีโอกาส เนี่ยสิงเฟิงในเวลานี้สามารถฆ่าคนได้โดยสีหน้าไม่เปลี่ยน เลยสักนิดด้วยซ�้ำ “ผม...ปฏิเสธได้ไหม” เว่ยเจิ้งอี้ที่ปกติเป็นคนมุทะลุดุดัน ทว่าในตอนนี้กลับไม่เหลือนิสัย เหล่านั้นอีกต่อไป ได้แต่เลียบเคียงถามอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง “ผมก็แค่อยากรูส้ าเหตุ” เนีย่ สิงเฟิงมองนายต�ำรวจหนุม่ ด้วยสายตา สงบนิง่ “น้องชายผมเกิดเรือ่ งใหญ่ขนาดนี้ ผมแค่อยากไปถามสาเหตุจากคน ที่ก่อเรื่อง คงไม่ถือว่าท�ำเกินกว่าเหตุหรอกนะ” “ผมจะไปกับท่านประธานด้วย!” จางเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ขันอาสาขึ้นมาทันที ทั้งยังส่งสายตาข่มขู่ มาให้เขาอีกต่างหาก เมื่อถูกกดดันจาก ‘ท่าน’ ทั้งสอง เว่ยเจิ้งอี้มีหรือจะ ต้านไหว นายต�ำรวจหนุ่มลอบถอนหายใจยาว แล้วพยักหน้า 60


ตอน หนทางกลับ “ตามผมมา” ทั้งสามตรงมายังห้องสอบปากค�ำ เปิดประตูเข้าไป พอได้ยินเสียง เปิดประตู เฉินไข่ที่นั่งขดอยู่ก็ขยับตัวเล็กน้อย แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น เนี่ยสิงเฟิงกวาดตามองประเมินอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา คนที่อยู่ ตรงหน้าเป็นเด็กหนุ่มที่มีรูปร่างผอมมาก เสื้อผ้าอยู่ในสภาพยับย่น บางส่วน ยังคงมีคราบเลือดเกรอะกรัง บนหน้าผากและมือมีรอยแผลถลอก นิ้วมือ ประสานกันแน่น แม้จะไม่มปี ฏิกริ ยิ าตอบสนองต่อการเข้ามาของพวกเขา แต่ ร่างกายที่สั่นเทาก็บ่งบอกถึงความหวาดกลัวในใจได้เป็นอย่างดี “นายรูจ้ กั เนีย่ รุย่ ถิงรึเปล่า” เนีย่ สิงเฟิงทรุดตัวลงนัง่ ตรงข้ามแล้วถาม เสียงเรียบ เขาไม่ได้ใช้อารมณ์ ไม่ตรงรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อของเฉินไข่ขึ้นมา แล้วระดมชกหน้าให้หายแค้น ในตอนนีเ้ ขาแค่อยากรูค้ วามจริงว่า เพราะอะไร กันแน่ที่ท�ำให้คนคนหนึ่งบ้าคลั่งได้ถึงขนาดนี้ “...เขาเป็นใคร” นานทีเดียวกว่าเด็กหนุ่มจะย้อนถามกลับมา เนี่ยสิงเฟิงรู้ดีว่าเด็กหนุ่มก�ำลังหวาดกลัว ทั้งท่าทางและน�้ำเสียง สั่นเทาเจือด้วยความสับสนอย่างไม่อาจปิดบัง “เนี่ยรุ่ยถิงก็คือคนที่นายขับรถชน นายไม่รู้จักเขาแท้ๆ ท�ำไมถึงต้อง ขับรถชนเขาด้วย” “...เขาตายรึยัง” เฉินไข่ก้มหน้าลงเล็กน้อยตอนที่ถามประโยคนั้น เนี่ยสิงเฟิงจึงมอง ไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่าย รู้สึกเพียงว่าตอนที่พูด โครงหน้าของเฉินไข่มีการ ขยับเปลี่ยนลักษณะไปเล็กน้อย น�้ำเสียงก็ไม่ได้สั่นเทาอย่างในตอนแรก เหมือนว่า...ก�ำลังถามด้วยความตื่นเต้นเสียมากกว่า 61


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 “เขายังไม่ตาย แต่กระดูกสันหลังหัก ต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต ที่ ส�ำคัญเขาอาจจะไม่ฟน้ื ขึน้ มาอีกเลย” เนีย่ สิงเฟิงพยายามสะกดกลัน้ อารมณ์ โกรธเกรีย้ วทีก่ �ำลังพวยพุง่ ขึน้ มาอย่างรุนแรงทีส่ ดุ ในชีวติ ชายหนุม่ กัดฟันแล้ว เอ่ยถ้อยค�ำช้าๆ “นายรู้รึเปล่า น้องชายฉันเพิ่งจะอายุยี่สิบสาม ชีวิตเขายังมี หนทางอีกยาวไกลที่ต้องเดิน แต่ตอนนี้ทุกอย่างพังทลาย เพราะความ คลุ้มคลั่งของนาย ท�ำไมนายถึงต้องท�ำแบบนี้” ในที่สุดเฉินไข่ก็ยอมเงยหน้าขึ้นมาสักที เนี่ยสิงเฟิงจึงได้รู้ว่าอีกฝ่าย ยังเด็กอยู่จริงๆ แม้จะมีสีหน้าขาวซีดด้วยความหวาดกลัว แต่บนใบหน้า เยาว์วัยนั้นแฝงเร้นด้วยอารมณ์บางอย่างที่เขาไม่อาจเข้าใจ ดวงตาที่อยู่ใต้ เส้นผมสีแดงเพลิงคู่นั้นมีสีด�ำแปลกประหลาดไหลเวียนอยู่ ไหล่ทั้งคู่ยังคง สั่น มองดูคล้ายก�ำลังหวาดกลัว...แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ “เขายังไม่ตายไม่ใช่เหรอ” ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าเฉินไข่จะพูดออกมา “นายว่าไงนะ” มุมปากของเด็กหนุม่ ยกขึน้ เป็นรอยยิม้ จางๆ เฉินไข่ชะโงกตัวมาข้าง หน้า จ้องตากับเนี่ยสิงเฟิงแล้วพูดคล้ายหยอกเอิน “ผมบอกว่า น้องชายคุณยังไม่ตายสักหน่อย คุณจะโวยวายไป ท�ำไม” ค�ำพูดประโยคนีค้ อื ระเบิดทีท่ �ำลายสติสมั ปชัญญะเสีย้ วสุดท้ายของ เนี่ยสิงเฟิงให้แหลกละเอียด สัตว์ร้ายแห่งความโกรธแค้นในใจเขาลืมตาตื่น ขึน้ ตัง้ แต่ตอนทีร่ วู้ า่ เนีย่ รุย่ ถิงประสบอุบตั เิ หตุแล้ว และในตอนนีเ้ ขาก็ไม่เหลือ สติซึ่งเป็นกรงที่จะกักขังมันไว้อีกต่อไป ศีลธรรมจรรยาใดๆ ก็ไม่มีผล! ก�ำปั้นลุ่นๆ ถูกปล่อยเข้าใส่ดั้งจมูกของเฉินไข่เต็มแรง จากนั้นโต๊ะที่ คัน่ กลางระหว่างพวกเขาไว้กถ็ กู ถีบออก เนีย่ สิงเฟิงกระโจนเข้าไปกระชากคอ 62


ตอน หนทางกลับ เสื้อเด็กหนุ่ม ระดมหมัดชกลงบนหน้าของอีกฝ่ายราวกับห่าฝน เฉินไข่ถกู ชก จนตัวงอ ทั้งที่อยากจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับร้องไม่ออกแม้แต่ ค�ำเดียว “ท่านประธาน! ใจเย็นก่อน!” ทัง้ เว่ยเจิง้ อีแ้ ละจางเสวียนพยายามร้องห้าม อันทีจ่ ริงพวกเขาอยาก จะเข้าไปลากเนี่ยสิงเฟิงออกมา แต่ดูจากรูปการณ์ในตอนนี้ จะลากออกมา อย่างไรไหว เฉินไข่ถูกชกจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น แต่เนี่ยสิงเฟิงยังไม่หยุด เขา ตรงเข้าไปกระชากศีรษะของเด็กหนุ่มขึ้นมา ชกเข้าไปที่หน้าอีกหนึ่งหมัด พร้อมกับตะคอกถาม “คนอย่างแกมีสิทธิ์อะไรมาท�ำลายชีวิตคนอื่น! คนที่สมควรตายคือ เดนมนุษย์อย่างแกต่างหาก!” ท่ามกลางหมัดและเท้า เฉินไข่ไม่เพียงไม่อาจต่อต้าน กระทัง่ โอกาส ที่จะเลี่ยงหลบยังไม่มี เด็กหนุ่มถูกชกจนเลือดอาบหน้า เพราะเห็นว่าขืนเป็น แบบนี้ต่อไปคงต้องมีคนตายและท่านประธานคงต้องกลายเป็นฆาตกร เว่ยเจิ้งอี้จึงตัดสินใจกระโจนพรวดเข้าไปรั้งเนี่ยสิงเฟิงไว้ “ท่านประธาน ฟังผมก่อนนะครับ ถ้าคุณท�ำร้ายเขา คุณก็จะถูกจับ ไปด้วย อย่าเอาตัวไปแลกกับกากเดนแบบนี้เลยครับ” “ผมรู้จักแยกแยะ” เนี่ยสิงเฟิงเค้นเสียงกร้าวตอบ เมื่อความโกรธแค้นที่สุมอยู่ในใจได้ ระบายออกไปบ้าง อารมณ์ที่ร้อนรุ่มดุจเปลวเพลิงแผดเผาก็ค่อยเย็นลง เขา เหลือบมองเฉินไข่วบู หนึง่ หลังจากทีถ่ กู ชกเข้าไปขนาดนัน้ เด็กหนุม่ ก็ไม่เหลือ ความโอหังอีกต่อไป ร่างผอมบางขดตัวอยูต่ รงมุมห้องในสภาพสะบักสะบอม 63


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ดูแล้วน่าสงสารไม่น้อย ...แต่เนี่ยสิงเฟิงไม่สงสาร! เขารูด้ วี า่ ทัง้ หมดเป็นเพียงการแสดงทีอ่ กี ฝ่ายท�ำเพือ่ เรียกร้องความ เห็นใจจากทุกคน คนที่เอาชีวิตคนอื่นมาล้อเล่นแบบนี้ เขาไม่มีทางอภัยให้ เด็ดขาด! เนีย่ สิงเฟิงเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเฉินไข่ เด็กหนุม่ เคลือ่ นตัวถอยหลัง ด้วยความหวาดกลัว ถึงอย่างนั้นก็ยังเค้นเสียงพูดตะกุกตะกักออกมาข่มขู่ “พ่อผม...พ่อผมเป็นนักการเมืองดัง...ผม...ผมจะให้เขาหาทนายทีด่ ี ที่สุด...จะให้เขาแจ้งความคุณ...ข้อหาท�ำร้ายร่างกาย...” “นายคิดว่าคนอย่างฉันจะยอมให้นายแบล็กเมล์ง่ายๆ งั้นเหรอ เมื่อกี้ฉันใช้เทคนิคนิดหน่อย รับรองว่ามันจะท�ำให้นายปวดร้าวไปทั้งตัว แต่ ไม่เหลือรอยฟกช�้ำไว้เป็นหลักฐานแน่” เนี่ยสิงเฟิงยกยิ้มเยาะหยัน “จะบอก อะไรให้นะ ถ้าคิดจะเป็นคนชัว่ ละก็ รับรองว่าฉันชัว่ กว่านายได้หลายเท่า! อย่า คิดว่าออกจากสถานพินิจแล้วเรื่องจะจบ จ�ำเอาไว้ ฉันไม่ปล่อยนายแน่... จนกว่านายจะตายและหายไปจากโลกนี้!” พูดจบก็เดินออกจากห้องไป เหล่าต�ำรวจที่มาแอบสอดส่องลอบ สังเกตการณ์อยูภ่ ายนอกมาพักใหญ่จงึ ได้วงิ่ เข้าไปเก็บกวาดเศษซากทีเ่ หลือ อยู่ เว่ยเจิ้งอี้ฝากฝังให้พวกเขาช่วยดูแลท�ำแผลให้เฉินไข่ ก่อนจะวิ่งไล่ตาม เนี่ยสิงเฟิงออกมา “ท่านประธาน คุณวางใจเถอะ ผมจะดูแลคดีนี้อย่างดีแน่นอน” “ขอบคุณ” เนีย่ สิงเฟิงนิง่ ไปครูห่ นึง่ “เรือ่ งเมือ่ กี.้ ..ผมต้องขอโทษด้วย” “โธ่! ท�ำไมถึงพูดเหมือนเป็นคนอืน่ คนไกลกันแบบนีล้ ะ่ ครับ” เว่ยเจิง้ อี้ เอื้อมมือไปตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ “จงใจขับรถชนคนแล้วยังพูดจาน่าโมโห 64


ตอน หนทางกลับ ขนาดนี้ บอกตามตรง ผมเองก็อยากจะชกหมอนั่นอยู่เหมือนกัน” เสียงฝีเท้าเร่งร้อนดังมาจากอีกฝั่งของโถงทางเดิน ชายวัยกลางคน สวมแว่นกรอบทองคนหนึง่ ก�ำลังเดินตรงมาอย่างรวดเร็ว ข้างกายมีสภุ าพสตรี ซึง่ สวมอัญมณีไว้เต็มตัวเดินเคียงคูม่ าด้วย เขาคือนักการเมืองเฉินและภรรยา ส่วนชายอีกสองคนที่เดินถือกระเป๋าเอกสารตามติดมาด้านหลังน่าจะเป็น เลขานุการและทนายความที่จ้างมา นั ก การเมื อ งเฉิ น ในตอนนี้ ไ ม่ มี เ ค้ า ความองอาจอย่ า งที่ เ ห็ น ใน หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ สีหน้าเปีย่ มไปด้วยความร้อนรนและกังวล พอเห็น เนี่ยสิงเฟิงก็ตรงรี่เข้ามาหาในทันที ประกายแสงวูบหนึ่งวาดผ่านดวงตาเรียว ยาวที่อยู่หลังเลนส์แว่น รอยยิ้มเจนโลกปรากฏขึ้นบนใบหน้า ก่อนจะยื่นมือ ออกมาตรงหน้าเขา “สวัสดีครับคุณเนี่ย ผมรีบมาทันทีที่รู้ว่าลูกชายขับรถชนคน นึกไม่ ถึงเลยว่าคนที่ถูกชนจะเป็นน้องชายคุณ เจ้าเด็กบ้านี่! ชนใครไม่ชน ดันไป ชน...คุณวางใจเถอะครับ ผมจะต้องสั่งสอนเขาให้หนักอย่างแน่นอน” เนี่ยสิงเฟิงไม่ได้จับมือกับอีกฝ่าย เขามองหน้านักการเมืองเฉินด้วย สายตาเย็นชา ถูกจ้องจนกระอักกระอ่วน นักการเมืองเฉินจึงค่อยๆ ดึงมือกลับด้วย สีหน้ากระดากใจ ภรรยาของเขารีบก้าวมาข้างหน้าแล้วถามด้วยน�้ำเสียง ร้อนรน “ในทีเ่ กิดเหตุมนี กั ข่าวอยูด่ ว้ ยไหมคะ ถ้าถูกถ่ายรูปไว้ตอ้ งกลายเป็น เรื่องยุ่งยากแน่ คุณเนี่ยคะ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ แต่ใน เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว ต่อให้เรียกร้องหาความรับผิดชอบไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้ายังไงพวกเราใจเย็นๆ แล้วมาช่วยกันคิดหาทางออกส�ำหรับเรื่องนี้ด้วยกัน 65


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ดีไหมคะ” “ทางออก? ยังไงเหรอครับ” เนี่ยสิงเฟิงขมวดคิ้วถามทันที “ฉันอยากจะขอร้องให้ทางคุณช่วยปิดข่าวนี้เป็นความลับไปก่อน ตอนนี้ใกล้จะเลือกตั้งแล้ว สามีฉันก�ำลังได้รับได้รับความนิยมอย่างสูงจาก ประชาชน ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาพลักษณ์ ของเขา” “ใช่ครับ ใช่ ผมประกันตัวลูกชายได้ไหมครับ” นักการเมืองเฉิน รีบรับลูกต่อจากภรรยา แต่พอเห็นสีหน้าที่นิ่งเฉยจนเยียบเย็นลงทันทีของ เนี่ยสิงเฟิงก็รีบโบกมือไปมา “ไม่เป็นไรครับ ไม่ประกันตัวก็ได้ ขอแค่อย่าให้ เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ที่เหลือเราค่อยๆ คุยกันเป็นการส่วนตัวได้ครับ” เนีย่ สิงเฟิงจ้องมองคูส่ ามีภรรยาทีอ่ ยูต่ รงหน้าด้วยความรูส้ กึ ไม่อยาก เชื่อสายตาตนเอง ลูกชายของทั้งคู่ขับรถชนคน ทว่าสิ่งที่สองคนนี้ห่วงกลับไม่ใช่ความ ปลอดภัยของผู้ประสบเหตุ แต่เป็นผลประโยชน์ของตัวเอง ถ้าวันนี้ผู้เคราะห์ ร้ายไม่ใช่บุคคลระดับผู้บริหารของสกุลเนี่ย แต่เป็นคนธรรมดาสามัญทั่วไป น่ากลัวว่านักการเมืองที่มีภารกิจวุ่นวายอยู่กับการเลือกตั้งและหาเสียงคนนี้ คงไม่มีทางเสนอหน้ามาถึงที่นี่แน่ เพราะไม่ได้รับค�ำตอบ นักการเมืองเฉินจึงไม่อาจคาดเดาความคิด ของเนี่ยสิงเฟิงได้ เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูด้วยท่าทางรีบร้อน “ตอนบ่ายผมมีงานปาฐกถาด้วย คงไม่ดีแน่ถ้าจะเปลี่ยนแปลง ตารางงานกะทันหัน เอาเป็นอย่างนี้ดีมั้ยครับ ผมขอตัวไปงานปาฐกถาก่อน เรือ่ งค่าใช้จา่ ยในโรงพยาบาลและค่าใช้จา่ ยอืน่ ๆ ผมจะให้เลขาฯ ช่วยดูแลให้ เงินไม่ใช่ปัญหาครับ คุณต้องการเท่าไร เดี๋ยวผมเซ็นเช็ค...” 66


ตอน หนทางกลับ “อย่ามาพูดเรื่องเงินกับผม!” เส้นความอดทนของเนี่ยสิงเฟิงขาดผึงในทันที เขากระชากคอเสื้อ นักการเมืองเฉินขึ้น ดันร่างของอีกฝ่ายไปจนติดก�ำแพง แล้วตะคอกเสียง ดังลั่น “เงินมีค่าอะไร รู้ไว้ด้วย ส�ำหรับผม สิ่งที่ไร้ค่าที่สุดในโลกนี้ก็คือเงิน! จะบอกให้นะ ทางที่ดีพวกคุณควรจะสวดมนต์ภาวนาขอให้น้องชายผม ปลอดภัย ไม่งั้น ผมไม่มีทางปล่อยลูกชายคุณไปแน่ ส่วนคุณ! ก็อย่าหวังว่า จะได้เสนอหน้าอยู่ในแวดวงการเมืองอีก!” “คุณเนี่ย กรุณาปล่อยมือด้วยครับ มิฉะนั้นผมจะฟ้องคุณ ข้อหาใช้ ก�ำลังกับลูกความของผม...” ชายที่น่าจะเป็นทนายความของนักการเมืองเฉินพูดขึ้นอย่างเป็น ทางการ เขารีบเข้ามาดึงเนี่ยสิงเฟิงแต่กลับถูกผลักออกในทันที ท้ายทอย กระแทกเข้ากับผนังด้วยความโชคร้าย เนีย่ สิงเฟิงคลายมือออกจากคอเสือ้ ของนักการเมืองเฉิน ซึง่ ในตอนนี้ อยูใ่ นสภาพน่าอเนจอนาถ หลังจากทีส่ ามารถทรงตัวยืนได้ดแี ล้ว เขาก็รบี ดัน แว่นเอียงๆ ให้กลับเข้าที่ พยายามรักษาภาพลักษณ์ความเป็นสุภาพบุรุษที่ สุขุมและดูดีไว้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ส�ำเร็จ! คุณนายเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับเต้นเร่า ส่งเสียงโวยวายดังลั่น “ทีน่ คี่ อื สถานีต�ำรวจไม่ใช่เหรอ! ท�ำไมถึงไม่มใี ครมาดูด�ำดูดพี วกเรา เลย! มีเงินแล้วใหญ่นักหรือไง เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของลูกชายฉัน คนเดียวสักหน่อย...” ไม่มีใครสนใจเธอ! นายต�ำรวจชัน้ ผูน้ อ้ ยหลายคนยืนดูเหตุการณ์อยูห่ า่ งๆ ส่วนเว่ยเจิง้ อี้ 67


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ 7 ก็แสร้งท�ำเป็นมองไม่เห็น ในใจของนายต�ำรวจหนุม่ คิดว่า ถ้าเธอไม่ใช่ผหู้ ญิง ป่านนี้หมัดของท่านประธานคงพุ่งไปอุดปากเธอนานแล้ว เนี่ยสิงเฟิงหันไปจ้องมองคุณนายเฉินด้วยสายเย็นเยียบ ความ เหี้ยมโหดที่ส่องประกายออกมานั้นคงรุนแรงเกินไปจนคุณนายเฉินถึงกับ สะดุ้งเฮือกและหุบปากเงียบเสียงลงโดยอัตโนมัติ เหลือเพียงเสียงบ่นงุบงิบ งึมง�ำที่ฟังไม่ได้ศัพท์ พอเห็นว่าเนีย่ สิงเฟิงหันหลังก�ำลังจะเดินจากไป คุณนายเฉินก็ท�ำท่า อ้าปาก คล้ายอยากจะตะโกนด่าอีกรอบ แต่เว่ยเจิ้งอี้รีบฉุดมือเธอแล้วบอก ด้วยความหวังดี “พวกคุณไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดกับพวกผมก่อนเถอะครับ รับรองว่าหลังจากได้ดแู ล้ว คุณจะซาบซึง้ อย่างสุดหัวใจว่าลูกชายสุดทีร่ กั ของ พวกคุณท�ำอะไรไว้บ้าง” จางเสวียนก้าวเดินตามเนีย่ สิงเฟิงออกมาจากกรมต�ำรวจ สายตาจับ จ้องมองตามหลังคนทีเ่ ดินอยูด่ า้ นหน้า ความแค้นเคืองแผ่ซา่ น อารมณ์สบั สน ไหลเวียนอยู่ในดวงตาสีอ่อนของเขา “เขาติดหล่มความชั่วแล้ว” จางเสวียนร�ำพึงแผ่วเบา ประโยคนีฟ้ งั ดูคล้ายพูดกับตนเอง แต่กเ็ หมือนก�ำลังบอกใครบางคน แต่ที่ชวนให้น่าทอดถอนใจยิ่งกว่าคือ เมื่อจิตใจถูกความโกรธเคืองและ เคียดแค้นเข้าครอบง�ำ คนผู้นั้นก็จะไม่ใช่เทพเจ้าไร้พ่ายอีกต่อไป! นีค่ อื สิง่ ทีต่ ชี้ อื ต้องการ บัน่ ทอนพลังวิญญาณของเนีย่ สิงเฟิง ล่อลวง ให้เขาติดหล่มความชัว่ จากนัน้ จึงดึงเขาให้เข้ามาอยูใ่ นมิตนิ รกอันเป็นดินแดน ของตน จะส�ำเร็จได้จริงหรือ 68


ตอน หนทางกลับ จางเสวียนลอบยิ้ม...ตัวเขาเองก็ไม่อาจคาดเดาค�ำตอบได้ แต่ก็มี เพียงการพนันทีไ่ ม่รผู้ ลเท่านัน้ ทีจ่ ะท�ำให้รสู้ กึ ตืน่ เต้น ชีวติ เขาเรียบง่ายเกินไป มีอะไรมากระตุ้นบ้างเป็นครั้งคราวก็ไม่เลว... เพราะไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ ส�ำหรับเขาแล้ว มันก็ไม่ได้มีอะไร แตกต่างกันเลย!

69


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.