บทความ 13
พื้นที่สีเทาของกฎหมายลิขสิทธิ์ เรื่อง : สงฟาง จรุงกิจอนันต
ประเทศไทยนัน้ ไดทำความรูจ กั กับสิง่ ทีเ่ รียก วาอินเทอรเน็ตครัง้ แรกเมือ่ ป พ.ศ. 2535 นวัตกรรม นีเ้ ปนทีแ่ พรหลายอยางรวดเร็วพรอมกับการเติบโต ของวงการขอมูลขาวสาร อาจเรียกไดวาเปนการ เติบโตทีร่ วดเร็วเกินไปก็ไดกระมัง จึงทำใหการติด ตอแตละครั้งบนอินเทอรเน็ตนั้นฉาบฉวย ตัวตน ของผูรับและผูสงขอมูลบนอินเทอรเน็ตขาดความ ชัดเจน สิ่งที่ตามมาคือบางครั้งคนบนอินเทอรเน็ต ขาดการใหเกียรติกนั ในเรือ่ งตางๆ รวมไปถึงความ เปนเจาของของผูส ง ขอมูล หรือทีเ่ รียกกันทัว่ ไปวา “ลิขสิทธิ์”
ลิขสิทธิ์ แตถามองในอีกแงหนึ่ง เปนไปไดหรือไม วาตัวกฎหมายลิขสิทธิ์ตางหากที่ตึงเกินไปสำหรับ โลกของอินเทอรเน็ตที่เต็มไปดวยความยืดหยุน ดวยธรรมชาติของอินเทอรเน็ต คนทุกผูท กุ เหลาสามารถทองไปไดอยางเสรี จึงทำใหทุกเนื้อ หาที่เขียนอยูบนอินเทอรเน็ตนั้นถูกเผยแพร และ ถูกปกปองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ไปในตัว ซึ่งบาง ครั้งจุดประสงคของผูเขียนก็มิไดเปนเชนนั้น บาง ครัง้ ผูเ ขียนก็ไมไดตอ งการใหผลงานของตัวเองถูก กฎหมายลิขสิทธิ์ควบคุม นายพิชัย พืชมงคล กรรมการผูจัดการ บริษัท ธรรมนิติ จำกัด ชี้แจงปญหาที่เกิดจาก กฎหมายไรทางเลือก กฎหมายลิขสิทธิ์วา “การที่กฎหมายกำหนดให “ผมวาคนเคาไมคอยคิดอะไร ยิ่งคนไทยก็ ดีฟอลต (Default) เปนกอปปไ รต (Copyright) ซึง่ ไมคอยใหความสำคัญกับการเคารพลิขสิทธิ์อะไร งานทีส่ รางมาก็จะถูกสงวนไวโดยอัตโนมัติ ผูเ ขียน
”
การละเมิดลิขสิทธิ์เปนเรื่องไมดี แตในขณะ เดียวกันมันก็สะทอนอะไรบางอยางในพฤติกรรม คนที่ไปละเมิดลิขสิทธิ์ ทำไมถึงซื้อเทปผีเพลง แกรมมี่ ก็เพราะมันมีที่มาที่ไปแบบนี้
”
พวกนี้นัก จะเห็นวาพวกภาพที่เอาไวใหโหลดฟรี ในกระปุก (http://www.kapook.com) หรืออิโมติคอน (Emoticon) ก็มกี ารเอาวัตถุดบิ จากงานทีม่ ลี ขิ สิทธิ์ ไปใชเยอะแยะ อยางเคยมีกรณีของ “ไอแอนนนนน” (Iannnnn คือชื่อฟอนทบนเว็บไซต http://www. f0nt.com) ที่เปนคนทำฟอนทกระปุก ก็เอาฟอนท ไปใชโดยที่ไมไดบอก ซึ่งจริงๆ มันผิด มันไมควร” นายชิตพงษ กิตตินรเดช ทีป่ รึกษาแผนงานไอซีที ของสำนักงานกองทุนการสรางเสริมสุขภาพ (สสส.) เลาใหฟงเมื่อถามถึงสถานการณลิขสิทธิ์ภายใน ประเทศไทย แตก็ไมใชทุกคนที่จงใจทำเรื่องเชนนี้ มีอยู หลายกรณีที่การละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้นดวยความ ไมรูหรือไมไดตั้งใจ อยางการอัพโหลดเพลงขึ้น บล็อกของตนเอง หรือการนำขอเขียนของคนอื่น ไปใชโดยไมไดรับอนุญาต ดูเผินๆ แลวเรื่องนี้อาจ เกิดขึ้นจากการที่คนละเลยถึงตัวตนของกฎหมาย
ก็มีทางเลือกคือสงวนไวอยางนี้ งานของเขาก็จะ เผยแพรไมไดถา วากันตามกฎหมาย เขาจึงไมรวู า ทีจ่ ริงแลวตัวเขายังมีทางเลือกมากกวานัน้ เคาอาจ จะวิงวอนใหคนอื่นเผยแพรก็ได โดยที่ขอสงวน สิทธิ์บางอยางไว” ครีเอทีฟ คอมมอนส ดวยความที่กฎหมายลิขสิทธิ์ไดตัดสินทุก อยางดวยคำวา “เผยแพร” กับ “ไมเผยแพร” “ถูก” กับ “ผิด” “ดำ” กับ “ขาว” ทำใหจุดประสงคสีเทา ของผูใชบางคนนั้นถูกกลืนหายไป การแยกแยะ ระหวางเนื้อหาที่นำไปใชไดกับนำไปใชไมไดจึง เปนไปอยางยากลำบาก เพื่อแกไขปญหาในขอนี้ ในป พ.ศ. 2544 องคกรที่มีชื่อวาครีเอทีฟ คอมมอนส (Creative Commons) จึงไดกอตั้งขึ้น โดย มีจดุ ประสงคในการเพิม่ ขอบเขตการแบงปนขอมูล และสื่อตางๆ ภายใตกฎหมายลิขสิทธิ์
ครีเอทีฟ คอมมอนสนน้ั เปนเสมือนขอตกลง ที่ไดกำหนดขึ้นเพื่อใหผูใชแตละคนเขาใจซึ่งกัน และกันวา เนื้อหาเผยแพรออกมานั้นมีขอบเขต การนำไปดัดแปลงหรือสามารถนำไปใชตอ ไดมาก เพียงใด โดยเงื่อนไขนั้นเจาของผลงานสามารถ กำหนดได เ องผ า นทางเครื่ อ งหมายที่ ค รี เ อที ฟ คอมมอนสกำหนดเอาไวทั้ง 6 แบบ อาทิ สัญญา อนุญาตประเภทแสดงทีม่ า ไมใชเพือ่ การคา ไมแก ไขตนฉบับ (by-nc-nd), สัญญาอนุญาตประเภท แสดงที่มา และไมใชเพื่อการคา (by-nc), สัญญา อนุญาตประเภทแสดงทีม่ า (by) เปนตน (หาขอมูล ครีเอทีฟคอมมอนสเพิ่มเติมไดที่ http://cc.in.th) หากผลงานของเราไมวาจะเปนภาพ เสียง หรืองานเขียนก็ตาม ถูกปกปองไวดวยครีเอทีฟ คอมมอนสดังกลาว ไมวาใครก็สามารถเอางาน ของเราไปใชไดอยางอิสระ แตตองอยูภายใตขอ กำหนดที่เราตั้งเอาไว ซึ่งถาเกิดมีการละเมิดขอ ตกลงขึ้นมา เชนมีคนเอางานของเราไปเผยแพร ตอโดยไมอา งชือ่ ของเราในงาน หรือนำงานของเรา ขายเพื่อเอาเงิน เราก็สามารถใชครีเอทีฟ คอมมอนสยื่นฟองศาลไดโดยใชพื้นฐานของกฎหมาย ลิขสิทธิ์ ครีเอทีฟ คอมมอนสจึงเปนตัวชวยอยางดี สำหรับผูที่ตองการเผยแพรขอมูลของตัวเองทาม กลางความเขมงวดของกฎหมายลิขสิทธิ์ ผูรับเอง ก็สามารถใชขอมูลที่อยูภายใตขอกำหนดไดอยาง สบายใจ เพราะตราบใดที่ยังทำตามขอตกลง ก็ถือ วายังไมไดละเมิดลิขสิทธิ์ของใคร
คุณสฤณีไดยกตัวอยางของผูท ต่ี อ งการสงวน ลิขสิทธิเ์ ต็มรูปแบบไวในกรณีเพลงของแกรมมี่ ซึง่ ปกติเธอจะใชวิธีแปลงเพลงเปนไฟลเอ็มพีสาม (MP3) ลงเครือ่ งคอมพิวเตอรเพือ่ ฟงจากโปรแกรม ไอทูนส (iTunes) และถายไฟลเขาไปในไอพอด (iPod) อีกที แตซีดีของแกรมมี่ (GMM Grammy PLC.) ที่เธอซื้อมาลาสุดนั้นไมสามารถทำเชนนั้น ได เพราะทางแกรมมี่มีการลงโปรแกรมปองกันไว ไมใหเครื่องคอมพิวเตอรสามารถอานไฟลที่เปน เพลงในซีดีได สุดทายก็ตองหันไปพึ่งแผนผีซีดี เถื่อน “จริงๆ แลวมันผิดกฎหมายผูบ ริโภค เพราะ เมื่อผูบริโภคซื้อซีดีมา เนื้อหาก็เปนสิทธิ์ของผู บริโภค จะเอาไปใชยังไงก็เปนเรื่องของผูบริโภค อยางงี้มันเปนการจำกัดสิทธิ์ของผูบริโภค” คุณ สฤณีชี้แจง “การละเมิดลิขสิทธิเ์ ปนเรือ่ งไมดี แตในขณะ เดียวกันมันก็สะทอนอะไรบางอยางในพฤติกรรม คนที่ไปละเมิดลิขสิทธิ์ ทำไมถึงซื้อเทปผีเพลง แกรมมี่ ก็เพราะมันมีทม่ี าทีไ่ ปแบบนี้ เพราะฉะนัน้ ผูผลิตที่มองไมเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเปลี่ยน มาเหลานี้แลวมัวแตนั่งกอดลิขสิทธิ์ตัวเอง ถึงที่สุด แลวมันก็จะไมถูกตอง” คุณสฤณีกลาวเพิ่มเติม แรกเริ่มเดิมที กฎหมายลิขสิทธิ์นั้นเกิดขึ้น เพราะวามีผูใหกับผูรับ ซึ่งผูรับก็จะชื่นชมและให เกียรติกับผูให ในขณะที่ผูใหก็พึงพอใจและยอม ใหผูรับนำผลงานของตัวเองไปใชไดตามขอตกลง ที่ตั้งเอาไว ซึ่งถามองในแงนี้ก็จะเห็นวากฎหมาย ลิขสิทธิ์ก็ไมไดตางอะไรครีเอทีฟ คอมมอนสเลย จะดวยความฉาบฉวยของอินเทอรเน็ตหรือจะเปน เพราะผลประโยชนใดๆ ก็ตามไดทำใหกฎหมาย ลิขสิทธิ์จากที่เคยเปนสีเทาหลายเฉดไดกลับกลาย เปนดำกับขาวไป ครีเอทีฟ คอมมอนสจึงเปนกาว แรกในการนำสีเทาที่เคยมีกลับมาเพื่อใหโลกของ ขอมูลขาวสารสามารถเดินหนาไปในทิศทางทีเ่ ปน ที่ยอมรับของทุกฝาย
ลิขสิทธิ์ที่ไมถูกแบงปน อยางไรก็ตาม ครีเอทีฟ คอมมอนสนั้นไม ไดมีขอบังคับหรือมีสวนชวยโดยตรงในการทำให คนละ-เลิกการละเมิดลิขสิทธิ์ สฤณี อาชวานันทกุล บล็อกเกอรประจำเว็บไซต http://www. fringer.org กลาววา ผูที่เหมาะกับการใชครีเอทีฟ คอมมอนสนั้นคือผูที่ตองการเผยแพรขอมูลของ ตัวเองอยูแลว เพื่อบอกวาตัวเองตองการเผยแพร ขอมูลแคไหน แตสำหรับผูที่ตองการจะสงวน ขอมูลภาพจาก ลิขสิทธิเ์ อาไวตง้ั แตแรกก็คงไมสนใจการใชครีเอทีฟ - http://blog.it.kmitl.ac.th/it51070008/files/2008/07/ คอมมอนส copyright.jpg