เงารักในรอยทราย

Page 1



คำ�นำ� อยากบอกกับทุกคนว่าอาคาเซียดีใจมากๆ ทีไ่ ด้รบั การต้อนรับอย่างอบอุน่ จา กบ้านเดซีแ่ ห่งนี้ (กระซิบดังๆ นิดนึงค่ะว่า บ.ก.ทีน่ ใี่ จดีมากๆๆๆ ^^) ไม่รจู้ ะถ่ายทอด ออกมาเป็นตัวอักษรอย่างไร แต่รู้สึกยินดีเหลือเกิน ที่มีโอกาสกลับมาจับงาน ทะเลทรายที่ตนเองรักอีกครั้ง หลังจากวางมือจากงานเขียนแนวทะเลทรายมา สองปีเต็ม ซึง่ การกลับมาในครัง้ นีข้ องอาคาเซีย คงเป็นนิยายทะเลทรายอันมีกลิน่ อาย ของความรัก ที่ท�ำให้ทุกคนต้องอ่อนไหวไปตามตัวละคร และร่วมอมยิ้มไปกับ ‘ท่านหญิงดาเนียนจอมแก่น’ ที่มาป่วนหัวใจ ‘ท่านชีคกาหริบ’ และท�ำให้ทุกคน ต้องเอ็นดูในความน่ารักน่าเอ็นดูของนาง ณ โอกาสนี้ อาคาเซียขอขอบคุณผูท้ มี่ สี ว่ นผลักดันให้อาคาเซียได้กลับมา อยู่ในเส้นทางที่ตนเองรักอีกครั้ง ขอบคุณส�ำนักพิมพ์เดซี่ และพีๆ่ ทีมงานทีน่ า่ รักทุกคนมากจ้า โดยเฉพาะ บ.ก.พี่นิ่ม ซึ่งคอยติดต่อประสานงานมาโดยตลอด ขอบคุณค่ะ ขอบคุณเพือ่ นๆ นักเขียนทุกๆ ท่าน โดยเฉพาะ อ้อม สะมะเรีย ทีแ่ นะน�ำ บ้านหลังใหม่อันแสนอบอุ่นให้ ^^ ขอบคุณพี่เก๋ เจ้าของนามปากกา วรรณิก พี่สาวที่แสนดีซึ่งท�ำหน้าที่เป็น บรรณาธิการส่วนตัว และกระตุ้นให้น้องสาวมีไฟลุกขึ้นมาปั่นต้นฉบับตลอด ขอบคุณน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ในเด็กดีทุกท่าน ซึ่งรวมไปถึงนักอ่านเงา ที่มอบคอมเมนต์ให้ รวมทั้งก�ำลังใจก้อนโตที่ท�ำให้ไฟแห่งการปั่นต้นฉบับของ ข้าพเจ้าลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง ขอบคุณสมาชิกทุกคนในครอบครัวทัง้ แม่ ทัง้ ป๊า น้องชายทีช่ ว่ ยเป็นก�ำลังใจ และไม่รบกวนเวลาที่อาคาเซียเก็บตัวท�ำงานอยู่ในห้อง


สุดท้าย... ท้ายทีส่ ดุ อาคาเซียขอขอบคุณนักอ่านผูใ้ จดี ทีต่ ดั สินใจครอบครอง เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนีม้ ากเลยค่ะ ทีท่ า่ นมีสว่ นผลักดันให้อาคาเซีย คนเขียนฝัน ตัวน้อยๆ มีแรงใจ และสร้างสรรค์งานเขียนที่ตนเองรักต่อไป

ฝากไว้ด้วยรัก อาคาเซีย


อาคาเซีย

บทน�ำ

‘ฮาน่า’ นามที่ไม่รู้จัก... ‘ฮาน่า’ นามที่ไม่เคยได้ยินใครเอ่ยถึง... ‘ฮาน่า’ หากแต่ตรึงใจให้ถวิลหา แลจดจ�ำอยู่ในวิญญาณของผู้เอื้อนเอ่ย... ‘ขอแสงสว่างจากดวงตะเกียง จงช่วยน�ำทางข้าไปพบนางผู้เป็นที่รักดั่งดวงใจ’ ถ้อยภาวนาอันหนักแน่นดังก้องในวิหารโบราณเก่าแก่สะท้อนกับผนังสีขาวราว บทสวดมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ฝังความปรารถนาแรงกล้าแลเจ็บปวดซึ่งถักทอในดวง วิญญาณ ดวงตาสีมรกตแฝงฝังความเศร้ากับการรอคอยอันยาวนานคงไม่ละไปจาก ดวงตะเกียงซึง่ ฉาบแสงสีสม้ นวล ก่อนเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของสตรีจะดังก้องใน โสตประสาทเมื่อค�ำวิงวอนปราศจากการตอบรับ! “ฮาน่า!” ร่างเล็กของเด็กน้อยสะดุ้งเฮือกจากเตียงนอนตัวเตี้ยปูด้วยขนสัตว์ แสนนุ่ม พร้อมเสียงหอบหายใจเหนื่อยราววิ่งมาไกลแสนไกล หยาดเหงื่อเม็ดเล็กบน วงหน้าขาวเนียนท่ามกลางอากาศหนาวเย็นตอกย�้ำดาเนียนชัดนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมิใช่ ความฝัน... ริมฝีปากสีแดงสดคงขยับเอ่ยถึงนามซึ่งฝังในวิญญาณซ�้ำๆ คล้ายเสียง พึมพ�ำและไม่มีวันลบเลือน พร้อมตลบผ้าห่มขนแกะออกจากกายขยับตัวลุกจาก เตียงนอนด้วยฝีเท้าเบาที่สุด ‘ตามความปรารถนาแห่งแสงสว่างนัน่ ไป’ เสียงหนึง่ ใต้จติ ส�ำนึกบอกเช่นนี้ ทว่า เท้าน้อยสัมผัสพื้นพรมเท่านั้นเสียงลูกกระพรวนซึ่งผูกไว้ข้างเตียงจึงส่งเสียงกรุ๊งกริ๊ง ขึ้นพลอยให้เด็กน้อยสะดุ้ง เหล่าพี่เลี้ยงซึ่งหลับใหลอยู่ข้างเตียงตัวเตี้ยจึงตื่นในทันที “นั่นท่านหญิงจักไปไหนเจ้าคะ?!” ดวงตามรกตแฝงฝังความเศร้าคล้ายมีหยาดน�ำ้ ตามาคลอเบ้าปรายมามองพีเ่ ลีย้ ง ผู้ถามเสียงดุแวบหนึ่ง ก่อนเมินหน้าไปยังดวงตะเกียงฉลุลายซึ่งตั้งไว้กลางกระโจมเพื่อ ขับไล่ความมืดมิด “เดินเล่น ข้านอนไม่หลับ” “มิใช่ออกตามหาฮาน่ารึ?” เป็นนางก�ำนัลลิมุสที่ย้อนถามด้วยน�้ำเสียงแข็ง กระด้าง กระนั้นดาเนียนก็ไม่ตอบนอกจากคว้าเสื้อคลุมขนสัตว์มาสวมทับแล้วก้าวขา 7


เงารักในรอยทราย

ออกจากกระโจมแสนอบอุ่นโดยไม่สนใจเสียงเรียกของบรรดาพี่เลี้ยงจอมวุ่นวายที่ พร้อมใจกันจ้องจับผิดนาง พ้นจากกระโจมอันอบอุน่ สูภ่ ายนอกอันหนาวเย็น เด็กน้อยจึงห่อกายเข้าหากัน กระนัน้ ดวงตามรกตแฝงฝังความเศร้าคงไม่ละสายตาจากดวงดาวสุกสว่างทีส่ ดุ บนโพ้นฟ้า พร้อมรอยยิ้มละมุนเปื้อนความสุข “ฮาน่า... คอยก่อนเถิด ข้าก�ำลังเดินทางไปพบเจ้า” ค�ำร�ำพันดุจเดิมทุกราตรี คงแรงกล้า ทว่าเมือ่ ร่างน้อยสัมผัสความหนาวเย็นอันแห้งแล้งและหายใจเอาอากาศเย็น เข้าไปในโพรงจมูก ดาเนียนจึงจามเสียงดังออกมา ก่อนรีบเร่งพาตัวเองหลบหลังกระโจม ใหญ่ทันทีเมื่อเสียงเรียกของเหล่านางก�ำนัลพี่เลี้ยงดังขึ้น ดาเนียนรอพี่เลี้ยงทั้งสี่นางวิ่งผ่านไปจึงเดินห่างออกมาจากกระโจมใหญ่ซึ่งมี เหล่าทหารองครักษ์อารักขาแขกคนส�ำคัญของนครคามิลา่ อยู่ ทว่าอากาศอันเหน็บหนาว จึงท�ำให้เด็กน้อยต้องห่อกายเข้าหากันอีกครั้งเมื่อลมเย็นยะเยือกหอบเอาละอองทราย ลอยคว้างในอากาศมาต้องผิวยิบๆ มือน้อยอันเย็นเฉียบยื่นไปรองประกายระยิบระยับ ดัง่ เกล็ดดวงดาว ขณะดวงตาสีมรกตงดงามคงหยุดนิง่ ยังดวงดาวสุกสว่างดุจดวงตะเกียง จากโพ้นฟ้าไกล สองขาน้อยซึง่ สวมรองเท้าขนสัตว์และคงรักษาอุณหภูมขิ องร่างกายไว้เป็นอย่างดี ย�่ำไปข้างหน้า โดยมีจุดหมายอยู่ที่ดวงดาวสุกสว่างซึ่งมิเคยไขว่คว้ามาครอบครองได้ ทว่าพ้นจากกระโจมใหญ่ส�ำหรับพักแรมได้ไม่เท่าไหร่นางก�ำนัลผู้ดูแลจึงเข้ามาฉุดรั้ง ข้อมือบางของท่านหญิงตัวน้อยเอาไว้ก่อน “ดึกป่านนี้แล้วท่านหญิงจะไปไหนเจ้าคะ?!” “ปล่อยข้า ฮาน่าก�ำลังรอข้าอยู่” เด็กน้อยพยายามขืนข้อมือจากการเกาะกุม พอหลุดออกจากมือลิมสุ มาได้ ดาเนียนจึงชะงักเท้าไว้อกี เมือ่ นางก�ำนัลพีเ่ ลีย้ งอีกสามนาง มาดักหน้าเอาไว้ “ให้ตายเถอะ! เมื่อไหร่พวกผู้ใหญ่ถึงเลิกวุ่นวายกับชีวิตของข้าสักที” ผูม้ ศี กั ดิเ์ ป็นท่านหญิงแห่งนครคามิลา่ บ่นอุบกับตนเอง แต่ดวู า่ ถ้อยค�ำนัน้ มิสามารถท�ำให้ ผู้ดูแลเปลี่ยนความตั้งใจได้เลย “กลับเข้ากระโจมเถิดเจ้าค่ะท่านหญิง หากท่านชีคฮาซันรู้ความนี้เข้า พวกข้า ทัง้ หมดอาจต้องอาญา” ลิมสุ ผูต้ ดิ ตามดูแลใกล้ชดิ ก�ำราบด้วยน�ำ้ เสียงดุดนั กระนัน้ ผูถ้ กู เรียกยังเพิกเฉยท�ำหูทวนลม แต่พอถูกคว้าข้อมืออีกครั้งดาเนียนจึงท�ำหน้ายุ่งพยายาม ขืนตัวออก “ปล่อยข้านะ!” 8


อาคาเซีย

“มิปล่อยเจ้าค่ะ ท่านหญิงต้องกลับเข้ากระโจมพร้อมข้าเดี๋ยวนี้!” ลิมุสท�ำตาโต น่ากลัวกว่าเดิม “หยุดออกค�ำสั่งกับข้า ข้าปรารถนาจักอยู่ที่นี่” “มิได้เจ้าค่ะ หากท่านหญิงยังดื้อดึงข้าจะน�ำความนี้บอกกล่าวกับท่านชีค” “อย่าขู่ข้า” ดาเนียนเสียงแข็ง “ข้ามิได้ขู่ หากท่านหญิงอยากถูกจ�ำกัดบริเวณอยู่แต่ในกระโจมอีกก็ตามใจ ข้าจักมิยุ่งวุ่นวายอีก” ดาเนียนเม้มปากเป็นเส้นตรงกับถ้อยนางก�ำนัลพี่เลี้ยงจอมจุ้นจ้านและดุร้าย พลางท�ำสายตาไม่พอใจใส่ “ข้าพอใจมากนักทีเ่ จ้ามิทำ� เช่นนัน้ ” บอกจบเด็กน้อยจอมดือ้ จึงกระชับเสือ้ คลุม เข้าหากันแล้วย�่ำเท้าไปในทิศทางที่ตนเองพอใจ ทว่าไปได้ไม่ถึงยี่สิบก้าวด้วยซ�้ำ บรรดา พี่เลี้ยงจอมเข้มงวดทั้งสี่ก็ล้อมดาเนียนเอาไว้อีก “จะกลับเข้ากระโจมเอง หรือต้องการให้พวกข้าอุ้มท่านหญิงกลับไปเจ้าคะ?” พี่เลี้ยงสาวร่างท้วมในชุดพื้นเมืองยาวถึงตาตุ่มสวมผ้าคลุมสีขาวถามด้วยน�้ำเสียงดุดัน พร้อมหักนิว้ มือ ซึง่ กิรยิ านัน้ ท�ำให้เด็กน้อยยิม้ มุมปาก ดวงตาสีมรกตเป็นประกายวาววับ ขึ้นมาทันทีเมื่อมีเรื่องสนุกให้ท�ำในราตรีอันเหน็บหนาวกลางท้องทะเลทราย “ตามแต่พวกเจ้าปรารถนาเถิด” สิน้ ค�ำเด็กน้อยซึง่ อยูใ่ นกิรยิ าเอือ่ ยเฉือ่ ยเซือ่ งซึม จึงกลายเป็นวานรน้อยแสนซุกซนว่องไวทันทีเมือ่ พีเ่ ลีย้ งร่างท้วมตรงดิง่ เข้ามาตะครุบตัว! แล้วการวิ่งไล่จับรอบค่ายพักแรมจึงเริ่มต้นขึ้น ความสงบเงียบในรัตติกาลกับ เสียงลมจึงอันตรธานหายไปในทันทีเมื่อเสียงของท่านหญิงตัวน้อยและเหล่านางก�ำนัล ดังขึ้น หนึ่งคือผู้วิ่งหนี และอีกสี่คือผู้วิ่งไล่ตาม ดาเนียนอาศัยความคล่องตัวและ ได้เปรียบเรื่องรูปร่างแทรกตัวไปในที่แคบได้อย่างรวดเร็วพร้อมหันมาหัวเราะชอบใจ เมื่อพบภาพอันน่าประทับใจซึ่งเกิดจากฝีมือตนเอง “ท�ำอะไรตรงคบเพลิงน่ะ” ร่างเล็กหยุดหัวเราะเมื่อเห็นชายผ้าคลุมหน้าของ นางก�ำนัลพีเ่ ลีย้ งนางหนึง่ ติดไฟขึน้ มา ก่อนรีบวิง่ หนีไปเมือ่ ลิมสุ จอมอึดทีถ่ ลกชายกระโปรง รุ่มร่ามตรงดิ่งเข้ามาหา “หยุดนะท่านหญิง ข้าขอสั่งให้ท่านหยุด!” “ค�ำสัง่ นัน้ ข้าขอใช้กบั เจ้า” ร่างเล็กโต้เถียงขณะวิง่ หน้าตัง้ หนีการจับกุม จนกระทัง่ มาเสียท่าให้กับเหล่านางก�ำนัลพี่เลี้ยงทั้งสี่ที่หน้ากระโจมจัดเลี้ยงของท่านชีคฮาซัน นั่นล่ะ 9


เงารักในรอยทราย

“ปล่อยข้านะ!” ผูถ้ กู อุม้ เข้าเอวตัวลอยจากพืน้ ทรายโวยวายพยายามทุบตีมอื อวบ นั่นเป็นพลวัน พอไม่ได้ผลดาเนียนจึงเปลี่ยนมาฝังคมเขี้ยวลงบนเอวหนานั่นทันที “โอ๊ย!” นางก�ำนัลปล่อยให้ร่างเล็กของท่านหญิงน้อยตกลงบนพื้นทราย เย็นเฉียบทันที ทว่าความวุ่นวายก็ไม่ยุติตรงนั้น ดาเนียนรีบทรงตัวลุกขึ้นวิ่งหนีอีกครั้ง แต่ลิมุสก็ไวกว่าสามารถคว้าเสื้อคลุมของเด็กน้อยจอมซนเอาไว้ได้พร้อมกับหิ้วตัวลอย จากพื้น “ปล่อยข้านะ พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์กระท�ำกับท่านหญิงดาเนียนเช่นนี้” “เอะอะอะไรกัน?!” กระแสเสียงดังกังวานของผู้ปกครองนครเล็กๆ ซึ่งก�ำลัง ต้อนรับแขกเมืองมีผลให้ทุกคนหยุดความเคลื่อนไหวพร้อมคุกเข่าหมอบตัวลงบน ผืนทรายละเอียดและเย็นเฉียบ หากจะมีทไี่ ม่หมอบตัวลงเหมือนคนอืน่ ก็มแี ต่ทา่ นหญิง ดาเนียนเท่านั้น ซ�้ำยังวิ่งเข้ามากอดบิดาอย่างประจบด้วย “ท่านพ่อ” “ดึกแล้ว ท�ำไมถึงยังมิเข้านอนอีกเล่าท่านหญิง?” มือหนาของผู้ปกครองนคร คามิลา่ ลูบศีรษะของบุตรีอย่างเอ็นดูรกั ใคร่ แลไม่แปลกใจสักนิดเมือ่ เห็นเหตุการณ์ชลุ มุน วุ่นวายซึ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ ที่ดูว่าจะเป็นเรื่องปกติด้วยซ�้ำ “ลูกนอนไม่หลับเจ้าค่ะ ฮาน่าก�ำลังเรียกหาลูก” ค�ำตอบดุจเดิมเหมือนทุกครัง้ จากการลัน่ วาจาถามท�ำให้ใบหน้ามากด้วยริว้ รอย แห่งกาลเวลาของผู้ปกครองคามิล่ากังวลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “ฮาน่าอีกแล้วรึ... พ่อว่าเจ้าควรรีบกลับเข้ากระโจมแล้วให้ลิมุสเล่านิทานให้ฟัง เถิดดาเนียน” “แต่ข้าอยากอยู่กับท่านพ่อนี่เจ้าคะ ข้าเบื่อหน่ายพี่เลี้ยงพวกนี้เต็มทนแล้ว พวกนางทั้งสี่ชอบออกค�ำสั่งกับข้าผู้เป็นท่านหญิงเหลือเกิน ซ�้ำยังใช้ความรุนแรงกับข้า” ได้โอกาสงามดาเนียนจึงบอกกล่าวความอึดอัดให้บิดารับรู้ทันที กระนั้นค�ำพูด ของเด็กน้อยคงมีนำ�้ หนักไม่มากนัก ทัง้ นีเ้ ป็นเพราะผูป้ กครองนครคามิลา่ เชือ่ มัน่ ในความ ดื้อดึงในตัวบุตรีมากกว่านั่นเอง “ลิมุสออกค�ำสั่งเป็นเพราะเจ้าดื้อน่ะสิ... กลับไปพักผ่อนเถอะดาเนียน พ่อยัง มีแขกคนส�ำคัญต้องดูแลอีก” “แต่ข้า...” “ไม่มีแต่บุตรีแห่งข้า จงว่าง่ายและไม่ดื้อดึง” 10


อาคาเซีย

แม้นไม่พอใจทีบ่ ดิ าไม่ตามใจและพาตนเองเข้าไปในกระโจมใหญ่ดว้ ย แต่ดาเนียน ก็มิใช่เด็กโง่ที่ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนี้ “เจ้าค่ะ ข้าจักกลับไปนอน” “ดีมากลูกข้า” ชีคฮาซันยิ้มละมุนก่อนก้มตัวลงมาจุมพิตหน้าผากมนของบุตรี แล้วยืนเต็มความสูง ตวัดสายตาเป็นประกายวาววับมายังสี่พี่เลี้ยงสาวซึ่งยังหมอบอยู่ บนผืนทราย “พาท่านหญิงกลับกระโจม หากพวกเจ้าปล่อยให้บุตรีแห่งข้าออกมาเดิน เพ่นพ่านท่ามกลางอากาศเหน็บหนาวเช่นนีอ้ กี ข้าจะสัง่ โบยให้หลังลาย” เจอค�ำสัง่ เฉียบขาด ของผู้ปกครอง ทั้งสี่พี่เลี้ยงจึงรีบรับค�ำสั่งอย่างพร้องเพรียง “เจ้าค่ะ” ชีคฮาซันรอจนบุตรีคนเล็กผูเ้ ป็นดัง่ ดวงใจกลับกระโจมทีพ่ กั แล้วนัน่ ล่ะจึงผ่อน ลมหายใจออกมายาวก่อนหันหลังกลับเข้ากระโจมใหญ่ซงึ่ ก�ำลังสนุกครืน้ เครงด้วยเสียง ดนตรีและนางระบ�ำแสนสวย ทว่าสีหน้าของผู้ปกครองนครซึ่งเปื้อนรอยยิ้มกลับเต็ม ไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชดั หลังจากกลับเข้ามาในกระโจม และสีหน้านีเ้ องก็หารอด สายตาชีคริยาร์ดไม่ ชีคหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่แห่งนครฟาตินขมวดคิ้วสงสัย “เหตุอันใดท�ำให้ท่านอาเป็นกังวล หรือท่านไม่ชื่นชอบการแสดงของนางระบ�ำ เหล่านี้?” ค�ำถามจากผูม้ อี ำ� นาจจนทุกแคว้นใกล้ไกลต้องเกรงกลัวและให้ความเคารพดึง ความสนใจของชีคฮาซันซึ่งก�ำลังจมอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองได้ “มิใช่เลยท่านชีค หาใช่นางระบ�ำแสนงดงามของนครฟาติน” “แล้วท่านอาเป็นกังวลเรื่องใดเล่า? หวังว่ามิใช่เรื่องการเจริญมิตรไมตรีของข้า หรอกนะ” ดวงตาสีน�้ำมันดิบของผู้มีอ�ำนาจนั้นท�ำให้ชีคฮาซันซึ่งมีอายุอานามมากกว่า ชักหายใจไม่ทั่วท้อง “มิใช่อีกเช่นกัน ที่ข้าเป็นกังวลอยู่นี้หาใช่การเจริญมิตรไมตรีของท่าน แต่เป็น เรื่องบุตรีคนเล็กของข้าต่างหากที่ท�ำให้ข้าเป็นกังวลตลอด...” น�้ำเสียงและสีหน้าของผู้ปกครองนครคามิล่า อาณาจักรเล็กๆ เพียงปลายก้อย เมื่อเทียบกับนครฟาตินเรียกความสนใจจากชีคริยาร์ดดีนัก ด้วยเข้าใจหัวอกของ คนเป็นพ่อจึงปลอบไปตามสมควร เพราะตัวชีคริยาร์ดเองประจักษ์ดีว่าบุตรีคนเล็กของ ชีคฮาซันนั้นซุกซนมากเพียงใด 11


เงารักในรอยทราย

“ท่านหญิงน้อยแค่ซกุ ซนตามวัย การทีน่ างหนีออกจากนครเพือ่ ตามท่านอาอาจ ดูไม่เหมาะสมส�ำหรับสตรี แต่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตอันใด” “เพียงเท่านั้นหรือมากกว่านั้นสักสิบเท่าข้าคงยินดี” เสียงทอดถอนหายใจราว แบกรับภูเขาทรายไว้ทงั้ ลูกยิง่ ท�ำให้ผมู้ แี ต่บตุ รีอย่างชีคริยาร์ดต้องแปลกใจและให้ความ สนใจ “โปรดเผยความกังวลแก่ข้า เผื่อข้าผู้นี้จักช่วยอะไรท่านอาได้บ้าง” ชีคฮาซันเงียบไปอึดใจ ดวงตาผูผ้ า่ นโลกมามากเต็มไปด้วยความลังเลไม่แน่ใจ ว่าจักเอื้อนเอ่ยถึงสิ่งที่ท�ำให้เป็นกังวลกับผู้ยิ่งใหญ่ดีไหม “หรือท่านอามิไว้ใจข้า?” “หาใช่ไม่ ทีข่ า้ กังวลอยูท่ กุ วันนีเ้ ป็นเพราะค�ำท�ำนายจากผูเ้ ฒ่าผูด้ แู ลจิตวิญญาณ ของเราต่างหาก” พอหลุดปากไปแล้วชีคฮาซันจึงถอนหายใจออกมายาวพร้อมปิด เปลือกตาลงราวน้อมรับโชคชะตาจากค�ำท�ำนายซึ่งยากจักเปลี่ยนแปลง “น่ากลัวเช่นนั้นรึ สีหน้าท่านบอกเช่นนั้น” ชีคฮาซันพยักหน้า “เป็นมากกว่านัน้ อีก เพราะค�ำท�ำนายนีไ่ งเล่าข้าถึงท�ำทุกวิถที าง เพื่อปกป้องรักษาดินแดนอันหวงแหนของบรรพบุรุษเอาไว้” “จงบอกข้าเถิดท่านอา หากช่วยได้ ข้าริยาร์ดผู้นี้ยินดีให้ความช่วยเหลือ” มีรอยยิ้มบางจากผู้ผ่านโลกมามากกว่าพร้อมขยับริมฝีปากซึ่งปกคลุมไปด้วย หนวด “ค�ำท�ำนายของผูเ้ ฒ่าผูด้ แู ลบอกกับข้าว่า หากบุตรหรือบุตรีเอือ้ นเอ่ยถึงแสงสว่าง และเสาะแสวงหาปรารถนาอันแรงกล้าคราใด นัน่ หมายความว่านครเล็กเพียงปลายก้อย บนแผนทีน่ ามคามิลา่ จักถูกลบเลือนหายไป” กระแสเสียงของชีคฮาซันเต็มไปด้วยความ หวาดหวั่น เมื่อค�ำท�ำนายนั้นก�ำลังคืบคลานเข้าสู่ความเป็นจริงเข้ามาทุกขณะ... นครคามิลา่ เป็นนครเล็กๆ อยูภ่ ายใต้การปกครองดูแลยึดหลักด้วยเมตตาและ ความสงบสุขมาหลายชัว่ อายุคน การค้าขายแลกเปลีย่ นสินค้าจ�ำพวกพืชพันธุธ์ ญ ั ญาหาร รวมทั้งการค้าม้าศึกคืออาชีพหลักของชาวเมืองคามิล่า จึงท�ำให้นครเล็กๆ ในหุบเขา สลับซับซ้อนกลายเป็นที่รู้จักของหมู่คาราวานเร่ในท้องทะเลทราย และความสมบูรณ์ เรียบง่ายนี้เองจึงเป็นเหตุจูงใจเรียกร้องให้ผู้ไล่ล่าอาณานิคมอันกระหายชัยชนะจาก สงครามและอ�ำนาจต่างมุ่งหน้ามาที่นี่ หรือแม้นแต่ชีคริยาร์ดด้วยเช่นกัน “มันเป็นเพียงค�ำท�ำนาย ขอท่านอาอย่าได้หวาดหวั่นเลย” 12


อาคาเซีย

“ข้าวาดหวังให้เป็นเช่นนั้นมาตลอด ข้าภาวนาให้ค�ำท�ำนายคลาดเคลื่อน แต่ ท่านชีคคงมิทราบ หลังจากดาเนียนพูดได้นางได้สร้างความหวาดหวั่นให้กับข้ามากนัก นางเอื้อนเอ่ยถึงแสงสว่างรวมทั้งนามที่ไม่รู้จัก นางร�่ำร้องหาสิ่งนั้นทุกราตรี ฮาน่า ฮาน่า ฮาน่า มิรวู้ า่ นางพร�ำ่ เพ้อหาผูใ้ ด” ไม่เพียงน�ำ้ เสียงเท่านัน้ นัยน์ตาของผูป้ กครองนครคามิลา่ ยังเต็มไปด้วยความวิตกนานัปการ “เท่าที่ข้าฟัง แค่ค�ำเพรียกหาไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอันใด ท่านชีคผู้ยิ่งใหญ่อย่าง ท่านอาไม่นา่ วิตก” ผูน้ งั่ บนเบาะนุม่ ขนาบข้างด้วยสองนางงามอ้าปากรับเม็ดทับทิมสีชมพู ก่อนยกจอกทองเหลืองขึ้นจิบ “ตรงข้ามกันเลย อาณาจักรในดินแดนอันไกลโพ้นล้วนแล้วแต่มาเยี่ยมเยือน เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับนครแห่งข้ามากมายนัก บุตรของข้าถูกน�ำไปเป็นตัวประกัน คนแล้วคนเล่าจนไร้ทายาทผูป้ กครองนคร ส่วนบุตรีแห่งข้าหลายนางถูกขอไปเป็นชีคคา จากหลายเผ่าซึง่ แข็งแกร่งด้วยการทหาร เราไม่สามารถแข็งข้อได้ แต่นนั่ ไม่ทำ� ให้ขา้ วิตก เท่ากับการมาเยือนของนครผู้กระหายชัยชนะแห่งสงครามหรอกนะ” พอหลุดปากออกมาแล้วบรรยากาศในกระโจมจึงเปลีย่ นเป็นความตึงเครียดทันที เมื่อชีคริยาร์ดยกมือขึ้นเพื่อหยุดการแสดงระบ�ำหน้าท้อง “ท่านอาคงมิได้หมายถึงการมาของข้าหรอกนะ” ผูม้ เี จตนาเช่นนัน้ ตัง้ แต่แรกถาม ด้วยน�้ำเสียงทุ้มต�่ำ นัยน์ตาสีเข้มราวสีของน�้ำมันดิบเป็นประกายเจิดจรัส “หามิได้ ข้าหมายถึงการมาเยือนของผูป้ กครองนครแห่งทาสซากีมสุ น่าต่างหาก” ชีคฮาซันรีบแก้ แต่ค�ำตอบของผู้ปกครองนครคามิล่ากลับท�ำให้ดวงตาของผู้กระหายสงคราม จรัสแสงขึ้นมาอีกครั้ง ลองนครซากีมุสน่าให้ความสนใจดินแดนปลายก้อยแห่งนี้แล้ว ล่ะก็ นั่นย่อมหมายความว่า ‘สงครามแย่งดินแดน’ ก�ำลังเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง “คนพวกนั้นมาท�ำอะไรที่นี่หรือท่านอา?” “เอ่อ...” จะให้บอกตรงๆ ได้อย่างไรว่าทางนั้นขอเจริญสัมพันธไมตรี มีหวัง นครคามิล่าได้ถูกชีคริยาร์ดตีกระจุยเป็นแน่ เพราะจากการเยี่ยมเยือนทุกครั้งชีคริยาร์ด ก็แสดงออกให้เห็นตลอดเวลาว่าปรารถนาจักครอบครองนครเล็กๆ แห่งนี้นัก “ฮึ?” ผู้ทรงอ�ำนาจยกคิ้วหนาขึ้นสูงอย่างรอคอยค�ำตอบ “ทางนั้นผ่านมาเจอเราเข้า จึงขอเจรจาค้าขายเป็นพันธมิตรรวมทั้งขอซื้อขาย แลกเปลี่ยนม้าศึก” 13


เงารักในรอยทราย

“แล้วท่านอาให้ค�ำตอบคนพวกนั้นเช่นไร?” แทบยกมือปาดหยาดเหงือ่ ซึง่ เกาะบนผิวหน้า แต่ชคี ฮาซันมีความอดทนอดกลัน้ ต่อแรงกดดันมากกว่านั้นเมื่อต้องเจรจากับท่านชีคผู้ยิ่งใหญ่อย่างชีคริยาร์ด “ทางเรามีม้าศึกไม่มากพอ น่าเสียดายที่ต้องปฏิเสธไปเช่นนั้น” ค�ำตอบของผู้ปกครองนครคามิล่าท�ำให้ใบหน้าเข้มของชีคริยาร์ดคลายความ เคร่งขรึมลงไปบ้าง ก่อนโบกมือให้สัญญาณกับเหล่านางระบ�ำเปิดการแสดงต่อ กระนั้น ในสมองอันชาญฉลาดยังเต็มไปด้วยเรือ่ งต้องขบคิดมากมาย ลองศัตรูออกสะสมม้าศึก เช่นนี้ นั่นย่อมหมายความว่ากลิ่นอายสงครามคงเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่นานข้างหน้า “ท่านอาปฏิเสธทางนั้นไปมิหวั่นหรอกรึว่ากองทัพซากีมุสน่าอันน่าสะพรึงกลัว จักแห่มาที่นี่” การต้อนเหยื่อด้วยวิธีอันสุดแสนฉลาดแยบยลนั้นคือสิ่งที่ชีคริยาร์ดถนัด และ มันใช้ได้ผลกับผู้ปกครองนครคามิล่าซึ่งเผยจุดอ่อนออกมาให้เห็นนัก “ไม่เลยท่านชีค” ค�ำปฏิเสธนั้นไม่มั่นคงเท่าไหร่ ใช่... ชีคหนุ่มสัมผัสความหวาดกลัวในน�้ำเสียง นั่นได้ “นครคามิลา่ มิเคยก่อศัตรู เราเป็นมิตรกับคาราวานจากทุกนครทีม่ าเยีย่ มเยือน อีกอย่างหากผูเ้ คยค้าขายกับนครแห่งข้าดี ต้องรูข้ ดี จ�ำกัดของจ�ำนวนสินค้าทีเ่ รามี จักว่าไป สัปดาห์ที่แล้วคาราวานของท่านแวะมาพักม้าที่นี่ ข้าเห็นผ้าทอมือของนครท่านช่างมี ลวดลายวิจิตรงดงามมากนัก จะสะดวกไหมหากข้าจะขอเจรจาแลกเปลี่ยนผ้าทอมือกับ พืชผลทางการเกษตรของข้าในครั้งนี้เลย” คิ้วหนาของชีคริยาร์ดยกขึ้นสูง ก่อนเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มมุมปากที่คู่สนทนา เปลี่ยนเรื่องได้อย่างรวดเร็ว “ด้วยความยินดีขอรับท่านอา ฮึ สมแล้วทีผ่ คู้ รองนครเก่งกาจเรือ่ งการเจรจาค้าขาย นครแห่งนี้จึงขึ้นชื่อว่าเป็นวาณิชแห่งตะวันออก” “น้อมรับค�ำชมขอรับ” ชีคฮาซันยิ้มให้อีกครั้งก่อนลอบพ่นลมหายใจออกมา เมื่อสามารถรอดพ้นจากแรงกดดันของอีกฝ่ายมาได้อย่างหวุดหวิด แม้นการมาเยือน ของผู้ครองนครฟาตินจะไม่ใช่ครั้งแรก แต่การมาเยี่ยมเยือนของชีคริยาร์ด ผู้ขึ้นชื่อว่า กระหายสงครามได้น�ำความหวาดหวั่นมาสู่ชีคฮาซันตลอด เพราะทุกครั้งที่ชีคริยาร์ดมา เยือน ไม่เพียงต้องต้อนรับให้สมเกียรติผยู้ งิ่ ใหญ่เท่านัน้ ตอนแขกส�ำคัญนีเ้ ดินทางกลับ ต้องมอบบรรณาการเพื่อยื้อชะตาของนครคามิล่าออกไปด้วย 14


อาคาเซีย

แต่ครัง้ นีจ้ กั น�ำบรรณาการจากทีไ่ หนมอบให้ทา่ นชีคริยาร์ดล่ะ? ในเมือ่ นครคามิลา่ เพิง่ ยอมตัดใจยกทองค�ำก้อนโตให้กบั ผูป้ กครองคนใหม่ของนครซากีมสุ น่าผูเ้ หีย้ มโหด ไปเมื่อไม่ถึงสิบราตรีที่แล้วนี้เอง เฮ้อ... ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มใจนัก ภายในกระโจมพักแรมอันงดงามของชีคฮาซัน... เสียงแมลงกลางคืนซึง่ แว่วสะท้อนในท้องทะเลทรายอันหนาวเย็นในยามราตรีกาล ที่ก�ำลังหมดไปมิสามารถกล่อมให้ผู้ปกครองนครคามิล่าข่มตาให้หลับลงได้เลย ยิ่ง เสียงลมหวีดหวิวนอกกระโจมสะบัดธงสามเหลี่ยมไปมาจนเกิดรูปเงาภายในกระโจม พร้อมกลิ่นเขม่าควันไฟจากคบเพลิงจางๆ ยิ่งสร้างความตึงเครียดให้ชีคฮาซันมากนัก ตอนนี้ในคลังมีเหรียญทองและเหรียญเงินอยู่จ�ำนวนน้อยนิด ทั้งหมดนั้นต้อง ส�ำรองเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในยามจ�ำเป็น ซึ่งส่วนหนึ่งแบ่งไว้ส�ำหรับค่าใช้จ่ายเรื่องม้าศึก รวมทัง้ เมล็ดพันธุพ์ ชื ส�ำหรับการเกษตร ดังนัน้ เหรียญทีม่ อี ยูใ่ นมือนีค้ งมิใช่เครือ่ งบรรณาการ ชั้นเลิศส�ำหรับชีคริยาร์ดผู้ยิ่งใหญ่เป็นแน่ แต่ถ้าไม่มอบสิ่งใดให้ผู้มาเยือนติดไม้ติดมือ กลับไปเลย คงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเช่นกัน... แล้วความคิดหนึง่ จึงแวบเข้ามาในหัว มันเป็นวิธอี นั ชาญฉลาดทีป่ ฏิบตั สิ บื มาช้านาน แลสามารถรักษานครคามิล่าเอาไว้ไม่ให้เป็นเมืองขึ้นของนครใดจนถึงบัดนี้ “หรือยกท่านหญิงดาเนียนให้ทา่ นชีคริยาร์ดดี?” ชายวัยห้าสิบกว่าตัง้ ค�ำถามกับ ตัวเอง แต่พอนึกถึงความเหมาะสมด้วยเรือ่ งของวัยแล้วชีคฮาซันจึงส่ายหน้า เพราะบุตรี คนเล็กที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในขณะนี้ยังเยาว์วัยนัก ดูว่าจักมีวัยไล่เลี่ยกับบุตรสาว คนโตของชีคริยาร์ดด้วยซ�้ำ หากยกให้เป็นนางสนมก็ดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ “หรือจักรอ ให้นางโตเป็นสาวก่อนแล้วจึงส่งไป?” ชีคฮาซันส่ายหน้าให้ตัวเองอีก ถ้ารอให้ดาเนียน โตเป็นสาวเต็มตัว มีหวังนครคามิล่าคงสิ้นนามและถูกลบออกจากแผนที่ตามค�ำท�ำนาย ของท่านผูเ้ ฒ่าเป็นแน่ แต่เมือ่ ท�ำอันใดมิได้และไม่มตี วั เลือกอืน่ ทีด่ กี ว่านี้ ชีคฮาซันจึงหัน มาพึ่งค�ำท�ำนายด้วยการเสี่ยงทายแทน เปลือกหอยมุกเนื้อหนาซึ่งตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ หลายชั่วอายุคนทั้งสี่ชิ้นคืออุปกรณ์ส�ำคัญของการเสี่ยงทาย ซึ่งผลค�ำท�ำนายอันแม่นย�ำ ตรงหน้าไม่แตกต่างไปจากความคิดของชีคฮาซันแม้นแต่น้อยนิด “ดาเนียนเอ๋ย หากเป็นโชคชะตาก�ำหนดไว้พ่อคงยากที่จักทัดทาน” ชีคฮาซัน พึมพ�ำก่อนปิดเปลือกตาลงพร้อมค้อมศีรษะอย่างน้อมรับผลค�ำท�ำนาย... 15


เงารักในรอยทราย

1 บรรณาการแสนสวย ณ นครฟาติน เสียงตะโกนโหวกเหวกของบรรดาพ่อค้าเร่ซึ่งมากับขบวน คาราวานดังแข่งกับเสียงตะโกนของพ่อค้าเจ้าถิน่ เพือ่ แข่งกันขายสินค้าให้กบั ผูเ้ ดินออกมา จับจ่ายใช้สอย เสียงเจรจาพูดคุยจับประเด็นไม่ได้จงึ สร้างความจอแจให้หน้าก�ำแพงเมือง อีกทัง้ เสียงฝีเท้าขบวนรถม้า อูฐ ลาซึง่ สัญจรไปมาบนทางเดินจึงท�ำให้ฝนุ่ ทรายลอยคลุง้ ไปทัว่ บริเวณ กระนัน้ นครแห่งความยิง่ ใหญ่ซงึ่ ขึน้ ชือ่ เรือ่ งสาวงามและผ้าทอยังดึงดูดให้ เหล่าพ่อค้าคาราวานแวะเวียนมาค้าขายเสมอ แม้นค่าผ่านประตูเมืองเพือ่ เข้ามาท�ำการค้า จะมีราคาสูงลิบก็ตามที แล้วความวุน่ วายก็กลายเป็นความสงบขึน้ มาเมือ่ ม้าเร็วน�ำขบวน ตรงดิ่งเข้ามาภายในประตูเมืองพร้อมค�ำสั่ง “เปิดทาง! ท่านชีคริยาร์ด อิมฮาซา ก�ำลังมุ่งหน้ามาทางนี้” เมื่อผู้ขอทางเอ่ยถึงนามที่ชาวเมืองให้ความเคารพย�ำเกรงดังก้องไปทั่วบริเวณ ทุ ก ความวุ ่ น วายอั น เกิ ด ขึ้นจากความไร้ร ะเบีย บจึง อยู่ในความสงบเรียบร้อยทันที ทางเดินเต็มไปด้วยผูค้ นถูกแหวกออกเป็นสองฝัง่ โดยปริยาย และเมือ่ ม้าสีนลิ ขีโ่ ดยบุรษุ ผู้สง่างามและทรงอ�ำนาจพร้อมขบวนผู้ติดตามวิ่งเหยาะๆ เข้ามาภายในประตูเมือง เหล่าประชาชนซึง่ อยูล่ ะแวกนัน้ จึงพร้อมใจหมอบตัวลงบนพืน้ ทรายเพือ่ แสดงความเคารพ ต่อผู้ปกครองนคร จนกระทั่งขบวนรถม้าเคลื่อนผ่านไปหมดแล้วนั่นล่ะ บรรยากาศ การค้าขายชานเมืองจึงกลับมาครึกครื้นจอแจอีกครั้ง นครฟาตินอันสวยงามและเจริญรุง่ เรืองแห่งนีม้ ที า่ นชีคผูป้ กครองหนุม่ ถึงสองคน หนึ่งคือ ชีคริยาร์ด อิมฮาซา ผู้มีอุปนิสัยเฉียบขาดดุดันซึ่งมีอ�ำนาจสูงสุดของนคร และชื่นชอบการเสาะแสวงหาดินแดนที่ไม่รู้จักจนเกิดการท�ำศึกสงครามขยายดินแดน อยู่เนืองๆ นอกจากนี้ยังออกล่าตระเวนพาสาวงามจากทุกดินแดนมาอยู่ในนครของตน ดังนั้นนครแห่งนี้จึงเปิดการค้าเสรีเรื่องทาสอย่างถูกกฎหมาย แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้ ความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย นั่นก็คือตัวทาสและตัวนายจ้าง ดังนั้นการไปมา ของชีคริยาร์ดจึงสร้างความหวาดหวั่นให้ชาวทะเลทรายและผู้พบพานเสมอๆ ซึ่งผิดกับ ผู้ปกครองนครคนที่สองนัก 16


อาคาเซีย

ชีคกาหริบ อิมฮาซา อนุชาต่างมารดาของชีคริยาร์ด ผู้ซึ่งฉลาดปราดเปรื่อง เรียนรู้ศาสตร์แห่งศิลป์แขนงต่างๆ ได้แตกฉานตั้งแต่อายุยังน้อย หากแต่รักสันโดษ มีจติ ใจอ่อนโยน ชืน่ ชอบการเพาะปลูก เลีย้ งสัตว์ และปรารถนาให้ชาวเมืองอยูด่ กี นิ ดีจงึ ออกเสาะแสวงหาเมล็ดพันธุพ์ ชื จากดินแดนอืน่ มาเพาะปลูกในดินแดนของตนตลอด ด้วย อุปนิสยั ทีข่ ดั กับชีคริยาร์ดนีล่ ะ่ จึงท�ำให้ชคี ริยาร์ดมอบหมายให้อนุชาออกปราบโจรทะเล ทรายแทนตนเองอยูเ่ นืองๆ หรือแม้นแต่สง่ ไปท�ำสงครามกับนครอืน่ ๆ ทีแ่ ข็งข้อด้วยเพือ่ ฝึกฝนให้ชีคกาหริบเป็นผู้กล้าที่สมบูรณ์แบบ “ท่ า นชี ค กาหริบน�ำชัย ชนะกลับมาสู่นครแล้ว!” ม้า เร็วตัวที่สองพร้อมธง สามเหลี่ยมวิ่งผ่านเข้ามาในประตูเมืองพร้อมส่งเสียงตะโกนมาแต่ไกล ประชาชนผู้ออก มาจับจ่ายใช้สอยต่างเฝ้ารอการกลับมาจึงพร้อมใจเปิดทางเป็นสองฝั่งในทันที ซึ่งการ กลับมาของท่านชีคกาหริบรูปงามซึ่งสาวๆ เฝ้าฝันถึงนี้เองจึงสร้างความคึกคักให้กับ นครแห่งนี้นัก “ท่านชีคกาหริบกลับมาแล้ว” เสียงบรรดาเด็กน้อยและสาวๆ ต่างเอ่ยขึ้นด้วย ความยินดี ไม่เพียงบรรดาสาวงามจะออกมาต้อนรับหน้าชื่นตาบาน พวกนางทั้งหลาย ยังน�ำดอกไม้หลากสีมาโปรยต้อนรับให้สมเกียรติชคี หนุม่ อีกด้วย กว่าขบวนม้าอันยิง่ ใหญ่ ที่มาพร้อมทาสเชลยซึ่งเป็นจอมโจรทะเลทรายเคลื่อนผ่านไป ดอกไม้สีสดหลากสีจึง กระจายจนเกลื่อนพื้นอย่างยินดีในชัยชนะอันงดงาม และการกลับมาพร้อมชัยชนะของชีคกาหริบซึง่ ใช้เวลานานถึงครึง่ ปีในการล่าหัว จอมโจรทะเลทรายผูย้ งิ่ ใหญ่นเี่ องจึงท�ำให้ชคี ริยาร์ดจัดงานเลี้ยงอย่างยิง่ ใหญ่เพื่อฉลอง ชัยชนะให้กบั อนุชา รวมทัง้ ต้อนรับธิดาตัวน้อยคนทีส่ บิ เอ็ดซึง่ เกิดขึน้ ในวันเดียวกันนีด้ ว้ ย เสียงดนตรีจงั หวะสนุกดังขึน้ สอดคล้องกับท่าเต้นอันพลิว้ ไหวอ่อนช้อยของเหล่า นางระบ�ำแสนสวยทัง้ ห้า ซึง่ เผยหน้าท้องแบนราบกับเสียงลูกกระพรวนยักย้ายส่ายสะโพก ไปมา รอบๆ บริเวณห้องสีเ่ หลีย่ มจัตรุ สั กว้างซึง่ โยงระย้าด้วยผืนผ้าสีเหลืองทองตัดผนัง สีส้มอ่อนกับลวดลายฉลุบนโค้งหน้าต่างทรงหัวหอมคงเต็มไปด้วยขุนนางชั้นผู้ใหญ่ซึ่ง นั่งเรียงแถวและหันหน้าเข้าหากันเพื่อรับชมการแสดง โดยมีผู้ปกครองทั้งสองนั่งอยู่บน เบาะนุ่มกับพื้นยกระดับซึ่งสูงกว่าเล็กน้อย “ขอฉลองความส�ำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้แด่อนุชาแห่งข้า วีรบุรุษผู้ซึ่งสร้างชื่อเสียง และความน่าเกรงขามให้นครฟาติน” 17


เงารักในรอยทราย

ชีคริยาร์ดชูจอกทองเหลืองขึน้ เหนือศีรษะด้วยรอยยิม้ ปลาบปลืม้ น�ำเหล่าขุนนาง ชั้นผู้ใหญ่ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน ก่อนดื่มฉลองความส�ำเร็จอันยิ่งใหญ่ให้ชีคกาหริบที่ สามารถปราบโจรทะเลทรายผู้ดุร้าย และสามารถพิชิตเมืองใต้มาครอบครอง ซ�้ำยัง กวาดต้อนบรรดาโจรร้ายพร้อมเหล่าสาวงามที่โจรร้ายจับไว้เป็นเชลยกลับเข้ามาในนคร ฟาติน “แด่ความยิง่ ใหญ่ของเชษฐาแห่งข้าเช่นกัน” ผูไ้ ด้รบั เกียรติยมิ้ ละมุนเอามือแตะ หน้าอกพร้อมค้อมศีรษะให้อย่างนอบน้อม ซึง่ กิรยิ านีเ้ รียกเสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจจาก ชีคริยาร์ดจนดังกังวานไปทัว่ ห้อง ก่อนหันไปหอมแก้มสาวงามซึง่ คอยปรนนิบตั อิ ยูข่ า้ งๆ “เรามาดื่มฉลองให้กับน้องข้าอีกครั้ง” ทั้งหมดปฏิบัติตามค�ำสั่งของชีคริยาร์ด ด้วยใบหน้าอิม่ เอมความสุข และสนุกไปพร้อมกับเหล่านางระบ�ำทัง้ ห้า “เจ้ากลับมาครัง้ นี้ ดูซบู ผิดตาไปมาก ดูวา่ ข้าใจร้ายเหลือเกินทีส่ ง่ เจ้าไปท�ำลายรังโจรถึงเมืองใต้เพียงล�ำพัง” “โอ้ไม่เลยขอรับ เพื่อความสงบสุขของชาวเมือง ข้าผู้เป็นน้องย่อมต้องช่วย แบ่งเบาภาระอันยิ่งใหญ่แห่งพี่ข้า” “ฮ่าๆ พูดได้ดี ยังไงข้าต้องขอบใจเจ้ามากนะกาหริบ” มือหนาสวมธ�ำมรงค์ น�ำ้ งามตบลงบนไหล่หนาสมชายชาตรีของอนุชาต่างมารดาอย่างรักใคร่ ผูเ้ จียมตัวเสมอมา จึงค้อมศีรษะให้ดังเดิม “ตอนข้ากลับเข้าเมืองมา ได้ยินว่าพี่ข้าเพิ่งกลับจากการท่องทะเลทรายและแวะ เยี่ยมเยียนนครคามิล่า ไปคราวนี้บรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ประการใด?” น�้ำเสียงเนิบๆ ของชีคกาหริบคราถามถึงนครปลายก้อยซึ่งมิยอมสวามิภักดิ์ แต่ขอเป็นพันธมิตรทางการค้าสร้างความอึดอัดให้ชีคริยาร์ดนัก เพราะตลอดระยะเวลา สามปีทผี่ า่ นมา ทางนครฟาตินพยายามกดดันและหาแนวทางหลอมรวมนครเล็กๆ นาม คามิล่าเป็นดินแดนเดียวกับนครฟาตินตลอด แต่นครผู้โดดเดี่ยวก็มีกุศโลบายต่างๆ มารับมือ ซ�้ำยังเปิดช่องทางการค้าและส่งบรรณาการเป็นม้าศึกมาให้ตลอด นอกจากนี้ ยังส่งเมล็ดพันธุ์พืชมาให้เนืองๆ ดังนัน้ ชีคริยาร์ดจึงตัดสินใจตีนครเล็กๆ แห่งนีม้ ไิ ด้ แต่พอรูข้ า่ วว่านครแห่งทาส ก�ำลังให้ความสนใจและเจริญสัมพันธไมตรีกับชีคฮาซันผู้เป็นวาณิชแห่งตะวันออก ชีคริยาร์ดจึงท�ำใจเย็นอีกต่อไปไม่ได้จงึ ตัดสินใจออกท่องทะเลทรายพร้อมแวะเยีย่ มเยียน นครคามิล่าอีกครั้ง “เฮ้อ ข้าเองก็มิรู้เช่นกันว่าข้าบรรลุวัตถุประสงค์อย่างที่เจ้าถามหรือไม่” 18


อาคาเซีย

ค�ำตอบก�ำกวมไม่กระจ่างชัดอีกทั้งสีหน้าไม่สบายใจของชีคผู้ปกครองนคร ท�ำเอาชีคกาหริบย่นคิ้วยาวได้รูปรับกับโครงหน้าเข้าหากัน เพราะตั้งแต่กลับมาเขาได้ยิน เหล่านางก�ำนัลต่างพูดถึงบรรณาการของนครคามิล่าไม่ขาดสาย ซึ่งการได้ครอบครอง สาวงามอันเป็นบุตรีของท่านชีคจากนครนั้นๆ ก็เท่ากับว่าฟาตินนครประสบความส�ำเร็จ และบรรลุวัตถุประสงค์นั่นแล้ว “ข้าได้ยินว่าท่านพี่ได้ครอบครองสตรีที่งดงามและอ่อนเยาว์ที่สุดในแคว้น ตะวันออก” “โอ้... ยังห่างไกลค�ำนั้นนักน้องรักของข้า” น�้ำเสียงของผู้ประสบและรับมือกับ นางงาม ‘จอมซน’ ที่อนุชาให้ความสนใจเต็มไปด้วยความเอือมระอา แต่คนฟังอย่าง ชีคกาหริบกลับตีความไปอีกทาง “คงจริ ง นครแห่ ง เราก็ ขึ้ น ชื่ อ เรื่ อ งสาวงาม ข้ า ตระเวนไปทั่ ว ทุ ก ทิ ศ จาก ดินแดนตะวันออกจรดดินแดนตะวันตก ยังมิเคยพานพบนครแห่งไหนมากสาวงาม เท่านครเรา ถึงว่าพี่ข้าจึงมิตื่นเต้นกับสาวงามนางนี้ ว่าแต่ท่านชีคฮาซันส่งบุตรีล�ำดับที่ เท่าไหร่มาให้เราหรือขอรับ?” “ถ้าข้าจ�ำไม่ผิด น่าจักคนสุดท้องนะ” น�ำ้ เสียงไร้ปตี ซิ ำ�้ ยังดูเหนือ่ ยหน่ายยิง่ ท�ำให้ชคี กาหริบแปลกใจ ด้วยว่าชีคริยาร์ด ยังหนุม่ แน่นอายุอานามเพียงสามสิบเท่านัน้ ซึง่ ทุกครัง้ ทีไ่ ด้หญิงงามมาครอบครองเชษฐา จะพานางผู้นั้นมาแสดงตัวในงานเลี้ยงด้วยเสมอ เพื่อประกาศให้ทุกคนรับรู้และยกย่อง ให้เกียรตินางผู้นั้นในฐานะสนม แต่ราตรีนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น ซ�้ำยังดูว่าท่านชีคริยาร์ด มิอยากเอ่ยถึงนางงามที่ว่านั้นด้วย “ท่านพี่มิยินดี รึเป็นเพราะนางมิงดงามสมค�ำร�่ำลือขอรับ?” ค�ำถามนัน้ ท�ำให้ชคี ริยาร์ดแย้มยิม้ น้อยๆ “ข้าดูวา่ นางน่าจักงดงามมากนะกาหริบ เพียงแต่ยังมิใช่กาลนี้” ยิง่ ฟังก็ยงิ่ งง ชีคหนุม่ ขมวดคิว้ ชนกัน เพราะรูอ้ ยูว่ า่ เชษฐานัน้ ปรารถนาบุตรชาย ส�ำหรับสืบทอดบัลลังก์ถงึ เพียงใด ซึง่ ระยะเวลาสิบปีทผี่ า่ นมาชีคริยาร์ดยังไม่สมปรารถนา เพราะบุตรซึ่งเกิดจากสนมทั้งสิบเอ็ดนางนั้นยังไม่มีบุตรชายแม้นแต่คนเดียว และนี่ จึงเป็นอีกหนึง่ สาเหตุทชี่ คี ริยาร์ดต้องออกแสวงหาสาวงามจากทุกดินแดนเพือ่ มีสายเลือด ไว้สืบทอดบัลลังก์ในกาลต่อไป สีหน้าของชีคกาหริบในเพลานี้เองที่เรียกเสียงหัวเราะจากชีคริยาร์ดออกมาได้ 19


เงารักในรอยทราย

“มิต้องท�ำหน้าเช่นนั้น เอาอย่างนี้ ในเมื่อเจ้าสนใจในตัวนางงามมากนัก ข้า ขอมอบบรรณาการนี้แด่เจ้าดีกว่ากาหริบน้องข้า เผื่อท่านหญิงจะมอบความอภิรมย์ให้ กับเจ้าบ้าง” “โอ้ ข้าคงรับไว้มิได้ ข้าใช้ชีวิตอิสระมานานคงยังมิพร้อมกับสิ่งนี้ อีกอย่าง ท่านพี่เองก�ำลังแสวงหานางงามเพื่อเป็นสนมอยู่ หากข้ารับไว้เกรงว่ามิถูกมิควร” ผู้ปกครองอันดับสองซึ่งร้างสาวงามเคียงข้างเพราะชื่นชอบการใช้ชีวิตสันโดษ รีบปฏิเสธ เพราะรูว้ า่ เชษฐาของตนนัน้ ยังปรารถนาทีจ่ กั หาสนมอยูเ่ นืองๆ อีกทัง้ ยังต้องการ ทายาทสืบบัลลังก์ ดูเถอะ ขึ้นปกครองนครแห่งนี้มาเป็นสิบปีแล้ว แต่ชีคริยาร์ดซึ่งมีนางสนมรวม ยีส่ บิ กว่านางกลับปราศจากบุตรชายให้ชนื่ ใจสักคน ล่าสุดทีล่ มื ตาขึน้ มาเมือ่ ตอนเทีย่ งวัน ซึ่งเป็นธิดาล�ำดับที่สิบเอ็ดก็ยังคงเป็นบุตรีอีกเช่นเคย “อย่าได้เกรงใจเลยน้องข้า นี่คือสิ่งถูกต้องที่สุดแล้ว ข้าหวั่นใจด้วยซ�้ำหาก ข้ารับท่านหญิงดาเนียนมาเป็นสนม ฝ่ายในคงวุ่นวายพิลึก” ยิง่ ฟังก็ยงิ่ สร้างความสงสัย ชีคกาหริบไม่สนใจด้วยซ�ำ้ ว่าการแสดงอันน่าอภิรมย์นนั้ จบลงตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สิ่งที่ติดใจเห็นจะเป็นปฏิกิริยามิไยดีของผู้ครองนครนี่ล่ะ “วุน่ วายอย่างไรหรือขอรับ? ข้ามิเคยเห็นนางงามอันเป็นบรรณาการจักสร้างปัญหา ให้กับทางเราแต่อย่างใด มิหน�ำซ�้ำยังสวามิภักดิ์กับเราเป็นอย่างดี” ชีคริยาร์ดยิม้ กว้างกับวาจาของผูไ้ ม่รพู้ ษิ สงของนางงามตัวน้อยนัน่ “ทางทีด่ เี จ้า รีบรับนางไว้ก่อนเถอะ ประเดี๋ยวเจ้าก็จักได้รับค�ำเฉลยเอง ถือซะว่าช่วยแบ่งเบาภาระ ของข้าก็ได้” ดูว่าผู้ปกครองนครตั้งใจมอบบรรณาการนี้ให้นัก ซ�้ำยังมิเฉลยค�ำตอบในสิ่งที่ ฉงนสงสัย แลนัน่ จึงท�ำให้ชคี กาหริบปฏิเสธอันใดมิได้ จะเป็นอันใดไปหากเขาจักมีสนม ไว้เป็นเพือ่ นแก้เหงาเหมือนดัง่ เชษฐาบ้าง คิดได้ดงั นัน้ ชีคกาหริบจึงไม่ขดั ศรัทธาแต่อย่างใด นอกจากเอามือแตะหน้าอกพร้อมค้อมศีรษะ “ข้าน้อมรับบรรณาการไว้ครอบครองขอรับ” “ดี... ดีมากๆ” มือหนาของผูป้ กครองนครวางลงบนไหล่หนาบึกบึนของอนุชาพร้อมระเบิดเสียง หัวเราะ ก่อนหันมาสนุกสนานกับเหล่านางระบ�ำแสนสวยอีกครั้ง ดังนั้นท่านชีคริยาร์ด จึงไม่เห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนนั่น... 20


อาคาเซีย

การเดินทางรอนแรมกลางทะเลทรายถึงสิบห้าราตรีเต็มจากดินแดนหนึ่งสู่ ดินแดนหนึ่ง จากทรายผืนหนึ่งสู่ทรายอีกผืนหนึ่งรวมทั้งแวะเวียนยังเมืองท่าต่างๆ จึง เป็นเหตุให้ทา่ นหญิงดาเนียนผูซ้ งึ่ กลายมาเป็นบรรณาการชัน้ เลิศเอาแต่รำ�่ ไห้กระจองอแง ตามประสาเด็กมาตลอดทาง ด้วยว่าไม่เคยชินกับการเดินทางจากบ้านจากเมืองมาไกล แสนไกลเพียงล�ำพังกับคนแปลกหน้าเช่นนี้ และการทีน่ างงามตัวน้อยเอาแต่รำ�่ ไห้เช่นนีเ้ อง จึงสร้างความร�ำคาญให้กับชีคริยาร์ดมากนัก ‘ข้ามิเคยพานพบเด็กคนไหนร�่ำไห้ได้เก่งเท่านี้มาก่อนเลย แม้นแต่บุตรีแห่งข้า ซึ่งมีวัยไล่เลี่ยกับนาง ก็ยังพูดง่ายกว่าเด็กน้อยผู้นี้หลายเท่านัก’ เป็นค�ำปรารภด้วยความร�ำคาญอย่างยิง่ ซึง่ ดาเนียนรูแ้ ก่ใจดีวา่ ท่านชีคผูย้ งิ่ ใหญ่ ก�ำลังพูดถึงตนเอง และนี่เองที่ดาเนียนรู้ว่าการประท้วงเพื่อเรียกร้องกลับนครด้วยการ ร�่ำไห้ใช้ได้ผล ท่านหญิงตัวน้อยจึงเอาแต่ร�่ำไห้ไปตลอดทาง แล้วมีหรือที่ท่านชีคริยาร์ด ผู้ยิ่งใหญ่จะสยบให้แค่เสียงเด็กร้อง! ดังนั้นภาระอันใหญ่หลวงในการดูแลท่านหญิง ดาเนียนทั้งหมดจึงตกเป็นของนางก�ำนัลลิมุสในทันที ‘ท่านชีคมีคำ� สัง่ ให้เจ้าผูด้ แู ลท่านหญิง จงท�ำให้ทา่ นหญิงดาเนียนหยุดร�ำ่ ไห้ หาก ยังได้ยินเสียงอันน่าร�ำคาญนี้อีก เจ้าจักถูกเฉือนปลายลิ้นแทน’ มิเพียงภาระหน้าทีซ่ งึ่ ยากจะปฏิเสธ ซ�ำ้ ยังมีคมมีดของท่านชีคริยาร์ดค�ำ้ คอไว้อกี ดังนั้นนางก�ำนัลลิมุสจึงต้องสรรหาสารพัดวิธีมาใช้หลอกท่านหญิงตัวน้อย ซึ่งใช้ได้ผล เป็นพักๆ เท่านัน้ และราตรีนอี้ กี เฉกเช่นกันทีท่ า่ นหญิงดาเนียนเอาแต่รำ�่ ไห้กอดผ้าขนแกะ ผืนโปรด พร้อมร�ำพันงึมง�ำซ�้ำๆ กับปรารถนาจะกลับบ้าน ซึ่งเสียงเล็กอันน่าร�ำคาญในราตรีนี้หาได้ท�ำให้นางก�ำนัลลิมุสปวดหัวอย่างเคย เพราะท่านหญิงจอมยุ่งมิได้อยู่ในรถม้าร่วมขบวนกับท่านชีคริยาร์ดเหมือนราตรีก่อน ดังนั้นไม่ว่าท่านหญิงน้อยจักร้องไห้เสียงดัง หรือจะขว้างปาข้าวของเพื่อเรียกร้องความ สนใจเช่นไรลิมุสก็ไม่ใส่ใจ สิ่งที่นางก�ำลังสนใจก็คือเรื่องความงามของตัวเองเท่านั้น ด้วยก่อนหน้านีช้ คี ริยาร์ดส่งยูนคุ ขันทีมาแจ้งว่ากลางดึกชีคกาหริบผูค้ รอบครอง บรรณาการจักมายลโฉมของท่านหญิงแห่งคามิลา่ นครถึงฮาเร็มแห่งนี้ และขอให้ทา่ นหญิง ดาเนียนเตรียมตัวต้อนรับด้วย แม้นท่านชีคกาหริบจักไม่ได้มายลโฉมของนาง แต่ลิมุส ก็รู้ว่านี่คือโอกาสทองที่นางจะเลื่อนฐานะอันน่ารังเกียจนี้ให้สูงส่งขึ้น “ข้าคิดถึงท่านพ่อท่านแม่ เจ้าช่วยพาข้ากลับไปนครคามิล่าทีสิลิมุส” ดาเนียน เช็ดคราบน�้ำตาออกจากแก้มชื้นขณะยังมีเสียงสะอึกสะอื้น 21


เงารักในรอยทราย

“โอ้ชา่ งน่าเวทนานัก ว่าแต่ทา่ นหญิงปรารถนาฮาน่ามิใช่หรือเจ้าคะ ท่านชีคฮาซัน จึงได้ส่งท่านหญิงมาดินแดนแห่งนี้แล้ว ท่านยังปรารถนาสิ่งใดอีก?” น�้ำเสียงของลิมุส แข็งกระด้างขึน้ มาทันทีเมือ่ ไร้ความจ�ำเป็นต้องรักษาสถานะนางก�ำนัลและท่านหญิงเอาไว้ เพราะดูว่าท่านชีคผู้ปกครองนครแห่งนี้หายกย่องในตัวท่านหญิงดาเนียนไม่ ซ�้ำยัง ปล่อยปละละเลยน�ำมาไว้ในฮาเร็มอันเงียบเหงาราวกับสุสานร้าง ที่แย่ไปกว่านั้นท่านชีค ริยาร์ดยังยกท่านหญิงดาเนียนให้เป็นสมบัติของผู้อื่นครอบครองอีก แต่ก็นั่นล่ะ ไม่ว่าท่านหญิงน้อยจักตกเป็นสมบัติของใครก็มิส�ำคัญเท่ากับนาง ต้องแสวงหาความมั่นคงให้กับตัวเอง และโอกาสเพียงหนึ่งเดียวก็ก�ำลังคืบคลานมาถึง “ที่นี่มีแต่คนใจร้าย... ทุกคนใจร้ายกับข้า แม้นแต่เจ้าก็เช่นกัน” เด็กน้อยต่อว่า ต่อขานเมื่อนางก�ำนัลลิมุสซึ่งลั่นวาจาไว้กับท่านชีคฮาซันว่าจักดูแลตนเป็นอย่างดีกลับ ไม่รักษาสัจจะนั้น ซ�้ำยังท�ำร้ายทุบตีจนเจ็บระบมไปทั้งตัว “ข้าท�ำไมเจ้าคะ?” “ใจร้าย เจ้าทุบข้า ตีข้า หากกลับไปได้ข้าจะฟ้องให้ท่านพ่อลงอาญาเจ้า” ดาเนียนต่อว่า ดวงตาสีมรกตมีน�้ำมาคลอเบ้าแต่มันก็ถูกเช็ดออกไปเมื่อลิมุสหัวเราะขัน ความอ่อนแอนั่น “เจ้าขันเรื่องอันใดหรือลิมุส?” “ก็ขนั ท่านน่ะสิทา่ นหญิง โถ ปรารถนาจักกลับนครคามิลา่ ท่านหญิงย่อมรูด้ นี ะว่า บุตรีของชีคฮาซันซึง่ ถูกส่งตัวไปต่างนครยังมิเคยมีผใู้ ดได้กลับมาเยีย่ มเยือนนครคามิลา่ อีก แล้วท่านจักท�ำเช่นนั้นได้อย่างไรเล่า” รอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างสาแก่ใจสร้างความกดดันให้ดาเนียนนัก เพราะ เด็กน้อยตระหนักดีว่าบรรดาพี่สาวทั้งสิบห้านางซึ่งเกิดต่างมารดานั้นยังมิเคยมีใคร กลับมาเยี่ยมเยียนบ้านเกิดอีกหลังจากถูกจับขึ้นหลังอูฐไปเป็นบรรณาการเพื่อเจริญ สัมพันธไมตรีกับนครอื่น แค่ความดื้อรั้นและเชื่อมั่นในตัวเองก็มิท�ำให้ดาเนียนยอมรับ ความพ่ายแพ้ง่ายๆ “เจ้าพูดถูก แต่ทกุ คนย่อมมีความปรารถนา และข้าปรารถนาจักกลับไปคามิลา่ นคร” ดวงตาสีมรกตเป็นประกายเจิดจรัสขึ้นมาอีกครั้ง “ตามแต่ปรารถนาเลยท่านหญิง แต่ข้าขอบอกอันใดไว้สักอย่าง” เสียงหัวเราะ ในล�ำคอหายไปกลายเป็นเสียงกระซิบอย่างจริงจัง พร้อมหรี่ตาลง “ต่อให้ท่านหญิงขี่อูฐ ออกไปจากนครแห่งนีไ้ ด้ ยังไงซะท่านก็ไปมิพน้ ทะเลทรายกว้างใหญ่อนั แห้งแล้งนีห้ รอก หรือถ้ารอดไปก็ไม่แน่ว่าท่านอาจเจอโจรทะเลทรายจอมโหดสังหารก่อน อย่าว่าจักเหลือ รอดชีวิตกลับไปหาชีคฮาซันเลย แม้นแต่ฮาน่าที่ท่านเอ่ยถึงทุกราตรีก็มิมีวันได้พบ!” 22


อาคาเซีย

ได้ยินค�ำขู่อันน่าสะพรึงกลัวดาเนียนที่นั่งกอดเข่าจึงรีบเช็ดคราบน�้ำตาออกจาก ดวงตาสีมรกต “อย่าแตะต้องปรารถนาแห่งข้า ฮาน่าจักปกป้องข้า” “โอ้ เป็นความฝันอันเพ้อเจ้อของท่านหญิงต่างหากเล่า” ลิมุสไม่วายยั่วเย้า “นีม่ ใิ ช่ความฝันอันเพ้อเจ้อ” ดาเนียนเสียงแข็งขึน้ มาทันที และกิรยิ านัน่ ยิง่ สร้าง เสียงหัวเราะให้กับลิมุสนัก “สิ่งใดบอกท่านหญิงหรือเจ้าคะ ท่านถึงมั่นใจเพียงนั้น?” “สัญชาตญาณบอกข้า” ได้ยนิ น�ำ้ เสียงมัน่ คงนัน่ ยิง่ ท�ำให้นางก�ำนัลสาวหัวเราะชอบใจ เพราะตัง้ แต่รบั หน้าที่ เป็นพี่เลี้ยงให้บุตรของท่านชีคมาหลายคน ลิมุสยังไม่เคยเจอเด็กคนไหนมีจินตนาการ มากมายเข้าขั้นเพ้อเจ้อเท่าท่านหญิงดาเนียนมาก่อน “เอาล่ะๆ ข้าจักมิถามท่านหญิงว่าสัญชาตญาณตรงส่วนไหน เอาเป็นว่าท่านหญิง ทิ้งความปรารถนาที่จักกลับคามิล่านครเถิด” ดาเนียนเงียบไปอีกทว่าดวงตาสีมรกตแฝงฝังความเศร้าคงไหววูบ นางเคย ปรารถนาอยากออกตามหาแสงสว่างเจิดจ้าไปยังสุดขอบของทะเลทรายอันไกลโพ้นเพื่อ สานต่อค�ำเรียกร้องของจิตวิญญาณภายในใจ แต่คดิ ไม่ถงึ ว่าการตามหาบุคคลซึง่ มีตวั ตน ในความฝันนั้นกลับต้องแลกมาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่นางมี นอกจากถูกบิดาพาขึ้นรถม้าพร้อมยัดหีบเสื้อมากับคาราวานของชีคริยาร์ด โดยมิพบหน้ามารดาแล้ว บิดายังกล่าวค�ำลวงว่าท่านชีคริยาร์ดจักพานางมาพบฮาน่าอีก แต่นั่นยังไม่ย�่ำแย่เท่ากับบิดาทอดทิ้งให้อยู่กันตามล�ำพังกับนางก�ำนัลพี่เลี้ยงจอมดุร้าย ยิ่งคิดดาเนียนยิ่งหดหู่ใจนัก หรือนางต้องมีชะตากรรมเฉกเช่นพี่สาวแล้วจริง? “เจ้ามิอยากกลับไปนครคามิล่าหรือลิมุส สหายน่ารักของเจ้าอยู่ที่นั่นทั้งหมด และเขาอาจรอคอยการกลับมาของเจ้าก็ได้” ดาเนียนกลืนเสียงสะอึกสะอื้นลงคอขณะ โน้มน้าวอีกฝ่าย “โอ้ไม่เลย ข้าไม่ปรารถนากลับไปที่นั่นอีก ข้ายินดีด้วยซ�้ำที่พ้นจากเจ้าหนี้ มากมายมาได้” “แล้วเจ้าไม่คิดถึงท่านพ่อท่านแม่รึ?” ลิมุสส่ายหน้าช้าๆ ดวงตาแข็งกระด้างไม่บ่งบอกถึงความโศกเศร้าหรืออาลัย อาวรณ์แต่อย่างใด “ไม่เลยท่านหญิง ข้าเป็นอิสระจากครอบครัวมานานเพราะพ่อข้าขายข้าให้มา เป็นทาสตั้งแต่ยังเด็ก” 23


เงารักในรอยทราย

“เจ้าช่างน่าสงสารนัก” ดวงตาสีมรกตเศร้าลง “มันกลายเป็นเรือ่ งธรรมดาส�ำหรับข้าเสียแล้ว จักว่าไปท่านหญิงเองก็มชี ะตากรรม ไม่ต่างจากข้าหรอกนะ ดีกว่านิดหน่อยก็ตรงที่ท่านมีฐานะเป็นท่านหญิงก็เท่านั้น” ได้ฟังค�ำเปรียบเทียบหัวใจดวงน้อยของดาเนียนจึงห่อเหี่ยวลงไปอีก “จริงของเจ้า ไม่ว่าจักมีฐานะสูงส่งเช่นไร หากถูกทอดทิ้งปล่อยปละละเลย ไม่สนใจท�ำเหมือนว่าข้าเป็นสินค้าชิ้นหนึ่ง ข้าก็คงมีค่าไม่ต่างจากนางทาสธรรมดาๆ ที่ ถูกขายหรอก” พอถูกจี้จุดอ่อนเข้าให้ดาเนียนก็ท�ำท่าว่าจักร�่ำไห้ออกมาอีก “ช่างน่าสงสารนัก แต่อย่ากังวลไปเลยท่านหญิงน้อย โชคชะตาไม่กลัน่ แกล้งเรา เสมอไปหรอก” “ข้าก็หวังเช่นนัน้ ” ดาเนียนยิม้ เศร้าให้ลมิ สุ เมือ่ ความเป็นนายเป็นบ่าวถูกท�ำลายลง และนั่นก็เปิดช่องทางให้ลิมุสได้ออกเล่ห์อุบาย “จะว่าไปเราสองคนซึ่งไม่มีอะไรท�ำน่าจะหาอะไร ’เล่น’ แก้เหงานะเจ้าคะ หรือ ท่านหญิงเห็นว่าอย่างไร?” ได้ยินค�ำว่า ‘เล่น’ ในน�้ำเสียงฟังแล้วดูมีความสุขของนางก�ำนัลลิมุสนั่นล่ะ ดาเนียนจึงสลัดความหดหู่อันไร้ประโยชน์ทิ้งไป “เล่นอันใดหรือลิมุส?” เพราะน�้ำเสียงใคร่รู้ของเด็กน้อยนี่ล่ะ ลิมุสจอมเจ้าเล่ห์ จึงยิ้มมุมปากดวงตาเป็นประกายวาววับ “เราสองคนจะเล่นเปลี่ยนตัวกัน” “อย่างไรรึ?” ดาเนียนเอียงคอสงสัย ผูซ้ งึ่ เพลินกับความงามอยูห่ น้าหีบใบน้อยกับหน้ากระจกสีเ่ หลีย่ มผืนผ้าฉลุลาย จึงลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเด็กน้อยซึ่งนั่งอยู่บนเตียงตัวเตี้ยโยงด้วยผ้าเนื้อบางท�ำหน้าที่ ต่างม่าน “ท่านหญิงจักมาเป็นข้า... ส่วนข้าจักไปเป็นท่านหญิง เราลองสลับตัวกันสัก หนึ่งราตรีจักเป็นไร แล้วพรุ่งนี้ข้าก็จักกลับมาเป็นข้า ส่วนท่านก็จักกลับมาเป็นท่าน” “โอ้ ช่างเป็นการเล่นทีว่ เิ ศษนัก ไม่เป็นไรลิมสุ ข้ายินดีเล่น ข้าจักเป็นเจ้าจนกว่า ข้าจักเลิกพอใจ” ดาเนียนยิม้ กว้างอย่างพึงพอใจ พร้อมรีบดีดตัวลุกขึน้ จากเตียงตัวเตีย้ ไปเปิดหีบใบใหญ่เลือกเอาเสือ้ ผ้าและเครือ่ งประดับของตนเองทีล่ มิ สุ พอจะใช้ได้มายืน่ ให้ “เป็นท่านหญิงต้องงดงาม มาเลยนางงามแห่งนครคามิล่า ข้าคือนางก�ำนัลดาเนียนจัก ปรนนิบตั ทิ า่ นหญิงลิมสุ เอง” ว่าแล้วเด็กน้อยจอมซนทีไ่ ม่ทนั เล่หอ์ บุ ายของนางก�ำนัลสาว จึงหันมาแปลงโฉมลิมุสทันที... 24


อาคาเซีย

2 รางวัล ทางเดินใต้โค้งทรงหัวหอมสว่างไสวด้วยโคมตะเกียงฉลุลายซึ่งติดไว้ตามเสา จนสุดทางเดิน ร่างสูงสง่างามในชุดพืน้ เมืองเต็มยศ สวมเสือ้ คลุมสีกรมท่าแทรกดิน้ สีทอง ตรงขอบแขนและสาบเสื้อ เผยให้เห็นเสื้อตัวในสีขาวเนื้อบาง สวมผ้าคลุมศีรษะสีขาว สะอาดตา เดินผ่านสวนสวยมากด้วยดอกไม้นานาพันธุ์จากท้องทะเลทรายเชื่อมตรง ไปยังฮาเร็มส่วนในอันเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจชั้นเลิศของท่านชีคซึ่งเต็มไปด้วย ความเงียบเหงาวังเวงอย่างไม่รีบร้อนนัก ทั้งนี้เป็นเพราะชีคกาหริบมีด�ำริต้องการเปลี่ยนสถานที่กักขังหญิงงามให้เป็น พื้นที่เพาะพันธุ์ดอกไม้งามนั่นเอง ดังนั้นชีคหนุ่มจึงมิเห็นถึงความส�ำคัญอันใดที่จักน�ำ สิ่งมีชีวิตแสนสวยซึ่งเรียกว่านางงามมาเก็บไว้ในนี้ และการมาเงียบๆ ของชีคกาหริบ พร้อมด้วยผูต้ ดิ ตามเพียงคนเดียวอย่างองครักษ์ยโู ซจึงไม่สร้างความแตกตืน่ ให้สาวงาม เพียงหนึ่งเดียวเท่าไหร่นัก ร่างสูงสง่าพร้อมผู้ติดตามเดินผ่านห้องว่างมากมายอย่างไม่รีบร้อน พอเห็น แสงสว่างจากดวงตะเกียงเรืองรองตรงหน้าต่างพร้อมเสียงดนตรีอันสนุกสนาน รอยยิ้ม อ่อนโยนจึงปรากฏขึน้ บนใบหน้าสีแทนของชีคหนุม่ พลางคิดในใจว่านางงามช่างเตรียมตัว ต้อนรับเขาดีเหลือเกิน “บอกข้าเถิดยูโซ ว่าเจ้าได้ยินเสียงดนตรีเช่นเดียวกับข้า?” กระแสเสียงทุ้มต�่ำ ของชีคกาหริบดังขึน้ ดวงตาหวานฉ�ำ่ คมคายแลงดงามดัง่ นิลกาฬชนิดอิสตรียงั อายกวาด ไปรอบๆ บริเวณซึ่งร้างนางงามมาเนิ่นนาน หากมีใครสักคนเอ่ยถามว่าในฮาเร็มของชีคกาหริบมีสงิ่ ใดงดงามทีส่ ดุ ชีคหนุม่ คงตอบกับใครๆ ได้อย่างเต็มปากเต็มค�ำว่าฮาเร็มของเขามีดอกกุหลาบทะเลทรายทีง่ ดงาม ที่สุดและหอมยวนใจที่สุด แต่ราตรีนี้คงเอ่ยได้มิเต็มปากนักเมื่อเขาได้ครอบครอง นางงามซึ่งงดงามและเยาว์วัยที่สุดจากนครตะวันออก “ข้าได้ยนิ เสียงดนตรีดงั จากในห้องทางด้านนูน้ ขอรับท่านชีค นัน่ คือเสียงเรียกร้อง ของนางงาม” ผู้ติดตามใกล้ชิดและแสนซื่อสัตย์นามยูโซซึ่งด�ำรงต�ำแหน่งองครักษ์ค้อม ศีรษะให้ และค�ำตอบนี้เองที่ท�ำให้วงหน้าหล่อเหลาคมคายของชีคหนุ่มเปื้อนรอยยิ้ม ขึ้นมาได้

25


เงารักในรอยทราย

“เช่นนั้นเจ้าจงน�ำทางข้าไปอย่าได้รอช้า” ยูโซปฏิบัติตามค�ำสั่งในทันที... โค้งประตูฉลุลายเป็นทรงโดมคล้ายหัวหอมเปิดออกกว้างเมื่อ ชีคกาหริบ อิมฮาซา มาเยี่ยมเยือน พอร่างสูงใหญ่สง่างามไปทุกอิริยาบถก้าวผ่านผ้าม่านโยงระย้า ห้อยย้อยเข้ามาในห้อง ทุกเสียงอันกังวานไพเราะซึ่งดังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมจึงอันตรธาน พร้อมการแสดงความเคารพอย่างนอบน้อมของผู้รู้ส�ำนึกในฐานะของตนเอง จักมีก็แต่ ดาเนียนเท่านั้นซึ่งยืนตะลึงค้างเช่นนั้นเมื่อเห็นบุรุษร่างโตแลสง่างามก้าวเข้ามาในห้อง “ฮาน่า” ค�ำร�ำพันนั้นแผ่วเบาดุจเสียงกระซิบ หัวใจดวงน้อยเต้นถีร่ วั เมือ่ เสียงหนึง่ จากก้นบึง้ หัวใจเรียกร้องให้เดินไปหาบุรษุ ผู้นี้ ทว่ายังมิทันได้กระท�ำสิ่งนั้น ลิมุสก็กระตุกชายกระโปรงรุ่มร่ามเป็นเชิงตักเตือน เสียก่อน ดาเนียนแตะมือบางไว้ที่อกด้านซ้ายอันเป็นต�ำแหน่งหัวใจ พร้อมย่อตัวลงบน พืน้ พรมเพือ่ แสดงความเคารพ กระนัน้ ดวงตาสีมรกตซึง่ มองอยูบ่ นพืน้ พรมก็อดกวาดสายตา มองปลายเท้าสีแทนของมหาบุรุษผู้เป็นนายเหนือหัวของชาวนครฟาตินมิได้ “นางผู้นี้คือนางงามของนครคามิล่าอย่างที่พี่ข้าเอ่ยถึงจริงหรือยูโซ?” ดวงตาหวานฉ�ำ่ ของชีคหนุม่ คงจับจ้องมายังสตรีแรกรุน่ ซึง่ เงยหน้าขึน้ มาแย้มยิม้ อย่างเป็นมิตร ก่อนเมินหน้ามายังองครักษ์ผู้ติดตามซึ่งได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้ เข้ามายังฝ่ายในซึ่งร้างด้วยนางงาม “เอ... กระผมคิดว่าน่าจะใช่นะขอรับ” ยูโซตอบอย่างไม่มนั่ ใจเท่าไหร่นกั เพราะ ข่าวลือทีไ่ ด้ยนิ จากเหล่านางก�ำนัลมานัน้ ดูวา่ ไม่สอดคล้องกับหญิงงามตรงหน้าเท่าไหร่นกั หากบอกว่าสตรีตรงหน้านั้นงดงามก็คงเข้าเค้าค�ำว่า ‘งดงาม’ อยู่บ้าง แต่ตรงค�ำว่า ‘เยาว์วยั ’ นีส่ ทิ ที่ ำ� ให้ยโู ซต้องหนักใจ เพราะวัยของนางในตอนนีน้ า่ จักไล่เลีย่ กับชีคกาหริบ ด้วยซ�้ำ “นางเป็นเช่นไรบ้างยูโซ?” อีกค�ำถามหนึง่ ในน�ำ้ เสียงราบเรียบทีย่ โู ซมิสามารถทายใจท่านชีคกาหริบออกว่า มีประสงค์อันใดกันแน่ แต่เขาก็พร้อมตอบไปตามความคิดเห็นของตนเอง “นางงดงามดั่งอัญมณีล�้ำค่าในท้องทะเลทรายซึ่งประเมินค่ามิได้ขอรับ” “ดี... ดีมาก”

26


อาคาเซีย

ค�ำชมนั้นมิเพียงเรียกรอยยิ้มจากชีคกาหริบ แม้นแต่นางงามลิมุสซึ่งถูกเข้าใจ ว่าเป็นท่านหญิงแห่งนครคามิล่าและหมอบตัวอยู่บนพื้นพรมยังยิ้มเอียงอายเคลิ้มตาม ค�ำชมไปด้วย มีหรือกิริยาเกินงามนั้นจะรอดสายตาชีคกาหริบไปได้ แต่เห็นก็ท�ำเป็น ไม่เห็นซะเพราะไม่อยากใส่ใจ ดวงตาหวานฉ�่ำที่อิสตรีต้องอายจึงปรายมายังเด็กน้อย ในชุดพืน้ เมืองสีนำ�้ เงินเข้มตัดกับสีผวิ ขาวสะอาดซึง่ อยูข่ า้ งๆ นางงามอย่างให้ความสนใจ จักบอกว่าต้องชะตาแต่แรกเห็นก็คงไม่ผิด เพราะดวงตาสีมรกตนั้นคล้ายมี อ�ำนาจดึงดูดบางอย่างแฝงฝังอยู่ ซึ่งชี้ชวนน่าเข้าใกล้ยิ่งนัก “แล้วเด็กน้อยผู้นั้นล่ะใครกัน?” ยูโซสอดนิ้วเข้าไปใต้ผ้าคลุมเมื่อเกาศีรษะ ด้วยสุดรู้ได้ว่านางงามตัวน้อยตรง หน้านี้คือใคร “เอ... น่าจักเป็นนางก�ำนัลผู้ติดตามนะขอรับ” “นางก�ำนัลรึ” เสียงทุม้ เต็มไปด้วยความแปลกใจ ดูวา่ ค�ำตอบของยูโซผูต้ ดิ ตาม รับใช้ใกล้ชิดนั้นมิสอดคล้องกับสิ่งที่เขาเห็นสักนิด หากบอกว่านางงามตัวน้อยนี่เป็น ท่านหญิง ส่วนนางงามนี้เป็นนางก�ำนัลรับใช้ยังเข้าเค้ามากกว่า ร่างสูงสง่างามปรายตามายังนางงามในชุดพื้นเมืองสีอ่อนอีกครั้ง ก่อนเดินเอา มือไพล่หลังมาทิ้งกายบนเบาะนุ่มในอิริยาบถอันแสนสบาย กระนั้นดวงตาหวานฉ�่ำแล งดงามกว่าอิสตรียังไม่ละไปจากบรรณาการชั้นเลิศซึ่งได้รับจากท่านชีคริยาร์ดอีกทอด กระนัน้ ในใจยังเต็มไปด้วยค�ำถาม ว่าเหตุใดเชษฐาของเขาถึงปฏิเสธบรรณาการชัน้ เลิศนี่ แสงสีส้มนวลตาจากตะเกียงโคมฉลุลายทาบทับในห้องกว้างสีขาวสะอาดตาซึ่ง ร้างผูอ้ าศัยมานาน และการได้นงั่ อยูบ่ นเบาะนุม่ ชีคกาหริบจึงส�ำรวจความงามของหญิงงาม ตรงหน้าได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน จักบอกว่างามจับตาจับใจก็มิใช่เลยทีเดียว เพราะ ชีคหนุ่มเคยพบพานหญิงงามมามากกว่านี้ แต่สตรีตรงหน้าก็ใช่ว่าขี้ริ้วขี้เหร่ซะทีเดียว จากนั้นจึงกวาดสายตาเลยไปยังนางงามร่างเล็กกระจ้อยร่อยซึ่งมิยอมหลบสายตาและ มองมาทางเขาอย่างเปิดเผยเสมือนให้ความสนใจ “มานั่งข้างๆ ข้าสินางงาม” ลิมุสยิ้มตาพราวพลางรีบขยับตัวไปนั่งบนเบาะนุ่มข้างๆ ชีคกาหริบตามค�ำเชิญ นั้นทันที พร้อมคว้าเหยือกทรงสูงมารินชาใส่จอกทองเหลืองเพื่อเอาอกเอาใจผู้เป็นนาย เหนือหัว

27


เงารักในรอยทราย

“ดูเจ้าคล่องแคล่วเรื่องปรนนิบัติเอาใจข้านักนะนางงาม” “นั่นเป็นหน้าที่ของข้าซึ่งถูกฝึกปรือมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว ข้าเต็มใจดูแลผู้เป็น เจ้าชีวิตของข้า” ลิมุสยิ้มอายสบตาหวานฉ�่ำของท่านชีคอย่างมีจริต ยูโซผู้ติดตามรับใช้ ชีคหนุม่ จึงรูห้ น้าทีข่ องตนเองดี เขาจึงพาตัวเองออกจากบริเวณนัน้ อย่างเงียบๆ โดยมิลมื หันมาสะกิดนางก�ำนัลตัวน้อยซึ่งนั่งจ้องหน้าท่านชีคตาไม่กะพริบให้ออกจากห้องด้วย แต่ดาเนียนกลับมิเข้าใจความหมายที่ยูโซพยายามสื่อสารสักนิด “มากับข้านี่แม่หนูน้อย” เสียงของยูโซเป็นกระซิบขณะคว้าข้อมือบางเล็ก กระจ้อยร่อย แต่ผู้ถูกกระท�ำกลับแข็งขืนไม่เชื่อฟัง “จักพาข้าไปไหนเล่าเจ้าหนวดเหล็ก?” “บังอาจมากนะเจ้า! กล้าเรียกองครักษ์ขั้นห้าของท่านชีคกาหริบเช่นนั้นได้ อย่างไร” ยูโซท�ำหน้าดุไม่พอใจที่เด็กน้อยจากต่างเมืองช่างโอหังนัก แต่น�้ำเสียงที่เปล่ง ออกมาก็ดังไม่มากเพราะมิต้องการรบกวนท่านชีคกาหริบซึ่งก�ำลังรื่นรมย์อยู่กับสาวงาม “ก็จริงนีน่ า หน้าตาสกปรกเลอะเทอะ จักขัน้ ใดก็ดเู หมือนมหาโจรอยูด่ ”ี มิเพียง จ้องหน้าชายร่างโตซึง่ ด�ำรงต�ำแหน่งถึงองครักษ์ขนั้ ห้าด้วยแล้ว ดาเนียนกลับหัวเราะคิกคัก ที่อีกฝ่ายท�ำหน้าตาจริงจังเหมือนน่ากลัว แต่กลับดูตลกในสายตานาง “อยากถูกโบยก้นลายหรืออย่างไร จงรีบออกจากห้องนี้ไปพร้อมกับข้าซะเถิด แม่ตวั น้อย” ยูโซบอกด้วยน�ำ้ เสียงดุดนั อีกครัง้ ด้วยต้องการขูใ่ ห้เด็กน้อยกลัว แต่ดาเนียน กลับไม่รู้สึกเช่นนั้นซ�้ำยังส่งเสียงดังกว่าเก่าเมื่อถูกขัดใจ “ข้าไม่ไปไหนทัง้ นัน้ ข้าปรารถนาจักอยูท่ นี่ ”ี่ ค�ำยืนยันนีเ้ องท�ำให้ผเู้ พลินกับการ สนทนากับนางงามจากต่างเมืองต้องยกคิ้วขึ้นสูงพร้อมตวัดสายตามามองผู้ส่งเสียงดัง “เจ้าท�ำอันใดนางงามตัวน้อยรึยูโซ?” ได้ยินค�ำถามนั้นจากชีคกาหริบ ผู้ซึ่งยืนเต็มความสูงจึงหันมาค้อมศีรษะให้ ในอาการส�ำรวมนอบน้อม “กระผมก�ำลังชักชวนนางงามตัวน้อยออกจากห้องขอรับ” ได้ยนิ ค�ำปรารภขององครักษ์ผตู้ ดิ ตามเท่านัน้ นางก�ำนัลลิมสุ ผูฝ้ นั ใฝ่ความสบาย และต้องการยกฐานะของตนเองขึ้นเป็นสนมของชีคกาหริบรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น เพียง ข้ามพ้นราตรีนี้ไปนางจักทิ้งสภาพของตัวเองและกลายเป็นนางสนมของ ท่านชีคกาหริบ อิมฮาซา ยิ่งคิดลิมุสยิ่งมีความสุข ดวงตาของนางจึงเจิดจรัสขึ้นมา ทว่าวิมานในอากาศ ที่ลิมุสสร้างเอาไว้ก็ทลายลงไม่เป็นท่าเมื่อกระแสเสียงอันทุ้มชวนฟังของชีคหนุ่มดังขึ้น “มิต้องไปไหนทั้งนั้นหรอกยูโซ อยู่เป็นเพื่อนคุยกับข้านี่ล่ะ” 28


อาคาเซีย

“ขอรับ” แม้นจักแปลกใจกับความต้องการนัน้ แต่ยโู ซก็คอ้ มศีรษะน้อมรับค�ำสัง่ แล้วถอยมานั่งอยู่กับพื้นพรมข้างเด็กน้อยโดยฟังบทสนทนาของชีคหนุ่มไปเงียบๆ เพื่อเป็นการฆ่าเวลา “เจ้าเป็นธิดาล�ำดับที่เท่าไหร่ของท่านชีคฮาซันรึ?” “สุด... สุดท้ายเจ้าค่ะ” ลิมุสตอบอย่างอึกอักพลางกวาดสายตามายังท่านหญิง ตัวจริง เพราะในใจได้แต่รำ�่ ร้องให้เด็กน้อยจอมแก่นนีอ้ อกไปจากห้องหอแห่งนีส้ กั ที แต่ ดูเหมือนว่าความปรารถนานั้นจักริบหรี่ลงทุกทีๆ เมื่อท่านหญิงดาเนียนกลับนั่งเท้าคาง ฟังนางสนทนากับท่านชีคตาแป๋ว “โอ้... เจ้าดูเจริญวัยมากกว่าที่ข้าคิดไว้มากนักนะนางงาม” ลิมสุ ยิม้ แหยกับค�ำพูดนัน่ พลางลอบกลืนน�ำ้ ลายลงคอ เพราะมิรวู้ า่ ชีคกาหริบรูจ้ กั ชาวนครคามิลา่ ดีถงึ เพียงใด อีกอย่างหากท่านชีครูว้ า่ นางคือนางก�ำนัลธรรมดาคงต้องโทษ อาญาที่บังอาจแอบอ้างเป็นท่านหญิงแห่งนครคามิล่าเป็นแน่ ยิ่งคิดลิมุสยิ่งร้อนใจนัก “ท่านชีคคงมิรู้ว่าท่านชีคฮาซันมีบุตรธิดามากถึงสิบหกคนในเพลานี้” ลิมุสแจง เหตุผล กระนั้นคนฟังอย่างดาเนียนกลับส่ายหน้าพึมพ�ำเสียงแผ่วอยู่คนเดียว “ใครว่าสิบหก สิบเจ็ดต่างหาก ชีคคาแม่ของข้าก�ำลังตั้งท้องน้องของข้าอยู่” เรือ่ งสัพเพเหระมากมายถูกชีคกาหริบหยิบขึน้ มาสนทนา ทว่าค�ำตอบไม่ตรงกับ ความเป็นจริงของลิมุสจึงท�ำให้ดาเนียนต้องคัดค้านอยู่เนืองๆ และนี่เองเป็นเหตุให้ยูโซ ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ต้องหันมาถลึงตาดุใส่อยู่เนืองๆ “มิมใี ครบอกกล่าวรึวา่ เป็นเด็กเป็นเล็กมิควรแทรกเวลาผูใ้ หญ่เขาคุยกัน โดยเฉพาะ เจ้าซึ่งอยู่ในฐานะนางก�ำนัล” ได้ยินเช่นนั้นดาเนียนจึงหันขวับมาทันที “ข้ามีอสิ ระในการเจรจา ท่านต่างหากพึงสมควรต้องระวังถ้อยวาจา ท่านองครักษ์ หนวดเหล็ก” “นี่เจ้า!” เด็กน้อยยักคิว้ ให้กอ่ นปรายตาไปยังลิมสุ ซึง่ เค้นเสียงหัวเราะดูเริงร่าให้กบั ท่านชีค โดยมิสนใจองครักษ์ร่างโตซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ อีก “เจ้านี่อารมณ์ขันนักนะนางงาม” ชีคกาหริบหัวเราะแล้วลุกขึ้นจากเบาะนุ่ม กระนั้นลิมุสซึ่งวาดหวังว่าความงามกับอัธยาศัยของนางจักมัดใจท่านชีครูปงามไว้ได้ จึงร้อนรน “ท่านชีคจักไปทีใ่ ดเจ้าคะ?” ลิมสุ รีบลุกขึน้ เกาะท่อนแขนอันบึกบึนแลรัง้ ไว้ทนั ที 29


เงารักในรอยทราย

“กลับไปพักผ่อนสินางงาม จรดราตรีแล้วข้ายังมิได้หลับพักผ่อนเต็มตาเลย” ชีคกาหริบหันมาเผชิญหน้า พลางหลุบเปลือกตามองมือน้อยซึ่งรั้งต้นแขนไว้ก่อนแกะ มือนัน่ ออกพร้อมค�ำถามในใจ ว่าเหตุใดท่านหญิงแห่งคามิลา่ นครมือถึงหยาบกระด้างนัก แล้วชีคหนุม่ รูปงามก็ได้รบั ค�ำตอบในทันทีเมือ่ เห็นข้อมือบางทัง้ สองปราศจากสัญลักษณ์ แห่งเชื้อสาย ‘นี่พี่ข้าโดนท่านชีคฮาซันหลอกลวงหรือนี่ ถึงได้ส่งนางงามนอกเชื้อสายแห่งชีค มาเป็นบรรณาการ?’ ดวงตาคมหวานฉ�่ำปรายมายังนางงามซึ่งยิ้มเอียงอายด้วยสีหน้าอันปราศจาก ความพึงพอใจ แต่ลมิ สุ ผูถ้ กู แตะต้องกลับไม่ทนั สังเกตถึงสิง่ นัน้ ซ�ำ้ ยังยิม้ อย่างมีจริตด้วย คิดเข้าข้างตนเองว่าชีคหนุ่มรูปงามก�ำลังปรารถนาในตัวนาง “ท่านเหนื่อยล้าจากการเดินทาง พักผ่อนที่นี่ก็ได้เจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจักดูแล ปรนนิบตั ทิ า่ นเอง” ลิมสุ ชักชวนพร้อมบิดกายไปมาอย่างเขินอาย และกิรยิ านีเ้ องทีท่ ำ� ให้ เจ้าของดวงตาสีมรกตปฏิบัติตามเพราะความไร้เดียงสา “เดี๋ยวข้าจักดูแลปรนนิบัติท่านเอง” ดาเนียนท�ำเสียงออดอ้อนตามพร้อมกับ ยื่นมือไปสะกิดยูโซ จนผู้ติดตามใกล้ชิดชีคหนุ่มต้องหันมาถลึงตาใส่กับความแก่แดด เกินวัยนั่น “เกินวัยไปแล้วเจ้าเด็กน้อย กิรยิ าเยีย่ งนีต้ อ้ งใช้เวลาฝึกฝนอีกสิบปีถงึ จักได้ผล” “ท�ำไมล่ะ?” ดาเนียนท�ำหน้าตาไม่เข้าใจ เพราะนางเห็นบรรดาสาวงามในฮาเร็มของบิดาชอบ ปฏิบัติเช่นนี้อยู่เป็นประจ�ำ แม้นแต่ตัวลิมุสในตอนนี้ก็ยังพลอยเป็นไปด้วย “ก็เพราะเจ้ายังเด็กอยู่น่ะสิ” ยูโซติเตียน ดาเนียนจึงก้มส�ำรวจตัวเองกระนัน้ นางก็อดปรายตาไปยังท่านหญิงก�ำมะลอไม่ได้ นางก็แค่ตัวเตี้ยกว่า ขาสั้นกว่า หน้าอกเล็กกว่า และไม่มีสะโพกผายออกมาก็เท่านั้น ไม่เหมือนกับลิมสุ ซึง่ มีทกุ อย่างครบ ดาเนียนมองตัวเองสลับกับลิมสุ ซึง่ เป็นจังหวะเดียว กับที่ชีคกาหริบปรายตามาสบพอดี ดั่งห้วงเวลาหยุดหมุนแลทอดทิ้งทุกสิ่งไว้เบื้องหลังของกาลเวลา... ดวงตา สีมรกตงดงามยังสบนิ่งกับดวงตาหวานฉ�่ำดั่งนิลกาฬโดยมิหลบสายตาแต่อย่างใด คล้ายเคยพบพาน แต่มิรู้ว่าเนิ่นนานแต่ไรมา คล้ายเคยสิเน่หาสนิทชิดใกล้ แต่มิรู้ว่าสัมผัสอบอุ่นนั้นเลือนหายไปแต่กาลใด 30


อาคาเซีย

แต่ทเี่ ด่นชัดสุดก็คอื ความรูส้ กึ คุน้ เคยอย่างประหลาดด้วยต้องชะตาแต่แรกเห็น นัน่ ล่ะ รอยยิ้มแห่งความยินดีและมิตรภาพจึงปรากฏขึ้นบนวงหน้าอันหล่อเหลา ทว่ายัง มิทันขยับกายไปหาเด็กน้อย ลิมุสก็รั้งร่างหนาเอาไว้ด้วยจริตแห่งอิสตรีซะก่อน “หากมิโปรดจักพักที่นี่ ขอท่านชีคเมตตาช่วยพาข้าไปด้วยนะเจ้าคะ ที่นี่ เงียบเหงาวังเวงเหลือเกิน ข้าผู้พลัดถิ่นมามิคุ้นชินกับสถานที่เช่นนี้” ค�ำขอร้องของนางงามต่างนครสร้างความแปลกใจระคนไม่พอใจให้ชคี กาหริบนัก สาเหตุจากความแปลกใจเป็นเพราะนางงามผู้นี้เสนอตัวเกินงามจนมิอยากเข้าใกล้ ดูไป คล้ายหลุมพรางหลอกล่อเหยื่อมากกว่า ส่วนที่ไม่พอใจเห็นจะเป็นร่างบางอันเย้ายวน ซึ่งนัวเนียจนแทบจะพันร่างของเขาเอาไว้นี่ล่ะ ชีคกาหริบผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วหันไปหาตัวช่วยคนส�ำคัญ “จงบอก ข้าอีกสักครั้งเถิดยูโซ ว่านางงามจากนครคามิล่านี้เป็นเช่นไร?” พอถูกเอ่ยนามยูโซจึงละสายตาไปจากเด็กน้อยเพื่อตอบค�ำถามของท่านชีค “ข้ายืนยันค�ำเดิมว่านางงดงามไม่มีที่ติขอรับ” ชีคกาหริบอมยิ้มดวงตาพร่างพราวเป็นประกาย “ความงามของนางสมควรแก่ การครอบครองหรือไม่ยูโซ?” “สมควรแก่การครอบครองเป็นที่สุดขอรับ” ผู้ติดตามเห็นดีเห็นงามอีกเช่นเคย ซึ่งถ้อยค�ำนั้นเองที่ท�ำให้ชีคกาหริบหัวเราะเสียงเย็น “เช่นนัน้ จงยืนยันแก่ขา้ อีกสักครัง้ เถิด ว่านางงามผูน้ เี้ หมาะสมกับบุรษุ ผูส้ ง่างาม เยี่ยงนักรบเช่นเจ้าหรือไม่” “มิมสี ตรีนางใดคูค่ วรกับเอกบุรษุ แห่งท้องทะเลทรายเช่นท่านอีกแล้ว” พอหลุดปาก ออกไปโดยมิทันไตร่ตรองค�ำถามให้ดี ยูโซจึงเงยหน้าขึ้นมองชีคกาหริบซึ่งหัวเราะอย่าง อารมณ์ดีอีกครั้ง “ดีมากยูโซ เช่นนัน้ ข้าขอมอบนางงามผูเ้ ป็นดัง่ อัญมณีอนั ล�ำ้ ค่านีแ้ ก่เจ้า เพือ่ เป็น รางวัลที่เจ้าดูแลข้าเป็นอย่างดีมาตลอดเวลาที่เราออกรบด้วยกัน” น�ำ้ เสียงหนักแน่นและใบหน้ายิม้ แย้มของชีคกาหริบท�ำให้ยโู ซรีบทรุดตัวเอามือ แตะอกซ้ายเพือ่ รับนางงามไว้ในครอบครองด้วยความเต็มใจในทันที ผิดกับลิมสุ นัก นาง ถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวลงบนพืน้ พรมมือไม้เย็นเฉียบในทันทีเมือ่ ความฝันแสนสวยมอดไหม้ ในพริบตา จากต�ำแหน่งนางสนมของชีครูปงามกลับกลายเป็นแค่เมียขององครักษ์หนุ่ม ผู้ติดตามรับใช้ท่านชีคเสียนี่ 31


เงารักในรอยทราย

โอ้ ยิ่งคิดก็ยิ่งร้าวในอกนัก... “ได้โปรดเถอะท่านชีค ข้ามิปรารถนาเช่นนั้น ท่านผู้เป็นใหญ่โปรดเมตตาข้า ผู้พลัดถิ่นมาด้วยเจ้าค่ะ” เป็นค�ำวิงวอนที่น่าสงสารนัก กระนั้นชีคหนุ่มยังคงเพิกเฉยต่อจริตมารยาและ คราบน�้ำตานั่น “ข้าเมตตาเจ้ามากทีส่ ดุ แล้วนางงาม ข้ามิปรารถนามีนางสนมในครานี้ แลอีกสิง่ ข้ามิปรารถนานางงามนอกเชือ้ สายทีม่ ใิ ช่บตุ รีของชีคฮาซันมาเป็นนางคูใ่ จ” ชีคหนุม่ บอก เสียงเย็นก่อนคว้าข้อมือบางของนางงามตัวน้อยออกจากห้องดือ้ ๆ โดยมิลมื หันไปก�ำชับ กับผู้ติดตามคนสนิทอีกครั้ง “พรุ่งนี้รุ่งสางเจ้าค่อยมารับใช้ข้าก็ได้นะยูโซ ข้าอนุญาตให้ เจ้าพักผ่อนได้เต็มที่” “ขอรับ” ยูโซแย้มยิ้มอย่างดีใจพร้อมค้อมศีรษะให้นายเหนือหัวด้วยความ ซาบซึ้งใจอีกครั้ง “มากับข้าเถิดแม่หนูนอ้ ย ปล่อยให้นายของเจ้าได้ทำ� หน้าทีข่ องนางให้สมบูรณ์เถิด” ชีคกาหริบกล่าวด้วยน�้ำเสียงอ่อนโยน กระนั้นผู้เยาว์วัยยังไม่เข้าใจถึงเรื่องที่ชีคหนุ่ม พูดถึงแม้นแต่น้อย ดาเนียนจึงหันไปมองลิมุสซึ่งร�่ำไห้ปานจะขาดใจจนน่าสงสาร “แต่ลิมุสก�ำลังร�่ำไห้ นางต้องการคนปลอบใจและคนอยู่เป็นเพื่อนนะเจ้าคะ” “เชื่อข้าเถิด ยูโซจักท�ำหน้าที่นั้นแทนเจ้าเอง รับรองว่ายูโซจักสร้างความพอใจ ให้กับนายสาวของเจ้ามากกว่าที่เจ้าจักกระท�ำได้แน่แม่หนูน้อย” โดนห้ามปรามนั่นล่ะ ดาเนียนจึงยอมเดินตามแรงจูงของท่านชีคกาหริบไป โดยทิ้งความสงสัยทั้งหมดไว้ยังกรอบประตูที่ปิดเข้าหากัน... ลูกไฟดวงโตสีส้มแดงเจิดจ้าซึ่งโผล่พ้นขอบฟ้าจับท้องฟ้าตะวันออกคือสิ่ง สวยงามและอัศจรรย์สำ� หรับชีคกาหริบผูร้ กั สันโดษ กว่าครึง่ ปีเชียวทีช่ คี หนุม่ หาได้ชนื่ ชม สิง่ สวยงามจากธรรมชาติเช่นนีเ้ พราะต้องออกท�ำศึกกับจอมโจรผูย้ งิ่ ใหญ่แห่งทะเลทราย และการได้ยลสิ่งนี้อีกครั้งก็สร้างความสงบและพึงพอใจแก่ชีคกาหริบมากนัก ดวงตาหวานฉ�ำ่ ชนิดอิสตรีตอ้ งอิจฉาหากคมเข้มสมชายชาตรีกวาดมองแสงทอง ของวันใหม่ซงึ่ ลูบไล้โพ้นทะเลทรายซึง่ อยูไ่ กลสุดลูกหูลกู ตาออกไปและยังเป็นอาณาจักร ของนครฟาติน ก่อนหลุบมองบ้านเรือนดินเหนียวทรงสีเ่ หลีย่ มจัตรุ สั น้อยใหญ่เรียงราย แน่นขนัดอันแทรกด้วยต้นปาล์ม กระโจมจากหนังสัตว์และกระโจมจากผืนผ้า มองจาก ที่สูงชีคหนุ่มเห็นผู้คนขนาดเพียงปลายก้อยเท่านั้น นครแห่งนี้จึงดูมีชีวิตชีวามากนัก 32


อาคาเซีย

ระหว่างชมเมืองเพลินๆ นั่นเองเสียงชายผ้าม่านซึ่งห้อยด้วยลูกกระพรวนจึงดังขึ้นเมื่อมี ผู้ผ่านเข้าออก “เรียนท่านชีค น�้ำอุ่นพร้อมแล้วเจ้าค่ะ” ยูนุคขันทีในชุดพื้นเมืองสีขาวซึ่งท�ำ หน้าที่แทนองครักษ์ยูโซเดินเข้ามาค้อมศีรษะให้ในกิริยาสุภาพนอบน้อม ชีคกาหริบซึ่ง ยังกอดอกทอดสายตาไปนอกกรอบหน้าต่างจึงพยักหน้ารับรู้ “ขอบใจมาก หมดหน้าที่เจ้าแล้วออกไปเถอะ” “เจ้าค่ะ” ความเป็นส่วนตัวกลับมาอีกครั้ง ชีคหนุ่มจึงเดินกลับเข้ามาหลังฉากไม้ฉลุ ลวดลายพร้อมจัดการถอดเสื้อผ้าออกจนเปล่าเปลือยแล้วหย่อนตัวลงอ่างไม้ขนาดใหญ่ ซึง่ เป็นน�ำ้ อุน่ ก�ำลังดีและผสมน�ำ้ มันหอมระเหยเอาไว้ แพขนตางอนงามปิดลงช้าๆ ปล่อย ให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ซึ่งกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน�้ำมันหอมระเหยอันผสมอยู่ในน�้ำนั้น สร้างความผ่อนคลายให้ชคี หนุม่ เป็นอย่างดีจนกระทัง่ ได้ยนิ เสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามานัน่ ล่ะ เปลือกตาจึงขยับลืมขึ้นอีกครั้ง “ใครกัน?” “ยูโซขอรับ” ผูเ้ ข้ามาในห้องรายงานตัวก่อนจัดการเก็บเสือ้ ผ้าซึง่ ถอดทิง้ ไว้บนพืน้ “ท�ำไมทิง้ นางงามมาเร็วนักล่ะยูโซ เจ้าควรอยูก่ บั นางให้นานกว่านีน้ ะ” ชีคกาหริบ เอ่ยปากเพื่อชวนคุยมากกว่า “เรื่องรักนั้นว่าส�ำคัญ แต่เรื่องหน้าที่นั้นส�ำคัญกว่าขอรับท่านชีค” “เฮ้อ ข้าล่ะเชื่อเจ้าเลย” ชีคหนุ่มหัวเราะในล�ำคอ “หรือเสน่ห์นางงามนั้นยัง ไม่เย้ายวนใจเจ้า?” “หาเป็นเช่นนั้นขอรับ นางงดงามและน่าปรารถนา เพียงแต่ว่า...” ผู้เล่าหยุดชะงักไป ชีคหนุ่มจึงเลิกคิ้วเรียวขึ้นสูง “แต่อันใดรึ?” “นางดุร้ายไปหน่อยขอรับ” ได้ยนิ อย่างนัน้ ชีคกาหริบจึงปรายตาไปยังองครักษ์คใู่ จซึง่ รอยแผลตามใบหน้า อันเกิดจากการขีดข่วนของรอยเล็บเรียกเสียงหัวเราะของผู้ปกครองนครจนดังลั่นห้อง จากนั้นร่างสูงสง่าจึงก้าวขึ้นจากอ่างอาบน�้ำมาแต่งตัวโดยไม่ซักถามอะไรอีก พออยู่ใน ชุดพืน้ เมืองสีเรียบแล้วนัน่ ล่ะชีคกาหริบจึงก้าวออกมายังพืน้ ทีน่ งั่ เล่นซึง่ จัดเตรียมอาหาร เอาไว้แล้ว ทว่าพอออกมาพบกับความผิดปกติ คิ้วหนาได้รูปจึงตวัดไปยังกองหมอน ทันที เพียงแค่เห็นนางงามตัวน้อยซึง่ แฝงตัวอยูใ่ นกองหมอนได้อย่างกลมกลืน ชีคหนุม่ ถึงกับท�ำหน้ายุ่ง 33


เงารักในรอยทราย

ที่นี่อีก?”

“เมื่อคืนข้าพานางไปอยู่กับท่านหญิงฮันนี่แล้วนี่นา เหตุใดนางถึงกลับมาอยู่

ยูโซได้แต่ส่ายหน้าเพราะราตรีที่ผ่านมาเขามิได้อยูร่ บั ใช้ชีคหนุ่ม “หรือนางแอบ หนีเข้ามาขอรับ กระผมดูว่าเด็กน้อยนางนี้จักซุกซนใช่ย่อย” “มีความเป็นไปได้สูง” ชีคหนุ่มพยักหน้ารับทิ้งตัวลงบนกองหมอนพลางหลุบ เปลือกตามองเด็กน้อยด้วยสายตาอ่อนโยน และสายตานี้เองที่ท�ำให้องครักษ์ยูโซต้อง แปลกใจ ด้วยว่าตั้งแต่ติดตามรับใช้ชีคกาหริบมานานยังมิเคยเห็นสายตาเช่นนี้มาก่อน แม้นแต่สาวงามทีเ่ ข้ามาปรนนิบตั ริ บั ใช้ชคี หนุม่ ก็มเิ คยมองแบบนีส้ กั ครัง้ แต่กบั ต้นกุหลาบ ในสวนที่ท่านชีครักก็ว่าไปอย่าง มือหนาของชีคกาหริบยืน่ มาสัมผัสแก้มนุม่ อันแดงระเรือ่ เบาๆ ก่อนหยุดสายตา เอาไว้กบั วงหน้างดงามและเยาว์วยั ทว่ากวาดสายตามายังมือขาวสะอาดดัง่ ผูม้ เิ คยสัมผัส แสงแดดมาก่อนคิว้ หนาจึงยกขึน้ สูงแล้วเลือ่ นปลายนิว้ มาสัมผัสสิง่ นัน้ เบาๆ เป็นรอยสัก สีนำ�้ ตาลมะฮอกกานีดงั่ สร้อยข้อมือทีข่ อ้ มือด้านซ้ายซึง่ บ่งบอกฐานะอันสูงส่งของนางผูม้ ี สายเลือดเกี่ยวพันกับท่านชีคฮาซัน “มีอันใดหรือขอรับ?” ยูโซท�ำหน้าสงสัยเมื่อจู่ๆ ชีคหนุ่มก็ให้ความสนใจใน นางงามตัวน้อย ซ�้ำยังแย้มยิ้มราวเจอสิ่งถูกใจ “ดูนี่ก่อนเถิดยูโซ แล้วเจ้าจักรู้ว่าข้าพบสิ่งใดเข้า” ผู้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดมองตามนิ้วแข็งซึ่งชี้มายังรูปวาดที่ข้อมือจากเฮนน่า ไม่ส.ิ .. ไม่ใช่รปู วาดประการใด แต่เป็นรอยสักต่างหาก และนัน่ ก็ทำ� ให้องครักษ์หนุม่ ตาโต เมื่อตระหนักถึงฐานะแท้จริงของนางงามตัวน้อยขึ้นมา “ท่านหญิง! นางคือท่านหญิง” “ถึงว่าพีข่ า้ ถึงส่ายหน้าให้บรรณาการชิน้ นี”้ ผูไ้ ด้รบั สิทธิค์ รอบครองอย่างถูกต้อง เอ่ยด้วยน�้ำเสียงขบขันเมื่อรู้ฐานะแท้จริงของนางงามตัวน้อยที่ยังหลับใหลนี่ กาลหนึ่งชีคกาหริบพร้อมด้วยผู้ติดตามยูโซเคยปลอมตัวเป็นพ่อค้าเร่เข้าไป ขอซื้อเมล็ดพันธุ์พืชในนครคามิล่า และนับเป็นความโชคดีนักที่ในกาลนั้นเขาได้พบกับ ชีคฮาซันผู้ครองนครอันแสนใจดี พอพูดจาถูกคอต้องอัธยาศัยกันเพียงไม่กี่ค�ำ เขาจึง ได้รับค�ำเชิญจากชีคฮาซันและกลายเป็นแขกคนส�ำคัญในทันที ซึ่งการเจรจาในคราบ พ่อค้าเร่ในครัง้ นัน้ เองทีท่ ำ� ให้เขารับรูถ้ งึ วัฒนธรรมของชาวนครอย่างหนึง่ ว่า ผูส้ บื เชือ้ สาย ตรงจากท่านชีคผูค้ รองนครไม่วา่ บุตรหรือธิดาจักต้องสลักสัญลักษณ์อนั สูงสุดนีไ้ ว้ทขี่ อ้ มือ ด้านซ้าย เพื่อบ่งบอกฐานะอันสูงสุดของบุคคลผู้นั้น 34


อาคาเซีย

“ฮึ งดงามและเยาว์วัย ช่างมิผิดค�ำร�่ำลือนั้นจริงๆ” ชีคหนุ่มส่ายหน้าอย่าง ขบขัน ซึ่งเสียงหัวเราะอันแปลกหูนี้เองที่ปลุกให้นางงามตัวน้อยซึ่งหลับอย่างสบาย ในกองหมอนลืมตาตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย... “อรุณสวัสดิ์ดาเนียน” เพียงค�ำทักทายค�ำเดียวก็ท�ำให้ดาเนียนลุกขึ้นทันที กระนั้นนางยังมิสามารถ หลุดจากข้อมือแข็งและใหญ่โตของชีคกาหริบไปได้ “โปรดปล่อยข้า ท่านชีค” ผูซ้ งึ่ แอบไต่ผา้ ม่านและปีนหน้าต่างเข้ามาซ่อนตัวในห้อง เริม่ โวยวายพร้อมทัง้ แกะมือหนานัน่ ทันที แต่แรงอันน้อยนิดคงมิสามารถง้างมือหนานัน่ ออกได้ “ปล่อยน่ะปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่กาลนี้ เมือ่ คืนข้าส่งเจ้าไปอยูก่ บั ท่านหญิงฮันนีแ่ ล้ว มิใช่รึ เหตุใดเจ้าถึงขัดค�ำสั่งมาซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนของข้าได้?” ชีคกาหริบถามด้วย น�้ำเสียงติดดุ แต่ผู้รับใช้ใกล้ชิดอย่างยูโซรู้ว่าน�้ำเสียงนั้นไม่จริงจังเท่าไหร่นัก “ข้ามิปรารถนาที่นั่นเจ้าค่ะ ที่นั่นมีแต่กฎระเบียบอันน่าปวดหัว อีกอย่างข้ามิ คุ้นเคยกับท่านหญิงฮันนี่ด้วย” ดาเนียนยกเหตุผลขึ้นอ้างเพื่อมิต้องกลับไปอยู่ร่วมกับ คนแปลกหน้าอีก ในสถานการณ์อดึ อัดเช่นนีน้ างขอกลับไปอยูก่ บั นางก�ำนัลลิมสุ เสียดีกว่า อย่างน้อยดาเนียนก็รู้สึกอุ่นใจกว่าการอยู่กับคนแปลกหน้า “นัน่ มิใช่เหตุผลทีฟ่ งั ขึน้ หรอกนะท่านหญิง โทษเก่าทีเ่ จ้าหลอกลวงเอานางก�ำนัล มาแอบอ้างเป็นท่านหญิงข้ายังมิทันเอาเรื่องเจ้าเลย ยังมิข้ามราตรีเจ้าก็ก่อเหตุให้ข้าต้อง ปวดหัวอีก” ดาเนียนก้มหน้างุดทันทีที่อีกฝ่ายรู้ฐานะแท้จริงของตนเอง แต่ก็ยังอ้อมแอ้ม ถามออกมา “ท่านชีครู้ได้อย่างไรเจ้าคะว่าข้าเป็นท่านหญิง?” “นัน่ มิสำ� คัญเท่ากับสิง่ ทีเ่ จ้าก�ำลังปฏิบตั อิ ยู่ บิดาเจ้ามิสงั่ สอนหรอกรึวา่ บุรษุ และ สตรีที่มิใช่สามีภรรยาห้ามอยู่ร่วมห้องเดียวกันในยามราตรีกาล” โดนค�ำต�ำหนิเข้าไปเด็กน้อยจึงเม้มปากแดงเรือ่ เข้าหากัน ก่อนอ้อมแอ้มออกมา “สั่งสอนเจ้าค่ะ ท่านพ่อยังก�ำชับข้ามาอีกว่าต่อให้ทรายกลบหน้าข้าต้องซื่อสัตย์ และภักดีต่อท่านชีคผู้เป็นนายเหนือหัวเท่านั้น” “เป็นวาจาทีด่ เี ยีย่ มและข้าก็พงึ พอใจในค�ำสัง่ สอนนีม่ ากด้วย เช่นนัน้ เจ้าจงฟังข้า ผู้เป็นนายเหนือหัวของเจ้าให้ดีนะท่านหญิงดาเนียน ว่าเจ้าจงกลับไปอยู่เป็นเพื่อน ท่านหญิงฮันนีซ่ ะดีๆ และเพือ่ ความปลอดภัยของตัวเจ้าเอง จงละทิง้ ฐานะอันสูงส่งของเจ้า ลงซะ” 35


เงารักในรอยทราย

ได้ยินเช่นนั้นเด็กน้อยจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางจ้องหน้าชีคหนุ่มอย่าง ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ถึงดาเนียนจักรู้สึกดีที่ได้พบบุคคลซึ่งต้องชะตาแต่แรกเห็น แต่การถูกบังคับใจนั้นหาใช่สิ่งที่นางปรารถนาสักนิด “ผู้ใหญ่มักเอาแต่ใจตนเองเสมอ” “ใครว่า เด็กน้อยอย่างเจ้าต่างหากที่เอาแต่ใจตนเอง” ชีคหนุ่มแย้งโดยซ่อน ความขบขันเอาไว้ใต้ใบหน้าอันเรียบสนิท “ผู้ใหญ่เอาแต่ใจมากกว่า โดยเฉพาะกับท่านผู้มีอ�ำนาจ มิเชื่อลองถามไถ่ท่าน องครักษ์หนวดเหล็กของท่านดูสิ” พอหาทางออกมิได้ดาเนียนจึงโยนให้ยูโซซึ่งยืนอยู่ ข้างๆ ดื้อๆ ชีคกาหริบจึงตวัดสายตามายังผู้ติดตามรับใช้ใกล้ชิด “ไหนลองพูดให้ข้าฟังซิยูโซ ว่าใครคือผู้ที่เอาแต่ใจตัวเองกันแน่” “ท่านหญิงดาเนียนขอรับ” ยูโซตอบโดยมิต้องเสียเวลาคิดในทันที “ได้ยนิ แล้วใช่ไหมแม่หนูนอ้ ย เอาล่ะหมดเวลาเล่นสนุกแล้ว เจ้าจงมากับข้าซะดีๆ” “ข้าไม่ไป กรีด๊ ! ช่วยข้าด้วย” ร่างเล็กซึง่ ถูกอุม้ ขึน้ พาดบ่าหวีดร้องทันที แต่มวิ า่ จักดิ้นรนอย่างไรดาเนียนก็ไม่สามารถลงจากไหล่แข็งแรงของชีคหนุ่มได้ “ปล่อยข้านะ ท่านชีค! ท่านไร้สทิ ธิจ์ กั ปฏิบตั กิ บั ข้าเช่นนี้ ข้าเป็นท่านหญิงดาเนียนนะ” ดาเนียนโวยวาย ทั้งเตะขาทั้งดิ้นรนสุดก�ำลังจนชีคกาหริบจนปัญญาจักรับมือนั่นล่ะ จึงจ�ำต้องปล่อย แม่หนูนอ้ ยลงบนพืน้ อีกครัง้ พร้อมสัง่ ให้ยโู ซไปหยิบผ้าเช็ดหน้ามา พอได้สงิ่ ทีต่ อ้ งการแล้ว นั่นล่ะ ชีคกาหริบจึงลงมือกับดาเนียนทันที “อย่ากล่าวหาว่าข้าใจร้ายเลยนะดาเนียน เจ้ามันดื้อดึงกว่าที่ข้าจักรับมือนัก” มือหนาของชีคหนุ่มตบแก้มเนียนเบาๆ เป็นการหยอกเย้าก่อนหันไปพยักหน้า ให้ผู้ติดตามยูโซอุ้มดาเนียนผู้สิ้นฤทธิ์เพราะผืนผ้าขึ้นบนบ่า “ตามข้ามา” ครานี้ชีคกาหริบมิส่งดาเนียนไปหาหลานสาวคนโตซึ่งมีวัยไล่เลี่ย เหมือนเช่นเคย แต่ชคี หนุม่ เลือกพาดาเนียนไปส่งให้แม่นมมีนาญ่าแทน ซึง่ การปรากฏตัว ของชีคกาหริบในโรงทอผ้าเป็นครัง้ แรกในรอบครึง่ ปีสร้างความตืน่ เต้นยินดีให้สตรีสงู วัย ซึ่งเคยด�ำรงต�ำแหน่งเป็นถึงแม่นมมากนัก “ข้าคิดว่าท่านลืมนางมีนาญ่าผู้นี้เสียแล้ว” “หาใช่เช่นนั้นเลยท่านแม่นม ข้าติดภารกิจของทางราชส�ำนักจึงมิมีเวลาว่าง จักเยี่ยมเยียน” น�้ำเสียงของชีคกาหริบนั้นยังเต็มไปด้วยความเคารพผู้ซึ่งมีบุญคุณ มิต่างจากมารดาแท้ๆ จากนั้นจึงบอกถึงธุระส�ำคัญที่เป็นเหตุให้ต้องมาถึงโรงทอผ้า 36


อาคาเซีย

“ข้าแปลกใจมากนะเจ้าคะทีท่ า่ นชีคน�ำแม่หนูนอ้ ยนีม้ ามอบให้ขา้ เลีย้ งดู” ร่างอวบ ของสตรีสูงวัยซึ่งยังด�ำรงต�ำแหน่งหัวหน้านางก�ำนัลเดินวนรอบเด็กน้อยซึ่งถูกมัดมือ มัดปาก ก่อนหรี่ตาลงขณะสบดวงตาสีมรกตซึ่งวาววับด้วยก�ำลังโกรธและไม่พอใจ “ท�ำอย่างไรได้เล่าท่านแม่นม ในเมือ่ นางงามตัวน้อยนีค้ อื สนมแห่งข้า และข้าก็มริ ู้ วิธจี ดั การรับมือกับนาง ครัน้ จะปล่อยให้อยูด่ ว้ ยก็กระไรอยู่ ข้าคงมิพน้ ค�ำครหาเป็นแน่” ชีคกาหริบกล่าวอย่างระอา ซึ่งถ้อยค�ำนี้เองที่เรียกเสียงหัวเราะของนางมีนาญ่าได้ “โอ้ ข้าได้ยินเหล่านางก�ำนัลกล่าวถึงนางงามตัวน้อยนี้เช่นกัน แต่มิคิดว่านาง จักเยาว์วัยเพียงนี้” “ข่าวนั่นคงท�ำให้แม่นมปวดหัว” นางผูม้ ากวัยกว่าแย้มยิม้ ตามประสาคนใจดี “จักว่าไปนางดูคคู่ วรกับท่านชีคนะ เจ้าคะ” คิว้ หนาของชีคหนุม่ ยกขึน้ สูงเกือบหลุดปากออกไปว่าตรงไหน แต่แม่นมมีนาญ่า ก็ชิงต่อท้ายขึ้นมาเสียก่อน “แต่คงมิใช่ในกาลนี้” “เอาเถิด ยังไงข้าฝากท่านช่วยดูแลอบรมสั่งสอนนางด้วย เลี้ยงดูนางเอาไว้เป็น สหายของหลานสาวผู้น่ารักของข้าสักคนคงมิเป็นการเพิ่มภาระให้ท่านแม่นมหรอกนะ” “เจ้าค่ะ มิใช่ภาระอันใดเลย ข้ายินดีจักอบรมให้นางเติบใหญ่เป็นสตรีที่คู่ควร กับท่านเอง” แม่นมมีนาญ่าค้อมศีรษะรับค�ำสั่ง ชีคหนุ่มจึงยิ้มมุมปากพร้อมส่ายหน้ากับ ค�ำหยอกเย้านั่น “เลิกล้อข้าเล่นได้แล้วท่านแม่นม ยังไงข้าฝากเป็นธุระให้ด้วยแล้วกัน” “เจ้าค่ะ” แม่นมมีนาญ่าค้อมศีรษะอย่างนอบน้อมอีกครัง้ ร่างสูงสง่าจึงย่อตัวลง ตรงหน้าแม่หนูน้อยที่ท�ำหน้าเหมือนจักร้องไห้แต่ก็ไม่มีน�้ำตาให้เห็น พลางกวาดสายตา มองวงหน้าและหยุดสบดวงตาสีมรกตอันงดงามอีกครั้ง “อยูท่ นี่ กี่ บั แม่นมมีนาญ่านะดาเนียน ฮาเร็มของข้ามิคคู่ วรกับเด็กน้อยแสนซุกซน เช่นเจ้าหรอก ท�ำตัวให้น่ารักล่ะแม่หนูน้อย แล้วข้าจักแวะมาเยี่ยมเจ้าบ่อยๆ” มีปฏิกิริยาจากเด็กน้อยด้วยการส่ายหน้าไปมา แต่ชีคกาหริบไม่พูดอะไรอีก นอกจากสัมผัสวงหน้าอ่อนเยาว์พร้อมรอยยิ้ม “ข้าต้องกลับแล้วล่ะ” ชีคหนุม่ กล่าวลาด้วยน�ำ้ เสียงอ่อนโยน ทว่าดวงตาสีมรกต อันแฝงฝังความเศร้าซึง่ เต็มไปด้วยแววตัดพ้อนีเ่ องทีฉ่ ดุ ดึงให้ชคี หนุม่ วางมือลงบนศีรษะ ของเด็กน้อย 37


เงารักในรอยทราย

วาบคะนึงหนึง่ ในความรูส้ กึ เมือ่ แตะต้องสัมผัสท�ำให้กอ้ นเนือ้ ในอกซ้ายกระตุกวูบ คุ้นเคยราวกับเคยกระท�ำเช่นนี้กับนางงามตัวน้อยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มิอาจระลึกรู้ว่า เนิ่นนานแต่ไรมา ชีคกาหริบหยุดชะงักในสิ่งที่เกิดขึ้น พลางหลุบเปลือกตาพิจารณา เจ้าของดวงตาสีมรกตอันแฝงฝังความเศร้าสร้อยอีกครัง้ ... บอกมิถกู ว่าเป็นความรูส้ กึ เช่นไร ละมุนละไมจนมิอยากจากลา หรือแค่ว่าความสงสารที่มีให้เท่านั้น เมื่อมิอาจหาค�ำตอบ อันว้าวุ่นให้ตนเอง ชีคหนุ่มจึงตัดใจก้าวออกจากห้องจัตุรัสสีทรายทันที เมื่อพ้นออกจากโรงทอผ้าซึ่งมากด้วยเครื่องทอผ้าและผืนผ้างดงามมาได้แล้ว ชีคกาหริบจึงหลุบเปลือกตามองฝ่ามือของตนเองพร้อมกับผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ดวงตาหวานฉ�่ำแลคมคายคงปรายไปยังโค้งประตูที่เพิ่งเดินห่างออกมา เป็นความรู้สึก ก�้ำกึ่ง จักหนักใจก็มิใช่ จักสบายใจก็มิเชิง แต่เมื่อนึกถึงดวงตาสีมรกตอันเต็มไปด้วย ความตัดพ้อซึง่ สบด้วยเมือ่ ครูก่ ท็ ำ� ให้ชคี กาหริบรูส้ กึ ผิดมากเลยทีเดียวทีท่ อดทิง้ นางไว้กบั แม่นมมีนาญ่าเช่นนั้น...

38






Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.