วิชาชีวประวัตินบีมุหัมหมัด หลักสูตร 01

Page 106

ลัทธิเคารพบูชาเจว็ด จึง แพร่ระบาดไปทัว่ คาบสมุทรอาหรับ จนถึงขนาดว่าชาวเมืองแต่ละคนจะมีรปู เจว็ด ของตัวเองไว้บชู าที่บา้ นของตน ยามใดที่ตอ้ งการเดินทางออกจากบ้านก็จะลูบไล้เจว็ดของตน เช่นเดียว กัน กับเวลากลับจากการเดินทางก็จะกระทาในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา มีชาวอาหรับ ที่ หลงใหลใน ลัทธิ บชู าเจว็ดเพิ่มมากขึน้ เรื่อย ๆ บ้างสร้างสถานที่ขนึ้ เฉพาะสาหรับเก็บเจว็ดเป็ นที่ ตนสักการะบูชา บ้างเพียงแต่สร้างรูปเจว็ด ส่วนผูท้ ี่ไม่สามารถสร้างสถานที่ เก็บรูปเจว็ด หรือสร้างรูปเจว็ดขึน้ มาก็จะเอาก้อนหินไปวางไว้หน้า มัสญิดหะรอม หรือหน้ารูปเจว็ด อื่นที่ตนคิดว่าดี แล้วก็ทาการเฏาะว๊าฟเหมือนกับการเฏาะว๊าฟ รอบ ๆ กะอฺ บะฮฺ กล่าวกันว่า เมื่อใครคนเดินทาง ไปยังที่ใด พอ ไปถึง เป้าหมายเขาจะหาก้อนหินมาจานวน 4 ก้อน แล้วเลือกเอา ก้อนที่เห็นว่าดีที่สดุ มาเป็ นพระเพื่อเคารพสักการะ ที่เหลืออีก 3 ก้อน จะนาไปใช้ เส้า ทาเตา สาหรับปรุงอาหาร ! เมื่อเดินทางโยกย้ายไปที่ ใหม่ก็จะทิ้ง ก้อนหิน ทัง้ หมดไป พอไปถึงที่ใหม่ก็นาก้อนหิน 4 ก้อนมาคัดเลือกเช่นเดิมอีก ชาวอาหรับเคยมีเจว็ดสาคัญที่พวกเขาเคารพ สักการะ และถือ เป็ นเป้าหมายของการเดินทางมา ประกอบพิธีฮจั ญ์ และการเชือดสัตว์เซ่นไหว้อยู่ 3 องค์ องค์แรก คือ มะนาต เคยถูกวางไว้ริมชายทะเลไปทาง ‫ الوشلل‬ที่มีชื่อว่า "‫ "قدٌد‬ซึ่งตัง้ อยู่ระหว่าง เมืองมักกะฮฺ กบั มดีนะฮฺ เป็ นเจว็ดที่ชาวอาหรับทัว่ ไปเคารพสักการะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊ก เอาวส์ กับ ค็อ ซรอจญ์ เมื่อคราวที่ท่านรซูลลุ ลอฮฺ ศ็อล ลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ออกเดินทางมาเพื่อเข้ายึดครองมักกะฮฺ ใน ปี ฮิจญเราะฮฺ ที่ 8 ท่านได้สงั ่ ให้อะลีย์ บิน อบี ฏอลิบทาลายเจว็ดองค์นี้ และให้ยึดเอาสิ่งของที่ผคู้ นนามาเซ่น ไหว้เจว็ดตัวนีด้ ว้ ย อลียไ์ ด้นาสิ่งของทัง้ หมดมามอบให้กบั ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ในจานวน นัน้ มีดาบ 2 เล่ม ซึ่งเป็ นดาบที่อลั -ฮาริษ บิน อบี ชัมร์ อัล-ฆิซานีย์ กษัตรย์แห่ง ฆ็อซซานได้มอบให้ ซึ่งอัล-ฮาริษผูน้ กี้ ็คือผูท้ ี่ได้สงั หารทูตของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ชื่อ ชุญาอฺ บิน วะฮฺ บ์ อัลอะซะดีย์ เราะฏิยลั ลอฮุอนั ฮุ เมื่อครัง้ ที่เขาเดินทาง ไปเข้าพบและมอบจดหมายของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะ ลัยฮิ วะ ซัลลัม ที่มีขอ้ ความเรียกร้องเชิญชวนเขาเข้ารับอิสลาม ซึ่ง นอกจากเขาแล้ว ทูตคนอื่น ๆ ของท่าน ไม่มีใครถูกฆ่าเลย องค์ที่ 2 คือ อัลลาต ตัง้ อยู่ที่เมืองฏออิฟ เป็ นก้อนหินรูปสี่เหลี่ยมที่ชาวอาหรับและ ก๊กกุร็อยช์ นับถือ เมื่อคราวที่ผแู้ ทนของพวกษะกีฟได้เดินทางเข้าพบท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ที่เมืองมดี นะฮฺ หลังการยึดครองมักกะฮฺ พวกเขาได้รอ้ งขอต่อท่านให้ อนุโลมให้พวกเขาสามารถเก็บอัลลาตไว้ ต่อไปอีก 3 ปี โดยไม่มีการทาลาย แต่ท่านก็ได้ปฏิเสธ พวกเขาจึงต่อรองกับท่านว่าขอแค่ 1 ปี ท่านก็ไม่ยอม ใน ที่สดุ พวกเขาก็ขอต่อท่านว่าให้เอาอัลลาตไว้อีกสัก 1 เดือน ซึ่งท่านก็ไม่ยอมเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่องนีท้ ่านอิบนุ ฮิชาม อธิบายว่า : เหตุผลของพวกเขาน่าจะอยู่ ที่ว่า พวกเขาต้องการที่จะ ให้บรรดาพวกที่ไม่มี การศึกษา ผูห้ ญิง และเด็ก ๆ ยอมละทิ้งอัลลาตในสภาพที่พวกเขาพึงพอใจ และสบาย ใจ โดยไม่ตอ้ งการให้พวกเขาเหล่านัน้ ตกใจกับการทาลายอัลลาต การที่ปล่อยให้พวกเขาละทิ้งอัลลาตด้วย ความเต็มใจนัน้ จะเป็ นสิ่งที่โน้มน้าวให้พวกเขาเข้ารับอิสลามได้โดยง่าย ทว่า ไม่ว่าพวกเขาจะขอร้องท่านร อ ซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม อย่างไร ก็ไม่เป็ นผล ในที่สดุ ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ได้ ส่งอบูซฟุ ยาน บิน หัรบ์ กับ อัล-มุฆเี ราะฮฺ บิน ชุอฺบะฮฺ ไปทาลายเจว็ดอัลลาตเสีย ใน ขณะที่อลั -มุฆเี ราะฮฺ ทบุ อัลลาตนัน้ พวกผูห้ ญิงของเผ่าษะกีฟได้พากันออกมาส่งเสียงร้องไห้ดว้ ย ความโศกเศร้าเสียใจ พร้อมกับพรรณาว่า : “ช่างเป็ นความเจ็บปวดแสนสาหัสสาหรับผูท้ ี่คมุ้ ครองพวกเราให้พน้ จากทุกข์ภยั และศัตรู บัดนีค้ นชัว่ ทัง้ หลายได้มาทาลายเขาโดยที่ไม่มีใครชูดาบขึน้ ปกป้องเขาเลย”

107


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.